Share

บทที่ 1013

Penulis: หูเทียนเสี่ยว
ดวงตาของเฟิงอวี้ ราวกับมีสีแดงเลือดแผ่ขยายออกมา "หลังจากนั้นรึ?"

"ข้ารู้การตัดสินใจของพวกเขา และรู้ว่าการมีลูกให้กับคนที่แบกพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงไว้มันอันตรายแค่ไหน ดังนั้นจึงตัดสินใจไว้แล้ว ข้ากับเสวี่ยเจินชีวิตนนี้จะไม่มีลูกกัน"

พวกเขาบอกกับข้าว่า จะปล่อยข้าไปก็ได้อยู่ แต่ถ้าข้าอยากให้เสวี่ยเจินอยู่รอดปลอดภัย ก็ต้องให้ตระกูลมีคนที่จะแบกโชคชะตาอีกคนปรากฏขึ้นมา แต่เนื่องจากพฤติกรรมการหลบหนีของข้ากับเสวี่ยเจินก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาไม่สามารถเชื่อใจข้าได้แล้ว

ดวงตาจั๋วซือหรานเบิกโพลงขึ้นมา เหมือนพอจะเดาถึงสถานการณ์ภายหลังนี้ได้ "พวกเขาเลยลบความทรงจำของทม่าน"

"ใช่ พวกเขากลัวข้าจะหนีไปกับเสวี่ยเจินอีก เลยจะลบความทรงจำข้าออกไป" เฟิงอวี้ตอบ "ข้าจึงรับปากไป"

"เพราะอะไร?" จั๋วซือหรานเม้มปาก "นั่นมัน...อาจจะเป็นกับดักชัดๆ"

อันที่จริงที่จั๋วซือหรานอยากพูดคือนั่นมันเป็นกับดัก นางพูดอ้อมลงหน่อย

เฟิงอวี้หัวเราะขึ้นเสียงหนึ่ง ฟังแล้ว...เย็นชามาก เขาไม่ได้อ้อมค้อม เขาเอ่ยขึ้นว่า "นั่นล่ะคือกับดัก"

"แต่ข้าตอนนั้นคิดว่า ถ้านั่นเป็นกับดักข้าก็ต้องยอมแล้ว พวกเขาก็แค่อยากให้ข้าเป็นคนแบกโชคชะตาตร
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1014

    จั๋วซือหรานพอได้ยินเขาพูดถึงจุดนี้ ก็รู้ว่าเรื่องในอดีตเหมือนจะจบลงแล้ว นางก็เหมือนคนที่เพิ่งยกภาระออกจากอก ถอนหายใจยาวออกมาเงียบๆเฟิงอวี้นั่งอยู่บนเก้าอี้ ท่าทางดูแล้วไม่ได้เย็นเยียบเหมือนก่อนหน้าขนาดนั้นแล้วมองออกไม่ยาก เขาก็เหมือนเพิ่งยกภาระออกจากอกเช่นกันมีแต่ฟ้าที่รู้ว่าเขาแบกเรื่องนี้ไว้มานานแค่ไหน คำพูดเมื่อครู่นี้ คือคำตอบที่ให้กับนาง ขณะเดียวกันอาจจะเป็นการปลดปล่อยความรู้สึกตนเองออกมาด้วยก้ได้? จั๋วซือหรานคิดในใจจากนั้นก็คือความงงงัน พอย้อนนึกถึงความคิดนี้อีกครั้ง ก็จริง มีแต่ฟ้าที่รู้ว่าเขาแบกเรื่องนี้ไว้แล้วนานแค่ไหนจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "เฟิงเหยียนไม่รู้เรื่องนี้เลย" นางใช้น้ำเสียงที่ยืนยัน ถ้าหากเฟิงเหยียนรู้เรื่องนี คงไม่มีทางมีท่าทีแบบนั้นกับพ่อของเขา...ท่าทีที่เหมือนว่าพ่อเป็นต้นเหตุของทุกสิ่งอย่างยิ่งไปกว่านั้น...จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว บอกต่ออีกว่า "ตระกูลเฟิงไม่รู้เรื่องนี้ พวกเขาไม่รู้ว่าท่านฟื้นคืนความจำแล้ว...ไม่เช่นนั้นคงไม่มีทางเอาความเสียงอย่างท่านมาไว้ในตระกูล กระทั่งยังให้ความสำคัญเป็นพิเศษด้วย"เฟิงอวี้มองนาง ในดวงตามีสีหน้าเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1015

    จั๋วซือหรานเรียบเรียงความคิดในหัว เรียบเรียงเรื่องราวออกมาให้ชัดเจน เอ่ยออกมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน"ท่านไม่รู้ว่าพลังศักดิ์สิทธิ์เป็นเหมือนกับครรภ์พิษ สร้างตราประทับให้กับเฟิงเหยียนตั้งแต่ในครรภ์แม่ ดังนั้นท่านจึงไม่คิดจะให้เขาเป็นแบบท่าน ทรยศเจ้าโชคชะตาที่ยากลำบากนี้ ท่านปั้นเรื่องราวขึ้นมาภายใต้การยอมรับของตระกูลเฟิง"ท่านทำให้เขาเกลียดท่าน กระทั่งดีใจด้วยซ้ำที่มันเป็นเช่นนั้น ก็เพื่อให้ตอนที่เขาออกไปหลังจากนี้ ไม่ถูกท่านถ่วงแข้งขาไว้อีก ดังนั้นเฟิงเหยียนจึงได้ออกไปท่องโลกมานานในช่วงอายุยังน้อย กระทั่ง...เกือบจะได้สัมผัสถึงอิสระแล้วแต่เขาดันกลับมา ทรยศสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตา คิดแล้วก็น่าจะเพราะเขาถูกประทับตราพลังศักดิ์สิทธิ์ไปตั้งแต่อยู่ในครรภ์แม่ ถ้าหากโตมาถึงระดับหนึ่ง...บางทีภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง ถ้าไม่ได้รับสืบทอดพลังศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะจบไม่สวยนัก...จั๋วซือหรานพูดถึงตรงนี้ ก็ตั้งใจครุ่นคิดขึ้นมา งึมงำกับตนเองว่า "เงื่อนไขอะไรกันนะ..." นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงเงยตามองไปทางเฟิงอวี้ ถามขึ้นว่า "กระบี่ประจำตระกูลใช่ไหม"เฟิงอวี้มองนาง ไม่ได้ตอบ แค่ถอนหายใจออกมาเบาๆจั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1016

    "ใช่ ตระกูลเฟิงจะว่าอย่างไรก็คือมองข้ามเจ้าไป ไม่คิดว่าจะมีตัวตนแบบเจ้า พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเจ้าจะดึงดูดพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียนมาใช้กับตนเองได้ นี่เป็นเรื่องที่พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน ดังนั้นจึงรู้สึกว่ายากจะควบคุม ตัดสินใจเลือกปล่อยเจ้าทิ้งไปเสีย"ส่วนเหยียนเอ๋อร์...หลังจากที่รู้ว่าอาจจะทำให้เจ้าต้องบาดเจ็บ จึงเห็นด้วยกับวิธีลบความทรงจำของพวกเขา เขารู้นิสัยเจ้าดี ร้ว่าเจ้ากล้ารักและกล้าเกลียดดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่า ขอแค่เขาจำเจ้าไม่ได้ ด้วยนิสัยของเจ้า ไม่มีทางที่จะเอาแต่อยู่กับเขาไม่จากไปไหนแน่นอนถึงแม้ในสายตาคนนอกเจ้าจะดูเหมือนรักเขาอย่างลึกซึ้ง แต่เขาเข้าใจนิสัยแท้จริงของเจ้าดี ดังนั้น เขาทำถึงขนาดนี้แล้ว เจ้าหนีได้ก็ควรจะรีบหนีไปซะ อย่ากระโดดมาลงหลุมอีก ข้าเตือนเจ้าไปตั้งนานแล้วพอฟังคำเหล่านี้ของเฟิงอวี้ จั๋วซือหรานจึงถามว่า "แล้วพวกท่านล่ะ? เฟิงเหยียนเหมือนตัดสินใจจะออกไปท่องเที่ยวนอกเมืองหลวงแล้วนี่?""ใช่ ตระกูลเฟิงถูกตัวตนของเจ้าเล่นงานจนรับมือไม่ทัน ดังนั้นตอนนั้นขอแค่เขาเห็นด้วยกับการลบความทรงจำ ตระกูลเฟิงก็จะเห็นด้วยกับเงื่อนไขที่มากมายของเขา หนึ่งในนั้นคือส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1017

    ตอนที่เฟิงอวี้มีปฏิกิริยาถึงความหมายในคำพูดนาง เจ้าเด็กคนนี้ก็กระโจนหนีไปทางยอดไม้แล้วตอนนี้มันใช่ปัญหาเรื่องนามสกุลของลูกหรือ!เฟิงอวี้แค่รู้สึกว่าหนังหัวตึงขึ้นมา ก่อ่นหน้านี้บางทีคงไม่ทันสังเกต แต่ตอนนี้ ตัวตนของสายตาที่จับจ้องอยู่ด้านหลังนั้นเพิกเฉยไปไม่ได้เลยไม่รู้ว่ามาตั้งแต่ตอนไหน และไม่รู้ว่าฟังอยู่นานแค่ไหน ฟังไปมากแค่ไหนพอเฟิงอวี้หมุนตัว ก็เห็นว่าในมุมมืดไม่ห่างไปนัก ร่างสูงโปร่งร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น เสื้อผ้าสีดำบนตัว เดิมทีก็ดูไม่เด่นอยู่แล้ว พอบวกกับการที่เขาเก็บงำตัวตนอย่างสมบูรณ์แบบดังนั้นจึงยิ่งทำให้คนสังเกตเห็นได้ยาก เฟิงอวี้ตอนนี้ก็เพิ่งจะจับได้ถึงตัวตนเขาพอคิดถึงคำพูดเหล่านั้นก่อนที่จั๋วจิ่วจะออกไป ก็ฟังออกว่า นางเหมือนจะสังเกตได้นานแล้ว เจ้าเด็กนี่จริงๆ เลย สังเกตเห็นเขาแล้วแท้ๆ ดันไม่เตือนกันเสียหน่อยถ้าเตือนมาสักนิด เขาคงไม่พูดอะไรไร้สาระมากขนาดนี้หรอก ตอนนี้คงไม่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้เฟิงอวี้มองไปยังเฟิงเหยียนที่ยืนอยู่ในเงามืด ไม่ค่อยเจอจริงๆ บนใบหน้าเย็นชาแต่ไหนแต่ไรของเฟิงอวี้ ที่จะมีสีหน้าประหม่าขึ้นมาแบบนี้"เจ้ามาได้อย่างไรกัน" เฟิงอวี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1018

    เฟิงอวี้มองขวดสุราผาดหนึ่ง สายตาก็เหมือนล่องลอยไปไกล แฝงไปด้วยความคิดคะนึง"ข้าดื่มสุรานี้ ไม่เดี่ยวกับอะไรกับพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดง" ปลายนิ้วเฟิงอวี้นวดคลึงเบาๆ บนขวดสุรา ลายมือที่สลักอยู่บนขวดสุรา เลือนลางจนมองไม่ชัดไปตามกาลเวลาต้องมองอย่างละเอียด ถึงจะเห็นว่า ด้านบนสลักคำว่า 'เสวี่ย' ไว้คำว่าเสวี่ยจากชื่อเสวี่ยเจินแม่ของเฟิงเหยียน"ตอนนั้นข้าถูกพลังศักดิ์สิทธิ์ทรมาน ทุกวันเจ็บปวดแสนสาหัส แม่ของเจ้าก็คิดหาทุกวิถีทาง ถึงได้ทำสุราเหมันต์นี้ออกมาได้ บวกกับอักขระคำสาปพิเศษ จึงสามารถข่มพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ทำร้ายตัวเองนี้ได้ในระดับหนึ่ง"เฟิงอวี้ทั้งที่พูดถึงความเจ็บปวดในอดีตแท้ๆ แต่อดีตพวกนั้นก็เคยเป็นช่วงเวลาที่เขาใช้ชีวิตกับภรรยาด้วย ดังนั้นบนหน้าเขาจึงไม่มีสีหน้าความเจ็บปวดแม้แต่น้อย แต่กลับดูอ่อนโยนเสียด้วยซ้ำไปเฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ก็รู้สึกประหลาดใจ อันที่จริงก่อนหน้านี้ตอนที่เขาอยู่ในมุมมืด ก็ได้ยินเนื้อหาเหล่านั้นที่ท่านพ่อบอกกับจั๋วจิ่ว นั่นมันก็ประหลาดมากแล้ว...ไม่สิ คำพูดเหล่านั้นสำหรับเขา บางทีน่าจะเป็นการพลิกผันทำให้ความคิดและความเชื่อที่ฝังลึกมานานหลายปีพลิกผันไปอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1019

    จวนตระกูลเฟิงช่วงกลางดึก ยังคงดูคึกคักกลุ่มลาดระเวนของจวนตระกูลเฟิงแต่เดิมยังไล่ตามผู้บุกรุกจวนไม่ได้ ค้นหาไปจนทั่วทุกซอกมุมแล้วจึงเห็นร่างสีแดงร่างหนึ่ง เดินเข้ามาทางพวกเขาอย่างหยิ่งผยองคนของกลุ่มลาดตระเวนพอเห็น เบื้องหน้าก็มืดบอดไป!ทำไมถึงเป็นนางปีศาจนี่อีกแล้วล่ะ?!นางไม่ใช่ว่าไม่มาเล่นที่บ้านตระกูลเฟิงตังนานแล้วหรือ? ทำไมถึงมาอีกแล้วกัน?!ยิ่งไปกว่านั้นนางปีศาจคนนี้ นางมีท่าท่าที่แอบเข้ามาบ้านคนอื่นอย่างลับๆ ล่อๆ เสียที่ไหน?นี่นางปรากฏตัวอย่างหยิ่งผยองเลยต่างหาก!ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา กระทั่งยังโบกมือให้พวกเขาด้วย "ไม่เจอกันตั้งนาน"คนของกลุ่มลาดตระเวน หน้าดำคร่ำเครียดไปหมด! อะไรคือไม่เจอกันตั้งนาน?!ใครอยากเจอนางกัน!"จั๋วจิ่ว! เจ้าบังอาจนักนะ ถึงกับกล้าบุกเข้ามาจวนตระกูลเฟิงอีกครั้ง!" หัวหน้ากลุ่มลาดตระเวนตะคอกขึ้นมาจั๋วซือหรานคิดๆ "ก่อนหน้านี้ข้าก็มาบ่อยๆ คุ้นหน้ากันแล้วนี่ เจ้าไม่ต้องใช้น้ำเสียตกใจขนาดนี้ก็ได้ ช่วงนี้ข้าก็แค่มีเรื่องเยอะจนทำให้ล่าช้าไปเท่านั้น"คนของกลุ่มลาดตระเวนล้วนตะโกนกันในใจ! ถึงอย่างไรก็ล่าช้าไปแล้วนี่! เจ้าไม่ต้องมาอีกเลยก็ได้!จั๋วซือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1020

    แต่ก็ไม่แปลก เพราะว่าพวกเขาล้วนรู้ว่าซื่อจื่อกับจั๋วจิ่วก่อนหน้านี้ใกล้ชิดกันมาก ดังนั้นจึงรู้สึกระวังตัวขึ้นมา คิดแค่ว่าซื่อจื่อจะช่วยจั๋วจิ๋วไหมและพอผ่อนลมหายใจ เพราะพวกเขารู้ว่าซื่อจื่อจำนางไม่ได้ไปนานแล้ว มีแต่นางที่ยังคิดไปเองฝ่ายเดียวคนของกลุ่มลาดตระเวนล้วนมองไปยังเฟิงเหยียนมุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นเป็นเส้นโค้งลางๆ "ทำไมหรือ? ท่านอ๋องจะลงมือกับข้ารึ?"เฟิงเหยียนไม่ตอบคำนี้ แค่กวาดตามองกลุ่มลาดตระเวนนี้อย่างเย็นชาผาดหนึ่ง "ยังไม่ไปนี่คือคิดจะลงมือกับนางจริงรึ?"หัวหน้ากลุ่มลาดตระเวนตอบสนองขึ้นมาฉับพลัน ซื่อจื่อมาคลี่คลายให้พวกเขาแล้วส่วนใหญ่ก็รู้อยู่ว่าถ้าลงมือกับนาง พวกเขาไม่พูดก็คงได้ตายกันอย่างไม่ต้องสงสัยแน่ อย่างน้อยก็ไม่มีความหวังที่จะชนะได้เลยลังเลเพียงครู่เดียว พวกเขาก็ออกไปกันจั๋วซือหรานเองก็ไม่คิดที่จะไล่ไปโจมตี นางไพล่มือไว้ด้านหลัง ยืนเงียบๆ อยู่กับที่ ดูแล้วเหมือนกำลังเดินผ่อนคลายอยู่ในสวยหลังบ้านตนเองอย่างไรอบ่างนั้น"ได้ยินว่าเจ้าจะออกจากเมืองหลวงแล้ว" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยกมุมปากยิ้ม "ก็เหมือนกันนั่นล่ะ ได้ยินว่าท่านอ๋องเองก็จะออกจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1021

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน เหล่าองครักษ์เงาเดิมทียังอยู่ในท่ากิน ก็ล้วนชะงักนิ่งกันหมด"แม่นาง..."ฉุนจวินงึมงำเรียกนางขึ้นมาจั๋วซือหรานยิ้มให้เขา "เจ้าไม่ต้องคิดมาก ข้าไม่ได้มีความหมายอื่นอะไร เพียงแต่ข้าเข้าใจว่าพวกเจ้าภักดีต่อตัวเขามาก"ฉุนจวินเอ่ยว่า "ความภักดีต่อนายท่านของพวกเรา ไม่ได้ขัดแย้งกับความภักดีต่อแม่นางของพวกเรา กระทั่งว่า ถ้าต้องให้พวกเราเลือก บางทีทุกคนอาจจะเลือกแม่นางหมดก็ได้"อย่างน้อยภายใต้สถานการณืที่จั๋วซือหรานไม่ได้รังเกียจอะไรเฟิงเหยียน พวกขเาก็เลือกจะยืนข้างจั๋วซือหราน"ข้ารู้" จั๋วซือหรานพยักหน้า "เพียงแต่ว่า ข้าจะออกจากเมืองหลวงแล้ว หลวนหนานมีสถานการณ์แบบไหน ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังต้องไปที่สำนักเมฆาวารีก่อนด้วย ให้ข้าพาคนมากขนาดนี้ไป เดิมทีก็ไม่สมเห็นสมผลเท่าไร""ในจวนถึงแม้จะต้องการคนคอยคุ้มกัน และยังต้องการคนคุ้มกันแม่ข้า แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมีมากขนาดนี้" จั๋วซือหรานพูดพลางเม้มปากเบาๆ มองฉุนจวิน "ข้างกายเขาตอนนี้คนที่ใช้ได้ไม่มีเลยสักคน"ฉุนจวินพอได้ยินคำพูดจั๋วซือหราน ก็เข้าใจขึ้นมาแล้วเขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ที่สุดท้าย แม่นางจิ่วก็ยัง

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status