Share

บทที่ 236

Author: หว่านชิงอิ๋น
"ท่านอ๋อง ใต้เท้าเฝิงแห่งจวนผู้ว่าราชการมณฑลมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนี้เข้าก็หน้าเปลี่ยนสี

ซูโหยวเองก็ขมวดคิ้ว "ใต้เท้าเฝิงมาที่นี่ด้วยเหตุใดกัน..."

ฟู่เฉินหวนก้าวเท้าเดินออกไป

จากนั้นก็เห็นใต้เท้าเฝิงอยู่หน้าห้องโถง ใต้เท้าเฝิงตลบแขนเสื้อแล้วเดินยิ้มเข้ามาหา "ท่านอ๋อง พักนี้เป็นอย่างไรบ้าง? อาการของท่านเป็นอย่างไรบ้างแล้วพ่ะย่ะค่ะ?"

ฟู่เฉินหวนค่อย ๆ นั่งลงแล้วเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีสงบนิ่ง "ใต้เท้าเฝิงมาถึงที่นี่คงไม่ใช่เพราะเป็นห่วงอาการของข้ากระมัง?"

ใต้เท้าเฝิงยืนอยู่ตรงหน้าฟู่เฉินหวนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแล้วเอ่ยพลางยิ้ม "่ท่านอ๋อง กระหม่อมมิได้ปิดบังท่านเลย!"

"กระหม่อมหาได้เอ่ยวาจาอ้อมค้อมแต่อย่างใดไม่ กระหม่อมมาคราวนี้เพราะท่านอ๋องจับคนไป"

ฟู่เฉินหวนนั่งนิ่งด้วยสีหน้าเย็นชา

ใต้เท้าเฝิงกล่าวต่อไปอีกว่า "คนในครอบครัวของพวกเขามาแจ้งกับทางการว่า พวกเขาโดนจับตัวไปโดยไร้เหตุผล"

"อีกอย่าง... ก็มีข่าวจากวังหลวงว่าคดีฆาตกรรมของพระชายาปิดลงแล้ว ไม่อนุญาตให้มีการไต่สวนอีกต่อไป เพราะฉะนั้นขอท่านอ๋องได้โปรดปล่อยคนพวกนี้ไปด้วยพ่ะย่ะค่ะ"

น้ำเสียงของใต้เท้าเฝิงออกจ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 237

    มีแววอำมหิตผุดขึ้นในดวงตาแดงฉานของลั่วเยวี่ยอิง ใช่! ถูกต้องแล้ว! ลั่วชิงยวนต่างหากที่เป็นตัวต้นเหตุ! ลั่วเยวี่ยอิงโกรธมากเสียจนเปิดตู้มีลิ้นชักใบเล็ก จากนั้นก็หยิบถุงหอมที่อยู่ในนั้นปาลงพื้นแล้วกระทืบลงไป ทำราวกับว่ามันคือลั่วชิงยวนแล้วระบายโทสะออกมา "ล้วนเป็นความผิดของลั่วชิงยวน! นังแพศยาผู้นี้!" เฉียงเวยเจตนาสุมไฟจึงเอ่ยขึ้นมาว่า "คงไม่มีใครเห็นคุณหนูรองอาละวาดที่นี่หรอกเจ้าค่ะ เช่นนั้นไฉนเลยไม่เหยียบมันต่อหน้าพระชายาเล่าเจ้าคะ?" เมื่อลั่วเยวี่ยอิงได้ยินเช่นนี้ นางก็พลันตื่นตกใจขึ้นมาทันที พอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในงานฉลองไหว้พระจันทร์ในวังหลวง ตอนนั้นท่านอ๋องตั้งใจปกป้องนาง ลองดูอีกครั้งดีกว่า ถ้าหากท่านอ๋องเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อนางแล้วจริง ๆ นางก็จะออกจากตำหนักอ๋อง! จากนั้นค่อยคิดหาแผนการอื่น! ดังนั้นลั่วเยวี่ยอิงจึงหยิบถุงหอมขึ้นมาแล้วไปหาลั่วชิงยวน …… ลั่วชิงยวนที่นอนหลับอยู่ ได้ยินเสียงดังขึ้นในเรือน "ท่านพี่ ข้ามาหาท่าน ท่านคิดว่าข้าจะหายหน้าหายตาไปจริง ๆ หรือ? คราวนี้น้องสาวเอาถุงหอมมาส่งให้ท่านเชียวนะ ท่านอยากได้หรือไม่เล่า?" ลั่วเยวี่ยอิงถูกแม่นมเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 238

    เพียะ ความปวดแสบปวดร้อนทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเวียนศีรษะ นางล้มลงกับพื้นพร้อมศีรษะที่ส่งเสียงอื้ออึง "พระชายา!" แม้แต่เสียงตะโกนของแม่นมเติ้งก็ดังไกลออกไป โทสะปะทุขึ้นในใจของลั่วชิงยวน นางมองบุรุษผู้นั้นด้วยสีหน้าหม่นคล้ำพร้อมดวงตาแดงฉาน ฟู่เฉินหวนรู้สึกฝ่ามือชาหนึบและในขณะนั้นก็รู้สึกตื่นตกใจอยู่บ้าง ไฉนเขาถึงได้หุนหันพลันแล่นเช่นนั้นเล่า? เมื่อเห็นแววตาโกรธแค้นของลั่วชิงยวน ฟู่เฉินหวนรีบเบือนหน้าหนีไป "ท่านอ๋อง… ฮือฮือฮือ..." เสียงร่ำไห้ของลั่วเยวี่ยอิงดังก้องโสตของฟู่เฉินหวน เส้นโลหิตตรงหน้าผากของฟู่เฉินหวนกระตุกพลางหน้าเปลี่ยนสี จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปช่วยประคองลั่วเยวี่ยอิงให้ลุกขึ้นทันที "ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันเพียงแค่ยกน้ำแกงโสมมาให้พี่สาว แต่ท่านพี่กลับคิดจะช่วงชิงข้าวของของหม่อมฉัน นี่เป็นสิ่งที่มารดาของหม่อมฉันหลงเหลือเอาไว้ให้นะเพคะ..." ลั่วเยวี่ยอิงปิดหน้าร้องไห้ด้วยความขมขื่นใจ เพราะรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง. . ท่าทางแบบนั้นทำให้ฟู่เฉินหวนรู้สึกร้อนใจอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นเขาก็อดมิได้ที่จะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของนาง การเคลื่อนไหวอันแสนอ่อนโยนเช่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 239

    "อยู่ก็เป็นคนของตำหนักอ๋อง ตายก็เป็นผีของตำหนักอ๋อง" "เพียงแต่ว่านับแต่บัดนี้เป็นต้นไป เจ้าจะไม่มีฐานันดรศักดิ์เป็นพระชายาอ๋องอีกต่อไปแล้ว มิหนำซ้ำเจ้ายังไม่ต่างอันใดจากบ่าวไพร่ในตำหนักแห่งนี้" เมื่อลั่วเยวี่ยอิงได้ยินเช่นนี้ นางก็รู้สึกทั้งยินดีและประหลาดใจ ดียิ่งนัก! ในที่สุดวันที่นางรอคอยก็มาถึงเสียที! ลั่วชิงยวนกำหมัดแน่น แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะและ หลังจากผ่านพ้นเรื่องราวมาตั้งมากมาย ก็ราวกับว่านางหวนคืนสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง กลับคืนสู่สถานะแรกเริ่มอันต่ำต้อยราวกับเดรัจฉานตัวหนึ่ง บุรุษผู้นี้ช่างโหดเหี้ยมจริง ๆ เขาทำกับนางราวกับข้าทาสและไม่ยอมปล่อยให้นางเป็นอิสระ! แม่นมเติ้งคุกเข่าลงกับพื้นเป็นคนแรกพลางกล่าวว่า "ท่านอ๋องเพคะ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะคุณหนูรองมาหาเรื่อง หาได้เกี่ยวข้องอันใดกับพระชายาแต่อย่างใดไม่เพคะ" ฟู่เฉินหวนเหลือบมองแม่นมเติ้งด้วยสายตาเย็นชา "ถ้าเจ้าไม่อยากเป็นแม่บ้าน ก็ยังมีคนอีกมากมายที่ยินดีจะทำ" "ท่านอ๋อง..." แม่นมเติ้งคิดจะไปกับลั่วชิงยวน แต่ลั่วชิงยวนกลับกดหัวไหล่ของแม่นมเติ้งเอาไว้ได้ทันเวลา "ไม่จำเป็นต้องไป

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 240

    วันที่นางออกจากตำหนักอ๋อง สายลมกระโชกแรงยิ่งนัก ลั่วชิงยวนยืนอยู่นอกประตูจวนสักพักหนึ่งจนผมเผ้ายุ่งเป็นกระเซิง มีนางรับใช้ท่าทางน่าสงสารเพียงคนเดียวคอยอยู่เคียงข้าง ทว่ายามนี้กลับมีเงาร่างสายหนึ่งกำลังวิ่งออกมาจากเรือนด้วยท่าทีร้อนใจ "ชิงยวน!" ฟู่อวิ๋นโจวที่มีสีหน้าซีดขาววิ่งออกมาด้วยความเป็นห่วงกังวล ร่างแบบบางของเขาราวกับจะปลิวหายไปกับสายลมได้อยู่แล้ว แต่เมื่อฟู่อวิ๋นโจววิ่งมาที่ประตู กลับถูกคนรับใช้ของตนขวางเอาไว้ "องค์ชายห้า ข้างนอกลมแรง อย่าออกไปจะดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ" "ปล่อยข้า!" ฟู่อวิ๋นโจวดิ้นรนอยู่สักพัก แต่ก็สลัดไม่หลุดสักที คนรับใช้จับแขนของเขาไว้เพื่อกันมิให้เข้าก้าวไปข้างหน้า "ชิงยวน… แค่ก แค่ก แค่ก แค่ก..." เมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของฟู่อวิ๋นโจวแดงก่ำจนกระอักกระไอ ลั่วชิงยวนก็อดมิได้ที่จะขมวดคิ้วหมายจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ประตูก็ค่อย ๆ ปิดลง เหตุการณ์ฉากนี้ดูราวกับละครฉากที่กำลังพรากจากกันเสียจริง ๆ เมื่อเห็นฟู่อวิ๋นโจวถูกสกัดเอาไว้ในตำหนักลั่วชิงยวนก็รู้สึกจนใจที่ไม่อาจเอ่ยสิ่งที่นางอยากพูดออกมาได้ ยามที่ประตูปิดสนิท ก็ได้ยินแค่น้ำเสียงเป็นกังวลของฟู่อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 241

    “เรือนนี้ไม่มีคนอาศัยมานานเสียเท่าไรกัน สกปรกเหลือเกิน พระชายา ท่านมานั่งในเรือนครู่หนึ่ง บ่าวทำความสะอาดห้องเสียก่อน!” จือเฉาพูดไปพร้อมวางของลง และถือไม้กวาดเดินเข้าไปทำความสะอาดห้อง ลั่วชิงยวนนั่งบนเก้าอี้หินในสวนมองจือเฉาที่วิ่งเข้าออกยุ่งเหยิง ที่ที่จือเฉามิเคยเหยียบย่ำ บนพื้นก็มีรอยเท้าลึกตื้นอยู่เช่นกัน ลั่วชิงยวนหรี่ตาลง หยิบเข็มทิศขึ้นมาวางบนโต๊ะ เมื่อลมหนาวพัดผ่าน เข็มทิศจึงหมุนวนช้า ๆ จือเฉาทำความสะอาดจนฟ้ามืด และทำความสะอาดไปได้กว่าครึ่งเรือน ลั่วชิงยวนจึงเดินเข้าห้อง จุดเทียน และจัดเตียง จือเฉายกอาหารที่ทำง่าย ๆ อย่างโจ๊กเข้ามา นายบ่าวทานอาหารรองท้อง เมื่อวางช้อนลง ลั่วชิงยวนกล่าว “วันนี้เจ้านอนในห้องข้าเถอะ ที่นี่ไม่มีไฟถ่าน กลางคืนจะหนาวเอาได้” “เจ้าค่ะ” จือเฉาพยักหน้า นางเองก็กลัวเรือนใหญ่ที่แสนอ้างว้างนี่เช่นกัน หลังทานข้าวเย็นเสร็จ ลั่วชิงยวนจึงพูดสั่งงานในวันพรุ่งนี้ให้กับจือเฉา พรุ่งนี้นางจะขึ้นเขาไปหาเสบียง และขุดหายาสมุนไพร จึงให้จือเฉาไปซื้อถ่าน แป้งและข้าวสารที่หมู่บ้านใกล้ ๆ ฤดูเหมันต์ฟ้ามืดค่อนข้างเร็ว หนำซ้ำอากาศก็เย็น ทั้งคู่จึงเข้าน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 242

    เงาดำที่หน้าประตู หายไปแล้ว! ทั้งคู่จ้องหน้ากันเนิ่นนาน หน้าประตูก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอย่างใด ลั่วชิงยวนตบหลังมือจือเฉา “ไม่มีอะไรแล้ว นอนเถอะ” จือเฉาตกใจ แต่เมื่อเห็นท่าทีสงบนิ่งของพระชายา นางจึงรู้สึกวางใจมากขึ้น เพียงแค่มีพระชายาอยู่ นางก็มิมีสิ่งใดต้องกลัว แต่ลั่วชิงยวนกลับนอนไม่หลับเพราะเอาแต่คิดถึงเสียงด้านนอก เมื่ออดทนจนถึงฟ้าสว่าง ตามแผนการเดิมแล้ว จือเฉาต้องไปซื้อเสบียงและถ่านไฟในหมู่บ้าน ส่วนลั่วชิงยวนจะไปดูว่าในภูเขามีสมุนไพรที่สามารถใช้ได้หรือไม่ เพราะทรัพย์สินของลั่วชิงยวนตอนนี้มีไม่มาก ยาปรับสมดุลร่างกายราคาแพงและหายากนัก หนำซ้ำยังใช้ได้มินาน การเก็บสมุนไพรจึงถือเป็นการประหยัดเงิน เพราะสามารถนำมาซื้อข้าวของเครื่องใช้และถ่านไฟที่เอาไว้ใช้ในฤดูเหมันต์ได้ ด้านจือเฉานั้นถือว่าราบรื่น นางหาซื้ออาหารและถ่านมาได้อย่างสำเร็จ ลั่วชิงยวนเองก็เก็บสมุนไพรและเห็ดป่ามาได้เล็กน้อย วันนี้ในห้องเผาถ่านเพิ่ม จึงอบอุ่นมากกว่าเมื่อวาน แต่แล้วเวลากลางคืนก็มาถึงอย่างไม่รู้ตัว จือเฉาเริ่มรู้สึกกลัวอีกครั้ง คืนนี้เป็นคืนไม่ได้นอนเช่นเคย ในคืนนี้ หน้าประตูมิได้มีเงาดำปร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 243

    จือเฉาพยักหน้า “มั่นใจเจ้าค่ะ! จวน นี้จะมีหนูก็มิแปลก แต่ขโมยอาหารก็แล้วไป เหตุใดจึงต้องขโมยถ่านด้วยเล่าเจ้าคะ?” ลั่วชิงยวนยิ้มอย่างอดไม่ได้ นางวางตะเกียบลง ลุกขึ้นและกล่าวยิ้ม ๆ “หนูตัวไหนริอ่านมาขโมยถ่านไฟที่จือเฉาข้าอุตส่าห์ไปซื้อมาอย่างลำบากลำบนกัน ข้าจะพาเจ้าไปจับหนูเสียเดี๋ยวนี้!” จือเฉาชะงัก และรีบก้าวตามฝีเท้าของลั่วชิงยวนไป นางตั้งใจพกไม้กวาดเพื่อจับหนูจริง ๆ ลั่วชิงยวนนำทางจือเฉาค่อย ๆ เดินเข้าไปทางเรือนเล็กข้าง ๆ เพราะจวน ใหญ่เกินไป มิมีผู้ใดคิดจะอยู่ในเรือนเล็กนี้ ที่นี่จึงมิเคยมีคนมาตรวจดูและจัดเก็บมาก่อน เมื่อมาถึงที่เรือนเล็ก ลั่วชิงยวนมองไปที่พื้น นางเปิดประตูเรือนออก และเก็บไม้ขึ้นมาแท่งหนึ่ง ในเรือนมีร่องรอยของการก่อไฟ ก้านไม้หลายแท่งต่อกันเป็นเตาผิง ด้านบนนั้นมีหม้อแขวนเอาไว้ ลั่วชิงยวนเดินขึ้นหน้าไปตรวจสอบ ในหม้อยังมีโจ๊กหลงเหลืออยู่ กองหญ้าข้าง ๆ ยังมีขนสัตว์ที่ถูกลอกมาจากสัตว์ป่า จือเฉาตกตะลึง “พระชายา ทะ… ทะ… ที่นี่มีคนอื่นอาศัยอยู่ด้วยหรือเจ้าคะ?“ “คราที่มา พวกเขาก็มิได้บอกว่าที่นี่มีคนนี่เจ้าคะ!” “บังอาจนัก มิออกมาต้อนรับพระชายาอีก” จื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 244

    ลั่วชิงยวนอยู่ทางทิศไม่ไกลของหญิงสาว เมื่อนางเห็นหมาป่าตัวนั้นกระโจนเข้าไปหาหญิงสาว จึงพุ่งเข้าไปช่วยโดยมิทันคิด นางกอดหญิงสาวกลิ้งหลบอย่างแรง จนทั้งคู่ตกลงไปในพุ่มไม้ หมาป่าตัวนั้นตะครุบเข้ามา แต่เพราะการกีดกันจากต้นไม้ จึงช่วยยื้อเวลาให้กับลั่วชิงยวน ชายผู้นั้นก็รีบวิ่งเข้ามาอย่างไว เดิมทีเขาอยากช่วยหญิงสาวผู้นี้ แต่กลับถูกลั่วชิงยวนตัดหน้าเสียก่อน เขายกธนูขึ้น และยิงสังหารหมาป่าตัวนั้น หมาป่าล้มชักกระตุก จากนั้นจึงขาดใจตาย ลั่วชิงยวนมุดออกมาจากในพุ่มไม้ นางเห็นว่าดวงตาของหมาป่าแดงก่ำ และดูแปลก ๆ ไป นางอยากขึ้นหน้าไปดู แต่ถูกชายตรงหน้าห้ามไว้ก่อน “แม่หญิง อันตราย อย่าเข้าใกล้เลย!” ลั่วชิงยวนเก็บสายตากลับมา กวาดมองชายหนุ่มทีหนึ่ง แม้จะเป็นการแต่งตัวของนายพราน แต่หว่างคิ้วของเขาเต็มไปด้วยไอดุร้าย ผู้ที่มือเคยเปื้อนเลือดเท่านั้นจึงจะเป็นเช่นนี้ และคนตรงหน้าท่าจะเปื้อนเลือดมามาก ไอโลหิตอาฆาตจึงชัดเจนเช่นนี้ ของแบบนี้ มิควรปรากฏบนใบหน้าของนายพรานคนหนึ่งอย่างไรก็ตาม อาจเป็นไปได้เช่นกันที่นักฆ่าเปลี่ยนอาชีพมาเป็นนายพราน หญิงสาวที่ชื่อฉูฉู่รีบเดินขึ้นหน้า “แม่หญิง ขอ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status