จูเลียนเริ่มตระหนักถึงบางอย่าง และถามคำถามที่ไม่น่าเชื่อออกมา “ชาร์มิน คุณเป็นเจ้าของร้านโอนลี่หรือเปล่า?”“ใช่” เธอพูดคำตอบเรียบง่ายแต่หนักแน่นและดังชัดเจนชาร์มินถอดหมวกออกและผมของเธอร่วงลงมาที่ไหล่ เธอจัดผมของเธอและมองพวกเขาอย่างไม่สนใจไยดี “อะไร? มีปัญหาอะไรอีกไหม?”ทุกคนจ้องมองด้วยความไม่เชื่อ พร้อมกับดวงตาและปากที่เบิกกว้างชาร์มินเป็นเจ้าของร้านโอนลี่? บอสใหญ่สุดของร้านโอนลี่เหรอ?ไม่แปลกใจที่เธอมองดูพวกเขาด้วยสายตาเยาะเย้ย และไม่แปลกใจที่เธอไม่สะดุ้งแม้ว่าพวกเขาจะพูดจาเยาะเย้ยใส่เธอ พวกเขาดูถูกเธอและคิดว่าเธอไม่สามารถซื้อแหวนเพชรได้ ทั้งที่ร้านนี้เป็นของเธอ! ทุกคนต่างงุนงงและสับสน โดยเฉพาะทั้งสี่คน ลูกสาวบุญธรรมที่พวกเขาดูถูกและเหยียดหยามกลายเป็นเจ้าของร้านโอนลี่? เธอดีกว่าพวกเขาได้อย่างไร?ทิฟฟานี่กำหมัดแน่นด้วยความอิจฉาริษยาชาร์มินมองดูท่าทางและความรู้สึกหลากหลายบนใบหน้าของพวกเขาและถามอย่างเฉยเมย “เธอยังอยากได้แหวนวงนี้อยู่อีกไหม?”อยากได้เหรอ? หมายความว่าพวกเขาต้องซื้อมันจากชาร์มินใช่ไหม?ทิฟฟานี่รู้สึกราวกับว่าคำพูดติดอยู่ในลำคอของเธอ รู้สึกอึดอัดเหมือนเธอกำลังจะต
“อ๊ะ!” อะมีเลียร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับใบหน้าซีดเผือดโจอี้ดึงอะมีเลียไปข้างหลังเธอและทำหน้าบึ้ง “ชาร์มิน พอแล้ว! แค่แกทำตัวเป็นมือที่สามก็ไร้ยางอายพอแล้ว นี่แกกล้าดียังไงมาตีลูกพี่ลูกน้องของแก? แกไม่ละอายใจบ้างเหรอ?”“ละอาย? ละอายใจที่ต้องยืนฟังคุณอยู่ที่นี่งั้นเหรอ?” ชาร์มินตอกกลับอย่างขมขื่น“เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของแก!” โจอี้ตวาด “แล้วถ้าเธอวิจารณ์แกบ้างล่ะ? แกเป็นแค่ลูกสาวบุญธรรม ที่ได้รับการช่วยเหลือจากตระกูลจอร์แดน ดูสิ่งที่แกทำมาทั้งหมดจนถึงตอนนี้สิ ต่อให้ฉันทุบตีแกจนตาย ฉันก็ไม่เสียหายอะไร!”ใบหน้าของชาร์มินเปล่งประกายไปด้วยความเย้ยหยัน ต่อให้ทุบตีจนตายก็ไม่เสียหายอะไรเหรอ? งั้นก็มาดูกันว่าใครจะไปก่อนทิฟฟานี่ใช้โอกาสนี้เล่นเป็นพี่สาวแสนดี “แม่คะ น้องสาว หยุดทะเลาะกันเถอะ” เธอพูดอ้อนวอน “เรื่องนี้เราคุยกันได้ น้องอ้างว่าน้องไม่ใช่ส่วนเกินและร้านนี้ก็เป็นของน้อง ถ้าน้องพูดความจริงล่ะคะ? บางทีน้องอาจจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตัวเป็นมือที่สาม”“ฮะ? แล้วใครบังคับให้มันกลายเป็นมือที่สามล่ะ? มันชอบทำตัวหยิ่งทะนงเอง! ถ้าฉันไม่พามันกลับมาบ้าน ป่านนี้มันคงตายไปนานแล้
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ชาร์มินเคยชินกับสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของโจอี้ โจอี้คนนี้เองก็โดนทิฟฟานี่ตกหนักมากด้วยเหมือนกัน แม้เธอจะรู้ว่าทิฟฟานี่เป็นลูกสาวบุญธรรม แต่เธอก็ยังคงเข้าข้างทิฟฟานี่อยู่ดีชาร์มินรู้สึกเหนื่อยล้าที่จะพูดกับพวกเขาเต็มที ดังนั้นเธอจึงสั่งอย่างเย็นชาว่า “ใครก็ได้ มาช่วยชี้ทางออกให้พวกเขาหน่อย”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ควรจะพาชาร์มินออกไป หันกลับไปหาอะมีเลียและคนที่เหลือแทนอะมีเลียรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ข้อแขน เธอถึงกับร้องตะโกนด้วยความโกรธ “อย่าทำตัวสูงส่งนักเลย ชาร์มิน! ฉันก็ไม่อยากยืนอยู่ในร้านโง่ ๆ แบบนี้อีกต่อไปเหมือนกัน มันสกปรกเกินไป! รอก่อนนะ ชาร์มิน ฉันจะทำให้ทุกคนเห็นใบหน้าที่น่ารังเกียจของเธอตอนบ่ายนี้ และชื่อเสียงของเธอก็จะถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ!”อะมีเลียไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่จับตัวเธอขณะที่เธอพยายามจะเดินออกไป โจอี้และจูเลียนประคองทิฟฟานี่ไว้และจ้องมองชาร์มินด้วยสายตาเกลียดชัง ในทางกลับกัน ทิฟฟานี่พยายามทำตัวราวกับหงส์ขาวผู้สง่างาม เจ้าหญิงผู้ได้รับการเลี้ยงดูมากอย่างดี แม้ว่าเธอจะแอบทำให้ชาร์มินน่ารังเกียจด้วยตัวเธอเองก็ตามถ้าเธอมีร้านเพชร
[ไม่นะ เจ้าหญิงของฉันบาดเจ็บ! เธอคงจะเจ็บปวดมาก][อะมีเลียดูขาวซีดมาก! ชาร์มินคงอยากแก้แค้นอะมีเลียที่พยายามจะเปิดเผยคำโกหกของเธอ! ไร้ยางอาย!][รอแถลงข่าวไม่ไหวแล้ว! เรามาดูกันว่าชาร์มินจะแก้ต่างให้ตัวเองยังไง ถ้าถูกแฉแบบนี้]เพราะทวิตเตอร์เต็มไปด้วยความคิดเห็นเช่นนี้ นักข่าวบางคนจึงไปสัมภาษณ์ทิฟฟานี่และอะมีเลีย“แม้ว่าชาร์มินจะทุบตีฉันจนตายก็ตาม ฉันก็ยังจะยืนหยัดเพื่อความยุติธรรม” อะมีเลียพูดกับกล้อง “และฉันจะทำให้งานแถลงข่าวเกิดขึ้น!”ในทางกลับกัน ทิฟฟานี่ที่กำลังรักษาอาการบาดแผลของเธอก็พึมพำขึ้น “ฉันไม่มีอะไรจะพูด ไม่เป็นไรเลยที่เธอตีฉัน ฉันแค่อยากช่วยให้เธอกลับมาสู่เส้นทางแห่งความชอบธรรมอีกครั้ง ได้โปรด ทุกคนช่วยฉันโน้มน้าวเธอได้ไหมคะ?” เธอพูดพร้อมแสร้งปาดน้ำตา ซึ่งทำให้หลายคนเห็นอกเห็นใจเธอทุกคนต่างรอคอยการแถลงข่าวอย่างใจจดใจจ่อ ช่วงเวลาแห่งการเปิดเผยความจริงจากคำพูดโกหกของเธอ พวกเขาต่างตั้งตารอภาพวินาทีที่ชาร์มินจะถูกไล่ออกจากแวดวงนางแบบเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่ายสามโมงแล้ว...ที่ชั้น 1 ของโรงแรมเคลซีย์นอกจากปาปารัสซี่จำนวนมหาศาลแล้ว เหล่าอินฟลูเอน
ขณะเดียวกันที่คฤหาสน์เบลีย์... แอนโทนี่ คริส และไนอัลรวมตัวกันหน้าโทรทัศน์ขนาดใหญ่ ทุกสายตาจับจ้องไปที่ข่าวด่วน งานแถลงที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่ “เตรียมตัวให้พร้อม” แอนโทนี่สั่ง คริสถือรีโมตคอนโทรลสีเข้มอยู่ในมือ รีโมทที่มีไว้สำหรับโดรนของเขาที่ผูกติดอยู่กับตัวทำลายสัญญาณที่แรงที่สุด และเขาพร้อมที่จะกดปุ่มนั้นหากมีการเปิดเผยสิ่งที่ทำลายชื่อเสียงของชาร์มินในงานแถลงข่าว ด้วยการกดปุ่มนั้น ตึกของโรงแรมเคลซีย์ รวมถึงผู้คนในห้องประชุมจะถูกขัดจังหวะสัญญาณด้วยของพวกเขา และปิดการใช้งานถ่ายทอดสดของงานแถลง ‘ฮึ่ม! พวกคุณทั้งหมดต้องการทำลายชื่อเสียงของแม่ด้วยการเผยแพร่ข่าวปลอมด้วยเหรอ? ไม่มีทางซะหรอก!’ ในทางกลับกัน ไนอัลถือรายชื่อไว้ในมือของเขา มันเป็นรายชื่อที่ระบุชื่อของผู้ที่เข้าร่วมงานแถลงข่าว รวมถึงปาปารัสซี่ ผู้มีอิทธิพล และผู้สัญจรไปมา หากมีการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องในระหว่างการแถลงข่าว บริษัทเบลีย์จะเข้าไปปิดปากบริษัทที่ว่าจ้างพวกเขาเพื่อห้ามไม่ให้เอาข่าวออกไปจากห้องประชุม ‘ฮึ่ม! จะทำลายพี่สะใภ้ของฉันเหรอ? ยากหน่อยนะ!’ ทุกคนต่างจับจ้องไปที่หน้าจออีกครั้ง ดวงตาทั้งสามเบิกกว้างโด
“แล้วเธอโฟโต้ชอปรูปนั้นด้วยเหรอ? นั่นเป็นเรื่องหลอกลวงด้วยหรือเปล่า?” ปาปารัสซี่บางคนถึงกับทำหน้าบึ้งใส่อะมีเลีย ในขณะที่บางคนก็ตั้งคำถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อได้ยินอย่างนั้น อะมีเลียก็พยายามควบคุมอาการตกใจของตัวเองและตะโกนว่า “ฉันไม่ได้โฟโต้ชอปรูป มันเป็นเรื่องจริง! และที่ฉันไปหาเจ้าชายเกรย์ก็เพื่อไปขอร้องให้เขาช่วยคลี่คลายสถานการณ์!”“จะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเจ้าชายเกรย์และชาร์มิน ไม่อย่างนั้นเขาจะช่วยเธอทำไม? เขายังให้แหวนเพชรหลายกะรัตกับเธออีกด้วย!” ถ้าชื่อเสียงของอะมีเลียถูกทำลาย เธอก็จะลากชาร์มินลงเหวไปกับเธอด้วย อย่างที่เธอคาดไว้ ปาปารัสซี่เริ่มตั้งคำถามกับไซม่อน “เจ้าชายเกรย์ ความสัมพันธ์ของคุณกับชาร์มินเป็นอย่างไรคะ? ทำไมคุณถึงให้แหวนเพชรกับเธอล่ะ?” “คุณรู้จักชาร์มินได้อย่างไรคะ? วันนี้คุณมาที่นี่เพื่อปกป้องชาร์มินใช่ไหมคะ?” ไซม่อนยังคงดูสงบนิ่งและใจเย็น แม้ว่าเขาจะถูกตั้งคำถามอย่างไม่หยุดหย่อน “ครับ” เขาพูดด้วยท่าทีนิ่ง ๆ “ผมมาที่นี่เพื่อปกป้องชาร์มิน และผมจะบอกพวกคุณว่าทำไม! เพราะชาร์มินเป็นบอสใหญ่ของผม!” อะไรนะ? ชาร์มิน?! เธอเป็นเบอสใหญ่ของเขา?! เข
ผู้เข้าร่วมงานแถลงกลับตกตะลึงเมื่อเหตุการณ์พลิกผัน และนั่นรวมถึงอะมีเลียด้วย มัน… เป็นไปได้ยังไง? ชาร์มินเป็นลูกบุญธรรมไม่ใช่เหรอ? แล้วเธอเป็นกลายเป็นผู้บริหารของอาณาจักรเกรย์ ไดมอนด์ได้อย่างไร! ได้อย่างไร?! อะมีเลียเกือบทุ่มตัวเองใส่ไซม่อนด้วยความโกรธ เธอเดินไปหาเขา จับแขนเสื้อเขาและตะโกนออกมาอย่างสิ้นหวัง “ฉันไม่เชื่อคุณ! เธอจะเป็นบอสได้ยังไง? เธอเป็นผู้บริหารของคุณได้ยังไง? ทั้งหมดนี้มันดูแปลกไปหมด! ถึงเธอจะไม่ได้นอนกับคุณ แต่เธอก็ต้องนอนกับพ่อของคุณใช่ไหม? ใช่ ต้องเป็นแบบนั้นแน่ ๆ! เธอเป็นแม่เลี้ยงของคุณใช่ไหม? พ่อของคุณเลยให้หุ้นทั้งหมดของเขากับเธองั้นเหรอ?” “พอแล้ว! เลิกใส่ร้ายผมเสียที แล้วตอนนี้คุณยังกล้าใส่ร้ายพ่อที่แก่ชราของผมด้วยเหรอ?” ไซม่อนปัดมือของเธอออกด้วยความรังเกียจ เขาจ้องมองเธอด้วยดวงตาสีฟ้าอันเยือกเย็นของเขา “ชาร์มินเป็นบอสของผมได้อย่างไรน่ะเหรอ? ทั้งหมดก็เป็นเพราะคุณไง!” “ห้าปีที่แล้ว ตอนที่ชาร์มินถูกส่งไปแอฟริกา คุณติดสินบนสาวใช้ให้พาเธอขึ้นไปบนเนินเขาแล้วผลักเธอลงมาจากที่สูง เธอบังเอิญไปเจอเหมืองเพชรขนาดใหญ่ที่ด้านล่างของเนินเขา และมีเพชรอย่างน้อยสามพ
ผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายคนโพสต์ข้อความเช่นนี้ : [ฉันผิดที่ตัดสินคุณผิดไป โปรดยอมรับคำขอโทษของฉันด้วยนะคะ!] [บอสจอร์แดน คุณกำลังมองหาน้องสาวอยู่หรือเปล่า? ฉันอยากเป็นน้องสาวของคุณ!] [ฉันเป็นแม่เลี้ยงของคุณได้นะ] [ฉันไม่จำเป็นต้องเป็นญาติของคุณก็ได้ค่ะ แต่ฉันจะทำให้คุณประทับใจและติดตามคุณไปทุกที่ คุณไม่ต้องจ่ายฉันเป็นเงินก็ได้ แค่โยนเพชรที่ไม่ใช้แล้วมาให้ฉันก็พอ] … ชาร์มินนอนแผ่บนโซฟาของเธออย่างเฉื่อยชา ลักษณะดูเหมือนไม่กังวลใจอะไรขณะอ่านข่าวเศรษฐกิจการเงินในหนังสือพิมพ์ โค้กขวดใหญ่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟตรงหน้าเธอ พร้อมกับหลอดที่ต่อยาวมาถึงปากของเธอ “ทุกคนต่างยกย่องคุณบนทวิตเตอร์ โดยหวังว่าคุณจะเขียนถึงพวกเขาสักสองสามคำ” เอริคพูดต่อ “คุณอยากจะโพสต์อะไรไหม?” “ทวิตเตอร์? โอ้ ใช่” ชาร์มินจิบโค้กเป็นเวลานาน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโพสต์ข้อความ เอริคเปิดเข้ามาในบัญชีของเธอด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นแข็งทื่อเมื่ออ่านประโยคหนึ่งสั้น ๆ ง่าย ๆ บนโพสต์ของชาร์มิน : [จูเลียน คาเบล กินอึหรือยัง?] ‘กินอึหรือยัง...’ แทนที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อผูกมิตรกับผู้สน