โทรศัพท์มือถือในมือของ คิมหันต์ สั่นสะเทือนตามแรงกำแน่นของเขา ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังภาพข่าวบนหน้าจอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภาพของ ณลิน ในชุดราตรีหรูหราที่ยืนเคียงคู่กับ ปอร์เช่ ด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมสุข ข่าวพาดหัวตัวหนาประกาศการหมั้นของคนทั้งคู่ ทำให้หัวใจของคิมหันต์ปวดร้าวและเต็มไปด้วยความแค้น
"ไอ้ปอร์เช่...แกกล้าดียังไง..." เขาพึมพำกับตัวเองอย่างเจ็บปวด ความรู้สึกเสียดายณลินถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง เขานึกถึงวันที่เธอเคยทุ่มเททุกอย่างเพื่อเขา แต่เขากลับมองไม่เห็นคุณค่าของเธอเลย ก๊อกๆ! เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ประตูจะเปิดออก พิม เดินเข้ามาในห้องทำงานด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสดใส ผิดกับคิมหันต์ที่กำลังจมดิ่งในความมืดมิดของตัวเอง "พี่คิมหันต์คะ! พิมดีใจจังเลยที่พี่รินกับพี่ปอร์เช่หมั้นกันแล้ว" พิมพูดด้วยน้ำเสียงที่ใสซื่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น "แบบนี้ก็แปลว่าพี่คิมหันต์ว่างแล้วใช่ไหมคะ... เมื่อไหร่เราสองคนจะหมั้นกันบ้างคะ?" คำถามของพิมทำให้คิมหันต์ชะงักไปชั่วขณะ เขารู้ดีว่าพิมกำลังต้องการอะไร และเขาก็รู้สึกรำคาญในความไร้เดียงสาที่เสแสร้งของเธอ แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาจำเป็นต้องเก็บซ่อนความรู้สึกทั้งหมดไว้ภายใต้หน้ากากที่แนบเนียนที่สุด คิมหันต์ฝืนยิ้มออกไป "รอฉันจัดการเรื่องทุกอย่างก่อนนะพิม... ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา" พิมหน้างอเล็กน้อย "แต่ทำไมต้องรอนานขนาดนั้นด้วยคะ?" "เชื่อฉันเถอะ... พิม" คิมหันต์พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ "เมื่อถึงเวลาที่ฉันจัดการทุกอย่างได้แล้ว... ฉันจะให้เธอมากกว่าแค่การหมั้นแน่นอน" คำพูดของคิมหันต์ทำให้พิมยิ้มออก เธอเชื่อในคำพูดของเขาและยอมเดินออกจากห้องไปอย่างว่าง่าย ทิ้งให้คิมหันต์กลับไปจมอยู่กับความแค้นที่สุมอยู่ในอกเพียงลำพัง หลายวันผ่านไป ณ งานเลี้ยงการกุศลที่จัดขึ้นในโรงแรมหรูใจกลางเมือง ปอร์เช่ และ ณลิน เดินควงคู่กันเข้ามาในงานด้วยท่าทางที่สง่างามและน่าอิจฉา พวกเขาเป็นจุดสนใจของทุกคนในงาน ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่คู่หมั้นข้าวใหม่ปลามันที่ดูเหมือนจะมีความสุขอย่างล้นเหลือ "ปอร์เช่คะ... ฉันไม่เคยคิดเลยว่าฉันจะมีความสุขได้ขนาดนี้" ณลินพูดด้วยรอยยิ้มที่สดใส ปอร์เช่หันมามองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน "ผมดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอนะริน... ต่อจากนี้ไป... ผมจะทำให้รอยยิ้มของเธอเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถทำลายได้" ในมุมหนึ่งของงานเลี้ยง คิมหันต์ ยืนถือแก้วไวน์มองดูทั้งคู่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความริษยาและโกรธแค้น เขาเห็นรอยยิ้มของณลินที่ทำให้เขาเจ็บปวด และเห็นท่าทางที่อ่อนโยนของปอร์เช่ที่ทำให้เขาแทบคลั่ง "แก... แกแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน... ฉันจะไม่ยอมให้แกมีความสุข!" คิมหันต์พึมพำกับตัวเอง ทันใดนั้นเอง แผนการบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา คิมหันต์ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดโทรออกไปหา สมบัติ ลูกน้องคนสนิทของเขา "สมบัติ... แกอยู่ที่ไหน?" "ผมอยู่ข้างนอกโรงแรมครับคุณคิมหันต์... มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ?" "แกไปหายาบางอย่างมาให้ฉันที..." คิมหันต์พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย "ยาที่จะทำให้คนหลับ... โดยที่ไม่มีใครสงสัย... และแกต้องทำให้แน่ใจว่า... จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้" "ได้ครับคุณคิมหันต์... ผมจะรีบไปหามาให้เดี๋ยวนี้เลยครับ" เมื่อวางสายแล้ว คิมหันต์ก็ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย แผนการของเขากำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว ณลินจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เธอทำกับเขา และเขาก็จะทำให้เธอได้รู้ว่า... การมีชีวิตอยู่กับผู้ชายที่เธอเกลียดชังนั้นมันเจ็บปวดแค่ไหน... ในขณะที่ณลินและปอร์เช่กำลังดื่มด่ำกับความสุขในงานเลี้ยง พวกเขาก็ไม่รู้เลยว่า... เงามืดของอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ และชีวิตที่สงบสุขของพวกเขากำลังจะถูกสั่นคลอนอีกครั้ง...ข่าวการจับกุม คิมหันต์ และเครือข่ายมาเฟียที่นำโดย เฮียเกา แพร่สะพัดไปทั่วทั้งวงการธุรกิจและสังคมออนไลน์ราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ ทุกหน้าหนังสือพิมพ์และทุกสำนักข่าวต่างพาดหัวข่าวใหญ่ถึงจุดจบของชายผู้บ้าคลั่งที่พยายามทำร้าย ณลินและ ปอร์เช่ ณลินและปอร์เช่ที่ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ในบ้านของพวกเขามองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด ทั้งความโล่งอก ความดีใจ และความเศร้าในสิ่งที่เกิดขึ้น"ในที่สุด...เขาก็ได้รับผลกรรมในสิ่งที่เขาทำลงไปแล้วนะคะ" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือปอร์เช่กอดเธอไว้แน่น "ใช่ครับ...ริน...แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันจบลงแบบนี้เลย"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ ณลินมองไปที่ปอร์เช่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย "คุณรู้สึกสงสารเขาเหรอคะ?""ผมไม่ได้สงสารเขาหรอก...ผมแค่รู้สึกเสียใจ...เสียใจที่คนคนหนึ่ง...ต้องจมอยู่กับความแค้นและความอิจฉาริษยาจนชีวิตของเขาต้องพังทลายลงไปแบบนี้" ปอร์เช่พูดพร้อมกับมองไปที่ณลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยน "ริน...ผมไม่อยากให้เราเป็นเหมือนเขา...เรามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันนะครั
ควันไฟสีดำลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งโกดังร้างที่ตอนนี้กลายเป็นสนามรบไปแล้ว เสียงปืนและเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและร่างของลูกน้องที่นอนจมกองเลือด ปอร์เช่ ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น มือของเขากำปืนไว้แน่น ราวกับจะส่งความแค้นทั้งหมดไปที่ คิมหันต์ และ เฮียเกา"ปอร์เช่! แกยังไม่ตายงั้นเหรอ!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ผมไม่ได้ตายหรอกครับ...คุณคิมหันต์...ผมแค่แกล้งทำเป็นตาย...เพื่อที่จะได้ล่อให้แกออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้คิมหันต์ถึงกับอึ้งไป เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ปอร์เช่พูดเลยแม้แต่น้อย"โกหก! แกกำลังโกหกฉัน!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงในขณะนั้นเอง เฮียเกา ก็เดินเข้ามาหาปอร์เช่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "แกมันเลว! เลวที่สุด!"ปอร์เช่หัวเราะในลำคอ "ผมไม่ได้เลวหรอกครับ...เฮียเกา...ผมแค่ทำให้พวกคุณได้รับผลกรรมในสิ่งที่ทำลงไปเท่านั้นเอง"คำพูดของปอร์เช่ทำให้เฮียเกาถึงกับเงียบไป เขาไม่สามารถเถียงอะไรได้อีก เพราะสิ่งที่ปอร์เช่พูดคื
ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ ที่โรงพยาบาลจนอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว ในขณะที่ปอร์เช่กำลังวางแผนการที่ซับซ้อนเพื่อที่จะจัดการกับ คิมหันต์ และ เฮียเกา ให้สิ้นซากในค่ำคืนหนึ่ง ปอร์เช่ได้ให้ลูกน้องที่ปลอมตัวเป็นหมอพาเขาไปยังที่ซ่อนของพวกตัวร้าย ลูกน้องของปอร์เช่ได้สลับตัวเขาและปลอมตัวเป็นปอร์เช่ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างแนบเนียน ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้ปอร์เช่กำลังจะไปที่ไหนรถยนต์คันหรูของปอร์เช่ได้ขับมาจอดที่หน้าโกดังร้างแห่งหนึ่ง ชายในชุดสูทสีดำจำนวนหนึ่งได้เดินออกมาจากรถแล้วเปิดประตูรถให้ปอร์เช่ ปอร์เช่เดินออกมาจากรถด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น"แกแน่ใจนะว่าพวกมันอยู่ที่นี่?" ปอร์เช่ถามชายคนนั้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาที่สุดชายคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อย "แน่ใจครับ...บอส...พวกมันอยู่ที่นี่กันหมดเลย"ปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ดี...เราไปจัดการพวกมันกันเถอะ"ปอร์เช่และลูกน้องของเขาเดินเข้าไปในโกดังร้างแห่งนั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาเดินผ่านโกดังไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะไปที่ไหนในขณะเดียวกันนั้นเอง คิมหันต์ และ เฮียเกา กำลังนั่งดื่มเบียร
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธอรู้
เช้าวันรุ่งขึ้น ณลินตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของปอร์เช่ เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกได้ถึงความกังวลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในใจ ณลินเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่กำลังหลับอย่างสงบ เธอรู้สึกได้ถึงความรักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"คุณตื่นแล้วเหรอคะ?" ณลินถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมตื่นมานานแล้ว...ผมแค่อยากมองหน้าเธอในตอนที่เธอกำลังหลับ"ณลินกอดเขาไว้แน่น "ฉันมีความสุขมากเลยค่ะปอร์เช่""ผมเองก็มีความสุขมากเหมือนกันครับ...ริน" ปอร์เช่พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรัก "ริน...ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอ"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่ดี "เรื่องอะไรคะ?""ผมจะให้ลูกน้องของผมปล่อยข่าวออกไปว่าอาการของผมแย่ลง...และผมก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน" ปอร์เช่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง "ผมจะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้คิมหันต์กับเฮียเกาออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้ได้"ปอร์เช่! คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ! มันอันตรายเกินไป!" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ"ผมรู้ครับ..
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาตลอดทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธ