กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาตลอดทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว
"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขา
เมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น
"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรน
ปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"
คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"
ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"
ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยจากอ้อมกอดของเขา แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกได้ถึงความหวาดระแวงที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ณลินรู้ดีว่าคิมหันต์ไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ และแผนการของเขาก็อาจจะอันตรายกว่าที่พวกเขาคิดไว้
ในขณะนั้นเอง เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น พ่อของปอร์เช่ เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ดวงตาของเขากวาดมองไปที่ปอร์เช่ด้วยความตกใจและโกรธแค้น เมื่อเห็นรอยแผลที่เต็มไปทั่วทั้งร่างกายของปอร์เช่ พ่อของเขาก็กำมือแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน
"ใครทำแก...ปอร์เช่! บอกพ่อมาเดี๋ยวนี้!" พ่อของปอร์เช่พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือที่สุดในชีวิต
ปอร์เช่มองหน้าพ่อของเขาด้วยสายตาที่สงบ "พ่อครับ...ผมไม่เป็นไรแล้วครับ"
"ไม่เป็นไรได้ยังไง!? ดูสภาพของแกสิ! แกคิดว่าพ่อจะทนเห็นแกเป็นแบบนี้ได้งั้นเหรอ!?" พ่อของปอร์เช่ตะโกนอย่างสุดเสียง "บอกพ่อมาเดี๋ยวนี้...ว่าใครทำ!?"
ณลินเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปหาพ่อของปอร์เช่ "คุณลุงคะ...ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ...ปอร์เช่ปลอดภัยแล้วค่ะ"
แต่พ่อของปอร์เช่ก็ไม่ฟัง เขาหันมามองหน้าณลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย "เธอเป็นใคร? แล้วทำไมแกถึงมาอยู่กับปอร์เช่!?"
ปอร์เช่เห็นดังนั้นก็รีบพูดขึ้นทันที "พ่อครับ...รินเป็นคู่หมั้นของผมครับ...และเธอเป็นคนช่วยผมไว้"
คำพูดของปอร์เช่ทำให้พ่อของเขาถึงกับอึ้งไป เขาไม่คิดว่าลูกชายของเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับผู้หญิงคนนี้ พ่อของปอร์เช่กวาดสายตามองไปที่ณลินด้วยความไม่พอใจ
"แก...แกเป็นคนเดียวกับผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม?" พ่อของปอร์เช่ถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาที่สุด
ณลินพยักหน้าเล็กน้อย "ใช่ค่ะคุณลุง...แต่ฉันกับปอร์เช่ก็รักกันจริงๆ นะคะ"
คำพูดของณลินไม่ได้ทำให้พ่อของปอร์เช่รู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย "ความรักงั้นเหรอ? แกคิดว่าความรักมันจะเอามาทำอะไรได้!? ถ้าไม่ใช่เพราะแก...ปอร์เช่ก็คงไม่ต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้!"
"พ่อครับ! พ่อพูดอะไรของพ่อ!?" ปอร์เช่ตะโกนอย่างสุดเสียง "รินไม่ได้ผิดอะไรเลยนะครับ! คนที่ผิด...คือคิมหันต์!"
คำพูดของปอร์เช่ทำให้พ่อของเขาถึงกับเงียบไป เขาไม่คิดว่าลูกชายของเขาจะปกป้องผู้หญิงคนนี้มากขนาดนี้
"คิมหันต์งั้นเหรอ? แกหมายถึงไอ้คิมหันต์ที่ลักพาตัวณลินไปใช่ไหม?" พ่อของปอร์เช่ถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ปอร์เช่พยักหน้าเล็กน้อย "ใช่ครับ...และตอนนี้...เขาก็มีเฮียเกา...หัวหน้าแก๊งมาเฟียที่ทำธุรกิจผิดกฎหมายมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย"
คำพูดของปอร์เช่ทำให้พ่อของเขาถึงกับอึ้งไป เขาไม่คิดว่าเรื่องมันจะซับซ้อนขนาดนี้ พ่อของปอร์เช่กำมือแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน "แกไม่ต้องห่วง...พ่อจะจัดการมันเอง...พ่อจะทำให้มันได้เรียนรู้ว่า...การทำร้ายลูกชายของพ่อ...มันต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง!"
ปอร์เช่เห็นดังนั้นก็รีบจับแขนพ่อของเขาไว้แน่น "พ่อครับ...อย่าทำแบบนั้นเลยนะครับ...ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง"
"แกจะจัดการเองงั้นเหรอ!? แกจะจัดการยังไง!? ในสภาพแบบนี้เนี่ยนะ!?" พ่อของปอร์เช่ตะโกนอย่างคลุ้มคลั่ง
"ผมรู้ครับว่าผมจะทำยังไง...แต่ผมอยากจะให้พ่อเชื่อใจผมนะครับ" ปอร์เช่พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "ผมจะทำให้คิมหันต์...เฮียเกา...และพิม...ต้องได้รับผลกรรมในสิ่งที่พวกเขาทำลงไป...แต่ผมจะทำให้พวกเขาได้รับผลกรรมอย่างยุติธรรม...ไม่ใช้วิธีสกปรกเหมือนที่พวกเขาทำกับเรา"
คำพูดของปอร์เช่ทำให้พ่อของเขาถึงกับเงียบไป เขาไม่สามารถเถียงอะไรได้อีก เพราะเขารู้ดีว่าลูกชายของเขานั้นเป็นคนที่มีจิตใจที่ดีและรักความยุติธรรมมากแค่ไหน พ่อของปอร์เช่มองหน้าปอร์เช่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความภาคภูมิใจ
"ก็ได้...พ่อจะเชื่อใจแก...แต่ถ้าแกมีอะไรให้พ่อช่วย...แกต้องบอกพ่อทันทีนะ" พ่อของปอร์เช่พูดพร้อมกับตบบ่าเขาเบาๆ "และเธอ...ณลิน...ถ้าปอร์เช่เป็นอะไรไป...ฉันจะโทษเธอ!"
คำพูดของพ่อของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับหน้าซีดเผือดไปถนัดตา แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงแค่ก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด
หลังจากนั้นไม่นาน พ่อของปอร์เช่ก็เดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ณลินและปอร์เช่อยู่ด้วยกันสองคน ณลินหันไปมองปอร์เช่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า
"ปอร์เช่คะ...ฉันขอโทษ...ฉันขอโทษที่ทำให้คุณต้องมาเจอเรื่องแบบนี้" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ...ริน...เธอไม่ได้ผิดอะไรเลย...คนที่ผิด...คือผมเอง...ที่ปกป้องเธอไม่ได้"
คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับน้ำตาไหลอาบแก้ม "ปอร์เช่...อย่าพูดแบบนั้นเลยนะ...คุณปกป้องฉันได้ดีที่สุดแล้ว"
ปอร์เช่กอดเธอไว้แน่น "ผมรักเธอนะครับ...ริน...ผมรักเธอ"
ณลินยิ้มออกมา "ฉันก็รักคุณค่ะ...ปอร์เช่...ฉันรักคุณ"
ในขณะเดียวกันนั้นเอง คิมหันต์ กำลังนั่งอยู่กับ เฮียเกา ในที่แห่งหนึ่ง เฮียเกามองคิมหันต์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
"แกทำงานไม่ได้เรื่องเลย! แค่ไอ้ปอร์เช่มันคนเดียว...แกก็จัดการไม่ได้!" เฮียเกาพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน
คิมหันต์มองหน้าเฮียเกาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกลัว "ผมขอโทษครับ...แต่ผมไม่คิดว่ามันจะรอดได้"
"แกคิดผิดแล้ว! มันไม่ได้รอดได้ง่ายๆ หรอก...มันรอดได้...เพราะมันมีคนคอยช่วย...และคนๆ นั้น...ก็คือพ่อของมันเอง!" เฮียเกาพูดพร้อมกับหัวเราะในลำคอ "ตอนนี้...มันก็คงกำลังวางแผนที่จะแก้แค้นเราอยู่...เราต้องรีบจัดการมันก่อนที่มันจะมาจัดการเรา"
คำพูดของเฮียเกาทำให้คิมหันต์ถึงกับเงียบไป เขาไม่สามารถเถียงอะไรได้อีก เพราะเขารู้ดีว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากที่จะทำตามคำสั่งของเฮียเกา
"แล้วคุณจะให้ผมทำอะไร?" คิมหันต์ถามอย่างร้อนรน
"ฉันจะให้แกไปทำให้ณลินกับปอร์เช่มันแตกแยกกัน...แต่แกต้องทำให้พวกมันแตกแยกกันด้วยมือของแกเอง...และแกก็ต้องทำให้พวกมันได้เห็นว่า...ความรักที่พวกมันมีให้กัน...มันเป็นแค่เรื่องโกหก" เฮียเกาพูดพร้อมกับยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย
คำพูดของเฮียเกาทำให้คิมหันต์ยิ้มออกมาอย่างบ้าคลั่ง "ได้เลย...ผมจะทำให้พวกมันแตกแยกกัน...ผมจะทำให้พวกมันต้องเจ็บปวด...เจ็บปวดมากกว่าที่ผมเคยเจ็บปวด!"
ข่าวการจับกุม คิมหันต์ และเครือข่ายมาเฟียที่นำโดย เฮียเกา แพร่สะพัดไปทั่วทั้งวงการธุรกิจและสังคมออนไลน์ราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ ทุกหน้าหนังสือพิมพ์และทุกสำนักข่าวต่างพาดหัวข่าวใหญ่ถึงจุดจบของชายผู้บ้าคลั่งที่พยายามทำร้าย ณลินและ ปอร์เช่ ณลินและปอร์เช่ที่ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ในบ้านของพวกเขามองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด ทั้งความโล่งอก ความดีใจ และความเศร้าในสิ่งที่เกิดขึ้น"ในที่สุด...เขาก็ได้รับผลกรรมในสิ่งที่เขาทำลงไปแล้วนะคะ" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือปอร์เช่กอดเธอไว้แน่น "ใช่ครับ...ริน...แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันจบลงแบบนี้เลย"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ ณลินมองไปที่ปอร์เช่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย "คุณรู้สึกสงสารเขาเหรอคะ?""ผมไม่ได้สงสารเขาหรอก...ผมแค่รู้สึกเสียใจ...เสียใจที่คนคนหนึ่ง...ต้องจมอยู่กับความแค้นและความอิจฉาริษยาจนชีวิตของเขาต้องพังทลายลงไปแบบนี้" ปอร์เช่พูดพร้อมกับมองไปที่ณลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยน "ริน...ผมไม่อยากให้เราเป็นเหมือนเขา...เรามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันนะครั
ควันไฟสีดำลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งโกดังร้างที่ตอนนี้กลายเป็นสนามรบไปแล้ว เสียงปืนและเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและร่างของลูกน้องที่นอนจมกองเลือด ปอร์เช่ ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น มือของเขากำปืนไว้แน่น ราวกับจะส่งความแค้นทั้งหมดไปที่ คิมหันต์ และ เฮียเกา"ปอร์เช่! แกยังไม่ตายงั้นเหรอ!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ผมไม่ได้ตายหรอกครับ...คุณคิมหันต์...ผมแค่แกล้งทำเป็นตาย...เพื่อที่จะได้ล่อให้แกออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้คิมหันต์ถึงกับอึ้งไป เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ปอร์เช่พูดเลยแม้แต่น้อย"โกหก! แกกำลังโกหกฉัน!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงในขณะนั้นเอง เฮียเกา ก็เดินเข้ามาหาปอร์เช่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "แกมันเลว! เลวที่สุด!"ปอร์เช่หัวเราะในลำคอ "ผมไม่ได้เลวหรอกครับ...เฮียเกา...ผมแค่ทำให้พวกคุณได้รับผลกรรมในสิ่งที่ทำลงไปเท่านั้นเอง"คำพูดของปอร์เช่ทำให้เฮียเกาถึงกับเงียบไป เขาไม่สามารถเถียงอะไรได้อีก เพราะสิ่งที่ปอร์เช่พูดคื
ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ ที่โรงพยาบาลจนอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว ในขณะที่ปอร์เช่กำลังวางแผนการที่ซับซ้อนเพื่อที่จะจัดการกับ คิมหันต์ และ เฮียเกา ให้สิ้นซากในค่ำคืนหนึ่ง ปอร์เช่ได้ให้ลูกน้องที่ปลอมตัวเป็นหมอพาเขาไปยังที่ซ่อนของพวกตัวร้าย ลูกน้องของปอร์เช่ได้สลับตัวเขาและปลอมตัวเป็นปอร์เช่ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างแนบเนียน ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้ปอร์เช่กำลังจะไปที่ไหนรถยนต์คันหรูของปอร์เช่ได้ขับมาจอดที่หน้าโกดังร้างแห่งหนึ่ง ชายในชุดสูทสีดำจำนวนหนึ่งได้เดินออกมาจากรถแล้วเปิดประตูรถให้ปอร์เช่ ปอร์เช่เดินออกมาจากรถด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น"แกแน่ใจนะว่าพวกมันอยู่ที่นี่?" ปอร์เช่ถามชายคนนั้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาที่สุดชายคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อย "แน่ใจครับ...บอส...พวกมันอยู่ที่นี่กันหมดเลย"ปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ดี...เราไปจัดการพวกมันกันเถอะ"ปอร์เช่และลูกน้องของเขาเดินเข้าไปในโกดังร้างแห่งนั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาเดินผ่านโกดังไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะไปที่ไหนในขณะเดียวกันนั้นเอง คิมหันต์ และ เฮียเกา กำลังนั่งดื่มเบียร
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธอรู้
เช้าวันรุ่งขึ้น ณลินตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของปอร์เช่ เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกได้ถึงความกังวลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในใจ ณลินเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่กำลังหลับอย่างสงบ เธอรู้สึกได้ถึงความรักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"คุณตื่นแล้วเหรอคะ?" ณลินถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมตื่นมานานแล้ว...ผมแค่อยากมองหน้าเธอในตอนที่เธอกำลังหลับ"ณลินกอดเขาไว้แน่น "ฉันมีความสุขมากเลยค่ะปอร์เช่""ผมเองก็มีความสุขมากเหมือนกันครับ...ริน" ปอร์เช่พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรัก "ริน...ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอ"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่ดี "เรื่องอะไรคะ?""ผมจะให้ลูกน้องของผมปล่อยข่าวออกไปว่าอาการของผมแย่ลง...และผมก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน" ปอร์เช่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง "ผมจะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้คิมหันต์กับเฮียเกาออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้ได้"ปอร์เช่! คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ! มันอันตรายเกินไป!" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ"ผมรู้ครับ..
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาตลอดทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธ