โมรินสวมชุดนอนเมื่อคืน เธอกำลังเช็ดผมให้แห้งแล้วกลับไปห้องลินิน ร่างสูงเดินเข้ามาหาเธอแล้วยัดสิ่งหนึ่งใส่เสื้อเธอ
“อะไร”“ของเธอทำหล่นไว้”โมรินหยิบของชิ้นนั้นออกมาดู คิ้วงามขมวดชนกันอย่างครุ่นคิด มันคือลิปสติกไม่รู้ว่าไปอยู่กับเขาได้ยังไง“ที่ร้านอาหาร”เขาพูดแค่นั้นใบหน้าหวานก็หันหน้าหนี ไม่อยากนึกถึงเรื่องราววันนั้นโมรินวางพาดผ้าเช็ดผมไว้บนโซฟาแล้วสาวเท้าออกไปจากห้องของเขาโดยเร็ว หญิงสาวกลับมายังห้องของลินิน ทว่าเจ้าตัวก็ยังไม่กลับมา สายขนาดนี้แล้วยังไม่กลับมาอีกเธอจึงขอกลับคอนโดก่อน โมรินเปลี่ยนมาสวมชุดของลินิน กางเกงยีนส์สีขาวกับเสื้อสีชมพูแขนสั้น เธอเอาชุดเดรสสีม่วงใส่ถุงกระดาษไว้ เธอไม่ได้ขับรถมา ต้องหาทางกลับเอง ค่อยลงไปเรียกแท็กซี่ด้านล่างเอาคนตัวเล็กยืนอยู่หน้าลิฟต์ถือถุงกระดาษไว้ในมือ สวมเสื้อสีชมพูแขนสั้นหน้าตาจิ้มลิ้มไม่น้อย ลิฟต์เปิดออกมีคนเดินออกสองถึงสามคน เธอจึงหลีกทางให้แต่ก็ยังไม่วายโดนชนเข้าที่ไหล่ ร่างบางเซถอยหลังไปหลายก้าว มีมือหนึ่งคว้าร่างเธอไว้ โมรินถอนหายใจเฮือกใหญ่คิดว่าเธอจะล้มแล้วโดนเหยีบตายเสียแล้วอลันประคองร่างพวกเขาเดินออกมาจากโรงหนังด้วยกัน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาดูหนังผี แต่การดูหนังผีมันไม่น่ากลัวเลยกลับหวั่นไหวมากกว่า อลันโอบไหล่เธอ โมรินปัดแขนเขาออก “คิดจะเลี้ยงหนังอย่างเดียวหรือไง”หญิงสาวมองเห็นร้านแบรนด์เนมตรงหน้าจึงแสร้งพูดออกมา อลันหยิบแบล็คการ์ดยื่นให้เธอโดยไม่ห่วงสักนิด แล้วเขาก็ยัดมันใส่มือเธอ“ตามสบาย”สีหน้าไร้อารมณ์ปรากฏบนใบหน้าของเขา“นายพูดเองนะ”โมรินยกยิ้มอย่างได้ใจ ก่อนจะเยื้องกรายเข้าไปร้านหรูตรงหน้า เธอซื้อกระเป๋ามาใบหนึ่งแค่เห็นว่าแพงมากจึงหยิบมา โมรินไม่คิดมากเพราะไม่ใช่เงินของเธอ เธอซื้อด้วยเงินของเขาและยังสั่งให้เขาถือให้อีก“ถือให้ด้วยสิฉันต้องซื้ออีกหลายอย่าง”“ได้”ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้ม เขารับถุงกระดาษคราฟท์แบรนด์เนมมาถือไว้อย่างว่าง่าย ก่อนจะเดินตามหลังโมรินไป คราวนี้เธอเข้ามาในร้านแบรนด์เนมอีกร้าน หญิงสาวกวาดตามองไปทั่วตู้กระจก เห็นต่างหูสีเงินเป็นเช็ตเอียร์คัฟฟ์จึงบอกพนักงาน เธอยื่นแบลคการ์ดให้พนักงานแล้วรับกลับมา“ฉันซื้อให้นาย”โมรินส่งถุงกระดาษคราฟท์ให้ชายหนุ่ม เธอตั้งใจซื้อเลือกให้เขา“ใช้เงินฉันซื้อของใ
สามวันที่ผ่านมา หญิงสาวไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมอะไรกับภาคินด้วยซ้ำ นอกเสียจากทานข้าวและเดินเล่น เขาบอกว่าพาเธอมาเที่ยว ส่วนเขาก็พักผ่อนอย่างเต็มที่ ภาคินและโมรินเหมือนคนแปลกหน้าที่ใช้ชีวิตร่วมกัน แค่ทานข้าวด้วยกันสามมื้อ หลังจากนั้นพวกเธอก็แยกย้าย เป็นแบบนี้จนครบสามวันโมรินคิดว่าหลังจากมาเที่ยวครั้งนี้ ความสัมพันธ์ของเขาและเธอจะพัฒนาขึ้นอีก ทว่ากลับไม่เป็นอย่างนั้น ความสนิทสนมลดลงไปมาก เหลือไว้เพียงความเกรงใจและเคารพต่อกันหลังจากลงเครื่องภาคินแวะมาส่งเธอที่คอนโด เขาดีใจมากเพราะทำในสิ่งที่รับปากกับแฟนสาวไว้สำเร็จ เขารับปากว่าจะพาเธอไปเที่ยวทะเล แล้วเขาก็ทำมันไปแล้ว “คราวนี้คงไม่มีเรื่องโกรธพี่แล้วนะ”ภาคินเปิดกระโปรงรถหยิบกระเป๋าเสื้อผ้ายื่นให้แฟนสาว“ขอบคุณค่ะ”โมรินรับมาถือไว้แล้วกล่าวขอบคุณเขา ทั้งสองเงียบงันใส่กัน หญิงสาวรู้สึกอึดอัดจึงขอกลับขึ้นคอนโดไป เธอถอนหายใจราวกับยกภูเขาออกจากอก สามวันที่ผ่านมาเธอรู้สึกอึดมาก ระหว่างเธอกับภาคินไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ในหัวของเธอคิดเรื่องบอกเลิกขึ้นอีก เธออยากจะพูดคำนี้กับเขาให้ชัดเจนอีกครั้ง โมรินไม่เคยคิดว่า
เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังไม่ขาดสาย บานหน้าต่างที่ถูกเปิดทิ้งไว้เมื่อคืนตอนนี้กลับปิดสนิท แสงแดดจากเบื้องนอกส่องกระทบกับหน้าต่างเข้ามาภายในห้อง ควันบุหรี่ลอยคลุ้งอยู่บนอากาศ ร่างสูงนั่งพิงหัวเตียง ท่อนลางปกปิดด้วยผ้าห่มผืนใหญ่ ยังมีหญิงสาวใต้ผ้าห่มอีกคนที่ยังนอนไม่ได้สติอยู่ข้างกายดวงตาคมหรี่ตามองใบหน้างดงามข้างกายแล้วพ่นควันบุหรี่ออกทางจมูกอีกครั้ง ติ่ง ติ่ง เสียงคนกดออดหน้าประตูห้องดังขึ้น อลันนิ่งเฉยราวกับไม่ได้ยินเสียง เหมือนว่าคนหน้าห้องจะไม่ลดละเขากดอีกหลายครั้ง จนหญิงสาวข้างกายได้ยินเสียงรัวของออดประตูนัยน์ตาตาคู่งามปรือตาตื่น เห็นดวงหน้าขาวสะอาดราวกับรูปปั้นชั้นยอดกำลังมองมาทางเธอ โมรินดึงสติกลับมา จึงลุกขึ้นดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดเนินอกไว้ ติ่ง ติ่ง “ใครมา”เธอได้ยินเสียงออดประตูอีกหลายครั้งจึงถามชายหนุ่มข้างกายอย่างสงสัย“กิ๊กเธอไง”ใบหน้าคมคายปรายตามองเธอ ผมของเขายุ่งเหยิงจนแทบจะปิดตาอยู่แล้ว โมรินได้ยินคำพูดของเขาก็ดีดตัวลุกจากเตียงนอนทันที คว้าผ้าเช็ดตัวที่หล่นอยู่บนพื้นข้างเตียงขึ้นมาห่อตัว“ทำไมไม่ปลุกฉัน”เธอตำหนิเขาแล้ววิ่งเข
โมรินและอลันนั่งด้วยกันจนจบงาน ทุกคนที่สนุกกันสุดโต่งก็เริ่มแยกย้ายกลับห้องของตัวเอง โมรินสติยังครบถ้วน เธอดื่มไปแค่ขวดเดียว จึงไม่มีอาการอะไรมากนอกจากปวดหัวนิดหน่อยเสื้อแจ็คเก็ตสีดำถูกคลุมลงบนไหล่เธอ โมรินหันมองชายหนุ่ม เขายกแขนพาดบ่าคนตัวเล็กแล้วเดินไปพร้อมกัน “เดี๋ยวแฟนฉันเห็น”โมรินเอ่ยเตือน อลันแสร้งไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอพูด เขาล้วงบุหรี่ออกมาสูบ ต่างหูสีเงินของเขาสะท้อนแสง ใบหน้าคมพ่นควันบุหรี่ระหว่างเดินกลับที่พัก“นายพักที่ไหน”ไร้เสียงตอบกลับ มีเพียงควันบุหรี่ที่ลอยคลุ้งในอากาศเป็นคำตอบ ทั้งสองเดินไปพร้อมกันอลันมาส่งเธอถึงหน้าห้อง โมรินมองซ้ายมองขวาอย่างระแวง เธอกลัวภาคินจะเปิดประตูออกมาเห็นเข้าโมรินเปิดประตูเข้าไปในห้อง เธอหันมองร่างสูงแล้วเอ่ยบอก“ขอบคุณที่มาส่งรีบกลับไปได้แล้ว เดี๋ยวมีคนเห็น”อลันแทรกเข้าไปภายในห้องโดยไม่สนใจคำพูดของเธอ โมรินเบิกตากว้างอย่างตกใจ“นายคิดจะทำอะไร”นัยน์ตาคมกริบตวัดมองร่างบางที่ยืนขวางทางเขา ชายหนุ่มเบียงตัวหลบไปอีกทาง เขาถอดเข็มขัดออกเป็นอย่างแรกวางลงบนโต๊ะ “นอนไง”โมรินได้ยินคำตอบก็ร้อนรน
ทั้งสองเดินจับมือเล่นด้วยกันริมหาด คืนนี้จะมีปาร์ตี้ริมทะเลด้วย โมรินสวมหมวกบักเก็ตถักทรงกลม ช่วงเย็นเริ่มมีทีมงานเข้ามาจัดสถานที่สำหรับคืนนี้แล้ว จึงถามแฟนหนุ่มว่าเขาจะออกมาเที่ยวเล่นกับเธอไหม“พี่คินจะออกปาร์ตี้ไหมคะ”“ไม่ละ พี่ว่าจะอ่านหนังสือต่ออีกหน่อย”เขามีหนังสือที่อ่านค้างไว้หลายเล่มต้องรีบอ่านแล้วเขียนวิจัยต่อให้เสร็จ “คะ”ดวงหน้างามยิ้มเจือน เธออยากจะพูดอะไรบางอย่างทว่ากลับกลืนคำพูดเหล่านั้นลงคอไป คืนนี้เธอคงต้องมาสนุกคนเดียวสินะ มาพักผ่อนแท้ๆแต่ไม่รู้สึกว่าพักผ่อน จะเคืองเขาก็ไม่ได้ พักผ่อนสำหรับเขาคงมีหลากหลายแบบภาคินเดินมาส่งเธอที่ห้อง โมรินลังเลใจอีกครั้งอยากจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจเหลือเกิน “พี่คินคะ”ร่างบางหรี่ตาลง เอ่ยเรียกเขาให้หยุดก่อน“ครับ”ภาคินชะงักฝีเท้า เขาหันกลับมามองแฟนสาวยืนแน่นิ่งอยู่ตรงหน้า โมรินแหงนหน้ามองภาคินอีกครั้ง ผมของเขาถูกปัดขึ้นไปข้างหลัง นัยน์ตาสีดำสนิท ในดวงตาคู่นั้นมีความเคร่งขรึมแฝงอยู่ เพียงแค่ปรายตามองก็รู้สึกกดดันขึ้นมา“มีอะไรหรือเปล่า”ภาคินเห็นแฟนสาวมองหน้าเขาแล้วไม่ปริปากพูดอะไรจึงสงสัย “พ
โมรินและภาคินเข้าไปเช็คอินห้องพักกับทางโรงแรมเขาจองไว้สองห้องอย่างที่ว่า “พี่คินไม่อยากนอนห้องเดียวกับโมเหรอคะ”เธอถามเขาตรงๆ โมรินรินยังนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เขาตำหนิเธอ คำพูดนั้นทำให้เธอเสียหน้าจนไม่อยากจะเห็นหน้าเขาอีกแต่เห็นที่เขาอุตส่าห์ลางานพาเธอมาเที่ยวภูเก็ต ที่จริงเธอคิดว่าทริปนี้คงไม่สำเร็จแน่ แต่สุดท้ายก็มาถึงที่พักโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างเรียบง่ายไปหมด ไม่เหมือนที่ผ่านมา“โมคิดมากอีกแล้ว พี่ไม่อยากรบกวนโม”คำพูดคำจาของเขาดูเหมือนจะเกรงอกเกรงใจ ทว่ากลับดูห่างเหินเหมือนพี่ชายพาน้องสาวมาเที่ยว“คะ”เธอตอบสั้นๆสุดท้ายก็เป็นความผิดของเธอ เป็นเธอที่คิดมากไป คิดมากมาตลอด ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มถดถอยลงมาห้องของโมรินและภาคินอยู่ตรงข้ามกัน พนักงานยกกระเป๋าใบเล็กเข้ามาวางไว้ในห้องให้เธอ โมรินแหวกผ้าม่านออก มองผื่นน้ำสีฟ้าครามกว้างขว้างสุดลูกหูตาเธอสูดบรรยากาศเบื้องหน้าเข้าเต็มปอด เธอมาถึงใกล้ช่วงเย็นแล้ว ลมแรงโชยพัดจนคลื่นทะเลลูกใหญ่สัดเข้าฝั่ง โมรินมองน้ำทะเลอยู่ตรงบริเวณหน้าต่าง สายลมกระทบเข้ากับดวงหน้างามจนแพขนตางอนงามต้องหรี่ตาลง เส้นผ