Share

บทที่ 7

เมิ่งจิ่นอวี่และคนรับใช้พวกนี้ไม่ควรปรากฏตัวในห้องของลั่วชิงยวน แต่คืนนี้กลับมารวมตัวกันในห้องของนาง แถมนางยังไม่ได้อยู่ในห้องอีก เลยทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่า หรือนี่อาจจะเป็นแผนการของลั่วชิงยวน

ลั่วชิงยวนรู้สึกสับสน นางขมวดคิ้วพร้อมพลางมองด้วยสายตาเย็นชา "ท่านกำลังสอบสวนนักโทษอยู่หรือเพคะ?"

เมื่อเห็นดังนั้น ลั่วเยวี่ยอิงก็รีบไปข้างหน้า และคว้าแขนของนาง จงใจใช้เสียงเบาที่ทุกคนได้ยินกล่าวว่า "ท่านพี่ อย่าพูดกับท่านอ๋องแบบนี้สิเจ้าคะ คืนนี้ท่านทำอะไร บอกความจริงกับท่านอ๋องเถิด มีข้าอยู่ ท่านอ๋องไม่ทำอะไรท่านพี่หรอก”

การกระทำของลั่วเยวี่ยอิง ยิ่งทำให้ดูเหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ลั่วชิงยวนเป็นคนทำจริง ๆ

ดวงตาของลั่วชิงยวนเย็นยะเยือก นางจงใจหลุบตาลงอย่างรู้สึกผิด และกระซิบตอบ "ข้ายอมรับว่าคืนนี้ข้าทำบางสิ่งที่ไม่สามารถบรรยายได้..."

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วเยวี่ยอิงแสร้งทำเป็นตกใจ และเปล่งเสียงออกมา "อะไรนะเจ้าคะ? ท่านพี่สับสนขนาดนี้ได้อย่างไรกัน!"

ลั่วเยวี่ยอิงดึงลั่วชิงยวนไปข้างหน้า และพูดกับนางด้วยท่าทางเคร่งขรึม "ท่านพี่ ท่านยอมรับผิดต่อท่านอ๋องเถิด มีข้าอยู่ ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ!"

ลั่วเยวี่ยอิงลอบมองสีหน้าลั่วชิงยวน นางยังดูโง่เหมือนเดิม ใช้โอกาสนี้เพื่อให้นางพูดออกมาเองเป็นการดีที่สุด ยิ่งทำให้ท่านอ๋องโกรธยิ่งดี ท่านจะได้สั่งประหารชีวิตนางซะ!

ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้น

บรรยากาสเงียบสงบ สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ลั่วชิงยวน เพื่อรอฟังนางสารภาพความผิด

เมิ่งจิ่นอวี่คนนี้เป็นถึงลูกสาวของแมบ้านเมิ่งเมิ่ง และนางยังเป็นนางรับใช้ชั้นหนึ่งในตำหนักอ๋องอีกด้วย ถือว่าเป็นคนสนิทของท่านอ๋องไม่มากก็น้อย หากลั่วชิงยวนก่อเรื่องกับเมิ่งจิ่นอวี่ นางจะต้องรับผิดชอบถึงผลที่ตามมา!

ลั่วชิงยวนลดศีรษะลง ยกมือขึ้นสัมผัสหน้าท้องแบนราบของตนเอง พลางพูดขึ้นช้า ๆ "คืนนี้หม่อมฉันแอบไปที่ครัวเพื่อหาอาหาร แต่ในนั้นไม่มีข้าวเหลืออยู่ในหม้อแม้แต่เมล็ดเดียว หม่อมฉันไม่ได้ขโมยอะไรเลยนะเพคะ!"

"เรื่องก็มีเพียงเท่านี้ จำเป็นจะต้องระดมคนมาคาดคั้นหม่อมฉันด้วยหรือเพคะ?" นางเงยหน้าขึ้น และถามฟู่เฉินหวนกลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ

ทันทีที่นางพูดจบ ทุกคนต่างก็มองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ

ลั่วเยวี่ยอิงตัวแข็งขึ้นมาทันที

ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว และมองไปที่ลั่วชิงยวนด้วยสายตาเคร่งขรึม พูดปดได้อย่างธรรมชาติ หน้าไม่แดงเลยแม้แต่น้อย ผู้หญิงคนนี้ช่างเป็นคนขี้โกหกเสียจริง!

ขณะนั้นเอง ท้องของลั่วชิงยวนก็ร้องออกมาโครกคราก

ในคืนที่เงียบสงัด บรรยากาศยิ่งเคร่งเครียดขึ้นไปอีก... เส้นเลือดบนหน้าผากของฟู่เฉินหวนกระตุก

เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่กำลังอดทนต่อความหิวโหยของลั่วชิงยวน จึงอดคิดไม่ได้ว่าคนในตำหนักจะต้องไม่ได้ดูแลนางเป็นแน่ การจะได้ทานอาหารอาจเป็นเรื่องยากสำหรับนาง

"ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง ข้าร้อนเหลือเกิน..." เมิ่งจิ่นอวี่ซึ่งถูกห่อด้วยผ้านวมอยู่บนพื้น ยังคงดิ้นพล่านอย่างไม่รู้ตัว พลางร้องเรียกท่านอ๋องของนางด้วยน้ำเสียงกระเส่า ซึ่งทำให้ใบหน้าฟู่เฉินหวนอึมครึมมากขึ้น

“เซียวชู ปลุกนาง!” ฟู่เฉินหวนสั่งเสียงเย็น

จากนั้นร่างสีดำก็ถลาเข้ามาในลาน ก่อนที่คนคนนี้จะปรากฏตัว แทบไม่มีเสียงใด และไม่รู้เลยว่าเขาโผล่มาจากไหน เขามีท่าทางดุร้าย ทุกย่างก้าวบ่งบอกได้เลยว่า เขาคือปรมาจารย์

เซียวชูก้าวไปข้างหน้า บังคับจับข้อมือของเมิ่งจิ่นอวี่ โดยปราศจากความเห็นใจ จากนั้นหยิบยาเม็ดหนึ่งออกจากอก ก่อนจะป้อนมันให้กับเมิ่งจิ่นอวี่

น่าจะเป็นยาถอนพิษผงแห่งมหาสุข

เซียวชูน่าจะเป็นองครักษ์ส่วนตัวของฟู่เฉินหวน เขาเตรียมยาถอนพิษไว้ขนาดนี้ ฟู่เฉินหวนกลัวลั่วชิงยวนมอมยาเขาแค่ไหน?

หลังจากนั้น เมิ่งจิ่นอวี่ก็ตื่นขึ้นมา

เมื่อนางลืมตาขึ้น และมองเหตุการณ์ตรงหน้า ใบหน้าของนางก็ซีดลงด้วยความตกใจ และเมื่อรู้ตัวว่าเสื้อผ้าของตนหลุดลุ่ย นางก็กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง

“ข้า… ข้า… เหตุใดข้าถึงเป็นเช่นนี้? เป็นไปได้อย่างไร...” เมิ่งจิ่นอวี่ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น นี่ไม่ใช่ความฝัน นางรู้สึกลนลานสับสน

ฟู่เฉินหวนสายตาเคร่งขรึม และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เกิดอะไรขึ้นกันแน่? บอกความจริงมา"

เขายังคงไม่อยากเชื่อว่าทั้งหมดนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับลั่วชิงยวน

ถ้ามันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนางจริง ทำไมมันถึงเกิดขึ้นในห้องของนาง?

สติของเมิ่งจิ่นอวี่ยังคงไม่กลับมา นางมองไปที่ลั่วเยวี่ยอิงด้วยความงุนงง และใช้สายตาถามนางว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนที่นอนอยู่ตรงนี้ถึงเป็นนาง ไม่ใช่ลั่วชิงยวน!

ลั่วเยวี่ยอิงแอบขยิบตาส่งสัญญาณให้นางใส่ความลั่วชิงยวน

ในขณะนี้ลั่วชิงยวนยังคงนิ่งสงบ แต่นางมองเห็นการสบตาของทั้งสองคนอย่างชัดเจน และนางต้องการดูว่าคนกลุ่มนี้จะใส่ร้ายนางอย่างไร

เมิ่งจิ่นอวี่ทรุดตัวลง ทำใจไม่ได้ที่ตนเองสูญเสียความบริสุทธิ์ นางคิดว่าช่างอัปยศยิ่งนัก จนไม่อยากจะมีชีวิตต่อ แต่ถ้าจะต้องตาย นางก็จะลากลั่วชิงยวนนังผู้หญิงเลวคนนั้นไปตายด้วย!

นางชี้ไปที่ลั่วชิงยวนด้วยความโกรธ "นางเพคะ! นางเป็นคนทำหม่อมฉันเพคะ ท่านอ๋อง!"

“ท่านแม่อุส่าห์ทำการหมั้นหมายให้ข้าแล้ว แต่ตอนนี้ข้าจะแต่งงานได้อย่างไร… ตายไปเสียยังจะดีกว่า…” เมิ่งจิ่นอวี่ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล

ทันทีที่เมิ่งจิ่นอวี่พูดจบ ลั่วเยวี่ยอิงก็มองไปที่ลั่วชิงยวนด้วยความตกใจ "ท่านพี่ ท่าน... กลายเป็นคนที่โหดเหี้ยมขนาดนี้เลยหรือ?"

ใบหน้าเล็ก ๆ สีขาวของลั่วเยวี่ยอิงที่ดูตื่นตระหนกจนเกินเหตุ

ลั่วชิงยวนนึกขำในใจ นางขี้เกียจจะอธิบาย จึงมองตรงไปที่เมิ่งจิ่นอวี่ "เจ้าบอกว่าข้าทำร้ายเจ้ารึ เช่นนั้นก็แสดงหลักฐานออกมา!"

เมิ่งจิ่นอวี่มองไปที่คนรับใช้ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น และตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าพูดออกมาสิ ใครเป็นคนสั่งให้พวกเจ้าทำ!"

ฟู่เฉินหวนก็จ้องมองเช่นกัน

คนใช้หลายคนตัวสั่นเทาตอบ "พระ… พระชายาเป็นคนสั่งพวกกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ"

ทันทีที่คนใช้พูดจบ เมิ่งจิ่นอวี่ก็รีบวิ่งไปที่เท้าของฟู่เฉินหวน ราวกับได้รับหลักฐานชิ้นใหญ่ นางร้องไห้อย่างขมขื่น "ท่านอ๋อง! ท่านอ๋อง ท่านทรงได้ยินแล้วหรือไม่เพคะ! นางทำร้ายบ่าว! นางทำให้บ่าวเจ็บปวดยิ่งนัก! ...เพียงเพราะบ่าวแค่พูดว่านางคือกระต่ายหมายจันทร์ นางจึงเคียดแค้น และทำลายชีวิตบ่าว!"

คนรับใช้ทุกคนในลานต่างก็ได้ยินชื่อเสียงของลั่วชิงยวน บวกกับที่นางแต่งงานแทน ทุกคนจึงไม่ชอบหน้านาง และเมื่อเห็นสภาพที่น่าเวทนาของเมิ่งจิ่นอวี่ในตอนนี้ ก็ยิ่งรู้สึกสงสารนาง

“พระชายาผู้สูงศักดิ์ กระทำเรื่องเลวทรามต่ำช้าเช่นนี้ นางไม่สมควรจะเป็นพระชายาเลย!”

“นางเป็นตัวปลอมตั้งแต่แรก ใครจะไปยอมรับว่านางเป็นพระชายากัน น่ารังเกียจ!” เสียงแม่นมอาวุโสคุยกันอย่างเกรี้ยวกราด อยากจะขายลั่วชิงยวนทิ้งเสียให้รู้แล้วรู้รอด

เมื่อได้ยินข้อกล่าวหาของทุกคนที่มีต่อลั่วชิงยวน ทั้งตำหนักรวมถึงท่านอ๋อง ไม่มีใครยืนเคียงข้างลั่วชิงยวนเลยสักคนเดียว ถึงแม้นว่า เรื่องคืนนี้นางจะมิได้เป็นคนทำ แต่ก็คงยากที่จะเถียง จงเป็นแพะรับบาปและตายไปซะ!

นางเฝ้าดูการแสดงต่อไปด้วยสายตาที่เย็นชา

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status