เข้าสู่ระบบเดิมทีเป็นบรรณาการที่รับมาอย่างไม่เต็มใจ ยามนี้เขากลับชื่นชอบมันนัก พอได้รั้งตรึงร่างสตรีเทพผู้มีใบหน้างดงามอ่อนหวาน หากเติมเต็มด้วยราคะในแววตาสีมรกต เบิกกว้างมองเขาราวกับว่าเป็นผู้ร้าย
ฮุ่ยเฟินไม่ปล่อยให้นางได้ต่อว่าบริภาษสิ่งใด มอบจุมพิตให้นางลืมเลือนทุกสิ่ง จือจือไม่ได้คิดสิ่งใดนอกจากไล่ตามจุมพิตเสน่หา เร่าร้อนขึ้นตามลำดับ ปลายลิ้นช่ำชองเฝ้ากระหวัดเกี่ยว พัวพันลิ้นน้อย เขาทำให้นางลืมตนเมื่อขยับร่างกายเข้าระหว่างกลางกายสตรีแรกรักอย่างระมัดระวัง มือลูบไล้ต้นขาด้านใน จับหมับไม่ให้นางขยับหนีดิ้นรน
เรียวขาขวาของนางถูกยกขึ้นเล็กน้อยเพื่อลดแรงเสียดทาน เมื่อสามีรับปากว่าจะไม่ทำร้ายนาง เขาจึงพยายามทำให้นางเจ็บปวดน้อยที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้
แม้นั่นเป็นไปไม่ได้เลย ด้วยสรีระที่แตกต่างของบุรุษร่างสูงใหญ่กำยำ ขนาดใหญ่โอฬารเกินปีศาจสตรีจะรองรับ นับประสาอะไรกับสตรีเทพร่างเล็กบาง นางรับรู้ถึงช่องทางเล็กแคบที่ไม่เคยให้ผู้ใดได้แตะต้องชุ่มชโลมด้วยน้ำ ดังปทุมมาลย์ที่ลอยคลออยู่บนผืนนที ไม่มีส่วนใดของมันที่จะไม่เปียกฉ่ำ ง่ายต่อการรุกรานของสิ่งแปลกปลอม นางก็ไม่รู้ว่าคืออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร กระทั่งมันทิ่มทะลวงเข้ามาในอึดใจเดียว
“อื้อ ๆ!”
ใต้พันธนาการที่ไม่สามารถดิ้นรถขัดขืน โซ่ทองรัดรึงนางไม่ให้ขยับตัวได้ ยิ่งขยับมันก็ยิ่งรัด หากไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บเมื่อพลังหยินรอบสีทองอร่ามกั้นกลางระหว่างผิวหนังของนางและโซ่ตรวนทั้งสี่ นางยังคงเจ็บปวดเพียงจุดเดียวที่ถูกแหวกแยกออกเป็นสองอย่างโหดเหี้ยมทารุณ
ฮุ่ยเฟินอยากทะนุถนอมนางอย่างถึงที่สุด ถึงแม้ว่าการดิ้นเล็ก ๆ ของนางอาจคร่าเขาให้ตายก็ตาม เมื่อที่ผ่านมาได้เพียงเฝ้ามองการสานสัมพันธ์ของปีศาจ ไม่เคยแตะต้องสตรีไหนเพราะพวกนางอาจทำให้เขาอยากอาเจียน
สตรีเทพผู้นี้กลับทำให้เขากลายเป็นจิ้งจอกคลุ้มคลั่งได้ไม่ยาก กระทั่งเขาผละจากริมฝีปากอิ่มงาม หลังจากที่นางเฝ้าจูบเขาเพื่อลบเลือนความเจ็บปวด สุดจะคณานับ
เขาอ่อนโยนต่อนาง อย่างไม่เคยปฏิบัติต่อใคร แต่ขนาดว่าอ่อนโยนจนถึงที่สุดแล้วราวกับว่าจะฉีกทึ้งร่างของนางให้แตกเป็นเสี่ยง ด้วยรสชาติแห่งราคะกามารมณ์แห่งปีศาจิ้งจอก ขนาดใหญ่โอฬารทิ่มทะลวงสตรีร่างผอมบางที่สั่นสะท้านไปทั้งร่าง กระทั่งริมฝีปากกระทบกันของนางแลดูน่าเวทนานัก
และเมื่อสะโพกสอบขยับเข้าหาเรือนร่างอันหอมหวาน ไออุ่นภายในถึงจะร้อนเท่าไร การไปอย่างเชื่องช้าในคราแรกก็อาจดี ติดเพียงว่าหางตาคู่สวยเจิ่งนองหยาดน้ำตา ทำให้ราชาจิ้งจอกหงุดหงิดหัวเสียอยู่ไม่น้อย
“หากเจ้าเจ็บมากกว่าที่เป็นอยู่ ขอให้เตือนข้า แต่ถ้าไม่มากแล้วขอให้อดทน ข้าเองก็จะอดทน ข้าจะอ่อนโยนกับเจ้า”
จือจือพยักหน้ารับคำรับปากนั้น อย่างไรเสียนางก็ไม่มีทางเลือกใด นอกเสียจากยอมรับอ้อมกอดปลอบประโลมและจุมพิตบนหน้าผาก นางเชื่อว่าเขายังมีเมตตาต่อนางเหมือนคราวที่คอยป้อนข้าวป้อนน้ำ รักษาเยียวยาร่างบอบช้ำของนางจนหายดี
สีหน้ารัญจวนบนใบหน้าคมคายยามนี้ราวถูกแซ่สวาทเฆี่ยนตี คิ้วเข้มหนาที่เรียบขนานไปกับดวงตาเรียวรีขมวดมุ่นมองใบหน้างดงามอ่อนหวานปรากฏอารมณ์มากมาย และนางทำให้เขาพึงใจ ขบกัดกรามกรอด ๆ จนมองเห็นเขี้ยวขาวคมของปีศาจ ส่งเสียงคำรามลั่น เมื่อไม่อาจฝืนรั้งตนได้นาน เขาขยับเคลื่อนกายเชื่องช้า เข้าและออกด้วยแรงแผ่วเบา ผิดจากความใจร้อน ใจปรารถนาจะทิ่มทะลวงช่องทางคับแคบนี้เสียให้ยับเยิน โดยไม่สนใจบาดแผลของนาง ทว่าเขาก็ไม่ได้ทำสิ่งนั้นต่อนาง
จือจือยังคงไม่คุ้นชินกับความเจ็บปวด เมื่อสามีถาโถมร่างกายเข้าหานางล้ำลึกในแต่ละคราว มังกรร้ายขยายตัวโอฬารแม้ว่ามันเพิ่งออกไป
ครั้งแรกของบุรุษและสตรีนั้นไม่อาจอดกลั้นได้นาน ท่วงทำนองที่เคลื่อนไหวภายในร่างกายสอดประสานเป็นหนึ่ง พาลพาให้ร่างกายเกิดความรู้สึกเหมือนถูกเหวี่ยงขึ้นภูผาสูงชัน ประดับด้วยบุปผางามหลากสีสัน
“สามี... อ๊ะ อ๊ายย!” เสียงหวานกรีดร้องลั่นก่อนได้ยินเสียงคำรามตามมากระชั้นชิด สะโพกสอบหนากระถดเกร็ง กดเข้าแนบชิดติดหน้าขาเรียวเปียกชุ่มฉ่ำ กลิ่นอวลอ่อนของธาราแห่งชีวิต พุ่งพวยจากปลายกลมกลึงเกิดความดื้อรั้นขึ้นมา
“จือจือ เจ้าปักษาของข้า...” เขาเรียกหานางด้วยแววตาที่หลงใหลยิ่งขึ้นกว่าเดิม ฟุบหน้าลงกดจูบบนไรขมับเปียกชื้นเหงื่อ เมื่อถ้ำทางคับแคบบีบรัดท่อนกายรุ่มร้อนอย่างบ้าคลั่ง ในจังหวะรัวแรงและละวางลง
สะบัดใบหน้าพร่างพราวเม็ดเหงื่อด้วยความรุ่มร้อนทรมาน เมื่อช่องทางเล็กแคบยังคงรัดรึงสิ่งแปลกปลอม ดูดกลืนการปลดปล่อย เพื่อเติมเต็ม
ถึงนางจะบอกว่าไม่เป็นไร นั่นเป็นความเจ็บปวดทรมานที่แสนเป็นสุข ฮุ่ยเฟินไม่ยอมให้นางเจ็บปวดทรมาน“เราจะไม่มีบุตรอีก เว้นเสียแต่ว่าข้าสามารถอุ้มครรภ์แทนภรรยาได้ ข้าจึงจะเปลี่ยนใจ” ถ้อยคำอ่อนโยนทำให้ภรรยาหัวเราะออกมา นางยกมือป้องปากอย่างรักษากิริยา“ข้าเคยได้ยินเรื่องใต้เท้าจีกงอุ้มครรภ์แทนธิดาฟางเหนียง ท่านเป็นสามีที่มีเมตตารักใคร่ต่อภรรยานัก”“ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้”จือจือเล่าให้สามีฟังว่านางถือกำเนิดจากลูกแก้วแห่งชีวิต ไม่มีความทรงจำในอดีต ทว่านางทำงานในเรือนเทพแห่งสายน้ำ เรื่องเล่ากล่าวขานมากมายเกี่ยวกับใต้เท้าจีกงทำให้ผู้คนเลื่อมใส“อ้อ... สรุปว่าเทพสามารถให้กำเนิดบุตรได้ ท่านไปพบผู้เฒ่าลึกลับในทะเลลึก เพื่อขอลูกแก้วมาใส่ท้องตน เพราะว่าเห็นบุรุษเทพตั้งครรภ์แทนภรรยาได้ น่าขันนัก”เสียงหัวเราะลั่นดังไปทั่วเรือนปีศาจ สีหน้าของเขาเหยียดหยัน ไม่ว่าอย่างไร ปีศาจก็ยังไม่ชอบเทพอยู่ดี ธิดาจือจือคงเป็นกรณียกเว้นผู้เดียวขณะนัยน์ตาสีชาดราวกับว่ามีแสงวิ่งอยู่ภายในยามจ้องมองแก้มแดงซ่าน นางพูดจาเจื้อยแจ้วถึงเรื่องที่นางจะขอบาดเจ็บแทนสามี เฉกเช่นที่เขาขอเจ็บปวดแทนนาง หากเป็นเช่นนี้ก็คงไม่ได้มีบุ
“ท่านใจเต้นแรงเพราะภรรยาอยู่เสมอ”“ในภพภูมิบาดาล... ไม่มีบุรุษมาชอบพอเจ้าหรือ? ไม่มีใครทำให้เจ้ามีความรู้สึกเช่นนี้”“อาจมีแต่ข้าไม่รู้ ก็เป็นไปได้”รู้ทั้งรู้ว่าสามีพ่ายแพ้ต่ออารมณ์ริษยา จือจือมองเห็นเขี้ยวคมของสามี ปีกปักษาสีชาดกะพริบแสงในอกของเขา สีของปีกปักษาในอกเข้มขึ้นตามลำดับ พอ ๆ กับนัยน์ตาที่อาบด้วยโทสะในหัวของราชาจิ้งจอกวางแผนลอบสังหารบุรุษเทพผู้นั้น หลังตามหาตัวพบว่าเป็นใครแน่ ภรรยาผู้แสนดีทำลายแผนการของเขาลงเสียหมด“ข้าล้อท่านเล่น ไม่มีแน่นอนเจ้าค่ะ”“เจ้านี่ชอบหยอกล้อข้า ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง” ว่าแล้วเคาะหน้าผากเนียนเข้าทีหนึ่ง บนแต้มสีชาดปรากฏสัญลักษณ์ของภรรยาจิ้งจอกขณะดวงตาเรียวรีของนางราวจะยิ้มออกมาได้ เด็กชายทั้งสองวิ่งกลับมาหาบิดามารดาอ้ายเฉินมีนัยน์ตาสีชาด อ้ายเยว่มีนัยน์ตาสีมรกตทอประกายอย่างเผ่าพันธุ์ปักษา หากใบหน้าละม้ายคล้ายบิดามากกว่า โดยเฉพาะคิ้วหนาที่เรียบขนานไปกับดวงตาสดใส เขาดูเป็นปีศาจเข้มขรึมดุดัน ทว่ายังซุกซนอย่างเด็ก แม้เติบโตอยู่ในร่างของเด็กวัยสิบสองปีแล้ว แค่ผ่านพ้นไปไม่กี่วันบิดามารดานั่งฟังพวกเขาแย่งกันพูดจา บอกเล่าเรื่องราวสารพัด“ข้าไม่ว่าพว
ฮุ่ยเฟินนั่งหงุดหงิดภรรยา ไม่เข้าใจว่าทำไมนางจึงยังไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตน นางควรเห็นแก่ตัวบ้างในเมืองปีศาจ ไม่นานนัก ขนตางามงอนเป็นแพที่ขยับไหวเปิดเผยดวงตาสว่างใสให้เห็นอีกครา แสงสีชาดกะพริบในอกพร้อมหัวใจที่เต้นระรัวแรงจือจือชะโงกคอมองหาบุตรชายทั้งสอง “ลูกชายข้าเล่า?”“จะไม่ถามถึงสามีเลยหรือ?”“ข้าเชื่อว่าท่านคงดูแลตนเองดี โดยเฉพาะตอนนี้ บิดาอาจกำลังเวียนหัวกับการเลี้ยงดูเด็ก ๆ”“ข้าให้บ่าวรับใช้ดูแล เพียงออกไปดูพวกเขาเป็นครั้งคราว พวกเขาเข้ามาดูอาการของเจ้าอยู่ เพิ่งออกไปไม่นาน”“ข้าอยากพบลูกชายเจ้าค่ะ” ในสีหน้าออดอ้อนของนาง สามีจอมบงการเลื่อนมือไปแตะหน้าผากและแก้มเย็นเฉียบ“เจ้ายังไม่หายดี อดทนรออีกสักนิดไม่ได้เลยหรือ? ข้าไม่อยากให้ใครเข้ามารบกวนการพักผ่อนของเจ้า ข้าเองก็จะออกไป”“ได้โปรดเถิด เขาเป็นความรักของข้าและท่าน จะห่วงภรรยาก็ห่วง แต่จะริษยาเด็กน้อยไปทำไม อย่างไรเสียข้าก็มอบหัวใจให้ท่าน บุรุษเพียงผู้เดียว”“ภรรยา เจ้าทำเป็นพูดดีไป ข้าไม่ได้ริษยาพวกเขาเลย ข้ากำลังเป็นห่วงเจ้า”ถึงต่อว่าไปอย่างไร ฮุ่ยเฟินกลับใจอ่อนยอมนาง เห็นแววตาสุกใสเปล่งประกาย ปรารถนาจะพบบุตรชาย นางรับปากว่าห
นี่อาจเป็นการสมานฉันท์ระหว่างเผ่าพันธุ์จิ้งจอกและเหล่าเทพ แม้อาจทำให้เกิดสงครามระหว่างดินแดนขึ้น องค์ชายทั้งสิบจากเมืองฉางส่งสารมาถามไถ่เรื่องฝาแฝดทั้งสองอย่างไม่พึงพอใจนักเมืองฉางตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองฟู ในภพภูมิแห่งจิ้งจอก ถัดไปเป็นเมืองเหยียนของเหล่าอสรพิษ ได้ยินข่าวคราวจากองครักษ์ว่าพวกเขาไม่มีปัญหาแต่อย่างใด“ข้าไม่ชอบเสียงดัง คำโต้แย้ง ที่ผ่านมาถือว่าข้าเกรงใจพวกเขามาก กลายเป็นว่ามีเพียงองครักษ์ทั้งสาม บ่าวรับใช้ในจวนที่เป็นมิตรต่อจือจือ ส่วนผู้อื่น ไม่มีผู้ใดหยุด...”ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าเกรี้ยวกราดของราชาฮุ่ยเฟิน อาจสังหารปีศาจได้ทั้งเมืองโดยง่ายดาย เขาเดินผ่านโถงกว้างขวางในจวนอย่างสุขุม บอกตงหยางให้ส่งสารผ่านจิ้งจอกลูกสมุนไปเมืองเหยียน ขอให้เหล่าจิ้งจอกเอ็นดูเด็กชายทั้งสอง นั่นเป็นคำสั่งเสียมากกว่าคำขอร้อง“การต่อสู้กับแคว้นฟู่ซึ่งทุกเมืองปีศาจสวามิภักดิ์ เป็นเรื่องยากต่อกร จะเสียกำลังพลปีศาจไปโดยเปล่าประโยชน์ ใครดูถูกเหยียดหยามบุตรชายของนายท่าน เท่ากับเป็นปฏิปักษ์” ตงหยางให้ท้ายนายท่านหลายวันมานี้เหล่าองครักษ์ได้รับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเด็ก รู้สึกเอ็นดูเด็กชายทั้งสองไม่น้อย
“เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไปจือจือ ไม่ว่าใครก็ตามเข้ามาขัดขวางการคลอดบุตรของภรรยาข้า มีโทษสถานเดียว ทุกชีวิตในสายเลือดมันผู้นั้นต้องตาย”“ท่านเดินทางไปร้องขอชีวิตข้าและบุตรของเราจากแดนยมทูตไม่ดีกว่าหรือ?”“ยากเกินไป” เอ่ยแล้วจึงก้มหน้าลงจูบหน้าผากเนียน “ข้าจะปกป้องเจ้าเป็นอย่างดี เจ้าจะคลอดบุตรโดยปลอดภัย ทั้งฝาแฝดสตรีหรือบุรุษจิ้งจอก ล้วนน่ายินดี พวกเขาจะเป็นพี่น้องที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน”จือจือได้ยินเช่นนั้น เงยหน้าขึ้นลอบมองกรามแกร่งด้วยสีหน้าเป็นสุข“ท่านไม่ควรเป็นกังวลไป สามี เทพล้วนโปรดปรานเด็กตัวเล็ก ๆ นัก บุตรของเราทั้งสองจะได้รับคำอวยพรจากเทพในเทวโลก แม้กระทั่งราชาผู้ยิ่งใหญ่...”ชั่วครู่หนึ่งของการสนทนา นางได้พบรอยยิ้มอ่อนโยน จากที่เคยแลดูเกรี้ยวกราดหากพูดถึงราชาแห่งสวรรค์เมื่อไร เขาไม่ได้ปฏิเสธเมตตาธรรมของท่านผู้ยิ่งใหญ่ ใครเมตตาบุตรของเขาก็ยินดี“เราจะตั้งชื่อ... พวกเขาว่าอะไร? เจ้าคิดไว้หรือยัง”“อ้ายเฉิน อ้ายเยว่ ชื่อของเขาหมายความถึงความรัก ข้าคิดว่าไม่เป็นอุปสรรค เมื่อเขาเติบใหญ่อาจไปบำเพ็ญเพียรในเมืองเทพก็ย่อมได้”“เจ้าไม่อยากให้บุตรชายเดินทางมาร?”จือจือส่ายหน้าไปมา “เขาอ
“หลายล้านปีเทวโลก อาจมีเพียงหนึ่ง นางผู้เปรียบดั่งดวงใจข้า สวรรค์ลิขิตให้ปีศาจผู้ไร้ใครต้านทานอย่างข้ามีความรักครั้งหนึ่ง เมื่อการถือกำเนิดของข้าไม่ควรมีอยู่ในทุกภพภูมิโลก หากนางไม่รับรักข้า จะสิ้นใจไปอย่างเชื่องช้า ร่างกายแข็งเป็นหิน เกล็ดน้ำแข็งเกาะกุมไปทั่วร่าง...”จางเหว่ยหัวเราะอย่างรักษากิริยา เป็นเรื่องน่าขันสำหรับเขา“เห็นทีว่านายท่านคงเป็นอมตะนิรันดร์กาล พวกข้าเคยได้ยินเรื่องเล่ากล่าวขานว่าเผ่าพันธุ์ปักษามีความรักที่มั่นคง”องครักษ์จิ้งจอกไม่ให้นายท่านได้กลายเป็นก้อนน้ำแข็งสมใจ ขณะใบหน้าหล่อเหลาปรากฏรอยยิ้มดีใจ ปรารถนาความรักของธิดาปักษาไม่มีทางล่วงรู้ได้เลยว่าเป็นวาสนา ชะตากรรม พรหมลิขิต หรือว่าสิ่งใดแน่ทว่าการพบสบตานางผู้เปรียบดั่งดวงใจ นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่สุด...สตรีตั้งครรภ์ย่อมเป็นกังวลต่าง ๆ นานา สารพัดเรื่องราวซึ่งนางสามารถจินตนาการได้ จือจือชงชาให้สามี ระหว่างนั่งสนทนากับเขาอยู่ด้านหลังจวนกว้าง ในสวนที่มีพรรณพฤกษางอกเงย ดอกจื่อเถิงใต้จันทราสีชาด สามีภรรยานั่งพักพิงอิงแอบในอ้อมแขนกันและกันเป็นนิจราตรีนี้บ่าวรับใช้ยกจานใส่ขนมแป้งปั้นหน้าตาน่ารับประทานเข้ามาวางบนโ







