Share

บทที่ 7

Author: หลางเทียนเป๋ายุ๋น
อีกสามวันก็จะถึงวันที่ต้องขึ้นเครื่อง

หลินจิ้งส่งรูปเผยซือเหนียนกำลังปิ้งย่างอยู่ริมทะเลมาให้

[หลินจิ้ง : เพื่อเป็นการฉลองที่ฉันมีลูกให้เขา ก็เลยให้รางวัลด้วยการพามาพักร้อนที่มัลดีฟ~ เขาบอกว่าฉันอุ้มลูกอยู่ก็ลำบากพอแล้ว เลยให้ฉันนอนรอกินอย่างเดียว]

อันหนิงไม่ได้ตอบกลับ เธอแค่นัดเพื่อนสนิทไม่กี่คนมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง

เพราะยังไงซะ อาจจะไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้ว

การรวมตัวกินข้าวกันครั้งนี้ อันหนิงมีความสุขมาก

อีกสองวันก่อนจะขึ้นเครื่อง

หลินจิ้งส่งรูปที่เผยซือเหนียนกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ แต่หนังสือเล่มนั้นชื่อว่า "คู่มือเลี้ยงเด็กปฐมวัย"

[หลินจิ้ง : คุณพ่อมือใหม่ให้ความสนใจกับการศึกษาของลูกสุดๆ เขายังเป็นแค่ก้อนเนื้อในท้องฉันอยู่เลย แต่คุณพ่อก็เริ่มคุยกับเขาผ่านท้องของฉันทุกวัน]

อันหนิงยังคงไม่ตอบกลับ เธอไปธนาคาร แล้วเอาเงินในบัญชีทั้งหมดแลกเป็นเงินปอนด์ จากนั้นก็ปิดบัตรธนาคารทุกใบ

อีกหนึ่งวันก่อนขึ้นเครื่อง

ครั้งนี้หลินจิ้งส่งวิดีโอมา

ในคลิป เป็นการแสดงดอกไม้ไฟริมทะเลที่สุดแสนโรแมนติก

หลินจิ้งซึ้งจนร้องไห้ออกมา ส่วนเผยซือเหนียนก็กอดเธอพร้อมกับปลอบอย่างอ่อนโยน "ร้องไห้ทำไม? อีกหน่อยมีเซอร์ไพรส์เยอะกว่านี้อีก"

[หลินจิ้ง : เขาปิดทั้งเกาะเพื่อฉัน ดอกไม้ไฟทั้งหมดบนมัลดีฟถูกเขาซื้อไว้หมดแล้ว แค่เพียงเพื่อฉลองวันเกิดให้ฉัน]

ที่แท้ วันนี้ก็เป็นวันเกิดของหลินจิ้ง

แล้วยิ่งตั้งท้องด้วย นี่คงเป็นโชคสองชั้นสำหรับเขาสองคนเลยสินะ

อันหนิงดูจบ ก็ยิ้มบางๆ จากนั้นโทรหาองค์กรการกุศลในย่านนั้น

"สวัสดีค่ะ ฉันมีเสื้อผ้ากองนึงอยากจะบริจาคให้ชุมชนผู้ยากไร้"

ไม่นาน ตัวแทนขององค์กรการกุศลก็ขับรถมา

สองสามวันมานี้ที่เผยซือเหนียนไม่อยู่ เธอก็เก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว เสื้อผ้ารองเท้าทั้งหมดห้ากระสอบ เธอบริจาคทั้งหมด ไม่เหลือไว้สักชิ้น

บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน วุฒิการศึกษา และอื่นๆ ของเหล่านี้ที่เป็นของ "อันหนิง" รวมถึงของใช้ส่วนตัวของเธอในบ้าน เธอเอามันไปยังเมรุ ให้เงินเจ้าหน้าที่ก้อนนึง แล้ววานให้เขาช่วยเผามันทิ้งให้หมด

เมื่อกลับมายืนอยู่ในบ้านที่เธออาศัยมาห้าปีนี้อีกครั้ง แม้แต่อันหนิงเองก็รู้สึกแปลกไม่น้อย

บ้านหลังนี้ ถูกเธอเก็บกวาดจนสะอาด จนไม่หลงเหลือร่องรอยของเธออีกแม้แต่นิดเดียว

เธอมีก็แต่กระเป๋าเป้หนึ่งใบ

ในนั้นมีพาสปอร์ตของเธออยู่

ถ้าพูดถึงของเดิมที่ยังหลงเหลือ งั้นก็ยังมีโทรศัพท์ในมือเครื่องนี้

เธอใช้โทรศัพท์เรียกรถไปยังสนามบิน

คนขับจอดลงหน้าทางเข้าเทอมินอล ตอนที่เธอกำลังใช้โทรศัพท์เพื่อจ่ายค่ารถ ก็ได้รับสายจากเผยซือเหนียน

"อาหนิง ฉันกลับมาจากดูงานต่างจังหวัดแล้ว ตอนนี้กำลังกลับบ้านไปรับ เราไปกินข้าวด้วยกันนะ"

เขากลับมาแล้ว

ข้างกายยังมีหลินจิ้งอยู่ด้วย

อันหนิงนั่งอยู่ในรถ เห็นเขาสองคนเดินออกมาจากทางเข้าเทอมินอลพอดี

เผยซือเหนียนเข็นรถเข็น ข้างบนนั้นมีกระเป๋าเดินทางสองใบ ใบนึงสีฟ้าอีกใบสีชมพู เห็นได้ชัดว่าเป็นกระเป๋าคู่

ส่วนหลินจิ้งก็ควงแขนของเขา พิงศีรษะลงบนไหล่ของเขาอย่างนกน้อยติดเจ้าของ

"ไปทำงานเหนื่อยไหม?"

"ได้อยู่ ไม่ถึงกับเหนื่อยมาก จริงสิ ฉันจำที่เธอเคยบอกได้ว่า วันนี้ฉันแกะของขวัญที่เธอให้ได้แล้วใช่ไหม?"

"ใช่"

"ตื่นเต้นจัง ปล่อยให้ฉันรอตั้งอาทิตย์นึง ฉันเอาแต่ทายทุกวันเลยว่าเธอจะให้อะไรฉัน วันครบรอบแต่งงานของเราทั้งที ต้องเป็นของที่มีความหมายมากเลยใช่ไหม?"

"มีความหมายสุดๆ นายเห็นแล้วก็จะรู้เอง"

"โอเค งั้นรอฉันก่อน อีกสองชั่วโมงฉันน่าจะถึงบ้าน"

สองชั่วโมง ก็มากพอแล้ว

ถึงตอนนั้น เครื่องบินของเธอก็น่าจะออกจากเขตแดนประเทศนี้เรียบร้อย

"โอเค"

"งั้นเดี๋ยวเจอกัน รักเธอนะ อาหนิง"

พอวางสาย เธอก็เห็นหลินจิ้งทำหน้าบึ้งตึงไม่พอใจ ส่วนเผยซือเหนียนก็ก้มหน้าจุ๊บริมฝีปากของเธอนิดหน่อย ราวกับกำลังปลอบเธอ

พนักงานขับรถสะกิดเธอ "คุณครับ ค่ารถยังไม่ได้ชำระ"

อันหนิงดึงสายตากลับมา แสกนคิวอาร์โค้ดของคนขับ แล้วโอนเงินที่ติดในบัญชีทั้งหมดให้เขา

คนขับเห็นก็อึ้งไป "คุณครับ ใส่ยอดเงินผิดแล้ว หกร้อยห้าสิบบาท ไม่ใช่หกหมื่นสามพัน! ผมจะโอนคืนคุณให้"

"ไม่เป็นไรค่ะ" อันหนิงเปิดประตูลงจากรถ "ต่อไปฉันคงไม่ต้องใช้มันอีก ขอบคุณที่มาส่งค่ะ"

"ไม่ต้องเกรงใจครับ นี่เป็นอาชีพของผม แล้วคุณก็จ่ายค่ารถแล้ว ยังไงผมก็ต้องมาส่ง"

"ไม่เหมือนกันค่ะ ที่คุณพาฉันมาส่ง คืออนาคตที่ฉันจะได้เกิดใหม่"

หลังจากลงรถแล้ว อันหนิงก็ปิดเครื่อง หยิบซิมการ์ดออกมาแล้วโยนลงถังขยะ จากนั้นสุ่มยื่นโทรศัพท์ให้เด็กน้อยคนนึง

เด็กน้อยดีใจมาก "ขอบคุณครับพี่สาว!"

อันหนิงลูบผมของเขายิ้มๆ "ไม่เป็นไรจ้ะ"

แม่ของเด็กน้อยรู้สึกเกรงใจ "ของแพงขนาดนี้ พวกเรารับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ"

อันหนิงถามกลับประโยคนึง "พวกคุณจะไปต่างประเทศหรือเปล่าคะ?"

"ใช่ค่ะ เรากำลังจะไปแอฟริกา ไปหาพ่อของเขา"

อันหนิงพูดยิ้มๆ "งั้นก็รับไว้เถอะค่ะ พอได้ถึงแอฟริกาอาจจะต้องใช้"

"งั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ"

อันหนิงโบกมือลาพวกเขา "ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ"

วิทยุกระจายเสียงกำลังประกาศเร่ง : "ผู้โดยสารเซี่ยงหยวน หลังจากได้ยินข้อความนี้แล้ว กรุณามาที่เกท H32 เพื่อขึ้นเครื่องโดยเร็วที่สุด ไฟล์ทบินของท่านกำลังจะออกในไม่ช้า..."

อันหนิงกำพาสปอร์ตในมือ หลังจากที่หันกลับไปมองเป็นครั้งสุดท้าย ก็เดินเข้าเกทไปด้วยความเด็ดเดี่ยวและแน่วแน่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (4)
goodnovel comment avatar
malcha kwang
เติมเงินแล้วไปอ่านผ่านทางเวบไซต์หรือไปปลดผ่านเวบแล้วกลับมาอ่านแอปถึงจะได้​ ยุ่งยากดีนะ
goodnovel comment avatar
Dangnoy 68
เรื่องสั้น น่าจะต้องสมัครสมาชิกอย่างเดียว เราก็เปิดไม่ได้
goodnovel comment avatar
NooDern Oioi
เราเติมเงินแล้วทำไมยังซื้ออ่านไม่ได้ งงมาก
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 21

    อดพูดไม่ได้เลยว่า ท่าทางของเผยซือเหนียนในวิดีโอดูแล้วติดตามาก ต่อให้เป็นต่างชาติที่ฟังภาษาของเขาไม่รู้เรื่อง แต่ก็ยังสัมผัสได้ถูกความสิ้นหวังจากบนสีหน้าของเขาและซับไตเติ้ล"ไม่หรอก" อันหนิงโอบกอดเจ้าเหมียว ทอดตาลงต่ำแล้วพูด "เราทุกคนต่างก็เกิดมาตัวคนเดียว ไม่มีใครจำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่นเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตต่อไป ถ้าเขาละทิ้งชีวิตตัวเองด้วยเหตุผลนี้จริงๆ นั่นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ จะให้คนอื่นเสียสละตัวเองเพื่อทำตามที่เขาขอก็คงไม่ได้หรอก"เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว ต่อให้เผยซือเหนียนมายืนร้องไห้ต่อหน้า เธอก็ไม่มีทางกลับไปลิซ่าเองก็ยิ้มน้อยๆ "งั้้นก็ดี เธออยู่ที่นี่ให้สบายใจดีกว่า ช่วงนี้ในป่ามีพายุหิมะ ถนนในเมืองทุกสายที่ตัดผ่านที่นี่ถูกปิดไปหมด ต่อให้มีคนเข้าใจผิดว่าพวกเธอคือคนเดียวกัน ก็ไม่มีโอกาสได้ติดต่อไปรายงานพวกเขาแน่"ในหัวใจของอันหนิงผุดความอบอุ่นขึ้นมา เธอลองชิมคุกกี้ที่เพิ่งอบมาได้ไม่นาน แล้วพูดพร้อมกับขอบตาแดงระเรื่อ "ขอบคุณนะ คุกกี้อร่อยมาก จริงๆ นะ"วันเวลาผ่านไปไวเหมือนสายน้ำไหล ไม่นานก็มาถึงคืนคริสมาสต์อีฟ นี่เป็นวันสำคัญของชาวเมือง หนุ่มสาวจำนวนมากที่ไปทำงานต่าง

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 20

    สติของเขาถูกบดขยี้ด้วยความสิ้นหวังที่ไร้ซึ่งขอบเขตมานานแล้ว กระทั่งปลายสายให้ที่อยู่ในประเทศมาแบบคลุมเครือ จึงวางสายไปพร้อมกับรอยยิ้มอันขมขื่นไม่ได้เหนือความคาดหมาย คนๆ นี้หลอกเขาแต่เขาไม่ได้ไล่บี้ เพราะไม่มีเรี่ยวแรงอีกต่อไปหลังจากวันนั้น สายที่โทรเข้ามาทำนองนี้ก็มีมาต่อเนื่องไม่หยุดทุกคนล้วนเจออันหนิงในที่ใดที่หนึ่ง จากนั้นก็ขอเงินรางวัลจากเผยซือเหนียนไม่มากก็น้อยทั้งที่เขาก็รู้ว่าในบรรดากลุ่มคนเหล่านั้นมีมิจฉาชีพตั้งไม่รู้เท่าไหร่ แต่ก็ยังโอนเงินให้เหมือนเดิม นั่นก็เพื่อคว้าความหวังอันริบหรี่เอาไว้เงินรางวัลที่ว่าสุดท้ายก็กลายเป็นแค่ก้อนหินที่จมลงไปในทะเล โดยไม่มีแม้แต่ละอองน้ำสะเด็ดขึ้นมาแต่เผยซือเหนียนก็หาได้สนใจไม่ ตอนนี้เขาได้แต่อาศัยความคิดนี้เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ต่อไปวันๆ ต่อให้จะมีคนบอกว่าต้องการนัดคุย เขาก็ยังไปตามนัดยังมีผู้หญิงบางส่วนที่ใช้วิธีนี้เพื่อเข้าหาเขา แต่ละคนแต่งตัวสวยอวดสัดส่วนเต็มที่เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ทั้งยังพูดกับเขาแบบเปิดเผยว่า "คุณเผย ฉันยังมีเพื่อนๆ อีกมากมาย ถ้าคืนไหนที่คุณรู้สึกเหงา พวกเราจะช่วยคลายเหงาได้ทุกเมื่อ"กลายเป็นว่าวิ

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 19

    กระดาษที่อยุ่บนพื้นพวกนั้นเป็นกระดาษชนิดเดียวกับที่อันหนิงเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้เขา เขาเอาสมุดเล่มที่เธอใช้ไม่หมดย้ายจากห้องหนังสือมาห้องนอน จากนั้นก็นั่งเขียนหามรุ่งหามค่ำติดต่อกันอยู่หลายวันเวลาไร้ซึ่งความหมายในขณะนี้แม่ของเผยซือเหนียนพูดทั้งน้ำตา "อันหนิงไม่ได้อยากเจอลูกแล้ว ต่อให้ลูกเขียนจดหมายขอโทษจนล้นห้องมันจะไปมีประโชน์อะไร? ลูกต้องพูดคำพวกนี้กับเธอด้วยตัวของลูกเอง"เผยซือเหนียนครุ่นคิดอย่างจริงจังนิดหน่อย ยอมรับว่าที่แม่พูดนั้นมีเหตุผล แต่เขาจมอยู่ใต้ตมโคลน จนไม่สามารถออกมาได้แล้ว เขาช้อนดวงตาแดงก่ำขึ้น แล้วพูดอย่างยืนหยัด "เธอจะต้องรู้แน่ ขอแค่ผมเขียนพวกนี้ให้หมด เธอก็จะให้อภัยผม ใช่แล้ว ผมต้องจริงใจให้มาก..."เสียงของเขาแหบแห้ง ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยความบ้าคลั่งที่ผิดปกติ ดวงตาก็เป็นประกายแปลกประหลาด พูดได้ครึ่งนึง จู่ๆ ก็ลุกขึ้นแย่งสมุดกลับไป แล้วใช้มือสั่นเทาของเขาเขียนลงไปในสมุด เขาเขียนไปพร้อมกับพูดพึมพำ"อันหนิง ฉันผิดไปแล้ว เธอจะให้อภัยฉันใช่ไหม? ถ้าฉันเขียนจนหมดสมุดเล่มนี้ เธอก็จะต้องกลับมายกโทษให้ฉันแน่ ขอโทษนะ..."เผยซือเหนียนพร่ำประโยคเหล่านี้อย่างไม่รู้จักเหน็ด

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 18

    เขาร้อนใจราวกับมีไฟลนก้น แต่วีซ่ากับตั๋วเครื่องบินไม่ใช่สิ่งที่ทำแล้วจะเสร็จได้ในทันทีกว่าเขาจะเหยียบย่างเข้ามาในดินแดนของนอร์เวย์ ทั้งติดต่อสถานทูตกับทางตำรวจเพื่อตามหาอันหนิง ก็กินเวลาเข้าไปแล้วสามวันเผยซือเหนียนเคาประตูคอนโด ตะโกนเรียกชื่อ "อันหนิง" แล้วบุกเข้าไปทันที แต่กลับถูกเจ้าของบ้านที่กำลังทำความสะอาดอยู่ห้ามเอาไว้ก่อน เขาพูดด้วยความระแวง "คุณเป็นใคร?""ผมมาหาอันหนิง" เขาพูดเสร็จ ก็ตระหนักได้ว่าเธอใช้ชื่อภาษาอังกฤษที่นี่ ก็รีบอธิบายใหม่อีกรอบ "เธอเป็นภรรยาของผม พวกเราเข้าใจผิดกันนิดหน่อย ผมก็เลยมาเพื่อปรับความเข้าใจกับเธอ"เจ้าของบ้านโบกมือทันที "ที่นี่ไม่มีคนที่คุณกำลังตามหาหรอก""เธอชื่ออันหนิง ชื่อภาษาอังกฤษคือNING"เจ้าของบ้านยังพูดอีก "ผู้เช่าของผมชื่อเซี่ยงหยวน ไม่ใช่คนที่คุณกำลังพูดถึง คุณมาหาผิดคนแล้ว"เซี่ยงหยวน?เผยซือเหนียนตกอยู่ในภาวะไปต่อไม่ถูก"คุณแน่ใจนะครับว่าไม่ได้จำชื่อผิด?"เจ้าของบ้านเริ่มอารมณ์เสีย "ถ้าคุณไม่เชื่อก็ช่างเถอะ"ขณะพูด ก็เตรียมจะปิดประตูไปเผยซือเหนียนไม่ยอมปล่อยเบาะแสตรงหน้าไปง่ายๆ ก็ควักธนบัตรออกมาแล้วไล่ถามต่อ "คิดซะว่านี่เป็

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 17

    ป้าคนนึงทีเพิ่งหย่ากับสามีที่นอกใจมาหมาดๆ เกลียดพวกเมียน้อยจนเข้าไส้ ก็เดินขึ้นไปขวางทางเธอ แล้วด่ากราด "อายุก็แค่นี้ริอาจทำเรื่องต่ำทราม จะเป็นเมียน้อยทำบ้านเค้าแตกให้ได้เลย? ถุย พวกสันดานเมียน้อย!"หลินจิ้งเห็นว่าเธอเป็นแค่คนแปลกหน้าแต่มาด่าตัวเอง ก็ด่ากลับอย่างไม่ยอมแพ้ "นี่ป้า สภาพนี้คงอยากจะเป็นเมียน้อยแต่ไม่มีปัญญามากกว่ามั้ง มาด่าฉันเป็นเมียน้อย คงไม่ใช่ว่าตัวเองเอาผัวไม่อยู่ เลยโดนทิ้งมาหรอกนะ?""ถุย ก็ยังดีกว่าแกที่แก้ผ้าโดนเขาไล่ตะเพิดออกมาล่ะวะ!" ป้าโมโหจนยื่นมือออกมากระชากเธอสถานการณ์กลายเป็นวุ่นวายขึ้นมาทันทีป้าคนนั้นอาศัยอยู่แถวนี้ ไม่นานก็เรียกรวมพลเพื่อนๆ มารุมด่าหลินจิ้ง ว่าเป็นเมียน้อยหน้าด้าน ส่วนคนอื่นๆ ที่มามุงดูดราม่านี้ ก็เรียกทุกคนเข้ามาดูเพิ่ม จนไม่นานก็รวมคนได้จำนวนมากเสียงเอะอะดังใหญ่โตจนคนในวิลล่ายังได้ยิน แต่เผยซือเหนียนกลับเพิกเฉย ขังตัวเองไว้ในโลกส่วนตัวไม่ยอมออกมาไม่ว่าหลินจิ้งจะปากจัดยังไง ก็ไม่อาจด่าสู้กับคนจำนวนมากขนาดนี้ได้ เธอโมโหจนร้องไห้ อยากจะปิดหน้าแล้ววิ่งหนีออกไปจากวง แต่ก็เกือบถูกพวกหื่มกามยื่นมือมาแตะอั๋งอีก"ไสหัวไป! อย่ามาแตะตัว

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 16

    "เธอไม่มีสิทธิ์วิจารณ์อันหนิง ที่สำคัญเธอเองก็หวังให้รูปมันจะถูกแชร์ออกไปเหมือนกันล่ะสิท่า? เธอถ่ายหน้าฉันชัดขนาดนั้น แต่กลับบังคับตัวเองไม่ให้เขากล้อง อย่านึกว่าฉันไม่รู้ เธอคิดจะอาศัยวิธีนี้เพื่อไต่เต้าอยู่แล้วล่ะสิท่า?"เวลานี้สติสัมปรัชชัญญะของเขาแจ่มแจ้งซะยิ่งกว่าอะไร แต่มันก็สายไปแล้วหลินจิ้งยังอยากจะแก้ต่าง แต่เขาเกลียดชังเธอซะยิ่งกว่าอะไร ไม่คิดจะให้โอกาสอีกแม้แต่นิดเดียว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหารปภ.ของวิลล่า แล้วออกคำสั่ง "ลากตัวคนที่ไม่สมควรเสนอหน้าอยู่ที่นี่ออกไป"รปภ.ของวิลล่าคอยเฝ้ายามอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง หลังจากออกคำสั่งเสร็จก็รีบมาทันทีหลินจิ้งไม่ยอมไปกับพวกเขา ยังพยายามดิ้นรนขัดขืน "ซือเหนียน คุณเป็นคนเรียกฉันมา ตอนนี้คุณจะให้ฉันไป ฉันก็จะไป แต่คุณจะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้..."เผยซือเหนียนหันหลังให้เธอแล้วเดินเข้าไปในบ้าน เขาทิ้งประโยคนึงโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมา "อย่าให้ฉันเห็นหน้าเธออีก""ซือเหนียน..."หลินจิ้งถูกลากออกจากประตูของวิลล่าไปทั้งอย่างนั้น เธอมองประตูเหล็กแกะสลักปิดลงต่อหน้าต่อตา ราวกับว่าชีวิตของคุณนายไฮโซได้ออกห่างจากตัวเองไปไกลทุกที เธอเริ่มตะโกน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status