LOGINกระถินห่อปากตาโตเมื่อของที่อยู่ในมือดิ้นหงึกหงักราวกับมันมีชีวิต ยิ่งเวลาที่ฝ่ามือเธอขยับขึ้นลงหญิงสาวก็รับรู้ว่าเจ้าของมันกำลังเกร็งตัวสั่นสะท้าน ดวงตาหวานใสเหลือบมองไส้กรอกยักษ์สีแดงระเรื่อหัวบานหยักร้อนระอุราวกับจะลวกมือ
คุณพระ ! หัวใจเธอราวกับจะหยุดเต้นเสียให้ได้เกิดมาไม่เคยพบเห็นอะไรใหญ่ๆจะจะขนาดนี้
มือบางโอบประคองความอลังการเอาไว้แล้วขยับมือรูดส่วนเนื้อที่หุ้มถอกมันขึ้นและลงจนเห็นหัวเห็ดสีแดงมีหยาดน้ำใสปริ่มออกมา ยิ่งฝ่ามือเธอกระชับมากเท่าไหร่เสียงลมหายใจหอบถี่ๆก็ดังขึ้นๆพร้อมกับอาการเนื้อตัวเกร็งกระตุก
"อูยยยย...ซี๊ดดดด" เจ้าของไส้กรอกยักษ์คำรามเสียงสั่นสะโพกสอบเด้งสู้ฝ่ามือนุ่มนิ่มอย่างไม่เกรงกลัว กระถินขยับมือเร็วขึ้นแรงขึ้นเมื่อเห็นท่าทางสูดปากร้องครางเสียงกระเส่าของเขาดังขึ้นเรื่อยๆ
ใบหน้าที่มีหนวดรกครึ้มทำสีหน้าเหยเกขณะแอ่นสะโพกสอบเก้งรับฝ่ามือที่รูดถอกแท่งเนื้อบวมเปล่งเตรียมจะพ่นพิษขาวขุ่นใส่เต็มทีแล้ว
ไม่ไหว...ฝ่ามือเล็กคู่นี้มีฤทธิ์อานุภาพรุนแรงเหลือเกิน โดยเฉพาะใบหน้าหวานๆที่คอยช้อนตามองมาบ่อยๆราวกับสำรวจว่าสิ่งที่หล่อนทำอยู่มันทำให้เขารู้สึกเช่นใดบ้าง
และมันคงจะดีไม่น้อยถ้าหากเปลี่ยนจากฝ่ามือบางคู่นั้นมีเป็นปากเล็กๆของเจ้าหล่อนแทน เอาไว้คราวหน้าก็ได้อย่างไรซะยังคงต้องเจอกันอีกนานเชียวล่ะ
"มะ..ไม่ไหวจะแตกแล้ว..อ๊าาาาส์" น้ำขาวขุ่นฉีดพุ่งออกมาเลอะเปลอะเปื้อนมือเรียวทั้งสองข้าง ขณะที่เจ้าของมือยังคงจับท่อนเนื้อรูดรีดพิษขาวขุ่นออกมาให้หมดทุกหยาดหยด จากนั้นสติสตังค์ที่หลุดหายก็กลับเข้ามาที่ร่างทันที
ฉิบหายอีกแล้ว ! นี่แกทำอะไรลงไปอีกแล้วอีถินเอ๋ย...
เจ้าของร่างบางรีบปล่อยมือที่เลอะคราบขาวขุ่นออกแล้วดีดตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะตาลีตาลานวิ่งหนีหายกลับไปที่บ้านของตัวเองอย่างว่องไวทิ้งไว้ให้คนป่วยนอนมองตามตาปริบๆ
ตอนเช้าเป็นอีกหนึ่งวันที่กระถินตื่นมาด้วยท่าทางสะโหลสะเหล หญิงสาวลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปวัด วันนี้กระถินแต่งตัวเรียบร้อยด้วยเสื้อสีขาวลูกไม้แบบน่ารักสวยสมวัยเข้ากับกระโปรงผ้าซิ่นยาวถึงข้อเท้าพร้อมกับแต่งหน้าบางๆ ผมที่ยาวสลวยถูกม้วนมัดเป็นมวยแล้วปักด้วยปิ่นปักผมยายจันทร์เคยสอนไว้ว่าเวลาไปวัดทำบุญต้องแต่งหน้าแต่งตัวให้สวยดูดีเผื่อชาติหน้าได้เกิดมาอีกทีจะได้เกิดมาสวยๆกับเค้าบ้างยายก็พูดแปลกๆนะปกติเธอว่าเธอก็สวยอยู่แล้วนะ ทั้งหมู่บ้านนี่เธอสวยสุดแล้วล่ะ...มั้ง
กระถินออกจากบ้านด้วยยานพาหนะมอเตอร์ไซค์คันเก่ามาถึงวัดราวๆเกือบเจ็ดโมงเข้าแล้วซึ่งผู้คนก็เริ่มทยอยมากันเรื่อยๆ พอเดินขึ้นมาบนศาลาวัดเธอก็พบว่าคนป่วยที่เธอลวนลามเมื่อคืนนี้นั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่บนศาลากับเค้าด้วยเหมือนกัน
แต่...ดูท่าทางแล้วคงมีแต่คนที่ถ้าเค้าไม่กลัวเขาก็คงรังเกียจเพราะไม่เห็นจะมีใครกล้าเข้าไปนั่งใกล้ๆตาหนวดนี่เลยสักคน หญิงสาวแสร้งเมินทำทีไม่เห็นเขาแล้วเดินหิ้วปิ่นโตที่เธอเตรียมมาเดินเข้าไปหาผู้เป็นยาย หลังจากจัดแจงนำอาหารคาวหวานใส่สำรับเตรียมยกไปประเคนให้พระท่านฉันยายจันทร์ก็เดินจูงมือหลานสาวมานั่งข้างๆคนเช่าที่นาคนใหม่
"ยาย...จะมานั่งตรงนี้ทำไมอ่ะทำไมไม่ไปนั่งข้างหน้านู่น" กระถินท้วงผู้เป็นยายหน้ายู่ขณะถูกผู้เป็นยายดันให้นั่งข้างๆกล้า
"นั่งตรงนี้ล่ะจะได้นั่งเป็นเพื่อนพ่อกล้าเค้าด้วย" ยายจันทร์บอกแล้วก็เลิกสนใจหลานหันไปชะโงกหน้าถามกล้าแทน
"เมื่อคืนเป็นไงนอนหลับสบายดีไหมลูกเห็นบอกว่าไม่ค่อยสบายหายแล้วหรือพ่อคุณ"
กล้าแอบเบนหน้ามามองหลานสาวยายจันทร์แล้วกระแอมเบาๆตอบ
"หายดีแล้วครับยายพอดีผมได้...ยาดีน่ะครับเลยหายไว"
เจ้าของยาดีนั่งนิ่งแก้มนวลแดงระเรื่อเป็นลูกตำลึงไปแล้วขณะนี้ กระถินเบนสายตาไปมองรอบข้างแทนที่จะสบตากับสายตาทอประกายบางอย่างของคนข้างๆแล้วก็สบเข้าดวงตาคู่หนึ่งเจ้าของใบหน้าสวยสง่าแต่งตัวดูดีมีราคาเธอชื่อว่า 'วิไลรำภา' เป็นหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันกับกระถินนั่นแหละ แต่วิไลรำภาได้ย้ายไปเรียนต่อที่เมืองกรุงท่าทางเฉิดฉายนั่นมันทำให้กระถินอดที่จะเบือนหน้าแอบไปเบะปากอย่างอดไม่ได้
แต่พอเบือนหน้าไปอีกทีก็พบกับสายตาวิบวับของคนข้างๆเข้า กระถินรู้สึกเหมือนตัวเองตอนนี้กำลังหนีเสือปะจระเข้ยังไงยังงั้น หันไปอีกด้านก็เจอสายตาดูหมิ่นเหยียดหยาม จะมองกลับมาข้างๆก็พบสายตาคมทอประกายวิบวับส่งมาให้สะท้านเล่น !
พระเริ่มสวดเป็นอันว่ากระถินมองเมินทั้งสองด้านแล้วหันมองไปด้านหน้าแทน หัวใจฝักใฝ่ในรสพระธรรมแทนจนรู้สึกอิ่มเอิบ หลังจากกรวดน้ำรับพรหลังพระฉันเสร็จสิ้นก็เป็นอันจบพิธี เหล่าบรรดาญาติโยมก็มาร่วมวงกินข้าวเป็นลูกศิษย์วัดร่วมกัน
"พ่อกล้าเดี๋ยวอยู่กินข้าวด้วยกันก่อนนะลูกอย่าเพิ่งไป" เสียงยายจันทร์เรียกดักไว้ก่อนที่กล้าซึ่งกำลังจะลุกขึ้นจำต้องนั่งลงไปก่อนอีกครั้ง
"ครับยาย" หนุ่มหน้าหนวดรับคำเสียงสุภาพตัดกับหน้าตาที่ดูดุดันเสียเหลือเกิน
"ถินตักข้าวให้พี่เค้าด้วยสิลูก" ยายจันทร์หันมาพูดกับหลานสาว
"จ้าาา" ไม่รู้นายหน้าหนวดนี่มีอะไรดีทำไมยายเธอถึงได้แลจะเอ็นดูเค้าเหลือเกินนัก
"ท่าทางยายจันทร์จะได้หลานเขยแล้วหรือเนี่ย ?" มีเสียงแซวดังมาจากวงข้าวข้างๆ
"โอ๊ยสภาพแบบนี้ยายจันทร์เค้าไม่เอามาทำเป็นเขยหรอก" เสียงผู้หญิงดูท่าทางมีอายุแล้วพูดขึ้นทำให้กระถินเงยหน้าขึ้นมองหาคนพูด พอเจอแล้วก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะว่าแม่กับลูกมักไม่ค่อยมีมารยาทเรียกว่านิสัยแย่พอๆกันนั่นก็เพราะคนที่พูดคือยายศรีแม่ของวิไลรำภา
"ฉันไม่ได้มองคนที่ภายนอกหรอกจ้ะถ้าหลานฉันจะชอบใครรักใครฉันก็รักด้วยนั่นแหละ" ยายจันทร์พูดลอยๆขึ้นทั้งวงเงียบกริบ
"เอ้อแล้วแม่ศรีล่ะได้ข่าวว่าน้องวิไลที่ไปเรียนที่กรุงเทพมีลูกหลานเศรษฐีเข้ามาจีบด้วยนี่น่าอิจฉาแม่ศรีจังจะได้ลูกเขยรวยมีหน้ามีตากับเค้าด้วย" เสียงอวดอ้างจากยายปริกเพื่อนบ้านแถวๆนั้นเอ่ยขึ้นมาบ้าง จากนั้นเสียงยินดีกับยายศรีก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
กระถินกับยายก็นั่งกินข้าวกันต่อโดยไม่พูดอะไร ส่วนยายจันทร์ก็คอยตักกับข้าวให้คนหน้าหนวดเป็นเชิงปลอบใจ แม้จะไม่ชอบใจนักที่คนพวกนั้นทำท่าดูถูกผู้ชายตรงหน้า แต่ก็นะแกจะพูดอะไรได้...
หลังจากกินข้าวเสร็จบรรดาสาวๆก็ช่วยกันเฮโลมาล้างจานคว่ำให้พระเสร็จก็เป็นอันว่าเสร็จสรรพภาระกิจวันพระนี้ กระถินคว่ำจานใบสุดท้ายลงบนที่คว่ำจานส่วนคนหน้าหนวดก็ยังตามมายกนั่นจัดนี่ช่วยไม่ไกลกัน เสียงหนึ่งก็ลอยมาเข้าหู
"ดูท่าถินนี่จะมีเสน่ห์กับพวกคนจนๆจริงๆเนอะ" วิไลรำภาที่เดินนวยนาดมาทีหลังจีบปากจีบคอบอก
"อืม..แล้วไง" กระถินถามสั้นๆ
"ก็ไม่แล้วไงแค่สงสารที่คนเรียนเก่งอย่างเธอแทนที่จะได้ไปเรียนต่อแบบคนอื่นเขาก็ต้องออกมาทำงาน แถมจะมีแฟนทั้งทีก็ยัง..." แม้ประโยคหลังหล่อนจะไม่พ่นออกมาแต่ดูจากสายตาที่มองไปที่กล้าชนิดตั้งแต่หัวจรดเท้ามันทำให้กระถินนึกอยากกระโดดถีบขาคู่ใส่เจ้าหล่อนแรงๆสักทีสองที !
"ยังอะไร ? แค่ไม่รวยเหมือนแฟนเธอน่ะหรอหึแฟนเศรษฐีของเธอน่ะเกาะไว้ให้ดีๆก็แล้วกันระวังล่ะ !"
"ระวังอะไรยะแฟนฉันเค้ารักฉันจะตายไม่มีทางจะนอกใจฉันหรอกย่ะ"
"จ้ะก็แล้วแต่เธอเลยจ้ะ" กระถินยักไหล่เช็ดมือเช็ดไม้เสร็จแล้วก็เดินหนีออกมาเลยขี้เกียจจะเถียงกับคนแบบนี้ !
"ไปจ้ะยายเสร็จเรียบร้อยแล้วเรากลับบ้านกันเถอะ" กระถินเดินออกมาเรียกผู้เป็นยายให้เตรียมตัวกลับบ้านกัน
หลังจากนั้นสองยายหลานก็ซ้อนมอเตอร์ไซค์ขี่กลับบ้านกันไป ส่วนกล้าก็แยกย้ายกลับไปที่กระท่อมหลังน้อยของเขา
. .ติ้ดๆๆๆ"ค่ะแม่"(ร่าเป็นอะไรลูกทำไมเสียงเนือยๆแบบนี้)"เปล่าค่ะแม่ร่าแค่...ฮ่ะ..ฮึ่กๆ"ไม่ไหว...อดไม่ได้ที่จะสะอื้นออกมาให้แม่ได้ยิน แค่ได้ฟังเสียงหวานๆที่สะท้อนความรักและห่วงใยมาให้หัวใจฉันก็สั่งให้ร้องไห้ออกมาเอง(ทะเลาะกับตาไทน์มาใช่ไหม ?)"เปล่าค่ะเราไม่ได้ทะเลาะกัน"(แล้วเป็นอะไรล่ะลูกมีอะไรหนูคุยกับแม่ได้ทุกเรื่องนะ)"คือ..."ตั้งแต่วันนั้นเราทั้งคู่ก็กลับมาดีกันเหมือนเดิมอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมอาจจะดูเหมือนรักกันมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ตอนนี้ฉันเองก็เรียนจบแล้วแต่เฮียไทน์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะขอฉันแต่งงานกันเหมือนเมื่อก่อนเลยฉันอึดอัดพาลคิดไปหมดเลยว่าเขาจะไม่อยากแต่งงานกับฉันแล้วหรือเปล่า บางทีฉันก็คิดนะว่าตัวเองเป็นไพโบล่าหรือเปล่าตอนที่เขามาขอแต่งงานฉันก็ไม่พร้อมไม่อยากแต่ง แต่พอเขาเฉยๆไม่มีทีท่าว่าอยากจะขอฉันกลับรู้สึกใจแป้ว แม้ทุกวันนี้เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมแต่ระหว่างเราฉันรู้สึกเหมือนว่าเรามีเส้นใยบางๆบางอย่างมาคั่นกลางเอาไว้"แม่เคยเสียใจไหมที่เลือกพ่อมาเป็นคู่ชีวิตแต่พ่อก็ทำให้แม่ผิดหวัง"ฉันไม่เคยถามเรื่องพ่อกับแม่สักครั้งนั่นเพราะรู้อยู่แล้วว่าทุกครั้งที่พูดถึงพ่อแล้
"เฮียขอโทษอย่าเกลียดเฮียเลย...เฮียไม่อยากได้ยิน" เฮียไทน์ที่คล่อมทับบนตัวฉันกำลังก้มหน้าซบแนบกับต้นคอฉันแล้วพูดเสียงสั่นเครือ"ถ้าร่ามาไม่ทันป่านนี้เฮียคงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว" ฉันอดคิดถึงภาพนั้นไม่ได้จริงๆยิ่งนึกยิ่งรู้สึกลมออกหูจนยั้งมือไว้ไม่ทัน"โอ๊ยร่าเฮียเจ็บๆๆๆ !"เฮียไทน์ร้องเสียงหลงเมื่อถูกฉันยื่นมือไปบิดหูทั้งสองข้างเต็มแรง เขาพยายามดันมือฉันออกจนมือฉันหลุดออกจากหูเขาทั้งสองข้างจนได้แล้วเขาก็เริ่มเอาคืนฉันด้วยการงับลงบนเนินอกฉันเต็มแรง"โอ๊ยยย...อื้อ"เริ่มจากการกัดเต็มปากเต็มคำแล้วหลังจากนั้นเขาก็ปาดเลียบนผิวเนื้อเนินอกช้าๆ ขนอ่อนในกายลุกวาบสยิวซ่านไปทั้งร่างกาย มือไม้หยาบใหญ่ค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าฉันออกช้าๆจนเนื้อตัวส่วนบนเปลือยเปล่า"ดะ..เดี๋ยวสิเฮีย ! นี่เฮียหายเมาแล้วหรอ ?" ฉันดันใบหน้าเฮียไทน์ออกจากซอกคอตัวเองออกก่อนจะถามอย่างข้องใจ"เอาจริงๆนะเฮียเริ่มหายเมาตั้งแต่เห็นหนูฟ้อนเล็บใส่ผู้หญิงคนนั้นแล้ว""เมื่อกี้เฮียเกือบจะเอากับมันไปแล้วนะแล้วตอนนี้เฮียจะมาเอากับหนูอีกหรอ ?""ร่าเฮียไม่ได้ตั้งใจ ! เฮียสาบานให้ตายห่าเลยก็ได้เฮียคิดว่าเป็นหนูจริงๆทั้งเมาทั้งคิดถึงเฮียก็เ
"ฮ้าววว"เสียงฉันเองแหละที่รู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยขัดเล็กน้อยพลางอ้าปากหาวอย่างง่วงทั้งเหนื่อยและล้าเมิื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปค่อนแจ้ง มองหาคนที่ต้นเหตุก็พบว่าเขาตื่นอยู่ก่อนแล้วแถมตอนนี้ยังนอนตะแคงเท้าแขนมองหน้าฉันอยู่อีกด้วย"ไง""เฮีย ! เล่นหนูหนักไปไหมเนี่ย" อดที่จะบ่นเขาไม่ได้คนบ้าอะไรอึดเหลือเกินจริงๆ"ช่วยไม่ได้มึงดื้อเอง !""หนูเปล่า"ปากเขาพูกแต่ดวงตาเขาจับจ้องอยู่ที่... หน้าอกของฉัน !"เฮีย ! หื่นแต่เช้าอีกแล้วนะ" ฉันลืมตัวไงว่าตัวเองยังโป๊อยู่ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีอะไรปกปิดเลยมีแค่ผ้าห่มคลุมตั้งแต่ช่วงเอวลงมาก่อนที่ฉันจะรีบคว้าชายผ้าห่มขึ้นมาคลุมช่วงอกเอาไว้ไว้ใจไม่ได้เกิดเขาอยากต่อเช้าขึ้นมามีหวังฉันคงฟ้าเหลืองตายแน่ๆ"ร่า..."อยู่ๆเฮียไทน์เรียกชื่อฉันเสียงอ่อนโยนเบาๆ"ขาา" ฉันครางรับเบาๆพลางช้อนสายตามองหน้าผู้ชายที่กำลังมองมาที่ฉันด้วยแววตาอ่อนโยน"แต่งงานกันไหม ?""เฮีย..."จังหวะนี้ทุกคนคงคิดว่าฉันกำลังซาบซึ้งและดีใจที่ถูกขอแต่งงานแต่เปล่าเลย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาขอฉันแต่งแต่ฉันยังไม่พร้อมจริงๆถ้านับครั้งนี้ด้วยนี่คงเป็นครั้งที่สามแล้ว"ว่าไงจะแต่งไ
"เดินดีๆอย่าซนได้ไหม" เสียงทุ้มที่ค่อนข้างฟังดูแหบพร่าเอ่ยปรามฉันเบาๆในขณะที่มือซนๆของฉันมันดันไปลวนลามที่ใต้กางเกงของเฮียไทน์"อื้อ...ใครซนนี่มันเป็นของหนูหนูจะจับมันตอนไหนก็ได้""แต่มึงจะจับมันตอนนี้ไม่ได้ นี่มันหน้าร้านมึงดูคนมองใหญ่แล้ว" เฮียไทน?กระซิบเสียงพร่าขณะจับมือซนๆของฉันเอาไว้แนบอกแกร่ง"อ้าวหรอแหะๆงั้นรอถึงที่รถก่อนก็ได้เนอะ"เดินซบอกเขาจนมาถึงที่รถฉันเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านข้างคนขับแล้วผวาเข้าหาเฮียไทน์ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามานั่งในรถ"อื้อ"เสียงเฮียครางฮือในลำคอขณะที่ถูกฉันจู่โจมด้วยการโถมเข้าไปจูบที่ริมฝีปากเต็มแรง เวลาเมาฉันนิสัยเสียอยู่อย่างก็คืออารมณ์ขึ้นง่าย แต่ไม่ใช่ไปขึ้นกับใครก็ได้นะ ถ้าหน้าไม่เหมือนเฮียไทน์ก็ใช่ว่าฉันจะขึ้นได้"จ๊วบๆ" เสียงดึงดูดริมฝีปากของเราสองคนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ โซนที่เราจอดรถค่อนข้างลึกพอสมควรทำให้ไม่ค่อยมีรถคนเข้ามาจอดสักเท่าไหร่จะมีแค่คันสองคันเท่านั้นเอง"ฮื้มมม...ถ้ามึงยังไม่หยุดกู 'เอา' มึงที่ลานจอดจริงๆนะ" เฮียไทน์เลื่อนริมฝีปากออกแล้วกระซิบชิดใบหูฉัน"แล้ว...ได้ไหมล่ะ" ฉันกระซิบตอบเบาๆขณะเลื่อนฝ่ามือลงไปที่เป้ากางเกงเพื่อรู
Sara_eiei >> [ตัวเองงง...วันนี้เค้าทำงานกลุ่มมาเหนื่อยมากๆเลยเค้าขอนอนก่อนนะ]ผัวอีซาร่า >> [อืม...เหนื่อยมากไหม]Sara_eiei >> เหนื่อยมากกกตาเค้าจะปิดอยู่แล้วเนี่ยผัวอีซาร่า >> อืม...แต่ตอนนี้กูอยู่ร้านเหล้าSara_eiei >> อ้าวหรองั้นตัวเองอย่าดื่มเยอะนะขับรถกลับดีๆด้วยนะเค้าเป็นห่วง งั้นเค้านอนก่อนน๊าาผัวอีซาร่า >> แต่กูนั่งอยู่โต๊ะข้างหลังมึงนะอีร่า !Sara_eiei >> ........."ซวยแล้วพวกมึงผัวกูจับได้แล้วว่ากูหนีเที่ยวอ่ะ"ฉันชื่อซาร่าหรืออีร่าที่คนในไลน์เรียกนี่แหละกำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่บรรดาเพื่อนๆที่เสือกชวนออกมาเที่ยวในคืนนี้ ก่อนจะทำใจดีสู้เสือกันหน้าไปยิ่มหวานสุดฤทธิ์ให้โต๊ะที่อยู่ติดกันทางด้านหลัง"ไฮ้...ที่รักคิดถึงเค้าไหม ?" แหะๆก็รู้แหละว่าแก้ตัวอะไรไม่ทันแล้วแต่ก็ปะเหลาะอีผัวตัวดีมันไว้ก่อนอ่ะเนอะ"มึงไม่ต้องมาตอแหลว่าคิดถึงกูหรอกหนอยทำเป็นเหนื่อยง่วงจะหลับแล้วที่ไหนได้หนีมาเที่ยวนี่เอง"'เอ๊อะ ! โดนไปอีกชุดสะอึกเลยกู'"กะ..ก็เค้าไม่ได้อยากมาหรอกนะอีฟ้าสิชวนเค้ามา" กูขอโทษนะเพื่อนขอแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนแล้วกัน พูดไปพลางส่งสายตาอ้อนวอนให้มันตามไปติดๆ"โยนให้กูตลอดเลยนะอ
สองเดือนต่อมา"นิชา..นิชาครับหนูหายไปไหนมาพี่ตามหาหนูเสียทั่วเลยแต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ คนดีพี่ขอโทษจริงๆที่ทำให้หนูเสียใจหนูจะให้โอกาสพี่อีกครั้งได้ไหมพี่รักหนูจริงๆนะ"เสียงไตรคุณที่วันนี้บังเอิญมาเจอนิชาที่โรงพยาบาลเข้าพอดีเพราะมาเยี่ยมเพื่อนที่ภรรยาเพิ่งคลอดลูกเขารีบตรงเข้ามาหาเธอพลางสาธยายพร่ำพรรณาถึงความรักต่างๆนาๆที่มีต่อเธอ"ขอโทษนะคะพี่ไตรนิชากลับไปหาพี่ไม่ได้อีกแล้ว""ทำไมล่ะหรือว่านิชายังโกรธพี่อยู่""ไม่ใช่เพราะว่านิชายังโกรธอยู่หรอกค่ะแต่มันเป็นเพราะว่า...""นิชาเค้าแต่งงานมีสามีแล้วยังไงล่ะ ขอโทษนะครับคนนี้เมียผม"เสียงผู้กองตี๋ที่เดินมาจากทางด้านหลังของนิชาตอบแทนพลางเดินมาหยุดยืนข้างๆคนตัวเล็กแล้วรั้งเอวบางเข้ามากอดแนบแน่นต่อหน้าไตรคุณ โดยที่นิชาก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร"นี่..หมายความว่ายังไงครับนิชา" ไตรคุณที่ยังมีสีหน้าเหวออยู่ถามน้ำเสียงสั่นๆเกือบสามเดือนที่ผ่านมาก่อนหน้านั้นเขาเอาแต่เมินเฉยไม่ง้อไม่โทรตามเพราะคิดว่านิชาจะต้องมาง้อเพราะคงขาดผู้ชายอย่างเขาไม่ได้แน่ จนกระทั่งเดือนที่แล้วที่เขาทนรอเฉยๆไม่ไหวจึงพยายามไปตามหาเธอทุกที่แต่ก็ไม่พบ แต่อยู่มาเจอกันอีกทีก็พบว่านิชาแต่







