공유

บทที่ 1

last update 최신 업데이트: 2025-03-31 14:54:49

ใบไผ่ ไม่สิตอนนี้เขาชื่อ ลลิต ลูกชายของโอเมก้ากลิ่นน้ำผึ้งป่า ลออจันทร์ ในโลกใบนี้แบ่งเป็นเพศหลักชายหญิงและเพศรองซึ่งได้แก่ อัลฟ่า เบต้า โอเมก้า เพศรองจะตรวจพบเมื่อเด็กอายุเจ็ดขวบขึ้นไป

ลลิตเหม่อมองตุ๊กตาแขวนหมุนไปมาอย่างปลงตก นี่เขาทะลุมิติมาในเรื่อง วางแผนมัดใจนายอัลฟ่าเย็นชา นิยายบอยเลิฟชื่อดังที่น้องสาวของเขา ต้นหลิว ติดงอมแงมคอยพูดเรื่องของตัวละครในนิยายให้ฟังตอนกินข้าวบ่อย ๆ

รู้อย่างนี้ไม่น่าเสียบหูฟังหนีเลย

ทารกน้อยค่อย ๆ เรียบเรียงความทรงจำที่กระจัดกระจาย ลออจันทร์ แม่ของเขาในนิยายเรื่องนี้รับบทเป็นตัวประกอบที่แอบหลงรัก คุณคราม อัลฟ่าหนุ่มที่เพิ่งเปิดตัวคู่หมั้นสายฟ้าแลบจนเป็นที่ฮือฮาของคนทั้งประเทศ ทำให้ลออจันทร์รู้สึกผิดที่พลาดนอนกับคุณชายของบ้านจนต้องหอบท้องหนีมาเพื่อให้คนที่ตนแอบรักได้แต่งงานกับแฟนสาวอย่างราบรื่น

เรื่องราวผ่านไปจน ลลิต โอเมก้าน้อยได้เติบโตขึ้นจนอายุ 20 ปี เด็กน้อยที่ผ่านความลำบากมาตั้งแต่เด็ก รูปร่างจึงผอมซีด ใบหน้าปกคลุมด้วยทรงผมหน้าม้าทำให้ดูมืดมนขึ้นไปอีก หนุ่มน้อยขี้อายได้ตกหลุมรัก แทนไท เดือนมหาลัยสุดฮอต หากแต่คนขี้ขลาดอย่างเขาคงได้แต่แอบรักเขาข้างเดียวจึงคิดจะตัดใจไปอย่างเงียบ ๆ

แต่ไม่นานเขาก็ได้พบกับเพื่อนสนิท อัยวา โอเมก้าหนุ่มน้อยที่ไม่เคยรังเกียจตัวตนของลลิตเลยสักครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งอัยวาชวนเขาไปงานวันเกิดที่บ้านของตัวเองทำให้เขาค้นพบความลับที่ผู้เป็นแม่ปกปิดไว้ คุณพ่อของอัยวาคือคนเดียวกับคุณพ่อของเขา ตอนที่ลลิตยังเด็กเขาเคยสงสัยว่าพ่อของเขาหายไปไหนแต่ผู้เป็นแม่กลับปิดปากเงียบ ด้วยความอยากรู้ลลิตจึงแอบไปค้นตู้เก็บของจึงเจอกับภาพถ่ายใบหนึ่งที่เขียนข้างหลังภาพว่า

สุดหัวใจ

เด็กหนุ่มจดจำใบหน้าเคร่งขรึมของคนเป็นพ่อได้อย่างชัดเจน หลังกลับจากงานวันเกิดลลิตจึงได้คาดคั้นกับคนเป็นแม่ ลออจันทร์จึงได้แต่สารภาพทั้งน้ำตา

“ฮึก ทำไมแม่จะต้องหนีมาด้วย ถ้าไม่หนีมาเราคงไม่ต้องทนทุกข์แบบนี้หรอก” ลลิตร้องไห้เอ่ยความในใจกับผู้เป็นแม่ ชีวิตแม่เลี้ยงเดี่ยวอีกทั้งยังเป็นโอเมก้าต้องลำบากขนาดไหน หากว่าผู้เป็นพ่อรู้ความจริง คงไม่ต้องลำบากขนาดนี้

“แม่ขอโทษ” ลออจันทร์ได้แต่ร้องไห้ เขาจะกล้าบอกได้ยังไงในเมื่อวันที่เขารวบรวมความกล้าที่จะบอกความจริงเป็นวันเดียวกับที่คุณครามประกาศงานหมั้น

“ฮือออออ” สองแม่ลูกกอดกันร่ำไห้ออกมา

ความเจ็บปวดของลลิตยังไม่จบแค่นั้น เมื่อเพื่อนสนิทของเขาชักชวนให้ไปเที่ยวสถานบันเทิงในคืนวันหยุด

“ลลิต ไปเถอะนะ วันนี้เราจะได้แนะนำให้รู้จักกับคู่หมั้นของเราด้วย” อัยวารบเร้าเพื่อนสนิทเสียงออดอ้อน ตั้งแต่ลลิตรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นพี่น้องของตนยิ่งรู้สึกรักใคร่ยิ่งไปอีกจึงตอบตกลงอย่างง่ายดาย

“ลลิต นี่พี่แทน คู่หมั้นของเราเอง” อัยวาควงเดือนมหาลัยมาแนะนำลลิตที่นั่งหลบมุมอยู่ให้รู้จัก ลลิตรู้สึกชาไปทั่วร่างพูดอะไรไม่ออกอยู่เป็นนาน จนอัยวาเลิกคิ้วสงสัยท่าทางของคนตรงหน้า

“อ่ะ ลลิตครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เด็กหนุ่มแนะนำตัวเสียงแผ่วเบา ก่อนจะขอตัวกลับอย่างรวดเร็ว ไม่ทันสังเกตสายตาที่มองร่างลลิตจนลับสายตาไป

“พี่แทนมองอะไรครับ” เสียงที่เคยอ่อนหวานเริ่มไม่พอใจเมื่อเห็นคู่หมั้นหนุ่มมองตามเพื่อนสนิท

“เปล่า ไม่มีอะไร” ก่อนจะดึงแขนออกจากการกอบกุม แล้วเดินออกจากร้านไปไม่สนเสียงโวยวายด้านหลัง

เวลาผ่านไปจนลลิตเรียนปีสุดท้าย ลลิตที่สุขภาพดีมาตลอดได้หมดสติไป ลออจันทร์รีบพาไปโรงพยาบาลทันที คุณหมอเจ้าของคนไข้แจ้งข่าวร้ายว่าตอนนี้ลลิตเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายมีเวลาอีกไม่ถึงสามเดือน โอเมก้าหนุ่มร้องไห้ทั้งน้ำตา จึงตัดสินใจไปบ้านโยธินตระกูลเพื่อบอกให้คุณครามรับทราบถึงการมีอยู่ของลูกชาย หากแต่ถูกโรสรินผู้เป็นแม่ของอัยวาขัดขวางไว้

“คุณรินได้โปรด ให้ผมได้คุยกับคุณครามเถอะครับ ” ลออจันทร์คุกเข่าต่อหน้าโรสรินทั้งน้ำตา

“ไม่ใช่ว่าฉันไม่ยอมให้พบ แต่คุณครามตอนนี้อยู่ต่างประเทศ ฉันไม่รู้จะทำยังไง” แม้ในใจโรสรินจะเกลียดชังคนตรงหน้าแค่ไหน แต่ก็ต้องข่มใจไว้

“ตอนนี้นายกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะโทรบอกเรื่องนี้กับคุณครามเอง”คุณหญิงของบ้านกล่อมคนตรงหน้าให้กลับไปก่อน ลออจันทร์ที่ตั้งใจจะฝากฝังเรื่องราวก็ได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลเสียก่อน

“อะไรนะครับ ครับ เดี๋ยวผมจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้” พูดจบก็รีบวิ่งออกไปขึ้นรถแท็กซี่ที่อยู่ด้านนอกสวนทางกับรถคันหรูที่แล่นเข้ามา

“มีแขกมาเหรอ” ครามถอดเสื้อสูทเดินเข้ามาหานายหญิงของบ้านถามอย่างเสียงเรียบ

“แค่เพื่อนมาเยี่ยมน่ะค่ะ ไม่มีอะไรมาก” พูดพลางเอื้อมมือไปช่วยถอดเสื้อ แต่ครามกลับเบี่ยงตัวออกราวกับไม่อยากถูกสัมผัสของผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยา

“ไม่ต้อง คุณไปทำธุระของคุณเถอะ” เอ่ยจบก็เดินตรงไปห้องทำงาน ไม่สนว่าโรสรินจะทำหน้าไม่พอใจแค่ไหน

“ผ่านไปยี่สิบกว่าปี คุณก็ยังเย็นชาเหมือนเดิม”

ตึก ตึก ตึก เสียงวิ่งดังก้องไปทั่วทางเดินของโรงพยาบาลรัฐ โอเมก้าวัยกลางคนละล่ำละลักถามคุณหมอเสียงสั่น

“คุณหมอ ลูกของผมเป็นอะไรครับ”

“รีบเข้าไปเถอะครับ คนไข้ใกล้จะไม่ไหวแล้ว” คุณหมอเจ้าของไข้หลบตา ทนมองภาพตรงหน้าไม่ได้ ลออจันทร์รีบเปิดประตูเข้าไปถลาเข้าไปหาลูกชายที่นอนอยู่บนเตียง

“ลลิตลูก แม่มาแล้ว” ลออจันทร์กุมมือลูกชายไว้แน่น มองหน้าซีดเซียวของลลิตทั้งน้ำตา

“แม่ อย่าร้องไห้” ลลิตที่รู้ตัวว่าไหวแล้ว ยกมือปาดน้ำตาบนใบหน้าที่ยังดูสวยงามของคนเป็นแม่

“ฮึอ  ฮืออ” ลออจันทร์ส่ายหัวไปมา ยอมรับความจริงที่ลูกต้องจากไปไม่ได้

“แม่ ลลิต...รัก...แม่นะ” มือที่ลูบไล้ใบหน้าทิ้งตัวอย่างอ่อนแรง ลออจันทร์กรีดร้องลั่นเมื่อลูกชายจากไป

“ลลิต อย่าทิ้งแม่ไป ม่ายยยย”

เมื่อเวลาผ่านไป ลออจันทร์ที่เสียสติก็นำตัวเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวท ต่อมาถูกบุคคลปริศนารับไปดูแล ส่วนอัยวาเมื่อรู้ข่าวเพื่อนสนิทก็ได้แต่เสียใจโดยมีแทนไทที่นิสัยเย็นชายิ่งกว่าเดิมคอยเคียงข้าง

ตอนจบเฮงซวย ใครแต่งนิยายเรื่องนี้วะเนี่ย

ทารกน้อยแกว่งแขนขาไปมาอย่างกราดเกรี้ยว เมื่อจำเรื่องราวในนิยายทั้งหมดได้แล้ว เสียงอ้อแอ้ดังเป็นระยะเรียกรอยยิ้มจากลออจันทร์ที่รีดผ้าอยู่ให้หันไปมอง

ลูกใคร ทำไมร่าเริงแบบนี้

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ลลิตจะปกป้องหม่าม้าเอง   บทที่ 54 END

    แทนไทเดินเข้าไปที่ห้องรับแขก วันนี้นอกจากจะมีครอบครัวเพลิงโชติเมธีแล้วยังมีครอบครัวโยธินตระกูลมาร่วมรับประทานอาหารด้วยลินินตอนนี้อยู่ในอ้อมแขนของคุณวาสินีที่ยิ้มไม่หุบตั้งแต่เข้ามา ร่างตุ้ยนุ้ยนั่งเก้าอี้คอยชวนคุณยายพูดคุยด้วยท่าทางไร้เดียงสา ครามกับปราบนั่งคุยล้อมวงกับคุณอารัญและคุณพิศาล เด็กชายคีตานั่งไถโทรศัพท์เงียบ ๆ นั่งข้างลลิตกับแทมมาลีน“อ้าว พี่จ๋าหายไปไหนมา”แทมมาลีนเอ่ยทัก เผลอละสายตาจากหมากรุกที่เขากับลลิตฟาดฟันมาหลายนาที จังหวะที่ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไม่รู้ตัวเลยว่าลลิตแอบหยิบหมากตัวเองออกไปหนึ่งตัว“ตานายแล้ว รีบเดินสิ”“เร่งทำไม เอ๊ะ ทำไมมันแปลก ๆ”“แปลกอะไร ไม่มี้” ลลิตพูดเสียงสูง ไม่มีพิรุธสักนิด แทมมาลีนที่เห็นท่าทางลลิตเป็นแบบนี้ก็กระโจนเข้าไปขยี้ผมนุ่มทันที“หน็อยแน่ ทำเป็นเนียนเลยนะ”“ปล่อยนะ นายกล้าทำกับพี่เขยแบบนี้ได้ยังไง” ลลิตเผลอตัวหลุดโพล่งออกมา

  • ลลิตจะปกป้องหม่าม้าเอง   บทที่ 53

    “บาดแผลสมานตัวดีมาก อย่าลืมมาพบแพทย์ตามนัดอีกสองสัปดาห์นะครับ ตอนนี้คุณหนูสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้วครับ”คุณหมอมอบรอยยิ้มให้เด็กหนุ่มตรงหน้าที่นั่งยิ้มหน้าบาน“ขอบคุณคุณหมอมาก ๆ ครับ”ลลิตไหว้ขอบคุณลุงหมอเจ้าของไข้ที่คอยดูแลเขามาตลอดที่อยู่โรงพยาบาลเมื่อบอกลาคุณหมอเสร็จเจ้าตัวแสบก็ลงมายืนข้างเตียงโดยที่ไม่ต้องมีใครช่วยพยุงอีกแล้ว“...”แทนไทที่เตรียมอุ้มลลิตทำหน้าเสียดาย ช่วงหลังที่ลลิตพักฟื้นเท้าแทบไม่ติดพื้นเพราะมีครามกับแทนไทคอยอุ้มไปไหนต่อไหนตลอดถึงจะถูกลออจันทร์บ่นว่าก็ทำหูทวนลมทั้งสามีและลูกเขยวันนี้ครามติดประชุมสำคัญทำให้มารับลูกชายออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ แทนไทจึงอาสามารับแทนสร้างความประทับใจให้แก่ลออจันทร์ยิ่งไปอีก“ไปกันครับ ผมอยากกลับบ้านจะแย่อยู่แล้ว”ลลิตเดินนำหน้าลออจันทร์และแทนไทออกไปอย่างร่าเริง“ลูกคนนี้นับวันยิ่งแก่นแก้วไปทุกที” แทนไทมองลลิตที่ทำตัวร่าเริงด้วยแววตาอ่อนโยน“ดีแล้วครับ ผมชอบที่เขาเป็นแบบนี้”“หม่าม้า ล

  • ลลิตจะปกป้องหม่าม้าเอง   บทที่ 52

    “ตอนนี้แผลผ่าตัดของคุณหนูลลิตปกติดีครับ ไม่มีการติดเชื้อใด ๆ ผู้ป่วยสามารถลุก เดิน นั่งได้ด้วยตัวเอง หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนภายใน หมอจะทำการตัดไหมในวันที่ 7 พร้อมกลับบ้านในวันเดียวกันได้เลยครับ”ครามและลออจันทร์นั่งฟังคำวินิจฉัยของแพทย์ด้วยความดีใจ“คุณหมอหมายความว่า ลลิตหายแล้วใช่ไหมครับ” ลออจันทร์ถามย้ำอย่างตื่นเต้น“ครับ ตอนนี้คุณหนูลลิตปลอดภัยแล้วครับแต่ยังต้องทานยาและมาพบแพทย์ตามนัดด้วยนะครับ”“ขอบคุณครับหมอ” ครามโค้งตัวขอบคุณคุณหมอที่ช่วยชีวิตลูกชายของเขาไว้“ไม่เป็นไรครับ เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว”คุณหมอนพ เจ้าของคนไข้นึกชื่นชมเจ้าของโรงพยาบาลตรงหน้าที่ไม่ถือตน เมื่อได้เวลาที่ต้องไปตรวจคนไข้ก็ขอตัวออกไปก่อน ลออจันทร์ลูบกลุ่มผมนุ่มของคนที่ยังหลับใหล“ลลิตปลอดภัยแล้วนะครับ”“รีบตื่นมาฟังข่าวดีได้แล้ว เจ้าตัวยุ่ง” เหมือนลลิตรู้ตัวว่าหม่าม้ากำลังพูดกับตน ร่างบางส่งเสียงพึมพำออกมาอย่าง

  • ลลิตจะปกป้องหม่าม้าเอง   บทที่ 51

    ครามที่สองมือหอบข้าวของของภรรยาและลูกชายมาเต็มสองมือไม่ยอมให้ป้าจิตช่วยถือเดินเข้าโรงพยาบาลมาพร้อมกับคุณไพลินและคุณพิศาลที่เดินหน้าเครียดสร้างความตื่นตกใจให้แก่บุคลากรของโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก“พี่คราม ผมได้ยินข่าวของลลิตแล้ว หลานของผมเป็นยังไงบ้างครับ” หมอกันต์ที่ออกไปสัมมนาข้างนอกวิ่งเข้ามาเจอครอบครัวของญาติผู้พี่พอดีถามเสียงลั่นไม่นะ หลานชายที่น่ารักของเขาทำไมต้องโชคร้ายขนาดนี้ด้วย“ตอนนี้ลลิตยังปลอดภัย แกก็อย่าตื่นตระหนกไปมากกว่านี้ได้ไหม กว่าฉันจะปลอบคุณแม่ให้สงบลงต้องใช้เวลาแค่ไหน”ครามกระซิบบอกน้องชายเสียงเบา สายตาคอยมองคุณไพลินที่เดินนำหน้าด้วยความเป็นห่วง“แหะ แหะ เข้าใจแล้วครับ” หมอกันต์แย่งตุ๊กตาไดโนเสาร์สีเหลืองที่ผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน&

  • ลลิตจะปกป้องหม่าม้าเอง   บทที่ 50

    “ป๊ะป๋าตื่นสาย”ลลิตพูดลอย ๆ เมื่อเห็นครามอุ้มลินินเดินลงมาจากชั้นบน ตอนนี้เขากับคีตากำลังกินข้าวเช้าที่ป้าจิตเป็นคนทำให้ คีตาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เกี่ยวกับแผนการของพี่ชายนั่งตักข้าวต้มกินต่อไป “วันนี้วันหยุด ป๊ะป๋าก็อยากตื่นสายบ้าง หม่าม้าก็ชอบตื่นสายเหมือนป๊ะป๋านะ” ครามตอบโต้ลูกชายด้วยการยกหม่าม้าของเจ้าตัวขึ้นมาอ้าง ลลิตหน้าบูดเมื่อพูดอะไรไปเจ้าพ่อบ้ากามก็ไม่สะทกสะท้านจึงนั่งจ้วงข้าวต้มเข้าปากคำโต “มาค่ะ ลินินเดี๋ยวพ่อป้อนหนูนะคะ” “อื้อ ไม่เอาค่ะ หนูอยากกิงเอง ลินินโตแย้วนะ” เด็กหญิงบอกว่าตัวเองโตแล้ว ครามได้แต่นั่งลงทานข้าวแต่โดยดี “เด็ก ๆ ทานข้าวเสร็จหรือยังครับ”ลออจันทร์ที่แต่งตัวเรียบร้อยเดินมาหาลูกชายลูกสาวก่อนจะไล่หอมหัวคนละหนึ่งที&nbs

  • ลลิตจะปกป้องหม่าม้าเอง   บทที่ 49 NC เล็กน้อย

    "แล้วนายจะกลับอิตาลีเลยหรือเปล่า”ลลิตถามอัยวาขณะที่ทั้งสองอยู่ในลิฟต์ ครามอยากตามลงมาด้วยแต่ถูกเตวิชขวางไว้เสียก่อนจึงได้แต่มองลูกชายและอดีตลูกชายเดินออกไปตาละห้อย “คงต้องกลับเลย ฉันลาหยุดได้แค่ไม่กี่วัน” ราฟาเอลก็ทิ้งการเรียนตามเขามาด้วย อัยวาไม่อยากให้แฟนตัวเองถูกไล่ออกจึงต้องรีบกลับไป“ฉันอยากแวะไปหาคุณยายกับคุณตานะแต่ฉันไปตามที่อยู่เดิมกลับมีคนอื่นเข้ามาอาศัยอยู่แล้ว” อัยวาพูดด้วยน้ำเสียงจนใจ ลลิตได้แต่เห็นใจเรื่องของครอบครัวอัยวาเขาคงไปยุ่งมากไม่ได้โอเมก้าสองคนเดินไปยังร้านกาแฟของลออจันทร์ ทันทีที่ลลิตเปิดประตูเข้าไปก็ต้องอมยิ้มเมื่อเห็นอัลฟ่าสองคนนั่งจ้องหน้ากันโดยมีน้องคีย์นั่งทำการบ้านด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ“พี่ลลิตมาแย้ว”ลินินที่นั่งอยู่บนตักแทนไทดิ้นลงวิ่งมาหาพี่ชาย“ลินินมาได้ไงครับ” ลลิตถามด้วยความแปลกใจ นี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนนี่นา“วันนี้โยงเยียนเล

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status