Home / รักโบราณ / ยอดบุปผาโฉมสะคราญ / บทที่ 30 สารภาพความในใจ

Share

บทที่ 30 สารภาพความในใจ

last update Last Updated: 2025-04-21 15:11:20

กองทัพของแคว้นซ่งแตกฉานซ่านเซ็น กระโจมทุกหลังถูกเปลวเพลิงเผาจนวอดวาย เมื่อเซียวจิ้งนำกองทัพกลับมาที่เมืองสืออี้แล้ว ทหารแคว้นซ่งบางส่วนย้อนกลับมานำร่างของฟ่านเยียนกลับแคว้นซ่งและรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฮ่องเต้แคว้นซ่งได้รับทราบ

อากาศปลายฤดูหนาวเริ่มอุ่นขึ้นมาบ้างแล้ว หิมะเริ่มเบาบางลงไปไม่น้อย เจี่ยงหร่านฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่เพราะร่างกายอ่อนเพลียจึงต้องนอนพักต่ออีกสักเล็กน้อย เซียวจิ้งเองก็ไม่อยากให้มีสิ่งใดไปรบกวนจึงให้นางนอนพักเต็มที่ โชคดีที่มีภรรยาของนายอำเภอสืออี้มาช่วยดูแลเขาจึงเบาใจลงได้บ้าง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม่ทัพใหญ่จางและจางเฉวียนล้วนสงสัย แต่เซียวจิ้งบอกว่าเป็นแผนสำรองที่เขาวางแผนเอาไว้ทั้งหมด เขาเอ่ยเพียงเท่านี้แม่ทัพใหญ่จางและจางเฉวียนจึงไม่ได้เอ่ยถามสิ่งใดอีก

สองพ่อลูกเดินกลับมาที่กระโจม จางเฉวียนหันมามองบิดาก่อนจะเอ่ย

"ท่านพ่อ เมี่ยวเอ๋อร์นาง ท่านว่านาง..."

"นางทำไมกัน นางก็ยังเป็นนาง แค่มีความสามารถเพิ่มมากขึ้นก็เท่านั้น ซื่อจื่อบอกแล้วว่าเป็นแผนการณ์ที่เขาวางเอาไว้ ก็ตามนั้นเถิด เจ้าอย่าได้สงสัยสิ่งใดให้มากความ"

"ขอรับ"

จางเฉวียนพยักหน้ารับคำ ก่อนจะเดินออกไปจากกระโจ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 31 พี่ชาย

    เจี่ยงหร่านเมื่อได้เห็น นางก็รีบวิ่งลงมาจากรถม้า ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าของเจี่ยงเฮ่า หญิงสาวพิจารณามองบุรุษตรงหน้าที่ได้ชื่อว่าเป็นญาติผู้พี่ของนาง ก่อนจะร่ำไห้โฮ"พี่ใหญ่ ฮึก พี่ใหญ่"เจี่ยงเฮ่าที่ยามนี้มีท่าทางงกๆ เงิ่นๆ และหวาดกลัว พลันหันมามองแม่นางน้อยตรงหน้าที่มองเขาด้วยดวงตาที่อาบชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตา ก็ขมวดคิ้วแน่นครู่หนึ่ง ท่าทางดูหวาดกลัวลนลานเป็นอย่างมาก เขาทรุดตัวลงนั่งที่พื้น ก่อนจะกอดเข่าและตัวสั่นเทา เจี่ยงหร่านอยากจะเข้าไปโอบกอดเขาแต่นางกลับก้าวขาไม่ออกนี่มันเรื่องใดกัน เหตุใดเจี่ยงเฮ่าจึงมาอยู่ที่เมืองสืออี้ได้เขารอดพ้นจากการสังหารยกตระกูลในคราวนั้นมาได้อย่างนั้นหรือเซียวจิ้งเมื่อเห็นดังนั้น จึงเดินเข้ามาประคองเจี่ยงหร่านเอาไว้พลางถามขึ้นมา“เขาคือ..."เจี่ยงหร่านหันกลับมามองเซียวจิ้ง ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่เจือสะอื้น"ฮึึก เซียวจิ้ง เขาคือเจี่ยงเฮ่าญาติผู้พี่ของข้า เป็นบุตรชายของท่านลุงใหญ่ แต่ก่อนเขาไม่ได้มีสภาพน่าเวทนาเช่นนี้ พี่ใหญ่ข้ารูปงาม เป็นคุณชายที่รูปงามที่สุดในเมืองหลวงแคว้นซ่ง แต่ท่านดูสิ ฮึก ยามนี้สภาพเขาไม่ต่างจากขอทานเลยแม้แต่น้อย ฮือ สวรรค์"เซียวจิ้

    Last Updated : 2025-04-21
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 32 พลุ

    เพราะเหนื่อยล้าไม่น้อย เจี่ยงเฮ่าจึงนอนหลับพักผ่อนตั้งแต่หัวค่ำ เจี่ยงหรานเองก็ไม่อยากรบกวนพี่ชาย นางรู้สึกว่าตนเองมีกำลังใจเพิ่มขึ้นมาก อย่างน้อยคนในตระกูลเจี่ยงก็ยังเหลือเจี่ยงเฮ่าอยู่อีกคนหนึ่งนับแต่วันนี้ไป นางจะปกป้องพี่ชายของนางด้วยชีวิต!หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ อากาศค่อนข้างหนาวเล็กน้อย หิมะก็เริ่มจะโปรยปรายลงมาบางเบา นางกระโดดขึ้นไปนั่งบนหลังคาพร้อมกับร่มหนึ่งคันเพื่อทัศนาทิวทัศน์โดยรอบทั่วทั้งเมืองสืออี้ยามนี้ ล้วนประดับประดาไปด้วยโคมไฟงดงามตระการตา เพื่อการเฉลิมฉลองปีใหม่ เจี่ยงหร่านคลี่ยิ้มออกมา ในขณะที่กำลังมองดูไปเรื่อยเปื่อยนั้น ก็รู้สึกว่ามีเงาหนึ่งวูบผ่านมาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น สัญชาตญาณการป้องกันตนเองเริ่มทำงานทันที นางรีบล้วงมีดสั้นก่อนจะเขวี้ยงออกไปในทันที"อะไรกันนี่ จะสังหารข้าหรือท่านรองแม่ทัพเจี่ยง"เซียวจิ้งเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่หยอกเย้า เจี่ยงหร่านเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจเฮือก พลางต่อว่า"เหตุใดท่านจึงมาเงียบๆ เช่นนี้เล่า"เซียวจิ้งยิ้มกว้าง แล้วทิ้งกายลงนั่งข้างนาง"ข้าตามหาเจ้าตั้งนาน อากาศยังหนาวอยู่ เจ้ามาทำอะไรบนหลังคานี่เล่า""

    Last Updated : 2025-04-21
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 33 เลื่อนตำแหน่ง

    เมื่อกลับมาถึงเรือนเหลียนฮวาแล้ว เจี่ยงหร่านเพิ่งจะได้อาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ ก็มีคนจากในวังเดินทางมาแจ้งว่า ฮ่องเต้เซียวหลางมีรับสั่งให้นางเข้าวังหลวงเพื่อเข้าเฝ้าเป็นการด่วน จางฮูหยินเมื่อได้ยินดังนั้นก็ตื่นตระหนก ก่อนจะจับมือบุตรสาวเอาไว้แน่น ก่อนจะเอ่ย"เหมี่ยวเอ๋อร์ มิใช่่ว่าฝ่าบาททรงเรียกเจ้าไปลงโทษ เรื่องที่เจ้าหนีออกจากค่ายทหารโดยพละการหรอกนะ"จางฮูหยินกล่าวขึ้นมาใบหน้าก็เริ่มซีดขาวลงเรื่อยๆ เจี่ยงหรานในร่างของจางเหมี่ยวลี่จับมือของมารดาเอาไว้ พูดปลอบใจออกไปว่า"ท่านแม่กังวลเกินไปแล้วเจ้าค่ะ ข้าจะเข้าวังแล้วจะรีบกลับมาหาท่านดีหรือไม่"จางฮูหยินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้ารัวถี่ๆ ก่อนจะสั่งให้สาวใช้ช่วยเจี่ยงหร่านแต่งกายใหม่ เมื่อเดินทางเข้าวังหลวงการแต่งกายจะต้องดูเรียบร้อยมากกว่ายามที่อยู่ในจวน ใช้เวลาไม่นานนางก็แต่งกายเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะนั่งรถม้ามุ่งหน้าไปวังหลวงทันที เจี่ยงเฮ่าคิดจะตามไปด้วย แต่เจี่ยงหร่านบอกเพียงว่าเขาเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยให้พักก่อนจะดีที่สุดเมื่อมาถึงแล้วเจี่ยงหร่านก็เดินตามขันทีไปทันที สาวเท้าเดินไปเรื่อยๆก็มาถึงท้องพระโรง หญิงสาวนิ่วหน้าทว่าไม่ได้

    Last Updated : 2025-04-21
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 34 ปรึกษาหารือ

    เจี่ยงหร่านมีสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะเล่าเรื่องราวที่เจี่ยงเฮ่าบอกเล่าให้นางฟังก่อนหน้านี้กับเซียวจิ้งทุกประโยค เซียวจิ้งเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็หน้านิ่วคิ้วขมวด ก่อนจะหันไปซักถามเจี่ยงเฮ่า"ที่ท่านกล่าวมาเป็นความจริงหรือ คุณชายเจี่ยง"เจี่ยงเฮ่าเมื่อได้ยินก็พยักหน้า แล้วเอ่ยว่า"จริงขอรับ เดิมทีพวกทหารคงคิดว่าข้าไม่อาจหนีออกมาได้ ถึงรู้เริื่องเหล่านี้ไปก็ไร้ประโยชน์ พวกเขาบอกว่าราชครูฟ่าน ใช้แผนสาวงามกับบุรุษผู้หนึ่งในแคว้นซ่งมานานหลายปีแล้ว อีกทั้งการลอบสังหารทั้งสองครั้ง ข้าคิดว่าน่าจะเป็นฝีมือของฉู่อี้เฉินและราชครูฟ่านที่ร่วมมือกัน เขาย่อมไม่ยินยอมให้ฉู่อี้เฉินและแคว้นซ่งเกิดเรื่อง คนผู้นี้หวังในอำนาจยศศักดิ์ ตราบใดที่ฟ่านเหยายังได้เป็นฮองเฮา ตระกูลฟ่านย่อมไม่มีวันตกต่ำ"เซียวจิ้งเมื่อได้ฟังที่เจี่ยงเฮ่าพูดจบก็มีท่าทีครุ่นคิด ใช้แผนสาวงามมาหลายปีเช่นนั้นหรือ แล้วยามนี้สาวงามนางนั้นอยู่ที่ใดกันหรือว่าแฝงตัวมาเป็นนางสนมอยู่ในวังหลวงเป็นไปไม่ได้ เสด็จลุงไม่ได้รับนางสนมเข้าวังหลวงมาหลายปีแล้วหรือว่าจะเป็นหลี่ฟางมารดาเลี้ยงของเขาแต่นางเป็นเพียงบุตรสาวขอคหบดีมีฐานะปานกลางเท่านั้น ย่อมเ

    Last Updated : 2025-04-21
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 35 ตั้งครรภ์

    ข่าวที่จางเหมี่ยวลี่ถูกแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้ากองกำลังรักษาเมือง อีกทั้งยังสามารถร่วมประชุมราชการในท้องพระโรงร่วมกับบุรุษได้นั้น แพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองหลวงแคว้นฟงหลิง ผู้คนต่างเอ่ยถึงเรื่องนี้กันไปต่างๆนาๆ บ้างก็ว่านางใช้ตำแหน่งของบิดาและตำแหน่งว่าที่ภรรยาของเซียวซื่อจื่อไต่เต้าจนได้ตำแหน่งนั้นมาแต่ก็มีผู้คนไม่น้อยที่ออกมาแก้ต่างแทนนาง บอกว่านางมีความดีความชอบ อีกทั้งยังช่วยสังหารศัตรู มีิสิ่งใดที่ไม่เหมาะไม่ควรกันด้านเจี่ยงหร่านที่ยามนี้ไม่รู้ว่าตนกลายเป็นที่ถกเถียงในหัวข้อสนทนาอันแสนสนุกปาก นางกำลังเตรียมตัวเดินทางกลับไปที่ค่ายทหาร อย่างไรเสียนางก็ต้องกลับไปฝึกทหารต่อเมื่อเข้ามาในค่ายทหารหญิง เหล่าสหายต่างเข้ามารุมล้อมนางโดยเฉพาะโจวลี่และอากัว คนทั้งสองพูดคุยกับนางอย่างตื่นเต้น พร้อมกับให้นางบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังอย่างละเอียด เจี่ยงหร่านยิ้มตาหยี ก่อนจะจับมือของสหายทั้งสองคนไปด้วยและเดินสนทนากันไปด้วยหลายวันต่อมา เซียวหลิงมาที่ค่ายทหารหญิง เมื่อมาถึงก็ตรงเข้ามาหาเจี่ยงหร่าน เจี่ยงหร่านที่เห็นเช่นนั้นฉีกยิ้มกว้างให้เซียวหลิง"นี่จางเหมี่ยวลี่ เจ้าไปไม่บอกข้าสักคำ หากร

    Last Updated : 2025-04-21
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 36 คณะทูต

    เซียวจิ้งเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้เจี่ยงหร่าน อย่างแผ่วเบา เอ่ยกับนางว่า"อาหร่าน เจ้าอย่าให้ความเกลียดชังกัดกินจิตใจเจ้าจนทุกข์ทรมานเลยนะ"เจี่ยงหร่านในร่างของจางเหมี่ยวลี่เงยหน้าขึ้นมามองเซียวจิ้งครู่หนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เมื่อครู่เพราะนางถูกความโกรธแค้นครอบงำจิตใจมากเกินไป จึงทำให้ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้หญิงสาวพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ"ทำไมหรือสหายเซียว ท่านกลัวข้าถลำลึกเช่นนั้นหรือ""ข้ากลัวเจ้าไม่มีความสุข ข้าอยากเห็นเจ้ามีสุขไร้ทุกข์กังวล"เจี่ยงหร่านเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็พลันชะงักไปอึดใจ คลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย ไม่รู้เพราะเหตุใด ยามที่นางกำลังจะถลำลึกจนถูกความแค้นกัดกินครอบงำจิตใจ ทว่าเซียวจิ้งกลับสามารถดึงนางขึ้นมาจากหลุมดำภายในจิตใจได้ทุกครั้งเขาเหมือนแสงสว่างที่ส่องประกายเจิดจ้าและงดงามยิ่งนักเมื่อเห็นว่าเจี่ยงหร่านมีสีหน้าดีขึ้นมากแล้ว เขาจึงพูดขึ้นมาทันที"แม้นางจะตั้งครรภ์ แต่ได้ยินว่าระยะหลังมานี้สุขภาพไม่สู้ดีเท่าใดนัก มักจะอารมณ์เสียจนเจ็บป่วยอยู่บ่อยครั้ง แต่นางมีโทสะเรื่องใดนัั้นคนของข้ายังสืบได้ไม่แน่ชัด"เจี่ยงหร่านเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เพียงยิ้มน้อยๆ"สหา

    Last Updated : 2025-04-21
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 37 ตลบหลัง

    ด้านเจี่ยงหร่านที่ได้รับทราบว่าผู้นำคณะทูตเดินทางมาสวามิภักดิ์ในครั้งนี้ก็คือราชครูฟ่านบิดาของฟ่านเหยา ถ้วยชาในมือถูกกำเอาไว้แน่น นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินออกจากเรือนมุ่งหน้าไปที่รถม้า นางบอกเยว่ซินว่าจะไปที่หอสุราจิ๋นฮวา อีกทั้งยังไม่ให้เยว่ซินตามไปด้วยเมื่อมาถึงนางมุ่งขึ้นไปบนชั้นสอง ลุงหม่าเองระยะหลังมานี้ เริ่มจะคุ้นเคยกับเจี่ยงหรานมากขึ้น เมื่อนางมาถึงเขามักจะจัดห้องที่ด่ีที่สุดให้ และสั่งให้คนนำสุราชั้นดีส่งให้นางอย่างรู้งานวันนี้เซียวจิ้งเองก็มิได้มีงานเร่งด่วน เมื่อได้ยินว่าเจี่ยงหร่านต้องการพบเขา และรออยู่ชั้นสองของเหลาสุรา ชายหนุ่มก็รีบตรงมาหานางทันที เมื่อมาถึงก็พบว่า ในห้องมีเจี่ยงเฮ่าอยู่ด้วย เจี่ยงเฮ่ายิ้มให้เซียวจิ้งอย่างนอบน้อม เซียวจิ้งเองก็ยิ้มตอบอย่างมีมารยาท แล้วเดินเข้ามานั่งลงข้างกายของเจี่ยงหร่านและถามขึ้นมา"เจ้ามาหาข้ามีเรื่องใดหรือ ให้คนส่งจดหมายมาก็ได้ ข้าจะรีบไปหาเจ้าเอง"เจี่ยงหร่านเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาได้ แล้วพูดว่า"เซียวจิ้ง ที่ข้ามาพบท่านครั้งนี้เพราะมีเรื่องที่อยากขอร้องท่านเรื่องหนึ่ง เรื่องนี้ข้าคิดไตร่ตรองมาทั้งคืนแล้ว"เซียวจิ้ง

    Last Updated : 2025-04-21
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 38 หลอกล่อปลามาติดแห

    หลายวันต่อมา ฮ่องเต้เซียวหลางก็มีรับสั่งให้คณะทูตของแคว้นซ่งเข้าเฝ้า จัดงานเลี้ยงฉลองต้อนรับอย่างสมเกียรติ และยังให้ขุนนางชั้นสูงรวมถึงบุตรสาวและฮูหยินเอกเข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ได้ แน่นอนว่าเจี่ยงหร่านเองก็ต้องร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ด้วยเช่นเดียวกันเจี่ยงหร่านวันนี้สวมชุดขุนนางหญิง ที่ทางราชสำนักเพิ่งตัดส่งมาให้เข้าร่วมงานตามตำแหน่งทางการทหารของนาง หญิงสาวเดินเข้ามาในงานเลี้ยงด้วยท่าทีองอาจผึ่งผาย เซียวหลิงที่เห็นเช่นนั้นก็รีบเข้ามาทักทายนาง ก่อนจะดึงนางให้ไปลองชิมขนมที่ตนเพิ่งทำขึ้นมาใหม่ เจี่ยงหร่านอยู่สนทนากับเซียวหลิงได้ไม่นาน ก็ต้องกลับมานั่งประจำตำแหน่งที่เดิมของตน ไม่นานนัก ขันทีก็ประกาศว่าฮ่องเต้เซียวหลางเสด็จมาถึงแล้ว ทุกคนจึงรีบลุกขึ้นและอยู่ในความสงบฮ่องเต้เซียวหลางเดินเข้ามาพร้อมกับฮองเฮาของตน ส่วนเซียวจิ้งนั้นยามเดินอยู่ด้านหลังพร้อมกับบิดาและมารดาเลี้ยง ทั้งยังมีเซียวกั๋วมาร่วมงานด้วย อย่างไรเสียก็เป็นถึงเชื้อพระวงศ์ แม้ในยามปกติจะไม่ลงรอยกันมากเพียงใด แต่เมื่อมีคนต่างแคว้นเข้ามา ย่อมต้องแสดงออกว่าพี่น้องรักใคร่กันดีเพื่อไม่ให้ศัตรูมองเห็นจุดอ่อนได้"ทุกคนลุกขึ้นเถ

    Last Updated : 2025-04-21

Latest chapter

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   ตอนพิเศษ

    หนึ่งปีหลังแต่งงานหลังจากแต่งงานกันหนึ่งปี เซียวจิ้งและเจี่ยงหร่านมีชีวิตหลังแต่งงานที่มีความสุขเป็นอย่างมาก ในทุกๆ วันเขาและนางมักจะมีรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นให้แก่กันมีครั้งหนึ่งเซียวจิ้งเปิดไปเจอกล่องที่จางเหมี่ยวลี่เจ้าของร่างเดิมเก็บยันต์และสมุดบันทึกเอาไว้ เจี่ยงหร่านที่มาเห็นก็ถึงกับร้องว่าแย่แล้ว เดิมทีนางคิดจะทิ้งไป แต่ผู้ใดจะรู้ว่าเยว่ซินกลับนำกล่องใบนั้นมาพร้อมสินเดิมของนางด้วย นางรีบเอ่ยปรามไม่ให้เขาดูแต่เซียวจิ้งกลับเปิดอ่านและบอกว่าดีจริง จางเหมี่ยวลี่เขียนท่วงท่าอันเผ็ดร้อนทิ้งไว้ให้เขาอ่านเช่นนี้นับว่าดีมากและยังบอกอีกว่าคืนนี้จะนำท่วงท่าเหล่านั้นมาใช้กับนาง!ให้ตายเถอะ! คนผีทะเล!วันนี้เป็นวันที่เซียวจิ้งพาเจี่ยงหร่านกลับมาที่จวนตระกูลจาง ตั้งแต่แต่งงานกันเขาและนางไม่ได้ยึดถือกฎระเบียบตายตัวใดมากนัก อยากจะกลับจวนตระกูลจางเมื่อใดก็กลับมาได้เสมอแม่ทัพใหญ่จางและจางฮูหยินนั้นดีใจยิ่งนักที่บุตรสาวกลับมาเยี่ยมเยือนตน ยามนี้เซียวหลิงตั้งครรภ์ใกล้จะคลอดเต็มทีแล้ว จางเฉวียนก็คอยดูแลนางเป็นอย่างดี จางฮูหยินนั้นแม้จะดีใจที่ลูกสะใภ้กำลังจะมีหลาน แต่นางกลับไม่สบายใจเรื่องที่จางเหมี

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   ตอนจบ

    เมื่อสงครามสงบลงแล้ว กองทัพทั้งหมดต่างยอมศิโรราบขึ้นตรงต่อแคว้นฟงหลิง แคว้นซ่งและแคว้นต้าฉี ผนวกเข้ารวมดินแดนเป็นหนึ่งเดียวกับแคว้นฟงหลิง ส่วนแคว้นฉู่ก็ยินดีสวามิภักดิ์และเปิดการค้าขายเชื่อมต่อทั้งสี่ชายแดน อีกทั้งยังส่งองค์หญิงมาเป็นสนมของฮ่องเต้เซียวหลางเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีอีกด้วย ผู้คนสามารถเดินทางค้าขายผ่านเมืองต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวสงครามอีกต่อไป แม่ทัพใหญ่จางและจางเฉวียนมุ่งหน้ากลับแคว้นฟงหลิงไปก่อน เพื่อกราบทูลเรื่องน่ายินดีนี้ให้ฝ่าบาททรงทราบ และบอกเซียวจิ้งและจางเหมี่ยวลี่ว่าหลังจากสถาณการณ์ที่นี่สงบเรียบร้อยแล้วก็ให้รีบตามกลับไปในภายหลังในยามนี้ เจี่ยงหร่านกำลังควบม้าเคียงข้างเซียวจิ้ง โดยมีเจี่ยงเฮ่าควบม้าตามหลังพร้อมกับสวีเฉินที่ติดตามมาด้วย เขาบอกว่าจะพานางมาดูสถานที่แห่งหนึ่ง แรกเริ่มเจี่ยงหร่านยังไม่เข้าใจ จนกระทั่งได้เห็นหลุมศพหลายหลุมตรงหน้า นางก็ถึงกับปล่อยโฮออกมาสวีเฉินเป็นคนฝังศพคนในตระกูลเจี่ยง เขาเขียนชื่อและทำสัญลักษณ์เอาไว้ จึงจำได้ว่าหลุมใดคือหลุมศพของแม่ทัพใหญ่เจี่ยง เขาขออภัยเจี่ยงหร่านที่ศพอื่นเขาไม่ได้ทำสัญลักษณ์เอาไว้ เพราเขาไม่เคยเห็นหน้าคนอื

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 42 จัดการคน(เคยรัก)ที่แสนชั่วช้า

    กองทัพแคว้นซ่งพ่ายแพ้อย่างราบคาบ บรรดาเหล่าทหารที่ไม่ถูกฆ่าตายล้วนถูกจับเป็นเชลย แม้แต่ฉู่อี้เฉินยามนี้ก็ถูกลากตัวมาขังเอาไว้ในคุกที่เมืองสืออี้ชายแดนแคว้นฟงหลิง เขาตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ไม่คาดคิดว่าตนเองจะพ่ายแพ้ได้เช่นนี้เจี่ยงหร่านรีบเข้าไปประคองเซียวจิ้งที่ร่างกายเต็มไปด้วยคราบโลหิตของผู้อื่น เขาหันมายิ้มให้นางอย่างภูมิอกภูมิใจ"ฝีมือยิงธนูของเจ้ายอดเยี่ยมมาก"เจี่ยงหร่านส่งยิ้มให้เซียวจิ้ง นางใช้มือเช็ดเหงื่อบนใบหน้าให้เขาอย่างอ่อนโยน ก่อนหน้านี้นางและเขาวางแผนเอาไว้ว่า เขาจะออกไปรบ ส่วนนางคอยดูสถานการณ์อยู่ด้านบน คอยหาจุดพลิกผันของฉู่อี้เฉินจากนั้นก็จัดการทันที หากผู้นำทัพล้ม แน่นอนว่าทั้งกองทัพย่อมย่อยยับไม่มีชิ้นดีเมื่อกลับเข้ามาในเมืองแล้ว นางก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และสั่งให้คนจัดการดูแลทหารที่ได้รับบาดเจ็บให้ดี แล้วเดินเข้ามาหาเซียวจิ้งที่นั่งอยู่ในห้องพัก ชายหนุ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เขาได้รับบาดเจ็บที่แขนเล็กน้อยเท่านั้น"เซียวจิ้ง ท่านไหวหรือไม่"เซียวจิ้งได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมา"ย่อมต้องไหวอยู่แล้ว เราออกไปดูสถานการณ์ข้างนอกกันเถิด""อืม"เจี่ยงหร่านพยักหน้าเดิน

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 41 กลยุทธ์ลดทอนกำลังทหาร

    นับตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นกับบิดา ฟ่านเหยาไม่เคยนอนหลับสนิทได้เลยสักคืน ทุกครั้งที่นางหลับตาลงมักจะฝันเห็นว่าบิดาร้องขอความช่วยเหลือจากนาง ได้ยินเสียงฟ่านเยียนญาติผู้พี่ กำลังดิ้นรนด้วยความทุกข์ทรมาน พร้อมกับร่ำร้องขอให้นางช่วย นานวันเข้าฟ่านเหยาร่างกายก็ย่ำแย่ลง จากที่เคยงดงามเฉิดฉาย แต่เวลานี้ใบหน้าซูบตอบผอมแห้งราวกับคนป่วยหนักที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ นางฝันเห็นเจี่ยงหร่าน ฝันว่าสตรีผู้นั้นเดินเข้ามาบีบปลายคางของนางและกระซิบว่า บุตรของนางยามนี้กำลังไปคอยรับใช้บุตรเจี่ยงหร่านในปรโลกแล้ว และยังบอกอีกว่านับแต่นี้นางอย่าได้ฝันว่าจะสามารถตั้งครรภ์ได้อีกชั่วชีวิต!ครั้งแรกฝันเช่นนี้ฟ่านเหยาด่าทอสาปแช่งเจี่ยงหร่านอย่างเกลียดชัง แต่เมื่อนานวันเข้าความกลัวเริ่มกัดกินจิตใจของนาง ฟ่านเหยาหวาดระแวงไม่กล้าอยู่คนเดียวต้องใช้ชีวิตอยู่บนความทุกข์ราวกับคนตายทั้งเป็นระยะหลังมานี้ไม่รู้เพราะเหตุใด นางกับฉู่อี้เฉินจากแต่ก่อนที่เคยรักกันหวานซึ้ง ตอนนี้กลับทะเลาะกันทุกวัน เขาเอาแต่ตะโกนเรียกหาเจี่ยงหร่านนางแพศยานั่น อีกทั้งยังถามนางว่าตระกูลฟ่านคิดไม่ซื่อกับเขาจริงหรือไม่ เขาถามนางซ้ำๆ อยู่เช่นนั้นราวกับค

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 40 หลุมศพ

    หลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เซียวจิ้งและเจี่ยงหรานรวมถึงเจี่ยงเฮ่าก็เร่งเดินทางข้ามเขตชายแดนในทันที เจี่ยงเฮ่านั้นก่อนหน้านี้เจี่ยงหร่านไม่อยากให้เขาติดตามมาด้วย เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายที่คาดไม่ถึง ทว่าเจี่ยงเฮ่ากลับลอบปะปนมากับกองทัพทหาร ด้วยเวลานี้อาการบาดเจ็บที่ขาของเขาเริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว แต่เพราะเดินทางมาไกลจึงทำให้อาการกำเริบขึ้น แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงเท่าใดนักเจี่ยงหร่านในเวลานี้กำลังยืนอยู่บนหอสังเกตการณ์ ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปยังเบื้องหน้าด้วยแววตาที่ราบเรียบ สายลมพัดเข้ามาปะทะใบหน้าของนางเป็นระยะตอนนี้นางสังหารพวกมันไปสองคนแล้ว หากบอกว่าการที่ฟ่านเยียนตายคือพายุลูกแรกที่สร้างผลกระทบต่อแคว้นซ่ง การตายของราชครูฟ่านก็เปรียบได้กับคลื่นยักษ์ที่สาดซัดเข้าสู่แคว้นซ่ง คนสำคัญที่เป็นคนคอยชี้แนะฉู่อี้เฉินและสนับสนุนเขายามนี้ตายแล้ว ย่อมทำให้เหล่าบรรดาแม่ทัพทหารแคว้นซ่งและขุนนางในราชสำนักหวาดหวั่นพรั่นพรึงไม่น้อยและยังส่งผลทำให้บัลลังก์มังกรของฉู่อี้เฉินสั่นคลอนเป็นอย่างยิ่งในขณะที่นางกำลังคิดไปเรื่อยเปื่อย ฉับพลันก็มีซาลาเปาลูกหนึ่งยื่นมาตรงหน้าของนาง เมื่อนางหันไปมองก็ยิ้มออก

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 39 ส่งมอบของขวัญ

    ราชครูฟ่านถูกจับตัวเอาไว้ เหล่าผู้ติดตามก็ถูกรวบตัวไว้ทั้งหมดเช่นเดียวกัน พวกเขาบางส่วนที่คิดขัดขืนล้วนถูกทุบตีจนไร้ทางสู้ ราชครูฟ่านเงยหน้ามามองเจี่ยงหร่านในร่างของจางเหมี่ยวลี่ ด่าทอด้วยความโกรธเกรี้ยว"นังแพศยา เป็นเจ้าใช่หรือไม่ที่สังหารหลานชายของข้า วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าเอง"เมื่อถูกจับได้แล้วก็ย่อมไม่จำเป็นต้องรักษาท่าทีอีกต่อไป เขาพ่นคำหยาบสารพัด ด่าทอทุกคนไม่เหลือท่าทีของราชครูผู้สูงส่ง เช่นในกาลก่อนอีกแล้ว เจี่ยงหร่านยิ้มตาหยี กล่าวกับเขาด้วยน้ำเสียงที่เยาะหยัน"ใจเย็นๆ สิราชครูฟ่าน ท่านทำแบบนี้เท่ากับไม่รักษาหน้าตาของตนเลย ท่านเป็นถึงราชครูฟ่านผู้ขาวสะอาดดุจเทพเซียนของแคว้นซ่งเชียวนะ ทำเช่นนี้น่าอับอายจริงเชียว"ราชครูฟ่านเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปครู่หนึ่ง นางรู้ได้อย่างไรว่ายามอยู่ที่แคว้นซ่ง เขาได้รับฉายาว่าบัณฑิตผู้สูงส่งขาวสะอาดดุจเทพเซียนด้วยเหตุนี้ราชครูฟ่านจ้องมองดูหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาที่วูบไหว ทว่านางกลับยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยนอ่อนโยนเสียจนน่าขนลุก!คนทั้งหมดถูกจับตัวเอาไว้ ส่วนหลี่ฟางนั้นยามนี้ถูกพาตัวมาไต่สวนในวังหลวง อย่างไรนางก็ได้ชื่อว่าเป็นพระชายาเอกของชินอ

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 38 หลอกล่อปลามาติดแห

    หลายวันต่อมา ฮ่องเต้เซียวหลางก็มีรับสั่งให้คณะทูตของแคว้นซ่งเข้าเฝ้า จัดงานเลี้ยงฉลองต้อนรับอย่างสมเกียรติ และยังให้ขุนนางชั้นสูงรวมถึงบุตรสาวและฮูหยินเอกเข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ได้ แน่นอนว่าเจี่ยงหร่านเองก็ต้องร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ด้วยเช่นเดียวกันเจี่ยงหร่านวันนี้สวมชุดขุนนางหญิง ที่ทางราชสำนักเพิ่งตัดส่งมาให้เข้าร่วมงานตามตำแหน่งทางการทหารของนาง หญิงสาวเดินเข้ามาในงานเลี้ยงด้วยท่าทีองอาจผึ่งผาย เซียวหลิงที่เห็นเช่นนั้นก็รีบเข้ามาทักทายนาง ก่อนจะดึงนางให้ไปลองชิมขนมที่ตนเพิ่งทำขึ้นมาใหม่ เจี่ยงหร่านอยู่สนทนากับเซียวหลิงได้ไม่นาน ก็ต้องกลับมานั่งประจำตำแหน่งที่เดิมของตน ไม่นานนัก ขันทีก็ประกาศว่าฮ่องเต้เซียวหลางเสด็จมาถึงแล้ว ทุกคนจึงรีบลุกขึ้นและอยู่ในความสงบฮ่องเต้เซียวหลางเดินเข้ามาพร้อมกับฮองเฮาของตน ส่วนเซียวจิ้งนั้นยามเดินอยู่ด้านหลังพร้อมกับบิดาและมารดาเลี้ยง ทั้งยังมีเซียวกั๋วมาร่วมงานด้วย อย่างไรเสียก็เป็นถึงเชื้อพระวงศ์ แม้ในยามปกติจะไม่ลงรอยกันมากเพียงใด แต่เมื่อมีคนต่างแคว้นเข้ามา ย่อมต้องแสดงออกว่าพี่น้องรักใคร่กันดีเพื่อไม่ให้ศัตรูมองเห็นจุดอ่อนได้"ทุกคนลุกขึ้นเถ

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 37 ตลบหลัง

    ด้านเจี่ยงหร่านที่ได้รับทราบว่าผู้นำคณะทูตเดินทางมาสวามิภักดิ์ในครั้งนี้ก็คือราชครูฟ่านบิดาของฟ่านเหยา ถ้วยชาในมือถูกกำเอาไว้แน่น นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินออกจากเรือนมุ่งหน้าไปที่รถม้า นางบอกเยว่ซินว่าจะไปที่หอสุราจิ๋นฮวา อีกทั้งยังไม่ให้เยว่ซินตามไปด้วยเมื่อมาถึงนางมุ่งขึ้นไปบนชั้นสอง ลุงหม่าเองระยะหลังมานี้ เริ่มจะคุ้นเคยกับเจี่ยงหรานมากขึ้น เมื่อนางมาถึงเขามักจะจัดห้องที่ด่ีที่สุดให้ และสั่งให้คนนำสุราชั้นดีส่งให้นางอย่างรู้งานวันนี้เซียวจิ้งเองก็มิได้มีงานเร่งด่วน เมื่อได้ยินว่าเจี่ยงหร่านต้องการพบเขา และรออยู่ชั้นสองของเหลาสุรา ชายหนุ่มก็รีบตรงมาหานางทันที เมื่อมาถึงก็พบว่า ในห้องมีเจี่ยงเฮ่าอยู่ด้วย เจี่ยงเฮ่ายิ้มให้เซียวจิ้งอย่างนอบน้อม เซียวจิ้งเองก็ยิ้มตอบอย่างมีมารยาท แล้วเดินเข้ามานั่งลงข้างกายของเจี่ยงหร่านและถามขึ้นมา"เจ้ามาหาข้ามีเรื่องใดหรือ ให้คนส่งจดหมายมาก็ได้ ข้าจะรีบไปหาเจ้าเอง"เจี่ยงหร่านเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาได้ แล้วพูดว่า"เซียวจิ้ง ที่ข้ามาพบท่านครั้งนี้เพราะมีเรื่องที่อยากขอร้องท่านเรื่องหนึ่ง เรื่องนี้ข้าคิดไตร่ตรองมาทั้งคืนแล้ว"เซียวจิ้ง

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 36 คณะทูต

    เซียวจิ้งเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้เจี่ยงหร่าน อย่างแผ่วเบา เอ่ยกับนางว่า"อาหร่าน เจ้าอย่าให้ความเกลียดชังกัดกินจิตใจเจ้าจนทุกข์ทรมานเลยนะ"เจี่ยงหร่านในร่างของจางเหมี่ยวลี่เงยหน้าขึ้นมามองเซียวจิ้งครู่หนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เมื่อครู่เพราะนางถูกความโกรธแค้นครอบงำจิตใจมากเกินไป จึงทำให้ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้หญิงสาวพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ"ทำไมหรือสหายเซียว ท่านกลัวข้าถลำลึกเช่นนั้นหรือ""ข้ากลัวเจ้าไม่มีความสุข ข้าอยากเห็นเจ้ามีสุขไร้ทุกข์กังวล"เจี่ยงหร่านเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็พลันชะงักไปอึดใจ คลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย ไม่รู้เพราะเหตุใด ยามที่นางกำลังจะถลำลึกจนถูกความแค้นกัดกินครอบงำจิตใจ ทว่าเซียวจิ้งกลับสามารถดึงนางขึ้นมาจากหลุมดำภายในจิตใจได้ทุกครั้งเขาเหมือนแสงสว่างที่ส่องประกายเจิดจ้าและงดงามยิ่งนักเมื่อเห็นว่าเจี่ยงหร่านมีสีหน้าดีขึ้นมากแล้ว เขาจึงพูดขึ้นมาทันที"แม้นางจะตั้งครรภ์ แต่ได้ยินว่าระยะหลังมานี้สุขภาพไม่สู้ดีเท่าใดนัก มักจะอารมณ์เสียจนเจ็บป่วยอยู่บ่อยครั้ง แต่นางมีโทสะเรื่องใดนัั้นคนของข้ายังสืบได้ไม่แน่ชัด"เจี่ยงหร่านเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เพียงยิ้มน้อยๆ"สหา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status