แชร์

บทที่ 23

ผู้เขียน: ขนมปังรสหวาน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-10 17:07:16

บทที่ 23

ครึ่งเดือนต่อมา...

แม้ว่าจะผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว แต่ตอนนี้ในหมู่บ้านก็ยังพูดคุยเรื่องของถังชุนเป้ยอยู่ เนื่องจากการกระทำของเธอมันโหดร้ายจนเกินไป แต่ก็ไม่มีใครไปโกรธหรือเกลียดคนบ้านถัง นั่นเพราะว่าทุกคนแยกแยะออก และรู้ว่าคนบ้านถังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้

และที่ทุกคนแปลกใจก็เพราะว่าเมื่อสัปดาห์ก่อน ตัวของ

หร่วนเจินฮ่าวโดนคำสั่งย้ายอย่างกะทันหัน และเห็นว่าเงินเดือนที่ได้จากกองพลน้อยถูกสั่งหักไว้เพื่อชำระหนี้ให้กับหลี่กวงตามสัญญาที่เคยทำไว้ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นหัวข้อสนทนาของชาวบ้านไม่ต่างกัน

วันนี้หลี่เหมยตั้งใจจะเข้าเมือง เพราะอยากไปดูที่โรงขยะว่ามีสิ่งของน่าสนใจหรือไม่ อีกอย่างเธอได้ยินสามีพูดว่า พ่อกับแม่สามีใกล้จะกลับมาแล้ว เธอจึงอยากจะหาของเพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าในระบบออกมา

ซึ่งในระบบพอมีเครื่องประดับบางอย่างที่ไม่ผิดกฎหมายในยุคนี้  ส่วนพ่อสามีก็คงจะให้เป็นนาฬิกาข้อมือ ที่หาไม่ได้จากในยุคนี้เหมือนกัน

‘เจ้านาย ภาพวาดนั้นมีค่ามาก เจ้านายซื้อเก็บไว้ก่อนเถอะในอนาคต ซื้อขายเป็นร้อยล้านหยวนกันเลยนะ’

ลี่ลี่รีบส่งเสียงบอกเมื่อเห็นภาพวาดโบราณที่แทบจะประเมินค่าไม่ได้ แต่ในยุคนี้นั้นกลายเป็นขยะชิ้นหนึ่ง

‘ขอบใจมากนะลี่ลี่’ หลี่เหมยรีบไปหยิบภาพวาดชิ้นนั้นมาทันที และถือไว้แน่น ก่อนจะเดินเลือกสินค้าอย่างอื่นต่อ ภาพวาดชิ้นนี้เธอไม่ต้องการที่จะแลกเปลี่ยนกับระบบ แต่ขอฝากไว้ก่อน เพราะอย่างไรตอนนี้ก็ยังเป็นสินค้าที่ผิดกฎหมาย และไม่มีราคา

ค่างวดอะไร  

หญิงสาวเดินดูสินค้าไปเรื่อย ๆ ก็มาสะดุดตากับของบางอย่าง ที่ดูเหมือนทางร้านจะซ่อนไว้ แต่พอเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็พบว่านี่เป็นทองคำ จึงตัดสินใจซื้อมาทั้งหมด เพราะในอนาคตมันคือสิ่งที่มีค่ามากนั่นเอง

เมื่อได้สิ่งที่ต้องการทั้งหมดแล้ว หญิงสาวจึงเดินออกมาแล้วหลบสายตาคนอื่นเพื่อเอาของทั้งหมดเข้ามิติ ก่อนจะเข้าตลาดมืดเพื่อดูว่าจะเอาสินค้าอะไรออกมาขายได้บ้าง แต่ส่วนมากหลี่เหมยมักจะช่วยเหลือคนที่ไม่มีโดยการให้ของกินไปแทน

ส่วนหยางอี้ข่าย ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขายังคงอยู่บ้านภรรยา แต่พอเปิดเผยตัวตนแล้ว เขาจึงนำรถยนต์ส่วนตัวมาใช้เป็นปกติ และเขาก็ได้ส่งเรื่องให้กับกองพลน้อยที่สำนักงานใหญ่ของเมืองนี้ เพื่อขอให้ครอบครัวของภรรยาไม่ต้องทำงานที่ไร่ให้เหนื่อย

เรื่องที่ขอถูกส่งมาที่กองพลน้อยของหมู่บ้านนี้แล้ว

สร้างความอิจฉาให้คนไม่น้อย ที่บ้านรองหลี่วาสนาดีได้คุณชาย

หยางมาเป็นลูกเขย โดยเฉพาะบ้านใหญ่ที่ตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว

“แม่เลิกอิจฉาบ้านรองสักทีได้ไหม แทนที่จะเอาเวลาไปอิจฉาคนอื่น ทำไมไม่ช่วยกันทำมาหากินล่ะแม่ หรืออยากจะมีปัญหาเหมือนถังชุนเป้ย”

แม้จะไม่ใช่คนที่ดีนัก แต่หลี่มั่วซานก็ปลงตกในโชคชะตา เร่งหางานทำเพื่อจะได้เอาเงินเข้ามาในบ้านเป็นค่าใช้จ่าย แต่ไม่คิดว่าเวลาจะผ่านมาได้ระยะใหญ่แล้ว แม้ตนเองก็ยังคงอิจฉาน้องสาวจากบ้านรอง จนทำให้ตอนนี้เขาคิดอยากจะแยกบ้านให้เสร็จเร็ว ๆ เหลือเกิน 

“แล้วอย่างไร แกไม่สนใจหน่อยเหรอว่าตอนนี้บ้านเราตกต่ำเพียงใดแล้ว แต่ดูบ้านรองสิ มีแต่เจริญรุ่งเรืองขึ้น แทนที่จะช่วยหยิบยื่นเงินและอาหารมาให้สักหน่อย อย่างน้อยก็เป็นเครือญาติกัน ฉันต้องกินแต่ผักจนเบื่อจะตายอยู่แล้ว”

ซือถัวพูดออกมาอย่างน้อยใจ ที่เธออิจฉาบ้านรองหลี่ก็เพราะอยากกินดีอยู่ดีเหมือนกัน

ตั้งแต่โจรปล้นบ้านในครั้งนั้น มีสักครั้งไหมที่พวกเธอจะได้กินเนื้อเหมือนกับคนอื่นเขา

“ถ้าแม่ไม่อิจฉา หรือไปหาเรื่องบ้านอารอง คงมีสักวันที่

อารองจะเห็นใจ แต่ดูการกระทำของแม่สิเป็นอย่างไร อย่าให้ผมพูดเลยดีกว่า หากแม่ยังมีปัญหาอย่างนี้อีก ผมจะขอแยกบ้านไปอยู่กับหว่านถิงสองคน แล้วให้เหว่ยจางมาอยู่ดูแลพ่อกับแม่แทน”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแล้วแม่ก็คงไม่เลิกที่จะวุ่นวายกับบ้านอารอง ยิ่งตอนนี้มีคุณชายหยางมาเป็นลูกเขย หากมีเรื่องกันแล้วก็คงจะเสียเปรียบไม่น้อย ไม่สู้ต่างคนต่างอยู่ดีกว่าหรือ 

พอได้ยินลูกชายพูดว่าจะขอแยกบ้าน ซือถัวก็รีบสงบปากสงบคำตัวเอง และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่คิดจะเข้าไปวุ่นวายกับคนบ้านรองอีกเลย

คฤหาสน์ตระกูลหยาง เวลานี้นายท่านหยางและภรรยาก็กลับมาถึงแล้ว ความจริงจะกลับมาก่อนหน้านี้ แต่เพราะยังคงติดงานเลยไม่สามารถปลีกตัวกลับมาได้

“พ่อคิดว่าแกจะไม่ยอมแต่งงานเสียแล้วนะ อี้ข่าย”

หยางตงเอ่ยกับลูกชายทันทีที่เห็นหน้า

“ผมบอกพ่อแล้ว ว่าผมจะหาภรรยาด้วยตนเอง แม้ว่าเรื่องระหว่างเธอและผมจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ตอนนี้เราสองคนก็รักกันมากครับ”

ชายหนุ่มเกาท้ายทอยคล้ายกับเขินอายพ่อตัวเอง คนที่เหี้ยมโหดเช่นเขา จะให้มาพูดคุยเรื่องความรัก มันก็ดูจะแปลกไปหน่อยเหมือนกัน

“แม่ดีใจนะที่ลูกชายของแม่มีครอบครัวเสียที ตอนนี้เราอย่ามัวเสียเวลาเลย รีบจัดสินสอดไปให้ลูกสะใภ้กันดีกว่า ลูกทั้งสองคนก็มีใบรับรองการสมรสแล้ว เหลือแค่งานแต่งก็เท่านั้นเอง”

คนเป็นแม่รีบบอก เธอดูจะตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้ไปพบกับลูกสะใภ้ และครอบครัวของลูกสะใภ้

“นั่นสิ ผมก็มัวแต่พูดคุย เรารีบขึ้นชั้นบนกันดีกว่า จะได้เตรียมของให้ลูกสะใภ้ และครอบครัวของเธอ”

นายท่านหยางรีบบอก พร้อมกับเดินนำหน้าภรรยาไปทันที

“พ่อช่วยหาบ้านให้สักหลังนะครับ ผมจะพาครอบครัวของอาเหมยย้ายเข้ามาอยู่ในเมือง” หยางอี้ข่ายรีบบอกพ่อ เพราะเขาต้องการให้ครอบครัวของภรรยาย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองตามที่เธอต้องการ

“ได้เลยเจ้าลูกชาย” นายท่านหยางตะโกนพร้อมกับโบกมือกลับมา

และเมื่อทั้งสองคนเตรียมของหมั้นเรียบร้อยแล้ว ก็รีบลงมาชั้นล่างที่ลูกชายรออยู่ ก่อนจะพากันไปที่บ้านของหลี่เหมย

เมื่อรถยนต์หลายคันเคลื่อนเข้ามาในหมู่บ้าน ชาวบ้านที่เห็นแม้จะแปลกใจ แต่ก็สามารถเดาได้ว่าคงเป็นรถจากตระกูล

หยาง และน่าจะเป็นของหยางอี้ข่ายพร้อมกับคนของเขา

รถยนต์คันใหญ่หลายคันมาจอดอยู่หน้าบ้านรองหลี่ และมีชายหญิงคู่หนึ่งที่แต่งตัวภูมิฐานก้าวลงมา คนที่เห็นก็เดาได้ทันทีว่าน่าจะเป็นนายท่านและคุณนายจากตระกูลหยาง

ตอนนี้หลี่เหมยเองก็มาถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้ยินเสียงรถจึงได้ออกมาดู ก็พบว่าสามีกลับมาพร้อมใครอีกสองคน และเดาได้ว่าน่าจะเป็นพ่อแม่ของเขา

“พ่อครับ แม่ครับ นี่อาเหมยภรรยาของผมเอง”

ชายหนุ่มแนะนำภรรยาให้พ่อกับแม่รู้จัก ก่อนจะหันมาหาภรรยาและพูดอีกว่า

“อาเหมย นี่พ่อแม่ของพี่ ท่านกลับมาที่เมืองนี้แล้ว วันนี้พ่อกับแม่มาสู่ขอน้องให้พี่อย่างเป็นทางการ”

“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหลี่เหมย ยินดีที่ได้รู้จักพ่อกับแม่นะคะ”

หญิงสาวทักทายกลับอย่างนอบน้อม เธอไม่คิดว่าพ่อกับแม่สามีจะมาวันนี้ เลยไม่ได้เตรียมตัวอะไรไว้ 

“เชิญทุกคนเข้าบ้านก่อนดีกว่าค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ บ้านอาจจะเล็กไปหน่อย หวังว่าพ่อกับแม่จะไม่รังเกียจ”

“ไม่เลยลูก วันนี้ที่พ่อกับแม่มาที่นี่ก็เพราะต้องการสู่ขอ

อาเหมยให้กับอี้ข่ายอย่างเป็นทางการ และมาดูกันว่าวันไหนเหมาะแก่การจัดงานแต่งงานของพวกลูก ๆ ทั้งสองคน”

โม่ซือเจินหรือคุณนายหยางรีบบอก เธอไม่สนใจหรอกว่าครอบครัวของลูกสะใภ้จะมีฐานะอย่างไร ขอแค่ลูกชายรักก็พอแล้ว เพราะอย่างไรตระกูลหยางก็มีกินมีใช้จนเหลืออยู่แล้ว

เมื่อทุกคนเข้ามาในบ้าน พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็ได้พูดคุยกันถึงเรื่องงานแต่ง และส่งมอบสินสอดทั้งหมดที่เตรียมมาให้กับหลี่กวงและเฉินรุ่ยเมิ่ง

ทว่าทั้งสองกลับเลื่อนกองสินสอดทั้งหมดไปที่ด้านหน้าของหลี่เหมย โดยที่ไม่คิดจะเปิดดูเลยว่าสินสอดที่ตระกูลหยางให้มานั้นมีอะไรบ้าง

“ลูกทั้งสองคนเก็บไว้เถอะนะ”

หลี่กวงพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน เขาไม่คิดจะเก็บสินสอดพวกนี้ไว้กับตัว แต่อยากให้ลูกสาวและลูกเขยเก็บไว้

การกระทำของเขาสร้างความพึงพอใจให้กับนายท่านหยางไม่น้อย และรู้สึกยินดีที่ครอบครัวของลูกสะใภ้ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวหรือเห็นแก่ได้ 

“ส่วนของขวัญชิ้นนี้ พ่อมอบให้กับครอบครัวของลูกนะ

อาเหมย”

นายท่านหยางยื่นเอกสารที่แสดงความเป็นเจ้าของบ้านหลังหนึ่งให้กับหลี่เหมย

“นี่มันโฉนดบ้านนี่คะ พ่อสามีมอบให้ฉันหมายความว่าอย่างไรคะ”

หญิงสาวรู้สึกแปลกใจที่เห็นเอกสารกรรมสิทธิ์ของบ้านหลังหนึ่ง จึงได้หันไปมองหน้าพ่อสามี

“อี้ข่ายบอกกับพ่อน่ะ ว่าอาเหมยต้องการให้ครอบครัวย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองด้วยกัน พ่อเองก็มีบ้านอยู่หลายหลัง เลยยกหลังนี้ให้จะได้ไม่ต้องไปซื้อให้เสียเงิน แล้วการย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านหลังนี้ก็จะง่ายต่อการย้ายทะเบียนบ้านด้วย” เขากลัวว่าลูกสะใภ้ไม่กล้ารับของขวัญชิ้นนี้จึงได้รีบหาข้ออ้าง

หลี่เหมยหันมามองสามีเล็กน้อย เพราะของขวัญชิ้นนี้เธอมองว่ามีราคาสูงเกินไป แต่เมื่อเห็นเขาพยักหน้าให้ก็ได้เอ่ยขอบคุณพ่อสามี

“ขอบคุณนะคะพ่อ”

หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างดีใจ นั่นเพราะว่าเธอจะได้พาครอบครัวย้ายเข้าเมืองเสียที โดยที่ไม่ต้องหาทางซื้อบ้านในเมืองให้วุ่นวาย

“พวกเราจะได้ย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองกันแล้วใช่ไหมพี่รอง”

หลี่ลู่หรานแทบกระโดดตัวลอย เพราะเธอต้องการเข้าไปอยู่ในเมืองนานแล้ว เนื่องจากสะดวกต่อการไปโรงเรียน และจะได้หลุดพ้นจากหมู่บ้านนี้เสียที แม้จะไม่มีถังชุนเป้ยที่ถูกจองจำอยู่ และไม่มีหร่วนเจินฮ่าว

แต่อย่าลืมว่าหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีบ้านใหญ่หลี่ และคนที่เธอไม่ชอบอยู่อีกมากมาย เมื่อได้ยินว่าพ่อของพี่เขยมอบบ้านให้

และจะได้ย้ายเข้าไปในเมือง เธอจึงดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่

ภาพความดีใจของเด็กสาว ทำให้นายหญิงของตระกูลหยางยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู เพราะเธอไม่เคยมีลูกสาว พอเห็นแบบนี้ก็รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจ

“ใช่แล้วล่ะ สมใจเราแล้วล่ะสิเสี่ยวหราน” หลี่เหมยตอบกลับน้องสาวอย่างเอ็นดู

“เข้าอยู่ในเมืองก็สะดวกต่อการเดินทาง อย่างนั้นยึดจักรยานกลับดีไหม” หลี่ซือหยวนหยอกล้อน้องสาวเล็กน้อย ทำให้เธอมองค้อนพี่ชาย

นี่จึงสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคน

“ส่วนเรื่องงานแต่ง ฉันมองว่าเดือนหน้าวันที่ยี่สิบเหมาะแก่งานมงคล เธอทั้งสองคนคิดว่าอย่างไร”

นายท่านหยางบอก เพราะเขาได้ดูวันมงคงไว้แล้วก่อนที่จะมาที่นี่

“นายท่านว่าอย่างไร พวกเราก็เห็นด้วยครับ” หลี่กวงบอกอย่างยินดี เรื่องนี้เขาไม่กังวลว่าจะต้องแต่งช้าหรือเร็ว เพราะมันเป็นเพียงงานแต่งงานที่เหมือนการบอกให้คนภายนอกรู้เรื่องนี้เท่านั้น 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รักร้ายนายคู่หมั้นสุดโหด   ตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ 2 5 ปีผ่านไปตอนนี้สถานการณ์ครอบครัวของหลี่เหมยก็เข้าที่เข้าทางแล้ว ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น และตอนนี้ลูกฝาแฝดของเธออย่างหยางกวนโม่กับหยางเสี่ยวเหมยก็อายุครบห้าขวบในวันนี้ ดังนั้นวันนี้ที่บ้านตระกูลหยางจึงครึกครื้นมากเป็นพิเศษ เพราะสมาชิกทั้งสองครอบครัวลงไปจัดเตรียมสถานที่ตั้งแต่เช้ามืด แขกที่มาก็จะเป็นทั้งญาติพี่น้อง และคู่ค้าที่มีสัมพันธ์อันดีแต่ในห้องนอนของหยางอี้ข่ายนั้นมีแสงส่องผ่านผ้าม่านสีฟ้าอ่อนเข้ามาเล็กน้อย และในห้องนั้นก็กำลังร้อนระอุกับบทรักยามเช้าที่สามีกำลังมอบให้ภรรยา“อา....เสียวมากครับอาเหมย ไม่ว่ากี่ปีผ่านไปน้องก็ทำให้มีความสุขทุกครั้ง” หยางอี้ข่ายถึงกับแหงนหน้าครางออกมาอย่างสุขสม“ฮึก...ฉันก็เสียวและมีความสุขค่ะ แต่พี่ต้องทำเวลาหน่อยนะ ตอนนี้ทุกคนตื่นแล้ว ซี้ดดด!” หลี่เหมยที่ตอนนี้อยู่ในท่าคุกเข่าหันก้นให้สามีอัดกระแทกแก่นกายเข้าในร่องเสียว เธอครางด้วยความเสียวซ่าน เมื่อตอนนี้สะโพกหนากระแทกใส่เธอไม่ยั้งตับ ๆ ตับ ๆ ตับ ๆ“โอ้ววว พี่ก็พยายามอยู่ แต่พี่อยากมีความสุขกับอาเหมยนาน ๆ พี่รักอาเหมยที่สุด จุ๊บ!”ชายหนุ่มที่แหงนหน้าครางได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งจับเอ

  • รักร้ายนายคู่หมั้นสุดโหด   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1 ตั้งแต่ที่รู้ว่าหลี่เหมยตั้งท้อง นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนจนเกือบจะคลอดอยู่แล้ว ทว่าทุกคนกลับดูแลเธอไม่ต่างจากตอนท้องสองเดือน จนหญิงสาวต้องบ่นออกมาว่าเธอแค่ท้องไม่ได้ป่วยสักหน่อย แล้วคุณหมอก็บอกแล้วว่าท้องนี้ของเธอแข็งแรงดีแม้ว่าจะท้องแฝดก็ตาม “อาเหมยเป็นอย่างไรบ้าง พี่ไม่อยากไปทำงานเลย”หยางอี้ข่ายรีบบอก พร้อมกับมีสีหน้าออดอ้อนภรรยา จนโม่ซือเจินต้องเบะปากใส่ลูกชายที่เสแสร้งจนเกินหน้าเกินตา“ฉันก็เหมือนเดิม วันนี้พี่มีประชุมสำคัญของสมาคมการค้า พี่อย่ามางอแงเหมือนเด็กเลยนะ งานนี้สำคัญนะคะ”หญิงสาวอยากจะขำกับท่าทางของเขา แต่ก็ไม่อยากหักหน้าสามีต่อหน้าคนรับใช้หยางอี้ข่ายถอนหายใจ หากวันนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญเขาคงไม่ไปหรอก เพราะภรรยากำลังอยู่ในช่วงใกล้คลอด“ครับ ถ้าอย่างนั้นพี่ไปก่อนนะ เสร็จงานแล้วจะรีบกลับ”“พ่อถามหน่อยเถอะ คุณชายแห่งตระกูลหยางผู้เหี้ยมโหดไปไหนแล้ว ทำไมพ่อเห็นแค่แมวน้อยเท่านั้นล่ะ” นายท่านหยางอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อลูกชาย“โธ่ พ่อครับ ผมก็แค่คนที่รักลูกรักภรรยา งานก็ส่วนงานสิครับ หากมีคนมารังแก ผมก็พร้อมที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม”ชายหนุ่มไม่สนใจว่าใครจะมองอย่างไร

  • รักร้ายนายคู่หมั้นสุดโหด   บทที่ 26

    บทที่ 26 หยางอี้ข่ายเดินเข้ามาหาหลี่เหมยที่นั่งอยู่บนเตียง เขายิ้มให้อย่างอ่อนหวาน พร้อมกับนั่งลงข้าง ๆ เจ้าสาว“ขอโทษนะครับที่พี่เข้ามาช้า พอดีมีแขกดึงไว้น่ะ” เขาพูดขึ้นและหอมแก้มเธอเบา ๆ“ฉันก็นึกว่าพี่จะปล่อยให้ฉันนอนหนาวอยู่คนเดียวในคืนเข้าหอซะอีก” หญิงสาวพูดอย่างหยอกล้อ และเริ่มมือไม้ซุกซนถอดเสื้อตัวนอกของเขาออก “ไปอาบน้ำก่อนดีไหมคะ”“พี่จะปล่อยให้คืนแต่งงานของเราไร้ความหมายได้อย่างไร ส่วนเรื่องอาบน้ำ เอาไว้อาบทีหลังได้ไหมครับ ตอนนี้ยังไม่มีเหงื่อเลยสักนิด เดี๋ยวเรามาเข้าหอกันดีกว่า” ชายหนุ่มตอบกลับพร้อมกับเริ่มถอดเสื้อผ้าให้เธอทีละชิ้นเหมือนกำลังแกะกล่องของขวัญ“พูดแล้วก็ทำให้พี่คิดถึงคืนนั้น ที่เรามีอะไรกันครั้งแรก พี่อยากมีความรู้สึกแบบนั้นอีกจังเลย พี่ชอบมากที่ปากน้อย ๆ นี้สัมผัสกับแก่นกายของพี่ ไม่เคยมีใครทำแบบนั้นกับพี่มาก่อน พี่ขอแบบนั้นอีกได้ไหมครับ”หยางอี้ข่ายพูดอย่างอ่อนหวาน เขาจูบลงที่ริมฝีปากบางในตอนที่พูดถึงปากของเธอ“งั้นถ้าฉันทำให้พี่ พี่ก็ต้องทำให้ฉันด้วยนะคะ เหมือนวันนั้น” หญิงสาวตอบกลับอย่างเขินอาย เมื่อคิดถึงคืนแรกของทั้งสองคน“ได้สิ เรามามีความสุขด้วยกันนะ”

  • รักร้ายนายคู่หมั้นสุดโหด   บทที่ 25

    บทที่ 25 หัวหน้าหมู่บ้านที่ยืนอยู่ตรงนี้ด้วยรีบห้ามซือถัวทันที“เธออย่าเห็นแก่ได้ไปหน่อยเลยซือถัว ก่อนหน้านี้บ้านใหญ่เคยให้อะไรกับบ้านรองบ้างล่ะ ตอนที่แยกบ้านและตัดขาดกัน บ้านรองแทบไม่มีอะไรติดตัวมาเลย แม้ว่าตอนนี้ครอบครัวของหลี่กวงจะย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง แต่บ้านหลังนี้ก็ยังเป็นของเขาอยู่ และเขาจะให้ของในบ้านกับใคร หรือไม่ให้ใคร มันก็เป็นสิทธิ์ของหลี่กวง เธอไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”“นี่มันเรื่องในครอบครัวของตระกูลหลี่ หัวหน้าหมู่บ้านนั่นแหละที่ไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดแบบนี้ ฉันพูดกับน้องชายของสามี ไม่ได้พูดกับหัวหน้าหมู่บ้านสักหน่อย” เธอหันกลับมาตวาดใส่หัวหน้าหมู่บ้านอย่างโมโห และรู้สึกไม่พอใจที่หัวหน้าหมู่บ้านเข้ามายุ่งในเรื่องนี้แต่ในขณะนั้นเอง ลูกชายคนโตของซือถัวก็เดินเข้ามาด้วยความโมโห พร้อมกับพูดกับแม่อย่างฉุนเฉียวว่า“ผมบอกแม่แล้วใช่ไหมว่าให้เลิกยุ่ง และวุ่นวายกับบ้านอารองเสียที ในเมื่อแม่ไม่เชื่อฟังผม และยังเห็นแก่ตัวอยู่แบบนี้ เห็นทีผมต้องแยกบ้านเสียแล้วล่ะ”พอเห็นว่าลูกชายพูดด้วยอาการโกรธจัด ท่าทีของซือถัว ก็สงบลง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเบา ๆ กับเขา“แม่ก็แค่อยากได้เครื่องเรือน และข้าวขอ

  • รักร้ายนายคู่หมั้นสุดโหด   บทที่ 24

    บทที่ 24 นายท่านหยางเห็นว่าครอบครัวของลูกสะใภ้ยังมีความเกรงใจตัวเอง และยังเรียกนายท่านอยู่จึงได้เอ่ยปากบอกออกมา“ไม่ต้องเรียกฉันว่านายท่านหรอก เราคนกันเองทั้งนั้นต่อจากนี้เรียกฉันว่าพี่หยางตงเถอะ”“เธอก็เหมือนกัน ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณนาย ต่อไปก็เรียกว่าพี่ซือเจิน เราสองครอบครัวตอนนี้เกี่ยวดองกันแล้ว”โม่ซือเจินพูดขึ้นมาบ้าง“ครับ / ค่ะ” ทั้งสองตอบรับอย่างยินดีเหมือนกัน ไม่คิดว่าคนยิ่งใหญ่อย่างนายท่านหยางจะไม่ถือตัวกับชาวบ้านแบบตนเอง“ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้ฉันจะพาเธอไปในเมืองเพื่อไปเลือกดูเสื้อผ้าและของใช้ในงานแต่งงาน เธออยากจะจัดงานที่ไหนเหรอ”โม่ซือเจินถามความคิดเห็น“ฉันอยากจะย้ายบ้านก่อนน่ะค่ะ ตอนนี้พ่อสามีให้บ้านมาแล้ว เลยตั้งใจว่าจะไปดูในวันพรุ่งนี้ เพื่อจะได้เตรียมงานที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า”หลี่เหมยตอบเอง เธอต้องการทำอย่างที่พูดก่อน ส่วนเรื่องจะเชิญใครไปงานแต่งงานนั้นค่อยว่ากัน หรือไม่ก็ค่อยเลี้ยงคนในหมู่บ้านที่มีความสัมพันธ์อันดีกับพวกเธอ“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ อาเหมยก็ค่อยไปดูบ้านกับทุกคนก็แล้วกันว่าชอบหรือเปล่า หากไม่ชอบพ่อจะได้เปลี่ยนหลังใหม่ให้ แล้วจะได้ย้ายทะเบียนบ้านทุกคนเ

  • รักร้ายนายคู่หมั้นสุดโหด   บทที่ 23

    บทที่ 23 ครึ่งเดือนต่อมา...แม้ว่าจะผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว แต่ตอนนี้ในหมู่บ้านก็ยังพูดคุยเรื่องของถังชุนเป้ยอยู่ เนื่องจากการกระทำของเธอมันโหดร้ายจนเกินไป แต่ก็ไม่มีใครไปโกรธหรือเกลียดคนบ้านถัง นั่นเพราะว่าทุกคนแยกแยะออก และรู้ว่าคนบ้านถังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้และที่ทุกคนแปลกใจก็เพราะว่าเมื่อสัปดาห์ก่อน ตัวของหร่วนเจินฮ่าวโดนคำสั่งย้ายอย่างกะทันหัน และเห็นว่าเงินเดือนที่ได้จากกองพลน้อยถูกสั่งหักไว้เพื่อชำระหนี้ให้กับหลี่กวงตามสัญญาที่เคยทำไว้ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นหัวข้อสนทนาของชาวบ้านไม่ต่างกันวันนี้หลี่เหมยตั้งใจจะเข้าเมือง เพราะอยากไปดูที่โรงขยะว่ามีสิ่งของน่าสนใจหรือไม่ อีกอย่างเธอได้ยินสามีพูดว่า พ่อกับแม่สามีใกล้จะกลับมาแล้ว เธอจึงอยากจะหาของเพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าในระบบออกมาซึ่งในระบบพอมีเครื่องประดับบางอย่างที่ไม่ผิดกฎหมายในยุคนี้ ส่วนพ่อสามีก็คงจะให้เป็นนาฬิกาข้อมือ ที่หาไม่ได้จากในยุคนี้เหมือนกัน‘เจ้านาย ภาพวาดนั้นมีค่ามาก เจ้านายซื้อเก็บไว้ก่อนเถอะในอนาคต ซื้อขายเป็นร้อยล้านหยวนกันเลยนะ’ลี่ลี่รีบส่งเสียงบอกเมื่อเห็นภาพวาดโบราณที่แทบจะประเมินค่าไม่ได้ แต่ในยุคนี้นั้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status