LOGIN-สองเดือนต่อมา-
สองหนุ่มสาวใช้ชีวิตเป็นคู่ผัวตัวเมียด้วยกันมาตั้งแต่นั้น วายุดูแลน้ำใสและทำหน้าที่เป็นสามีที่ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ในขณะที่น้ำใสเองก็ทำตัวเป็นเมียที่ดีคอยดูแลงานบ้านงานเรือนให้เขา อะไรที่ไม่เคยทำเธอก็ฝึกทำจนเป็นแทบทุกอย่าง ถึงแม้เขาจะห้ามเพราะไม่อยากให้เธอต้องเหนื่อยก็ตาม
แม้จะยังจำอะไรเกี่ยวกับตัวเองไม่ได้เลยก็ตาม แต่เวลานี้น้ำใสคิดว่าตัวเองโชคดีที่ได้เจอเขาและรักเขา ชายหนุ่มไปทำงานนอกบ้านส่วนตัวเธอก็คอยอยู่บ้านทำความสะอาดจัดบ้านจัดเรือนให้น่าอยู่ แม้จะหลังเล็กแต่มันอบอุ่นและอยู่แล้วมีความสุขมาก
บ่อยครั้งที่เธอก็แอบดื้อทำนั่นทำนี่จนมีอยู่วันนึงที่เธอไปตักน้ำจากคลองเล็กๆและพลัดลื่นล้มหัวกระแทกกับท่อนไม้ที่วางอยู่ใกล้ๆจนเจ็บแปล๊บ มันไม่ได้เจ็บอะไรมากแต่...มันกลับคืนความทรงจำทั้งหมดให้เธอมาด้วย
เธอจำได้ทุกอย่างจำตัวเองได้ว่าเธอเป็นใคร เธอชื่ออวัสดาชื่อเล่นว่าเอม เป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่มีเธอเป็นลูกสาวคนเดียว ถ้าจำไม่ผิดป่านนี้ก็น่าจะเกินครึ่งปีไปแล้วที่เธอหายตัวมา แม้ว่าอยู่ที่นี่จะมีความสุขมากเพียงใด แต่สักครั้งที่เธออยากจะกลับไปกราบแนบตักคุณพ่อคุณแม่สักครั้งนึง
ระหว่างยืนครุ่นคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่ตรงระเบียงนอกชานบ้าน อ้อมแขนแข็งแรงก็สอดเข้ามาโอบรอบเอวบางเอาไว้แล้วกดจมูกลงแนบที่ผิวแก้มเนื้อนุ่มหอมละมุนเต็มแรงสูดดมความหอมลึกๆเข้าปอดทั้งสองข้างจนพอใจแล้วเขาถึงซบหน้าลงคลอเคลียต้นคอเนียนนุ่ม
"คิดอะไรอยู่ครับหื้ม..." เขาถามเสียงอ้อนขณะจุมพิตลงต้นคอขาวและขบเม้มเบาๆทิ้งรอยแดงช้ำเอาไว้บางๆ
"ลม..." เรียกชื่อเขาค้างเอาไว้แค่นั้นแล้วเงียบเสียงลง
"ครับ" วายุขานรับสีหน้าแปลกใจ วันนี้เมียเขาดูท่าทีเปลี่ยนไปแปลกๆ
"คะ..เค้าจำทุกอย่างได้แล้ว..จำได้หมดแล้วว่าเค้าเป็นใครมาจากที่ไหน" ใบหน้าสวยบอกขณะเงยหน้าสบตาคนตัวโต
"จริงหรอ ?" แม้จะตกใจแต่อย่างน้อยก็ดีใจที่เห็นหญิงสาวจำเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองได้ทั้งหมดแล้ว
"อื้ม" อวัสดาหรือน้ำใสของวายุตอบรับเบาๆ
"แล้วตกลงน้ำใส...เอ่อเป็นใครมาจากไหนหรอ?"
"เค้าชื่อเอม อวัสดาเป็นคนกรุงเทพมาเที่ยวที่เกาะแล้วบังเอิญเรือล่มตอนกำลังนั่งเรือข้ามฟากมาเที่ยว"
อวัสดาบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองให้เขาฟังพร้อมทั้งเอ่ยชวนให้ชายหนุ่มพาเธอขึ้นกรุงเทพไปกราบพ่อกับแม่อีกครั้ง
สองวันต่อมาทั้งคู่ก็มายืนอยู่หน้าบ้านของอวัสดาเรียบร้อยแล้ว สถานที่คุ้นเคยทำให้หญิงสาวกวาดสายตามองอย่างตื่นเต้น พอๆกับดวงตาคมเข้มที่กวาดสายตามองบ้านหลังใหญ่มีรั้วรอบขอบชิดกั้นไว้ มือเรียวขาวกดกริ่งหน้าบ้านเสียงดังถี่ๆ
ไม่นานก็มีเด็กรับใช้วิ่งออกมาเปิดประตูบานเล็กให้ แต่จังหวะที่เปิดประตูออกแล้วเห็นหน้าเธอ เด็กนั่นก็กรี๊ดลั่นแล้วร้องตะโกนเสียงดังว่าผีหลอกๆ
'ผีที่ไหนจะสวยได้ขนาดนี้ บ้าจัง'
ร้องเสียงดังลั่นแล้วก็วิ่งเข้าบ้านไปเฉยเลย อวัสดาควงแขนวายุพาเดินเข้าไปในบ้านช้าๆ ท่าทางประหม่าและเกร็งของเขาทำให้เธอนึกขำเขาจะรู้ไหมว่าตอนนี้ตัวเองตัวแข็งไปหมดแล้วเนี่ย
"ลมไม่ต้องเกร็งทำตัวตามสบายยังไงเอมก็อยู่กับลมตรงนี้ไม่ทิ้งไปไหนหรอก"
ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าสามีตัวเองคิดอะไรอยู่ เขากำลังกลัว...กลัวว่าเมื่อเธอจำทุกอย่างได้หมดแล้วจะทิ้งเขาไป ที่แน่ๆคงกลัวว่าตัวเองจะต้อยต่ำกลัวว่าครอบครัวเธอจะรับเขาไม่ได้ แต่ไม่มีทางที่เธอจะทิ้งผู้ชายที่แสนดีคนนี้ไปได้แน่ๆ ในเมื่อตอนนี้รักเขามากทุกวินาที !
"เอม...ลูกแม่" ผู้หญิงสูงวัยใบหน้าเหี่ยวย่นไปตามกาลเวลาวิ่งหน้าตั้งออกมาพร้อมกับพึมพัมเรียกชืีอเธอเสียงสั่น หยาดน้ำใสบนใบหน้านั้นหยดมาไม่ขาดสาย
"มะ..แม่..แม่ขาพ่อขา" อวัสดาครางเสียงสั่นพร่ายามเรียกแม่และพ่อที่วิ่งถลาตามผู้เป็นแม่ออกมา ทั้งคู่ต่างโผเข้ามากอดเธออย่างแนบแน่น
"เอม..ลูกพ่อยังอยู่ขอบคุณสวรรค์" คนเป็นพ่อโผเข้าคว้าร่างของลูกสาวเข้ามากอดร้องไห้เสียงดังพร้อมทั้งกอดร่างของภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากไปด้วย
กอดกันร้องไห้อยู่ครู่ใหญ่ทั้งสามถึงชวนกันเข้าบ้าน อวัสดาไม่ลืมที่จะดึงแขนสามีของตัวเองเข้าไปด้วย เมื่อเดินเข้ามาในบ้านบรรดาเด็กรับใช้ก็หาขนมนมเนยน้ำท่ามาเสริฟให้จนเต็มโต๊ะ เมื่อมานั่งที่โซฟาเรียบร้อยแล้วอวัสดาก็แนะนำสามีให้พ่อและแม่ของตัวเองได้รู้จัก
"พ่อคะแม่คะนี่ลมค่ะเป็นคนที่ช่วยชีวิตของหนูไว้และที่สำคัญเขาเป็นสามีของหนูด้วยค่ะ"
"หา/อะไรนะ !" เสียงพ่อกับแม่อุทานออกมาด้วยความตกใจ ใครจะคิดว่าลูกสาวคนเดียวที่อยู่ๆนึกว่าเสียชีวิตไปแล้วจะกลับมาพร้อมสามี
"สะ..สวัสดีครับ" วายุยกมือไหว้พ่อและแม่ของภรรยาตัวเองที่ยังอึ้งอ้าปากค้างอยู่
"ลมเค้าเป็นคนดีค่ะดูแลหนูอย่างดีไม่เคยปล่อยให้ลำบากและเอมก็รักเค้ามากหวังว่าพ่อกับแม่คงจะรักเขาเหมือนกัน" อวัสดาพูดขึ้นน้ำเสียงออดอ้อน
"เห้อ...ลูกรักใครพ่อกับแม่ก็รักด้วยนั่นแหละ" พ่อพูดขึ้นก่อน
"ยังไงก็ขอบใจมากนะพ่อลมที่ช่วยชีวิตลูกสาวของแม่เอาไว้" แม่เธอขอบอกขอบใจวายุเสียยกใหญ่
จากนั้นพวกท่านก็ขอร้องให้เราทั้งคู่ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านด้วยกัน วายุเองก็ไม่ติดปัญหาอะไรเขายอมย้ายกับมาอยู่ที่บ้านด้วยกัน มีกิจการส่วนตัวที่พ่อกับแม่อวัสดาเปิดให้จนสามารถขยายไปได้หลายสาขา
ไม่นานอวัสดาก็ตั้งท้องมีหลานคนแรกให้ตากับยายเลี้ยงเป็นเด็กผู้ชายที่ถูกเห่อกันทั้งบ้าน จวบจนกระทั่งลูกชายอายุได้หนึ่งขวบทั้งคู่ก็จัดงานแต่งงานขึ้นโดยมีลูกชายสุดที่รักมาเป็นสักขีพยานด้วย ครอบครัวของเธอครบสมบูรณ์แบบแล้ว วายุเป็นสามีที่น่ารักและอบอุ่นแม้เรื่องราวของเราสองคนมันจะเพิ่งเริ่ม แต่อวัสดาก็มั่นใจว่าสามีของเธอจะรักและซื่อสัตย์กับเธอตลอดไปเหมือนอย่างที่เธอเองก็ตั้งมั่นในตัวเขา
ผ่านไปห้าปีลูกสาวคนที่สองก็ตามมาหลังจากที่วายุนั่งนับวันรออยู่นานหลายปีเขาก็ได้ลูกสาวหน้าตาน่ารักสมใจมีตากับยายช่วยกันเลี้ยงพร้อมกับพี่ชายคนโตที่ก็เห่อน้องสาวด้วยเช่นกัน รายนั้นนี่ทั้งกอดทั้งหอมแทบจะตลอดเวลา
"เอมครับ..." วายุเรียกชื่อภรรยาเสียงหวานในตอนที่นั่งอยู่บนเตียงมองศรีภรรยาที่นั่งหวีผมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
"ขาา" อวัสดาขานรับเสียงหวานใสพลางชายตามองสามีที่นั่งส่งสายตาร้อนแรงมาให้
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีหรือมีลูกมาแล้วถึงสองคนแต่สามีเธอก็ยังแรงดีไม่ตก คืนนี้ลูกสาวลูกชายไปนอนกับตายายของเขาเลยเปิดโอกาสให้ทั้งคู่ได้สวีทหวานกันบ้าง
วายุมองแผ่นหลังขาวเนียนในชุดนอนสายเดี่ยวโชว์แผ่นหลังขาวด้วยสายตาหลงใหล ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไปผู้หญิงคนนี้ก็ยังดูน่ารักน่าทนุถนอมและก็น่า...อยู่เสมอ !
'คืนนี้ลูกคนที่สามต้องมาแล้วล่ะ' ดูจากชุดนอนที่น่าจะไม่ได้นอนของศรีภรรยาแล้ว !
เพียงแค่คิดบางอย่างก็โด่ขึ้นเป็นลำยาวโดยไม่อายสายตาของผู้เป็นภรรยาที่มองมาสักนิด แถมยังถอดเสื้อผ้าโยนทิ้งรออีกเสียนี่ อวัสดาตวัดสายตามองของส่วนตัวที่สามีชอบเอาไว้ใช้ 'ตำ' ในตัวเธอบ่อยๆด้วยสายตาเก้อเขิน จะกี่ครั้งกี่คราเธอก็ไม่เคยชินกับของๆเขาสักที
ราวกับว่ายิ่งสายตาเธอมองมา'สิ่งนั้น'มันยิ่งขยับขยายใหญ่โตมากขึ้น อวัสดาแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากเมื่อรู้สึกว่าปากคอแห้งผากไปหมด ร่างอรชรเดินนวยนาดเข้ามาคลานเข่าอยู่บนหน้าขาของคนเป็นสามีแล้วคว้าหมับเข้าที่ของแข็งที่ชูชันเพื่อกำราบมันให้สิ้นฤทธิ์
ปลายนิ้วกอบกำแท่งใหญ่โตแล้วรูดขึ้นรูดลงจนมันขยายตัวเต็มที่แล้วจับเข้าปากทั้งรูดทั้งดูดทั้งอมจนร่างหนาครางกระเส่าลั่นห้อง ใช้ปากให้เขาอยู่ไม่นานก็ถูกชายหนุ่มฉุดขึ้นมานั่งคุกเข่าแอ่นสะโพกสวยให้เขาจ้วงแทงไม่ยั้งที่ร่องรักจนหัวสั่นหัวคลอน เสียงหวานกรีดร้องเร่าๆยามถูกเสียดสีและกระแทกกระทั้นเข้าที่จุดอ่อนไหวและถูกส่งให้ป่ายปีนขึ้นอยู่บนจุดที่สูงที่สุดในหลายต่อหลายครั้ง
ศึกรักครั้งนี้ไม่ได้สงบลงง่ายๆ มันยังดำเนินไปตลอดทั้งคืนจวบจนรุ่งสาง คาดว่าลูกคนที่สามคงได้มาหาสมใจของผู้เป็นพ่อเค้าแน่ๆ เพราะใส่ไปไม่ยั้งอย่างนี้ !
ส่วนคนเป็นแม่ก็เตรียมใจรอไว้แล้วล่ะในเมื่อพ่อเค้าคาดหวังและตั้งใจทำเสียขนาดนี้...
. . จบ...ติ้ดๆๆๆ"ค่ะแม่"(ร่าเป็นอะไรลูกทำไมเสียงเนือยๆแบบนี้)"เปล่าค่ะแม่ร่าแค่...ฮ่ะ..ฮึ่กๆ"ไม่ไหว...อดไม่ได้ที่จะสะอื้นออกมาให้แม่ได้ยิน แค่ได้ฟังเสียงหวานๆที่สะท้อนความรักและห่วงใยมาให้หัวใจฉันก็สั่งให้ร้องไห้ออกมาเอง(ทะเลาะกับตาไทน์มาใช่ไหม ?)"เปล่าค่ะเราไม่ได้ทะเลาะกัน"(แล้วเป็นอะไรล่ะลูกมีอะไรหนูคุยกับแม่ได้ทุกเรื่องนะ)"คือ..."ตั้งแต่วันนั้นเราทั้งคู่ก็กลับมาดีกันเหมือนเดิมอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมอาจจะดูเหมือนรักกันมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ตอนนี้ฉันเองก็เรียนจบแล้วแต่เฮียไทน์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะขอฉันแต่งงานกันเหมือนเมื่อก่อนเลยฉันอึดอัดพาลคิดไปหมดเลยว่าเขาจะไม่อยากแต่งงานกับฉันแล้วหรือเปล่า บางทีฉันก็คิดนะว่าตัวเองเป็นไพโบล่าหรือเปล่าตอนที่เขามาขอแต่งงานฉันก็ไม่พร้อมไม่อยากแต่ง แต่พอเขาเฉยๆไม่มีทีท่าว่าอยากจะขอฉันกลับรู้สึกใจแป้ว แม้ทุกวันนี้เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมแต่ระหว่างเราฉันรู้สึกเหมือนว่าเรามีเส้นใยบางๆบางอย่างมาคั่นกลางเอาไว้"แม่เคยเสียใจไหมที่เลือกพ่อมาเป็นคู่ชีวิตแต่พ่อก็ทำให้แม่ผิดหวัง"ฉันไม่เคยถามเรื่องพ่อกับแม่สักครั้งนั่นเพราะรู้อยู่แล้วว่าทุกครั้งที่พูดถึงพ่อแล้
"เฮียขอโทษอย่าเกลียดเฮียเลย...เฮียไม่อยากได้ยิน" เฮียไทน์ที่คล่อมทับบนตัวฉันกำลังก้มหน้าซบแนบกับต้นคอฉันแล้วพูดเสียงสั่นเครือ"ถ้าร่ามาไม่ทันป่านนี้เฮียคงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว" ฉันอดคิดถึงภาพนั้นไม่ได้จริงๆยิ่งนึกยิ่งรู้สึกลมออกหูจนยั้งมือไว้ไม่ทัน"โอ๊ยร่าเฮียเจ็บๆๆๆ !"เฮียไทน์ร้องเสียงหลงเมื่อถูกฉันยื่นมือไปบิดหูทั้งสองข้างเต็มแรง เขาพยายามดันมือฉันออกจนมือฉันหลุดออกจากหูเขาทั้งสองข้างจนได้แล้วเขาก็เริ่มเอาคืนฉันด้วยการงับลงบนเนินอกฉันเต็มแรง"โอ๊ยยย...อื้อ"เริ่มจากการกัดเต็มปากเต็มคำแล้วหลังจากนั้นเขาก็ปาดเลียบนผิวเนื้อเนินอกช้าๆ ขนอ่อนในกายลุกวาบสยิวซ่านไปทั้งร่างกาย มือไม้หยาบใหญ่ค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าฉันออกช้าๆจนเนื้อตัวส่วนบนเปลือยเปล่า"ดะ..เดี๋ยวสิเฮีย ! นี่เฮียหายเมาแล้วหรอ ?" ฉันดันใบหน้าเฮียไทน์ออกจากซอกคอตัวเองออกก่อนจะถามอย่างข้องใจ"เอาจริงๆนะเฮียเริ่มหายเมาตั้งแต่เห็นหนูฟ้อนเล็บใส่ผู้หญิงคนนั้นแล้ว""เมื่อกี้เฮียเกือบจะเอากับมันไปแล้วนะแล้วตอนนี้เฮียจะมาเอากับหนูอีกหรอ ?""ร่าเฮียไม่ได้ตั้งใจ ! เฮียสาบานให้ตายห่าเลยก็ได้เฮียคิดว่าเป็นหนูจริงๆทั้งเมาทั้งคิดถึงเฮียก็เ
"ฮ้าววว"เสียงฉันเองแหละที่รู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยขัดเล็กน้อยพลางอ้าปากหาวอย่างง่วงทั้งเหนื่อยและล้าเมิื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปค่อนแจ้ง มองหาคนที่ต้นเหตุก็พบว่าเขาตื่นอยู่ก่อนแล้วแถมตอนนี้ยังนอนตะแคงเท้าแขนมองหน้าฉันอยู่อีกด้วย"ไง""เฮีย ! เล่นหนูหนักไปไหมเนี่ย" อดที่จะบ่นเขาไม่ได้คนบ้าอะไรอึดเหลือเกินจริงๆ"ช่วยไม่ได้มึงดื้อเอง !""หนูเปล่า"ปากเขาพูกแต่ดวงตาเขาจับจ้องอยู่ที่... หน้าอกของฉัน !"เฮีย ! หื่นแต่เช้าอีกแล้วนะ" ฉันลืมตัวไงว่าตัวเองยังโป๊อยู่ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีอะไรปกปิดเลยมีแค่ผ้าห่มคลุมตั้งแต่ช่วงเอวลงมาก่อนที่ฉันจะรีบคว้าชายผ้าห่มขึ้นมาคลุมช่วงอกเอาไว้ไว้ใจไม่ได้เกิดเขาอยากต่อเช้าขึ้นมามีหวังฉันคงฟ้าเหลืองตายแน่ๆ"ร่า..."อยู่ๆเฮียไทน์เรียกชื่อฉันเสียงอ่อนโยนเบาๆ"ขาา" ฉันครางรับเบาๆพลางช้อนสายตามองหน้าผู้ชายที่กำลังมองมาที่ฉันด้วยแววตาอ่อนโยน"แต่งงานกันไหม ?""เฮีย..."จังหวะนี้ทุกคนคงคิดว่าฉันกำลังซาบซึ้งและดีใจที่ถูกขอแต่งงานแต่เปล่าเลย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาขอฉันแต่งแต่ฉันยังไม่พร้อมจริงๆถ้านับครั้งนี้ด้วยนี่คงเป็นครั้งที่สามแล้ว"ว่าไงจะแต่งไ
"เดินดีๆอย่าซนได้ไหม" เสียงทุ้มที่ค่อนข้างฟังดูแหบพร่าเอ่ยปรามฉันเบาๆในขณะที่มือซนๆของฉันมันดันไปลวนลามที่ใต้กางเกงของเฮียไทน์"อื้อ...ใครซนนี่มันเป็นของหนูหนูจะจับมันตอนไหนก็ได้""แต่มึงจะจับมันตอนนี้ไม่ได้ นี่มันหน้าร้านมึงดูคนมองใหญ่แล้ว" เฮียไทน?กระซิบเสียงพร่าขณะจับมือซนๆของฉันเอาไว้แนบอกแกร่ง"อ้าวหรอแหะๆงั้นรอถึงที่รถก่อนก็ได้เนอะ"เดินซบอกเขาจนมาถึงที่รถฉันเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านข้างคนขับแล้วผวาเข้าหาเฮียไทน์ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามานั่งในรถ"อื้อ"เสียงเฮียครางฮือในลำคอขณะที่ถูกฉันจู่โจมด้วยการโถมเข้าไปจูบที่ริมฝีปากเต็มแรง เวลาเมาฉันนิสัยเสียอยู่อย่างก็คืออารมณ์ขึ้นง่าย แต่ไม่ใช่ไปขึ้นกับใครก็ได้นะ ถ้าหน้าไม่เหมือนเฮียไทน์ก็ใช่ว่าฉันจะขึ้นได้"จ๊วบๆ" เสียงดึงดูดริมฝีปากของเราสองคนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ โซนที่เราจอดรถค่อนข้างลึกพอสมควรทำให้ไม่ค่อยมีรถคนเข้ามาจอดสักเท่าไหร่จะมีแค่คันสองคันเท่านั้นเอง"ฮื้มมม...ถ้ามึงยังไม่หยุดกู 'เอา' มึงที่ลานจอดจริงๆนะ" เฮียไทน์เลื่อนริมฝีปากออกแล้วกระซิบชิดใบหูฉัน"แล้ว...ได้ไหมล่ะ" ฉันกระซิบตอบเบาๆขณะเลื่อนฝ่ามือลงไปที่เป้ากางเกงเพื่อรู
Sara_eiei >> [ตัวเองงง...วันนี้เค้าทำงานกลุ่มมาเหนื่อยมากๆเลยเค้าขอนอนก่อนนะ]ผัวอีซาร่า >> [อืม...เหนื่อยมากไหม]Sara_eiei >> เหนื่อยมากกกตาเค้าจะปิดอยู่แล้วเนี่ยผัวอีซาร่า >> อืม...แต่ตอนนี้กูอยู่ร้านเหล้าSara_eiei >> อ้าวหรองั้นตัวเองอย่าดื่มเยอะนะขับรถกลับดีๆด้วยนะเค้าเป็นห่วง งั้นเค้านอนก่อนน๊าาผัวอีซาร่า >> แต่กูนั่งอยู่โต๊ะข้างหลังมึงนะอีร่า !Sara_eiei >> ........."ซวยแล้วพวกมึงผัวกูจับได้แล้วว่ากูหนีเที่ยวอ่ะ"ฉันชื่อซาร่าหรืออีร่าที่คนในไลน์เรียกนี่แหละกำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่บรรดาเพื่อนๆที่เสือกชวนออกมาเที่ยวในคืนนี้ ก่อนจะทำใจดีสู้เสือกันหน้าไปยิ่มหวานสุดฤทธิ์ให้โต๊ะที่อยู่ติดกันทางด้านหลัง"ไฮ้...ที่รักคิดถึงเค้าไหม ?" แหะๆก็รู้แหละว่าแก้ตัวอะไรไม่ทันแล้วแต่ก็ปะเหลาะอีผัวตัวดีมันไว้ก่อนอ่ะเนอะ"มึงไม่ต้องมาตอแหลว่าคิดถึงกูหรอกหนอยทำเป็นเหนื่อยง่วงจะหลับแล้วที่ไหนได้หนีมาเที่ยวนี่เอง"'เอ๊อะ ! โดนไปอีกชุดสะอึกเลยกู'"กะ..ก็เค้าไม่ได้อยากมาหรอกนะอีฟ้าสิชวนเค้ามา" กูขอโทษนะเพื่อนขอแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนแล้วกัน พูดไปพลางส่งสายตาอ้อนวอนให้มันตามไปติดๆ"โยนให้กูตลอดเลยนะอ
สองเดือนต่อมา"นิชา..นิชาครับหนูหายไปไหนมาพี่ตามหาหนูเสียทั่วเลยแต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ คนดีพี่ขอโทษจริงๆที่ทำให้หนูเสียใจหนูจะให้โอกาสพี่อีกครั้งได้ไหมพี่รักหนูจริงๆนะ"เสียงไตรคุณที่วันนี้บังเอิญมาเจอนิชาที่โรงพยาบาลเข้าพอดีเพราะมาเยี่ยมเพื่อนที่ภรรยาเพิ่งคลอดลูกเขารีบตรงเข้ามาหาเธอพลางสาธยายพร่ำพรรณาถึงความรักต่างๆนาๆที่มีต่อเธอ"ขอโทษนะคะพี่ไตรนิชากลับไปหาพี่ไม่ได้อีกแล้ว""ทำไมล่ะหรือว่านิชายังโกรธพี่อยู่""ไม่ใช่เพราะว่านิชายังโกรธอยู่หรอกค่ะแต่มันเป็นเพราะว่า...""นิชาเค้าแต่งงานมีสามีแล้วยังไงล่ะ ขอโทษนะครับคนนี้เมียผม"เสียงผู้กองตี๋ที่เดินมาจากทางด้านหลังของนิชาตอบแทนพลางเดินมาหยุดยืนข้างๆคนตัวเล็กแล้วรั้งเอวบางเข้ามากอดแนบแน่นต่อหน้าไตรคุณ โดยที่นิชาก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร"นี่..หมายความว่ายังไงครับนิชา" ไตรคุณที่ยังมีสีหน้าเหวออยู่ถามน้ำเสียงสั่นๆเกือบสามเดือนที่ผ่านมาก่อนหน้านั้นเขาเอาแต่เมินเฉยไม่ง้อไม่โทรตามเพราะคิดว่านิชาจะต้องมาง้อเพราะคงขาดผู้ชายอย่างเขาไม่ได้แน่ จนกระทั่งเดือนที่แล้วที่เขาทนรอเฉยๆไม่ไหวจึงพยายามไปตามหาเธอทุกที่แต่ก็ไม่พบ แต่อยู่มาเจอกันอีกทีก็พบว่านิชาแต่







