เวลาที่ไร่ชาผ่านไปเร็วไวเหมือนโกหก วันนี้เป็นวันที่สี่ ที่เหมยมาอยู่ที่ไร่ชาแสนสุขนี้ โดยมีเจสซี่และสมาชิกใหม่แสนน่ารัก 1 คนที่ไม่ยอมไปนอนกับอาชา ขอมานอนกับเหมยทุกวันตั้งแต่พบกัน
"คุณครูเหมยขา ลิลลี่เขียนตัวนี้ถูกต้องไหมคะ" ลิลลี่เอ่ยถาม "ตั้งแต่เจอคุณครูเหมย ลิลลี่ก็เหมือนได้เติมเต็มบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไป แม้แต่คุณตาคุณยายก็ไม่อาจเติมเต็มให้ลิลลี่ได้ "สวยมากค่ะลิลลี่" เหมยที่กำลังนั่งปั่นต้นฉบับนิยายอีกเล็กน้อย จึงไม่ค่อยตึงเครียดเท่าไหร่ ถือโอกาสทำความรู้จักกับลิลลี่ผู้ น่ารัก "ฮาย...หนูลิลลี่!" เสียงเจสซี่ที่เปิดประตูห้องเข้ามาอย่างถือวิสาสะตามประสาเพื่อนรัก "คุณน้าเจสซี่ ดูนี่สิคะ ลิลลี่เขียนถูกต้องด้วยค่ะ" ลิลลี่เอาผลงานไปโชว์เจสซี่ด้วยความภาคภูมิใจ "โอ้โห หนูลิลลี่ของคุณน้าเจสซี่เก่งมากค่ะ งั้นเดี๋ยวหนูลิลลี่ไปนั่งบนเตียงนะคะ ขอคุณน้าคุยธุระกับคุณครูเหมยแป๊บนึง" เจสซี่บอกให้ลิลลี่ไปนั่งรออย่างเรียบร้อย "ยัยเหมย ฉันขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ" ท่าทีดูจริงจังของเจสซี่ทำให้เหมยวางมือแล้วเดินตามเจสซี่ออกไปนอกห้อง "นี่แกจะเป็นคุณครูของหนูลิลลี่จริงๆ เหรอ" เจสซี่ถามเพื่อนรักอย่างจริงจัง เพราะปกติเหมยเป็นคนเก็บตัวและไม่ชอบวุ่นวายกับใคร "ก็ใช่น่ะสิ หนูลิลลี่น่ารัก แล้วก็อีกแค่อาทิตย์เดียวฉันก็น่าจะปิดต้นฉบับจบแล้ว ช่วงนั้นก็ว่าจะลาพักสัก 2-3 เดือนน่ะ" เหมยบอกแพลนงานให้เจสซี่ฟัง "แล้วระหว่างที่แกพัก ทำไมแกไม่ไปเที่ยวออสซี่ แกไม่คิดถึงฉันเหรอ" เจสซี่เริ่มงอแงใส่เหมย "โถ ยายเจ๊สซี่ แกโตแล้วนะ ฉันก็อยากไปเที่ยว แต่ฉันรับปากคุณอาชาไปแล้ว และแกดูสิ น้องลิลลี่น่ารักขนาดนี้ ไม่เห็นเป็นไรเลย เดี๋ยวเอาไว้ให้เวลาฉันเหลือสักเดือนสองเดือน ฉันก็ค่อยไปหาแกก็ได้" เหมยหันไปตอบเพื่อนอย่างติดตลก "แกแอบปลื้มลุงของหนูลิลลี่หรือเปล่าเนี่ย แกถึงคิดจะทิ้งเพื่อนอย่างฉันใช่ไหม" เจสซี่หรี่ตาลงเล็กน้อยราวกับจับผิด "บ้าเหรอแก คุณอาชาเขาออกจะคนละระดับกับฉันเลย ที่ฉันทำอยู่ตอนนี้ก็แค่สนุกดี แล้วก็ 2-3 เดือนฉันก็ว่างด้วยอ่ะ น่าจะได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เอาไปเขียนนิยายต่อได้อีก" "มันก็จริงอย่างที่แกพูดอ่ะเนาะ เปิดประสบการณ์บ้างก็ดีกว่าแกอยู่แต่ในห้องกับสวนแล้วก็บอกปลาคาร์ฟของแก" "แล้วนี่ทำไมหนูลิลลี่ไม่ยอมไปนอนกับคุณอาชาเลยเหรอ" เจสซี่สังเกตเห็นว่าตั้งแต่ลิลลี่เจอเหมยก็ติดเหมยมากเหมือนคนรู้จักกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน "ไม่ยอมไปเลย คุณอาชาจะมาแยกออกกลายเป็นว่าน้องลิลลี่งอแงซะอย่างนั้น ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันนะแก" เหมยอธิบายให้เจสซี่ฟัง "แต่ดูเหมือนน้องลิลลี่จะติดแกมากเลยนะยัยเหมย ถ้าวันหนึ่งแกไม่มาสอนเขา หรือจะต้องแยกจากกันจริงๆ เนี่ยจะเป็นยังไง" เจสซี่เห็นอาการของลิลลี่ที่ดูเหมือนผูกพันกับเหมยมากกว่าปกติ "คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้งแก" "ก็ลองดูกันไปก่อนแล้วกันยัยเหมย" "โอเค งั้นเดี๋ยววันนี้เราแยกย้ายกันพักผ่อนก่อนแล้วกันนะ ฉันมีหนูลิลลี่ด้วย ฉันพาหนูลิลลี่เข้านอนก่อนแล้วก็จะปั่นต้นฉบับสักแป๊บนึง" เหมยกล่าวลาเจสซี่เพื่อนรักแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องพักของตัวเอง "คุณครูขา คุณครูหายไปไหนมาคะ ลิลลี่รอตั้งนานแหนะ คุณครูอย่าหายไปนานแบบนี้นะคะ ลิลลี่คิดถึง" ลิลลี่เข้ามากอดเหมยพร้อมกับทำท่าทีออดอ้อน "คุณครูก็คิดถึงลิลลี่ค่ะ งั้นลิลลี่ขึ้นไปนอนนะคะ เดี๋ยวคุณครูจะอ่านนิทานให้ฟัง" เหมยเดินตรงไปหยิบนิทานออกจากกระเป๋าเป้ของลิลลี่แล้วเดินจูงลิลลี่ขึ้นไปบนเตียงกว้าง พร้อมกับนอนข้างๆ แล้วค่อยๆ เล่านิทานลูกหมู 3 ตัวที่ลิลลี่ชอบให้ลิลลี่ได้ฟัง ผ่านไปไม่นาน เสียงลมหายใจแผ่วเบาและสม่ำเสมอ ร่างเล็กของลิลลี่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงสีขาวสะอาดตา เหมยเองก็รู้สึกถูกชะตากับลิลลี่ตั้งแต่แรกเจอ ไม่คิดว่าจะรู้สึกผูกพันกับลิลลี่ได้ง่ายแบบที่เจสซี่บอกเตือนเมื่อก่อนหน้านี้ "ฝันดีนะคะเด็กดีของคุณครู" เหมยจูบไปที่หน้าผากเล็กๆ แล้วเดินออกจากเตียงอย่างแผ่วเบาเพื่อมาปั่นนิยายต้นฉบับต่อให้เสร็จ อาชาที่สั่งให้เสือเอากล้องไปแอบซ่อนไว้ในห้องของเหมยก่อนหน้านี้อย่างลับๆ เพื่อไม่ให้เหมยรู้สึกตัวและรู้สึกไม่ปลอดภัย ภาพที่อาชาได้เห็นวันที่เหมยอ่านนิทานให้ลิลลิฟังเอ็นดูลิลลี่ทั้งต่อหน้าและลับหลังเขาผลพลอยได้คือ อาชาคลั่งไคล้เหมยมาก เขาได้เห็นเปลือยเปล่าเดินออกมาจากห้องน้ำ ยิ่งทำให้อาชาคลั่ง เหมยมากขึ้นไม่รู้กี่เท่าตัว "โอว์... คุณเหมย..." เสียงครวญครางดังออกมาจากห้องน้ำส่วนตัวของอาชาอยู่เป็น ระลอกๆ เมื่ออาชาได้ย้อนดูภาพของเหมยที่เปลือยเปล่าในห้องนอนที่เขาจัดไว้ให้ก่อนหน้สที่หนูลิลลี่จะไปนอนกับเหมย มือหนาใช้มือสาวชักท่อนเอ็นปลายหัวสี ชมพูอ่อนๆ แล้วจินตนาการถึงเหมย น้ำเมือกใสๆ ไหลเคลือบที่รูด้านบนจนเคลือบหัวท่อนเอ็นมันวาว อาชาไม่อาจเก็บซ่อนเร้นความต้องการที่มีต่อเหมยได้อีกต่อไป เพียงไม่นานน้ำรักสีขาวขุ่นก็พุ่งกระฉูดเต็มพื้นห้องน้ำ "อ้า... คุณเหมย..." เสียงฝักบัวไหลดั่งกระทบพื้นชำระล้างทุกสิ่งอย่างไหลลงท่อไป อาชาดูภาพเหมยเล่นสนุกสนานกับลิลลี่ไม่พักจนกระทั่งพาลิลลี่เข้านอน อาชาเข้าใจความรู้สึกของลิลลี่ที่น่าจะคิดถึงแม่ที่ล่วงลับ เช้าวันที่ 5 ที่เหมยได้อยู่กินที่ไร่ชาอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีหนูลิลลี่มักจะติดตามเธอไปทุกหนแห่ง เหมือนหนูลิลลี่จะรู้งาน เธอไม่ดื้อไม่ซน และยังเป็นผู้ช่วยตัวน้อยที่คอยเสิร์ฟขนมน้ำให้กับคุณครูที่แสนน่ารักอย่างเหมย "คุณครูขา ลิลลี่กับคุณลุงเอาเค้กชิฟฟ่อนสตรอว์เบอร์รี แล้วก็กาแฟที่คุณครูชอบ เอามาให้คุณครูทานกลางวันนะคะ" ลิลลี่ไม่ยอมให้อาชาช่วยถือ ลิลลี่ตั้งใจถือมาให้เหมยด้วยตัวเธอเอง "ลิลลี่คะ ทำไมหนูถึงมาเองอย่างนี้ล่ะคะลูก เดี๋ยวหกล้มมันจะหกได้นะ" เหมยหันไปสอนลิลลี่อย่างเอ็นดู "ลิลลี่อยากยกมาให้คุณครูด้วยตัวเองค่ะ เดี๋ยวคุณลุงอาชายกมาให้คุณครู คุณครูก็รักแต่คุณลุงอาชาสิคะ" ลิลลี่หันไปบอกเหมยพร้อมกับยิ้มจนแก้มแทบปริ "ทำไมล่ะ ให้คุณครูรักคุณลุงสักนิดนึงไม่ได้เหรอครับลิลลี่" อาชาที่ได้ช่องก็ใช้ลิลลี่ทำคะแนน "ไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าคุณลุงรักคุณครู คุณครูรักคุณลุง แล้วใครจะรักลิลลี่ล่ะคะ" ลิลลี่ทำปากจู๋แก้มป่องหันไปตอบอาชา "ใช่สิ ตอนนี้มีคุณครูคนใหม่ ไม่รักลุงอาชาแล้วใช่ไหมล่ะ" เสียงหัวเราะคิกคักของทั้งสามคน หากใครมองมาจากภายนอกก็คงคิดว่าเป็นครอบครัวสุขสันต์...เวลาที่ไร่ชาผ่านไปเร็วไวเหมือนโกหก วันนี้เป็นวันที่สี่ ที่เหมยมาอยู่ที่ไร่ชาแสนสุขนี้ โดยมีเจสซี่และสมาชิกใหม่แสนน่ารัก 1 คนที่ไม่ยอมไปนอนกับอาชา ขอมานอนกับเหมยทุกวันตั้งแต่พบกัน"คุณครูเหมยขา ลิลลี่เขียนตัวนี้ถูกต้องไหมคะ" ลิลลี่เอ่ยถาม "ตั้งแต่เจอคุณครูเหมย ลิลลี่ก็เหมือนได้เติมเต็มบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไป แม้แต่คุณตาคุณยายก็ไม่อาจเติมเต็มให้ลิลลี่ได้"สวยมากค่ะลิลลี่" เหมยที่กำลังนั่งปั่นต้นฉบับนิยายอีกเล็กน้อย จึงไม่ค่อยตึงเครียดเท่าไหร่ ถือโอกาสทำความรู้จักกับลิลลี่ผู้ น่ารัก"ฮาย...หนูลิลลี่!" เสียงเจสซี่ที่เปิดประตูห้องเข้ามาอย่างถือวิสาสะตามประสาเพื่อนรัก"คุณน้าเจสซี่ ดูนี่สิคะ ลิลลี่เขียนถูกต้องด้วยค่ะ" ลิลลี่เอาผลงานไปโชว์เจสซี่ด้วยความภาคภูมิใจ"โอ้โห หนูลิลลี่ของคุณน้าเจสซี่เก่งมากค่ะ งั้นเดี๋ยวหนูลิลลี่ไปนั่งบนเตียงนะคะ ขอคุณน้าคุยธุระกับคุณครูเหมยแป๊บนึง" เจสซี่บอกให้ลิลลี่ไปนั่งรออย่างเรียบร้อย"ยัยเหมย ฉันขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ" ท่าทีดูจริงจังของเจสซี่ทำให้เหมยวางมือแล้วเดินตามเจสซี่ออกไปนอกห้อง"นี่แกจะเป็นคุณครูของหนูลิลลี่จริงๆ เหรอ" เจสซี่ถามเพื่อนรักอย่างจริง
อาชาซึ่งยืนแอบอยู่ข้างๆ เฝ้าดูพฤติกรรมทุกอย่างของเหมยด้วยตัวเขาเอง เขามั่นใจแล้วว่าเหมยเป็นคนที่มีจิตใจดีมาก เพราะแม้แต่ลิลลี่จะพุ่งเข้าไปหาหรือแกล้ง เหมยก็ไม่มีทีท่าจะโกรธหรือดุลิลลี่เลย ซ้ำยังก้มลงไปหอมแก้มลิลลี่อีกต่างหาก"ลิลลี่ไม่มีคุณพ่อกับคุณแม่ค่ะ ลิลลี่มีแต่คุณลุง คุณตา และคุณยายค่ะ" เมื่อลิลลี่พูดถึงพ่อกับแม่ที่เสียไป ก็ทำหน้าเศร้าลงเล็กน้อยเหมยที่เห็นอาการของลิลลี่ดูเศร้าลง จึงกล่าวคำขอโทษลิลลี่จากใจจริง เพราะไม่รู้ว่าลิลลี่ต้องพบเจออะไรมาบ้าง"หนูชื่ออะไรคะ พี่ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้หนูเสียใจ" เหมยบอกขอโทษลิลลี่"ไม่เป็นอะไรเลยค่ะ คุณครูคนสวยของลิลลี่ คุณครูสอนหนังสือให้ลิลลี่นะคะ ลิลลี่จะเป็นเด็กดี" ลิลลี่ก็ยังคงพูดเรื่องการเรียนกับเหมยอยู่"ก่อนที่เราจะตกลงกัน งั้นพาไปหาผู้ปกครองได้ไหมคะ เผื่อผู้ปกครองตามหาอยู่" เหมยหันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นใครอยู่บริเวณนั้นนอกจากเธอเหมยวางลิลลี่ออกจากตักแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พร้อมกับยื่นมือให้ลิลลี่จูงเหมยไปหาผู้ปกครองของลิลลี่"คุณลุงของลิลลี่อยู่ตรงโน้นค่ะ" ลิลลี่ด้วยความใสซื่อจึงชี้ไปที่ด้านหลังทางเข้าประตูที่อาชาแกล้งแอบยืนด
เหมยกับเจสซี่อยู่ที่ไร่ชาของอาชาเป็นวันที่ สอง วันนี้เหมยได้ไปเยือนคาเฟ่ชาสุดชิกพร้อมกับดูการทำงานของบาริสต้าชงชาฝีมือฉมัง ลูกค้าเข้ามาที่คาเฟ่ของอาชาไม่ขาดสายตั้งแต่ผู้ใหญ่ เด็ก ไปจนถึงวัยรุ่น ที่นี่ตกแต่งออกมาเป็นบรรยากาศวิวภูเขาที่สบายตามากๆเหมยถือโน้ตบุ๊กคู่ใจมานั่งบริเวณด้านนอกเพื่อรับชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าพลางจิบกาแฟเบาๆ ค่อยๆ บรรจงพิมพ์งานลงไปทีละตัวอักษร ถ่ายทอดความรู้สึกต่างๆ ลงไปบนตัวหนังสือสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาที่เหมยแทบไม่วางตาพร้อมกับยืนจิบกาแฟหอมกรุ่นในยามเช้าเช่นกัน อาชาที่เปิดกระจกในห้องทำงานพลันสายตาก็เห็นร่างเล็กของผู้หญิงที่หมายปองอย่างเหมย เขาจึงยืนจิบกาแฟแล้วจ้องมองเหมยด้วยความเสน่หาอย่างเต็มหัวใจส่วนเจสซี่ เพื่อนสาวสุดที่รักก็สนุกสุดเหวี่ยงตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เล่นทุกกิจกรรมที่มี จนตอนนี้ยังนอนสลบอยู่บนเตียงไม่ฟื้น“นายชอบคุณเหมยไหมครับ นายรู้ไหมว่านายชอบเผลอยิ้มทุกครั้งที่พูดถึงคุณเหมยเลยนะ” เสือหันไปพูดกับอาชา“ฉันว่าเหมยเป็นผู้หญิงที่น่ารักดีนะ แต่ฉันคงไม่ถึงขั้นชอบเหมยหรอก” อาชายืนจิบกาแฟล้วงกระเป
พระอาทิตย์อัสดงยามเย็น แสงแดดสีแดงสดใสบวกกับพระอาทิตย์ดวงกลมโตที่กำลังจะลับไปหลังภูเขาเขียวขจีลูกใหญ่ ณ ไร่ชาพรหมเทพ เหมยและอาชากำลังนั่งจิบชายามเย็นตรงระเบียงห้องพักตากอากาศอาชากำลังเฝ้ามองเหมยระหว่างที่เหมย กำลังนั่งทำงานอยู่หน้าโน้ตบุ๊ก รู้สึกราวกับว่าโลกทั้งใบอยากให้มีเพียงเหมยและเขา“คุณเหมยดูท่าจะชอบเขียนนิยายเอามากๆ เลยนะครับ” อาชาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเหมยกำลังนั่งขะมักเขม้นกับหน้าจอตั้งแต่มาถึงที่นี่เหมยจึงหยุดมือแล้วเงยหน้าขึ้นไปมอง พร้อมยิ้มตอบกลับไปให้อาชาด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจในแบบฉบับของสาวแว่น“เหมยว่าเวลาที่เหมยเขียนนิยาย เหมือนเหมยหลุดไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งที่เหมยอยากจินตนาการตัวละครตัวใดตัวหนึ่งให้อยู่บน โชคชะตาและเส้นด้ายที่เหมยได้เขียนเอาไว้” เหมยอธิบายเรื่องราวมากมายให้อาชาฟัง อาชาโดยปกติเป็นคนไม่ค่อยเอาเวลาที่เป็นเงินเป็นทองมานั่งเฝ้าผู้หญิงแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เสือเห็นกิริยาของเจ้านาย“นี่..! คุณบอดี้การ์ด ช่วยเปิดขวดเนยถั่วให้หน่อยได้ป่ะ” เจสซี่ที่เดินมาหาเสือขณะที่ยืนคุมเชิงอยู่บริเวณด้านนอกเสือทำคิ้วขมวดเมื่อจ้องมองหน้าสาวสวยลูกครึ่งฝรั่ง“คุณช่วยทำหน้าให้มันดูเป
และแล้วเวลาที่อาชารอคอยก็มาถึง วันนี้เขายกเลิกงานและการประชุมทุกอย่าง เพื่อเตรียมตัวมารับเหมยด้วยตัวเอง เขาตื่นเต้นกว่าคนที่จะมาพักเสียอีก"เจ้านายครับ นี่เพิ่ง 15:30 น. เอง เจ้านายจะรีบไปไหนครับ? ผมเห็นเจ้านายรีบตั้งแต่ 15:00 น. แล้ว จะไปรับเหมยท่าเดียวเลย" เสือพูด"ครึ่งชั่วโมงก็ไปถึงบ้านใหม่พอดี มึงรีบแต่งตัวเลย" อาชาตอบ "คนภายนอกมองไม่มีใครรู้หรอกว่าเสือกับอาชาเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน เรียนด้วยกันมาและผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ แต่เสือให้ความเคารพอาชาในฐานะเจ้านาย นอกจากบางครั้งที่อาชาอยากจะได้ความเป็นเพื่อน เสือก็จะอยู่ข้าง ๆ อาชาเสมอ"ผมน่ะไม่ต้องแต่งตัวแล้วครับ เชิญเจ้านายขึ้นรถเลย เดี๋ยวผมขับรถให้" เสือพูดกึ่งแซวทางด้านสองสาวที่เตรียมเสื้อผ้าและกระเป๋าสำหรับการไปพักผ่อน 2-3 วันตามคำเชิญของอาชา ส่วนเหมยตั้งใจจะไปสูดอากาศที่ไร่ชาให้เต็มปอด แล้วเขียนนิยายเรื่องโปรดเพื่อให้แฟน ๆ ได้อ่านต่อไป"ฉันว่านะ ฉันจะต้องมีพลังในการเขียนนิยายมากแน่เลย ได้ไปเปลี่ยนบรรยากาศ" เหมยหันมาคุยกับเจสซี่ที่ยืนทาลิปสติกอยู่หน้ากระจก
ทุกอย่างผ่านไปไวเหมือนโกหก หลังจากที่เหมยกับอาชาทานข้าวกันเสร็จเรียบร้อยในช่วงเวลาเช้า เสียงรถคันหรูก็แล่นเข้ามาที่บ้านของเหมยอีกครั้งเพื่อมารับอาชากลับไป“คุณเหมยครับ จะรังเกียจไหมถ้าผมจะขอแลกไอดีกับคุณเหมยหน่อย” อาชาที่อยากจะทำความรู้จักเหมยมากกว่านี้จึงได้เอ่ยปากขอช่องทางการติดต่อกับเหมย“ยินดีมากค่ะคุณอาชา เป็นเพื่อนคนที่สองของเหมยเลยนะ” เหมยยิ้มจนแก้มแทบฉีกที่ได้เพื่อนใหม่ต่างวัย“งั้นพรุ่งนี้ผมจะมารับคุณเหมยไปลองชิมชาที่ไร่ แล้วก็ไปกินเค้กที่คาเฟ่ คุณเหมยโอเคไหมครับ” อาชาหันมาถามเหมยก่อนที่จะก้าวขึ้นรถหรูไป“ได้สิคะ เหมยขออนุญาตพายายเจสซี่ไปด้วยได้ใช่ไหมคะ” เหมยเองที่ยังไม่แน่ใจว่าอาชาเป็นคนแบบไหน จึงเลือกที่จะพาเจสซี่ เพื่อนสาวที่แสนฉลาดหลักแหลมติดไปด้วย“ได้สิครับ ยินดีมากๆ เอาไว้พรุ่งนี้ผมมารับคุณเหมยกี่โมงดี” อาชารวบรัดตัดตอนเลือกทั้งกระทั่งเวลาให้กับเหมย“ที่ไร่ชาปิดกี่โมงคะ” เหมยหันไปถามอาชาเพราะไม่เคยไปเลยสักครั้ง“ที่ไร่ชาของผม สำหรับคุณเหมยเปิดตลอดครับ” อาชาพูดอย่างคนเป็นต่อ“ถ้าเหมยไม่เกรงใจจะไปน