“หลีกไป! อย่าบีบให้ข้าต้องลงมือ!”ใบหน้าของเย่หรงมืดมนลง จากนั้นเขาก็ขยับนิ้วแล้วกระบี่ก็โผล่ออกมาจากฝักครึ่งหนึ่งเผยอวี้กับฉินซานเห็นท่ามิดี จึงล้อมเข้ามาด้วยกันเซียวหลินเทียนไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้โดยไม่มีเหตุผลแน่ หรือว่าเขาจะพบสิ่งผิดปกติอะไร?“อู่เถา บอกให้พี่ชายของเจ้าหลีกทางไปเสีย อย่าบังคับให้ข้าลงมือ!”หลิงอวี๋ก็เอ่ยออกมาอย่างเย็นชา “พวกเจ้าก็เคยเห็นวิชาพิษของข้าไปแล้ว หากมิอยากตายอยู่ในป่าลึกแห่งนี้ ก็อย่ามายั่วยุข้า!”“พี่ใหญ่…”เถาจื่อมิรู้จะทำอย่างไรกับสถานการณ์ที่เผชิญอยู่เช่นนี้ นางจึงมองไปทางเซียวหลินเทียนอย่างสงสัย“อาอวี๋!”เซียวหลินเทียนกำลังคิดจะเรียกชื่อของหลิงอวี๋ และเปิดเผยตัวตนของตนออกมาแต่ทันใดนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวุ่นวายดังมา ทั้งยังมีคนส่งเสียงร้องออกมาอีก “รีบหนีเร็วเข้า เสือโกรธแล้ว...”“โฮก… โฮก…”และแทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ก็ได้ยินเสียงคำรามของเสือดังมาหลายครั้ง ตามมาด้วยเสียงวุ่นวายที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ“เสือมาแล้ว!”“โฮก...”พวกคนที่กำลังเผชิญหน้ากันอยู่นั้น ได้ยินเสียงฝีเท้าจำนวนมากวิ่งเข้ามาทางนี้ พร้อมทั้งเสียงกรีดร้อง“ช่
“น้องหญิง เหตุใดมิวิ่งไปเล่า? เสือตามมาแล้ว!”ผู้รอบรู้วิ่งไปก็มองด้านหลังอย่างระแวงไป เขาหันกลับมาเห็นหลิงอวี๋ยืนนิ่งค้างอยู่ จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย“ไม่มีทางให้ไปแล้ว!”หลิงอวี๋ชี้ไปข้างหน้า แล้วจู่ ๆ ก็มีความคิดแวบเข้ามา จึงตะโกนออกไป “พี่ชาย ข้ามีวิธีแล้ว! รีบตามข้ามาเร็วเข้า!”“ท่านเห็นเถาวัลย์หลาย ๆ เส้นที่อยู่ตรงขอบหน้าผาหรือไม่? พวกเราล่อเสือไปที่ขอบหน้าผาแล้วกระโดดลงไป จากนั้นก็คว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้กันเถิด!”“เถาวัลย์เหล่านั้นแข็งแรงมาก จะต้องรองรับน้ำหนักของพวกเราไว้ได้อย่างแน่นอน!”หลิงอวี๋ยังพูดมิทันจบ เสือก็กระโจนเข้ามาแล้ว และลมที่มีกลิ่นคาวที่มันพามาด้วยก็ทำให้หลิงอวี๋อยากจะอาเจียนออกมาและในความตื่นตระหนกนั้น นางก็รีบกระโดดขึ้นแล้วพุ่งไปที่ขอบหน้าผาอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังห่างอยู่อีกหลายเมตรทีเดียว หลิงอวี๋ยังคงไปมิถึงที่ขอบหน้าผา แล้วเสือก็กระโจนเข้าใส่นาง มันอ้าปากที่เต็มไปด้วยเลือด แล้วกัดไปที่คอของหลิงอวี๋“น้องหญิง!”เมื่อผู้รอบรู้เห็นเช่นนั้นก็กรีดร้องออกมา แล้วเหวี่ยงกระบี่ไปที่เสือ เมื่อเสือรู้สึกถึงอันตราย มันจึงเบี่ยงหัวหนีไป ทำให้กระบี่ของผู้รอบรู้
“เสือมาแล้ว!”ในตอนที่เซียวหลินเทียนเห็นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยพร้อมด้วยคนที่กำลังวิ่งหนีเหล่านั้นมุ่งหน้ามา ที่มุมริมฝีปากของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มที่มีความหมายขึ้นมาทันทีก่อนหน้านี้ตนวางแผนให้หานอวี้ล่อลวงให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมา มิคาดคิดเลยว่าโอกาสจะเข้ามาหาถึงที่เช่นนี้เขามองหาทิศทางที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยวิ่งหนี แล้วก็วิ่งเข้าไปหานางมิรู้ว่าหลิงอวี๋วิ่งหนีไปที่ใดแล้ว ดังนั้นเขาขอจัดการกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก่อนแล้วค่อยไปตามหานางแล้วกันจ้าวหรุ่ยหรุ่ยวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนกโดยมิมองทาง แม้ว่านางจะรู้ตัวแล้วว่าเซียวหลินเทียนตามตนมา แต่ก็มิได้ระวังตัว คิดเพียงว่าอีกฝ่ายก็คงหนีเสืออยู่เหมือนกันด้วยจำนวนของเสือนั้นมีจำกัด เมื่อคนที่วิ่งหนีแยกทางกันออกเป็นหลายทาง จึงทำให้ความสนใจของเสือถูกแยกออกไปจ้าวหรุ่ยหรุ่ยวิ่งไปอีกสักพัก เมื่อนางมิได้ยินเสียงคำรามของเสือแล้ว นางจึงถอนหายใจโล่งอกไปได้นางพิงต้นไม้แล้วหายใจพลางหันกลับไปมองอย่างระมัดระวังบุรุษที่ตามตนมาเมื่อครู่ก็หายไปแล้วเช่นกัน เขาคงจะหนีไปทางอื่นแล้วจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมองไปรอบ ๆ พยายามแยกแยะทิศทางที่จะออกไปจากป่าทึบนี้แต่รอบ ๆ ล้วนเป็นต้นไม้ใหญ่ส
แต่มีหรือที่เซียวหลินเทียนจะหลงกลจ้าวหรุ่ยหรุ่ย เขาเข้าสนามรบตั้งแต่อายุยังน้อยมาก แล้วเขาจะมิเข้าใจวิธีการถามคำถามล่อศัตรูเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!“ดูป่าลึกแห่งนี้เถิด ข้างหน้าไม่มีหมู่บ้าน ข้างหลังก็ไม่มีร้านค้า คนที่ร่วมเดินทางมากับเจ้าก็ล้วนหนีไปกันหมดมิเหลือร่องรอยใด ๆ แล้ว!”“จ้าวหรุ่ยหรุ่ย เจ้าคิดว่าข้าจับเจ้าได้แล้ว ข้าจะปล่อยให้เจ้าหนีไปได้ง่าย ๆ รึ?”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเหยียดหยาม“การให้ข้าซักถามเจ้า มิสู้เจ้าสารภาพมาเองว่าเจ้าทำอะไรกับฮองเฮาของข้าไปบ้าง?”“หากเจ้ายอมรับสารภาพดี ๆ มิแน่ว่าข้าอาจเมตตาให้เจ้าตายแบบศพครบถ้วนก็ได้!”หัวใจของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจมดิ่งลงน้ำเสียงนี้ของเซียวหลินเทียนแสดงให้เห็นว่า เขามิคิดที่จะปล่อยตนไปแล้ว!เช่นนั้นหากตนเอ่ยออกไปก็ต้องตาย มิเอ่ยออกไปก็ต้องตายเช่นกัน แล้วเหตุใดตนจะต้องทำให้เซียวหลินเทียนสมปรารถนาด้วยเล่า!ทันทีที่มุมปากของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกระตุกขึ้นอย่างเย้ยหยัน เซียวหลินเทียนก็เห็นแล้ว“จ้าวหรุ่ยหรุ่ย เจ้ากำลังคิดว่าหากบอกก็ตาย มิบอกก็ตาย แล้วเหตุใดจะต้องบอกใช่หรือไม่?”เซียวหลินเทียนเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา “หากเจ้ามีความคิดเช่นนี้
ราวกับเป็นการพิสูจน์ว่าตนมิได้โกหก เซียวหลินเทียนยกมือขึ้น จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นเพียงแสงสะท้อนจากคมกริชเย็นเยียบวาบผ่านตรงหน้า แล้วใบหน้าก็รู้สึกเย็นขึ้นมาในทันที...กระทั่งเซียวหลินเทียนถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างเยาะเย้ย จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดบนใบหน้าขึ้นมา แล้วหยดเลือดนับมิถ้วนไหลลงมาตามแก้ม“เซียวหลินเทียน ท่านทำอะไรกับหม่อมฉัน?”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยตะโกนออกมาอย่างตื่นตระหนกใบหน้าของนาง?หรือว่าตนจะถูกเซียวหลินเทียนกรีดหน้านับครั้งมิถ้วน เช่นเดียวกับที่ตนทำกับหลิงอวี๋?“ก็ดังที่เจ้าทำกับอาอวี๋… หากเจ้ามิยอมบอกความจริง ก็อย่ามาหาว่าข้าไร้ความปรานี!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างดุร้าย “นี่เพิ่งเริ่มต้น หากเจ้ายังมิบอกความจริงอีก ข้าก็จะตัดเนื้อเจ้าเป็นชิ้น ๆ แล้วป้อนให้เจ้ากินไปเสีย!”เมื่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นความเกลียดชังเต็มเปี่ยมอยู่ในดวงตาของเซียวหลินเทียน ก็รู้ว่าวันนี้ตนมิสามารถหนีจากการทรมานของเขาไปได้แล้ว!หรือว่าวันนี้ตนจะต้องตายอยู่บนภูเขารกร้างแห่งนี้จริง ๆ?ไม่!นางมิยอม!“หม่อม… หม่อมทำอะไรผิด?”จู่ ๆ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ตะโกนขึ้นมา “เซียวหลินเทียน พวกท่านกำลังร
คำพูดนี้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เซียวหลินเทียนจึงเชื่อ“ป้าวซวนอยู่ที่ใด? หลิงอวี๋อยู่ที่ใด?”เซียวหลินเทียนซักถามออกไปจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมองเซียวหลินเทียนอย่างเย็นชา “ท่านคิดว่าหม่อมฉันจะบอกหรือ? ถึงอย่างไรก็ต้องตายอยู่แล้ว เช่นนั้นหากหม่อมฉันจะตายก็จะลากหลิงอวี๋ไปรับเคราะห์ด้วย!”“เซียวหลินเทียน หากท่านอยากให้หม่อมฉันบอกที่อยู่ของป้าวซวนกับหลิงอวี๋ ท่านก็ต้องรับปากว่าจะปล่อยหม่อมฉันไปเท่านั้น!”เซียวหลินเทียนจึงเอ่ยออกไปอย่างไร้ความปรานี “จ้าวหรุ่ยหรุ่ย เจ้าไม่มีพื้นที่ให้มาต่อรองกับข้าหรอกนะ!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงเอ่ยอย่างหนักแน่น “เพคะ ท่านสามารถทรมานหม่อมฉันได้ แต่หม่อมฉันจ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคงมีศักดิ์ศรี แม้ว่าท่านจะสังหารหม่อมฉัน ก็อย่าได้คิดว่าจะได้รับข่าวของพวกนางจากปากของหม่อมฉัน!”“เซียวหลินเทียน ทุกเวลาที่ท่านล่าช้าไป ก็หมายความว่าหลิงอวี๋จะยิ่งตกอยู่ในอันตราย!”“หลิงอวี๋สังหารเฉียวเค่อ ตระกูลเฉียวเกลียดนางถึงเพียงนั้น หากหลิงอวี๋ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของตระกูลเฉียวขึ้นมา พวกเขาจะต้องใช้วิธีที่โหดร้ายกว่าท่านหลายสิบเท่ามาจัดการนางอย่างแน่นอน!”“
“เซียวหลินเทียนอยู่ที่ภูเขาหมางหลิ่ง หลิงอวี๋ก็ด้วย รางวัลค่าหัวของพวกเขารวมกันเป็นสิบห้าล้าน ทุกคนรีบมาเร็วเข้า รีบมาจับพวกเขาเร็ว!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยค่อย ๆ หายใจดีขึ้นแล้ว จึงใช้กำลังภายในตะโกนออกไปอย่างบ้าคลั่งเมื่อครู่ตอนที่เซียวหลินเทียนบีบคอของนาง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้ถือโอกาสนั้นทำบางอย่างกับอาภรณ์ของเขา จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอยากใช้สิ่งนี้จับตัวเซียวหลินเทียน และกำจัดอันตรายที่คุกคามตนไปให้หมดสิ้นเสียผู้บำเพ็ญตนเหล่านั้นล้วนมีความสามารถในการได้ยินที่พิเศษกว่าคนทั่วไป และเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดนี้ ก็พากันไปทางจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจากทุกทิศทุกทางในทันทีแน่นอนว่าเซียวหลินเทียนเองก็ย่อมได้ยินคำพูดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเช่นกัน แล้วเขาก็ยิ้มอย่างเย็นชา เขารู้อยู่แล้วว่าสตรีผู้นี้เจ้าเล่ห์ แล้วก็เป็นดังที่คาดไว้มิมีผิด!เซียวหลินเทียนมิได้รีบร้อนที่จะออกไป หากเขาพุ่งออกไปเช่นนี้ในเวลานี้ ก็จะเป็นการบอกคนเหล่านั้น ว่าตนก็คือคนที่พวกเขาต้องการจับกุมมิใช่หรือ?เซียวหลินเทียนซ่อนตัวอยู่ด้านหลังต้นไม้ต้นหนึ่ง แล้วสวมหน้ากากผิวหนังมนุษย์อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมออก แล้วพุ่งขึ้นไปซ่อนตัวอยู่บนกิ่งไม้ส
เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินคำพูดของเถาจื่อ ก็ราวกับถูกฟ้าผ่าในทันทีคนที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยนำคนเหล่านั้นไปจับตัวคือเซียวหลินเทียน!แต่เถาจื่อกลับบอกว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยวางแผนทำร้ายพี่ใหญ่ของนาง!หากเป็นเช่นนี้ พี่ใหญ่ของเถาจื่อก็คือเซียวหลินเทียนหรือ?เซียวหลินเทียนคือศัตรูของตน!แต่เถาจื่อจะให้ตนไปช่วยพี่ใหญ่ของนาง?“พี่ใหญ่ของเจ้า… คือเซียวหลินเทียนหรือ? คนที่มหาปราชญ์เสนอรางวัลค่าหัวอย่างหนักนั่นหรือ?”หลิงอวี๋ตื่นเต้นจนตัวสั่น นี่นับว่าเป็นการย่ำจนรองเท้าเหล็กสึกมิพบพาน แต่ยามได้มากลับมิเสียเวลาเลยใช่หรือไม่?นางทุ่มเททุกอย่างในการตามหาเซียวหลินเทียน เพราะอยากจะแก้แค้นให้กับลูกชายของตน แต่เซียวหลินเทียนกลับเดินมาหาตนเสียเอง?“ศิษย์พี่หญิง เจ้าคงมิได้ต้องการเงินรางวัลสิบล้านเช่นกันหรอกใช่หรือไม่?”เมื่อเถาจื่อเห็นความตื่นเต้นของหลิงอวี๋ สายตาของนางก็เปลี่ยนไปเป็นเย็นชา แล้วจ้องมองหลิงอวี๋“ศิษย์พี่หญิง ข้าเคารพเจ้า ยอมมาขอให้เจ้าช่วยเหลือ เพราะข้าคิดว่าเจ้ามิได้เห็นแก่อำนาจและผลประโยชน์ดังเช่นคนพวกนั้น!”“ใช่แล้ว พี่ใหญ่ของข้าคือเซียวหลินเทียน และเขาก็เป็นจักรพรรดิของฉินตะวันตกด้วย! แต
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี