ดังนั้น แม้ว่าหลิงเสี่ยงจะมิได้อยู่ในเมืองหลวง แต่เขาก็รู้เรื่องที่หลิงอวี๋ให้กำเนิดลูกนอกสมรสแล้วถูกท่านอดีตเสนาบดีตัดขาดหลิงเสี่ยงโกรธหลิงอวี๋มาก ถึงกับมีความคิดว่าชีวิตนี้เขามิอยากกลับเมืองหลวงไปเจอน้องสาวผู้นี้อีกแล้ว!แต่ทุกเทศกาลในตอนที่อยู่เงียบ ๆ คนเดียวกลางคืนหลิงเสี่ยงนอนอยู่บนเตียงก็จะคิดถึงน้องสาวฝาแฝดผู้นี้แล้วก็ใจอ่อน!ตอนนั้นตนถูกหวางซือเลี้ยงผิด ๆ แล้วทำเรื่องโง่เขลาเหล่านั้นน้องสาวยังเด็ก ถูกหวางซือเลี้ยงดูผิด ๆ ก็ไปโทษน้องสาวมิได้หรอก!หลิงเสียงเซิงพ่อของเขามิสนใจพวกเขาพี่น้อง ท่านอดีตเสนาบดีก็อายุมากแล้ว หลิงเสี่ยงจะวางใจปล่อยน้องสาวไว้ในเมืองหลวงได้เยี่ยงไร!กระทั่งเรื่องที่ท่านอ๋องอี้เฆี่ยนตีหลิงอวี๋ห้าสิบไม้เพราะนางทำผิดไปถึงถึงหูของหลิงเสี่ยงหลิงเสี่ยงโกรธที่น้องสาวโง่เขลา แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของน้องสาวด้วยเสี่ยวหลิงหลิงเป็นสตรีบอบบาง นางจะทนการถูกเฆี่ยนตีห้าสิบไม้ได้หรือ?หลิงเสี่ยงอยากกลับบ้านมาก อยากจะรีบกลับเมืองหลวงแล้วพาน้องสาวของเขาออกไปด้วยเขายอมมิแต่งงานไปตลอดชีวิตแล้วเลี้ยงดูน้องสาวของเขา!เมื่อถูกข้าหลวงหยางขังไ
“ถอนกำลังเถิด!”หลิงอวี๋ตัดสินใจแล้ว เซียวหลินเทียนได้จัดเส้นทางหลบหนีไว้ให้พวกเขาแล้ว ขอเพียงพวกเขาถอนกำลังไปที่ภูเขาด้านหลัง ก็จะสามารถยึดพื้นที่ภูเขาด้านหลังไว้รอการสมทบจากเซียวหลินเทียนได้ท่านจินต้ารู้สึกว่าจะมีอันตรายจึงมาเตือนหลิงอวี๋ เมื่อเห็นหลิงอวี๋ทำการตัดสินใจแล้ว ก็เรียกพวกลู่หนานมาเตรียมพร้อมถอนกำลังทันทีลู่หนานได้ทำการจัดตั้งกลุ่มหัวกะทิตามแผนของเซียวหลินเทียน วางแผนบุกทะลวงรั้วกั้นทางตะวันตกของหมู่บ้านไปควบคุมพวกครอบครัวของหยางต้าหู่ก่อน จากนั้นก็อพยพไปที่ภูเขาด้านหลังเผยอวี้รู้แผนของหลิงอวี๋กับท่านจินต้าแล้ว เขามิสนว่าตนได้รับบาดเจ็บอยู่ รีบสวมชุดเกราะแล้วไปต่อสู้ในแนวหน้า“แม่ทัพเผย ท่านทนไหวหรือไม่?”หลิงหว่านมองเผยอวี้ที่หน้าซีดไร้สีเลือดอย่างเป็นห่วง พลางเอ่ยถามอย่างกังวล“ทนมิไหวก็ต้องทน หรือจะให้ข้าดูพวกเจ้าถูกคนของข้าหลวงหยางจับตัวไปเล่า?”เผยอวี้เอ่ยอย่างรำคาญ “เจ้ามิต้องเป็นห่วงข้าหรอก เจ้ารีบไปเก็บของกับพระชายาเถอะ รอข้าจัดการพวกหยางต้าหู่ก่อน พวกเจ้าก็รีบอพยพออกไปให้เร็วที่สุด!”ทางด้านหลิงอวี๋ ก็รีบเรียกพวกหมอเฝิงไปเก็บข้าวของหมอเฝิงยังคงคิดจะว
หยางต้าหู่สะดุ้งตื่นขึ้นจากการหลับใหล เผยอวี้พาคนบุกเข้าไปในเรือนใหญ่ตระกูลหยางแล้วพวกผู้คุ้มกันยังคงสู้กับคนของเผยอวี้อย่างหลังชนฝา แต่แม้ว่าผู้คุ้มกันเหล่านี้จะสู้ได้ แต่ก็เทียบมิได้กับกองกำลังหัวกะทิของเผยอวี้ไม่นานผู้คุ้มกันจำนวนมากก็ถูกจัดการไปหยางต้าหู่วิ่งออกมาอย่างรีบร้อนโดยมิได้สวมเสื้อผ้า เมื่อเห็นการต่อสู้ เขาก็อาศัยบารมีความเป็นข้าราชบริพาลของลูกชายเขาตะโกนใส่เผยอวี้“หยุด… พวกท่านทำอะไรกัน? ลูกชายข้าเป็นผู้ตรวจ ตัวข้าก็เป็นเจ้าหน้าที่ของราชสำนัก!”“พวกท่านทำเช่นนี้เป็นการประทุษร้ายครอบครัวเจ้าหน้าที่ของราชสำนัก ข้าจะฟ้องร้องพวกท่าน…”“เช่นนั้นก็รอเจ้าไปถึงเมืองหลวงให้ได้ก่อนค่อยว่ากันเถอะ!”เผยอวี้กำลังจะนำคนเข้าไปจับกุมหยางต้าหู่ แต่ทันทีเห็นว่าเขาติดกับ เขาก็รีบพุ่งเอาดาบไปจ่อที่คอของหยางต้าหู่อย่างมิเกรงใจ“เรื่องที่พวกเจ้าสมคบคิดกับแคว้นศัตรูถูกเปิดเผยแล้ว หยางต้าหู่ หากมิอยากตายก็บอกคนของเจ้าให้วางดาบลง!”หยางต้าหู่โกรธจนตัวสั่น “แม่ทัพ ท่านจะมาใส่ร้ายคนบริสุทธิ์ไม่ได้นะ! มาบอกว่าเราสมคบคิดกับแคว้นศัตรู ท่านมีหลักฐานหรือไม่?"“ท่านอ๋องอี้เล่า? ตระกูลหยางข
เรื่องที่องค์หญิงหกหักหลังฉินซาน แม้แต่เหอโปเองก็มิอยากจะเชื่อเช่นกันเขาส่งหลิงเสี่ยงไปแล้วตอนที่รีบกลับไปรับฉินซาน ก็ได้รู้ว่าฉินซานถูกจับแล้วเหอโปทั้งกังวลทั้งโกรธ พวกเขามีคนน้อย มิสามารถช่วยฉินซานจากน้ำมือของข้าหลวงหยางได้ จึงต้องรีบกลับมารายงานก่อนหลิงอวี๋รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติทันที แผนการของเซียวหลินเทียนคือให้ฉินซานยึดเว่ยโจวแล้วช่วยเหลือองค์หญิงหก มิให้นางถูกข้าหลวงหยางคุมตัวไว้แต่ยามนี้ มันผิดไปจากแผนของเซียวหลินเทียนแล้วฉินซานถูกจับตัวไปในน้ำมือของข้าหลวงหยาง นอกจากองค์หญิงหกแล้วยังเพิ่มมาอีกหนึ่งอุปสรรค เช่นนี้เซียวหลินเทียนกลับกลายเป็นผู้ถูกกระทำแล้วเซียวหลินเทียนใช้ข้ออ้างในการติดเชื้อโรคระบาด พาคนไปจับกุมแม่ทัพเซี่ยนานแล้ว มิรู้ว่าสถานการณ์ทางฝั่งเขาเป็นเช่นไรบ้าง!หลิงอวี๋สงบลงอย่างรวดเร็ว ทางด้านเจ่าจวงวิกฤติอยู่มาก นางต้องรีบหาทางจัดการแม้ว่าภูเขาด้านหลังจะสามารถต้านการโจมตีได้ แต่เมื่อเวลานานไปก็สามารถถูกโจมตีเข้ามาได้เช่นกัน“เหอโป ในบรรดาคนของเจ้ามีคนที่คุ้นเคยกับเว่ยโจวบ้างหรือไม่? ส่งคนสองคนไปรายงานท่านอ๋องอี้!”หลิงอวี๋สั่งเหอโปเอ่ยทันที “มี
หยางจื้อฟางยังมิทันได้พูดอะไร เซียวทงก็ทนมิไหว ก้าวไปตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว“ไอ้ทาสเลว… เรารู้แล้วว่าเสด็จพี่ของข้าติดโรคระบาด… แล้วหลิงอวี๋ก็สมรู้ร่วมคิดกับหลิงเสี่ยงพี่ชายของนางสมคบคิดกับแคว้นศัตรู นางอยากยึดอำนาจทางทหารในขณะที่เสด็จพี่ของข้าป่วย!"“พวกเจ้าอย่าไปหลงกลนาง รีบจับตัวหลิงอวี๋กับหลิงเสี่ยงเร็วเข้า! ข้าจะให้อภัยพวกเจ้าที่ถูกหลอก แล้วปล่อยผ่านความผิดของพวกเจ้าไป!”ลู่หนานจ้องมองเซียวทงด้วยความโกรธ พลางตะโกน “องค์หญิงหก คนที่ถูกหลอกคือองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ! หยางจื้อฟางสมรู้ร่วมคิดกับหยางต้าหู่ขายข้าวปลาอาหารกับเครื่องยาสมุนไพรให้กับฉีตะวันออก!”“เขาต่างหากที่เป็นคนสมคบคิดกับแคว้นศัตรู องค์หญิงอย่าได้ไปหลงกลเขา ให้คนขององค์หญิงจับหยางจื้อฟางไว้พ่ะย่ะค่ะ!”เซียวทงมิเชื่อ แล้วมองลู่หนานอย่างดูถูก พลางตะโกนออกไป “ทาสเยี่ยงเจ้า ถูกหลิงอวี๋ติดสินบนไว้ใช่หรือไม่?”“หรือว่าเจ้าเคยนอนกับหลิงอวี๋แล้ว? ถึงได้ช่วยนางอย่างสุดจิตสุดใจเช่นนี้!”“เสด็จพี่ของข้าเล่า? เหตุใดมิออกมา? เขาถูกพวกเจ้าฆ่าไปแล้วใช่หรือไม่?”เมื่อลู่หนานเห็นว่าเซียวทงยังหลงงมงายอยู่ก็พูดไม่ออก เขากัดฟันมองไปทางหลิ
ก่อนหน้านี้อู่เวยเคยถูกฉินซานดูถูกมาก่อน จึงมีความแค้นอยู่ในใจมาโดยตลอดตอนนี้เมื่อมีโอกาสได้แสดงอำนาจแล้ว จึงเข้าไปลากฉินซานลงจากรถม้าด้วยตัวเอง“หลิงอวี๋ เจ้าอยากช่วยฉินซานหรือไม่? หากอยากช่วยเจ้าก็เอาตัวออกมายอมให้จับเสียโดยดี…”เซียวทงชี้ไปที่ฉินซานอย่างภาคภูมิใจพลางตะโกน “หลิงอวี๋ นี่คือคนรักของเจ้าเชียวนะ หรือว่าเจ้าจะยอมปล่อยให้เขาทนทุกข์ทรมาน?”หลิงอวี๋เห็นฉินซานถูกอู่เวยกดให้คุกเข่าอยู่ที่พื้น นางก็รู้สึกใจเสียเซียวทงชอบฉินซานมิใช่หรือ?นางปฏิบัติต่อฉินซานเช่นนี้ มิกังวลหรือว่าฉินซานจะยิ่งห่างไกลจากนางมากขึ้นเรื่อย ๆ“เซียวทง อย่าได้หลงงมงายไปเลย! ข้าหลวงหยางกำลังใช้องค์หญิงอยู่ เขาทำผิดร้ายแรงเช่นนี้ จะปล่อยองค์หญิงไปได้เยี่ยงไร?”หลิงอวี๋ยังอยากให้โอกาสเซียวทง จึงเกลี้ยกล่อมอย่างอดทน “รีบให้คนขององค์หญิงจับข้าหลวงหยางแล้วปล่อยแม่ทัพฉินไปเสียเถิด!”เซียวทงถอนหายใจะลางก่นด่า "หลิงอวี๋ อย่าได้คิดจะโกหกข้า! เจ้าสมรู้ร่วมคิดกับฉินซาน คิดจะแปรพักตร์ไปเข้ากับฉีตะวันออก ข้าจะจับพวกเจ้าหั่นเป็นชิ้น ๆ แน่!”“รีบยอมให้จับแต่โดยดี มิเช่นนั้นข้าจะฆ่าฉินซาน!”ข้าหลวงหยางอยู่ด้
“หากเจ้ากล้าฟังนาง...”ก่อนที่ฉินซานจะพูดจบ หลิวฮุยก็ตบหน้าฉินซานอย่างแรง จนฟันของฉินซานโยก และปากเต็มไปด้วยเลือดฉินซานกัดฟันกับกลืนเลือดลงไป เขาไม่มีทางแสดงความอ่อนแอกับหลิวฮุยต่อหน้าทหารของตนเด็ดขาด...ชุยหรงเห็นเข้าก็ตกใจ เขารู้วรยุทธ และมองออกถึงความรุนแรงที่หลิวฮุยทำกับฉินซานแต่เขาก็เข้าใจฉินซานด้วย ที่ฉินซานอดทนอยู่เช่นนี้ ก็เพื่อจะมิให้พวกเขาเป็นห่วง“ฉินรั่วซือ เจ้าอยากจะช่วยฉินซานหรือไม่ หากมิช่วยพวกเราจะลงมือแล้วนะ?”เซียวทงแสร้งมิเห็นการทำร้ายฉินซาน แล้วตะโกนใส่ฉินรั่วซือฉินรั่วซือจึงตะโกนใส่หลิงอวี๋ด้วยความโกรธ “พระชายาอ๋องอี้ สิ่งที่พวกเขาต้องการคือให้ท่านยอมจำนนแต่โดยดี ท่านก็เห็นแล้วว่าพี่ชายของข้าถูกทุบตีจนเป็นเช่นนี้ ท่านออกไปยอมแพ้มิได้หรือ?"“บังอาจ! เจ้าคิดว่าเป็นใครกัน? ถึงกล้ามาพูดกับคุณหนูของข้าเช่นนี้!”เถาจื่อเฝ้าอยู่ข้าง ๆ หลิงอวี๋ พอได้ยินคำพูดของฉินรั่วซือก็โกรธขึ้นมาทันที พลางตะคอก “มันใช่เรื่องที่จะออกไปยอมแพ้แล้วแก้ไขปัญหาได้หรือ?”“คนโง่เง่า เจ้ามิคาดคิดบ้างหรือว่าถึงแม้คุณหนูของข้าจะออกไป เมื่อทุกอย่างถูกเปิดเผย แล้วพวกเขาจะปล่อยพวกเราทุกคน
หลิวฮุยถูกตบยังมิหายโกรธ จึงเตะที่ท้ององค์หญิงหกไปอีกหลังจากเตะนางลงไปที่พื้นแล้ว เขาก็หันไปมองหลิงอวี๋พลางเอ่ยอย่างดุร้าย“หลิงอวี๋… ฉินซานกับองค์หญิงหกอยู่ในมือของเราแล้ว หากเจ้ายังมิยอมให้จับแต่โดยดี ข้าจะสับพวกเขาเป็นชิ้น ๆ ต่อหน้าเจ้า!”เซียวทงตะลึง พอตั้งสติได้ก็ตะโกนด้วยความโกรธ “อู่เวย ฆ่าเขาเสีย!”“เดรัจฉานผู้นี้กล้าตีข้า ข้าต้องการให้มันตาย!”อู่เวยเห็นการกระทำของหลิวฮุยก็ตกใจ ขณะที่เขากำลังจะชักดาบออกมา ผู้คุ้มกันหลายนายที่ข้าหลวงหยางพามาก็เอาดาบมาจ่อที่คอของเขาแล้วอู่เวยตะลึงนิ่งค้างไปทันใดมิกล้าขยับตัวเซียวทงตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วมองไปทางข้าหลวงหยาง แล้วก็เห็นข้าหลวงหยางมองตนอย่างเย็นชาเหงื่อเย็นผุดออกมาบนหลังของเซียวทงทันที นางเอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ“ขะ… ข้าหลวงหยาง พวกเจ้าคิดทำสิ่งใด?”“ทำสิ่งใด? ข้าคาดหวังให้เจ้ายึดอำนาจทางการทหารของท่านอ๋องอี้! แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าเจ้าเป็นขยะที่ไร้ประโยชน์! แม้แต่พระชายาอ๋องอี้เจ้ายังจัดการมิได้ ข้าเก็บเจ้าไว้จะมีประโยชน์อันใดเล่า!”ข้าหลวงหยางยิ้มอย่างเย็นชาเสียน้ำลายคุยไปมากมาย เสียเวลาไปก็มิน้อย เขาไม่มีเวลามาพู
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี
ชีวิตนี้หาสหายรู้ใจได้ยากนัก!หลงเพ่ยเพ่ยยิ้ม นางก็รู้สึกว่าตนกับเย่หรงพูดคุยสื่อสารกันง่ายเช่นกันเย่หรงฉลาด ที่สำคัญที่สุดคือมิใช่บุรุษประเภทหัวโบราณคร่ำครึ มิเหมือนพวกพี่สามที่เอะอะก็วางตนเป็นผู้ใหญ่สั่งสอนนางเฮ้อ หากสามีในอนาคตของนางสามารถพูดคุยกันได้เหมือนเย่หรง เช่นนั้นสามีภรรยาจะมิรักใคร่กลมเกลียวกันมากหรอกหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยคิดแล้วพลันหน้าแดงเรื่อ นี่นางกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่!“พวกเรามาคิดกันก่อนดีกว่าว่าอีกประเดี๋ยวหากพบเสด็จย่าแล้วจะทำอย่างไรดี!”หลงเพ่ยเพ่ยมิกล้าคิดฟุ้งซ่านต่อไป รีบเปลี่ยนเรื่องคุย“ท่านกังวลว่าท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นจะก่อกวนหรือ?”เย่หรงก็ดึงความคิดกลับมา พวกเขาใกล้จะถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต้องคิดหาข้ออ้างให้ดี“อืม ท่านหญิงชิงเฉิงมิใช่คนประเภทที่จะเจรจาด้วยง่าย ๆ ท่านหญิงอวิ๋นยังพอคุยง่ายอยู่บ้าง แต่ในเมื่อพวกนางรับคำสั่งจากชายาเจ้าแห่งทะเลมาเพื่อถ่วงเวลาเสด็จย่า ย่อมมิยอมให้ข้าบรรลุเป้าหมายแน่!”หลงเพ่ยเพ่ยเผยสีหน้าอมทุกข์เย่หรงพลันนึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับท่านหญิงอวิ๋นขึ้นมา แม้ท่านหญิงอวิ๋นจะเป็นธิดาแท้ ๆ ของชายาเจ้าแห่งทะเล แต่ช่วงห
“โอ้ ใต้หล้านั้นแตกต่างจากใต้หล้าของพวกเราหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยถูกเย่หรงกระตุ้นความอยากรู้ จึงจ้องมองพลางถาม“อืม บ้านเรือนที่นั่นสูงเท่าภูเขา สูงที่สุดอาจถึงร้อยชั้นได้ ทั้งยังมีรถมากมายที่มิต้องใช้ม้าลาก วิ่งได้เร็วมาก!”เย่หรงเล่าให้หลงเพ่ยเพ่ยฟังไปเรื่อย ๆเมื่อพูดถึงเครื่องบินก็ทำให้หลงเพ่ยเพ่ยเบิกตากว้าง นางมองเย่หรงอย่างงง ๆ “เจ้าโกหกกระมัง จะมีเครื่องมือที่สามารถบรรทุกคนขึ้นไปบนฟ้าได้อย่างไร!”“มีจริง ๆ ข้ามิได้โกหกท่าน พี่หญิงหลิงหลิงจำได้มากกว่าข้าเสียอีก รอมีโอกาสให้นางเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็จะเชื่อว่าข้ามิได้โกหกท่าน!”เย่หรงเริ่มตื่นเต้น “ท่านหญิง ท่านปู่มิได้บอกหรือว่าคันฉ่องคุนหลุนของตงกู่อวี้สามารถพลิกฟ้าคว่ำปฐพีได้?”“หากพวกเราได้คันฉ่องคุนหลุนมา มิต้องรอเวียนว่ายตายเกิด ข้าจะพาท่านไปดูใต้หล้านั้น! ท่านจะต้องชอบใต้หล้านั้นอย่างแน่นอน!”เย่หรงพูดจนหลงเพ่ยเพ่ยใจเต้นระรัว นางกล่าวออกไปโดยมิต้องคิด “ได้ เช่นนั้นรอพวกเราช่วยแดนเทพผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ พวกเราหาคันฉ่องคุนหลุนเจอแล้วก็ไปด้วยกัน ไปดูใต้หล้าที่เจ้าพูดถึงกัน!”“ตกลงตามนี้!”เย่หรงยกมือขึ้น หลงเพ่ยเพ่
คนหนึ่งคือคนที่ตนรัก อีกคนคือสหายที่ดีที่สุดของตน!แต่พวกเขากลับร่วมมือกันหลอกลวงตน!หยางหงหนิงหันหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง นางจะมิปล่อยชายชั่วหญิงโฉดคู่นี้ไปแน่!สิ่งที่นางมิได้มาครอบครอง ยอมทำลายทิ้งเสียดีกว่ายอมให้คนอื่นได้ไป!หยางหงหนิงกลับไปที่รถม้าของตน เค้นเสียงลอดไรฟันออกมาคำหนึ่ง “ไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์!”ด้านหน้า เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยต่างก็ร้อนใจดั่งไฟเผา ฮองเฮาเสด็จไปสองชั่วยามแล้ว พวกเขาจะตามทันพระนางหรือ?อีกทั้งต่อให้ตามทัน มีท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นอยู่ พวกนางต้องช่วยชายาเจ้าแห่งทะเลขัดขวางมิให้ฮองเฮาเรียกตัวหลิงอวี๋เข้าเฝ้าแน่“ท่านหญิง พวกเราจะไปทันหรือไม่? ชายาเจ้าแห่งทะเลจะลงมือกับพี่หญิงหลิงหลิงแล้วหรือไม่?”เย่หรงถามอย่างร้อนรนหลงเพ่ยเพ่ยก็ร้อนใจเช่นกัน หลิงอวี๋ยังรอให้นางช่วยชีวิตอยู่ แต่นางก็มิรู้ว่าจะสามารถทูลขอพระราชโองการจากฮองเฮาได้สำเร็จหรือไม่“พวกเราพยายามเต็มที่เถอะ! ขอเพียงตามเสด็จย่าทัน ต่อให้ข้าต้องคุกเข่าอ้อนวอนก็ต้องให้นางพาพี่หญิงหลิงหลิงออกมาให้ได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวปลอบใจเย่หรงเห็นหลงเพ่ยเพ่ยวิ่งวุ่นไปทั่วกับตนก็นับว่าพยายามเ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร