LOGINสองวันต่อมา
งานเลี้ยงจัดขึ้นในลานกว้างหน้าฟิตเนสแบงค์ยิมถูกประดับไว้ด้วยแสงไฟระยิบระยับ แขกเหรื่อทุกคนในงานแต่งตัวหรูหรายืนพูดคุยกันด้วยท่าทีผ่อนคลาย ทุกคนถือแก้วน้ำทรงสวยหลากสีขณะเดินชมบรรยากาศรอบ ๆ งานเลี้ยง แสงไฟจากโคมทำให้บรรยากาศดูอบอุ่น บริกรเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มอย่างราบรื่น เสียงดนตรีบรรเลงเบา ๆ
สาวน้อยหน้าใสสวมแว่นสายตาเข้ากับรูปหน้า ใส่กางเกงทรงกระบอกสีซีดบวกกับเสื้อลินินตัวบางใส่สบาย เดินเข้ามาในงานอย่างมั่นใจ พร้อมกับหยิบแก้วค็อกเทลมาถือไว้ในมือ ก่อนจะยกขึ้นมากระดกรวดเดียวจนหมดแก้ว
“สีก็สวย น้ำก็อร่อยดี เพิ่งจะเคยกิน แต่รถชาติก็ไม่ต่างจากเหล้าถังที่เราทำสักเท่าไร สู้เหล้าถังที่เราผสมเองไม่ได้”
แม้ในใจเธอจะบอกว่าเหล้าถังที่เธอผสมกินกับพี่ชาย กับคนงานที่ไร่จะอร่อยกว่า แต่เธอก็ยอมรับว่าค็อกเทลก็อร่อยไม่แพ้กัน จนอดที่จะเอาค็อกเทลแก้วที่สอง แก้วที่สามมาจิบรอลูกค้าที่สั่งน้ำหอมเอาไว้ไม่ได้ เบอร์โทรก็ไม่ทิ้งเอาไว้ให้ ชื่อแซ่ก็ไม่ยอมบอก เธอทำได้แต่เดินเตร็ดเตร่พลางจิบค็อกเทลไปด้วย จนมาโผล่ที่ห้องออกกำลังกาย
ตั้งแต่เล็กจนโตเธอก็ยังไม่เคยลองเครื่องออกกำลังกายสักทีเลย ประจวบเหมาะกับวันนี้ไม่มีคนพอดี เธอก็ขอแอบลองดูหน่อยแล้วกัน ตอนนี้ทุกคนกำลังสนใจอยู่กับงานเลี้ยง คงไม่มีใครเข้ามาในห้องตอนนี้
ฟลายด์ลองเครื่องออกกำลังกายทีละเครื่องวน ๆ กันไปจนเกือบจะครบทุกอย่าง เล่นไปได้สักพักเธอรู้สึกแปลบ ๆ ที่บริเวณ
ไหปลาร้า ทำให้เธอต้องหยุดทดลองเครื่องออกกำลังกาย กำลังจะออกไปเดินตามหาลูกค้าคนนั้น เธอกลับได้ยินเสียงพูดคุยกันอยู่ด้านหลังห้องออกกำลังกาย“คุณเข้ามาในนี้ทำไม?”
“แบงค์! โบว์คิดถึงคุณ โบว์ขอโอกาสกับคุณอีกสักครั้งได้ไหมคะ”
“ผมคงให้โอกาสโบว์ไม่ได้หรอก แล้วอีกอย่างคุณไม่สงสารลูกบ้างเหรอโบว์ ที่แม่ของเขามายุ่งกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อของตัวเอง”
“แต่เรารักกันไม่ใช่เหรอ”
“ใช่! เรารักกัน แต่…”
ฟลายด์เดินตามหาเสียงบทสนทนาที่ลอดออกมาด้านหลังห้องออกกำลังกาย และแอบเอาหูแนบกับผนังฟังทั้งสองคนคุยกัน จนเผลอไปได้ยินเรื่องที่ไม่ควรได้ยินเข้า
แต่แล้ว…
เพล้ง!!
ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อเธอถอยหลังไปชนแจกันบนโต๊ะจนร่วงลงมาแตกกระจายเต็มพื้น ฟลายด์รีบหันซ้ายขวามองหาที่หลบซ่อน ก่อนจะมุดเข้าไปในช่องแคบ ๆ ที่พอจะให้ร่างบางเข้าไปได้ หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาจากอก มือเท้าเย็นเฉียบ กัดริมฝีปากแน่น พยายามกั้นเสียงหายใจ
“ใคร”
แบงค์ตะโกนถามเสียงเข้ม ก่อนจะก้าวเท้าออกมาจากห้องด้านหลัง ดวงตาคมกริบกวาดมองสำรวจไปรอบ ๆ ห้อง
เสียงรองเท้ากระทบพื้นดังใกล้เข้ามาทีละก้าว…ทีละก้าว ความมืดจากช่องแคบ ๆ ไม่น่าอึดอัดเท่ากับเสียงฝีเท้าที่กำลังใกล้
เข้ามา“ออกมา!” น้ำเสียงของแบงค์เริ่มแข็งกร้าวขึ้นทุกที
ฟลายด์ทำได้เพียงแค่เม้มริมฝีปากเอาไว้แน่น ยืนตัวสั่นอยู่ในที่ซ่อน หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ภาวนาขออย่าให้ชายหนุ่มคนนั้นหาตัวเธอเจอ แต่ฝีเท้าหนักกลับหยุดลง อีกเพียงแค่นิดเดียว เขาก็จะ…หาตัวเธอเจอ
เพล้ง!!
“เสียงอะไรคะ เรารีบออกไปดูกันดีกว่าค่ะ” โบว์หันขวับไปตามเสียง ก่อนจะเอ่ยชวนชายหนุ่มออกไปจากตรงนี้
เสียงถาดโลหะพร้อมแก้วน้ำตกกระแทกพื้นดังสนั่นจากมุมโถงด้านนอก พนักงานสาวคนหนึ่งก้มหน้าตัวสั่น รีบเก็บแก้วที่แตกกระจาย พลางเอ่ยขอโทษเสียงสั่น เมื่อเห็นผู้ว่าจ้างเปิดประตูออกมาจากด้านใน
“ขะ…ขอโทษค่ะคุณแบงค์!”
แววตาคมกริบตวัดมองพนักงานที่เผลอทำของตกแตกกระจายทั่วพื้น “ระวังหน่อยสิ!”
ฟลายด์ที่ซ่อนอยู่ในช่องแคบรีบใช้จังหวะนั้นค่อย ๆ ผละออก มาอย่างเงียบเชียบ ร่างบางชุ่มไปด้วยเหงื่อ ฝุ่นเกาะเต็มเสื้อผ้า หยากไย่เกาะตามผมเผ้า เธอก้าวถอยทีละก้าวจนห่างออกไปจากรัศมีสายตาของเขา เธอแทบกลั้นหายใจไว้ไม่อยู่ เสียงหัวใจยังเต้นโครมครามไม่หยุด
“เมื่อกี้คุณเห็นใครผ่านมาทางนี้บ้างไหม”
“ไม่มีนะคะ”
เมื่อเสียงก้าวเท้าหนัก ๆ ของแบงค์เคลื่อนห่างออกไป ฟลายด์รีบฉวยโอกาสออกมาจากช่องแคบ ๆ นั้น ร่างบางแทบจะวิ่งโดยไม่หันกลับมามองข้างหลังเลยแม้แต่นิดเดียว
ความครึกครื้นในงานเลี้ยงนั้น มันยิ่งทำให้เสียงหัวใจที่เต้นโครมคราม ดังสะท้อนอยู่ในโสตประสาทของเธออย่างบ้าคลั่ง เธอหยุดยืนหอบหายใจ หันกลับไปมองด้านหลังอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่า
ไม่มีใครตามเธอมา ริมฝีปากที่เม้มแน่นอยู่ก่อนหน้า ค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ร่างทั้งร่างแทบจะทรุดลงกับเก้าอี้ด้วยความโล่งใจนานวันเข้าพ่อของฟลายด์ก็เริ่มเห็นถึงความผิดปกติของคนที่อ้างว่าเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกับลูกสาวของตน วันนี้นึกคิดยังไงไม่รู้อยากมาหาลูกสาวที่ห้อง อยากคุยเรื่องชายหนุ่มคนนั้น ด้วยความที่ผู้เป็นพ่อเดินมาเห็นพอดีจึงทำให้รีบเดินไปทางหน้าห้องลูกสาว ในตอนที่ชายหนุ่มกำลังกอดร่างบางอยู่เสียงประตูห้องก็ถูกเคาะขึ้นมาพอดี“ฟลายด์แกเปิดประตูให้พ่อเดี๋ยวนี้เลยนะ” ผู้เป็นพ่อเคาะประตูห้องลูกสาวด้วยความร้อนรนฟลายด์รีบออกไปเปิดประตูเมื่อแบงค์เข้าไปซ่อนตัวในตู้เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว“มีอะไรหรือเปล่าพ่อ” เธอพยายามซ่อนพิรุธเอาไว้ไม่อยากให้พ่อจับได้ ทว่าพ่อก็รีบเดินเข้ามาพร้อมกับค้นหาแบงค์ตามสิ่งที่เห็น“ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันอยู่ไหน” ผู้เป็นพ่อตวาดลั่น จนคนในบ้านต่างตื่นขึ้นมาดูด้วยความตกใจทำให้แบงค์ต้องออกมายอมรับความผิดของตัวเอง ฟลายด์ถึงกับชะงักค้างไปด้วยรู้กับความผิดของตัวเองดี ก่อนที่ทุกคนจะไปรวมกันที่ลานบ้านเพื่อพูดคุยหาลือกัน“คุณ! นับจากวันนี้เป็นต้นไปให้คุณย้ายไปนอนที่บ้านพักคนงาน และทำงานในไร่กับคนงาน ไม่ต้องมาที่บ้านใหญ่ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากผม”ผู้เป็นพ่อที่ได้รู้เรื่องทั้งหมดก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมา
ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก เมื่อเธอได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ขึ้นหน้าห้อง ตึก…ตึก…ตึก…เงาสะท้อนผ่านใต้ช่องประตูหน้าห้อง เท้าที่เธอคุ้นเคยหยุดยืนพิงประตูอยู่หน้าห้อง กำลังแนบใบหูเข้ากับประตูหน้าห้องของเธอ ฟลายด์รีบหันขวับส่งสัญญาณให้แบงค์ ที่ยืนปักหลักอยู่กลางห้องเหมือนไม่คิดจะหลบอีกต่อไป “เงียบ!” เธอรีบกระซิบเสียงเบาก๊อก ก๊อก ก๊อก!“ไอ้ฟลายด์! หลับหรือยัง” เสียงเฟลนด์ดังขึ้นพร้อมกับแรงเคาะประตูหน้าห้องแทบพังฟลายด์รีบวิ่งไปดันชิดประตูเอาไว้ พยายามทำเสียงให้ปกติ “ยัง…มึงมีอะไรหรือเปล่า”“กูได้ยินเสียงเหมือนมีผู้ชายอยู่ในห้องมึง มึงคุยกับใคร” น้ำเสียงเฟลนด์เต็มไปด้วยความกังขา“กูไม่ได้คุยกับใคร แค่…ดูซีรีส์อยู่”ข้างนอกห้องเงียบไปครู่หนึ่ง เหมือนเฟลนด์กำลังชั่งใจว่าจะเชื่อหรือไม่ เธอยืนนิ่ง เหงื่อซึมออกมาตามฝ่ามือ ในหัวมีแต่จะหาที่ซ่อนตัวให้ชายหนุ่มไม่ให้ถูกจับได้ หากพี่ชายขอเข้ามาในห้อง ทุกอย่างจบเห่แน่!“เออ ล็อกประตูดี ๆ ด้วย เข้าใจไหม” สุดท้ายเฟลนด์ก็ทิ้งคำสั้น ๆ ไว้ ก่อนฝีเท้าหนัก ๆ จะค่อย ๆ เดินห่างออกไปทันทีที่เสียงนั้นเลือนหาย ฟลายด์ก็ทรุดตัวลงกับประตู หัวใจ เต้นแ
“ฟลายด์ขอสั่งห้ามพี่ไม่ให้บอกเรื่องนั้น” น้ำเสียงจริงจังเอ่ยบอกกลับไปและบังคับให้ชายหนุ่มทำตามที่เธอว่า “พี่กลับไปก่อนเถอะนะ เดี๋ยวฟลายด์จะหาวิธีบอกเรื่องนี้ให้พวกท่านรู้เอง ถ้าพวกท่านรู้ตอนนี้…พวกท่านเอาฟลายด์ตายแน่”“งั้นพี่จะอยู่ที่นี่แลกกับการไม่บอกใครเรื่องที่เรามีอะไรกันแล้ว” เขาพูดบอกอย่างเป็นต่อ สีหน้าไม่ยอมผ่อนปรน“ไม่ได้”แต่เขากลับก้าวเข้ามาใกล้ กระซิบข้างใบหูเธอ “ถ้าฟลายด์ไม่ให้พี่อยู่…พี่จะบอกพวกท่านเอง ว่าพวกเราเป็นสามีภรรยากันใน ทางพฤตินัยแล้ว”“พี่นี่มัน! พูดอะไรออกมาไม่คิดหรือไง ถ้าพ่อแม่ฟลายด์ได้ยินเข้าละก็…”“งั้นก็ให้พี่ที่นี่สิ ง่ายที่สุดแล้ว” แบงค์ยกยิ้มมุมปาก แค่นั้นก็ทำให้หญิงสาวหวาดหวั่น“ถ้าคิดว่าทำได้ก็ตามใจ” เธอว่าจบก็เดินเข้าไปด้านในบ้านด้วยความขัดใจเล็กน้อยพี่ชายก็เดินตามมาดู สีหน้าหงุดหงิดไม่คลาย “ยังอยู่เหรอคุณ! ถ้าไม่ใช่เพราะน้องสาวผมยืนยัน ผมคงเรียกตำรวจมาลากคอคุณออก ไปแล้วนะ”“ผมได้ยินว่าคุณอยากพักอยู่ที่นี่ งั้นเอางี้ไหม ถ้าอยากจะอยู่จริง ๆ ก็ไปอยู่บ้านพักคนงานที่ไร่” เฟลนด์เอ่ยเสนอแนะเสียงเข้ม อีกทั้งยังไม่ไว้ใจชายหนุ่ม ถึงเสนอให้ไปอยู่กับคนงาน จ
แบงค์ที่ได้ข้อมูลมาจากหลาย ๆ คนและมีคนที่พามา ก็ทำให้เจอบ้านของฟลายด์จนได้ ทว่าคนที่เขาเจอกลับเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ออกมาเดินอยู่หน้าในจังหวะนี้พอดี ทั้งยังจูงมือมากับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ทำให้เขาเข้าใจว่าผู้ชายคนนั้นคือสามีของฟลายด์และลูกสาว ซึ่งมันเป็นเพียงแค่คำโกหกของหญิงสาวเพียงเท่านั้น แต่แบงค์กลับเชื่อสนิทใจเฟลนด์พาลูกสาวตัวน้อยออกมากำลังจะพาไปร้านค้าใกล้บ้าน พอเห็นชายแปลกหน้าร่างสูงยืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ตรงหน้าบ้าน สายตาคมกริบจ้องมองมา เขาก็ชะงักทันที“คุณเป็นใคร มาหาใคร?” น้ำเสียงแข็งกร้าวถามขึ้นทันที“ผมมาหา…” แบงค์กำลังจะเอ่ยชื่อของฟลายด์ออกมา แต่ยังไม่ทันจบประโยค“คุณจะมาใครก็ช่างเถอะ ที่นี่ไม่มีคนที่คุณตามหาหรอก และก็อย่ามาแอบอ้างนะ! ว่ารู้จักคนในบ้าน”ลูกสาวตัวน้อยที่เล่นซ่อนอยู่ข้างหลังเกาะชายเสื้อพ่อเอาไว้แน่น โผล่มาแค่เพียงใบหน้าแอบมองชายที่ยืนอยู่หน้าบ้าน ดวงตากลมใสเต็มไปด้วยความงุนงงกระนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผู้ชายกับเด็กคนนั้น “แม่” เด็กน้อยรีบวิ่งเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้น“พี่! เกิดอะไรขึ้น!” หมวยเห็นสามียืนคุยกับใครก็ไม่รู้ตั้งนาน สีหน้าเคร่งขรึม เธอจะรีบวิ่ง
ฟลายด์ที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยร่างกายปวดเมื่อยขบตามตัว ทว่าเธอยังคงหลับตาด้วยอาการมึนหัวจนต้องใช้มือจับที่ศีรษะของตัวเอง ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือพลางหันมองรอบด้านในห้องที่เธอรู้สึกไม่คุ้นเคยเอาเสียเลยเธอที่รู้สึกเหมือนว่าตัวเองไม่ได้สวมใส่อะไรก็ค่อยๆ ยกผ้าห่มขึ้นเปิดดูเพื่อความแน่ใจว่ามันเกิดกับเธอบ้าง ในใจของเธอมีแต่คำว่าฉิบหายแล้ว เพราะถ้าคนในครอบครัวรู้คงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน“นี่ฉันอยู่ที่ไหนกันเนี่ย?”เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ จากนั้นภาพความทรงจำในหัวก็แล่นเข้ามา ความทรงจำเมื่อคืนตัดขาดไปบางช่วง มีเพียงภาพเลือนรางของแก้วเครื่องดื่ม สายตาคมคู่นั้น และรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจเธอแกว่งไปทั้งที่ไม่อยากยอมรับ เธอบดจูบเขาอย่างเร่าร้อน จนเธอถึงกับชะงักค้างไปเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าไปมองด้านข้างที่จู่ ๆ ก็มีมือมาพลาดบริเวณช่วงหน้าท้องของตัวเอง ทว่าเธอก็ถึงกับชะงักข้างไปเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าคนที่นอนอยู่ข้างกันคือแบงค์ฟลายด์ถึงกับรีบตั้งสติพร้อมกับยกมือของอีกฝ่ายออกห่างจากตัวเบา ๆ ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมาเสียก่อน เธอผล็อยตัวลงจากเตียงพร้อมกับหอบหิ้วเสื้อผ้าหายเข้าไปในห้
เธอมองตาเขาปริบ ๆ ไม่รู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันควรจะเป็นไปในทางไหน เธอไม่กล้าตอบรับหรือปฏิเสธเขาชายหนุ่มประคองใบหน้าหญิงสาวเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ปฏิเสธหรือขัดขืนเขา ริมฝีปากของเขาแตะลงบนปากนุ่มอย่างนุ่มนวล ฟลายด์ร่างกายแข็งทื่อ ยืนหลับตาปี๋หัวใจเต้นระส่ำด้วยความตกใจ ริมฝีปากของเขาแนบสนิทอยู่กับกลีบปากนุ่ม ปลายลิ้นอันเร่าร้อนสอดผ่านริมฝีปากเธอเข้าไปพันเกี่ยวลิ้นเธออย่างช่ำชองด้วยสัญชาตญาณเธอแนบชิดตัวเขาอย่างไม่รู้ตัว ริมฝีปากร้อนผ่าวของแบงค์กำลังหลอมละลายปากนุ่มของเธอจนเปียกชุ่มภายใต้การควบคุมของเขา เธอแทบขาดอากาศหายใจ เมื่อแบงค์บดคลึงริมฝีปากของเธออย่างหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น หัวใจของเธอหวาดหวั่น แต่ร่างกายกลับแอ่นบดเบียดเข้าหาอ้อมกอดอบอุ่นของชายหนุ่ม“พี่ขอมากกว่านี้ได้ไหม”ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกน้ำเสียงทุ้มที่ถามออกมาแฝงความเซ็กซี่ ราวกับกำลังโลมเลียเรือนกายของเธอแทนปลายนิ้ว จนฟลายด์ขนลุก ใบหน้าเนียนละเอียดถูกเชยให้เงยหน้าขึ้นสบตากับเขาเธอพยักหน้าตอบรับ สอดแขนโอบกอดรอบคอชายหนุ่ม จูบตอบกลับเขา นิ้วเรียวยาวแข็งแรงสอดแทรกเข้าไปประคองท้ายทอยเอาไว้แน่น บดคลึงริมฝีปากบางอย่างเร่าร้อน ก่อนจ







