Share

บทที่ 241

Penulis: หว่านชิงอิ๋น
“เรือนนี้ไม่มีคนอาศัยมานานเสียเท่าไรกัน สกปรกเหลือเกิน พระชายา ท่านมานั่งในเรือนครู่หนึ่ง บ่าวทำความสะอาดห้องเสียก่อน!”

จือเฉาพูดไปพร้อมวางของลง และถือไม้กวาดเดินเข้าไปทำความสะอาดห้อง

ลั่วชิงยวนนั่งบนเก้าอี้หินในสวนมองจือเฉาที่วิ่งเข้าออกยุ่งเหยิง

ที่ที่จือเฉามิเคยเหยียบย่ำ บนพื้นก็มีรอยเท้าลึกตื้นอยู่เช่นกัน

ลั่วชิงยวนหรี่ตาลง หยิบเข็มทิศขึ้นมาวางบนโต๊ะ เมื่อลมหนาวพัดผ่าน เข็มทิศจึงหมุนวนช้า ๆ

จือเฉาทำความสะอาดจนฟ้ามืด และทำความสะอาดไปได้กว่าครึ่งเรือน

ลั่วชิงยวนจึงเดินเข้าห้อง จุดเทียน และจัดเตียง

จือเฉายกอาหารที่ทำง่าย ๆ อย่างโจ๊กเข้ามา

นายบ่าวทานอาหารรองท้อง

เมื่อวางช้อนลง ลั่วชิงยวนกล่าว “วันนี้เจ้านอนในห้องข้าเถอะ ที่นี่ไม่มีไฟถ่าน กลางคืนจะหนาวเอาได้”

“เจ้าค่ะ” จือเฉาพยักหน้า นางเองก็กลัวเรือนใหญ่ที่แสนอ้างว้างนี่เช่นกัน

หลังทานข้าวเย็นเสร็จ ลั่วชิงยวนจึงพูดสั่งงานในวันพรุ่งนี้ให้กับจือเฉา พรุ่งนี้นางจะขึ้นเขาไปหาเสบียง และขุดหายาสมุนไพร จึงให้จือเฉาไปซื้อถ่าน แป้งและข้าวสารที่หมู่บ้านใกล้ ๆ

ฤดูเหมันต์ฟ้ามืดค่อนข้างเร็ว หนำซ้ำอากาศก็เย็น ทั้งคู่จึงเข้าน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 242

    เงาดำที่หน้าประตู หายไปแล้ว! ทั้งคู่จ้องหน้ากันเนิ่นนาน หน้าประตูก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอย่างใด ลั่วชิงยวนตบหลังมือจือเฉา “ไม่มีอะไรแล้ว นอนเถอะ” จือเฉาตกใจ แต่เมื่อเห็นท่าทีสงบนิ่งของพระชายา นางจึงรู้สึกวางใจมากขึ้น เพียงแค่มีพระชายาอยู่ นางก็มิมีสิ่งใดต้องกลัว แต่ลั่วชิงยวนกลับนอนไม่หลับเพราะเอาแต่คิดถึงเสียงด้านนอก เมื่ออดทนจนถึงฟ้าสว่าง ตามแผนการเดิมแล้ว จือเฉาต้องไปซื้อเสบียงและถ่านไฟในหมู่บ้าน ส่วนลั่วชิงยวนจะไปดูว่าในภูเขามีสมุนไพรที่สามารถใช้ได้หรือไม่ เพราะทรัพย์สินของลั่วชิงยวนตอนนี้มีไม่มาก ยาปรับสมดุลร่างกายราคาแพงและหายากนัก หนำซ้ำยังใช้ได้มินาน การเก็บสมุนไพรจึงถือเป็นการประหยัดเงิน เพราะสามารถนำมาซื้อข้าวของเครื่องใช้และถ่านไฟที่เอาไว้ใช้ในฤดูเหมันต์ได้ ด้านจือเฉานั้นถือว่าราบรื่น นางหาซื้ออาหารและถ่านมาได้อย่างสำเร็จ ลั่วชิงยวนเองก็เก็บสมุนไพรและเห็ดป่ามาได้เล็กน้อย วันนี้ในห้องเผาถ่านเพิ่ม จึงอบอุ่นมากกว่าเมื่อวาน แต่แล้วเวลากลางคืนก็มาถึงอย่างไม่รู้ตัว จือเฉาเริ่มรู้สึกกลัวอีกครั้ง คืนนี้เป็นคืนไม่ได้นอนเช่นเคย ในคืนนี้ หน้าประตูมิได้มีเงาดำปร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 243

    จือเฉาพยักหน้า “มั่นใจเจ้าค่ะ! จวน นี้จะมีหนูก็มิแปลก แต่ขโมยอาหารก็แล้วไป เหตุใดจึงต้องขโมยถ่านด้วยเล่าเจ้าคะ?” ลั่วชิงยวนยิ้มอย่างอดไม่ได้ นางวางตะเกียบลง ลุกขึ้นและกล่าวยิ้ม ๆ “หนูตัวไหนริอ่านมาขโมยถ่านไฟที่จือเฉาข้าอุตส่าห์ไปซื้อมาอย่างลำบากลำบนกัน ข้าจะพาเจ้าไปจับหนูเสียเดี๋ยวนี้!” จือเฉาชะงัก และรีบก้าวตามฝีเท้าของลั่วชิงยวนไป นางตั้งใจพกไม้กวาดเพื่อจับหนูจริง ๆ ลั่วชิงยวนนำทางจือเฉาค่อย ๆ เดินเข้าไปทางเรือนเล็กข้าง ๆ เพราะจวน ใหญ่เกินไป มิมีผู้ใดคิดจะอยู่ในเรือนเล็กนี้ ที่นี่จึงมิเคยมีคนมาตรวจดูและจัดเก็บมาก่อน เมื่อมาถึงที่เรือนเล็ก ลั่วชิงยวนมองไปที่พื้น นางเปิดประตูเรือนออก และเก็บไม้ขึ้นมาแท่งหนึ่ง ในเรือนมีร่องรอยของการก่อไฟ ก้านไม้หลายแท่งต่อกันเป็นเตาผิง ด้านบนนั้นมีหม้อแขวนเอาไว้ ลั่วชิงยวนเดินขึ้นหน้าไปตรวจสอบ ในหม้อยังมีโจ๊กหลงเหลืออยู่ กองหญ้าข้าง ๆ ยังมีขนสัตว์ที่ถูกลอกมาจากสัตว์ป่า จือเฉาตกตะลึง “พระชายา ทะ… ทะ… ที่นี่มีคนอื่นอาศัยอยู่ด้วยหรือเจ้าคะ?“ “คราที่มา พวกเขาก็มิได้บอกว่าที่นี่มีคนนี่เจ้าคะ!” “บังอาจนัก มิออกมาต้อนรับพระชายาอีก” จื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 244

    ลั่วชิงยวนอยู่ทางทิศไม่ไกลของหญิงสาว เมื่อนางเห็นหมาป่าตัวนั้นกระโจนเข้าไปหาหญิงสาว จึงพุ่งเข้าไปช่วยโดยมิทันคิด นางกอดหญิงสาวกลิ้งหลบอย่างแรง จนทั้งคู่ตกลงไปในพุ่มไม้ หมาป่าตัวนั้นตะครุบเข้ามา แต่เพราะการกีดกันจากต้นไม้ จึงช่วยยื้อเวลาให้กับลั่วชิงยวน ชายผู้นั้นก็รีบวิ่งเข้ามาอย่างไว เดิมทีเขาอยากช่วยหญิงสาวผู้นี้ แต่กลับถูกลั่วชิงยวนตัดหน้าเสียก่อน เขายกธนูขึ้น และยิงสังหารหมาป่าตัวนั้น หมาป่าล้มชักกระตุก จากนั้นจึงขาดใจตาย ลั่วชิงยวนมุดออกมาจากในพุ่มไม้ นางเห็นว่าดวงตาของหมาป่าแดงก่ำ และดูแปลก ๆ ไป นางอยากขึ้นหน้าไปดู แต่ถูกชายตรงหน้าห้ามไว้ก่อน “แม่หญิง อันตราย อย่าเข้าใกล้เลย!” ลั่วชิงยวนเก็บสายตากลับมา กวาดมองชายหนุ่มทีหนึ่ง แม้จะเป็นการแต่งตัวของนายพราน แต่หว่างคิ้วของเขาเต็มไปด้วยไอดุร้าย ผู้ที่มือเคยเปื้อนเลือดเท่านั้นจึงจะเป็นเช่นนี้ และคนตรงหน้าท่าจะเปื้อนเลือดมามาก ไอโลหิตอาฆาตจึงชัดเจนเช่นนี้ ของแบบนี้ มิควรปรากฏบนใบหน้าของนายพรานคนหนึ่งอย่างไรก็ตาม อาจเป็นไปได้เช่นกันที่นักฆ่าเปลี่ยนอาชีพมาเป็นนายพราน หญิงสาวที่ชื่อฉูฉู่รีบเดินขึ้นหน้า “แม่หญิง ขอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 245

    ลั่วชิงยวนกลับอยากรู้ว่าซ่งเชียนฉู่ประสบอะไรมามากกว่า นางจึงถามอย่างสงสัย “หลังจากที่เจ้าหนีออกจากในถ้ำได้ เหตุใดจึงไม่จากที่นี่ไป หากหนีหมู่บ้านนั้นไปไกล คงมิมีใครนำเจ้าไปสังเวยเทวาภูผาอีก” ฟังถึงตรงนี้ หว่างคิ้วของซ่งเชียนฉู่เผยเป็นแววหวาดกลัว นางกำชายเสื้อไว้แน่นพร้อมตอบ “อันที่จริง ข้าหนีออกไปมิได้…” “ราวกับถูกเหนี่ยวรั้ง…” เมื่อซ่งเชียนฉู่พูด เสียงของนางสั่นคลอนเล็กน้อยและแฝงไปด้วยความผวา แต่สวี่ชิงหลินที่อยู่เบื้องหลังกลับกล่าว “ข้าจะพาเจ้าออกไปให้ได้!” ลั่วชิงยวนได้ยินจึงรู้สึกสงสัย นางมองซ่งเขียนฉู่พร้อมถาม “หนีออกไปมิได้งั้นรึ?” ซ่งเชียนฉู่พยักหน้า “ทุกครั้งที่ข้าออกไป เมื่อถึงเส้นทางทางออก ข้าจะกลับมาอยู่ที่เดิม คล้ายกับผีบังตา” “พวกเราจึงได้แต่หลบอยู่ในจวน” ลั่วชิงยวนไตร่ตรองและพยักหน้า นางก็ว่าตั้งแต่วันแรกที่นางมาถึงในเรือน นางก็รู้สึกถึงกลิ่นไอพิลึก นอกจากสองคนนี้ ยังมีอย่างอื่นอีกดังที่นางคิด แต่นางยังคงรู้สึกประหลาดใจ หากสิ่งนั้นคิดจะกระทำบางอย่างต่อซ่งเชียนฉู่จริง ๆ นางจะยืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างปลอดภัยอีกงั้นหรือ? การที่พวกนางหลบอยู่ในจวนมันปลอดภัย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 246

    ลมราตรีพัดมา เสียงกุกกักเหล่านั้นได้กลับมาอีกครั้ง และเสียงในคืนนี้ ดังยิ่งกว่าคืนอื่น ๆ โดยเฉพาะฝั่งเรือนเล็ก ถึงกับมีเสียงกรีดร้องส่งมา เสียงนั้นวุ่นวายจนฟังดูมิสมจริง ต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ ๆ ลมแรงพัดให้ประตูห้องโยกเยก เสียงที่ดังมา ราวกับมีคนกำลังผลักประตูจากด้านนอก จือเฉากลัวจนกอดแขนลั่วชิงยวนไว้แน่น “พระชายา นี่มัน…” ลั่วชิงยวนตบมือนางเบา ๆ “ข้าออกไปตรวจดูเอง” “เจ้าอยู่ในห้องอย่าวิ่งไปที่อื่น” จือเฉารู้สึกกังวล ”พระชายา…” “ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว” ลั่วชิงยวนตบบ่าของนางเป็นการปลอบ จากนั้นจึงเปิดประตูเดินออกไปคนเดียว นี่เป็นครั้งแรกที่ลั่วชิงยวนออกจากห้องตอนกลางดึกหลังมาอยู่ที่จวนนอกเมือง ลมหนาวด้านนอกแฝงไปด้วยไอมืดครึ้ม พัดให้ตะเกียงใต้ชายคาสั่นคลอนไปมา เสียงใบไม้ดังขึ้นซ่า ๆ จวนกว้างที่เปลี่ยวร้างบัดนี้ยิ่งเหมือนจวนผีสิงเข้าไปทุกที ลานหน้าจวนมิมีสิ่งใด เสียงนี้ส่งมาจากทางเรือนเล็ก ลั่วชิงยวนก้าวฝีเท้ามั่นคงไปทางเรือนเล็ก จากนั้นจึงเห็นร่องรอยคดเคี้ยวบนพื้นเป็นจำนวนมาก นางขมวดคิ้ว นี่มันงู! บัดนี้ภายในเรือน สวี่ชิงหลินกำลังปกป้องซ่งเชียนฉู่ เขาใช้ด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 247

    ลั่วชิงยวนยังไม่ทันตอบ สวี่ชิงหลินกลับลุกขึ้นอย่างแรง เขาดึงตัวซ่งเชียนฉู่ไปไว้ด้านหลังด้วยขาที่กะเผลก พร้อมกล่าว “อย่าเชื่อนาง! ผู้หญิงคนนี้มีปัญหา!” สวี่ชิงหลินระแวงลั่วชิงยวนพร้อมกล่าว “พวกเราซ่อนตัวอยู่ที่นี่หลายวัน งูเหล่านั้นมิกล้าเข้ามาสักคืน หรือเข้าก็เข้าเพียงตัวสองตัว เหตุใดคืนนี้จึงมากหลายเช่นนี้!” “และพอนางปรากฏ ฝูงงูก็สลายตัวทันที! นี่มันพิลึกเกินไป!” ลั่วชิงยวนเองก็อธิบายไม่ถูกกับเรื่องที่นางมาแล้วฝูงงูสลายตัวไป นางจึงพูดได้เพียง “หากข้าประสงค์ร้ายต่อพวกเจ้า ฝูงงูคงมิหายไปเสียหรอก” ซ่งเชียนฉู่ฟังแล้วดวงตาเป็นประกาย นางเดินขึ้นหน้า “ขอบคุณแม่นางลั่วมาก” “คืนนี้ขออภัยที่รบกวนแม่นางลั่วด้วย” ซ่งเชียนฉู่ค่อนข้างเชื่อใจลั่วชิงยวน เพียงแต่ลั่วชิงยวนนั้นลึกลับมาก เรื่องในคืนนี้เองก็ประหลาดมากจริง ๆ “ไม่เป็นไร ดึกแล้วพวกเจ้าพักผ่อนเถอะ อย่างอื่นพวกเราค่อยว่ากันวันพรุ่งนี้” ลั่วชิงยวนพูดจบจึงจากไป ซ่งเชียนฉู่รีบคุกเข่าตรวจดูข้อเท้าของสวี่ชิงหลินที่ถูกงูกัด พร้อมกล่าว “โชคดีที่งูนี้มิมีพิษ เดี๋ยวข้าทายาให้เจ้า ก็น่าจะไม่เป็นไรแล้ว” “ได้สิ” จากนั้นซ่งเชียนฉู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 248

    เปรี้ยง… เสียงฟ้าผ่าดังขึ้น เงายาวนั้นแวบผ่านกลางฟ้ามืดอย่างรวดเร็ว เข็มทิศสั่นคลอนอย่างรุนแรง มิได้สั่นคลอนเพราะต้องการตักเตือน แต่เป็นการสั่นคลอนเพราะถูกข่ม “เทวาภูผา…” สิ่งนี้ราวกับมิมีใจที่จะมาทำร้าย มิฉะนั้นจวนนอกเมืองคงมิสงบหลายวันเช่นนี้ แต่มันก็ยังไม่ล้มเลิก ราวกับต้องการตัวซ่งเชียนฉู่จริง ๆ ขณะที่นางกำลังคิด หน้าประตูมีร่างคนปรากฏขึ้น คนที่มาใบหน้าทรุดโทรม ใต้ตาดำคล้ำ สีหน้าซีดเผือดเต็มไปด้วยความผวา “แม่นางลั่ว…” ซ่งเชียนฉู่ยืนอยู่หน้าประตู หลังเสียงฟ้าผ่า สายฝนก็โหมกระหน่ำ และตกลงจากฟ้าอย่างรุนแรง ลั่วชิงยวนดึงซ่งเชียนฉู่เข้าห้อง จากนั้นปิดประตูลง “แม่นางซ่งนั่งเถอะ” ซ่งเชียนฉู่นั่งลง มองไปทางลั่วชิงยวน และจับแขนของนางไว้อย่างเกรงกลัว “แม่นางลั่ว ข้า… ข้า…” ซ่งเชียนฉู่มิรู้ว่าควรเอ่ยปากอย่างไร ลั่วชิงยวนกลับตบหลังมือของนาง มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มมั่นใจ รอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความอ่อนโยนและมั่นคง ทำให้หัวใจของซ่งเชียนฉู่สงบลงทันใด “สีหน้าของแม่นางซ่งมิดีนัก หลายวันมานี้เจ้าคงตื่นกลัวเกินเหตุ และนอนไม่หลับกระมังเจ้าแอบมาหาข้า โดยปิดบังสวี่ชิงหลินใช

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 249

    นั่นเป็นถึงสมุนไพรที่หาได้ยาก เป็นสมุนไพรที่มีเงินก็หาซื้อไม่ได้! หากมีโสมเก้าบุษบันอมตะ โรคอ้วนท้วมของนางก็จะสามารถรักษาให้หายได้อย่างรวดเร็ว! มองดูสายตาที่จริงจังของซ่งเชียนฉู่ ในใจของลั่วชิงยวนยิ่งรู้สึกตกตะลึง แม่นางซ่งตรงหน้ามิได้ตื่นกลัวถึงขั้นนั้น นางเพียงใช้ความกลัวเป็นข้ออ้างเพื่อมาจับชีพจร ดูท่าวิชาแพทย์ของแม่นางซ่งจะมิธรรมดา และแม่นางซ่งคงดูออกนานแล้วว่านางติดพิษ ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนที่มากพอ จึงจะได้รับความช่วยเหลือ แม่นางซ่งช่างฉลาดเสียจริง เล่ห์เหลี่ยมของนางมิน่าเกลียดชัง ในทางตรงกันข้าม ลั่วชิงยวนรู้สึกชอบมาก! ลั่วชิงยวนตบโต๊ะอย่างเด็ดขาด “ได้! ตกลงกันเช่นนี้!” นัยน์ตาของซ่งเชียนฉู่ประกายแสง นางลุกขึ้นคำนับลั่วชิงยวน “แม่นางลั่ว ขอบคุณท่านมาก!” ลั่วชิงยวนหรี่ตาลง ในตาของนางมีแววเลศนัย ยอมเอาโสมเก้าบุษบันอมตะมาเป็นข้อแลกเปลี่ยน ซ่งเชียนฉู่ต้องพบกับปัญหาใหญ่ขนาดไหนกันแน่ เกรงว่าอีกฝ่ายจะมีเรื่องปิดบังนางอยู่ ลั่วชิงยวนกระตุกมุมปาก “แม่นางซ่ง ข้ามีคำถามมากมาย หลังเรื่องราวถูกจัดการ ท่านตอบข้าตามความจริงได้หรือไม่?” ซ่งเชียนฉู่ชะงัก จากนั้นพยักหน้าอ

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status