แชร์

ตอนที่8 เรื่องน่าเหลือเชื่อ

ผู้เขียน: ฉู่เฉียว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-18 03:22:09

"พี่รอง พี่ใหญ่กลับมาแล้วอย่างนั้นหรือ"

หลังจากที่พวกเขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่มีกลิ่นหอมสะอาดแตกต่างจากทุกวัน ก็ตรงมายังห้องครัวทันที ตั้งแต่เมื่อเช้าพวกเขาสองพี่น้องยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยด้วยซ้ำ นอกจากน้ำเปล่าที่กินประทังความหิว

แต่ทว่าเมื่อพวกเขาเปิดฝาครอบอาหารออก จากที่คิดว่าอาหารที่พี่สะใภ้เตรียมไว้คงเป็นเพียงข้าวต้มที่มีน้ำใสๆ กับเม็ดข้าวไม่กี่เม็ดและผักดองที่อีกฝ่ายกินเหลือ แต่ภาพอาหารตรงหน้าทำให้พวกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา

อาหารบนโต๊ะมันเกินกว่าที่พวกเขาคิดไปมาก เฉินซินยี่จึงได้ถามออกมาเช่นนั้น เพราะนั่นเป็นเพียงเหตุผลเดียวที่พอจะเป็นไปได้ แต่ตั้งแต่ที่พวกเขาเดินเข้าบ้านมาก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของผู้เป็นพี่ชาย และเฉินสือฮันก็เชื่อว่าหากพี่ชายกลับมาแล้วเห็นสภาพของทุกคนเป็นเช่นนี้ โจวซิ่วหลันคงไม่ได้เดินลอยหน้าลอยตาอยู่แบบนั้นแน่

เขาจึงส่ายหน้าเป็นคำตอบให้แก่น้องสาว เพราะเขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน จากนั้นจึงนั่งลงบอกให้ผู้เป็นน้องสาวลงมือกินข้าวเพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายนั้นหิวมากแล้ว

"กินเถอะ"

"กินได้จริงๆ หรือพี่รอง"

เฉินซินยี่ถามพี่ชายคนรองของตัวเองอย่างไม่แน่ใจ

อาหารตรงหน้าพวกเขาจะกินได้จริงๆ น่ะหรือ ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะหิวมากและอาหารพวกนี้ก็น่ากินเหลือเกิน ทั้งยังมีทั้งไข่และเนื้ออีกด้วย แต่เธอก็ไม่อยากถูกพี่สะใภ้ตีหรอกนะ 

"อืม เสี่ยวยี่ก็ได้ยินที่พี่สะใภ้บอกไม่ใช่หรือยังไง"

เฉินสือฮันเอ่ยให้น้องสาวมั่นใจ แล้วจึงตักไข่เจียวใส่ถ้วยที่เต็มไปด้วยเม็ดข้าวที่ถูกต้มจนนุ่มฟูของอีกฝ่าย พยักพเยิดให้เธอลงมือกินข้าว ส่วนเขาก็ลงมือกินทันที

เฉินซินยี่เห็นเช่นนั้นก็ไม่คิดสิ่งใดอีก จดจ่ออยู่แต่กับอาหารตรงหน้า เมื่อได้ตักเข้าปากในคำแรก เธอก็รู้สึกว่าเธอไม่สามารถหยุดกินได้อีกเลย

สองพี่น้องกินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อยและหิวโหย นานมากแล้วที่พวกเขาไม่ได้กินอาหารดีๆ แบบนี้ เผลอแป๊บเดียวอาหารทุกอย่างก็หมดลง ไม่เหลือแม้แต่ผักดองที่พวกเขาคิดว่ากินทุกวันจนรู้สึกเบื่อ

หลังจากกินเสร็จก็ช่วยกันเก็บจานชามทั้งหมดไปล้าง และเช็ดทำความสะอาดโต๊ะ ภายในใจของเด็กทั้งสองล้วนเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้และมีคำถามมากมาย เมื่อทำทุกอย่างจนเรียบร้อยดีแล้ว จึงรีบเดินเข้าไปหาผู้เป็นแม่ที่น่าจะตื่นนอนแล้ว ท่านเป็นเพียงคนเดียวที่น่าจะให้คำตอบพวกเขาได้ดีที่สุด

แต่แล้วความอยากรู้ทั้งหมดก็ถูกกลืนหายไป เมื่อเห็นว่าผู้เป็นแม่นั้นได้รับบาดเจ็บ

"แม่ครับเกิดอะไรขึ้น พี่สะใภ้เป็นคนทำอย่างนั้นหรือ"

เฉินสือฮันพุ่งตัวมาหาผู้เป็นแม่ในทันที ใบหน้าของเขานั้นบิดเบี้ยวเขียวคล้ำดวงตาแดงก่ำ เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายทำร้ายมารดาของตน

"อาฮัน เสี่ยวยี่"

แม่เฉินหันมามองลูกๆ ทั้งสองของนาง ก่อนจะยิ้มให้เด็กทั้งสองที่มองสำรวจร่างกายของนางด้วยดวงตาแดงก่ำ ฝ่ามือผอมบางยกขึ้นลูบศีรษะและใบหน้าของเด็กหญิงที่กำลังมองนางอย่างห่วงใย แล้วจึงได้เอ่ยแก้ไขความเข้าใจผิดของบุตรชายคนรอง

"ไม่ใช่ ซิ่วหลันไม่ได้ทำอะไรแม่"

แม่เฉินเอ่ยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าให้ลูกๆ ทั้งสองฟัง ทั้งบอกกับเด็กทั้งสองว่าไม่ต้องเป็นห่วงเพราะคุณหมอที่มารักษาบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแต่ว่าอย่าพึ่งเคลื่อนไหวร่างกายจนกว่าอาการบาดเจ็บจะหายดี และเอ่ยในสิ่งที่ทำให้เด็กทั้งสองแทบจะไม่เชื่อหูของตัวเอง

พี่สะใภ้ใจร้ายคนนั้นเป็นคนที่ช่วยเหลือมารดาและยังเป็นคนไปตามหมอมารักษา วันนี้ยังเป็นคนดูแลมารดาอีกด้วย

นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

แต่พวกเขาก็พึ่งจะพบเจอเรื่องน่าเหลือเชื่อเหล่านั้นมาไม่ใช่หรอกหรือ

"แม่คะ เกิดอะไรขึ้นกับพี่สะใภ้หรือคะ"

เฉินซินยี่เอ่ยถามมารดาอย่างไม่เข้าใจ ทั้งยังเล่าถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของพี่สะใภ้ อีกทั้งเรื่องที่เธอได้กินข้าวจนอิ่มท้องและไข่เจียวแสนอร่อย โดยมีผู้เป็นพี่ชายคอยพยักหน้ายืนยันในสิ่งที่เธอพูด

เฉินสือฮันยังเอ่ยถึงเรื่องที่ภายในบ้านถูกทำความสะอาด รวมถึงห้องนอนของพวกเขาด้วย ทั้งยังเรื่องการซักเสื้อผ้าเหล่านั้นอีก

"ซิ่วหลันคงไม่อยากเข้ามารบกวนแม่"

นั่นคือความน่าจะเป็นเมื่อเด็กๆ เอ่ยถึงเรื่องห้องนอนของนางว่าทำไมจึงยังคงอยู่ในสภาพเดิม

ถึงแม้ว่านั่นจะฟังดูสมเหตุสมผล แต่เฉินสือฮันยังคงหน้านิ่วคิ้วขมวด ผู้หญิงคนนั้นมีความเกรงอกเกรงใจคนอื่นที่ไหนกัน เมื่อครู่ไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายพึ่งจะยึดเอาปลาของเขาไปหรอกหรือ เป็นเพราะมารดาของเขาอยู่ในห้องต่างหาก ผู้หญิงคนนั้นเลยไม่กล้าเข้ามารื้อค้นสิ่งใด แต่หากว่าอีกฝ่ายต้องการจะเข้ามาจริงๆ ใครจะกล้าห้ามเธอกัน แต่เขาก็ยังคิดว่าผู้หญิงคนนั้นต้องคิดจะทำอะไรบางอย่างอยู่แน่

แต่จะทำอะไรล่ะ ห้องนอนของเขากับน้องสาวก็ไม่ได้มีอะไรสักหน่อย

เฉินสือฮันขบคิดอย่างปวดหัวก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างแรง

ไม่รู้ล่ะ ไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็ไม่มีทางไว้ใจผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นง่ายๆ อย่างแน่นอน

สามคนแม่ลูกต่างนั่งมองหน้ากันไปมาอย่างโง่งม ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อยู่ๆ คนคนหนึ่งก็เปลี่ยนไปมากมายถึงขนาดนี้

แม่เฉินมองดูลูกทั้งสองของตนอย่างไม่รู้ว่าจะเอ่ยสิ่งใดกับเรื่องนี้ดี ท่าทีของเฉินสือฮันล้วนอยู่ในสายตาของนาง

เฉินซินยี่นั้นช่างเถิด อีกฝ่ายรู้สึกยินดีมากเสียด้วยซ้ำ เอาแต่พูดว่า ดีจริงๆ เธออยากให้พี่สะใภ้เป็นแบบนี้ไปนานๆ

แต่เฉินสือฮันนี่สิที่น่าเป็นห่วง เหตุใดนางจะไม่รู้ว่าบุตรชายนั้นตั้งแง่กับพี่สะใภ้ของตัวเองขนาดไหน แต่จะโทษบุตรชายของนางก็ไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาฝ่ายนั้นก็ร้ายกาจมากมายเหลือเกิน แม้แต่ตัวนางเองก็ไม่ได้ไว้วางใจในตัวลูกสะใภ้มากนัก แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ

แม่เฉินจึงได้เอ่ยขึ้นกับลูกชายคนรอง

"เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรืออาฮัน"

เฉินสือฮันมองสบตาของมารดา เขาก็จนด้วยคำพูดจึงได้แต่พยักหน้ารับ

"ครับแม่"

เมื่อไม่รู้ว่าจะทำสิ่งใดได้ และไม่อาจหาคำตอบได้เช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับสะใภ้ของบ้าน เด็กทั้งสองจึงช่วยกันเก็บกวาดห้องนอนของผู้เป็นแม่ วันนี้พวกเขาได้กินอาหารอิ่มท้อง เรี่ยวแรงจึงมีเหลือเฟือ

ส่วนหญิงสาวที่ตกอยู่ในหัวข้อสนทนาและทำให้ผู้อื่นคิดไม่ตก กลับกำลังวุ่นวายอยู่กับการเตรียมอาหารสำหรับมื้อเย็นของวันนี้อย่างมีความสุข

ความจริงโจวซิ่วหลันนั้นชื่นชอบในการทำอาหารเป็นอย่างมาก ช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยเธอจึงสมัครเข้าไปเป็นผู้ช่วยแม่ครัวในร้านอาหารที่เปิดในช่วงค่ำ ได้ความรู้ในการทำอาหารมาไม่น้อย และเธอถือได้ว่ามีพรสวรรค์ในการทำอาหารเป็นอย่างมาก เพราะในช่วงหลังๆ เป็นเธอที่ทำอาหารให้ลูกค้าด้วยตัวเองจนลูกค้าหลายคนติดใจในรสมือต้องกลับมาอุดหนุนอีก

แต่หลังจากที่เรียนจบ ได้เข้าทำงานเป็นนักสาธารณสุขในสถานพยาบาล เธอก็ไม่ได้ทำในสิ่งที่ชอบอีก เพราะหน้าที่การงานรัดตัวจนแทบจะไม่มีเวลาให้กับตัวเองเลยด้วยซ้ำ

วันนี้ได้กลับมาทำในสิ่งที่ชอบ ไม่ต้องเครียดและกดดันตัวเองในแต่ละวัน ไม่ต้องใช้ชีวิตเร่งรีบเหมือนต้องแข่งกับเวลา มันเป็นความสุขที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในชีวิตก่อน เธอรู้สึกมีความสุขและสบายใจอย่างที่สุด

เพียงไม่นานกลิ่นหอมของอาหารก็ลอยตลบอบอวลไปทั่วทั้งบ้าน จนทำให้อีกสามชีวิตภายในบ้านพากันกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่อาจที่จะห้ามใจได้

"แม่คะ เราจะได้กินข้าวอีกหรือเปล่า"

เฉินซินยี่ที่ทนกับความหอมนั้นไม่ไหวจึงได้เอ่ยถามมารดา หากเป็นเช่นดังปกติพวกเขาจะได้กินอาหารแค่วันละมื้อเท่านั้น แต่ในเมื่อพี่สะใภ้ได้เปลี่ยนไปแล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะคาดหวัง

ในขณะที่แม่เฉินกระอักกระอ่วนใจ ไม่รู้ว่าจะตอบบุตรสาวเช่นไรดี เพราะนางก็ไม่รู้เช่นกัน เห็นบุตรสาวมีใบหน้าเศร้าหมองก็รู้สึกสงสารจับใจ

ส่วนเฉินสือฮันได้แต่โทษตัวเองที่ไม่อาจรักษาปลาเหล่านั้นเอาไว้ได้ แค่ได้กลิ่นเขาก็รู้ว่าอาหารเหล่านั้นทำมาจากปลาที่เขาเป็นคนหามา

ในตอนนั้นเองประตูห้องนอนของแม่เฉินก็ถูกเปิดออก

"คุณแม่คะ ได้เวลาทานข้าวทานยาแล้วค่ะ"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ย้อนเวลามาเปลี่ยนชะตารัก ยุค80   ตอนพิเศษ2

    เผลอแป๊บๆ ตอนนี้อายุครรภ์ของโจวซิ่วหลันก็ย่างเข้าเดือนที่เจ็ดแล้ว หน้าท้องของเธอยื่นออกมาราวกับลูกแตงโมลูกใหญ่และยังคงเป็นแม่เฉิน แม่สามีผู้แสนดีที่เป็นคนคอยดูแลเธออย่างใกล้ชิด ในตอนที่สามีของเธอออกไปทำงานหญิงสาวไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปทำงานอีกตั้งแต่ที่ตั้งครรภ์ แต่สามีก็หาคนที่ไว้ใจได้เข้ามาดูแลทุกอย่างให้เธอ ในทุกวันหยุดเขาก็จะเป็นคนพาเธอเข้าไปตรวจความเรียบร้อยด้วยตัวเอง"เสี่ยวหลันกินรังนกตุ๋นก่อนเร็วเข้า กำลังอุ่นได้ที่เลย"โจวซิ่วหลันวางมือจากการถักถุงเท้าคู่เล็กๆ สำหรับลูกที่กำลังจะเกิด เงยหน้าขึ้นมองแม่สามีที่ใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความเมตตา ความรัก และความห่วงใย กำลังเดินถือถ้วยรังนกตุ๋นมาวางลงบนโต๊ะตรงหน้าเธออีกฝ่ายมักจะหายาสมุนไพรบำรุงครรภ์และอาหารบำรุงดีๆ มาให้เธอเสมอ"ขอบคุณค่ะคุณแม่"โจวซิ่วหลันเอ่ยบอกด้วยความซาบซึ้งใจ ก่อนจะตักรังนกตุ๋นเข้าปากอย่างว่าง่าย"ลูกกำลังตั้งครรภ์ ต้องกินของดีๆ บำรุงร่างกายให้เยอะๆ นะรู้ไหม"แม่เฉินเอ่ยบอกอย่างเช่นทุกครั้ง พลางยกฝ่ามืออุ่นขึ้นลู

  • ย้อนเวลามาเปลี่ยนชะตารัก ยุค80   ตอนพิเศษ1

    หลังจากที่โจวซิ่วหลันบอกเรื่องการตั้งครรภ์ของเธอกับทุกคน เธอก็ได้รับการดูแลอย่างดีจากทุกคนในบ้าน ประคบประหงมราวกับไข่ในหิน ซึ่งเธอไม่ได้รู้สึกไม่ดีหรือรำคาญเลย แต่กลับรู้สึกดีมากๆ ที่ทุกคนคอยดูแลและอยู่เคียงข้างเฉิยซินยี่ถูกส่งตัวมาคอยดูแลเธออย่างใกล้ชิดอีกครั้งในเวลากลางคืน  พูดง่ายๆ ก็คือ เด็กหญิงถูกแม่สามีส่งตัวมาคอยจับตาดูผู้เป็นพี่ชาย "อาซวนลูกอย่าแม้แต่จะคิดที่จะรังแกเสี่ยวหลันเชียว"แม่เฉินขึงตาดุเอ่ยกับบุตรชาย เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้จักยับยั้งช่างใจเผลอรังแกภรรยาที่ยังท้องอ่อนๆลูกชายของนางไว้ใจได้เสียที่ไหน พออยู่ใกล้ภรรยาทีไร ไอ้ท่าทางสุขุมนุ่มลึก ไม่รู้ว่าอันตรธานหายไปไหนหมด"ผมรู้ครับแม่"เฉินห่าวซวนเอ่ยบอกมารดาเสียงอ่อย ใบหน้าเหงาหงอยเซื่องซึม การได้เป็นพ่อคนก็ดีใจอยู่หรอก แต่การห้ามไม่ให้เขาใกล้ชิดภรรยามันก็เป็นเรื่องที่เจ็บปวดใจมากเหมือนกันโจวซิ่วหลันอดที่จะหัวเราะท่าทางราวกับกล้ำกลืนฝืนทนของสามีที่มองเธอตาปรอยไม่ได้ พอเธอตั้งครรภ์สามีของเธอก็ถูกกันออกจากเธออีกครั้ง และครั้งนี้ก็ไม่มีข้ออ้างใดๆ

  • ย้อนเวลามาเปลี่ยนชะตารัก ยุค80   ตอนที่52 จบบริบูรณ์

    วันเวลาในช่วงนี้ของโจวซิ่วหลันนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว เผลอแป๊บเดียวก็ผ่านไปหนึ่งปีแล้วกับการเริ่มธุรกิจการผลิตผลิตภัณฑ์ทางด้านความงามของเธอ และนับว่าธุรกิจของเธอดำเนินไปได้ด้วยดี ตอนนี้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางและเป็นระบบระเบียบมากขึ้นตอนนี้เธอส่งสินค้าให้กับร้านของเจ๊หงส์และอีกหลายร้านค้าที่ติดต่อเข้ามา รวมไปถึงห้างสรรพสินค้าที่มีสินค้าของเธอจัดจำหน่าย ยอดสั่งซื้ออีกนับหมื่นๆ ชิ้นหลั่งไหลเข้ามาและผลิตส่งกันอย่างไม่หวาดไม่ไหว จากที่มีพนักงานหญิงเพียงสองคนตอนนี้เธอมีพนักงานอยู่ในความดูแลนับยี่สิบชีวิต และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้น เพราะยอดการสั่งซื้อยังเพิ่มมากขึ้นจนน่าตกใจ เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าได้ในจำนวนที่มากขึ้นและเพียงพอต่อความต้องการของตลาดอาคารที่ใช้ผลิตสินค้าจากอาคารสามชั้นสองคูหา ตอนนี้ก็ขยับขยายจนกลายเป็นโรงงานขนาดเล็ก มีเครื่องจักรเข้ามาช่วยในการผลิตธุรกิจของเธอนับได้ว่าเติบโตอย่างรวดเร็วส่วนหน้าที่การงานของเฉินห่าวซวนก็ดูจะลงตัว สามีของเธอเองก็ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานของเขาอะไรๆ ก็ดูเหมือนจะดีไปหมดและมีแนวโน้มว

  • ย้อนเวลามาเปลี่ยนชะตารัก ยุค80   ตอนที่51 ศึกชิงนาง

    ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอของคนในอ้อมแขนที่หลับสนิทไปแล้ว ทำให้คนที่ไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ระบายลมหายใจออกมาแผ่วเบาเฉินห่าวซวนกดปลายจมูกโด่งลงบนกลุ่มผมนุ่มหอมละมุนของภรรยาอย่างรู้สึกเหนื่อยอ่อน หวังให้กลิ่นหอมๆ นี้ขับกล่อมให้เขาหลับลงเสียที แต่เขาทำเช่นนี้มาเกือบชั่วโมงแล้วกลับไม่สามารถที่จะข่มตาให้หลับลงได้ และมันกลับยิ่งทำให้เขารู้สึกทรมานมากขึ้นชายหนุ่มกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ รู้สึกราวกับว่ามีอาหารอันโอชะที่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายวางอยู่ตรงหน้า แต่กลับไม่อาจที่จะกลืนกินได้ เขารู้สึกอึดอัดไปทั้งตัวจนแทบจะหายใจไม่ออก ภรรยาแสนสวยนอนหลับอยู่ในอ้อมแขนแท้ๆ แต่กลับไม่อาจทำอะไรได้ดั่งใจนี่มันเป็นการฆ่าเขาทางอ้อมชัดๆ ส่วนเจ้าลูกชายของเขาก็เอะอะแข็ง จูบก็แข็ง กอดก็แข็ง ขอแค่ได้อยู่ใกล้ แค่ได้กลิ่นภรรยาก็แข็งแล้วเฉินห่าวซวนพึ่งจะรู้ตัวว่าเขาทั้งหื่นและมีความต้องการที่มากมายก็ตอนนี้ แต่ความรู้สึกเหล่านั้นกลับเกิดขึ้นกับภรรยาเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น เขาไม่เคยคิดที่จะอยากแตะต้องหรืออยากจะใกล้ชิดกับผู้หญิงคนไหนเลยจริงๆเขาคงถูกภรรยาร่ายมนตร

  • ย้อนเวลามาเปลี่ยนชะตารัก ยุค80   ตอนที่50 หมั่นไส้คนคลั่งรัก

    เมื่อรถยนต์คันหรูแล่นเข้าจอดในบริเวณบ้าน เฉินห่าวซวนก็แทบจะกระโดดลงจากรถทันทีโดยไม่รอให้คนร่วมทางอย่างน้องๆ ทั้งสองคนลงมาก่อน ความคิดถึงที่ทับถมอยู่ในหัวใจของเขามาตลอดทั้งวันได้ระเบิดออกมาจนกลายเป็นแรงผลักดันให้เขาต้องรีบกลับบ้าน กลับไปหาภรรยาสุดที่รักให้เร็วที่สุดเขาคิดถึงภรรยาใจจะขาดอยู่แล้ว"กลับมาแล้วครับ"เฉินห่าวซวนเอ่ยทักทายมารดาที่เดินออกกำลังโดยการดูแลแปลงดอกไม้อยู่หน้าบ้าน ก่อนจะก้าวเท้าฉับๆ เข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว จนผู้เป็นแม่มองตามแทบไม่ทันแม่เฉินบ่นตามหลังลูกชายอุบอิบกับความเร่งรีบของอีกฝ่าย ละสายตาจากลูกชายคนโตก็หันไปมองลูกๆ อีกสองคนของนางที่กำลังมองตามพี่ชายด้วยใบหน้าเหลือเชื่อเช่นกัน นางได้แต่หัวเราะออกมา ก่อนจะหันมาดูแลดอกไม้ของนางต่อ ปล่อยให้หนุ่มๆ สาวๆ ได้ใช้เวลาด้วยกันสองพี่น้องที่เดินตามกันลงมาจากรถ ต่างก็หันมามองหน้ากันกับท่าทีของพี่ชายตัวเองที่กลายเป็นชายหนุ่มผู้คลั่งรัก ไม่สนใจน้องนุ่งไปเสียแล้วเฉินสือฮันกระตุกรอยยิ้มร้าย มองตามแผ่นหลังกว้างของพี่ชายที่เดินหายเข้าไปในบ้านดูท่าพี่ชายของเ

  • ย้อนเวลามาเปลี่ยนชะตารัก ยุค80   ตอนที่49 สอนสั่งลูกสะใภ้

    เฉินห่าวซวนกดปลายจมูกหอมแก้มนวลของภรรยาที่ไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัว ริมฝีปากหยักยกยิ้มขึ้นด้วยความเอ็นดู หลังจากที่เขากลืนกินภรรยาอีกครั้งจนอิ่มหนำสำราญ เขาก็ไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้อีก ได้แต่นอนมองใบหน้างามของภรรยาอยู่อย่างนั้นจะโทษเขาได้อย่างไรในเมื่อภรรยาของเขาน่ารักน่าปรารถนาถึงขนาดนี้ เป็นใครก็ไม่อาจที่จะอดใจได้ไหว และก่อนที่เขาจะกลายเป็นคนสารเลว ใจดำอำมหิต เพราะลงมือลักหลับภรรยา ชายหนุ่มจึงตัดใจลุกจากที่นอนเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้ภรรยาได้พักผ่อน วันนี้เห็นทีเขาคงต้องเป็นคนเข้าครัวด้วยตัวเอง เพราะแม่ครัวคนเก่งถูกเขาเคี่ยวกรำจนสลบไสลไปแล้วเสียงดังโครมคราม ควันไฟที่ลอยโขมง และกลิ่นเหม็นไหม้ฉุนกึกที่ตลบอบอวลอยู่ในห้องครัว ทำให้เฉินสือฮันที่ตื่นขึ้นมาดูแลแปลงผักเหมือนเช่นทุกวัน รีบสับฝีเท้าเข้าไปในครัว เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับพี่สะใภ้แต่คนที่ยืนอยู่หน้าเตาไฟกลับไม่ใช่คนที่เขาคิด"ทำอะไรครับพี่ใหญ่"เฉินสือฮันเอ่ยถามพี่ชายของตัวเองในทันทีด้วยความไม่แน่ใจ แม้ดูจากสภาพภายในครัวและสภาพน่าอนาถของพี่ชายแล้วก็พอจะเดาได้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status