Share

บทที่1 สายใย

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-02 20:45:08

3 เดือนก่อนหน้านั้น

บ้านตระกูลเชาฮาน, เมืองอุทัยปุระ

บ้านตระกูลเชาฮานตั้งอยู่ใจกลางเมืองชัยปุระ ตัวบ้านเป็นอาคารสไตล์ราชสถานแท้ ๆ ผนังสีชมพูตกแต่งด้วยลวดลายแกะสลักประณีต หน้าบ้านมีสวนขนาดย่อมที่เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้สีสันสดใส น้ำพุหินอ่อนกลางสวนส่งเสียงเบา ๆ ช่วยเพิ่มความร่มรื่น

ภายในบ้าน ห้องโถงใหญ่ประดับโคมไฟระย้าคริสตัล พื้นหินอ่อนเย็นเฉียบสะท้อนภาพเพดานสูงที่ตกแต่งด้วยลวดลายศิลปะโบราณ

ในห้องนั่งเล่น หญิงสาวนั่งอยู่บนเก้าอี้หวายข้างหน้าต่าง เธออยู่ในชุดส่าหรีสีฟ้าอ่อนที่ประดับด้วยดิ้นเงิน ผมยาวตรงของเธอถูกปล่อยลงมาคลอเคลียไหล่ ใบหน้าเรียวเล็กของเธอแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ดวงตากลมโตเปล่งประกายคล้ายสะท้อนแสงแดดที่ลอดผ่านผ้าม่าน

"อามิ! มาช่วยแม่จัดโต๊ะหน่อยลูก" เสียงเรียกของคุณนายเชาฮานดังขึ้นจากห้องอาหาร

"ค่ะ คุณแม่!" อามิหรือ อัมพิกาตอบรับอย่างกระตือรือร้น ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปช่วยแม่

โต๊ะอาหารยาวถูกปูด้วยผ้าลินินสีขาวสะอาดตา บนโต๊ะมีจานชามที่จัดเรียงอย่างประณีต พร้อมดอกไม้สดที่ถูกตัดแต่งอย่างสวยงาม

อัมพิกาช่วยแม่จัดช้อนส้อมและแก้วน้ำ เธอทำงานด้วยความคล่องแคล่ว

"คืนนี้พวกเราต้องเตรียมตัวให้ดีนะ แขกที่มาไม่ใช่ธรรมดาเลย" คุณนายเชาฮานพูดพลางตรวจความเรียบร้อย

"มีใครมาบ้างคะ" เธอถาม

"ก็มีครอบครัวของราฟี เชค รวมถึงนักธุรกิจคนสำคัญจากมุมไบอีกสองสามคน"

"อามูรู้เรื่องนี้หรือยังคะ" อัมพิกาพูดถึงพี่สาวของเธอ

"แม่บอกแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าอามูจะสนใจแค่ไหน"

" งั้น..หนูขอทายนะคะ อามูจะต้องเซ็งเป็ดไปเลยล่ะค่ะ" หญิงสาวพูดอย่างร่าเริง

"เด็กคนนี้..ซุกซนจริงๆ" คุณนายเชาฮานพูดด้วยความเอ็นดู

ในห้องนอนกว้างที่ประดับด้วยผ้าม่านสีทองและพรมทอมือ อัมพิกาเดินเข้ามาหาพี่สาวที่นั่งอยู่หน้ากระจก อัมมาวดีในชุดส่าหรีสีชมพูสดกำลังหวีผมด้วยท่าทางสบาย ๆ

"พี่อามู คืนนี้มีงานเลี้ยงนะคะ คุณแม่อยากให้เราสองคนดูแลแขกด้วย"

"อามิรู้ไหม บางครั้งพี่ก็เบื่อพวกงานเลี้ยงพวกนี้จะแย่" อัมมาวดีพูดพลางถอนหายใจ

"พี่อยากทำอะไรที่มันมีความหมายมากกว่านี้"

"แต่พี่เป็นลูกสาวคนโตนะคะ ความรับผิดชอบมันก็ต้องมากกว่าอยู่แล้ว"

"พี่รู้... แต่พี่แค่รู้สึกเหมือนกำลังถูกบังคับให้ใช้ชีวิตในกรอบที่คนอื่นกำหนด"

หญิงสาวมองพี่สาวด้วยความเข้าใจ เธอรู้ดีว่าพี่สาวของเธอนั้นเป็นคนที่รักอิสระ และการถูกผูกมัดอยู่ในกรอบของครอบครัวและสังคมชั้นสูงไม่ใช่สิ่งที่พี่สาวของเธอต้องการ

"พี่อามู ลองมองอีกมุมนะคะ บางทีสิ่งที่ครอบครัวทำให้เราอาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่พี่คิดก็ได้"

"บางทีอาจใช่..." อัมมาวดีตอบด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของน้องสาว

"ขอบใจนะที่ยังอยู่ข้างพี่เสมอ"

"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยู่ข้างพี่เสมอ" อัมพิกาเอื้อมมือไปจับมือพี่สาวเอาไว้อีกทบนึง ก่อนจะระบายยิ้มจางๆเพื่อเป็นกำลังใจให้พี่สาวสุดที่รัก

ค่ำคืนนี้ ท้องฟ้าปกคลุมด้วยหมู่ดาวระยิบระยับ แสงจันทร์สีเงินส่องลงมายังสวนที่ประดับประดาด้วยไฟสีอ่อนและโคมแก้วที่ห้อยอยู่ตามต้นไม้ เสียงดนตรีสดจากวงดนตรีพื้นเมืองคลอเบา ๆ สร้างบรรยากาศหรูหราและอบอุ่น

แขกเหรื่อที่มาร่วมงานเป็นทั้งนักธุรกิจ นักการเมือง และครอบครัวผู้มีอิทธิพลในชัยปุระ ทุกคนอยู่ในชุดสวยงามสไตล์อินเดีย ผู้หญิงในส่าหรีหลากสีประดับดิ้นทอง ส่วนผู้ชายในชุดคุรตาปักลายละเอียด

อัมมาวดี หรือ "อามู" เดินตรวจตราความเรียบร้อยรอบงานในชุดเลเฮนกาสีชมพูเข้มปักด้วยลูกปัดสีทอง ผมยาวของเธอถูกรวบครึ่งปล่อยลงมาเป็นลอนคลื่นอ่อน เธอดูสง่างามและโดดเด่นเหมือนเจ้าหญิง

"อามู เดินดูรอบ ๆ ให้หน่อย แขกเริ่มมากันเยอะแล้ว" เสียงคุณนายเชาฮานดังมาจากอีกมุม

"ได้ค่ะ คุณแม่" เธอยิ้มอ่อนให้แม่ก่อนจะเดินไปทักทายแขก

"สวัสดีค่ะ คุณลุงยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้ง" อามูพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพและรอยยิ้มหวาน

"ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งจ๊ะ หนูสวยขึ้นมากนะ" นักธุรกิจหนุ่มวัยกลางคน เอ่ยชมหญิงสาวด้วยความคุ้นเคย

" ขอบคุณค่ะคุณลุง"

เธอพูดคุยกับแขกอย่างเป็นธรรมชาติ ท่าทีอ่อนโยนและน้ำเสียงนุ่มนวลของเธอทำให้หลายคนประทับใจ

ท่ามกลางแขกที่กำลังสนทนาอยู่ ราฟี เชค เดินเข้ามาในงานพร้อมเพื่อนสนิทและพี่สาวของเขา ราฟีในชุดเชอร์วานีสีงาช้างปักลายทอง ดวงตาคมเข้มและใบหน้าคมสันของเขาทำให้หลายคนเหลียวมอง

เลล่า เชค สาวงามผู้สง่างามในชุดส่าหรีสีแดงเพลิง เส้นผมสีดำสนิทของเธอถูกเกล้ามวยอย่างประณีต เลล่าดูงดงามราวกับเทพธิดา

เมื่อราฟีเห็นอัมมาวดีที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะอาหาร ดวงตาของเขาก็หยุดนิ่ง รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นที่มุมปาก

"ผู้หญิงคนนั้น... เธอคือใคร" ราฟีถามเพื่อนสนิทของเขา

"นั่นอัมมาวดี เชาฮาน ลูกสาวคนโตของเจ้าบ้าน เธอสวยใช่ไหมล่ะ?"

ราฟีพยักหน้า สายตาของเขาไม่อาจละจากเธอได้

หลังจากทักทายแขกเสร็จ อัมมาวดีเดินเข้ามาทักทายราฟี

"สวัสดีค่ะ คุณราฟี ยินดีที่ได้พบในงานของเรา" เธอกล่าวพลางยิ้มสุภาพ

"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ คุณอัมมาวดี ผมต้องขอบคุณสำหรับการเชิญในครั้งนี้" ราฟีตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก

เขาเอื้อมมือมาจับมือเธอเบา ๆ รอยยิ้มที่ดูอบอุ่นของเขาทำให้อัมมาวดีรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคงยิ้มตอบ

เลล่าเดินเข้ามาสมทบกับราฟี เธอพูดคุยกับอัมมาวดีด้วยท่าทางเป็นมิตร

"คุณอัมมาวดี งานนี้จัดได้ดีมากเลยค่ะ คุณดูแลแขกได้อย่างน่าประทับใจ"

"ขอบคุณมากค่ะ คุณเลล่า" อัมมาวดียิ้มตอบ

สองพี่น้องตระกูลเชคดึงดูดความสนใจของทุกคนในงาน ทั้งราฟีที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล และเลล่าที่สง่างามดั่งนางพญา

หลังจากพูดคุยกันครู่หนึ่ง ราฟีก็หาจังหวะพูดคุยกับอัมมาวดีเป็นการส่วนตัว

"คุณอัมมาวดี ผมต้องบอกตรง ๆ ว่าคืนนี้คุณดูงดงามมาก จนผมอดใจไม่ได้ที่จะเดินมาทักทาย" ราฟีพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"ขอบคุณค่ะ คุณราฟี" เธอตอบกลับด้วยความสุภาพ

"ไม่ทราบว่าคุณมีคนรักหรือยังครับ" ราฟีค่อย ๆ ใช้เสน่ห์ของเขา ทั้งน้ำเสียงที่นุ่มลึกและคำพูดที่แสดงความชื่นชมอย่างจริงใจ เพื่อดึงดูดใจเธอ

"มีแล้วค่ะ " เธอตอบด้วยความสัตย์จริง

เมื่อเขารู้ว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว ราฟีกลับไม่ได้ถอย แต่เขาเลือกที่จะใช้วิธีที่แนบเนียนกว่าเพื่อเข้าหาเธอ

"บางครั้ง โชคชะตาอาจทำให้เราเจอคนที่ไม่คาดคิด... และผมก็หวังว่าจะมีโอกาสได้ทำความรู้จักคุณมากขึ้น"

คำพูดของราฟีทำให้อัมมาวดีเริ่มรู้สึกสับสนเล็กน้อย แม้เธอจะมีคนรักอยู่แล้ว แต่เสน่ห์ของราฟีไม่ใช่สิ่งที่เธอจะมองข้ามได้ง่าย ๆ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่ 35 คำถาม

    บ้านเชาฮาน, เมืองอุทัยปุระสายลมเย็นพัดผ่านร่างของหญิงสาวที่ออกมารับลมเล่นที่ระเบียงห้อง ดวงตาสีน้ำผึ้งทอดมองไปยังพื้นผิวของน้ำทะเลสาบที่เป็นประกายระยิบระยับใต้แสงแดด เสียงคลื่นกระทบชายฝั่งเป็นจังหวะ บรรยากาศดูสงบร่มเย็น ทว่า...หัวใจของเธอกลับไม่ได้สงบเช่นบรรยากาศ นี่ก็ผ่านมาห้าวันแล้วนับแต่วันที่เธอออกจากโรงพยาบาล ศิวะไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย จะมีเพียงแค่ส่งข้อความมากวนประสาทเป็นบางวัน เธอละสายตาจากวิวทะเลมาที่โทรศัพท์เครื่องหรูในมือ ปลายนิ้วเลื่อนปลดล็อคหน้าจอ เธอเปิดค้างอยู่ที่รายชื่อติดต่อ เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงเปิดหน้านี้ค้างไว้ แต่... อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานหมั้นของพี่สาวของเธอ และปราโมทย์พ่อของเธอก็เชิญเขามางานนี้ด้วย ซึ่งเธอไม่มั่นใจเลยว่าชายหนุ่มจะทำอะไรที่เหนือความคาดหมายหรือเปล่า"เลิกคิดเถอะ..." เสียงหวานพึมพำกับตัวเอง ปลายนิ้วของเธอลูบคลำบนหน้าจอโทรศัพท์ไปมา ก่อนจะปิดหน้าจอลง หญิงสาวพยายามทำให้ใจสงบ ทว่า... ยิ่งพยายามสงบใจมากขึ้นเท่าไหร่ ความรุ่มร้อนภายในจิตใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น...ความคิดมากมายทะลักเข้ามาในหัว มือทั้งสองข้างกำเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ถ้าเกิดว่า...

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่ 34 ความรู้สึกที่ซ่อนเร้น

    เมื่อชายหนุ่มออกไปแล้ว ปราโมทย์ก็อยู่เป็นเพื่อนลูกสาวอย่างเงียบๆ เขานั่งปอกผลไม้อย่างชำนาญ เก็บแอปเปิ้ลที่ถูกหั่นชิ้นอย่างสวยงามยื่นไปที่ปากของอัมพิกาอัมพิกาอ้าปากรับผลไม้ที่คนเป็นพ่อส่งให้ด้วยรอยยิ้ม หญิงสาวปิดปากเคี้ยวด้วยความเอร็ดอร่อย การที่พ่อของเธอมานั่งปอกผลไม้และป้อนเธอนั้นเป็นสิ่งที่เห็นได้ยาก เพราะปกติแล้วปราโมทย์จะนั่งอยู่ในห้องทำงานทั้งวัน ยกเว้นเวลาทานอาหาร "ขอบคุณนะคะพ่อ" "ขอบคุณอะไร?" น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาอย่างเรียบเฉย มือที่กำลังปอกผลไม้อยู่ถึงกับชะงัก "ก็... ขอบคุณที่ดูแลหนู แล้วก็เข้าไปช่วยหนูไงคะ" หญิงสาวเอนตัวไปซบที่แขนแกร่งอย่างออดอ้อน รู้สึกถึงฝ่ามือที่กำลังลูบผมเธออย่างอ่อนโยน ดวงตาคู่สวยหลับพริ้มรับรู้ถึงความรักของพ่อที่มีต่อเธอ "ลูกสาวตกอยู่ในอันตรายทั้งที พ่อจะอยู่เฉยได้ยังไง" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น พลางดันตัวลูกสาวออกมาเบาๆ "ค่า...แล้วแม่เป็นยังไงบ้างคะ?" "ก็เรื่อยๆ... ปกติดี ไม่ได้แพ้อะไร" อัมพิกาพยักหน้า มารดาของเธออายุก็มากแล้ว แต่ดันมาตั้งครรภ์อีก ไม่รู้ว่า... น้องในครรภ์จะเป็นผู้หญิงหรือ ผู้ชายกันนะ หญิงสาวคิดขึ้นมาด้วยความสงสัย มือบางหยิบแอป

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่33 บาดเจ็บ

    อีกด้านหนึ่งของป่า ราฟีและปราโมทย์พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เดินแกะรอยทั้งสามคนเข้ามาในป่า ที่นี่เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ทำให้ป่าที่นี่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ และมีสัตว์ร้ายชุกชุม พวกเขาก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง จนกระทั่ง...ปัง! ปัง! มีเสียงปืนดังขึ้นในอีกด้านหนึ่งของป่า ทำให้พวกเขาหยุดชะงัก หัวใจของคนเป็นพ่ออย่างปราโมทย์เต้นรัวด้วยความหวาดกลัวและเป็นห่วงลูกสาวคนเล็กอย่างสุดซึ้ง เขาภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้าให้พระองค์คุ้มครองลูกสาวของเขาด้วย "เร็วเข้า!" ปราโมทย์คำรามใส่เจ้าหน้าที่เสียงดังลั่น คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน เขาเดินไปทางต้นเสียงอย่างรวดเร็ว ราฟีและเจ้าหน้าที่เร่งเดิมตามหลังชายหนุ่มใหญ่อย่างเร่งรีบ นักการเมืองหนุ่มรับรู้ถึงความเป็นห่วงพี่มีต่อลูกสาวคนเล็กของปราโมทย์ได้เป็นอย่างดี ทว่า...เสียงปืนที่ดังใกล้ขนาดนี้ บางทีพวกเขาอาจจะอยู่ใกล้ๆแถวนี้ก็ได้ "เดี๋ยวก่อน" ชายหนุ่มหยุดว่าที่พ่อตาเอาไว้ ใบหน้าเคร่งเครียดของเขาทำให้ปราโมทย์ถึงกับหยุดชะงัก"มีอะไร?" "เสียงปืนดังใกล้ขนาดนี้ พวกคุณคิดว่าจะเป็นพวกไหน?" น้ำเสียงเรียกเฉยของเขาเอ่ยขึ้นมาอย่างเนิบนาบ ราฟีประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าเอาไว้ หากว

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่32 บาดเจ็บ

    "บ้าเอ๊ย!" อาร์มันสบถในลำคอ ก่อนจะพุ่งเข้าเข้าไปตวัดขาใส่คนพูดเป็นแรก ท่ามกลางกลุ่มคนที่มีอาวุธครบมือ ปัง! ปัง! เสียงปืนดังก้องไปทั่วป่า กระสุนวิ่งผ่านหูในระยะประชิดจนทำให้อาร์มันเบี่ยงตัวหลบหลังต้นไม้แทบไม่ทัน เปลือกไม้แตกตามแรงปะทะ ท่อนไม้ในมือศิวะถูกเหวี่ยงออกไปผัวะ! กระทบกับร่างกายของกลุ่มชายในเครื่องแบบอย่างรุนแรง จนเซถอยไปหลายก้าว ฮาร์มันสบโอกาสก็พุ่งเข้าไปตวัดเท้ากระแทกปืนในมือศัตรูจนมันหลุดกระเด็นไป ด้านศิวะก็ไม่น้อยหนาใช้เท้าเตะเสยคางหนึ่งในนั้นจนสลบเหมือดอึก! อาร์มันรีบเข้าเตะซ้ำจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายหมดสภาพแล้ว ก่อนจะหันหลังเข้าหากันเมื่อคนที่เหลือกระจายตัวมาล้อมพวกเขาเอาไว้ "คุณเคยแสดงละครไหม?" อาร์มันหอบหายใจหนัก พลางพูดหยอกเย้าอีกฝ่ายอย่างขี้เล่น"หึ!" ใบหน้าคมเข้มกระตุกรอยยิ้มมุมปากก่อนจะพุ่งเข้าหักแขนศัตรูไปด้านหลัง พร้อมกับรับปืนมาอยู่ในมือ ปัง! เสียงลั่นไกกระทบไหล่ของชายอีกคนดังลั่น แล้วเอี้ยวตัวไปยิงเข้าที่ลำตัวของเขาทันทีโดยใช้ร่างของเพื่อนศัตรูเป็นเกราะกำบัง "เวรเอ๊ย!... ฉันไม่ใช่นักแสดงหนังบู๊นะ" อาร์มันพึมพำเสียงเบาๆ ในใจนึกถึงหน้าลูกเมียเอาไว้เพื่อเป

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่ 31 รู้สึก

    หญิงสาวขยับตัวเล็กน้อย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อรู้สึกถึงความฟกช้ำตามร่างกาย ดวงตาคู่สวยค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น สายตากวาดไปรอบๆด้วยความมึนงง ร่างเล็กยันตัวลุกขึ้นช้าๆ การกระทำของเธออยู่ในสายตาของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกล"ตื่นแล้วสินะ" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นอย่างเนิบนาบ อัมพิกาหันไปมองทางต้นเสียง ศิวะกำลังยืนกอดอกมองหน้าเธอด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก "..." เธอไม่ได้ตอบเขา หญิงสาวเคลื่อนตัวออกมาจากเพิง ก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืน ทว่า... ขาทั้งสองกลับอ่อนแรงจนเธอเกือบจะล้มลง "อ๊ะ!" แต่...วงแขนแกร่งเข้ามาโอบร่างของเธอเอาไว้ก่อนที่เธอจะล้มลงกับพื้น "ระวังหน่อย" ร่างสูงเอ่ยขึ้นมาเสียงดุ ใบหน้าเคร่งขรึมของเขามองเธออย่างคาดโทษ หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น พยายามดันตัวออกมาจากอ้อมกอดของเขา แต่เรี่ยวแรงของเธอก็ช่างมีน้อยเหลือเกิน "อยู่เฉยๆ " เสียงทุ้มดุของเขาเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะช้อนตัวเธอขึ้นมาแนบอก ซึ่งบุคคลที่สามอย่างอาร์มันก็มองภาพตรงหน้าด้วยสายตายิ้มๆ พลางส่ายหน้าเบาๆ "ไหนบอกเป็นแค่เครื่องมือไง" ผู้ช่วยหนุ่มพึมพำเสียงเบา ก่อนจะเดินเข้าหาทั้งสองคน " ให้ผมช่วยไหมครับ?" ศิวะปรายตามองอาร์มันอย่าง

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่30 มุมมืด

    "หนูผิดเอง...หนูผิดเองค่ะ" เสียงสั่นเครือของเธอเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากอย่างแผ่วเบา หญิงสาวกล่าวโทษตัวเองที่เธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องสาวตกอยู่ในอันตราย ถ้าเธอ...ไม่เข้าไปช่วยแม่ค้าคนนั้น น้องสาวของเธอคงจะยืนอยู่ตรงนี้"มันไม่ใช่ความผิดของคุณ อามู" ราฟีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทว่า...คำอธิบายของชายหนุ่มกลับทำให้อีกคนเดือดดาล และรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นเมื่อเรื่องที่ทำให้ลูกสาวของเขาถูกตามล่ามันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง"เพราะแค่เรื่องหยุมหยิมพวกนี้ พวกมันถึงกับตามล่าลูกสาวฉันเลยหรอ" ปราโมทย์แทบสบถออกมา เสียงเย็นเยียบของเขากล่าวออกมาจนราฟีเองก็สัมผัสได้ถึงแรงโทสะที่กำลังปะทุอยู่ในใจของชายสูงวัย "ใช่ครับ" ชายหนุ่มตอบสั้นๆ "พวกมันไม่ใช่แค่เป็นพ่อค้าคนกลางธรรมดา แต่ว่าพวกมันมีเบื้องลึกมากกว่านั้น พวกมันมีเส้นสายกับนักการเมืองท้องถิ่นบางคนและจ่ายส่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เลยไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้เท่าไหร่" "แล้วไอ้คนที่ถูกคุมตัวอยู่มันพูดว่าอะไรบ้าง?" เขาถามกลับ "ตอนแรกก็ไม่ยอมพูดอะไรครับ แต่ว่าพอใช้วิธีนิดหน่อย พวกมันก็เลยยอมพูด" ราฟีหรี่ตามองบิดาของคนรัก พลางยิ้มมุมปากเล็

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status