โรงพยาบาลทูว์เอ็นวาย
หมอไนยะนั่งเอามือเท้าแก้มอยู่ที่โต๊ะทำงาน ในหัวก็คิดเห็นแต่ใบหน้าเรียบร้อยอ่อนหวานของคนในความฝัน กับ หน้าตาทะเล้นซุกซนของวรรณิหลาที่อยู่กับตัวเขาในตอนนี้
“ หรือว่าจะไม่ใช่คนเดียวกันนะ แต่หน้าก็เหมือนกันขนาดนั้นจะไม่ใช่ได้อย่างไร จะบอกว่าคิดเยอะจนเก็บไปฝันก็ไม่น่าใช่ ในเมื่อเราก็ไม่เคยเจอณิหลามาก่อนหน้านี้ แต่ที่ฝันเห็นหน้ากลับชัดมาก “ เขาเริ่มถกเถียงไปมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ในหัวของตนเอง
“ เฮ้อ ช่างมันเถอะ ตอนนี้เราก็มีณิหลาในชีวิตแล้วนี่ “ เมื่อนึกถึงเธอแล้วเขาก็อมยิ้ม เจ้าเด็กแสบ วันนี้ทำคุณแม่ของเขาไว้เสียแสบเชียว
“ คุณหมอคะ คนไข้ที่นัดไว้มาถึงแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังรอคุณหมออยู่ “ พยาบาลเดินเข้ามาแจ้งกับเขา
“ อืม ขอบคุณนะนารา เดี๋ยวผมออกไป “ เขาลุกพรวดพราดหมดเวลามานั่งพักนั่งคิดถึงเธอแล้ว มือหนาหยิบเสื้อกาวน์มาสวมใส่ แล้วจึงเดินตามพยาบาลออกไป
ที่บ้านของคุณหมอไน
ณิหลานั่งเอามือเท้าคางอยู่ที่บันได ชะเง้อหน้ามองออกไปข้างนอก
“ เฮ้อ อยู่แบบนี้ไม่รู้จะทำอะไรเลย น่าเบื่อ คิดถึงกระดาษ คิดถึงพู่กัน พี่หมอจะกลับมากี่โมงนะ “ พูดจบก็ลุกยืนเดินไปเดินมา
“ ณิหลาอยากไปเอาของอะ “
กริ่ง เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ทำให้หญิงสาวสนใจหันไปมองที่ประตูรั้ว เธอเดินออกไปดูหลังเห็นว่ามีใครบางคนยืนอยู่ที่หน้าบ้าน ณิหลาสังเกตชายตัวสูงที่ยืนหันหลังอยู่ เธอเปิดประตูรั้วออก เสียงประตูจึงทำให้เขาคนนั้นหันมามอง สองคนจ้องหน้ากันไปสักพักด้วยความสงสัยใคร่รู้
“ พี่สากรณ์ “ ณิหลาที่นึกออกก่อนจึงรีบทักทายเขา ทำให้คนฟังตาโตเหมือนจะจำเธอขึ้นมาได้
“ วิสาเหรอ? “ ชายหนุ่มครุ่นคิดก่อนจะถามกลับหญิงตรงหน้า
“ ไม่ใช่! “
“ อ่อ ถ้าไม่ใช่วิสาก็ต้องเป็นณิหลา “ หญิงสาวยิ้มออกทันทีเมื่อเห็นว่าเขาจำเธอได้
“ แล้วนี่พี่มาผิดบ้านเหรอ นึกว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านไอ้หมอไนยะเสียอีก “ คนงงถามกับคนตรงหน้าที่กำลังคิดหนัก
“ ใช่ บ้านหลังนี้เป็นบ้านหมอไนยะค่ะ “
“ อ้าว แล้วณิหลามาอยู่นี้ได้ไง เป็นเมียมันเหรอ “ สากรณ์ถามด้วยความตกใจ ณิหลาจึงรีบปฏิเสธ
“ ไม่ใช่ ไม่ใช่ “ เป็นเช่นนั้นวรรณิหลาจึงได้ชวนเขา มานั่งคุยกันที่โต๊ะหินหน้าบ้าน
“ พี่เสียใจด้วยนะเรื่องวิสา ไม่คิดเลยว่าวิสาจะเอาอายุมาสั้นขนาดนี้ เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก แล้วพี่ถามได้มั้ยว่าวิสาเป็นอะไรถึงได้จากไป “ สากรณ์หันมาถามคนที่นั่งก้มหน้าอยู่ มือของเธอเกร็งจับหยุมที่กางเกง
“ ณิหลาเองก็ยังยอมรับ สิ่งที่ทำให้วิสาจากไปไม่ได้ คนที่มันทำมันก็ยังไม่ได้รับผิด “ เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะร้องไห้ สากรณ์ที่รู้สึกไม่ดีจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ อืม ถ้าณิหลาไม่อยากพูด ก็ไม่ต้องบอกพี่ก็ได้ แต่ว่าณิหลากับไอ้หมอไนเถอะ เป็นอะไรกันแน่ “ ณิหลารีบปาดน้ำตา เงยหน้าขึ้นมามองสากรณ์พร้อมรอยยิ้มแห้ง เพราะเธอไม่รู้จะตอบคำถามนี้อย่างไรเช่นกัน
“ เอ้อ นั่นไง พี่หมอมาพอดี “ โชคดีที่คุณหมอหนุ่มคนที่ทั้งคู่พูดถึงขับรถเข้ามาจอดที่หน้าบ้านพอดี
“ ผู้ชายที่ไหนวะ “ หมอไนยะรีบลงจากรถแล้วเดินไปหาทั้งคู่
“ กูก็นึกว่าจะไม่ได้เจอมึงแล้วน่ะเนี้ยวันนี้ “ สากรณ์รีบทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง ต่างจากคนถูกทักที่มองกลับอย่างไม่เป็นมิตร แถมยังรีบดึงณิหลาให้ลุกจากเก้าอี้ยาวข้างสากรณ์ ให้รีบมายืนข้างเขา
“ มึงมาทำไม “ คำทักของเพื่อนหมอทำเอาสากรณ์ลุกยืน
“ โธ่ เพื่อนกันเขาทักทายกันแบบนี้เหรอวะ “ วรรณิหลาที่เหมือนจะได้กลายเป็นคนกลาง มองทั้งคู่สลับกัน พวกเขาสองคนตัวสูงเท่ากันเลย แต่ทำไมดูทรงแล้วเหมือนจะไม่ถูกกันแบบนี้ล่ะ
“ มึงมีอะไรจะคุยกับกูก็ว่ามา กูไม่อยากให้มึงอยู่ที่นี้นาน “
“ กูก็แค่แวะมาทักทาย เพราะแม่มึงย้ายกูมาทำงานที่นี่ เลยคิดว่าเราสองคนคงได้เจอกันทุกวัน ว่าจะมาชวนไปดื่มเบียร์เย็นๆ รื้อฟื้นความหลัง “
“ เฮ้อ มึงพูดเหมือนกูเคยไปกับมึงสักครั้งงั้นแหละ “ สากรณ์ยิ้มกว้าง เขานึกไว้แล้วว่าไอ้เพื่อนเก่าคนนี้ต้องพูดแบบนี้
“ ก็แค่มาลองชวนดู แต่ถึงวันนี้มึงจะไม่ไปกับกู แต่กูก็โชคดีที่ได้มาเจอณิหลาที่นี้ “ สากรณ์พูดแล้วก็หันหน้าส่งยิ้มให้วรรณิหลา เธอก็ยิ้มตอบเขา จนไนยะเริ่มไม่ชอบใจ
“ ไว้เจอกันใหม่น่ะณิหลา “ สากรณ์ยกมือลาวรรณิหลาแล้วก็เดินกลับออกไป
“ ณิหลารู้จักมันเหรอ “ ไนยะรีบหันมาถามคนข้างกายด้วยสีหน้าไม่พอใจ วรรณิหลาก็พยักหน้าให้
“ อือ เราเคยอยู่บ้านใกล้กัน ช่วงตอนณิหลา 7-10 ขวบนี่ละ “ เธอก็ตอบกลับเขาด้วยความไม่มั่นใจเท่าไหร่นัก
“ ถ้าอย่างนั้นน้องก็อย่าไปวุ่นวายกับมันอีกเข้าใจมั้ย “
“ ทำไมล่ะคะ? “ เธอจ้องมองใบหน้าจริงจังของเขา
“ ก็…เพราะน้องรู้จักมันตั้งแต่ตอนเป็นเด็กไง แต่พี่รู้จักกับมันตอนโตแล้ว พี่รู้ว่ามันเลวขนาดไหน พี่ไม่อยากให้น้องไปเป็นเหยื่อของมันอีกคน “ คนฟังมึนงงกับสิ่งที่เขาพูดมากๆ แต่เธอก็ทำเป็นพยักหน้ารับเพื่อให้เขาสบายใจ
“ แล้วนี่กินข้าวเย็นหรือยัง ไปกินข้าวกับพี่ที่บ้านแม่ไหม “
สองร่างยืนเบียดกันอยู่ที่ประตูกระจกทางออกไปยังระเบียงห้องหอ คุณหมอสวมกอดภรรยาของเขาแนบแน่นแล้วจรดจมูกหอมลงบนแก้มนิ่มหอมแล้ว ก็หอมอีก เหมือนกับว่ามันไม่อาจเพียงพอต่อความต้องการในตัวเขา“ พี่หมอ ณิหลาจั๊กจี้น่า “ หญิงสาวเบี่ยงตัวหนีพร้อมเดินออกมาจากอ้อมแขนของเขา ไนยะเห็นเช่นนั้นก็เผยยิ้มรีบปิดผ้าม่านเอาไว้แล้วจ้องมาที่ร่างบาง“ พี่หมอ วันนี้งดไม่ได้หรือคะ “ “ บ้า วันนี้วันเข้าหอนะ ขนาดวันธรรมดาพี่ยังทำทุกคืน วันเข้าหอแบบนี้พี่จะพลาดได้ยังไง “ เขาเดินมายืนต่อหน้าของหญิงสาว ณิหลาก้มหน้าหงุดคิดหาทางรอด “ งั้นณิหลาไปอาบน้ำก่อนนะคะ “ หญิงสาวว่าจบก็รีบจับผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ “ เฮ้ยเดี๋ยว! น้องคิดว่าจะหนีพี่พ้นเหรอ “ เขาก็รีบวิ่งตามเธอเข้าไป ผ่านไปหลายชั่วโมงสองร่างของคู่รักก็มานอนกอดกันอยู่บนเตียง “ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าวันที่ณิหลาถูกวางยาแล้วมาเจอกับพี่..จะทำให้เรามีวันนี้ “ หญิงสาวที่นึกคิดถึงความหลังเรื่องราวเลวร้ายและคนชั่วร้ายที่เคยเข้ามาในชีวิตเธอ บัดนี้มันได้หายไปหมดสิ้น ทุกคนที่เคยทำร้ายเธอต่างได้รับโทษกรรม บ้างก็ติดคุกบ้างก็หายสาบสูญ เหลือไว้ก็แค่คนที่ดีและรักเธอจริงๆ หน
หลายวันต่อมาคุณหมอณัฐชัยเพิ่งกลับมาจากทำงาน ลงจากรถเขาก็รีบออกตามหาเมียไปทั่วบ้าน“ ณิหลาครับพี่กลับมาแล้ว ไปไหนเนี่ย ? “ เมื่อหาจนทั่วแล้วไม่เจอเธอ เขาจึงจะเดินไปหาที่บ้านแม่ แต่ทว่าเมื่อเขาเดินออกมายังหน้าบ้าน ก็เห็นว่าที่ภรรยาเดินกลับมาจากจุดหมายที่เขากำลังจะไปพอดี “ ทำไมมาสภาพนี้? “ ไนยะเดินเข้าไปประคองเธอที่กำลังเดินเซ ใบหน้าแดงแจ๋เพราะฤทธิ์เมา หญิงสาวซบลงตรงหน้าอกของคนตรงหน้า ไนยะก็รีบกอดเธอเอาไว้ “ แม่ชวนไปเลือกบัดเชิญงานแต่งมานะคะ แล้วคุณแม่ก็เอายาดองสูตรเด็ดมาแบ่งณิหลาจิบๆ “ มือน้อยยกขึ้นจับจีบตรงหน้าแฟนเพื่อจะบอกเขาไปว่าจิบแค่นี้ “ นี่แม่ชวนน้องเมาเหรอ “ “ ใช่ แต่แค่นิดหน่อยเอง จิบๆ “ “ ไม่จิบ ไม่หน่อยแล้วมั้งแบบนี้นะ “ เขาอุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าหญิง แล้วพามาส่งที่โซฟาในบ้าน เมื่อวางเธอนั่งลงปุ๊บมือเล็กก็ทาบลงตรงหว่างขาของเขาทันที “ หยุดๆ ณิหลา !” เขารีบปรามเธอที่กำลังบีบตรงนั้นของเขาเล่น จนเขาเกิดมีอารมณ์“ ทำไม? มันแข็งแล้วนี่ค่ะ “ ไนยะรีบดึงแขนของเธอออกจากเป้าเขา“ อย่าดื้อได้มั้ยตัวแสบ “ แต่คนเมาหาได้ฟังเขาไม่ มือเล็กดึงเขามานั่งข้างเธอจากนั้นจึงซุกหน้าลงหว่างขาของเขา
“ พี่หมอตื่นได้แล้ว มันจะแปดโมงแล้วนะคะ “ ณิหลาที่ตื่นมาได้สักพักแล้ว รีบปลุกคนที่ยังคงหลับคาเต้าของเธอให้มีสติ“ พี่ไน!!! “ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ขยับเธอจึงตะคอกใส่เขาเสียงดัง จนชายหนุ่มสะดุ้งลืมตา“ หา ห๊ะ!! “ ไนยะโงหัวขึ้นมาจ้องหน้าเมีย “ อีกสิบนาทีจะแปดโมง วันนี้ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลเหรอ “ มือใหญ่ยกขึ้นลูบผมตัวเองที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ดวงตาที่กึ่งหลับกึ่งตื่นโตขึ้น“ ไปสิ พี่มีนัดผ่าตัดตอนเก้าโมงด้วย “ เขาคลานลงจากเตียงแล้วยืนบิดขี้เกียจ วรรณิหลาจ้องเขาด้วยใบหน้าร้อนผ่าว เหตุเพราะเขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แล้วเจ้านั้นมันก็แกว่งไปแกว่งมาเวลาที่เขาขยับ“ พี่อาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวจะไปไม่ทัน “ คนโดนมองไม่รู้ตัวเลย เขารีบจับเอาผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทำให้หญิงสาวได้สติ รีบส่ายหน้า“ พี่ให้ณิหลาเตรียมอะไรไว้ให้กินมั้ยคะ “ “ ไม่เป็นไร น้องนอนต่อเถอะ “ ณิหลานั่งอมยิ้มมองไปที่ประตู ซึ่งที่เป็นแบบนี้เพราะเมื่อคืนแม้จะเคลิ้มหลับกันไปแล้ว แต่ตอนเขาหายเหนื่อยได้สติตื่นขึ้นมา เขาก็สะกิดเธอทั้งคืน คิดได้แบบนั้นเธอก็เปิดผ้าห่มก้มมองหว่างขาตัวเอง ที่ตอนนี้เหมือนมันจะปวดแสบปวดร้อนไปหมด เขากะจะให้เธ
บ้านคุณหมอ“ ณิหลาครับ “ คุณหมอณัฐชัยที่เพิ่งจะอาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จ เดินเข้ามาหาแฟนสาวที่กำลังยืนเหม่ออยู่ตรงระเบียงห้องนอน เมื่อร่างของเขาเดินมาถึงตัวเธอก็เข้าแนบชิดด้วยการสวมกอดใบหน้าคมซุกใส่ซอกคอขาวเพื่อสูดดมคนรัก“ เหม่ออะไรอยู่ครับที่รักของหมอไน “ เขาจรดจมูกหอมไปที่แก้มของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้ากินได้เขาคงจะกลืนเธอลงท้องไปแล้ว “ พี่หมอ กลืนณิหลาลงท้องไปเลยไหมคะ “ “ ถ้าทำได้พี่ก็คงทำไปนานแล้วละ แต่น้องยังไม่ให้คำตอบพี่เลยนะ ว่ายืนคิดอะไรอยู่ “ มือใหญ่สองข้างจับที่ราวระเบียงแล้วให้คนตัวน้อยอยู่ตรงกลางระหว่างแขนของเขา“ ณิหลาก็แค่กำลังคิด เรารู้จักกันมาได้แค่ 3-4 เดือนแต่จะแต่งงานกันแล้ว ณิหลาเลยอยากรู้ว่าอะไรทำให้พี่หมอคิดว่า ณิหลาคือคนที่ใช่ของพี่ คนที่พี่อยากแต่งงานด้วย “ ร่างเล็กหันมาแล้วเงยหน้าจ้องคนที่เธอถาม “ ก็คงจะเป็นคำตอบเดียวกัน ถ้าพี่ถามน้องกลับว่าทำไมน้องถึงได้ตกลงจะแต่งกับพี่ “ คนฟังเผยยิ้ม “ ก็เพราะความรู้สึกยังไงละค่ะ เพราะณิหลารู้สึกอยากแต่งแล้วก็ใช้ชีวิตร่วมกับพี่ “ คนพี่ก้มลงมาจ้องตากลม“ ใช่ พี่เองก็รู้สึกแบบเดียวกับน้องนั่นแหละ ถึงได้ขอน้องแต่งงาน เพราะพี่เอ
“ เอ้า ยืนยิ้มกันอยู่นั้นแหละ “ หนึ่งเดียวที่เห็นเพื่อนมัวแต่ยืนเขินจ้องหน้าณิหลา จึงยื่นมือมาดันหลังให้เพื่อนขยับเข้าไปใกล้มากขึ้น ไนยะอมยิ้มเขินให้คนตรงหน้าเล็กน้อย “ ณิหลา รู้มั้ยครับ ว่าวันนั้นพี่รอดมาได้ยังไง “ เสียงทุ้มแผ่วถาม คนฟังก็ส่ายหน้า “ เพราะเสียงของน้อง ณิหลา เสียงของน้องเป็นแสงนำทางให้พี่กลับมา แล้วนี่ ดอกไม้สำหรับผู้หญิงของหมอไนครับ “ เขายื่นช่อดอกไม้ในมือส่งให้เธอ น้องก็เผยยิ้มให้แล้วรับมา “ ทำไมถึงเป็นดอกเดซี่ด้วยล่ะคะ “ “ น้องไม่รู้ความหมายของมันเหรอ “ “ ถ้าอยากให้รู้ก็บอกมาสิคะ “ “ ดอกเดซี่ หมายถึงเราจะอยู่ให้กำลังใจ และอยู่เคียงข้างกันตลอดไป แทนความรู้สึกของพี่ที่มีต่อน้อง แต่งงานกับพี่นะครับ “ เขาจับแหวนเพรชขึ้นมาโชว์ต่อหน้าเธอ หญิงสาวรีบยกมือปิดปากด้วยความซาบซึ้งตาของเธอแดงก่ำแต่บ่งบอกว่าเต็มไปด้วยความสุข หน้ามนรีบหันไปมองสนุ๊กกับพลอยซึ่งเป็นดั่งครอบครัวของเธอที่ยังเหลืออยู่ ทั้งสองคนรีบพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้ม “ ตกลง ณิหลาแต่งค่ะ “ เสียงหวานสั่นหันมายิ้มให้คนตรงหน้า ไนยะเห็นแบบนั้นก็รีบสวมแหวน พร้อมกับรีบสวมกอดเธอท่ามกลางเสียงตบมือยินดีของทุกคน“ เสี่ยคะ
สองอาทิตย์ต่อมา บ้านของหมอไนยะวรรณิหลาในชุดเดรสลูกไม้สีขาวยืนซึม เก็บหนังสือเรียน หนังสือการ์ตูนในตู้หนังสือของหมอไนยะออกมาใส่กล่อง “ ณิหลา เสร็จหมดหรือยัง “ ครีมหอมเดินเข้ามาหาณิหลาในบ้าน คนโดนเรียกรีบหันไปจ้องคนมาใหม่ “ อ้าว มากันแล้วเหรอ “ “ อืม ตอนนี้แม่ณัฐกับพี่เจนรออยู่ที่รถ เสร็จหมดแล้วหรือยัง มีแค่สองกล่องนี้เหรอ “ ครีมหอมจ้องมองที่กล่องบนโต๊ะ แล้วรีบช่วยณิหลาอุ้มเอากล่องออกมา“ แล้วพลอยกับลุงสนุ๊กของเราไปหรือยัง “ ณัฐลีถามเมื่อทั้งหมดขึ้นรถกันมาแล้ว “ เห็นว่าออกมาแล้ว ป่านนี้ก็คงจะถึงแล้วละค่ะ “ ณิหลาหันไปตอบคุณหญิง จากนั้นในรถก็เงียบไป เพราะคนพูดเก่งอย่างพลอยเจนต้องตั้งใจขับรถ ครีมหอมก็นั่งอยู่ด้านหน้า ทำให้ด้านหลังที่มีเพียงสาวอายุเยอะ กับวรรณิหลาที่ยังซึมๆ จึงไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรกันมากนัก เมื่อรถขับใกล้ถึงโรงพยาบาล ณิหลาก็เกิดความสงสัย “ เราแค่มาแจกของให้เด็ก ทำไมต้องแต่งตัวชุดสวย หรูหราอย่างกับจะไปงานแต่งด้วยล่ะคะ “ หญิงสาวพูดพร้อมกับรอยยิ้มขบขันไม่เข้าใจ ครีมหอมกับพลอยเจนที่นั่งอยู่ข้างหน้าก็หันไปจ้องหน้ากันแล้วแอบอมยิ้ม“ เดี๋ยวพอเราไปถึงก็รู้เองแหละณิหลา “ ณ