แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
เมิ่งจิ่นอวี่และคนรับใช้พวกนี้ไม่ควรปรากฏตัวในห้องของลั่วชิงยวน แต่คืนนี้กลับมารวมตัวกันในห้องของนาง แถมนางยังไม่ได้อยู่ในห้องอีก เลยทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่า หรือนี่อาจจะเป็นแผนการของลั่วชิงยวน

ลั่วชิงยวนรู้สึกสับสน นางขมวดคิ้วพร้อมพลางมองด้วยสายตาเย็นชา "ท่านกำลังสอบสวนนักโทษอยู่หรือเพคะ?"

เมื่อเห็นดังนั้น ลั่วเยวี่ยอิงก็รีบไปข้างหน้า และคว้าแขนของนาง จงใจใช้เสียงเบาที่ทุกคนได้ยินกล่าวว่า "ท่านพี่ อย่าพูดกับท่านอ๋องแบบนี้สิเจ้าคะ คืนนี้ท่านทำอะไร บอกความจริงกับท่านอ๋องเถิด มีข้าอยู่ ท่านอ๋องไม่ทำอะไรท่านพี่หรอก”

การกระทำของลั่วเยวี่ยอิง ยิ่งทำให้ดูเหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ลั่วชิงยวนเป็นคนทำจริง ๆ

ดวงตาของลั่วชิงยวนเย็นยะเยือก นางจงใจหลุบตาลงอย่างรู้สึกผิด และกระซิบตอบ "ข้ายอมรับว่าคืนนี้ข้าทำบางสิ่งที่ไม่สามารถบรรยายได้..."

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วเยวี่ยอิงแสร้งทำเป็นตกใจ และเปล่งเสียงออกมา "อะไรนะเจ้าคะ? ท่านพี่สับสนขนาดนี้ได้อย่างไรกัน!"

ลั่วเยวี่ยอิงดึงลั่วชิงยวนไปข้างหน้า และพูดกับนางด้วยท่าทางเคร่งขรึม "ท่านพี่ ท่านยอมรับผิดต่อท่านอ๋องเถิด มีข้าอยู่ ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ!"

ลั่วเยวี่ยอิงลอบมองสีหน้าลั่วชิงยวน นางยังดูโง่เหมือนเดิม ใช้โอกาสนี้เพื่อให้นางพูดออกมาเองเป็นการดีที่สุด ยิ่งทำให้ท่านอ๋องโกรธยิ่งดี ท่านจะได้สั่งประหารชีวิตนางซะ!

ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้น

บรรยากาสเงียบสงบ สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ลั่วชิงยวน เพื่อรอฟังนางสารภาพความผิด

เมิ่งจิ่นอวี่คนนี้เป็นถึงลูกสาวของแมบ้านเมิ่งเมิ่ง และนางยังเป็นนางรับใช้ชั้นหนึ่งในตำหนักอ๋องอีกด้วย ถือว่าเป็นคนสนิทของท่านอ๋องไม่มากก็น้อย หากลั่วชิงยวนก่อเรื่องกับเมิ่งจิ่นอวี่ นางจะต้องรับผิดชอบถึงผลที่ตามมา!

ลั่วชิงยวนลดศีรษะลง ยกมือขึ้นสัมผัสหน้าท้องแบนราบของตนเอง พลางพูดขึ้นช้า ๆ "คืนนี้หม่อมฉันแอบไปที่ครัวเพื่อหาอาหาร แต่ในนั้นไม่มีข้าวเหลืออยู่ในหม้อแม้แต่เมล็ดเดียว หม่อมฉันไม่ได้ขโมยอะไรเลยนะเพคะ!"

"เรื่องก็มีเพียงเท่านี้ จำเป็นจะต้องระดมคนมาคาดคั้นหม่อมฉันด้วยหรือเพคะ?" นางเงยหน้าขึ้น และถามฟู่เฉินหวนกลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ

ทันทีที่นางพูดจบ ทุกคนต่างก็มองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ

ลั่วเยวี่ยอิงตัวแข็งขึ้นมาทันที

ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว และมองไปที่ลั่วชิงยวนด้วยสายตาเคร่งขรึม พูดปดได้อย่างธรรมชาติ หน้าไม่แดงเลยแม้แต่น้อย ผู้หญิงคนนี้ช่างเป็นคนขี้โกหกเสียจริง!

ขณะนั้นเอง ท้องของลั่วชิงยวนก็ร้องออกมาโครกคราก

ในคืนที่เงียบสงัด บรรยากาศยิ่งเคร่งเครียดขึ้นไปอีก... เส้นเลือดบนหน้าผากของฟู่เฉินหวนกระตุก

เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่กำลังอดทนต่อความหิวโหยของลั่วชิงยวน จึงอดคิดไม่ได้ว่าคนในตำหนักจะต้องไม่ได้ดูแลนางเป็นแน่ การจะได้ทานอาหารอาจเป็นเรื่องยากสำหรับนาง

"ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง ข้าร้อนเหลือเกิน..." เมิ่งจิ่นอวี่ซึ่งถูกห่อด้วยผ้านวมอยู่บนพื้น ยังคงดิ้นพล่านอย่างไม่รู้ตัว พลางร้องเรียกท่านอ๋องของนางด้วยน้ำเสียงกระเส่า ซึ่งทำให้ใบหน้าฟู่เฉินหวนอึมครึมมากขึ้น

“เซียวชู ปลุกนาง!” ฟู่เฉินหวนสั่งเสียงเย็น

จากนั้นร่างสีดำก็ถลาเข้ามาในลาน ก่อนที่คนคนนี้จะปรากฏตัว แทบไม่มีเสียงใด และไม่รู้เลยว่าเขาโผล่มาจากไหน เขามีท่าทางดุร้าย ทุกย่างก้าวบ่งบอกได้เลยว่า เขาคือปรมาจารย์

เซียวชูก้าวไปข้างหน้า บังคับจับข้อมือของเมิ่งจิ่นอวี่ โดยปราศจากความเห็นใจ จากนั้นหยิบยาเม็ดหนึ่งออกจากอก ก่อนจะป้อนมันให้กับเมิ่งจิ่นอวี่

น่าจะเป็นยาถอนพิษผงแห่งมหาสุข

เซียวชูน่าจะเป็นองครักษ์ส่วนตัวของฟู่เฉินหวน เขาเตรียมยาถอนพิษไว้ขนาดนี้ ฟู่เฉินหวนกลัวลั่วชิงยวนมอมยาเขาแค่ไหน?

หลังจากนั้น เมิ่งจิ่นอวี่ก็ตื่นขึ้นมา

เมื่อนางลืมตาขึ้น และมองเหตุการณ์ตรงหน้า ใบหน้าของนางก็ซีดลงด้วยความตกใจ และเมื่อรู้ตัวว่าเสื้อผ้าของตนหลุดลุ่ย นางก็กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง

“ข้า… ข้า… เหตุใดข้าถึงเป็นเช่นนี้? เป็นไปได้อย่างไร...” เมิ่งจิ่นอวี่ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น นี่ไม่ใช่ความฝัน นางรู้สึกลนลานสับสน

ฟู่เฉินหวนสายตาเคร่งขรึม และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เกิดอะไรขึ้นกันแน่? บอกความจริงมา"

เขายังคงไม่อยากเชื่อว่าทั้งหมดนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับลั่วชิงยวน

ถ้ามันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนางจริง ทำไมมันถึงเกิดขึ้นในห้องของนาง?

สติของเมิ่งจิ่นอวี่ยังคงไม่กลับมา นางมองไปที่ลั่วเยวี่ยอิงด้วยความงุนงง และใช้สายตาถามนางว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนที่นอนอยู่ตรงนี้ถึงเป็นนาง ไม่ใช่ลั่วชิงยวน!

ลั่วเยวี่ยอิงแอบขยิบตาส่งสัญญาณให้นางใส่ความลั่วชิงยวน

ในขณะนี้ลั่วชิงยวนยังคงนิ่งสงบ แต่นางมองเห็นการสบตาของทั้งสองคนอย่างชัดเจน และนางต้องการดูว่าคนกลุ่มนี้จะใส่ร้ายนางอย่างไร

เมิ่งจิ่นอวี่ทรุดตัวลง ทำใจไม่ได้ที่ตนเองสูญเสียความบริสุทธิ์ นางคิดว่าช่างอัปยศยิ่งนัก จนไม่อยากจะมีชีวิตต่อ แต่ถ้าจะต้องตาย นางก็จะลากลั่วชิงยวนนังผู้หญิงเลวคนนั้นไปตายด้วย!

นางชี้ไปที่ลั่วชิงยวนด้วยความโกรธ "นางเพคะ! นางเป็นคนทำหม่อมฉันเพคะ ท่านอ๋อง!"

“ท่านแม่อุส่าห์ทำการหมั้นหมายให้ข้าแล้ว แต่ตอนนี้ข้าจะแต่งงานได้อย่างไร… ตายไปเสียยังจะดีกว่า…” เมิ่งจิ่นอวี่ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล

ทันทีที่เมิ่งจิ่นอวี่พูดจบ ลั่วเยวี่ยอิงก็มองไปที่ลั่วชิงยวนด้วยความตกใจ "ท่านพี่ ท่าน... กลายเป็นคนที่โหดเหี้ยมขนาดนี้เลยหรือ?"

ใบหน้าเล็ก ๆ สีขาวของลั่วเยวี่ยอิงที่ดูตื่นตระหนกจนเกินเหตุ

ลั่วชิงยวนนึกขำในใจ นางขี้เกียจจะอธิบาย จึงมองตรงไปที่เมิ่งจิ่นอวี่ "เจ้าบอกว่าข้าทำร้ายเจ้ารึ เช่นนั้นก็แสดงหลักฐานออกมา!"

เมิ่งจิ่นอวี่มองไปที่คนรับใช้ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น และตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าพูดออกมาสิ ใครเป็นคนสั่งให้พวกเจ้าทำ!"

ฟู่เฉินหวนก็จ้องมองเช่นกัน

คนใช้หลายคนตัวสั่นเทาตอบ "พระ… พระชายาเป็นคนสั่งพวกกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ"

ทันทีที่คนใช้พูดจบ เมิ่งจิ่นอวี่ก็รีบวิ่งไปที่เท้าของฟู่เฉินหวน ราวกับได้รับหลักฐานชิ้นใหญ่ นางร้องไห้อย่างขมขื่น "ท่านอ๋อง! ท่านอ๋อง ท่านทรงได้ยินแล้วหรือไม่เพคะ! นางทำร้ายบ่าว! นางทำให้บ่าวเจ็บปวดยิ่งนัก! ...เพียงเพราะบ่าวแค่พูดว่านางคือกระต่ายหมายจันทร์ นางจึงเคียดแค้น และทำลายชีวิตบ่าว!"

คนรับใช้ทุกคนในลานต่างก็ได้ยินชื่อเสียงของลั่วชิงยวน บวกกับที่นางแต่งงานแทน ทุกคนจึงไม่ชอบหน้านาง และเมื่อเห็นสภาพที่น่าเวทนาของเมิ่งจิ่นอวี่ในตอนนี้ ก็ยิ่งรู้สึกสงสารนาง

“พระชายาผู้สูงศักดิ์ กระทำเรื่องเลวทรามต่ำช้าเช่นนี้ นางไม่สมควรจะเป็นพระชายาเลย!”

“นางเป็นตัวปลอมตั้งแต่แรก ใครจะไปยอมรับว่านางเป็นพระชายากัน น่ารังเกียจ!” เสียงแม่นมอาวุโสคุยกันอย่างเกรี้ยวกราด อยากจะขายลั่วชิงยวนทิ้งเสียให้รู้แล้วรู้รอด

เมื่อได้ยินข้อกล่าวหาของทุกคนที่มีต่อลั่วชิงยวน ทั้งตำหนักรวมถึงท่านอ๋อง ไม่มีใครยืนเคียงข้างลั่วชิงยวนเลยสักคนเดียว ถึงแม้นว่า เรื่องคืนนี้นางจะมิได้เป็นคนทำ แต่ก็คงยากที่จะเถียง จงเป็นแพะรับบาปและตายไปซะ!

นางเฝ้าดูการแสดงต่อไปด้วยสายตาที่เย็นชา

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1545

    ทั้งสองฝ่ายต่างชักกระบี่ออกมา จ้องมองหน้ากันด้วยความเป็นศัตรูลั่วชิงยวนเห็นว่าพวกเขากำลังจะต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งแม่ทัพคนต่อไปแต่นางไม่มีเวลาให้เสียไปอีกแล้ว“แม่ทัพจี้ ข้ามีธุระอื่น เรื่องที่นี่ข้าขอฝากท่านไว้ ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนถามจี้เฉียนตอบตกลงโดยมิลังเล “ไม่มีปัญหา!”จากนั้นลั่วชิงยวนก็พาโฉวสือชีและหุ่นเชิดสองตัวรีบออกจากจวนตระกูลฉีไปวังเหิงมองแผ่นหลังของลั่วชิงยวนที่ออกไปอย่างโกรธเคือง “จับตัวพวกนั้นมา! อย่าให้ออกไปได้!”ในขณะที่วังเหิงเงื้อกระบี่ฟาดฟัน จี้เฉียนก็รีบพุ่งเข้าไปขวางวังเหิงไว้ทั้งสองฝ่ายเข้าสู่การต่อสู้อย่างดุเดือดในทันทีส่วนพวกลั่วชิงยวนนั้นฉวยโอกาสช่วงชุลมุนหนีออกไปมิไกลนัก จูลั่วและสือโท่วกำลังพาคนมาสมทบสือโท่วถามด้วยความร้อนใจ “คุณหนูเล่า? คุณหนูใหญ่อยู่ที่ใด?”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “ฉีอวี้มิได้อยู่ที่นั่น”“ขบวนเจ้าสาวที่เราเห็นบนถนนก่อนหน้านี้น่าจะเป็นฉีอวี้!”การที่ใช้ฉีอวี้ข่มขู่ลั่วชิงยวนให้มาติดกับดักเป็นเพียงกลลวงเท่านั้นประการแรกคือ เพื่อถ่วงเวลา ประการที่สองคือ เพื่อสังหารลั่วชิงยวน“สือโท่ว เจ้าไปหาที่ปลอดภัย จัดการสองคนนี้ไว้ก่อน จำไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1544

    ลั่วชิงยวนจ้องมองนายท่านฉีด้วยสายตาคมกริบพลางกำกระบี่ในมือแน่น ในดวงตาฉายแววมุ่งสังหาร“จะรอดชีวิตไปได้หรือไม่มิใช่ท่านเป็นคนตัดสิน!”กล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็มองโฉวสือชี “ไปมัดสองคนนี้ไว้”“อย่าให้พวกเขาลุกขึ้นยืนได้”โฉวสือชีพยักหน้า เขารีบไปหาเชือกแล้วจับหุ่นเชิดสองตัวที่ยังดิ้นรนอยู่บนพื้นมัดไว้แน่นลั่วชิงยวนเงื้อกระบี่พุ่งเข้าใส่นายท่านฉีอย่างดุร้ายน่าเกรงขามนายท่านฉีรีบลงมือโต้กลับ เข้าต่อสู้กับลั่วชิงยวนขณะนั้นเอง เสียงฝีเท้าดุดันก็ดังมาจากภายนอกในวินาทีต่อมา จวนตระกูลฉีก็ถูกล้อมไว้ทั้งหมดประตูใหญ่ก็ถูกถีบเปิดออกโฉวสือชีเพิ่งมัดหุ่นเชิดทั้งสองเสร็จ เขาเงยหน้าขึ้นพร้อมกำกระบี่แน่นด้วยท่าทางตื่นตัวเห็นบุรุษสวมเกราะนำผู้คนเดินเข้ามาด้วยท่าทางดุดันนายท่านฉีปัดฝ่ามือของลั่วชิงยวนออก แล้วกล่าวอย่างสงบ “แม่ทัพจี้ ในที่สุดเจ้าก็มาถึงแล้ว”“ใครก็ได้ จับสตรีผู้นี้ให้ข้า!”นายท่านฉีออกคำสั่งทว่าแม่ทัพจี้กลับไพล่มือไว้ด้านหลังพลางยกยิ้มโดยมิได้สั่งการ ไม่มีผู้ใดสนใจนายท่านฉีเลย“จี้เฉียน! ลงมือสิ!” นายท่านฉีตวาดด้วยความโกรธทว่าจี้เฉียนกลับโบกมือ ทหารที่อยู่ด้านหลังก็วิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1543

    “เช่นนั้นฉีอวี้ก็ยังมีชีวิตอยู่!”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในใจพลันเกิดข้อสันนิษฐานหนึ่งขึ้นมาจากนั้นทั้งสองก็ลุกขึ้น รีบไปดูคนที่อยู่ในโลงศพในขณะที่เปิดโลงศพ ลั่วชิงยวนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเป็นบิดาของฉีอวี้ เจ้าเมืองฉีเพิ่งจะถอนหายใจอย่างโล่งอก จู่ ๆ คนในโลงศพก็ลืมตาขึ้นมา แล้วยื่นมือทั้งสองข้างออกมาบีบคอของลั่วชิงยวนทันใดนั้นก็พุ่งกระโดดออกมาจากโลงศพลั่วชิงยวนถูกบีบคอจนถอยกรูดออกไป ก่อนจะถูกอีกฝ่ายใช้แรงมหาศาลกระแทกเข้ากับกำแพงเต็มแรงเมื่อมองเจ้าเมืองฉีที่อยู่ตรงหน้า ปรากฏว่าดวงตาของเขาแดงก่ำขุ่นมัว เต็มไปด้วยโทสะ ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะโดยเฉพาะที่คอของเขา มีรอยเย็บปะติดปะต่อกัน แสดงว่าหัวนี้ถูกเย็บติดกลับไปเขามิใช่มนุษย์แล้วมือที่บีบคอของนางนั้นออกแรงมาก ลั่วชิงยวนใกล้จะหายใจมิออกแล้วส่วนโฉวสือชีก็ประสบสถานการณ์เดียวกัน บัดนี้ทั้งสองถูกบีบคอติดกำแพงจึงดิ้นมิหลุดในเวลานั้นเอง นายท่านฉีก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเขาเดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผยพร้อมกับหัวเราะเยาะ “ลั่วชิงยวน พวกเจ้ามิได้มาช่วยฉีอวี้หรอกรึ หากพวกเจ้ากล้าสังหารบิดามารดาของฉีอวี้ ข้าจะดูว่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1542

    ด้วยการปิดล้อมของผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ วันนี้ลั่วชิงยวนย่อมต้องตายเป็นแน่!ทว่าสิ่งที่นายท่านฉีและฮูหยินฉีคาดมิถึงคือ กระบี่เพลิงรักในมือของลั่วชิงยวนนั้นทรงพลังยิ่งนักเมื่อลูกธนูนับหมื่นพุ่งเข้ามา ลั่วชิงยวนก็กวาดกระบี่เพลิงรักในมือออกไปฟันลูกธนูนับมิถ้วนขาดสะบั้นทันใดปราณกระบี่สั่นสะเทือนทำให้ลูกธนูที่พุ่งมาสะท้อนกลับไปมีผู้คนล้มลงด้วยคมธนูในทุกทิศทางโฉวสือชีปกป้องฉีอวี้ไว้ทั้งกายเมื่อฮูหยินฉีเห็นภาพนั้นก็ตกใจมาก แล้วตวาดว่า “พวกไร้ค่า!”“นำธนูมา!”ฮูหยินฉีหยิบธนูขึ้นมา แล้วเล็งไปที่ลั่วชิงยวนทันใดนั้น ลูกธนูก็พุ่งเข้ามาโฉวสือชีอุทาน “ระวัง!”สายตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางหันกายวูบหนึ่ง คมธนูในดวงตาพลันขยายใหญ่ขึ้นนัยน์ตาของลั่วชิงยวนเย็นชา ร่างกายเปี่ยมจิตสังหาร ชักกระบี่ฟันออกไปอย่างแรงนางคว้าปลายคมธนูไว้ แล้วหันกายโยนกลับไป พลังโจมตีอันดุดันพุ่งตรงเข้าใส่ฮูหยินฉีฮูหยินฉีกำลังจะยิงลูกธนูดอกที่สอง แต่ถูกคมธนูที่หักแล้วปักเข้าที่ไหล่อย่างแรงร่างกายทรงตัวมิอยู่ พลันถอยหลังไปหลายก้าว“ฮูหยิน!” นายท่านฉีตกใจ รีบเข้าไปประคองฮูหยินฉี“ฆ่านาง! จัดการ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1541

    “หากมีคนฉลาดก็จะรู้เองว่าควรทำเช่นไร”ท้ายที่สุดแล้ว ฉีเฮ่าก็สิ้นชีพด้วยน้ำมือเฉินชี เหล่าแม่ทัพนายกองในค่ายทหารอวิ๋นโจวย่อมจ้องมองตำแหน่งแม่ทัพในเวลานี้ การเลือกข้างในยามนี้ย่อมส่งผลต่อชีวิตในภายหน้าของพวกเขาจูลั่วพลันเข้าใจ “ได้ ข้าจะไปบัดเดี๋ยวนี้”จากนั้นลั่วชิงยวนก็มองโฉวสือชี “เจ้าไปบุกเข้าตระกูลฉีกับข้า”“ให้สือโท่วคุมคนไปรอรับอยู่ด้านนอกตระกูลฉี”โฉวสือชีพยักหน้าจากนั้นลั่วชิงยวนก็มาถึงหน้าประตูใหญ่ของตระกูลฉีหน้าประตูใหญ่ที่ไร้ผู้คนกลับแฝงไว้ด้วยบรรยากาศที่เคร่งขรึมอย่างน่าประหลาดลั่วชิงยวนผลักประตูใหญ่เข้าไปทันทีในลานอันกว้างใหญ่มีโลงศพสองใบตั้งอยู่ บนโครงไม้มีสตรีผมเผ้ายุ่งเหยิงเปื้อนเลือดถูกมัดไว้ นางหมดสติไปแล้วบริเวณโดยรอบมีกองฟืนอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งทันทีที่ก้าวเข้าสู่ประตูใหญ่ ลมที่พัดเข้ามาก็แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายโหดเหี้ยมทั้งสองเดินเข้าไปทางประตูใหญ่ ในพริบตาเดียวประตูก็ปิดลงองครักษ์นับสิบชีวิตปรากฏตัวขึ้นจากทุกสารทิศ ล้อมพวกเขาไว้ในทันทีเบื้องหน้ามีชายหญิงวัยกลางคนแต่งกายหรูหราเดินเข้ามา ทั้งสองคือบิดามารดาของฉีเฮ่าดวงตาของพวกเขาที่มองลั่วชิงยวนน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1540

    “เจ้าอยู่ในตระกูลฉีนานเท่าใดแล้ว คุ้นเคยกับตำแหน่งที่ตั้งของตระกูลฉีหรือไม่?” ลั่วชิงยวนถามจูลั่วตอบว่า “คุ้นเคย”จากนั้นจูลั่วก็วาดแผนที่เมืองอวิ๋นโจวแบบง่าย ๆ และแผนที่ของจวนตระกูลฉีแบบละเอียด แล้วมอบให้ลั่วชิงยวนหลังจากลั่วชิงยวนจดจำแผนที่ได้แล้วก็มอบแผนที่ให้โฉวสือชี“วันพรุ่งเมื่อเข้าไปในเมืองอวิ๋นโจวแล้ว จงติดต่อคนของเราให้พร้อมก่อน สือโท่วเป็นคนในเมืองอวิ๋นโจว เขาย่อมคุ้นเคยกับที่นี่ ถึงเวลานั้นก็ให้เขาพลิกแพลงตามสถานการณ์”“ต้องช่วยฉีอวี้ออกมาให้ได้”โฉวสือชีพยักหน้าจากนั้นทั้งสามก็รอจนฟ้าสาง แล้วจึงตามขบวนคาราวานของเถ้าแก่จี้เข้าสู่เมืองอวิ๋นโจวคืนนั้นอวิ๋นเฟิงก็มิกลับมา การที่ฉีอวี้ถูกจับตัวไปย่อมเป็นฝีมือเขาแน่นอนคณะเดินทางเข้าสู่เมืองอวิ๋นโจวได้อย่างราบรื่นบนถนนคึกคักเป็นพิเศษ มีเสียงฆ้องกลองดังขึ้นและมีขบวนเจ้าสาวกำลังเดินสวนมาท่าทางโอ่อ่าสง่างาม ผู้คนตามท้องถนนต่างหลีกทางไปสองข้างกลีบดอกไม้ปลิวว่อนไปทั่วฟ้า ขบวนทั้งหมดมีคนนับร้อยเกี้ยวเจ้าสาวหรูหราอลังการ ผ้าคลุมหน้าประดับลูกปัดระยิบระยับแกว่งไกวส่งเสียงกังวานเพียงแต่มองเห็นเงาร่างในเกี้ยวได้มิชัดเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status