5 ปีผ่านไป
ตอนนี้สถานการณ์ครอบครัวของหลี่เหมยก็เข้าที่เข้าทางแล้ว ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น และตอนนี้ลูกฝาแฝดของเธออย่างหยางกวนโม่กับหยางเสี่ยวเหมยก็อายุครบห้าขวบในวันนี้ ดังนั้นวันนี้ที่บ้านตระกูลหยางจึงครึกครื้นมากเป็นพิเศษ เพราะสมาชิกทั้งสองครอบครัวลงไปจัดเตรียมสถานที่ตั้งแต่เช้ามืด แขกที่มาก็จะเป็นทั้งญาติพี่น้อง และคู่ค้าที่มีสัมพันธ์อันดี
แต่ในห้องนอนของหยางอี้ข่ายนั้นมีแสงส่องผ่านผ้าม่าน
สีฟ้าอ่อนเข้ามาเล็กน้อย และในห้องนั้นก็กำลังร้อนระอุกับบทรักยามเช้าที่สามีกำลังมอบให้ภรรยา“อา....เสียวมากครับอาเหมย ไม่ว่ากี่ปีผ่านไปน้องก็ทำให้มีความสุขทุกครั้ง” หยางอี้ข่ายถึงกับแหงนหน้าครางออกมาอย่างสุขสม
“ฮึก...ฉันก็เสียวและมีความสุขค่ะ แต่พี่ต้องทำเวลาหน่อยนะ ตอนนี้ทุกคนตื่นแล้ว ซี้ดดด!” หลี่เหมยที่ตอนนี้อยู่ในท่าคุกเข่าหันก้นให้สามีอัดกระแทกแก่นกายเข้าในร่องเสียว เธอครางด้วยความเสียวซ่าน เมื่อตอนนี้สะโพกหนากระแทกใส่เธอไม่ยั้ง
ตับ ๆ ตับ ๆ ตับ ๆ
“โอ้ววว พี่ก็พยายามอยู่ แต่พี่อยากมีความสุขกับอาเหมยนาน ๆ พี่รักอาเหมยที่สุด จุ๊บ!”
ชายหนุ่มที่แหงนหน้าครางได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งจับเอวบางไว้แน่นแล้วกระแทกใส่เร็วขึ้น หนักหน่วงขึ้น
เขาก้มลงจูบซอกคอของภรรยา ก่อนจะหยัดกายขึ้นมากระแทกต่อ
ตับ ๆ ตับ ๆ ตับ ๆ
“อา...เสียวมาก น้องจะไม่ไหวแล้ว”
หลี่เหมยครางออกมาเสียงดังลั่น ก่อนจะนึกขึ้นได้ก็พยายามดึงผ้าห่มมาอุดปากตัวเองไว้ เพราะกลัวเสียงเล็ดลอดออกไป
“มา...พี่จะช่วยให้เสร็จเร็ว ๆ” หยางอี้ข่ายพูดจบก็ปล่อยมือจากเอวบางไปดึงแขนของภรรยามาข้างหลังทั้งสองข้าง ทำให้หน้าของเธอเชิดขึ้น
ตับ ๆ ตับ ๆ ตับ ๆ
หยางอี้ข่ายเร่งจังหวะเร็วขึ้นอย่างที่บอกภรรยา เพราะเขาก็รู้ว่าอีกไม่นานสองแสบจะต้องมาที่นี่แน่
“อึก อึก พี่..อี้ข่าย...เร็ว ๆ เลยค่ะ ไม่ไหวแล้วอา...”
หลี่เหมยบอกสามีเสียงสั่น ๆ เธอพยายามที่จะไม่ส่งเสียงออกมา แม้ว่าเธอจะเสียวแค่ไหน เพราะขนาดเธอยังได้ยินเสียง
คนข้างล่าง แล้วคนข้างล่างจะไม่ได้ยินเสียงเธอได้ยังไง“งั้นอาเหมยมานี่”
พูดจบสามีก็พลิกตัวภรรยาให้นอนหงาย เขาจับขาของเธอพาดคอไว้ ก่อนจะก้มลงไปกอดภรรยาไว้ และจูบปิดปากเธอเพื่อไม่ให้เธอเผลอกรีดร้องออกมา
สะโพกหนาของชายหนุ่มกระแทกใส่ร่องเสียวอย่างหนักหน่วง โดยไม่สนใจที่ภรรยาจิกเล็บลงที่ศีรษะ และตามร่างกายของเขาจนน่าจะเลือดซิบ
จ๊วบ ๆ จ๊วบ ๆ
ตับๆ ตับๆ ตับๆ
เสียงจูบปากอย่างดูดดื่ม เหมือนจะสูบวิญญาณของกันและกัน กับเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้องนอนที่อยู่ชั้นสอง
“อืมมมพี่อี้ข่าย เร็ว ๆ เลยค่ะ จะไม่ไหวแล้ว”
หลี่เหมยดึงหน้าออกมาพูดเสียงกระเส่า สองสายตาสบกันในระยะประชิด ทำให้หยางอี้ข่ายอดไม่ได้ที่จะล็อกท้ายทอยเธอไว้แล้วจูบอย่างดูดดื่ม
“พี่รักอาเหมยนะ รักมาก รักที่สุด” เขาบอกรักข้างใบหูเล็กไม่หยุด เหมือนกับที่อัดกระแทกแก่นกายใส่ร่องเสียวไม่หยุดเช่นกัน
“ซี้ดดด! ไม่ไหวแล้ว อา...” ไม่นานก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากคนใต้ร่าง ทำให้หยางอี้ข่ายรู้ว่าภรรยาเสร็จสมไปก่อนเขาแล้ว
“ทำไมไม่ทำต่อล่ะคะ พี่จะเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอคะ”
หลี่เหมยถามขึ้นเบา ๆ เมื่อสามีลดความเร็วลงเล็กน้อย เขาควรจะรีบอัดใส่ เพื่อจะได้เสร็จไปพร้อมกันสิ
“ไม่ล่ะ พี่อยากมีความสุขกับอาเหมยอีก” เขาตอบอย่างเจ้าเล่ห์ และเริ่มโยกสะโพกต่อ
“แต่เดี๋ยวเราต้องลงไปข้างล่างแล้วนะคะ วันนี้เป็นวันเกิดลูก ๆ ด้วยนะ” หลี่เหมยที่รู้คำตอบของสามีก็บอกเขาเหมือนจะไม่ยอม แต่สองมือก็ยกขึ้นคล้องคอสามีไว้
“ก็พี่กำลังทำของขวัญให้ลูกอยู่นี่ไงครับ” หยางอี้ข่ายตอบอย่างกรุ้มกริ่มและเพิ่มความเร็วของการอัดกระแทกแก่นกายใส่ร่องเสียวไปด้วย
“ของขวัญอะไรคะ” หลี่เหมยที่เด้งสู้เหมือนกันก็ถามขึ้นอย่างสงสัย
“พี่กำลังทำน้องให้ลูก ๆ อยู่ หมอบอกว่าปั่นให้น้ำเชื้อเยอะ ๆ ก่อนค่อยปล่อยทีเดียว จะมีโอกาสทำให้ภรรยาตั้งท้องสูง พี่ถึงต้องกักไว้เยอะ ๆ ก่อน”
ชายหนุ่มตอบออกมา เพราะผ่านมาห้าปีแล้ว เขาขยันร่วมรักกับภรรยาไม่ขาด แต่ภรรยากลับไม่ตั้งท้องสักที ทำให้เขาต้องไปปรึกษาหมอ และหมอก็ให้คำแนะนำมา
“แต่ยังไงก็กักนานแล้วนะคะ คราวนี้ปล่อยเถอะ เดี๋ยวลูกสองคนนั้นมาตาม จะไม่ได้ปล่อยลูกในตัวพี่ออกมานะคะ”
หลี่เหมยบอกสามียิ้ม ๆ และไม่ทันไร...
ปัง ๆ ปัง ๆ
“พ่อครับ / แม่คะ”
เสียงทุบประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงเรียกของเด็กสองคน ทำให้ทั้งสองคนที่กำลังร่วมรักหยุดไปเล็กน้อย และแม้หยางอี้ข่ายจะลดความเร็วในการอัดแก่นกายลง แต่เขาก็ยังไม่หยุดขยับซะทีเดียว
“คิดคิก เอายังไงคะ ลูกชายกับลูกสาวสุดที่รักมาเรียกแล้ว”
หลี่เหมยที่ยกมือคล้องคอสามีเอาไว้ถามอย่างหยอกล้อ
“ชู่...อาโม่ เสี่ยวเหมย อย่าเพิ่งมากวนพ่อนะลูก พ่อแม่กำลังทำธุระสำคัญอยู่” หยางอี้ข่ายบอกให้ภรรยาเงียบ แล้วตะโกนตอบลูก ๆ กลับไป โดยที่ยังไม่ยอมหยุดกระแทกแก่นกาย
“ธุระอะไรคะ เดี๋ยวเสี่ยวเหมยช่วยทำ” หยางเสี่ยวเหมยตะโกนถามกลับมา
“พ่อกำลังทำน้องให้ลูกอยู่ ใครอยากมีน้องลงไปรออยู่ข้างล่างก่อนนะ” เขายื่นคำขาดออกไป เพราะเด็กทั้งสองคนร้องขอน้องชายน้องสาวอยู่ทุกวัน
“ค่ะพ่อ เสี่ยวเหมยจะไปเดี๋ยวนี้” หยางเสี่ยเหมยตอบกลับมา
“ครับพ่อ เดี๋ยวผมจะลงไปบอกทุกคนว่าพ่อกำลังทำน้องให้ผมอยู่” หยางกวนโม่ก็ตะโกนกลับมาอย่างดีใจ
จากนั้นเสียงวิ่งตึงตังก็ดังขึ้น ทำให้หลี่เหมยอดไม่ได้ที่จะทุบลงที่ไหล่หนาของสามี
“พี่อี้ข่าย พี่พูดอะไรน่ะ แบบนี้ฉันจะมีหน้าลงไปพบคนอื่นได้ยังไง สองคนนั้นยิ่งช่างพูดอยู่ด้วย” หลี่เหมยพูดกับสามีอย่างเขินอาย
“อายทำไมครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาของสามีภรรยาที่รักกันมาก ๆ อย่างเรา แล้วสองคนนั้นก็อยากได้น้องสาวมาก”
หยางอี้ข่ายพูดขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ไม่รู้ล่ะ พี่รีบทำเถอะ ฉันไม่ไหวแล้วนะคะ พี่จับฉันพลิกคว่ำพลิกหงายมาตั้งแต่เช้ามืด จนตอนนี้ตะวันส่องตูดแล้วนะ”
หญิงสาวพูดอย่างงอแง ก่อนจะใช้มือตบที่ตูดของสามีอย่างหยอกล้อ
“จัดไปครับที่รัก” พูดจบหยางอี้ข่ายก็หยัดกายขึ้นมา เขาจับเอวบางไว้ แล้วเริ่มกระแทกแก่นกายใส่ร่างเธออีกครั้ง เริ่มจากช้าๆ แล้วเร็วขึ้น แรงขึ้น จนสองเต้าตรงกลางอกกระเพื่อมขึ้นลง
ตับ ๆ ตับ ๆ ตับ ๆ
หยางอี้ข่ายอัดใส่อย่างหนักหน่วงรุนแรง เพราะรู้ว่ามีเวลาน้อย ส่วนหลี่เหมยก็นอนส่ายหน้าไปมาอย่างเสียวซ่าน มือเรียวของเธอยกขึ้นมาจับแขนแกร่งไว้
ทั้งสองสบสายตากัน และยิ้มให้กันด้วยความรัก ไม่นานก็ครางออกมาด้วยความเสร็จสม
“โอ้ววววว มันดีจริง ๆ พี่ไม่ไหวแล้ว” หยางอี้ข่ายแหงนหน้าขึ้นคราง ก่อนจะก้มลงมาบอกกับภรรยา
“ฉันก็ไม่ไหวแล้ว กรี๊ดดด!” หลี่เหมยก็อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา เพราะครั้งนี้สามีส่งเธอถึงฝั่งฝันอย่างรุนแรงกว่าทุกครั้ง
ตับ ตับ ตับ
หยางอี้ข่ายอัดใส่เนื้อ ๆ เน้น ๆ อีกสองสามครั้งพร้อมกับปล่อยน้ำเชื้อใส่ร่องเสียวมากมาย ก่อนจะก้มลงไปกอดเธอไว้ด้วยอาการหอบเหนื่อย
“อืม...เสร็จแล้วก็ออกไปสิคะ ฉันจะได้ไปอาบน้ำแล้วลงไปหาลูก ๆ” หลี่เหมยที่ถูกนอนทับอยู่ตบลงที่หลังสามีเบา ๆ พร้อมกับพูดขึ้น
“เดี๋ยวสิ รอให้ลูกของเราวิ่งไปให้ถึงเส้นชัยก่อน หมอบอกว่าแช่ไว้สักหนึ่งนาที” หยางอี้ข่ายกระซิบบอกเสียงกระเส่า
“แต่นี่มันเลยหนึ่งนาทีมาแล้วนะคะ ลูก ๆ ของพี่คงไม่
ขาสั้นขนาดนั้นหรอก ป่านนี้คงวิ่งเข้าเส้นชัยไปแล้ว” หญิงสาวตอบกลับไปอย่างหยอกล้อกับความเห่อลูกคนใหม่ของสามี“งั้นมา...พี่พาไปอาบน้ำ” หยางอี้ข่ายพูดขึ้น จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นพร้อมกับอุ้มภรรยาเข้าไปในห้องน้ำ โดยยังไม่ยอมถอดถอนแก่นกายออกจากร่องเสียว
“ซี้ดดด! ขนาดมีเวลาน้อยยังหื่นอีกนะคะ”
หลี่เหมยครางออกมาแล้วต่อว่าสามีเล็กน้อย เพราะเขายังทำตัวหื่นด้วยการร่วมรักกับเธอในท่าลิงอุ้มแตง จนเธอเสียวซ่านไปทั้งตัว และต้องเกี่ยวคอเขาไว้เป็นที่ยึด
“หื่นก็หื่นกับภรรยาคนเดียวนะครับ หื่นเพราะรู้ว่าถ้าภรรยาท้องจะต้องอดทนอีกตั้งสามเดือน ขอทิ้งทวนหน่อยเถอะ อาเสียวสุด ๆ ท่านี้”
หยางอี้ข่ายตอบกลับมาเสียงสั่น ๆ เพราะเขาทั้งกำลังเดินและกำลังยกก้นภรรยาขึ้นลง เพื่อให้กระแทกร่องเสียวใส่แก่นกายที่ชูชันตั้งรับอย่างพอเหมาะพอดี
เมื่อเข้ามาในห้องน้ำชายหนุ่มก็วางภรรยาลงเธอยืนหันหลังให้เขา มือสองข้างของหลี่เหมยจับลงที่เคาน์เตอร์ล้างหน้าในห้องน้ำ สายตาทั้งสองสบกันในกระจก
“อีกครั้งเดียว แล้วพี่จะพาลงไปหาลูก ๆ นะครับ”
หยางอี้ข่ายบอกภรรยาผ่านกระจก
เขาจับขาเธอข้างหนึ่งขึ้นพาดแขน แล้วเริ่มอัดกระแทกแก่นกายใส่ร่องเสียว เหมือนเอวของเขานั้นติดสปริง เพราะมันทั้งเร็วและลึกมาก
“อา...พี่อี้ข่ายขา มันเสียว”
หลี่เหมยที่จับเคาน์เตอร์ไว้เป็นหลักยึดก็ครางออกมาอย่างอดไม่ไหว แต่ก็ยังดีที่ห้องน้ำนี้เก็บเสียงพอสมควร
“พี่ก็เสียว โอ้ววว ดูภาพของอาเหมยผ่านกระจกนั่นสิ
อาเหมยของพี่สวยมาก” หยางอี้ข่ายบอกเสียงกระเส่า“สวยอะไร หน้าก็เยิ้ม ผมก็ยุ่ง ซี้ดดด เร็ว ๆ ค่ะ ฉันจะไม่ไหวแล้ว” หลี่เหมยมองตัวเองในกระจกแล้วตอบกลับมา
“นี่แหละภาพที่สวยที่สุดในชีวิตพี่ ภาพเมียกำลังมีความสุขเพราะพี่ คือภาพที่สวยที่สุด มาขอจูบหน่อย” หยางอี้ข่ายตอบกลับและร้องขอจูบอย่างหื่นกระหาย
หลี่เหมยหันหน้ามาจูบกับสามีอย่างว่าง่าย และชายหนุ่มก็วางขาภรรยาลง แล้วจับแขนของเธอดึงมาข้างหลัง แล้วอัด
แก่นกายใส่อย่างรัวเร็วไม่นานทั้งสองก็เสร็จสม และช่วยกันอาบน้ำแต่งตัวลงไปข้างล่าง
“มาแล้ว ๆ พ่อมาแล้ว” หยางกวนโม่รีบวิ่งมาหาพ่อทันที
“แม่ก็มาแล้ว แต่เอ๊ะ...น้องอยู่ไหนคะ”
หยางเสี่ยวเหมยรีบเข้ามาหาแม่ แล้วมองไปข้างหลังของพ่อแม่ ก่อนจะถามขึ้น
“นั่นสิครับ น้องอยู่ไหน” หยางกวนโม่ก็ถามอย่างสงสัยเหมือนกัน “ผมไปประกาศให้ทุกคนรู้แล้วนะครับ ว่าพ่อกำลังทำน้องให้ผมเลยลงมาช้า” เด็กชายพูดขึ้นมาเสียงดัง
“ฮ่า ๆ ว่ายังไงล่ะอี้ข่าย ไหนหลานคนใหม่ของพ่อ”
ชายชราเอ่ยแซวขึ้นมา
“เอ่อ...” หยางอี้ข่ายที่ถูกแซวถึงกับพูดไม่ออก
“คิก คิก คิก น้องของลูก ๆ หลานของทุกคนก็อยู่ในนี้ยังไงล่ะคะ อีกเจ็ดเดือนบ้านเราก็จะมีสมาชิกเพิ่มอีกสองคนแล้วนะคะ เพราะตอนนี้ฉันท้องได้สองเดือนกว่าแล้ว และเป็นลูกแฝดด้วย”
หลี่เหมยหัวเราะกับท่าทางนั้นของสามีแล้วยกมือขึ้นลูบท้อง พร้อมกับบอกทุกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“น้องสองคน / หลานสองคน” เด็กสองคน และผู้ใหญ่ต่างพูดขึ้นมาด้วยความดีใจที่หลี่เหมยตั้งท้องแล้ว
ทุกคนวิ่งเข้ามาหาเธอด้วยความดีใจ แต่หยางอี้ข่ายนั้นยังคงยืนอ้าปากค้างอยู่ เพราะเขากำลังตกตะลึงและเป็นห่วง
“พี่อี้ข่ายเป็นอะไรคะ ไม่ดีใจเหรอที่เราจะมีลูกอีกสองคน”
หลี่เหมยถามสามีอย่างแปลกใจ
“ดีใจสิ ดีใจมาก แต่พี่กังวลว่าเมื่อกี้นี้ลูก ๆ จะตกใจไหม เพราะลูก ๆ อาจจะคิดว่าแผ่นดินไหวก็ได้นะ ตอนนั้นพี่ไม่ออมแรงเลย ขนาดอาเหมยยังหัวสั่นหัวคลอน” หยางอี้ข่ายพูดขึ้นอย่างลืมตัว
“พี่อี้ข่าย....” หลี่เหมยได้ยินก็ถึงกับเรียกเตือนสามีอย่างเขินอาย แต่คงไม่ทันซะแล้ว เพราะจบคำพูดของชายหนุ่ม เสียงหัวเราะรอบ ๆ ก็ดังขึ้น
จากนั้นบรรยากาศงานเลี้ยงวันเกิดของหยางกวนโม่กับ
หยางเสี่ยวเหมยก็เป็นไปอย่างอบอุ่น เด็กทั้งสองคนเข้ามาคุยกับน้องอยู่เรื่อย ๆ ทำให้หลี่เหมยมีความสุขมากที่สุด“ต่อไปจะหื่นก็เบา ๆ หน่อยนะคะคุณพ่อลูกสี่”
หลี่เหมยบอกสามีด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม
“ต่อไปนี้พี่จะยอมเป็นม้าให้ภรรยาขี่ทุกคืนเลยครับ พี่รู้ว่าเวลาอาเหมยท้อง อาเหมยต้องการอะไร” หยางอี้ข่ายก็ตอบกลับยิ้ม ๆ เหมือนกัน แถมเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อีกด้วย
“พวกเราจะไปนอนกับน้องด้วย” หยางกวนโม่พูดขึ้นมา
“ไม่ได้หรอกลูก เพราะถ้าทำอย่างนั้นน้องอาจจะพิการได้”
หยางอี้ข่ายพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
“ทำไมน้องต้องพิการด้วยคะ” หยางเสี่ยวเหมยเอียงหน้าถามอีกคน
“ก็ตอนนี้น้องมีแค่หัวใจ พ่อยังจะต้องช่วยปั้นแขน ปั้นขา ปั้นร่างกายให้น้องอีกหลายส่วน และมีพ่อคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้ ลูก ๆ นอนที่ห้องตัวเองไปก่อนนะ” เขายังคงพูดอย่างจริงจัง โดยมีหลี่เหมยที่พยายามกลั้นยิ้มอยู่ข้าง ๆ
“ครับ / ค่ะ” ทั้งสองคนก็ตอบรับอย่างว่าง่าย จากนั้นก็วิ่งไปหาขนมกินต่อ
“พ่อคนหื่น” หลี่เหมยกระซิบต่อว่าสามีเบา ๆ
“หื่นก็หื่นกับเมียคนนี้คนเดียวครับ พี่รักอาเหมยที่สุดเลยนะครับ ขอบคุณที่มาอยู่ในชีวิตพี่ ขอบคุณจริง ๆ”
หยางอี้ข่ายโอบกอดภรรยาไว้ แล้วกระซิบบอกอย่างอ่อนหวาน ส่วนหลี่เหมยเองก็ซุกหน้ากับอกสามีอย่างมีความสุข
ตอนพิเศษ 2 5 ปีผ่านไปตอนนี้สถานการณ์ครอบครัวของหลี่เหมยก็เข้าที่เข้าทางแล้ว ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น และตอนนี้ลูกฝาแฝดของเธออย่างหยางกวนโม่กับหยางเสี่ยวเหมยก็อายุครบห้าขวบในวันนี้ ดังนั้นวันนี้ที่บ้านตระกูลหยางจึงครึกครื้นมากเป็นพิเศษ เพราะสมาชิกทั้งสองครอบครัวลงไปจัดเตรียมสถานที่ตั้งแต่เช้ามืด แขกที่มาก็จะเป็นทั้งญาติพี่น้อง และคู่ค้าที่มีสัมพันธ์อันดีแต่ในห้องนอนของหยางอี้ข่ายนั้นมีแสงส่องผ่านผ้าม่านสีฟ้าอ่อนเข้ามาเล็กน้อย และในห้องนั้นก็กำลังร้อนระอุกับบทรักยามเช้าที่สามีกำลังมอบให้ภรรยา“อา....เสียวมากครับอาเหมย ไม่ว่ากี่ปีผ่านไปน้องก็ทำให้มีความสุขทุกครั้ง” หยางอี้ข่ายถึงกับแหงนหน้าครางออกมาอย่างสุขสม“ฮึก...ฉันก็เสียวและมีความสุขค่ะ แต่พี่ต้องทำเวลาหน่อยนะ ตอนนี้ทุกคนตื่นแล้ว ซี้ดดด!” หลี่เหมยที่ตอนนี้อยู่ในท่าคุกเข่าหันก้นให้สามีอัดกระแทกแก่นกายเข้าในร่องเสียว เธอครางด้วยความเสียวซ่าน เมื่อตอนนี้สะโพกหนากระแทกใส่เธอไม่ยั้งตับ ๆ ตับ ๆ ตับ ๆ“โอ้ววว พี่ก็พยายามอยู่ แต่พี่อยากมีความสุขกับอาเหมยนาน ๆ พี่รักอาเหมยที่สุด จุ๊บ!”ชายหนุ่มที่แหงนหน้าครางได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งจับเอ
ตอนพิเศษ 1 ตั้งแต่ที่รู้ว่าหลี่เหมยตั้งท้อง นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนจนเกือบจะคลอดอยู่แล้ว ทว่าทุกคนกลับดูแลเธอไม่ต่างจากตอนท้องสองเดือน จนหญิงสาวต้องบ่นออกมาว่าเธอแค่ท้องไม่ได้ป่วยสักหน่อย แล้วคุณหมอก็บอกแล้วว่าท้องนี้ของเธอแข็งแรงดีแม้ว่าจะท้องแฝดก็ตาม “อาเหมยเป็นอย่างไรบ้าง พี่ไม่อยากไปทำงานเลย”หยางอี้ข่ายรีบบอก พร้อมกับมีสีหน้าออดอ้อนภรรยา จนโม่ซือเจินต้องเบะปากใส่ลูกชายที่เสแสร้งจนเกินหน้าเกินตา“ฉันก็เหมือนเดิม วันนี้พี่มีประชุมสำคัญของสมาคมการค้า พี่อย่ามางอแงเหมือนเด็กเลยนะ งานนี้สำคัญนะคะ”หญิงสาวอยากจะขำกับท่าทางของเขา แต่ก็ไม่อยากหักหน้าสามีต่อหน้าคนรับใช้หยางอี้ข่ายถอนหายใจ หากวันนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญเขาคงไม่ไปหรอก เพราะภรรยากำลังอยู่ในช่วงใกล้คลอด“ครับ ถ้าอย่างนั้นพี่ไปก่อนนะ เสร็จงานแล้วจะรีบกลับ”“พ่อถามหน่อยเถอะ คุณชายแห่งตระกูลหยางผู้เหี้ยมโหดไปไหนแล้ว ทำไมพ่อเห็นแค่แมวน้อยเท่านั้นล่ะ” นายท่านหยางอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อลูกชาย“โธ่ พ่อครับ ผมก็แค่คนที่รักลูกรักภรรยา งานก็ส่วนงานสิครับ หากมีคนมารังแก ผมก็พร้อมที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม”ชายหนุ่มไม่สนใจว่าใครจะมองอย่างไร
บทที่ 26 หยางอี้ข่ายเดินเข้ามาหาหลี่เหมยที่นั่งอยู่บนเตียง เขายิ้มให้อย่างอ่อนหวาน พร้อมกับนั่งลงข้าง ๆ เจ้าสาว“ขอโทษนะครับที่พี่เข้ามาช้า พอดีมีแขกดึงไว้น่ะ” เขาพูดขึ้นและหอมแก้มเธอเบา ๆ“ฉันก็นึกว่าพี่จะปล่อยให้ฉันนอนหนาวอยู่คนเดียวในคืนเข้าหอซะอีก” หญิงสาวพูดอย่างหยอกล้อ และเริ่มมือไม้ซุกซนถอดเสื้อตัวนอกของเขาออก “ไปอาบน้ำก่อนดีไหมคะ”“พี่จะปล่อยให้คืนแต่งงานของเราไร้ความหมายได้อย่างไร ส่วนเรื่องอาบน้ำ เอาไว้อาบทีหลังได้ไหมครับ ตอนนี้ยังไม่มีเหงื่อเลยสักนิด เดี๋ยวเรามาเข้าหอกันดีกว่า” ชายหนุ่มตอบกลับพร้อมกับเริ่มถอดเสื้อผ้าให้เธอทีละชิ้นเหมือนกำลังแกะกล่องของขวัญ“พูดแล้วก็ทำให้พี่คิดถึงคืนนั้น ที่เรามีอะไรกันครั้งแรก พี่อยากมีความรู้สึกแบบนั้นอีกจังเลย พี่ชอบมากที่ปากน้อย ๆ นี้สัมผัสกับแก่นกายของพี่ ไม่เคยมีใครทำแบบนั้นกับพี่มาก่อน พี่ขอแบบนั้นอีกได้ไหมครับ”หยางอี้ข่ายพูดอย่างอ่อนหวาน เขาจูบลงที่ริมฝีปากบางในตอนที่พูดถึงปากของเธอ“งั้นถ้าฉันทำให้พี่ พี่ก็ต้องทำให้ฉันด้วยนะคะ เหมือนวันนั้น” หญิงสาวตอบกลับอย่างเขินอาย เมื่อคิดถึงคืนแรกของทั้งสองคน“ได้สิ เรามามีความสุขด้วยกันนะ”
บทที่ 25 หัวหน้าหมู่บ้านที่ยืนอยู่ตรงนี้ด้วยรีบห้ามซือถัวทันที“เธออย่าเห็นแก่ได้ไปหน่อยเลยซือถัว ก่อนหน้านี้บ้านใหญ่เคยให้อะไรกับบ้านรองบ้างล่ะ ตอนที่แยกบ้านและตัดขาดกัน บ้านรองแทบไม่มีอะไรติดตัวมาเลย แม้ว่าตอนนี้ครอบครัวของหลี่กวงจะย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง แต่บ้านหลังนี้ก็ยังเป็นของเขาอยู่ และเขาจะให้ของในบ้านกับใคร หรือไม่ให้ใคร มันก็เป็นสิทธิ์ของหลี่กวง เธอไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”“นี่มันเรื่องในครอบครัวของตระกูลหลี่ หัวหน้าหมู่บ้านนั่นแหละที่ไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดแบบนี้ ฉันพูดกับน้องชายของสามี ไม่ได้พูดกับหัวหน้าหมู่บ้านสักหน่อย” เธอหันกลับมาตวาดใส่หัวหน้าหมู่บ้านอย่างโมโห และรู้สึกไม่พอใจที่หัวหน้าหมู่บ้านเข้ามายุ่งในเรื่องนี้แต่ในขณะนั้นเอง ลูกชายคนโตของซือถัวก็เดินเข้ามาด้วยความโมโห พร้อมกับพูดกับแม่อย่างฉุนเฉียวว่า“ผมบอกแม่แล้วใช่ไหมว่าให้เลิกยุ่ง และวุ่นวายกับบ้านอารองเสียที ในเมื่อแม่ไม่เชื่อฟังผม และยังเห็นแก่ตัวอยู่แบบนี้ เห็นทีผมต้องแยกบ้านเสียแล้วล่ะ”พอเห็นว่าลูกชายพูดด้วยอาการโกรธจัด ท่าทีของซือถัว ก็สงบลง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเบา ๆ กับเขา“แม่ก็แค่อยากได้เครื่องเรือน และข้าวขอ
บทที่ 24 นายท่านหยางเห็นว่าครอบครัวของลูกสะใภ้ยังมีความเกรงใจตัวเอง และยังเรียกนายท่านอยู่จึงได้เอ่ยปากบอกออกมา“ไม่ต้องเรียกฉันว่านายท่านหรอก เราคนกันเองทั้งนั้นต่อจากนี้เรียกฉันว่าพี่หยางตงเถอะ”“เธอก็เหมือนกัน ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณนาย ต่อไปก็เรียกว่าพี่ซือเจิน เราสองครอบครัวตอนนี้เกี่ยวดองกันแล้ว”โม่ซือเจินพูดขึ้นมาบ้าง“ครับ / ค่ะ” ทั้งสองตอบรับอย่างยินดีเหมือนกัน ไม่คิดว่าคนยิ่งใหญ่อย่างนายท่านหยางจะไม่ถือตัวกับชาวบ้านแบบตนเอง“ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้ฉันจะพาเธอไปในเมืองเพื่อไปเลือกดูเสื้อผ้าและของใช้ในงานแต่งงาน เธออยากจะจัดงานที่ไหนเหรอ”โม่ซือเจินถามความคิดเห็น“ฉันอยากจะย้ายบ้านก่อนน่ะค่ะ ตอนนี้พ่อสามีให้บ้านมาแล้ว เลยตั้งใจว่าจะไปดูในวันพรุ่งนี้ เพื่อจะได้เตรียมงานที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า”หลี่เหมยตอบเอง เธอต้องการทำอย่างที่พูดก่อน ส่วนเรื่องจะเชิญใครไปงานแต่งงานนั้นค่อยว่ากัน หรือไม่ก็ค่อยเลี้ยงคนในหมู่บ้านที่มีความสัมพันธ์อันดีกับพวกเธอ“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ อาเหมยก็ค่อยไปดูบ้านกับทุกคนก็แล้วกันว่าชอบหรือเปล่า หากไม่ชอบพ่อจะได้เปลี่ยนหลังใหม่ให้ แล้วจะได้ย้ายทะเบียนบ้านทุกคนเ
บทที่ 23 ครึ่งเดือนต่อมา...แม้ว่าจะผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว แต่ตอนนี้ในหมู่บ้านก็ยังพูดคุยเรื่องของถังชุนเป้ยอยู่ เนื่องจากการกระทำของเธอมันโหดร้ายจนเกินไป แต่ก็ไม่มีใครไปโกรธหรือเกลียดคนบ้านถัง นั่นเพราะว่าทุกคนแยกแยะออก และรู้ว่าคนบ้านถังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้และที่ทุกคนแปลกใจก็เพราะว่าเมื่อสัปดาห์ก่อน ตัวของหร่วนเจินฮ่าวโดนคำสั่งย้ายอย่างกะทันหัน และเห็นว่าเงินเดือนที่ได้จากกองพลน้อยถูกสั่งหักไว้เพื่อชำระหนี้ให้กับหลี่กวงตามสัญญาที่เคยทำไว้ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นหัวข้อสนทนาของชาวบ้านไม่ต่างกันวันนี้หลี่เหมยตั้งใจจะเข้าเมือง เพราะอยากไปดูที่โรงขยะว่ามีสิ่งของน่าสนใจหรือไม่ อีกอย่างเธอได้ยินสามีพูดว่า พ่อกับแม่สามีใกล้จะกลับมาแล้ว เธอจึงอยากจะหาของเพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าในระบบออกมาซึ่งในระบบพอมีเครื่องประดับบางอย่างที่ไม่ผิดกฎหมายในยุคนี้ ส่วนพ่อสามีก็คงจะให้เป็นนาฬิกาข้อมือ ที่หาไม่ได้จากในยุคนี้เหมือนกัน‘เจ้านาย ภาพวาดนั้นมีค่ามาก เจ้านายซื้อเก็บไว้ก่อนเถอะในอนาคต ซื้อขายเป็นร้อยล้านหยวนกันเลยนะ’ลี่ลี่รีบส่งเสียงบอกเมื่อเห็นภาพวาดโบราณที่แทบจะประเมินค่าไม่ได้ แต่ในยุคนี้นั้