องค์ชายเว่ยสั่นขาพลางมองรองเท้าหุ้มข้อตนมีจุดสกปรกก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ทันใด“เป็นพวกเจ้าพูดเองหนา! ว่าทำอะไรย่อมได้! อย่าว่าตัวข้ากลั่นแกล้งพวกเจ้าแล้วกัน!”“เห็นหรือไม่ว่ารองเท้าตัวข้าสกปรก! มาช่วยข้าทำความสะอาดซิ!”เพื่อแสดงจิตใจซื่อสัตย์ ชิวเหวินซวงก้าวไปข้างหน้าทันทีแม้ลู่หนานจะรู้สึกว่ามิเหมาะก็ไม่ได้รั้งนางไว้หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ ถึงชิวเหวินซวงต้องขายหน้าก็มิคิดยั้งนางไว้เหมือนกันลู่หนานกับจ้าวซวนมองเรื่องที่ไร้ศักดิ์ศรีประเภทนี้ว่าทำไปแล้วจะได้อะไร!เมื่อองค์ชายเว่ยเห็นคนที่เดินมาแต่งตัวเป็นนางรับใช้ก็ยิ้มเยาะกล่าวว่า“ผู้ใดว่าให้เจ้ามา เจ้านับเป็นสิ่งของกระไร? ไสหัวไป…”“พระชายาอ๋องอี้ มิใช่เจ้าอ้อนวอนตัวข้ารึ? เจ้ามา!”“คุกเข่าช่วยตัวข้าถอดรองเท้าทำความสะอาดซะ แล้วข้าจะให้เจ้ายืมใช้มุกตะขาบฟ้า!”เมื่อคำพูดนี้เอ่ยออก หลิงอวี๋โกรธเกรี้ยวฉับพลันแค่จัดการสิ่งสกปรกบนรองเท้าก็รู้สึกอัปยศเกินพอแล้ว!องค์ชายเว่ยยังกล้าเพิ่มเงื่อนไขคุกเข่าด้วย นางไม่เห็นพ้องต่อความอัปยศอดสูเช่นนี้อันขาด!“พวกเรากลับ!”หลิงอวี๋ตะโกนดุเดือดหันหน้าหมายไปชิวเหวินซวงกลับพูดประโยคหนึ่งอย่างใสซื่อ
จ้าวซวนตกใจกับคำพูดหลิงอวี๋ครู่หนึ่งแล้วถามฉงน“พระชายา ท่านรู้ว่าองค์ชายเว่ยไม่มีมุกตะขาบฟ้าได้เช่นไร?”หลิงอวี๋หัวเราะเย็นชา มองเย้ยองค์ชายเว่ยที่ท่าทีแข็งค้างในพริบตา“ข้อแรก พี่ใหญ่จ้าว เจ้ามิรู้สึกว่าบังเอิญเกินไปรึ? พวกเราเพิ่งตามหามุกตะขาบฟ้าแล้วก็มีคนพูดทันทีว่าองค์ชายเว่ยมี!”“นี่มิใช่องค์ชายเว่ยวางอุบายล่อพวกเราเข้าเรือนหรือไร?”“เขาหมายให้เรายอมทำทุกอย่างเพื่อขอมุกตะขาบฟ้าจึงวางหลุมพรางนี้!”หลิงอวี๋ปรายจ้องหานหลินเหี้ยม สมองหมู ๆ ขององค์ชายเว่ยคงคิดแผนแยบยลแบบนี้มิได้ เป็นหานหลินคิดแผนนี้แน่ ๆ!นางจะจำบัญชีนี้ไว้!หานหลินผู้นี้ทำนางเลือดขึ้นหน้าได้จริง!นางจะให้เขาต้องชดใช้แน่!หลิงอวี๋จ้องหานหลินจนรู้สึกขนลุกขนชัน สายตาสตรีผู้นี้ดุดันเกินไป รัศมีข่มขวัญทำคนกดดันล้นหลาม!“ข้อสอง นั่นคือหลักฐานที่หักล้างมิได้…”หลิงอวี๋หัวร่อเยาะเอ่ยว่า “จักเป็นนักต้มตุ๋นก็เป็นให้มืออาชีพหน่อย! แม้แต่มุกตะขาบฟ้าคืออันใดก็มิเข้าใจ จักกล้าว่าตนมี!”หลิงอวี๋มองจ้าวซวนกับคนอื่น ๆ ที่ยังสีหน้าสับสนจึงกล่าวอย่างอดทน“ข้าบอกขอยืมใช้มุกตะขาบฟ้าถอนพิษให้ท่านอ๋องแล้วส่งคืนองค์ชายเว่ย!”
“เรื่องวันนี้จะปล่อยไปอย่างนี้มิได้!”พอกลับถึงตำหนักอ๋องอี้ จ้าวซวนก็เอ่ยฉุนเฉียว“องค์ชายเว่ยส่งมือสังหารลอบสังหารท่านอ๋อง และตอนนี้วางอุบายล่อเราให้ไปขายขี้หน้าอีก!”“เราต้องเข้าวังกราบทูลองค์จักรพรรดิให้ฝ่าบาทค้ำจุนแทนท่านอ๋อง!”หลิงอวี๋ขบคิดแก้แค้นสักพัก รู้สึกว่าการเข้าวังไม่มีอะไรน่าสนใจทุกสิ่งเกิดขึ้นที่ตำหนักองค์ชายเว่ย ไร้พยานคนนอกอยู่ในเหตุการณ์ องค์ชายเว่ยจึงเถียงข้าง ๆ คู ๆ ได้เต็มที่นางเอาเวลาที่เปิดศึกน้ำลายไปค้นคว้ายาพิษของเซียวหลิวจะดีกว่ายิ่งกว่านั้น นางส่งคนไปทูลในวังแล้ว ไทเฮากับจักรพรรดิต่างรู้เรื่องที่เซียวหลินเทียนถูกพิษ!หากพวกเขาช่วยได้ก็จะช่วยเป็นธรรมดา!แต่พวกเขาช่วยไม่ได้ นั่นก็ต้องพึ่งตัวเอง!“พี่ใหญ่ปี้กลับมาหรือยัง?”หลิงอวี๋ถามหลิงซินหลิงซินส่ายหน้า “ยังเจ้าค่ะ! ส่วนแม่นมลี่ผ่านมาเที่ยวหนึ่งกล่าวว่ามีเรื่องต้องคุยกับคุณหนู ให้คุณหนูกลับเรือนบุหงาสักเที่ยวเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋สับสนเล็กน้อย แม่นมลี่มาหาตนทำไม?นางสั่งหลิงซวนป้อนน้ำเซียวหลินเทียนแล้วไปเรือนบุหงาทันทีเมื่อเข้าเรือนก็เห็นแม่นมลี่กำลังกวาดถูลาน หลิงอวี๋เอ่ยถาม “แม่นม หลิงซินว่
เมื่อหานหลินเห็นพวกหลิงอวี๋ไปแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกทะแม่ง เขาจึงอดพูดมิได้“องค์ชาย เรื่องวันนี้แพร่ออกไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ! ว่าเราใช้ข่าวเท็จล่อพระชายาอ๋องอี้มาขายหน้า!”“หากพระชายาอ๋องอี้กลืนความอัปยศนี้มิได้ รุดไปทูลสถานการณ์ต่อหน้าไทเฮากับองค์จักรพรรดิจักไม่เอื้อผลต่อท่านนักหนาพ่ะย่ะค่ะ!”องค์ชายเว่ยหัวเราะเยาะ “ตัวข้าจักต้องกลัวสตรีแค่คนเดียวรึ? หากนางไปฟ้อง ข้าก็มีวิธีจัดการนาง!”หานหลินยังคงหวั่นวิตก ทันใดนั้นความคิดเฉียบแหลมจึงบังเกิดพลันกล่าวว่า“องค์ชาย มิเช่นนั้นท่านเข้าวังประเดี๋ยวนี้เถิดพ่ะย่ะค่ะ!”“เราทำพระชายาอ๋องอี้อัปยศมิได้ แต่อาจคุมตาเดินเบี้ยนางได้พ่ะย่ะค่ะ!”หานหลินกระซิบกระซาบใกล้ ๆ ข้างหูองค์ชายเว่ยพักหนึ่งองค์ชายเว่ยฟังแล้วตาเป็นประกาย พลันยิ้มเอ่ยว่า “ท่านหาน มุกนี้ของเจ้าปราดเปรื่องยิ่งนัก! ได้ ตัวข้าจะเข้าวังเดี๋ยวนี้แล!”องค์ชายเว่ยให้คนเตรียมรถม้า อารามไปพระราชวังจักรพรรดิกับฮองเฮากำลังพูดคุยเป็นเพื่อนไทเฮาในตำหนักไทเฮา เมื่อได้ยินว่าองค์ชายเว่ยมาไทเฮาก็นึกถึงเรื่องที่แม่นมเว่ยพูดกับตน“ให้เขาเข้ามาเถอะ!”องค์ชายเว่ยรีบเดินเข้ามาและน้อมคารวะไทเฮา
จักรพรรดิอู่อันเห็นองค์ชายเว่ยกังวลจนน้ำตาแทบตกจึงรู้ว่า องค์ชายเว่ยสิ้นหวังจากการถูกใส่ไคล้เป็นใครโดนบีบส่งของที่ตัวเองไม่มีแบบนี้มิร้อนใจสิแปลก!จักรพรรดิอู่อันพลันเอ่ยกริ้ว“พระชายาช่างไม่รู้จักฟังเหตุผลเสียเลย! แม้จะเป็นห่วงความปลอดภัยขององค์ชายสี่ก็มิควรฝืนใจคน!”“ได้ เรื่องนี้ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจักส่งคนไปช่วยเจ้าพูดให้กระจ่าง!”ไทเฮามองดวงตาแดงก่ำเนื่องร้อนใจขององค์ชายเว่ย ทั้งเห็นจักรพรรดิทรงกริ้ว หวั่นฝ่าบาทพาลใส่หลิงอวี๋จึงกล่าวปลอบ“เยี่ยนเอ๋อร์อย่ากังวล หากไม่มีมุกตะขาบฟ้าเราค่อยหาทางอื่นช่วยน้องเจ้าแล้วกัน!”“ฝ่าบาท พระชายาอ๋องอี้คงเป็นห่วงความปลอดภัยของอ๋องอี้เหมือนกัน จึงใจร้อนไป พวกเจ้าอย่าดุด่านางแรงเถิด!”“ไทเฮา เสด็จพ่อ กระหม่อมมิคิดหยุมหยิมกับสตรี! แม้พระชายาอ๋องอี้จักสับสน แต่ก็เป็นห่วงความปลอดภัยของน้องสี่ถึงหลงกลคนอื่นพ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมแค่แค้นคนที่ปล่อยข่าวโคมลอยพวกนั้นมีเจตนาที่ยากจักหยั่งรู้! เสี้ยมความสัมพันธ์ของกระหม่อมกับตำหนักอ๋องอี้พ่ะย่ะค่ะ!”องค์ชายเว่ยพูดด้วยสัจธรรม “เสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ เรื่องก่อนหน้าที่กระหม่อมแย่งฟื้นฟูย่านการค้ากับน้องสี่ เพ
“ฮ่าฮ่า…”ครั้นองค์ชายเว่ยกลับถึงตำหนักองค์ชายเว่ยก็อดหัวร่อครืนใหญ่มิได้“ท่านหาน กลยุทธ์ท่านปราดเปรื่องนัก!”“ตัวข้ามิเพียงทำพระชายาขายหน้าเท่านั้นองค์ชายรองยังเสียหน้าด้วย แถมได้โครงการฟื้นฟูย่านการค้ามาง่าย ๆ !”“รางวัล… ตัวข้าจะให้รางวัลท่านหนัก ๆ อย่างงาม!”หานหลินโค้งกายขอบพระคุณยิ้มตาหยี “ขอบพระทัยรางวัลจากองค์ชายพ่ะย่ะค่ะ! องค์ชาย นี่มิใช่ผลงานกระหม่อมทั้งหมดเป็นวาสนาขององค์ชายด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”องค์ชายเว่ยพึงพอใจต่อถ้อยคำนี้จนยิ้มไม่หุบหานหลินแอบถอนหายใจโล่งอก โชคดีที่ตัวเองมีญาณรู้ล่วงหน้า ชิงให้องค์ชายเว่ยไปพูดให้กระจ่างตัดหน้าพระชายาอ๋องอี้ไปฟ้องร้องด้วยแบบนี้หากพระชายาอ๋องอี้ไปฟ้องร้อง จักรพรรดิอู่อันจะสะเอียนเท่านั้นวาจาเหล่านั้นที่องค์ชายเว่ยพูดต่อฝ่าบาทล้วนเป็นหานหลินสอน มิเอ่ยถึงพระชายาอ๋องอี้อย่างไร้มารยาทสักประโยค แต่กลับเน้นความโอบอ้อมอารีขององค์ชายเว่ย และความผูกพันฉันพี่น้องอันลึกซึ้งหานหลินพอใจกับความอัจฉริยะของตนยิ่งเรื่ององค์ชายเว่ยได้รับโครงการฟื้นฟูย่านการค้าแพร่ถึงตำหนักอ๋องอี้เรียบร้อยจ้าวซวนโกรธจนคันฟันพลางอดบ่นกับหลิงอวี๋มิได้“พระชายา ท่
ครั้นหลิงอวี๋ได้ยินว่าชิวเหวินซวงอยากให้ชิวเฮ่ากลับมาหัวใจก็สั่นไหว!ชิวเหวินซวงรู้จักพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส!ฉวยตอนเซียวหลินเทียนมิได้สติจัดการให้ชิวเฮ่ากลับ…?แต่พอหลิงอวี๋คิดแบบนี้ก็ส่ายหน้า รู้สึกว่าความคิดนี้ของตัวเองใจแคบเกินไป!พ่อของชิวเหวินซวงสิ้นแล้วจะให้ชิวเฮ่ากลับมาพิธีศพก็ไม่ใช่เรื่องผิด!ชิวเหวินซวงร้องจนสองตาบวมแดง ดูแล้วก็มิใช่การเสแสร้งนางไม่อาจสงสัยเจตนาร้ายของชิวเหวินซวงได้แค่เพราะไม่ชอบ“ลู่หนาน ยามนี้กำลังคนของเรามิพอ เรียกเฉาอี้กับจูเผิงกลับมาช่วยด้วยเถิด!”เหตุการณ์ล้นหลามไม่จบทำจ้าวซวนดูแลไม่ทั่วถึง บวกกับครั้นที่เซียวหลินเทียนถูกลอบฆ่า องครักษ์ฉกาจหลายนายล้มตาย เขาจึงทำได้แค่ระดมกำลังคนหลิงอวี๋ไม่อยากสอดมือเรื่องของตำหนักอ๋องอี้มากนักจึงนิ่งเงียบเมื่อเห็นหลิงซวนมาหลิงอวี๋แค่สั่งหลิงซวนเอาตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึงมอบให้ชิวเหวินซวง ถือเป็นค่าเผากระดาษเงินกระดาษทองของบิดานางจากนั้นหลิงอวี๋ก็ทดลองต่อ นางเพาะเลี้ยงแบคทีเรียเลือดของเซียวหลินเทียน การทดลองหลายหนก่อนหน้าล้มเหลวหมด!หลิงอวี๋ถือหลอดทดลองตริตรองบางอย่างที่ตนเลินเล่อไปพอคิดไปครึ่งค่อนวันก็คิด
“แถมมีหลิงหลานใส่ไคล้ว่าข้าลอบคบชู้กับคน! ทว่าชิวเหวินซวงยังเก็บนางไว้ในตำหนัก!”“ชิวเหวินซวงต้องการสิ่งใด? นางรับใช้ที่ไม่มักใหญ่ใฝ่สูงจักวางแผนทำร้ายข้าแบบนี้หรือ?”จ้าวซวนใคร่ครวญตระหนักได้ว่าเขาไม่อยู่ตำหนักในครานั้นแต่หลังเหตุการณ์จบก็ได้ฟังเหล่าองครักษ์ของลู่หนานคุยเรื่องพวกนี้ จ้าวซวนก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลอยู่น้อย ๆ“พี่ใหญ่จ้าว ข้ามิได้ใส่ร้ายพวกเขาเพราะชิวเฮ่าตบข้า! ครานั้นพฤติกรรมพวกนั้นของชิวเฮ่าช่างมิรู้ผิดชอบชั่วดี!”เมื่อหลิงอวี๋ย้อนนึกถึงชิวเฮ่าเตะหลิงเยวี่ยอย่างโหดเหี้ยมก็เกลียดจนอยากกัดเป็นชิ้น“เด็กเล็กอย่างหลิงเยวี่ย หากเป็นเจ้ากับลู่หนานคงมิลงมือเหี้ยม! แต่หนึ่งบาทาของเขาเตะหลิงเยวี่ยนจนลมหายใจร่อแร่!”“และข้าพระชายาผู้ผ่าเผย ท่านอ๋องให้เขาสังหารข้า แต่เขากลับส่งข้าให้เจ้าปากเบี้ยวทำอัปยศ!”“จากนั้น พอตบอีกหนึ่งฝ่ามือก็ทำเส้นลมปราณหัวใจข้าแตกขาด!”“จากเหตุการณ์ไม่กี่เรื่องนี้ก็ดูออกได้ว่าชิวเฮ่ามิใช่ฝ่ายเดียวกับพวกเจ้า!”“แม้พวกเจ้าจักปกป้องผู้เป็นนาย แต่ก็คงมิทำเรื่องมิรู้ผิดชอบชั่วดี!”หลิงอวี๋ส่ายหน้า “ชิวเหวินซวงอาจมิอำมหิตเช่นชิวเฮ่า!”“แต่ในเมื่อนาง
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี