ไฟสลัวในโถงทางเดินของโรงแรมหรูดูเหมือนจะดับสนิทลงในสายตาที่พร่ามัวของ ณลิน เธอรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในฝันร้ายที่ไม่อาจตื่นขึ้นได้ ร่างกายของเธอร้อนรุ่มราวกับถูกไฟเผา พละกำลังทั้งหมดที่มีกำลังเลือนหายไปทุกขณะ
"ณลิน...อดทนหน่อยนะ...เราจะถึงห้องแล้ว" เสียงทุ้มต่ำของ คิมหันต์ ดังขึ้นข้างหูของเธอ เสียงที่เคยทำให้เธออบอุ่นใจในอดีต บัดนี้กลับกลายเป็นเสียงที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด ณลินพยายามจะสะบัดตัวออก แต่เธอก็ไม่มีแรงพอที่จะทำเช่นนั้นได้ "ปล่อยฉัน...คิมหันต์..." เธอพึมพำด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ฉัน...ไม่ไป..." "ไม่ไปได้ยังไงกันล่ะ? ดูสิว่าเธอไม่สบายขนาดไหนแล้ว" คิมหันต์พูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "ให้ฉันดูแลเธอดีกว่า...ดีกว่าให้เธอต้องไปตายอย่างโดดเดี่ยว" คำพูดของคิมหันต์ทำให้ณลินรู้สึกเหมือนมีใครเอาเข็มมาทิ่มแทงเข้าที่หัวใจ เธอรู้ดีว่าคิมหันต์กำลังหมายถึงอะไร เขากำลังตอกย้ำถึงความตายของเธอในชาติที่แล้ว การกระทำของเขาทำให้ความหวาดกลัวที่มีต่อเขายิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก ณลินพยายามรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายในชีวิต เพื่อที่จะขัดขืนเขา "ฉัน...ไม่...ยอม..." ณลินพยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง แต่แรงของเธอก็ไม่สามารถสู้กับแรงของคิมหันต์ได้เลย คิมหันต์หัวเราะในลำคอ "เธอคิดว่าเธอจะหนีฉันไปได้งั้นเหรอณลิน... เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าเธอเป็นของฉัน... เป็นของฉันตั้งแต่ที่เราคบกันในชาติที่แล้ว... และชาตินี้... เธอก็จะต้องเป็นของฉัน... ฉันจะไม่ยอมให้ไอ้ปอร์เช่มาแย่งเธอไปจากฉันอีก!" คำพูดของคิมหันต์เหมือนมีดที่กรีดแทงหัวใจของณลิน ความจริงที่ว่าเขารู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้เธอรู้สึกถึงความหวาดกลัวที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม ณลินพยายามรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายในชีวิต เพื่อที่จะสะบัดตัวออก แต่เธอก็ทำได้เพียงแค่ล้มลงไปกับพื้นเท่านั้น คิมหันต์ไม่สนใจว่าเธอจะล้มลงไปกับพื้น เขาคว้าแขนของเธอแล้วลากเธอเข้าไปในลิฟต์ทันที "อดทนหน่อยนะริน...อีกไม่นาน...เธอก็จะสบายแล้ว" คิมหันต์พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย ณลินรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอกำลังจะหยุดเต้น เธอรู้สึกได้ถึงความกลัวที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม เธอพยายามจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่เสียงของเธอก็ไม่สามารถเปล่งออกมาได้เลย ในขณะเดียวกันนั้นเอง ปอร์เช่ ที่กำลังวิ่งตามหาณลินไปทั่วทั้งงานก็รู้สึกถึงความร้อนรนที่ทวีคูณขึ้นทุกขณะ หัวใจของเขาเต้นรัวด้วยความกังวลและกลัวว่าณลินจะเป็นอะไรไป "ริน! รินอยู่ไหน!?" ปอร์เช่ตะโกนเรียกชื่อเธออย่างร้อนรน สายตาของเขากวาดมองไปทั่วทั้งงานแต่ก็ไม่เจอเธอ ปอร์เช่จึงรีบวิ่งไปที่แผนกต้อนรับของโรงแรม แล้วถามพนักงานทันที "คุณครับ...คุณเห็นผู้หญิงในรูปนี้บ้างไหมครับ?" ปอร์เช่ยื่นรูปของณลินให้พนักงานดูด้วยมือที่สั่นเทา พนักงานมองรูปของณลิน ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย "อ๋อ...ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งประคองเธอขึ้นไปบนชั้นสิบห้าครับ... ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยสบายนะครับ" คำตอบของพนักงานทำให้หัวใจของปอร์เช่แทบจะหยุดเต้น ชั้นสิบห้า! ปอร์เช่ไม่รอช้าที่จะรีบวิ่งไปที่ลิฟต์ทันที แล้วกดปุ่มไปยังชั้นสิบห้าด้วยความร้อนรน "ริน...อดทนหน่อยนะ...ผมกำลังจะไปหาเธอแล้ว!" ปอร์เช่พึมพำกับตัวเองด้วยความร้อนรนที่สุดในชีวิต เพียงไม่นานนัก ลิฟต์ก็หยุดลงที่ชั้นสิบห้า ปอร์เช่รีบวิ่งออกจากลิฟต์ทันที ดวงตาของเขากวาดมองไปทั่วทั้งโถงทางเดิน แต่ก็ไม่เห็นวี่แววของณลินเลย ปอร์เช่จึงตัดสินใจที่จะเดินหาณลินไปตามห้องต่างๆ ในโถงทางเดินแห่งนั้น "ณลิน! ณลิน!" ปอร์เช่ตะโกนเรียกชื่อเธออย่างร้อนรน ในขณะนั้นเอง ปอร์เช่ก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่ดังออกมาจากห้องพักห้องหนึ่ง เสียงนั้นคือเสียงของณลินที่กำลังพยายามดิ้นรนและร้องขอความช่วยเหลือ ปอร์เช่ไม่รอช้าที่จะพุ่งเข้าไปที่ห้องนั้นทันที แต่เขาก็พบว่าประตูห้องถูกล็อกเอาไว้แล้ว ปอร์เช่พยายามจะเปิดประตูห้อง แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้ ปอร์เช่จึงใช้แรงทั้งหมดที่มีพังประตูห้องเข้าไปทันที ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้หัวใจของปอร์เช่แทบจะหยุดเต้น เขามองเห็นณลินที่นอนอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ และเสื้อผ้าที่กำลังจะถูกคิมหันต์ถอดออก ปอร์เช่ไม่รอช้าที่จะพุ่งเข้าไปชกหน้าคิมหันต์อย่างแรงจนคิมหันต์ล้มลงไปกับพื้น "ไอ้สารเลว! แกทำอะไรณลิน!?" ปอร์เช่ตะโกนอย่างสุดเสียง คิมหันต์ลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "ฉันไม่ได้ทำอะไร... ฉันแค่จะดูแลเธอเท่านั้นเอง!" "โกหก!" ปอร์เช่ตะคอก "แกให้ยาอะไรกับณลินไป!? บอกฉันเดี๋ยวนี้!" คิมหันต์ยิ้มเยาะ "แกก็ไปถามณลินเองสิ... ว่าเธอดื่มอะไรไป" คำพูดของคิมหันต์ทำให้ปอร์เช่ถึงกับอึ้งไป เขาไม่คิดว่าคิมหันต์จะกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ ปอร์เช่ไม่รอช้าที่จะเข้าไปประคองร่างของณลินขึ้นมานั่งบนเตียงด้วยความอ่อนโยนที่สุด "ริน...ริน...เธอเป็นอะไรไป? บอกผมสิ" ปอร์เช่ถามด้วยความร้อนรนที่สุดในชีวิต ณลินเงยหน้าขึ้นมามองปอร์เช่ด้วยสายตาที่พร่ามัว เธอพยายามจะพูด แต่เธอก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย ปอร์เช่ไม่รอช้าที่จะรีบพาณลินไปที่โรงพยาบาลทันที โดยไม่สนใจคิมหันต์ที่ยืนอยู่ตรงนั้นอีกเลยแม้แต่น้อย ณ ตอนนี้ ณลินกำลังอยู่ในมือของแพทย์ที่กำลังพยายามช่วยเธอจากยาที่เธอได้รับ ปอร์เช่ยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความร้อนรนและกังวลใจที่สุดในชีวิต เขาไม่รู้ว่าณลินจะปลอดภัยดีหรือไม่ และเขาก็รู้สึกผิดที่ปล่อยให้ณลินต้องอยู่ตามลำพังจนเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ในขณะเดียวกันนั้นเอง พิม ที่ได้รับข่าวจากคิมหันต์ก็รีบวิ่งมาที่โรงพยาบาลทันที เธอเห็นปอร์เช่ยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล เธอยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "พี่ปอร์เช่...เกิดอะไรขึ้นคะ?" พิมถามด้วยน้ำเสียงที่แสร้งทำเป็นเป็นห่วง "แล้วพี่รินไปไหนคะ?" ปอร์เช่หันมามองพิมด้วยสายตาที่เย็นชา "แกมาทำไม!?" พิมทำท่าจะร้องไห้ "พี่ปอร์เช่...ทำไมพี่ถึงได้ใจร้ายกับพิมขนาดนี้คะ? พิมแค่เป็นห่วงพี่รินเท่านั้นเอง" "ถ้าแกเป็นห่วงณลินจริงๆ...แกก็ควรจะบอกฉันว่าคิมหันต์มันทำอะไรกับณลินไป!" ปอร์เช่ตะคอก "แกกับไอ้คิมหันต์มันร่วมมือกันใช่ไหม!? บอกฉันมาเดี๋ยวนี้!" พิมส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว "ไม่จริงค่ะพี่ปอร์เช่...พิมไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะคะ" "โกหก!" ปอร์เช่ตะโกนอย่างสุดเสียง "แกคิดว่าฉันเป็นคนโง่เหรอ!? แกกับไอ้คิมหันต์มันทำเรื่องเลวๆ แบบนี้มาตั้งหลายครั้งแล้ว! แกคิดว่าฉันจะไม่รู้เหรอ!?" ในขณะนั้นเอง นายแพทย์ก็เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน ปอร์เช่ไม่รอช้าที่จะรีบเดินเข้าไปหานายแพทย์ทันที "หมอครับ...คู่หมั้นของผมเป็นยังไงบ้างครับ!?" ปอร์เช่ถามด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน นายแพทย์ถอนหายใจยาว "เธอปลอดภัยแล้วครับ...แต่ร่างกายของเธอยังอ่อนแออยู่...เราต้องให้เธอพักผ่อนก่อน...และเราก็ต้องเก็บตัวอย่างเลือดของเธอไปตรวจสอบด้วย...เพราะดูเหมือนว่าเธอได้รับสารบางอย่างที่เป็นอันตราย" คำพูดของนายแพทย์ทำให้ปอร์เช่ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาไม่รอช้าที่จะรีบเข้าไปหาณลินในห้องพักฟื้นทันที ณลินนอนหลับอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว ปอร์เช่เดินเข้าไปนั่งข้างๆ เธอ แล้วจับมือของเธอไว้แน่นด้วยความอ่อนโยนที่สุดในชีวิต "ริน...ผมขอโทษนะ...ผมขอโทษที่ดูแลเธอได้ไม่ดีพอ...ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว..." ปอร์เช่พึมพำด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เขาจูบลงบนหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยนที่สุด ก่อนที่น้ำตาของเขาจะไหลอาบแก้มด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด ทั้งความรัก ความเป็นห่วง และความรู้สึกผิดที่รุนแรงข่าวการจับกุม คิมหันต์ และเครือข่ายมาเฟียที่นำโดย เฮียเกา แพร่สะพัดไปทั่วทั้งวงการธุรกิจและสังคมออนไลน์ราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ ทุกหน้าหนังสือพิมพ์และทุกสำนักข่าวต่างพาดหัวข่าวใหญ่ถึงจุดจบของชายผู้บ้าคลั่งที่พยายามทำร้าย ณลินและ ปอร์เช่ ณลินและปอร์เช่ที่ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ในบ้านของพวกเขามองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด ทั้งความโล่งอก ความดีใจ และความเศร้าในสิ่งที่เกิดขึ้น"ในที่สุด...เขาก็ได้รับผลกรรมในสิ่งที่เขาทำลงไปแล้วนะคะ" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือปอร์เช่กอดเธอไว้แน่น "ใช่ครับ...ริน...แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันจบลงแบบนี้เลย"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ ณลินมองไปที่ปอร์เช่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย "คุณรู้สึกสงสารเขาเหรอคะ?""ผมไม่ได้สงสารเขาหรอก...ผมแค่รู้สึกเสียใจ...เสียใจที่คนคนหนึ่ง...ต้องจมอยู่กับความแค้นและความอิจฉาริษยาจนชีวิตของเขาต้องพังทลายลงไปแบบนี้" ปอร์เช่พูดพร้อมกับมองไปที่ณลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยน "ริน...ผมไม่อยากให้เราเป็นเหมือนเขา...เรามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันนะครั
ควันไฟสีดำลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งโกดังร้างที่ตอนนี้กลายเป็นสนามรบไปแล้ว เสียงปืนและเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและร่างของลูกน้องที่นอนจมกองเลือด ปอร์เช่ ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น มือของเขากำปืนไว้แน่น ราวกับจะส่งความแค้นทั้งหมดไปที่ คิมหันต์ และ เฮียเกา"ปอร์เช่! แกยังไม่ตายงั้นเหรอ!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ผมไม่ได้ตายหรอกครับ...คุณคิมหันต์...ผมแค่แกล้งทำเป็นตาย...เพื่อที่จะได้ล่อให้แกออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้คิมหันต์ถึงกับอึ้งไป เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ปอร์เช่พูดเลยแม้แต่น้อย"โกหก! แกกำลังโกหกฉัน!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงในขณะนั้นเอง เฮียเกา ก็เดินเข้ามาหาปอร์เช่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "แกมันเลว! เลวที่สุด!"ปอร์เช่หัวเราะในลำคอ "ผมไม่ได้เลวหรอกครับ...เฮียเกา...ผมแค่ทำให้พวกคุณได้รับผลกรรมในสิ่งที่ทำลงไปเท่านั้นเอง"คำพูดของปอร์เช่ทำให้เฮียเกาถึงกับเงียบไป เขาไม่สามารถเถียงอะไรได้อีก เพราะสิ่งที่ปอร์เช่พูดคื
ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ ที่โรงพยาบาลจนอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว ในขณะที่ปอร์เช่กำลังวางแผนการที่ซับซ้อนเพื่อที่จะจัดการกับ คิมหันต์ และ เฮียเกา ให้สิ้นซากในค่ำคืนหนึ่ง ปอร์เช่ได้ให้ลูกน้องที่ปลอมตัวเป็นหมอพาเขาไปยังที่ซ่อนของพวกตัวร้าย ลูกน้องของปอร์เช่ได้สลับตัวเขาและปลอมตัวเป็นปอร์เช่ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างแนบเนียน ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้ปอร์เช่กำลังจะไปที่ไหนรถยนต์คันหรูของปอร์เช่ได้ขับมาจอดที่หน้าโกดังร้างแห่งหนึ่ง ชายในชุดสูทสีดำจำนวนหนึ่งได้เดินออกมาจากรถแล้วเปิดประตูรถให้ปอร์เช่ ปอร์เช่เดินออกมาจากรถด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น"แกแน่ใจนะว่าพวกมันอยู่ที่นี่?" ปอร์เช่ถามชายคนนั้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาที่สุดชายคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อย "แน่ใจครับ...บอส...พวกมันอยู่ที่นี่กันหมดเลย"ปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ดี...เราไปจัดการพวกมันกันเถอะ"ปอร์เช่และลูกน้องของเขาเดินเข้าไปในโกดังร้างแห่งนั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาเดินผ่านโกดังไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะไปที่ไหนในขณะเดียวกันนั้นเอง คิมหันต์ และ เฮียเกา กำลังนั่งดื่มเบียร
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธอรู้
เช้าวันรุ่งขึ้น ณลินตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของปอร์เช่ เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกได้ถึงความกังวลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในใจ ณลินเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่กำลังหลับอย่างสงบ เธอรู้สึกได้ถึงความรักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"คุณตื่นแล้วเหรอคะ?" ณลินถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมตื่นมานานแล้ว...ผมแค่อยากมองหน้าเธอในตอนที่เธอกำลังหลับ"ณลินกอดเขาไว้แน่น "ฉันมีความสุขมากเลยค่ะปอร์เช่""ผมเองก็มีความสุขมากเหมือนกันครับ...ริน" ปอร์เช่พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรัก "ริน...ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอ"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่ดี "เรื่องอะไรคะ?""ผมจะให้ลูกน้องของผมปล่อยข่าวออกไปว่าอาการของผมแย่ลง...และผมก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน" ปอร์เช่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง "ผมจะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้คิมหันต์กับเฮียเกาออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้ได้"ปอร์เช่! คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ! มันอันตรายเกินไป!" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ"ผมรู้ครับ..
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาตลอดทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธ