Share

บทที่ 625

Author: หว่านชิงอิ๋น
ฟู่เฉินหวนก้มศีรษะลงและมองไปยังคนที่กอดเขาในอ้อมแขนของนางไว้แน่น ใบหน้าของนางไม่ได้ซีดเผือดเหมือนก่อนหน้านี้ รวมทั้งตัวนางก็ไม่ได้สั่นด้วยความหนาวอีกต่อไปแล้ว

ดาบในมือของเขาถูกโยนออกไป

ลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วพูดว่า “ท่านเชื่อหม่อมฉันหรือไม่?”

จากนั้นนางก็ค่อย ๆ ผละออกจากตัวเขา

ฟู่เฉินหวนพยักหน้า “ข้าเชื่อเจ้า”

หลังจากพูดจบ เขาก็จ้องมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเย็นชา “ลั่วชิงยวน เจ้านี้มันจริง ๆ เลย!”

หลังจากพูดจบเขาก็ปัดแขนเสื้อด้วยความโกรธแล้วเดินจากไป

“ฟู่เฉินหวน…” ลั่วชิงยวนร้องเรียก แต่ร่างตรงหน้ายังคงเดินต่อไปไม่หยุด

ซูโหยวส่ายศีรษะอย่างช่วยไม่ได้ “พระชายา ในเมื่อท่านไม่ถูกวางยา เหตุใดท่านไม่บอกข้าก่อนหน้านี้ เรื่องนี้ทำให้ท่านอ๋องเป็นกังวลเรื่องท่านทุกวัน ตั้งแต่กลับมาจากพระตำหนักโช่วสี่ พระองค์ไม่สามารถบรรทมได้ทั้งคืน”

คำพูดเหล่านี้ทำให้ลั่วชิงยวนประหลาดใจเล็กน้อย

ฟู่เฉินหวนกังวลเกี่ยวกับนาง และยังคงกังวลมากเสียด้วย

“ชิงยวน เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว…” ฟู่อวิ๋นโจวยิ้มอย่างพอใจที่ด้านข้าง ทว่า ลั่วชิงยวนกลับมิได้สนใจเขาเลย นางรีบวิ่งหนีไปทันที

เมื่อนางกลับมายังเรือ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 626

    พ่อครัวที่หอร่ำเมลัยกำลังจะกลับไปแล้ว! ลั่วชิงยวนบังเอิญชนเขาที่ลานและหยุดเขาไว้ หลังจากถามไถ่นางก็พบว่าท่านอ๋องสั่งให้เขากลับไปได้แล้ว“พระชายา ข้าเองก็อยากจะทำอาหารให้ท่านที่ตำหนักแห่งนี้”“แต่ท่านอ๋องรับสั่งให้ข้ากลับไป ข้าเองก็มิอาจทำอันใดได้ หากพระชายาชอบอาหารที่ข้าทำจริง ๆ พระชายาก็ต้องมากินอาหารที่ข้าทำที่หอร่ำเมลัยบ่อย ๆ แล้ว!”“หากพระชายามา ข้าจะทำอาหารท่านโดยไม่เก็บเงินถึงสองจานทีเดียว!”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เดิมที นางต้องการรออีกสองวันแล้วค่อยไปหาฟู่เฉินหวน แต่เมื่อเห็นว่าพ่อครัวกำลังจะจากไป นางจะยังนั่งนิ่งอยู่ได้เช่นไร พ่อครัวคนนี้ทำอาหารอร่อยกว่าพ่อครัวในตำหนักอ๋องมาก“นั่งลงตรงนี้แล้วรอฟังข่าวจากข้าเถอะ! ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปไหน!”พ่อครัวห่าวพยักหน้าแล้วนั่งบนม้านั่งหินพร้อมกระเป๋าสัมภาระในอ้อมแขนลั่วชิงยวนรีบไปที่ห้องตำราทันทีและเห็นฟู่เฉินหวนอยู่ที่นั่น ร่างสูงยาวยืนอยู่ข้างหน้าต่าง แสงอาทิตย์ยามเย็นก็ส่องแสงเข้ามาที่หน้าต่าง ร่างของเขาประกายไปด้วยแสงสีทองอันอ่อนโยน นิ้วอันงดงามกำลังพลิกหน้าหนังสือกลิ่นอายสดชื่นแทรกซืมลึกถึงกระดูกอย่างอบอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 627

    ในที่สุดเวลาก็ผ่านมาเจ็ดวันแล้ว พระตำหนักโช่วสี่หน้ากระจกทองเหลือง ไทเฮากำลังลูบผมและถามว่า “นี่กี่วันแล้ว?”จิ่นชูซึ่งอยู่ด้านข้างก็ตอบขึ้นว่า "วันนี้เป็นวันที่เจ็ดแล้วเพคะ"ไทเฮาเลิกคิ้วเล็กน้อย “แปลกจริง ๆ ที่เขาไม่ได้อุ้มศพมาเอ่ยถามเรื่องราวกับข้าหรือแม้แต่จะจัดพิธีไว้ทุกข์”จิ่นชูยิ้มและกล่าวว่า “ท่านอ๋องประสบความสำเร็จอย่างมากในยามนี้ รวมทั้งชื่อเสียงของเขาก็ได้รับการสรรเสริญอย่างยิ่ง หากเขานำศพมายังพระตำหนักโช่วสี่ เขาจะถูกกล่าวหาว่าไม่กตัญญูและไม่เคารพได้เพคะ”“นอกจากนี้ เขาชอบลั่วเยวี่ยอิง เขาปฏิบัติต่อลั่วชิงยวนเพียงผิวเผินเท่านั้น เขากลัวว่าจะชื่อเสียงของเขาจะด่างพร้อยด้วยการเนรคุณ เช่นนั้นแล้วเขาจะต่อต้านไทเฮาเพื่อเปิดเผยการตายของลั่วชิงยวนได้เช่นไรเพคะ?”ไทเฮายิ้มจาง ๆ แล้วพูดถามว่า “หมอหลวงได้เตรียมการไว้แล้วหรือไม่?”“จัดการเรียบร้อยแล้วเพคะ ทว่า ไม่กี่วันก่อนลั่วเยวี่ยอิงได้ไปก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ที่ตำหนักอ๋อง หากลั่วชิงยวนเสียชีวิต ทุกคนคงคิดแต่เพียงว่าลั่วเยวี่ยอิง​ฆ่านาง และจะไม่มีใครตั้งคำถามกับไทเฮาได้เพคะ”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ไทเฮาก็ประหลาดใจเล็ก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 628

    ลั่วชิงยวนยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยและนิ่งสงบ “มาแล้วรึ?”“มาแล้ว พวกมันอยู่รอบ ๆ ลานตำหนักนี้!” ลั่วอวิ๋นสี่พูดอย่างประหม่า “เมื่อมาถึงข้าก็รู้สึกได้ มีคนจำนวนมากซุ่มซ่อนอยู่ที่นี่ พวกมันทั้งหมดน่าจะเป็นยอดฝีมือ!”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจเล็กน้อยพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นนางยิ้มแล้วพูดว่า “เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่า เจ้าสัมผัสถึงคนเหล่านั้นได้ทั้งหมด?”“ตอนนี้เขายังอยู่ในร่างของเจ้าหรือ? เจ้าไม่กลัวหรือ?”ลั่วอวิ๋นสี่ส่ายหน้า “ข้าได้ปรับตัวเข้ากับการมีอยู่ของเขาแล้ว เขาทำให้ข้ารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่ปกติข้าไม่อาจรู้สึกได้”“อย่างเช่น เมื่อข้ามาที่นี่ ข้ารู้สึกได้ว่ามีคนจำนวนมากซุ่มซ่อนอยู่!”แม่นมเติ้งอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “อย่ากังวลไปเจ้าค่ะ”“พวกนั้นไม่ได้มาที่นี่ฆ่าเพื่อพระชายา”“พวกเขาล้วนเป็นองครักษ์ลับที่ท่านอ๋องส่งมาเพื่อปกป้องพระชายา พวกเขาอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ลั่วอวิ๋นสี่ก็มองไปยังลั่วชิงยวนด้วยความประหลาดใจ “ปกป้องเจ้ารึ?”“ดูเหมือนว่าทัศนคติของฟู่เฉินหวนที่มีต่อเจ้าจะเปลี่ยนไปมากแล้วจริง ๆ”ลั่วชิงยวนพยักหน้าและพูดว่า "แต่ข้ายังไม่ไว้ใจพวกเขา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 629

    “เอาล่ะ ไปพักผ่อนกันเถอะ”…… “ล้มเหลวอีกแล้ว ล้มเหลวอีกแล้ว ไยการฆ่าลั่วชิงยวนจึงยากกว่าการฆ่าฟู่เฉินหวนไปเสียได้!” เหยียนผิงเซียวโกรธ เขาวางถ้วยน้ำชาในมือลงอย่างแรง เสียงอ่อนโยนจากสตรีผู้หนึ่งก็ดังขึ้นมาจากด้านข้าง “ช่วงนี้ ทุกอย่างล้วนผิดพลาดไปหมด เรื่องดีงูก็ล้มเหลว แม้แต่เรื่องลั่วชิงยวนก็ล้มเหลวเช่นกัน”“ใช้กำลังคนไปมากมายเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าฟู่เฉินหวนต้องการปกป้องลั่วชิงยวน ไม่ว่าจะส่งนักฆ่าไปกี่คนก็ล้วนไร้ประโยชน์”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เหยียนผิงเซียวก็ดูเคร่งขรึมก่อนจะพูดว่า “ข้าไม่ต้องการที่จะประสบความสูญเสียอีกต่อไปแล้ว แต่ไทเฮาหมายหัวลั่วชิงยวนและนางจะต้องถูกสังหาร”“ข้าไม่มีทางเลือก”หลังจากพูดจบ เหยียนผิงเซียวก็ลุกขึ้นและเดินไป “ฉิงเอ๋อร์ เจ้ามีวิธีกำจัดลั่วชิงยวนโดยเร็วที่สุดหรือไม่?”“ท้ายที่สุดแล้วข้าก็ต้องร่วมมือกับไทเฮาอยู่ดี”สตรีผู้นั้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “วิธีน่ะมี แต่ต้องสูญเสียพลังชีวิตไปเล็กน้อย”“ฉิงเอ๋อร์ โปรดช่วยข้าด้วย เรื่องดีงูข้าจะคิดหาวิธีแก้ปัญหาต่อไปเอง! ข้าจะเอาสิ่งนี้มาให้เจ้าเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าอย่างแน่นอน!”เม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 630

    เกิดเสียงโครมครามดังสนั่น นักฆ่าผู้นั้นกระเด็นออกจากห้องและล้มลงไปกับพื้นอย่างแรงเมื่อลั่วชิงยวนรู้สึกตัว นางก็เห็นลั่วอวิ๋นสี่เหาะตามเขาไป ดาบยาวของนางแทงทะลุหน้าอกของนักฆ่าอย่างดุเดือดนางฆ่าอีกฝ่ายด้วยดาบเพียงเล่มเดียวลั่วชิงยวนตกตะลึงวรยุทธของเตี่ยฉุยนั้นนับว่าไม่มีใครเทียบได้อย่างแท้จริงในชาติก่อน เขาคงเป็นนักฆ่าที่อยู่ยงคงกระพันในใต้หล้านี้ นักฆ่าสำนักเทียนอิงเป็นสำนักนักฆ่าที่ทรงพลังที่สุดที่ลั่วชิงยวนเคยเผชิญมาแม้ว่ากจะไม่มีใครเทียบเจ้าแห่งนรกได้ แต่คำว่า ‘นักฆ่าสำนักเทียนอิน’ ยังคงทำให้นางประทับใจมากอย่างน้อยพวกเขาก็มีพลังมากกว่านักฆ่าของสำนักวรยุทธเจียงฮู๋แต่ตอนนี้เขาถูกเตี่ยฉุยฆ่าตายทันทีแล้ว!สิ่งนี้เหลือเชื่อมาก ไม่เพียงแต่ลั่วชิงยวนเท่านั้น ลั่วอวิ๋นสี่ก็ยังตกใจด้วยเช่นกัน นางถือดาบและมองดูลั่วชิงยวนด้วยความสับสน “ข้าฆ่าเขาได้เช่นไร เจ้าเห็นมันด้วยตาอย่างชัดเจนหรือไม่?”“ข้ามองเห็นไม่ชัด ขอทำอีกครั้งได้หรือไม่?”ลั่วอวิ๋นสี่ต้องการฝึกฝนทักษะของนางผ่านการต่อสู้อย่างแท้จริง แต่นางตั้งตารอการต่อสู้เช่นนี้มาหลายวันแล้ว เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ลั่วชิงยว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 631

    เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ลั่วชิงยวนก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ได้ ข้าจะตามเจ้าเข้าวัง”นางไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือเท็จ เพราะนางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหลิวไท่เฟยเลยแต่เนื่องจากคนในวังกำลังจะสร้างปัญหาให้กับนาง นางจึงต้องเข้าไปเพื่อเผชิญหน้ายิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่มาตามหานางในครั้งนี้ไม่ใช่ไทเฮาทว่า ก่อนออกเดินทางลั่วชิงยวนยังคงฝากข้อความทิ้งไว้ให้จือเฉา หลังจากที่ฟู่เฉินหวนกลับมาเขาก็ได้รู้ข่าวที่นางเข้าไปในวังเพื่อพบกับหลิวไท่เฟยจากนั้นลั่วชิงยวนก็ติดตามป้าถานสี่เข้าไปในพระราชวังที่พำนักของหลิวไท่เฟยค่อนข้างเงียบสงบ ตำหนักเองก็เงียบสงบมากเช่นกัน มีนางกำนัลในตำหนักไม่มากนักและทั้งสวนก็เงียบสงบมาก การแต่งกายก็เรียบง่ายและสง่างามไม่น้อยเมื่อนางเห็นหลิวไท่เฟย อีกฝ่ายแต่งกายเรียบง่าย ถือลูกประคำในมือ กลิ่นไม้จันทน์หอมอบอวลเมื่อนางเห็นซูชิงอู่ นางก็มีทีท่าใจดีและดูเป็นมิตร “พระชายามาถึงแล้วหรือ?”ลั่วชิงยวนโค้งคำนับทำความเคารพ “ถวายพระพรหลิวไท่เฟยเพคะ!”“ที่นี่ไม่มีกฎเกณฑ์มากมาย เชิญเจ้านั่งลงเถิด” หลิวไท่เฟยยิ้มอย่างอ่อนโยน โดยไม่มีทีท่าวางอำนาจแต่อย่างใดหลิวไท่เฟยดูอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 632

    หลิวไท่เฟยคุกเข่าลงทันทีลั่วชิงยวนตกใจมากจึงรีบเข้าไปพยุงนางพร้อมกับเอ่ยว่า “หลิวไท่เฟย หม่อมฉันรับไม่ไหวหรอกเพคะ!”“ลุกขึ้นเถิดเพคะ!”ทว่า หลิวไท่เฟยกลับผลักนางออกไปและยืนกรานที่จะไม่ลุกขึ้นพลางวิงวอนว่า “พระชายา ข้าขอร้องเจ้า!”“เจ้าเจ็ดเป็นเช่นนี้ ข้ากังวลมากจริง ๆ! เมื่อเขามั่นคงแล้วเท่านั้น ข้าคงจากไปได้หมดห่วง!”คำพูดนี้ทำให้ลั่วชิงยวนงงงวย นางจึงเอ่ยถามว่า “จากไปหรือเพคะ หลิวไท่เฟยจะไปที่ใดกัน?”หลิวไท่เฟยก้มศีรษะลง รู้สึกเขินอายเล็กน้อย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางก็พูดขึ้นว่า “แม้ว่าข้าจะเป็นไท่เฟย แต่ข้าหาได้มีสถานะใดเลยในวังหลังแห่งนี้ไม่”“แม้ว่าข้าจะเคยเป็นนางสนมคนโปรดของจักรพรรดิ แต่ข้าก็ไม่อาจให้กำเนิดบุตรชายและบุตรสาวใน ช่วงหลายปีที่ผ่านมา นี่จึงเป็นเรื่องยากสำหรับข้าที่จะอยู่รอดในวังหลวงนี้ได้”“ข้าเชื่อในพระโพธิสัตว์ เพราะหลายปีมานี้ข้าตกอยู่ในภวังค์ฝันร้าย มีเพียงการสวดพระสูตรทุกวันเท่านั้นที่ทำให้ข้าสงบจิตสงบใจลงได้”“แต่ช่วงนี้ข้ารู้สึกหมดพลังใจ”“ข้ากลัวว่าสักวันข้าจะไม่อาจตื่นขึ้นมาได้อีก ข้าจะนิ่งเฉยและไม่ใส่ใจเจ้าเจ็ดได้เช่นไร หากวันหนึ่งเขาต้องตาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 633

    “หลิวไท่เฟย ท่านยังต้องการบูรณะพระพุทธรูปองค์นี้อีกงั้นหรือเพคะ?”หลิวไท่เฟยพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยว่า “สิ่งนี้ไม่อาจหายไปจากที่นี่ได้ ไม่เช่นนั้นข้าจะตายเร็วขึ้น”ลั่วชิงยวนหรี่ตาเล็กน้อย ตายเร็วขึ้นงั้นหรือ?+หากสิ่งนี้ทำให้หลิวไท่เฟยหวาดกลัวถึงเพียงนี้ นั่นหมายความว่าผู้ที่ให้สิ่งของนี้ย่อมมีสถานะสูงส่งกว่าหลิวไท่เฟยมากแม้ว่าหลิวไท่เฟยจะไม่ได้มีสถานะสูงส่งนัก แต่นางก็เป็นหนึ่งชายาขององค์จักรพรรดิ ในแง่ของสถานะแล้วนั้น นางก็เป็นรองเพียงไทเฮาเท่านั้น!อีกทั้งตุ๊กตาตัวนี้ก็คล้ายกับสิ่งที่นางเคยเจอก่อนหน้านี้มาก ดูเหมือนว่าวิธีการเดียวกันทั้งหมดนี้จะมาจากไทเฮาในขณะนี้ ป้าถ่านสี่ก็มาถึงแล้วพร้อมกับพูดว่า “ไท่เฟย องค์ชายเจ็ดเสด็จมาเพคะ”เมื่อทั้งคู่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ต่างก็รู้สึกประหลาดใจ ช่างเป็นเรื่องบังเอิญอย่างแท้จริงหลิวไท่เฟยรีบเก็บข้าวของของนางพลางพูดกับลั่วชิงยวนว่า “เจ้าอย่าได้บอกเจ้าเจ็ดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าไม่อยากให้เขากังวล”ลั่วชิงยวนพยักหน้าแล้วพูดว่า “เพคะ”จากนั้นทั้งสองคนก็เดินออกมาพบกับองค์ชายเจ็ดซึ่งถือของกำนัลที่นำมาเป็นพิเศษไว้ในมือ“ช่วงนี้ไท่เฟยเป็นเช่

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status