Chapter 7
'ไม่สมฐานะ'
.
.
เสียงนกน้อยเจื้อยแจ้วไปทั่วผืนป่า ลมเย็นพัดผ่านเข้ามาในห้องนอนจนหน้าต่างปลิวไสวมันทำให้มัทนาที่กำลังหลับค่อย ๆ เปิดเปลือกตาสวยขึ้น ดวงตาจับจ้องไปยังเบื้องหน้าด้วยความมึนเบลอ สายตายังคงพร่ามัว เธอขยับตัวเล็กน้อยกลับรู้สึกหนัก ๆ เหมือนมีอะไรพาดทับบนหน้าอก
"ว้ายยยย!" แต่เมื่อหันไปมองหญิงสาวก็ต้องตกใจจนร้องกรี๊ดออกมาเมื่อพบว่ากันต์ในสภาพเปลือยเปล่ากำลังนอนกอดเธออยู่และไม่ใช่เขาที่เปลือย เธอเองก็เหมือนกันไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าอะไรเลย
"ตื่นแล้วเหรอจ้ะเมีย" กันต์ยกยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นหน้าตาตื่นตกใจของมัทนา
"กรี๊ดดดด!" แต่แทนที่มัทนาจะตอบเขากลับส่งเสียงกรี๊ดอัดหน้าชายหนุ่มแทน หญิงสาวรีบก้าวขาลงจากเตียงด้วยความตกใจมือก็หยิบเอาผ้าห่มมาปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้
สมองพยายามคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น ภาพความทรงจำมากมายก็ไหลพรั่งพรูเข้ามา ภาพที่เธอกำลังเล่นบทรักบทสวาทอันเร่าร้อนกับเขา ทั้งบนเตียง บนพื้น เกาะผนัง เรียกว่าทำหมดทุกพื้นที่ในห้องนี้เลยก็ว่าได้
ให้ตายสิทำไมเธอร่านสวาทขนาดนั้น!
แต่มันน่าตกใจกว่าตรงที่เธอไม่ขัดขืนเขาเลย สมยอมเขาทุกอย่าง มันน่าแปลกจังเพราะเธอไม่อยากหลับนอนกับเขา แต่ทำไมเมื่อคืนถึงยอมง่ายดายแบบนั้นมันเหมือนทำอะไรไปโดยที่ไม่รู้ตัว แต่มันก็ไม่ใช่เพราะจำได้ทุกอย่างทุกนาทีที่เขาสัมผัสบนร่างกาย นี่มันเกิดอะไรขึ้น
"มาต่อกันอีกสักรอบยามเช้าดีไหม?"
"ว้ายยย!" เธอร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อเขาลุกมายืนตรงหน้าเธอต้องแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ พอจะถอยหนีตอนนี้ก็ไม่ทันเพราะถูกเขาคว้าตัวเข้าไปกอดอย่างรวดเร็ว
"ปล่อยฉันนะคะ ปล่อย!" มัทนาพยายามดิ้นขัดขืนเขาสุดแรงของเธอ แต่ก็ถูกกันต์จับเหวี่ยงลงที่นอนแล้วทิ้งตัวลงคร่อมทับ
"...คะ...คุณจะทำอะไรฉันคะ"
"อื้อออ~" เขาไม่ตอบแต่เลือกจะไซ้ไปตามซอกคอขาวจนมัทนาต้องเอียงคอหลบมือก็ยกขึ้นดันใบหน้าและอกกว้างออกไป
"เธอเป็นเมียฉันแล้วนะจะขัดขืนทำไม" เขากดแขนของเธอเอาไว้ข้างหัวดวงตาคู่คมจ้องมองใบหน้าหวานอย่างดุดัน
"ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
"ถึงเธอจะไม่เข้าใจก็ช่างเถอะ แต่ที่เธอควรรู้และตระหนักไว้ว่าตอนนี้เธอเป็นเมียฉันแล้วและฉันเป็นผัวของเธอ เธอมีหน้าที่ทำตามคำสั่งผัวเท่านั้น"
เมื่อได้ฟังแบบนั้นก็ทำเอามัทนานิ่งไปถึงเธอจะไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นก็ตามทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ แต่เธอก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียเขาไปแล้วอย่างที่เขาว่านั่นแหละ เมียต้องอยู่ในโอวาทผัวเหมือนที่แม่มักจะสั่งสอนเธอเสมอว่าผัวน่ะช้างเท้าหน้าเราต้องปรนนิบัติดูแลผัวให้ดี เชื่อฟังผัว รักและเทิดทูนให้มาก ๆ
เมื่อเห็นมัทนานิ่งไปกันต์ก็ลงมือย่ำยีร่างกายของเธอต่อ ริมฝีปากครอบลงบนยอดเม็ดบัวงามดูดเม้มและขบกัดมันเบา ๆ จนมัทนารู้สึกเสียงวูบวาบไปทั่วท้องน้อย แต่ถึงแบบนั้นเธอก็ยังขัดขืนเขาด้วยความหวาดกลัว ใช่แม่เธอสอนให้เชื่อฟังผัวรักและเทิดทูนก็จริง แต่ก็สอนด้วยว่าควรมอบร่างกายให้ผัวที่แต่งงานแล้วด้วยเท่านั้น อย่าชิงสุกก่อนห่าม อย่านอนกับผู้ชายที่ไม่ได้แต่งงาน
"...ยะ...อย่านะคะ ปล่อย!" มัทนาพยายามขัดขืนเขาผลักใบหน้าคมออกไปจากร่างกายของเธอ แต่เขาก็ไม่ยอมและยังคงสัมผัสบนเรือนร่างอย่างจาบจ้วง
"ปล่อยฉัน!"
"โอ๊ย!"
ด้วยความหวาดกลัวมัทนาเลยพยายามจะขัดขืนสุดแรงนั่นทำให้เธอเผลอข่วนเล็บลงบนใบหน้าของกันต์จนเขาได้แผลเลือดซิบและมันไปปลุกความเป็นอสูรร้าย เขาเปลี่ยนจากมือที่บีบเคล้นไปตามร่างอรชรขึ้นมาบีบคอเล็กแทน
"...ปะ..ปล่อย อือออ~"
"กล้าดียังไงมาทำร้ายผัวแบบนี้"
"เป็นแค่เมีย หน้าที่คือแค่เชื่อฟังผัว ปรนนิบัติผัวแค่นั้น”
มัทนาดิ้นพล่านเมื่อลมหายใจเริ่มติดขัด เล็บจิกข่วนลงบนมือและแขนใหญ่แต่ก็ไม่เป็นผลเขาไม่รู้สึกอะไรเลยแถมยังเพิ่มแรงบีบมากขึ้นจนดวงตาคู่สวยเบิกโพลงแทบถลนออกมาจากเบ้า ลิ้นเล็กเริ่มดันริมฝีปากเมื่อหลอดลมถูกบีบรัดจนอากาศไม่สามารถเข้าไปได้
"กันต์หยุด!"
"เจ้ากันต์หยุด!" แต่ก่อนที่มัทนาจะหมดลมหายใจตายไปจริง ๆ เสกและทิพย์ก็บุกเข้ามาในห้องช่วยดึงตัวกันต์ที่กำลังถูกโทสะของยักษาเข้าครอบงำจนไร้สติสัมปชัญญะออกไป นั่นทำให้หญิงสาวรอดตายมาได้
มัทนารีบสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด สายตาที่เจิ่งนองไปด้วยคราบน้ำตาก็มองกันต์ที่กำลังถูกเสกลากคอออกไปจากห้องด้วยความหวาดกลัวกับสิ่งที่เขากระทำกับเธอจนไม่อาจจะข่มอารมณ์ได้ร้องไห้ออกมาจนเนื้อตัวสั่นเทา
"...ฮึก...ฮือ...ฮือ"
"ฉันขอโทษแทนกันต์ด้วยนะ" ทิพย์รีบขอโทษแทนลูกเลี้ยงของเธอเมื่อเห็นมัทนาร้องไห้จนน่าสงสาร
"...มะ...มันเกิดอะไรขึ้นคะ หนูจำได้ทุกอย่าง แต่ก็เหมือนไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลย หนูไม่เข้าใจเลย"
มัทนาพูดไปก็ร้องไห้ไป น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความเสียใจยิ่งทำให้ทิพย์สงสารมากกว่าเดิมอีกที่หญิงสาวต้องมาเจออะไรแบบนี้ ไหนจะต้องกลายมาเป็นที่รองรับอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของกันต์ที่ยังควบคุมตัวเองไม่ได้อีก ทิพย์เลยดึงตัวมัทนาเข้ามากอดเพื่อปลอบประโลมเธอ
"ฉันขอโทษแทนกันต์ด้วยที่ทำนิสัยแย่ ๆ กับเธอ แต่ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะให้คุณเสกจัดงานแต่งงานให้เธอกับกันต์ให้มันถูกต้องตามประเพณีและจะไม่ให้กันต์มาทำร้ายเธอแบบนี้อีกแล้ว"
"...ตะ...แต่งงานเหรอคะ?" เธอเงยมองหน้าทิพย์ด้วยความลังเลใจ
"ใช่ แต่งงาน มันคือสิ่งที่ถูกที่ควร"
Chapter 7'ไม่สมฐานะ'.."ใช่ แต่งงาน มันคือสิ่งที่ถูกที่ควร"เมื่อได้ฟังแบบนั้นมัทนาก็เกิดความลังเลใจขึ้นมา มันถูกต้องแล้วที่คนได้เสียเป็นผัวเป็นเมีย ผิดผีกันแล้วมันจะต้องแต่งงานกัน ขอขมาญาติผู้ใหญ่ ทำตามประเพณีให้มันถูกต้องเพื่อเกียรติของตัวเองด้วย แต่ที่เธอลังเลเพราะขนาดยังไม่แต่งงานเขายังเกือบจะฆ่าเธอถ้าไม่มีคนมาช่วยคงตายไปแล้วและถ้าแต่งงานไปเธอจะไม่ตายคาเรือนหอเลยเหรอไง"ไม่ต้องคิดมากนะ ทำใจให้สบาย ฉันกับคุณเสกจะจัดการเรื่องนี้ให้ ตอนนี้ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนนะ อะไรที่มันเสียไปแล้วเราเรียกคืนไม่ได้เพราะฉะนั้นให้มันเป็นอดีตดีกว่า อย่าเก็บมาคิดให้เราทุกข์"มัทนาไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงพยักหน้ารับเท่านั้นก่อนจะลุกจากเตียงแล้วเดินไปทางห้องน้ำ แต่เมื่อเข้ามาในห้องน้ำได้เธอก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้งจนเนื้อตัวสั่นเทา ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพร้อมน้ำตาที่เจิ่งนองไปทั่วใบหน้า ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยช้ำรอยแดงจ้ำมันตอกย้ำสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ ในตอนนี้สูญสิ้นแล้วซึ่งความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ตั้งใจรักษาเอาไว้ให้ผู้ชายที่จะร่วมหอลงโรงด้วย มันถูกกันต์ย่ำยีและกระชากเอาไปหมดแล้วเธอยังคงสับสน ยังคงไม่เข้า
Chapter 8'ร่วมหอลงโลง'..สองสัปดาห์ต่อมาภายในบ้านสุพรรณภูมิมีผู้คนเข้าออกมากมาย ใต้ถุนบ้านมีเหล่าคนเฒ่าคนแก่ช่วยกันทำกับข้าวอยู่ บริเวณบ้านก็ถูกตกแต่งไปด้วยผ้าสีต่าง ๆ มากมาย พวงมาลัยมะลิถูกตกแต่งตามประตูหน้าต่างจนกลิ่มหอมโชยเป็นสัญญาณของงานมงคลที่กำลังถูกจัดขึ้นภายในบ้านหลังนี้ ทิพย์ในชุดผ้าไหมสวยงามเดินเข้ามาภายในห้องหนึ่งที่ด้านในมีมัทนากำลังแต่งเนื้อแต่งตัวอยู่หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อผ้าไหมสีครีมปักลวดลายสีทองเด่นสง่ามีสไบผืนเล็กที่ถูกถักทอเป็นลวดลายนกยูงเข้ากับผ้าซิ่นผ้าไหมลายเดียวกันพาดเฉียงไหล่เอาไว้อย่างสวยงาม ผมถูกม้วนเป็นมวยขึ้นไปประดับด้วยดอกไม้และปิ่นปักผมลายนกยูงสีทอง ใบหน้าสวยหวานแต่งเติมไปด้วยเครื่องประทินโฉมจนสวยเด่นกว่าใครทุกคนในงาน“งดงามแท้ ๆ” ทิพย์เดินเข้ามาหามัทนาสายตาก็จับจ้องหญิงสาวผ่านกระจกเงาตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม“หนูไม่แน่ใจเลยค่ะ” เธอสบตากับทิพย์อย่างลังเลใจ“ทำไมล่ะ มีอะไรให้ต้องทุกข์ใจอีก?”“คุณก็รู้ว่าคุณกันต์ไม่อยากแต่งงานกับหนู บังคับเขาแบบนี้มันจะไม่ยิ่งแย่เหรอคะ?”“ไม่อยากแต่งก็ต้องแต่ง บางทีคนนิสัยแบบกันต์ก็ควรถูกขัดใจบ้าง”คำพูดของทิพย์มันยิ่งทำให้มั
Chapter 8'ร่วมหอลงโลง'.."ฉันก็แค่อยากให้เธอรู้ว่าฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอ"คำพูดของเขามันทำให้มัทนาหันมองด้วยสีหน้าไม่พอใจที่แม้แต่ในตอนนี้ที่กำลังทำพิธีกันเขาก็ยังพยายามจะพูดจาทำร้ายจิตใจของเธออีก "ถ้าปากของคุณมันพูดเรื่องดี ๆ ไม่เป็นก็เงียบไปก็ได้นะคะ มันคงไม่ได้ดูเหมือนเป็นคนบ้าใบ้ขนาดนั้นหรอก"เมื่อได้ฟังแบบนั้นกันต์ก็รู้สึกไม่พอใจจนชักสีหน้าแต่เมื่อหันไปมองผู้เป็นพ่อก็ทำให้เขาต้องข่มงับอารมณ์เอาไว้ ใจไม่ได้อยากจะแต่งงานกับมัทนาสักนิดแต่พ่อบังคับถ้าไม่ทำตามก็เตรียมเก็บข้าวของออกไปอยู่นอกบ้านและคนแบบพ่อไม่เคยพูดเล่นหรอก พร้อมจะไล่ตะเพิดเขาออกนอกบ้านเสมอพิธีทุกอย่างดำเนินมาจนเสร็จสิ้น แขกเหรื่อทยอยกันกลับบ้านไปจนแทบหมดเหลือแค่ไม่กี่คนที่อยู่ช่วยล้างถ้วยจานและเก็บของภายในงาน มัทนาเดินมาหาพ่อแม่ของเธอด้วยรอยยิ้มก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นแล้วก้มกราบทั้งสองคน"แม่ดีใจนะที่เห็นเราเป็นฝั่งเป็นฝามีคนดูแลเสียที" มิ่งขวัญเอื้อมมือมาลูบหัวของลูกสาว"ออกเรือนไปแล้วก็ทำหน้าที่เมียให้ดีนะอย่าให้มันขาดตกบกพร่องตรงไหน" ชาตรีพ่อของมัทนาพูดกับลูกสาว"ค่ะ หนูเข้าใจแล้วค่ะ หนูจะเป็นเมียที่ดีของ
Chapter 9'สวาทเขย่าหอ'..เสียงลมหายใจร้อนเป่ารดเรือนร่างเปลือยเปล่าของมัทนา ใบหน้าคมของกันต์ไล่พรมจูบดอมดมไปทั่วร่างกายของเธอที่ถูกมัดแขนไว้กับขื่อของบ้านจนยืนตรงมือก็ยืดขึ้นเหนือหัวจนสุดแขน มันค่อนข้างวิปลาสแต่ถ้าเขาชอบและต้องการเธอในฐานะเมียก็พร้อมจะสนองเทียนที่ถูกจุดให้ความสว่างไสวภายในห้องถูกยกขึ้นมา น้ำตาเทียนที่กำลังร้อนระอุเต็มเชิงเทียนถูกสาดใส่ร่างกายของมัทนาฝังความแสบร้อนลงบนเนื้ออ่อนของเธอจนหญิงสาวหลุดเสียงกรี๊ดออกมานั่นทำให้กันต์ต้องหยิบเอาผ้ามาปิดปากเอาไว้เธอจะได้ไม่ส่งเสียงออกมาให้ใครตกใจมัทนาที่ในตอนนี้ถูกจับมัดห้อยอยู่กับขื่อก็ไร้ซึ่งทางสู้ ต้องยอมให้เขาเอาผ้าปิดปากแต่โดยดี สมองก็จินตนาการว่าหลังจากนี้เขาจะสาดกามวิปลาสเข้าใส่เธอในรูปแบบไหนอีก แต่เขากลับหยดน้ำตาเทียนลงบนผิวของเธอแทนจนหญิงสาวบิดเร้าร่างกายด้วยความแสบร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกายร่างกายของมัทนาเต็มด้วยคราบแห้งกรังของน้ำตาเทียน ริมฝีปากหนาไล่พรมจูบไปทั่วเนื้ออ่อนฝากร่องรอยรักสีแดงจ้ำเอาไว้สลับกับขบกัดจนหญิงสาวชักสีหน้าเหยเก ดวงตาเจิ่งนองไปด้วยคราบน้ำตาจากความเจ็บปวด มันช่างเป็นคืนเข้าหอที่น่าจดจำเสี
Chapter 9'สวาทเขย่าหอ'..มันเป็นความเจ็บปวดที่หอมหวานเวลาผ่านเลยไปนานแค่ไหนไม่รู้แต่บทรักยังคงดำเนินต่อไป ร่างเล็กถูกพามายังหน้าต่าง ใบหน้าของเธอหันออกด้านนอกที่เบื้องหน้าเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่เห็นเป็นเงาราง ๆ เหมือนสัตว์ร้าย แรงกระแทกยังคงส่งผ่านมาจากด้านหลังจนร่างกายโยกเย้า มือเล็กต้องเกาะขอบหน้าต่างแน่นเพราะกลัวว่าจะตกกันต์ดึงตัวมัทนาขึ้นมาก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งบีบลงบนคอของเธอ เพิ่มแรงมากขึ้นจนหญิงสาวเริ่มดิ้นพล่านเมื่อรู้สึกหายใจหายคอติดขัด ในขณะที่เอวของเขาก็ยังคงอัดกระแทกแก่นกายร้อนระอุใส่ช่องแคบสรวงสวรรค์ของเธอไม่เบาแรง ร่างกายรู้สึกเสียวซ่านและทรมานไปพร้อม ๆ กันเมื่อมือใหญ่เพิ่มแรงบีบที่คอมากขึ้น"อือออ!" เธอส่งเสียงร้องอื้ออึงออกมาเพราะปากยังคงมีผ้าผูกปิดเอาไว้จนพูดไม่เป็นภาษาไหนจะหลอดลมที่ถูกบีบรัดอีก ใบหน้าหวานเริ่มซีดลงเมื่อเลือดไปเลี้ยงใบหน้าไม่เพียงพอ ดวงตาพร่ามัวเหมือนคนที่กำลังจะหมดสติร่างกายอ่อนเพลียแรงจนแทบยืนไม่ไหวแต่ก่อนที่เธอจะขาดอากาศหายใจไปจริง ๆ เขาก็ปล่อยมือออกจากคอของเธอ ให้ร่างกายได้เป็นอิสระอีกครั้ง มัทนารีบสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด ดวงตาเริ่มกลับมาชัดอ
Chapter 10'สาวเมืองกรุงกับสาวบ้านนอก'..มัทนาเดินเข้ามาภายในหมู่บ้านท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่จับจ้องมาที่เธอ ก็เข้าใจแหละว่าเธอเป็นคนต่างบ้าน เคยเป็นสาวใช้ที่ดันตกถังข้าวสารมันก็ไม่แคล้วชาวบ้านนินทาหรอก หญิงสาวพยายามไม่สนใจเลือกจะเดินตรงไปยังร้านค้าเพื่อเตรียมใส่บาตรพระตามคำแนะนำของคนขับรถที่อุตส่าห์ขับพาเธอมาที่นี่ "ป้าคะ ขอซื้อน้ำขวดกับนมถั่วเหลืองหนึ่งกล่องค่ะ" มัทนาพูดกับเจ้าของร้านขายของชำ "นี่จ้ะ 15 บาท" ป้ายื่นของให้มัทนา"ขอบคุณนะคะ" มัทนายื่นเงินให้ป้าและได้เงินถอนกลับมา "หนูนี่ลูกสะใภ้คุณเสกเขาใช่ไหม?""ใช่ค่ะ""สวยแบบที่เขาพูดกันเลย" "คนสวยวาสนาดี ชาติที่แล้วคงทำบุญมาเยอะ" ป้าคนหนึ่งเดินเข้ามาหามัทนาพร้อมจับไปตามแขนของเธอด้วยจนหญิงสาวตกใจเล็กน้อยแต่ก็พยายามฝืนยิ้มออกไป "ขอบคุณนะคะ" เธอกล่าวกับป้าตรงหน้าเป็นจังหวะที่พระมาพอดีเธอเลยรีบเดินออกไปใส่บาตร"นิมนต์เจ้าค่ะ" มัทนายกมือขึ้นไหว้พระภิกษุก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งย่อที่พื้น เมื่อพระหยุดลงจึงหยิบข้าวปลาอาหารที่ใส่ถุงแกงร้อนมาอย่างเรียบร้อยใส่ลงไปในบาตรพระ ตามด้วยนมและน้ำ "อะภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฒาปะจายิโน จัตตาโร ธ
Chapter 11'กระซ่านสวาท'..รถขับพาสองสามีภรรยากลับมาบ้าน ทันทีที่ถึงบ้านมัทนาก็รีบก้าวลงจากรถเดินหนีกันต์ในทันทีเพราะไม่อยากปะทะคารมกับเขาในตอนนี้เพิ่งจะใส่บาตรมาแต่ชายหนุ่มเหมือนจะไม่สนใจเขารีบก้าวเท้าไปหาหญิงสาวแล้วกระชากแขนของเธอให้หยุด"อะไรคะ?" เธอหันมามองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ"ทำไมไปไหนไม่คิดจะบอกฉันบ้าง?""ก็คุณหลับอยู่ถ้าฉันปลุกคุณเดี๋ยวคุณก็โมโหใส่ฉันอีก""แต่หายไปแบบนี้ฉันยิ่งหงุดหงิด""ทำไมคะ? หรือคิดว่าฉันจะหนีคุณไป?""ใช่ ฉันกลัวเธอจะหนีฉันไป แต่ไม่ใช่เพราะรักเธอหรอกนะ แต่เพราะยังใช้งานเธอไม่คุ้มกับค่าสินสอดที่เสียไปต่างหาก""งั้นก็เอาสิคะ ตรงนี้เลยดีไหม?" มัทนาวางตะกร้าลงก่อนจะหันกลับมามองหน้ากันต์แล้วเริ่มปลดกระดุมเสื้อของตัวเองจนเห็นถึงหน้าอกนั่นทำให้ชายหนุ่มตกใจเพราะไม่คิดว่าหญิงสาวจะกล้าทำอะไรแบบนี้"นี่ทำบ้าอะไร หน้าไม่มียางอายบ้างเหรอไง?" เขารีบดึงเสื้อของเธอเอาไว้เพราะกลัวว่าใครจะเห็น"ฉันมันหมดยางอายตั้งแต่เสียตัวให้คุณแล้ว" เธอปัดมือของเขาออกและทำท่าจะถอดเสื้อออกจริง ๆ"หยุดนะมัทนา!" กันต์แผดเสียงเข้มใส่เธอก่อนจะลากตัวหญิงสาวกลับเข้าห้องเขาเหวี่ยงเธอไปที่พื้
Chapter 12'วันแรกในฐานะสะใภ้'..@หมู่บ้านตีนเขากุมภกรรณรถออฟโรดถูกขับเข้ามาภายในหมู่บ้านจนฝุ่นจากดินแดงฟุ้งกระจายไปทั่วทิศทาง ก่อนจะมีกลุ่มคนก้าวลงมาจากรถด้วยท่าทางขะมักเขม้นและการแต่งตัวแบบคนเมือง ที่ท้ายรถยังมีสัมภาระมากมายรวมถึงปืนผาหน้าไม้อีกด้วย"พวกเอ็งเป็นใครเนี่ย มีธุระอะไร?" ไกรศักดิ์เดินเข้ามาทักทายผู้มาเยือน"สวัสดีครับ ลุงคงเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ผมและคณะเป็นพรานป่า ได้ข่าวว่าป่าที่นี่สิงสาราสัตว์มันเยอะเลยจะมาล่าสักหน่อย" เมฆ หัวหน้าคณะยกมือไหว้ไกรศักดิ์พร้อมบอกกล่าวจุดประสงค์แบบไม่มีปิดบัง"เออ ๆ แต่พวกเอ็งก็น่าจะรู้นิ่ว่าป่าที่นี่มันแรง""ผมทราบแล้วครับ แต่ไม่ต้องห่วงพวกผมก็มีของดีเหมือนกัน""งั้นทางฉันก็ไม่ขัดหรอก มันไม่ใช่ป่าของฉันห้ามไม่ได้""งั้นพวกผมขอกางเต็นท์นอนค้างในหมู่บ้านสักคืนนะครับ พอจะมีที่ให้ไหม?""งั้นก็ทางนู้นแล้วกัน มันมีบ่อน้ำอยู่ พวกเอ็งจะได้อาบน้ำอาบท่ากันได้" ไกรศักดิ์ชี้นิ้วไปที่ข้างหมู่บ้านที่เป็นพื้นที่โล่ง ๆ มีบ่อน้ำใหญ่"งั้นขอบคุณนะครับ เร็วเว้ยพวกเราขนของไปที่ริมบ่อน้ำจะได้กางเต็นท์นอนกันก่อนจะมืดค่ำ" เมฆหันไปสั่งลูกน้องก่อนจะเดินออกไปเพื่อ
Chapter 12'วันแรกในฐานะสะใภ้'..@หมู่บ้านตีนเขากุมภกรรณรถออฟโรดถูกขับเข้ามาภายในหมู่บ้านจนฝุ่นจากดินแดงฟุ้งกระจายไปทั่วทิศทาง ก่อนจะมีกลุ่มคนก้าวลงมาจากรถด้วยท่าทางขะมักเขม้นและการแต่งตัวแบบคนเมือง ที่ท้ายรถยังมีสัมภาระมากมายรวมถึงปืนผาหน้าไม้อีกด้วย"พวกเอ็งเป็นใครเนี่ย มีธุระอะไร?" ไกรศักดิ์เดินเข้ามาทักทายผู้มาเยือน"สวัสดีครับ ลุงคงเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ผมและคณะเป็นพรานป่า ได้ข่าวว่าป่าที่นี่สิงสาราสัตว์มันเยอะเลยจะมาล่าสักหน่อย" เมฆ หัวหน้าคณะยกมือไหว้ไกรศักดิ์พร้อมบอกกล่าวจุดประสงค์แบบไม่มีปิดบัง"เออ ๆ แต่พวกเอ็งก็น่าจะรู้นิ่ว่าป่าที่นี่มันแรง""ผมทราบแล้วครับ แต่ไม่ต้องห่วงพวกผมก็มีของดีเหมือนกัน""งั้นทางฉันก็ไม่ขัดหรอก มันไม่ใช่ป่าของฉันห้ามไม่ได้""งั้นพวกผมขอกางเต็นท์นอนค้างในหมู่บ้านสักคืนนะครับ พอจะมีที่ให้ไหม?""งั้นก็ทางนู้นแล้วกัน มันมีบ่อน้ำอยู่ พวกเอ็งจะได้อาบน้ำอาบท่ากันได้" ไกรศักดิ์ชี้นิ้วไปที่ข้างหมู่บ้านที่เป็นพื้นที่โล่ง ๆ มีบ่อน้ำใหญ่"งั้นขอบคุณนะครับ เร็วเว้ยพวกเราขนของไปที่ริมบ่อน้ำจะได้กางเต็นท์นอนกันก่อนจะมืดค่ำ" เมฆหันไปสั่งลูกน้องก่อนจะเดินออกไปเพื่อ
Chapter 11'กระซ่านสวาท'..รถขับพาสองสามีภรรยากลับมาบ้าน ทันทีที่ถึงบ้านมัทนาก็รีบก้าวลงจากรถเดินหนีกันต์ในทันทีเพราะไม่อยากปะทะคารมกับเขาในตอนนี้เพิ่งจะใส่บาตรมาแต่ชายหนุ่มเหมือนจะไม่สนใจเขารีบก้าวเท้าไปหาหญิงสาวแล้วกระชากแขนของเธอให้หยุด"อะไรคะ?" เธอหันมามองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ"ทำไมไปไหนไม่คิดจะบอกฉันบ้าง?""ก็คุณหลับอยู่ถ้าฉันปลุกคุณเดี๋ยวคุณก็โมโหใส่ฉันอีก""แต่หายไปแบบนี้ฉันยิ่งหงุดหงิด""ทำไมคะ? หรือคิดว่าฉันจะหนีคุณไป?""ใช่ ฉันกลัวเธอจะหนีฉันไป แต่ไม่ใช่เพราะรักเธอหรอกนะ แต่เพราะยังใช้งานเธอไม่คุ้มกับค่าสินสอดที่เสียไปต่างหาก""งั้นก็เอาสิคะ ตรงนี้เลยดีไหม?" มัทนาวางตะกร้าลงก่อนจะหันกลับมามองหน้ากันต์แล้วเริ่มปลดกระดุมเสื้อของตัวเองจนเห็นถึงหน้าอกนั่นทำให้ชายหนุ่มตกใจเพราะไม่คิดว่าหญิงสาวจะกล้าทำอะไรแบบนี้"นี่ทำบ้าอะไร หน้าไม่มียางอายบ้างเหรอไง?" เขารีบดึงเสื้อของเธอเอาไว้เพราะกลัวว่าใครจะเห็น"ฉันมันหมดยางอายตั้งแต่เสียตัวให้คุณแล้ว" เธอปัดมือของเขาออกและทำท่าจะถอดเสื้อออกจริง ๆ"หยุดนะมัทนา!" กันต์แผดเสียงเข้มใส่เธอก่อนจะลากตัวหญิงสาวกลับเข้าห้องเขาเหวี่ยงเธอไปที่พื้
Chapter 10'สาวเมืองกรุงกับสาวบ้านนอก'..มัทนาเดินเข้ามาภายในหมู่บ้านท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่จับจ้องมาที่เธอ ก็เข้าใจแหละว่าเธอเป็นคนต่างบ้าน เคยเป็นสาวใช้ที่ดันตกถังข้าวสารมันก็ไม่แคล้วชาวบ้านนินทาหรอก หญิงสาวพยายามไม่สนใจเลือกจะเดินตรงไปยังร้านค้าเพื่อเตรียมใส่บาตรพระตามคำแนะนำของคนขับรถที่อุตส่าห์ขับพาเธอมาที่นี่ "ป้าคะ ขอซื้อน้ำขวดกับนมถั่วเหลืองหนึ่งกล่องค่ะ" มัทนาพูดกับเจ้าของร้านขายของชำ "นี่จ้ะ 15 บาท" ป้ายื่นของให้มัทนา"ขอบคุณนะคะ" มัทนายื่นเงินให้ป้าและได้เงินถอนกลับมา "หนูนี่ลูกสะใภ้คุณเสกเขาใช่ไหม?""ใช่ค่ะ""สวยแบบที่เขาพูดกันเลย" "คนสวยวาสนาดี ชาติที่แล้วคงทำบุญมาเยอะ" ป้าคนหนึ่งเดินเข้ามาหามัทนาพร้อมจับไปตามแขนของเธอด้วยจนหญิงสาวตกใจเล็กน้อยแต่ก็พยายามฝืนยิ้มออกไป "ขอบคุณนะคะ" เธอกล่าวกับป้าตรงหน้าเป็นจังหวะที่พระมาพอดีเธอเลยรีบเดินออกไปใส่บาตร"นิมนต์เจ้าค่ะ" มัทนายกมือขึ้นไหว้พระภิกษุก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งย่อที่พื้น เมื่อพระหยุดลงจึงหยิบข้าวปลาอาหารที่ใส่ถุงแกงร้อนมาอย่างเรียบร้อยใส่ลงไปในบาตรพระ ตามด้วยนมและน้ำ "อะภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฒาปะจายิโน จัตตาโร ธ
Chapter 9'สวาทเขย่าหอ'..มันเป็นความเจ็บปวดที่หอมหวานเวลาผ่านเลยไปนานแค่ไหนไม่รู้แต่บทรักยังคงดำเนินต่อไป ร่างเล็กถูกพามายังหน้าต่าง ใบหน้าของเธอหันออกด้านนอกที่เบื้องหน้าเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่เห็นเป็นเงาราง ๆ เหมือนสัตว์ร้าย แรงกระแทกยังคงส่งผ่านมาจากด้านหลังจนร่างกายโยกเย้า มือเล็กต้องเกาะขอบหน้าต่างแน่นเพราะกลัวว่าจะตกกันต์ดึงตัวมัทนาขึ้นมาก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งบีบลงบนคอของเธอ เพิ่มแรงมากขึ้นจนหญิงสาวเริ่มดิ้นพล่านเมื่อรู้สึกหายใจหายคอติดขัด ในขณะที่เอวของเขาก็ยังคงอัดกระแทกแก่นกายร้อนระอุใส่ช่องแคบสรวงสวรรค์ของเธอไม่เบาแรง ร่างกายรู้สึกเสียวซ่านและทรมานไปพร้อม ๆ กันเมื่อมือใหญ่เพิ่มแรงบีบที่คอมากขึ้น"อือออ!" เธอส่งเสียงร้องอื้ออึงออกมาเพราะปากยังคงมีผ้าผูกปิดเอาไว้จนพูดไม่เป็นภาษาไหนจะหลอดลมที่ถูกบีบรัดอีก ใบหน้าหวานเริ่มซีดลงเมื่อเลือดไปเลี้ยงใบหน้าไม่เพียงพอ ดวงตาพร่ามัวเหมือนคนที่กำลังจะหมดสติร่างกายอ่อนเพลียแรงจนแทบยืนไม่ไหวแต่ก่อนที่เธอจะขาดอากาศหายใจไปจริง ๆ เขาก็ปล่อยมือออกจากคอของเธอ ให้ร่างกายได้เป็นอิสระอีกครั้ง มัทนารีบสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด ดวงตาเริ่มกลับมาชัดอ
Chapter 9'สวาทเขย่าหอ'..เสียงลมหายใจร้อนเป่ารดเรือนร่างเปลือยเปล่าของมัทนา ใบหน้าคมของกันต์ไล่พรมจูบดอมดมไปทั่วร่างกายของเธอที่ถูกมัดแขนไว้กับขื่อของบ้านจนยืนตรงมือก็ยืดขึ้นเหนือหัวจนสุดแขน มันค่อนข้างวิปลาสแต่ถ้าเขาชอบและต้องการเธอในฐานะเมียก็พร้อมจะสนองเทียนที่ถูกจุดให้ความสว่างไสวภายในห้องถูกยกขึ้นมา น้ำตาเทียนที่กำลังร้อนระอุเต็มเชิงเทียนถูกสาดใส่ร่างกายของมัทนาฝังความแสบร้อนลงบนเนื้ออ่อนของเธอจนหญิงสาวหลุดเสียงกรี๊ดออกมานั่นทำให้กันต์ต้องหยิบเอาผ้ามาปิดปากเอาไว้เธอจะได้ไม่ส่งเสียงออกมาให้ใครตกใจมัทนาที่ในตอนนี้ถูกจับมัดห้อยอยู่กับขื่อก็ไร้ซึ่งทางสู้ ต้องยอมให้เขาเอาผ้าปิดปากแต่โดยดี สมองก็จินตนาการว่าหลังจากนี้เขาจะสาดกามวิปลาสเข้าใส่เธอในรูปแบบไหนอีก แต่เขากลับหยดน้ำตาเทียนลงบนผิวของเธอแทนจนหญิงสาวบิดเร้าร่างกายด้วยความแสบร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกายร่างกายของมัทนาเต็มด้วยคราบแห้งกรังของน้ำตาเทียน ริมฝีปากหนาไล่พรมจูบไปทั่วเนื้ออ่อนฝากร่องรอยรักสีแดงจ้ำเอาไว้สลับกับขบกัดจนหญิงสาวชักสีหน้าเหยเก ดวงตาเจิ่งนองไปด้วยคราบน้ำตาจากความเจ็บปวด มันช่างเป็นคืนเข้าหอที่น่าจดจำเสี
Chapter 8'ร่วมหอลงโลง'.."ฉันก็แค่อยากให้เธอรู้ว่าฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอ"คำพูดของเขามันทำให้มัทนาหันมองด้วยสีหน้าไม่พอใจที่แม้แต่ในตอนนี้ที่กำลังทำพิธีกันเขาก็ยังพยายามจะพูดจาทำร้ายจิตใจของเธออีก "ถ้าปากของคุณมันพูดเรื่องดี ๆ ไม่เป็นก็เงียบไปก็ได้นะคะ มันคงไม่ได้ดูเหมือนเป็นคนบ้าใบ้ขนาดนั้นหรอก"เมื่อได้ฟังแบบนั้นกันต์ก็รู้สึกไม่พอใจจนชักสีหน้าแต่เมื่อหันไปมองผู้เป็นพ่อก็ทำให้เขาต้องข่มงับอารมณ์เอาไว้ ใจไม่ได้อยากจะแต่งงานกับมัทนาสักนิดแต่พ่อบังคับถ้าไม่ทำตามก็เตรียมเก็บข้าวของออกไปอยู่นอกบ้านและคนแบบพ่อไม่เคยพูดเล่นหรอก พร้อมจะไล่ตะเพิดเขาออกนอกบ้านเสมอพิธีทุกอย่างดำเนินมาจนเสร็จสิ้น แขกเหรื่อทยอยกันกลับบ้านไปจนแทบหมดเหลือแค่ไม่กี่คนที่อยู่ช่วยล้างถ้วยจานและเก็บของภายในงาน มัทนาเดินมาหาพ่อแม่ของเธอด้วยรอยยิ้มก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นแล้วก้มกราบทั้งสองคน"แม่ดีใจนะที่เห็นเราเป็นฝั่งเป็นฝามีคนดูแลเสียที" มิ่งขวัญเอื้อมมือมาลูบหัวของลูกสาว"ออกเรือนไปแล้วก็ทำหน้าที่เมียให้ดีนะอย่าให้มันขาดตกบกพร่องตรงไหน" ชาตรีพ่อของมัทนาพูดกับลูกสาว"ค่ะ หนูเข้าใจแล้วค่ะ หนูจะเป็นเมียที่ดีของ
Chapter 8'ร่วมหอลงโลง'..สองสัปดาห์ต่อมาภายในบ้านสุพรรณภูมิมีผู้คนเข้าออกมากมาย ใต้ถุนบ้านมีเหล่าคนเฒ่าคนแก่ช่วยกันทำกับข้าวอยู่ บริเวณบ้านก็ถูกตกแต่งไปด้วยผ้าสีต่าง ๆ มากมาย พวงมาลัยมะลิถูกตกแต่งตามประตูหน้าต่างจนกลิ่มหอมโชยเป็นสัญญาณของงานมงคลที่กำลังถูกจัดขึ้นภายในบ้านหลังนี้ ทิพย์ในชุดผ้าไหมสวยงามเดินเข้ามาภายในห้องหนึ่งที่ด้านในมีมัทนากำลังแต่งเนื้อแต่งตัวอยู่หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อผ้าไหมสีครีมปักลวดลายสีทองเด่นสง่ามีสไบผืนเล็กที่ถูกถักทอเป็นลวดลายนกยูงเข้ากับผ้าซิ่นผ้าไหมลายเดียวกันพาดเฉียงไหล่เอาไว้อย่างสวยงาม ผมถูกม้วนเป็นมวยขึ้นไปประดับด้วยดอกไม้และปิ่นปักผมลายนกยูงสีทอง ใบหน้าสวยหวานแต่งเติมไปด้วยเครื่องประทินโฉมจนสวยเด่นกว่าใครทุกคนในงาน“งดงามแท้ ๆ” ทิพย์เดินเข้ามาหามัทนาสายตาก็จับจ้องหญิงสาวผ่านกระจกเงาตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม“หนูไม่แน่ใจเลยค่ะ” เธอสบตากับทิพย์อย่างลังเลใจ“ทำไมล่ะ มีอะไรให้ต้องทุกข์ใจอีก?”“คุณก็รู้ว่าคุณกันต์ไม่อยากแต่งงานกับหนู บังคับเขาแบบนี้มันจะไม่ยิ่งแย่เหรอคะ?”“ไม่อยากแต่งก็ต้องแต่ง บางทีคนนิสัยแบบกันต์ก็ควรถูกขัดใจบ้าง”คำพูดของทิพย์มันยิ่งทำให้มั
Chapter 7'ไม่สมฐานะ'.."ใช่ แต่งงาน มันคือสิ่งที่ถูกที่ควร"เมื่อได้ฟังแบบนั้นมัทนาก็เกิดความลังเลใจขึ้นมา มันถูกต้องแล้วที่คนได้เสียเป็นผัวเป็นเมีย ผิดผีกันแล้วมันจะต้องแต่งงานกัน ขอขมาญาติผู้ใหญ่ ทำตามประเพณีให้มันถูกต้องเพื่อเกียรติของตัวเองด้วย แต่ที่เธอลังเลเพราะขนาดยังไม่แต่งงานเขายังเกือบจะฆ่าเธอถ้าไม่มีคนมาช่วยคงตายไปแล้วและถ้าแต่งงานไปเธอจะไม่ตายคาเรือนหอเลยเหรอไง"ไม่ต้องคิดมากนะ ทำใจให้สบาย ฉันกับคุณเสกจะจัดการเรื่องนี้ให้ ตอนนี้ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนนะ อะไรที่มันเสียไปแล้วเราเรียกคืนไม่ได้เพราะฉะนั้นให้มันเป็นอดีตดีกว่า อย่าเก็บมาคิดให้เราทุกข์"มัทนาไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงพยักหน้ารับเท่านั้นก่อนจะลุกจากเตียงแล้วเดินไปทางห้องน้ำ แต่เมื่อเข้ามาในห้องน้ำได้เธอก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้งจนเนื้อตัวสั่นเทา ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพร้อมน้ำตาที่เจิ่งนองไปทั่วใบหน้า ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยช้ำรอยแดงจ้ำมันตอกย้ำสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ ในตอนนี้สูญสิ้นแล้วซึ่งความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ตั้งใจรักษาเอาไว้ให้ผู้ชายที่จะร่วมหอลงโรงด้วย มันถูกกันต์ย่ำยีและกระชากเอาไปหมดแล้วเธอยังคงสับสน ยังคงไม่เข้า
Chapter 7'ไม่สมฐานะ'..เสียงนกน้อยเจื้อยแจ้วไปทั่วผืนป่า ลมเย็นพัดผ่านเข้ามาในห้องนอนจนหน้าต่างปลิวไสวมันทำให้มัทนาที่กำลังหลับค่อย ๆ เปิดเปลือกตาสวยขึ้น ดวงตาจับจ้องไปยังเบื้องหน้าด้วยความมึนเบลอ สายตายังคงพร่ามัว เธอขยับตัวเล็กน้อยกลับรู้สึกหนัก ๆ เหมือนมีอะไรพาดทับบนหน้าอก"ว้ายยยย!" แต่เมื่อหันไปมองหญิงสาวก็ต้องตกใจจนร้องกรี๊ดออกมาเมื่อพบว่ากันต์ในสภาพเปลือยเปล่ากำลังนอนกอดเธออยู่และไม่ใช่เขาที่เปลือย เธอเองก็เหมือนกันไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าอะไรเลย"ตื่นแล้วเหรอจ้ะเมีย" กันต์ยกยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นหน้าตาตื่นตกใจของมัทนา"กรี๊ดดดด!" แต่แทนที่มัทนาจะตอบเขากลับส่งเสียงกรี๊ดอัดหน้าชายหนุ่มแทน หญิงสาวรีบก้าวขาลงจากเตียงด้วยความตกใจมือก็หยิบเอาผ้าห่มมาปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้สมองพยายามคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น ภาพความทรงจำมากมายก็ไหลพรั่งพรูเข้ามา ภาพที่เธอกำลังเล่นบทรักบทสวาทอันเร่าร้อนกับเขา ทั้งบนเตียง บนพื้น เกาะผนัง เรียกว่าทำหมดทุกพื้นที่ในห้องนี้เลยก็ว่าได้ให้ตายสิทำไมเธอร่านสวาทขนาดนั้น!แต่มันน่าตกใจกว่าตรงที่เธอไม่ขัดขืนเขาเลย สมยอมเขาทุกอย่าง มันน่าแปลกจังเพราะเธอไม่อย