ตอนที่สอง เปลี่ยนแปลง
หลังจากจินรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลได้หนึ่งสัปดาห์หมอก็อนุญาตให้จินกลับบ้านได้ เพราะจากผลตรวจของจินปกติดีทุกอย่าง มีเพียงแค่ร่างกายที่อ่อนแอเนื่องจากขาดน้ำและอาหารเป็นเวลานาน หมอจึงให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้
"นี่คือยาบำรุงร่างกายนะคะคุณจิน รับประทานตามที่เภสัชกรเขียนไว้หน้าซองเลยค่ะ แล้วก็ช่วงนี้คุณจินควรทานอาหารให้ครบห้าหมู่เพื่อบำรุงร่างกาย และที่สำคัญควรจะเป็นอาหารอ่อนๆ ก่อนนะคะ
เนื่องจากร่างกายของคุณจินไม่ได้รับอาหารมาเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลให้กระเพาะทำงานหนักและปวดท้องได้ค่ะ ส่วนใบนี้คือใบนัดนะคะ อีกหนึ่งเดือนมาพบคุณหมอเพื่อติดตามอาการนะคะ" คุณพยาบาลอธิบายอย่างละเอียดเพื่อให้คนป่วยรับทราบเข้าใจก่อนออกจากโรงพยาบาล
"ครับ ขอบคุณครับ" จินตอบรับพร้อมรับถุงยาและใบนัดจากพยาบาล เป็นจังหวะเดียวกันกับชุนที่เดินเข้ามาในห้องหลังจากไปจัดการเรื่องออกจากโรงพยาบาลเสร็จเรียบร้อยพอดี
"เรียบร้อยแล้วครับคุณจิน กลับบ้านได้เลยครับ" ชุนบอกขณะเดินมารับถุงยาและใบนัดของจินมาถือให้
"ครับ ผมพร้อมกลับบ้านแล้วครับ" จินพูดพลางคิดในใจเพราะตอนนี้เขาพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์แล้ว เฮ้อ.. อีกเก้าเดือนก็จะได้อิสรภาพแล้ว สู้โว้ย.. จินคิดในใจก่อนจะรีบเดินตามหลังชุนไป
ขณะนั่งรถกลับบ้าน จินนั่งมองนอกหน้าต่างเห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากในเมืองที่แสนวุ่นวายสู่นอกเมืองที่ค่อนข้างเงียบสงบ
ในที่สุดรถยนต์คันหรูสีดำซึ่งชุนขับมาตลาดทางก็มาจอดยังบ้านหลังหนึ่งแถวๆ ชานเมือง ซึ่งตัวบ้านเป็นบ้านสองชั้นสไตล์ยุโรป มีสนามหญ้าค่อนข้างกว้างอยู่ด้านหน้า
จากประตูรั้วขับรถมาราวๆ ห้าร้อยเมตรกว่าก็จะถึงตัวบ้าน บ้านหลังนี้ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูง ตามสไตล์ของเศรษฐีอย่างมาร์ติน ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้เต็มใจในการแต่งงานครั้งนี้สักเท่าไหร่ เขาคงไม่อยากให้ใครรับรู้เรื่องของจินเป็นแน่
"ถึงแล้วครับคุณจิน" เสียงชุนดังขึ้นจึงขัดความคิดของจิน หลังจากจินได้สติเขาก็เห็นชุนเดินมาเปิดประตูรถให้เขาแล้ว
"ขอบคุณครับ" จินเอ่ยขอบคุณพลางยกยิ้มให้ ชุนเองก็ตกตะลึงไปช่วงจังหวะหนึ่ง เพราะพักนี้เขาเห็นจินค่อนข้างเปลี่ยนไปมากทีเดียว จากคนเก็บตัวไม่พูดไม่คุยกับใครกลับมาเป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มง่าย ชอบชวนคุยซึ่งต่างจากจินคนเดิมเหมือนเป็นคนละคนเลยทีเดียว
"คุณชุนครับ ผมอยากพักผ่อนครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ" จิน บอกหลังจากที่ชุนพาเขามาส่งถึงหน้าห้องนอน
"ครับ ได้ครับ เดี๋ยวถึงเวลาอาหารเย็นแล้วผมจะมาตามนะครับ ถ้าคุณจินต้องการอะไรเรียกผมได้ตลอดเลยนะครับ ผมอยู่ที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่างครับ" ชุนเอ่ยบอกคนตรงหน้าก่อนจะหมุนตัวจากไป
"ครับ ขอบคุณครับ" จินรีบขอบคุณชุนก่อนที่เขาจะเดินจากไป ทำให้ชุนหันกลับมามองจินด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นใบหน้าที่ใสซื่อและรอยยิ้มไร้เดียงสาของจิน ด้วยความสงสารก่อนหน้านี้ชุนจึงยกยิ้มให้จินก่อนจะเดินจากไปจินจึงเดินเข้าไปในห้องนอน หลังจากจินเดินเข้ามาในห้อง เขาก็เดินสำรวจรอบๆ ห้องซึ่งทั้งทึบและมืดมาก
"ไม่ไหวเลย ทำไมห้องของนายถึงได้หดหู่แบบนี้ จินเอ๊ย.. ฉันคงต้องขอเปลี่ยนแปลงห้องนายก็แล้วกัน ฉันอยู่แบบนี้ไม่ได้จริงๆ" จีนบ่นกับตัวเองเบาก่อนจะเดินไปเปิดผ้าม่านเพื่อให้ห้องสว่างขึ้น
หลังจากเขาเดินสำรวจรอบๆ ห้องแล้ว เขารู้สึกถึงความหดหู่และบรรยากาศภายในห้องที่ไม่น่าอยู่เอาเสียเลย เขาครุ่นคิดสักพักก่อนจะตัดสินใจเดินลงไปหาชุนด้านล่างเพื่อปรึกษาอะไรบางอย่างทันที
"คุณชุนครับ" จินเรียกชุนทันทีที่เห็นอีกฝ่ายกำลังก้มหน้าอ่านเอกสารบางในห้องนั่งเล่น
"ครับคุณจิน มีอะไรรึเปล่าครับ" ชุนถามทันทีที่เห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามาหาตนในห้องนั่งเล่นด้วยความสงสัย
"ครับ คือผม.. ผมอยากจะย้ายจากห้องเดิมไปอยู่ห้องริมระเบียงตรงหน้าบ้านน่ะครับ ไม่ทราบว่าจะย้ายได้ไหมครับ พอดีตอนขับรถเข้ามา ผมเห็นว่าห้องนั้นน่าอยู่และบรรยากาศดีกว่าห้องเดิมน่ะครับ ผม.. ผม.. รู้สึกไม่ค่อยดีกับห้องนั้นครับ" จินตัดสินใจถามชุนด้วยความลังเล
เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันแต่น่าจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะบ้านหลังนี้เขาอาศัยอยู่เพียงคนเดียว คุณสามีในนามของเขาไม่เคยมาที่นี่เลยสักครั้งหลังจากพวกเขาได้แต่งงานกัน ซึ่งจินเห็นจากความทรงจำของร่างเดิม
"ถ้าห้องฝั่งซ้ายได้ครับ เพราะห้องฝั่งขวาเป็นห้องของคุณมาร์ตินครับ" ชุนตอบด้วยความสงสัยระคนงุนงงเพราะจินแทบไม่ก้าวเท้าออกมาจากห้องของตนเองเลยสักครั้ง
ตลอดเวลาที่ผ่านมาจินมักจะหลีกเลี่ยงในการพบหน้ากับมาร์ติน จินจึงเลือกห้องสุดท้ายของบ้าน ถ้าหากมาร์ตินมาที่บ้านหลังนี้จริงๆ แต่จะว่าไปตั้งแต่จินได้ย้ายมาอยู่ที่นี่มาร์ตินก็ไม่เคยมาที่บ้านหลังนี้เลยสักครั้ง
"โอ้.. เหรอครับ ไม่เป็นไรครับผมอยากย้ายครับ ผมชอบวิวตรงนั้นครับ" หลังจากจินได้คำตอบของชุน เขาก็ยกยิ้มอย่างยินดี
เพราะเจ้าของห้องฝั่งตรงข้ามไม่เคยมาสักที เขาจะหลบหน้าไปทำไมล่ะ ไม่รู้ว่าถ้าบังเอิญเดินชนกันข้างนอกจริงๆ เขาจะรู้รึเปล่านะว่าเป็นสามี เขานึกไปพลางหัวเราะชอบใจในความคิดพิเรนทร์ของตนเอง
ซึ่งทำให้ชุนมองจินที่เผลอหัวเราะเบาๆ ด้วยความสงสัย เขาจึงขมวดคิ้วเป็นปม แต่เมื่อจินรู้สึกตัวว่ามีคนมองเขาอยู่จึงได้รีบกระแอมไอแก้เก้อ
"เอ่อ.. ผมว่าจะย้ายเลยนะครับ ผมอยากพักแล้วครับ ผมต้องไปทำความสะอาดก่อนรึเปล่าครับ" จินรีบถามแก้เก้อ
"เดี๋ยวผมพาไปเลยครับ ที่นี่มีแม่บ้านคอยดูแลทุกวันอยู่แล้วครับ ช่วงที่คุณจินอยู่โรงพยาบาลเธอก็ยังทำความสะอาดเหมือนเดิมครับ" ชุนตอบก่อนจะพาจินเดินไปยังห้องนอน
"ถึงแล้วครับ ห้องฝั่งนี้เป็นห้องของคุณมาร์ตินนะครับ ปกติถ้าคุณมาร์ตินมีวันหยุดพักร้อนสองถึงสามวันคุณมาร์ตินถึงจะมาพัก คุณคง.. ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ" ชุนถามอย่างหยั่งเชิง เพราะปกติเวลาเขาเอ่ยถึงมาร์ติน คนตรงหน้าจะแสดงสีหน้าท่าทางรังเกียจขึ้นมาในทันที
"ครับ ไม่มีปัญหาครับ ตอนนี้ผมถือคติต่างคนต่างอยู่ดีกว่าครับ แต่ผมคิดว่าเขาคงไม่มาหรอกครับคุณชุนสบายใจได้" ชุนรู้สึกงุนงงในคำตอบของจินอีกครั้งของอีกครั้ง
หลังจากจินฟื้นขึ้นมาเขาก็รู้สึกว่าคนตรงหน้าเปลี่ยนแปลงไปมาก จนเขาแอบคิดว่าเป็นคนละคนกันเลย แต่จินบอกกับเขาตลอดว่าอยากเปลี่ยนแปลงตนเอง
หลังจากชีวิตของจินเคยเฉียดความตายมาแล้ว ซึ่งเขาคิดว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ของจินเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นจริงๆ ชุนจึงได้ขอตัวออกมาและปล่อยให้จินพักผ่อน
"โอ้โฮ... ห้องนี้ดีกว่าห้องเก่าตั้งเยอะ กว้างก็กว้าง มีระเบียงไว้นั่งเล่น แถมวิวยังดีกว่าห้องเดิมอีก เอ๊ะ... มองเห็นสวนดอกไม้ด้วย สวยจังเลย ทำไมจินถึงได้แต่เก็บตัวในห้องแคบและปิดผ้าม่านหน้าต่างหมดทำให้บรรยากาศในห้องนั่นอึมครึม"
เขายอมรับว่าเขาเคยลำบากมาก่อน ตอนเขาเป็นเด็กกำพร้าและออกมาเช่าห้องเก่าๆ โทรมๆ อาศัยอยู่ช่วงเรียนมหาลัย แต่เขาก็ไม่เคยทำให้ห้องเหล่านั้นไม่น่าอยู่เช่นนี้ คงเพราะเจ้าของร่างนี้กำลังเครียดในหลายๆ เรื่อง รวมกับบรรยากาศในห้องจึงทำให้จินได้แต่กักขังและทรมานตัวเอง แต่ในเมื่อเขาได้มีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตอีกครั้งเขาจะต้องมีชีวิตที่ดีกว่าเดิมให้ได้ รออีกเพียงแค่เก้าเดือนเขาก็จะได้มีอิสระและได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำ
แต่ก่อนอื่นเขาต้องนอนพักเอาแรงก่อน แล้วค่อยหาช่องทางที่จะทำต่อไป เมื่อคิดทุกอย่างไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน จินที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ก็ค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง และเข้าสู่นิทราไปในที่สุด