ความมืดมิดปกคลุมไปทั่วทั้งโกดังร้างที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ กลิ่นอับชื้นของน้ำเน่าและสนิมที่กัดกร่อนแทรกซึมเข้ามาในโสตประสาทของ ณลิน ดวงตาของเธอกวาดมองไปทั่วบริเวณด้วยความหวาดกลัวแต่ก็แฝงด้วยความมุ่งมั่น มือและเท้าของเธอถูกมัดไว้ด้วยเชือกอย่างแน่นหนาจนรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่างกาย
"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะคิมหันต์! นายต้องการอะไร!?" ณลินตะโกนสุดเสียง แต่เสียงของเธอกลับสะท้อนก้องไปทั่วทั้งโกดังที่ว่างเปล่า
เสียงหัวเราะเยาะดังมาจากมุมหนึ่งของโกดัง คิมหันต์ เดินออกมาจากความมืดพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย "ฉันไม่ได้ต้องการอะไรจากเธอหรอกณลิน...ฉันแค่ต้องการให้เธอได้เห็นในสิ่งที่เธอกำลังจะสูญเสียไป"
คำพูดของคิมหันต์ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่เข้าใจว่าเขากำลังหมายถึงอะไร
"นายพูดอะไรของนาย? นายกำลังจะทำอะไร?" ณลินถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
"ฉันจะทำในสิ่งที่แกทำกับฉันไง!" คิมหันต์ตะโกนอย่างคลุ้มคลั่ง "แกกับไอ้ปอร์เช่มันแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน! บริษัทของฉัน...ชื่อเสียงของฉัน...และที่สำคัญที่สุด...แกก็แย่งความรักไปจากฉัน! ฉันจะทำให้แกได้เรียนรู้ว่า...การเล่นกับไฟ...มันอันตรายแค่ไหน!"
คิมหันต์เดินเข้ามาใกล้ณลิน แล้วก้มลงไปจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "ฉันจะทำให้แกต้องเจ็บปวด...เจ็บปวดมากกว่าที่ฉันเคยเจ็บปวด!"
ณลินพยายามที่จะสะบัดตัวหนี แต่เธอก็ไม่มีแรงพอที่จะทำเช่นนั้นได้เลย "คิมหันต์...นายทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร!? นายไม่ได้รักฉันจริงๆ หรอก! นายแค่ต้องการที่จะเอาชนะปอร์เช่!"
คำพูดของณลินเหมือนคมมีดที่กรีดแทงเข้ากลางใจของคิมหันต์ ความโกรธแค้นในใจของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรง
"โกหก! ฉันไม่ได้ต้องการที่จะเอาชนะใคร! ฉันแค่ต้องการความรักที่ฉันควรจะได้รับ! แต่แกกับไอ้ปอร์เช่มันก็มาแย่งไปจากฉัน!" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียง "แกคอยดูเถอะ...ฉันจะทำให้แกต้องเจ็บปวด...เจ็บปวดมากกว่าที่ฉันเคยเจ็บปวด!"
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ปอร์เช่ กำลังขับรถมาที่โกดังร้างตามที่คิมหันต์บอก เขาไม่สนใจว่าคิมหันต์จะวางแผนอะไรอยู่ เขาสนใจแค่ว่าณลินจะปลอดภัยหรือไม่เท่านั้น
"ริน...อดทนหน่อยนะ...ผมกำลังจะไปหาเธอแล้ว!" ปอร์เช่พึมพำกับตัวเองด้วยความร้อนรน
เมื่อปอร์เช่มาถึงโกดังร้าง เขาก็รีบวิ่งเข้าไปในโกดังทันที หัวใจของเขาเต้นรัวด้วยความกังวลและความกลัวว่าณลินจะเป็นอะไรไป ปอร์เช่กวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ และเขาก็เห็นณลินที่ถูกมัดไว้กับเสาต้นหนึ่งในมุมมืดของโกดัง
"ริน! ริน!" ปอร์เช่ตะโกนเรียกชื่อเธออย่างสุดเสียง
ณลินเงยหน้าขึ้นมามองปอร์เช่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง "ปอร์เช่...อย่าเข้ามา! มันกำลังรอคุณอยู่!"
คำพูดของณลินทำให้ปอร์เช่ถึงกับหยุดชะงัก เขามองไปรอบๆ ด้วยความระมัดระวัง แล้วเขาก็เห็นคิมหันต์เดินออกมาจากมุมหนึ่งของโกดัง
"ยินดีต้อนรับสู่กับดักของฉัน...ปอร์เช่..." คิมหันต์พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย "แกคิดว่าแกจะมาช่วยณลินได้ง่ายๆ งั้นเหรอ? แกคิดผิดแล้ว!"
คิมหันต์หยิบมีดพกออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขา แล้วจ่อไปที่คอของณลิน ปอร์เช่เห็นดังนั้นก็ถึงกับตกใจอย่างสุดขีด
"คิมหันต์! อย่าทำอะไรณลิน! แกต้องการอะไร!? บอกฉันมาเดี๋ยวนี้!" ปอร์เช่ตะโกนอย่างสุดเสียง
"ฉันไม่ได้ต้องการอะไรจากแกหรอก...ฉันแค่ต้องการให้แกได้เห็นในสิ่งที่แกกำลังจะสูญเสียไป" คิมหันต์พูดพร้อมกับหัวเราะในลำคอ
ในขณะนั้นเอง ปอร์เช่ก็ตัดสินใจที่จะพุ่งเข้าไปหาคิมหันต์ทันที เขาไม่สนใจว่าคิมหันต์จะทำอะไรกับเขา เขาสนใจแค่ว่าจะต้องช่วยณลินให้ได้เท่านั้น
การต่อสู้ที่ดุเดือดเริ่มต้นขึ้น ปอร์เช่และคิมหันต์ต่างชกต่อยกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ปอร์เช่ชกเข้าที่หน้าของคิมหันต์อย่างแรงจนคิมหันต์ล้มลงไปกับพื้น แต่คิมหันต์ก็ลุกขึ้นยืนได้อย่างรวดเร็ว แล้วใช้มีดพกที่อยู่ในมือแทงไปที่ท้องของปอร์เช่
ปอร์เช่ถึงกับทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นด้วยความเจ็บปวด ณลินเห็นดังนั้นก็ถึงกับร้องไห้ด้วยความตกใจและหวาดกลัว
"ปอร์เช่! ปอร์เช่!" ณลินตะโกนเรียกชื่อเขาด้วยความสิ้นหวัง
คิมหันต์เดินเข้ามาหาปอร์เช่ แล้วก้มลงไปจ้องมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสะใจ "เป็นไงล่ะ!? แกคิดว่าแกจะเก่งกว่าฉันงั้นเหรอ? แกคิดผิดแล้ว!"
ปอร์เช่พยายามที่จะลุกขึ้นยืน แต่เขาก็ไม่มีแรงพอที่จะทำเช่นนั้นได้เลย เขาพยายามที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย
ในขณะนั้นเอง ณลินก็ตัดสินใจที่จะรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายในชีวิต เธอใช้เชือกที่มัดมือเธออยู่ในการตัดเชือกที่มัดเธออยู่กับเสา แล้ววิ่งเข้าไปหาคิมหันต์ทันที
"คิมหันต์! แกต้องหยุดเดี๋ยวนี้นะ!" ณลินตะโกนอย่างสุดเสียง
คิมหันต์หันมามองณลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกใจ ณลินไม่รอช้าที่จะชกเข้าที่หน้าของคิมหันต์อย่างแรงจนคิมหันต์ล้มลงไปกับพื้น ณลินรีบเข้าไปหาปอร์เช่ แล้วแก้มัดที่มัดมือเขาอยู่ออกอย่างรวดเร็ว
"ปอร์เช่...ปอร์เช่...คุณเป็นยังไงบ้าง?" ณลินถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
ปอร์เช่พยายามที่จะยิ้มให้เธอ "ผมไม่เป็นไร...ริน..."
ในขณะนั้นเอง คิมหันต์ก็ลุกขึ้นยืน แล้ววิ่งหนีออกจากโกดังไปทันที ณลินและปอร์เช่มองหน้ากันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโล่งอก แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ปอร์เช่ทรุดตัวลงไปนอนกับพื้นด้วยความอ่อนล้า ณลินรีบเข้าไปกอดเขาไว้แน่น แล้วร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด
"ปอร์เช่...อดทนหน่อยนะ...เราจะไปโรงพยาบาลกันเถอะ" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
ปอร์เช่ส่ายหน้า "ไม่เป็นไรหรอก...ริน...ผมไม่เป็นไร"
ณลินไม่ฟังคำพูดของปอร์เช่ เธอรีบโทรศัพท์ไปหาตำรวจและรถพยาบาลทันที ณลินกอดปอร์เช่ไว้แน่นแล้วพยายามที่จะปลอบใจเขา
"ปอร์เช่...อดทนหน่อยนะ...คุณต้องไม่เป็นไรนะ...คุณต้องอยู่กับฉัน..." ณลินพึมพำด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือที่สุดในชีวิต
ปอร์เช่ยิ้มออกมา "ผมจะอยู่กับเธอเสมอ...ริน...ผมรักเธอ"
คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดและความรักที่เธอมีให้เขา
ข่าวการจับกุม คิมหันต์ และเครือข่ายมาเฟียที่นำโดย เฮียเกา แพร่สะพัดไปทั่วทั้งวงการธุรกิจและสังคมออนไลน์ราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ ทุกหน้าหนังสือพิมพ์และทุกสำนักข่าวต่างพาดหัวข่าวใหญ่ถึงจุดจบของชายผู้บ้าคลั่งที่พยายามทำร้าย ณลินและ ปอร์เช่ ณลินและปอร์เช่ที่ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ในบ้านของพวกเขามองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด ทั้งความโล่งอก ความดีใจ และความเศร้าในสิ่งที่เกิดขึ้น"ในที่สุด...เขาก็ได้รับผลกรรมในสิ่งที่เขาทำลงไปแล้วนะคะ" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือปอร์เช่กอดเธอไว้แน่น "ใช่ครับ...ริน...แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันจบลงแบบนี้เลย"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ ณลินมองไปที่ปอร์เช่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย "คุณรู้สึกสงสารเขาเหรอคะ?""ผมไม่ได้สงสารเขาหรอก...ผมแค่รู้สึกเสียใจ...เสียใจที่คนคนหนึ่ง...ต้องจมอยู่กับความแค้นและความอิจฉาริษยาจนชีวิตของเขาต้องพังทลายลงไปแบบนี้" ปอร์เช่พูดพร้อมกับมองไปที่ณลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยน "ริน...ผมไม่อยากให้เราเป็นเหมือนเขา...เรามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันนะครั
ควันไฟสีดำลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งโกดังร้างที่ตอนนี้กลายเป็นสนามรบไปแล้ว เสียงปืนและเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและร่างของลูกน้องที่นอนจมกองเลือด ปอร์เช่ ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น มือของเขากำปืนไว้แน่น ราวกับจะส่งความแค้นทั้งหมดไปที่ คิมหันต์ และ เฮียเกา"ปอร์เช่! แกยังไม่ตายงั้นเหรอ!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ผมไม่ได้ตายหรอกครับ...คุณคิมหันต์...ผมแค่แกล้งทำเป็นตาย...เพื่อที่จะได้ล่อให้แกออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้คิมหันต์ถึงกับอึ้งไป เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ปอร์เช่พูดเลยแม้แต่น้อย"โกหก! แกกำลังโกหกฉัน!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงในขณะนั้นเอง เฮียเกา ก็เดินเข้ามาหาปอร์เช่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "แกมันเลว! เลวที่สุด!"ปอร์เช่หัวเราะในลำคอ "ผมไม่ได้เลวหรอกครับ...เฮียเกา...ผมแค่ทำให้พวกคุณได้รับผลกรรมในสิ่งที่ทำลงไปเท่านั้นเอง"คำพูดของปอร์เช่ทำให้เฮียเกาถึงกับเงียบไป เขาไม่สามารถเถียงอะไรได้อีก เพราะสิ่งที่ปอร์เช่พูดคื
ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ ที่โรงพยาบาลจนอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว ในขณะที่ปอร์เช่กำลังวางแผนการที่ซับซ้อนเพื่อที่จะจัดการกับ คิมหันต์ และ เฮียเกา ให้สิ้นซากในค่ำคืนหนึ่ง ปอร์เช่ได้ให้ลูกน้องที่ปลอมตัวเป็นหมอพาเขาไปยังที่ซ่อนของพวกตัวร้าย ลูกน้องของปอร์เช่ได้สลับตัวเขาและปลอมตัวเป็นปอร์เช่ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างแนบเนียน ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้ปอร์เช่กำลังจะไปที่ไหนรถยนต์คันหรูของปอร์เช่ได้ขับมาจอดที่หน้าโกดังร้างแห่งหนึ่ง ชายในชุดสูทสีดำจำนวนหนึ่งได้เดินออกมาจากรถแล้วเปิดประตูรถให้ปอร์เช่ ปอร์เช่เดินออกมาจากรถด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น"แกแน่ใจนะว่าพวกมันอยู่ที่นี่?" ปอร์เช่ถามชายคนนั้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาที่สุดชายคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อย "แน่ใจครับ...บอส...พวกมันอยู่ที่นี่กันหมดเลย"ปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ดี...เราไปจัดการพวกมันกันเถอะ"ปอร์เช่และลูกน้องของเขาเดินเข้าไปในโกดังร้างแห่งนั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาเดินผ่านโกดังไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะไปที่ไหนในขณะเดียวกันนั้นเอง คิมหันต์ และ เฮียเกา กำลังนั่งดื่มเบียร
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธอรู้
เช้าวันรุ่งขึ้น ณลินตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของปอร์เช่ เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกได้ถึงความกังวลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในใจ ณลินเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่กำลังหลับอย่างสงบ เธอรู้สึกได้ถึงความรักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"คุณตื่นแล้วเหรอคะ?" ณลินถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมตื่นมานานแล้ว...ผมแค่อยากมองหน้าเธอในตอนที่เธอกำลังหลับ"ณลินกอดเขาไว้แน่น "ฉันมีความสุขมากเลยค่ะปอร์เช่""ผมเองก็มีความสุขมากเหมือนกันครับ...ริน" ปอร์เช่พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรัก "ริน...ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอ"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่ดี "เรื่องอะไรคะ?""ผมจะให้ลูกน้องของผมปล่อยข่าวออกไปว่าอาการของผมแย่ลง...และผมก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน" ปอร์เช่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง "ผมจะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้คิมหันต์กับเฮียเกาออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้ได้"ปอร์เช่! คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ! มันอันตรายเกินไป!" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ"ผมรู้ครับ..
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาตลอดทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธ