เหมยทำหน้าไม่ถูกเมื่อถูกแม่หนูน้อยลิลลี่แสนน่ารักออดอ้อนเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอจำใจต้องใจแข็งเพราะเธอเองก็มีงานหลายอย่างต้องสะสาง
"ลิลลี่คะ ไว้คุณครูเคลียร์งานเสร็จแล้วสัญญาว่าจะรีบมาหาลิลลี่นะคะ" เหมยบอกกับลิลลี่อย่างจำใจ "แต่ว่าลิลลี่กลัวคุณครูไม่กลับมา" สาวน้อยน่าสงสารน้ำตาเอ่อคลอบนแก้มใส "กลับมาสิคะ คุณครูต้องกลับมาแน่นอน" เหมยกอดปลอบลิลลี่ "ลิลลี่ครับ ไม่งอแงแต่เช้าแบบนี้สิ แบบนี้คุณครูก็ไม่อยากมาสอนลิลลี่นะครับ ถ้าลิลลี่ไม่เชื่อฟัง" อาชากอดปลอบหลานสาว "ขอโทษค่ะคุณลุง" ลิลลี่เอามือน้อยๆ เช็ดน้ำตาพลางเดินไปกอดขาของเหมยในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว "งั้นเดี๋ยวเราไปทานข้าวด้วยกัน ขอคุณครูอาบน้ำแป๊บนึงนะคะ" เหมยเช็ดน้ำตาให้ลิลลี่ด้วยความอ่อนโยน "ได้ค่ะ งั้นลิลลี่ขอเข้าไปนั่งเล่นในห้องกับคุณครูได้ไหมคะ" ลิลลี่เองก็ไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมห่างเหินแม้แต่นาทีเดียว "ได้สิคะ งั้นคุณอาชา เหมยขอตัวลิลลี่นะคะ" เหมยเงยหน้าขึ้นยิ้ม "ได้ครับสาวๆ เชิญตามสบาย เดี๋ยวผมจะไปนั่งรอ เสร็จแล้วก็ให้แม่บ้านไปตามผมแล้วกันนะครับ" อาชาพูดจบก็ปล่อยให้สองสาวใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ลิลลี่ที่นั่งรอเหมยอยู่ภายในห้องนอนของเธอก็นั่งอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อย โดยเปิดหนังสือนิทานที่เธอชอบขึ้นมาดูรูปต่างๆ "ลิลลี่ขารอคุณครูสักครู่นะ เดี๋ยวคุณครูรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า" เหมยตะโกนออกมาจากในห้องอาบน้ำ "ได้ค่ะคุณครู ลิลลี่จะไม่ดื้อไม่ซน คุณครูไม่ต้องรีบนะคะ" แม่หนูน้อยลิลลี่ที่ดูเหมือนอยู่ๆ ก็จะรู้ความขึ้นมาซะอย่างนั้น ผ่านไปสักพัก เหมยอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดเดิมที่อาชาสั่งให้ป้าแจ่ม แม่บ้านคนที่ดูแลความสะอาดและอาหารการกินภายในบ้านพักตากอากาศที่ไร่ชาของพรหมเทพ "ไปค่ะลิลลี่ คุณครูเสร็จแล้ว" เหมยยื่นมือออกไปเพื่อจูงลิลลี่ไปรออาชาทานข้าวพร้อมกัน "ค่ะคุงครู" สองสาวพากันเดินออกมาจากห้องแล้วมานั่งรออาชาตรงบริเวณห้องนั่งเล่น ป้าแจ่มแม่บ้านรีบเดินมาตามอาชา เพราะอาชาได้สั่งไว้ว่าถ้าหากทั้งสองสาวลงมาแล้ว ให้ป้าแจ่มรีบมาตามเขาทันที "คุณอาชาคะ ขออนุญาตค่ะ คุณหนูลิลลี่กับคุณครูเหมยเสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ" ป้าแจ่มเรียนอยู่หน้าห้อง อาชาที่ได้ยินเสียงป้าแจ่มก็รีบทำท่าทีให้สงบลงพร้อมกับเก็บซ่อนใบหน้าของปีศาจร้ายเอาไว้ภายใต้ใบหน้าสุภาพบุรุษ เขารู้สึกคลั่งรักเหมยเสียเหลือเกิน เกินกว่าจะยอมเสียเหมยให้กับใครได้ "ครับป้า ผมกำลังไป ขอบคุณมากครับ" อาชาตะโกนออกมาจากในห้อง ผ่านไปสักพักไม่นาน ประมาณ 5-10 นาที อาชาก็เดินออกมาจากห้องด้วยท่าทีสุขุมในแบบฉบับผู้ชายวัย 45 กะรัต ดูหล่อเหลาภูมิฐานในสายตาของเหมยมากๆ เหมยรู้สึกชื่นชมอาชามากเป็นพิเศษเพราะในด้านที่เหมยได้เห็นคือความเป็นสุภาพบุรุษของอาชานั่นเอง "คุณเหมย ขอโทษที่ให้รอนะครับ พอดีเมื่อกี้ติดประชุมนิดหน่อย" (ซึ่งความจริงไม่ได้ติดประชุมอะไรเลย อาชาแอบดูเหมยอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ) "ไม่เป็นไรเลยค่ะ งั้นเราทานข้าวกันเลยไหมคะ เหมยรบกวนเวลาของคุณอาชากับลิลลี่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เกรงใจมากๆ ค่ะ" เหมยรีบเอ่ยปากบอก "ไม่เป็นไรเลยครับคุณเหมย คุณเหมยอยู่กับลิลลี่ตลอดไปก็คงดีสิครับ" อาชาพูดปนขำ "ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดีสิคะ ลิลลี่จะได้มีครอบครัว คุณลุงเป็นพ่อ คุณครูเหมยเป็นแม่" ลิลลี่พูดจาเจื้อยแจ้วอย่างน่ารัก "โอ้โห ขนาดนั้นเลยเหรอคะลิลลี่ อย่างนี้คุณครูจะหาแฟนได้ยังไงคะเนี่ย" เหมยที่พูดออกมาแบบไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เธอไม่รู้ว่ากลับไปกระชากอารมณ์ความรู้สึกของอาชาอย่างเต็มเปา "หาแฟนเหรอครับคุณเหมย" เสียงอาชาดูเรียบนิ่งและเยือกเย็นขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ทำให้เหมยรู้สึกเสียวสันหลังแวบขึ้นมาอย่างไงไม่รู้ "ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ" เหมยหันไปถามทั้งที่ไม่ควรต้องถามก็ได้ "ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมก็แค่อยากคุณเหมยเล่นเท่านั้นเอง" อาชารีบเปลี่ยนสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ ทั้งสามคนนั่งทานข้าวอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในไร่ชาพรหมเทพกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา หลังจากนั้นลิลลี่ก็อยู่กับป้าแม่บ้าน ส่วนอาชาตัดสินใจขับรถไปส่งเหมยที่บ้านด้วยตัวเอง เพราะเขาไม่อยากให้เหมยขับรถกลับเอง โดยมีเสือขับรถตามไปอีกคันหนึ่ง "คุณอาชาคะ ทำไมต้องทำให้มันยุ่งยากขนาดนี้ เหมยมาเองได้เหมยก็กลับเองได้ค่ะ ไปๆ กลับๆ รับส่งกันอยู่อย่างนี้เสียเวลาคุณอาชาจะตาย" เหมยรู้สึกว่าเกรงใจอาชาจนไม่รู้จะพูดออกมาเป็นคำพูดยังไง "สำหรับคุณเหมย อย่าใช้คำว่าเกรงใจเลยครับ ผมมองว่าคุณเหมยเป็นคนพิเศษ" อาชาเว้นวรรคคำพูดนี้ไปสักแป๊บนึงแล้วพูดต่อว่า "คนพิเศษของยัยหนูลิลลี่นะครับ" อาชาพยายามสกัดกั้นอารมณ์เอาไว้เพราะยังรู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดที่ว่าเหมยคิดจะมีแฟน (เหมยเธออย่าคิดว่าเธอจะมีใครได้นอกจากฉัน เพราะต่อจากนี้ไปผู้ชายหน้าไหนก็เข้าใกล้เธอไม่ได้ทั้งนั้น อาชาคิดในใจพร้อมกับส่งยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์) ผ่านมาเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รถของเหมยก็มาจอดอยู่ที่หน้าบ้านสวนของเธออย่างปลอดภัยโดยสวัสดิภาพ เหมยรีบลงจากรถของอาชาและเดินไปเก็บข้าวของในรถเพื่อจะเข้าบ้าน ก่อนที่เธอจะเข้าบ้าน เธอหันกลับมาขอบคุณอาชาและเสือมากๆ ที่เป็นธุระให้เธออยู่ด้วยเมื่อคืนและเช้านี้ก็ยังมาส่งเธออีก "ขอบคุณคุณเสือนะคะ แล้วก็ขอบคุณคุณอาชาด้วยนะคะที่อุตส่าห์มาส่งเหมย ทั้งๆ ที่ก็มีงานเร่งรีบอยู่แล้ว" เหมยก้มหัวเล็กน้อยแล้วก็รีบเดินเข้าบ้านโดยไม่หันกลับมามองใบหน้าที่เปลี่ยนไปด้วยเลศนัยของอาชา "นายครับ นายชอบคุณเหมยใช่ไหม" เสือที่หลังจากขับรถออกมาจากบ้านสวนของ เหมยก็ถามอาชาตรงๆ "ใช่ ฉันชอบผู้หญิงอย่างเหมยคนนี้แหละ แม่ของลูก ส่งคนของเรามาจับตาดูไว้อย่าให้ใครเข้ามาใกล้เหมยเด็ดขาด โดยเฉพาะไอ้ธงคนที่มาฝึกงาน" อาชารู้ดีว่าเหมยและธงอาจจะได้เจอกันอีกเพราะว่าธงมาฝึกงานที่ไร่ชาของเขา "ได้ครับนาย ผมจะจัดการให้นายธงออกห่างจากคุณเหมย นายครับ รู้สึกจะมีคู่ค้าเข้ามาพยายามเอาข้อมูลนักเรียนและผู้ปกครองของมหาวิทยาลัยของเราครับ" เสือที่ได้รับเรื่องมาจากลูกสมุนมือดี "มันเป็นใคร" เสียงเรียบนิ่งดูไร้อารมณ์แฝงไปด้วยความเยือกเย็นและเด็ดขาด "ไอ้บิ๊กมันส่งข่าวให้ผมว่าคนที่พยายามส่งคนเข้ามาเอาข้อมูลสำคัญในมหาวิทยาลัยคือไอ้เมฆินทร์ครับ" เสือหันมาอธิบายให้กับอาชได้ฟัง เมฆินทร์คือศัตรูคู่อาฆาต เมฆินทร์ อัศวเหมหิรัญวงศ์ อายุ 40 ปี อายุอ่อนกว่าอาชาแค่ 4-5 ปีเท่านั้น รูปร่างหน้าตาก็กินกันไม่ลง แต่ในเรื่องชื่อเสียงและความโหด อาชาจะเลื่องชื่อกว่าในความเด็ดขาด ส่วนเมฆินทร์จัดเรื่องชื่อในทางหมาลอบกัดเพราะมันทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ที่มันต้องการ...เสียงรถแล่นเข้ามาในบ้านสวนของแม่น้ำฟ้าและพ่อบุญทอง ทั้งสองคนจึงรีบออกมาดูหน้าบ้านก็เห็นลูกสาวมา ทั้งสองก็ดีใจยกใหญ่ รีบออกมาต้อนรับลูกสาวพร้อมกับหมาชิสุ 1 ตัวที่เห่าเสียงดัง "โฮ่ง ๆ" "อ้าวพ่อ! ลูกสาวเรามา" แม่น้ำฟ้าที่มาก่อนก็เรียกพ่อบุญทองให้ออกมารับลูกสาว"จ้าแม่ พ่อกำลังออกไป" พ่อบุญทองที่กำลังดูทีวีก็รีบลุกออกจากโซฟาเพื่อมารอรับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนอย่างเหมยเมื่อเหมยถือหิ้วของพะรุงพะรังลงจากรถ พอเจอพ่อกับแม่ก็วางของทุกอย่างลงแล้วโผเข้ากอดแม่น้ำฟ้าด้วยความคิดถึง"เป็นไงบ้างแม่ สบายดีไหม? ลูกไม่มาหาไม่กี่อาทิตย์เนี่ย ไม่โทรตามเลยนะคะ!" เหมยทำเป็นน้อยใจแม่น้ำฟ้าที่อาทิตย์ที่ผ่านมาไม่โทรตามหรือโทรหาเธอเลย"อ้าว แม่ก็คิดว่าแม่ไม่มีลูกแล้วเนี่ย เลยไม่รู้จะหาเบอร์ที่ไหนมาโทรตาม!" สองสาวคุยกันอย่างออกรสออกชาติพ่อบุญทองเมื่อมาถึงก็โผเข้ากอดลูกสาวเช่นกัน ด้วยความที่เหมยไม่มาหลายวัน พ่อบุญทองก็คิดถึงมากเหมือนกัน"เป็นไงบ้างลูกสาวพ่อ ได้พักผ่อนสองสามเดือนเต็มที่เลยสิ เราจะไปเที่ยวไหนล่ะ?" พ่อบุญทองที่เอามือลูบไปที่หั
เสียงรถแล่นเข้ามาในบ้านสวนของแม่น้ำฟ้าและพ่อบุญทอง ทั้งสองคนจึงรีบออกมาดูหน้าบ้านก็เห็นลูกสาวมา ทั้งสองก็ดีใจยกใหญ่ รีบออกมาต้อนรับลูกสาวพร้อมกับหมาชิสุ 1 ตัวที่เห่าเสียงดัง "โฮ่ง ๆ" "อ้าวพ่อ! ลูกสาวเรามา" แม่น้ำฟ้าที่มาก่อนก็เรียกพ่อบุญทองให้ออกมารับลูกสาว"จ้าแม่ พ่อกำลังออกไป" พ่อบุญทองที่กำลังดูทีวีก็รีบลุกออกจากโซฟาเพื่อมารอรับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนอย่างเหมยเมื่อเหมยถือหิ้วของพะรุงพะรังลงจากรถ พอเจอพ่อกับแม่ก็วางของทุกอย่างลงแล้วโผเข้ากอดแม่น้ำฟ้าด้วยความคิดถึง"เป็นไงบ้างแม่ สบายดีไหม? ลูกไม่มาหาไม่กี่อาทิตย์เนี่ย ไม่โทรตามเลยนะคะ!" เหมยทำเป็นน้อยใจแม่น้ำฟ้าที่อาทิตย์ที่ผ่านมาไม่โทรตามหรือโทรหาเธอเลย"อ้าว แม่ก็คิดว่าแม่ไม่มีลูกแล้วเนี่ย เลยไม่รู้จะหาเบอร์ที่ไหนมาโทรตาม!" สองสาวคุยกันอย่างออกรสออกชาติพ่อบุญทองเมื่อมาถึงก็โผเข้ากอดลูกสาวเช่นกัน ด้วยความที่เหมยไม่มาหลายวัน พ่อบุญทองก็คิดถึงมากเหมือนกัน"เป็นไงบ้างลูกสาวพ่อ ได้พักผ่อนสองสามเดือนเต็มที่เลยสิ เราจะไปเที่ยวไหนล่ะ?" พ่อบุญทองที่เอามือลูบไปที่หัวทุยของลูกสาวอย่างเหมยด้วยความเอ็นดู"ไหนว่าจะรับสอนพิเศษวิชาภาษาไทยให้กับ
เหมยทำหน้าไม่ถูกเมื่อถูกแม่หนูน้อยลิลลี่แสนน่ารักออดอ้อนเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอจำใจต้องใจแข็งเพราะเธอเองก็มีงานหลายอย่างต้องสะสาง"ลิลลี่คะ ไว้คุณครูเคลียร์งานเสร็จแล้วสัญญาว่าจะรีบมาหาลิลลี่นะคะ" เหมยบอกกับลิลลี่อย่างจำใจ"แต่ว่าลิลลี่กลัวคุณครูไม่กลับมา" สาวน้อยน่าสงสารน้ำตาเอ่อคลอบนแก้มใส"กลับมาสิคะ คุณครูต้องกลับมาแน่นอน" เหมยกอดปลอบลิลลี่"ลิลลี่ครับ ไม่งอแงแต่เช้าแบบนี้สิ แบบนี้คุณครูก็ไม่อยากมาสอนลิลลี่นะครับ ถ้าลิลลี่ไม่เชื่อฟัง" อาชากอดปลอบหลานสาว"ขอโทษค่ะคุณลุง" ลิลลี่เอามือน้อยๆ เช็ดน้ำตาพลางเดินไปกอดขาของเหมยในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว"งั้นเดี๋ยวเราไปทานข้าวด้วยกัน ขอคุณครูอาบน้ำแป๊บนึงนะคะ" เหมยเช็ดน้ำตาให้ลิลลี่ด้วยความอ่อนโยน"ได้ค่ะ งั้นลิลลี่ขอเข้าไปนั่งเล่นในห้องกับคุณครูได้ไหมคะ" ลิลลี่เองก็ไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมห่างเหินแม้แต่นาทีเดียว"ได้สิคะ งั้นคุณอาชา เหมยขอตัวลิลลี่นะคะ" เหมยเงยหน้าขึ้นยิ้ม"ได้ครับสาวๆ เชิญตามสบาย เดี๋ยวผมจะไปนั่งรอ เสร็จแล้วก็ให้แม่บ้านไปตามผมแล้วกันนะครับ" อาชาพูดจบ
อาชาแค่ได้ยินชื่อของเมฆินทร์ก็รู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อย ที่โดนหมาลอบกัด เมฆินทร์ที่ ฃพยายามจะขึ้นเป็นหนึ่งในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นไร่ชาหรือมหาวิทยาลัย ตระกูลของเมฆินทร์ก็พยายามที่จะขึ้นมาชิงความเป็นหนึ่ง“ไอ้หมาลอบกัดไม่เลิกจริง ๆ เลยนะไอ้เมฆินทร์” อาชาพูดสบถเบา ๆ“แล้วเราจัดการคนของมันยังไง” อาชาหันมาถามเสือ“ผมให้ไอ้บิ๊กเค้นเอาข้อมูลทั้งหมดมาครับ เห็นว่าสาวไม่ถึงตัวของไอ้เมฆินทร์ เพราะคนที่สั่งไอ้ลูกกระจ๊อกคนนี้มามันบอกว่าได้รับเพียงอีเมลนิรนามสั่งการพร้อมกับโอนเงินมาจากต่างประเทศ" "มันไม่ยอมพูด ว่าเท่าไหร่ แต่พอมันพูดก็ดูเหมือนจะไม่ได้ความ ครับ ไอ้เมฆินทร์มันระวังตัวแจเลยครับนาย”“หมาลอบกัดตัวนี้มันรอบคอบไม่ธรรมดา ปล่อยให้ไอ้ลูกกระจ๊อกคนนี้ให้มันทำงานต่อไป” อาชาคุยกับเสือ“ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะครับนาย ทำไมเราถึงไม่เก็บมันทิ้งซะ เดี๋ยว มัน จะคาบข่าวไปบอกไอ้เมฆินทร์ได้นะครับนาย”“อย่าลืมนะเสือ บางครั้งหมากตัวเล็ก ๆ ก็สำคัญในกระดานนี้ได้ เป็นหมากที่ใคร ๆ ก็อยากจะเขี่ยทิ้ง ลองปล่อยให้หมากตัวนี้มันเดินเกมของมันดูส
ระหว่างที่เหมยกำลังครุ่นคิดว่าจะนอนที่ไร่ชาพรหมเทพของอาชาดีไหม ก็กลายเป็นว่าเธอโดนอาชามัดมือชกให้พักที่นี่อย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะอาชาหยิบกุญแจรถแล้วยื่นให้เสือขับไปจอดที่บ้านพักตากอากาศหลังเดิมที่ เหมยเคยมาพักผ่อนตอนอยู่กับเจสซี่"โธ่ คุณอาชาคะ เหมยเกรงใจค่ะ ให้เหมย กลับเองก็ได้ แค่นี้เอง" เหมยหันไปทำหน้าสิ้นหวังเมื่ออาชาไม่อนุญาตให้ตนกลับบ้าน"ไม่ได้หรอกครับคุณเหมย มันดึกแล้ว ถ้าพรุ่งนี้คุณเหมยก็หยุดใช่ไหมครับ คุณเหมยพักที่นี่เถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยกลับนะครับ" อาชาใช้ความเป็นสุภาพบุรุษหลอกล่อ"ก็ได้ค่ะ" เหมยเมื่อจนปัญญาก็ต้องทำตามน้ำไปก่อน"งั้นคุณเหมยไปอาบน้ำพักผ่อนที่ห้องดีกว่า เอาเสื้อเชิ้ตผมไปใส่ได้ เดี๋ยวผมไปเตรียมเสื้อผ้าให้" อาชาพูดอย่างกระตือรือร้นเหมยพยักหน้าเป็นเชิงว่าไม่มีทางเลือกแล้ว ก็ต้องทำตามที่อาชาตัดสินใจ ทั้งสองออกจากคาเฟ่แล้วขับรถกอล์ฟ โดยมีเสือเป็นคนขับรถพาทั้งสองคนกลับไปที่บ้านพักตากอากาศที่อยู่ห่างไม่ไกลจากคาเฟ่"บรรยากาศที่ไร่ชายิ่งตอนกลางคืนยิ่งสวยมากเลยนะคะ ดูสิคุณอาชาจัดไฟออกมาได้สวยงามมากเลย
ขณะที่ ธง มาส่งที่ไร่ชาพรหมเทพของ อาชา ก็ค่อนข้างมืดและเปลี่ยว กว่าจะถึงไร่ชาก็เกือบ 2 ทุ่มแล้ว ธงมาในฐานะ ผู้ช่วยผู้จัดการฝึกงานวิศวกรเครื่องยนต์ ในไร่ชาที่จะต้องทำการฟื้นฟูและดูแลบำรุงรักษา ธงจึงต้องมาฝึกงานเพื่อให้เรียนรู้ในตำแหน่งนี้ก่อนเป็นระยะเวลา 3-6 เดือน หรือจนกว่าจะผ่านโปร“ข้างหน้านี่ก็น่าจะถึงแล้วค่ะ แล้วกระเป๋าเสื้อผ้าอะไรของพี่ธงอยู่ไหนหรอคะ เหมยเองก็ลืมถามเพราะมัวแต่เจอเรื่องชุลมุนอยู่”“กระเป๋าเสื้อผ้าพี่ส่งมาที่ไร่ชาแล้วตั้งแต่วันสองวันก่อนหน้านี้ แต่ตัวพี่เพิ่งจะมาวันนี้เพราะติดธุระที่กรุงเทพฯ เลยบินมาช้ากว่า” ธงเอ่ยปากบอกเหมยในสิ่งที่เหมยถามอย่างรวดเร็ว“อ๋อค่ะพี่” เหมยก็ตั้งใจขับรถตรงเข้าไปบริเวณไร่ชา ขณะที่กำลังเลี้ยวรถจอดตรงหน้าคาเฟ่ ซึ่งมีคนกำลังนั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศวิวภูเขาไร่ชาและชมดาวที่ท้องฟ้าดูโปร่งสวยสดใส พร้อมกับแสงไฟระยิบระยับทั้งไร่ ทำให้บรรยากาศดีเข้าไปอีกเหมยจอดรถตรงลานจอดที่หน้าคาเฟ่ พอดีจังหวะนั้น เสือ เดินออกมาจากคาเฟ่พร้อมกับอาชา และเห็นเหมยมากับธง อาชาถึงกับโกรธควันออกหู“ไอ้เวรนั่นมากับเหมยได้ยังไง ไอ้เสือ มึงไปสืบมาให้กูเดี๋ยวนี้” อาชาออกคำ