หลังจากเรียนเสร็จอินทุอรก็ขยั้นขยอให้เธอไปดูหนังพร้อมตัวเองและเตวิชญ์ ภัทรพิชาได้แต่อยากปฏิเสธให้มันจบๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร จะให้บอกเพื่อนไปตรงๆเลยก็ไม่ได้ว่าตัวเธอเองก็กำลังถูกชีวินส่งข้อความมาตามตัวอยู่เหมือนกัน
"นะไพน์ ไปดูหนังเป็นเพื่อนฉันกับพี่ต้าหน่อย อุตส่าห์โทรไปชวนพี่ชินเมื่อกี้ แต่พี่ชินดันบอกว่าติดธุระ ไปด้วยไม่ได้สะงั้น เซ็งจัง"
"เออะ อิน คือว่าฉัน.."
"แกห้ามปฏิเสธพี่ฉันนะไพน์ บอกไว้ก่อน รู้ไหมว่าพี่ต้าปกติมีแต่สาวๆพากันวิ่งเข้าหา ฉันก็พึ่งเห็นมีวันนี้นี่แหละที่ว่าคุณพี่ชายเทพบุตรสุดหล่อของฉันอยากจะจีบสาว"
ภัทรพิชาฟังอินทุอรสาธยายความฮอตของญาติหนุ่มตัวเองแบบคิดว่าน่าจะเชื่อได้ เตวิชญ์ถือว่าเป็นคนที่หน้าตาและบุคลิกดีมากๆคนหนึ่ง การที่อินทุอรบอกว่าเขามีสาวๆวิ่งเข้าหามากมายนั้นมันคงไม่เกินจริงแน่นอน แต่ทำไมเรื่องอะไรแบบนี้มันต้องมาเกิดกับเธอ เตวิชญ์เป็นเพื่อนกับชีวิน ส่วนอินทุอรก็เป็นเพื่อนของเธอ ทุกอย่างมันดูยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมด
"นี่ยายอิน เราเล่นมาพูดแบบนี้ต่อหน้าไพน์พี่ก็เขินแย่สิ"
"เขินทำไมล่ะคะพี่ต้า อยากจีบก็บอกว่าอยากจีบสิคะ เอาให้มันแมนๆหน่อย ยอมรับตรงๆไปเลยค่ะ ผู้หญิงเขาจะได้เห็นถึงความจริงใจ ที่สำคัญยายไพน์โสดสนิทไม่ได้มีเจ้าของ สวยขนาดนี้ขืนช้า ม ค ป ด นะคะ"
ขณะที่สองพี่น้องพูดแซวกันอยู่ ภัทรพิชากลับไม่ได้มีท่าทีว่าอยากจะขำตามเลยด้วย เพราะเสียงโทรศัพท์มือถือยังคงสั่นเรียกอยู่ในกระเป๋าต่อไปอยู่เรื่อยๆ นั้นทำเอาใจเธอไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ล้วงออกมาดู ภัทรพิชาก็สามารถเดาได้ทันทีว่าใครที่กำลังโทรกระหน่ำมาแบบนี้
"ได้ยินแว่วๆว่าใครกำลังจีบใคร"
ทั้งสามคนหันขวับไปตามเสียงพูดของคนข้างหลังทันที ชีวินกำลังเดินมาทางนี้ด้วยใบหน้าดูขรึมหน่อยๆ ส่วนอินทุอรพอหันไปเห็นว่าเป็นใครก็ออกอาการดีใจยิ้มแป้นแล้วรีบวิ่งไปหา
"พี่ชิน! ไหนบอกว่าติดธุระมาไม่ได้ไงคะ"
"พี่มีธุระต้องไปทำจริงๆครับอิน แต่พอดีว่าอยู่ๆก็อดคิดถึงอินไม่ไหว เลยอยากแวะกลับมา"
"งื้อพี่ชินอ่ะน่ารักที่สุดเลยค่ะ ไพน์แกดูสิพี่ชินน่ารักไหม"
ภัทรพิชาได้แต่ยิ้มแห้งให้อินทุอรเบาๆ หากแต่ก็ไม่ได้ตอบกลับอีกฝ่าย เพราะสำหรับอินทุอรแล้ว ชีวินอาจจะน่ารักสำหรับอีกฝ่ายจริงๆ แต่ในทางกลับกันเวลาที่ชีวินอยู่กับเธอมันช่างกลับตรงกันข้าม
"นี่มึงมาทำอะไรอยู่ตรงนี้วะไอ้ต้า"
"พี่ต้ามาจีบไพน์ค่ะพี่ชิน"
"หมายความว่ายังไง"
ชีวินยังไม่หายแคลงใจ รู้สึกว่าคำตอบที่ได้จากอินทุอรนั้นยังไม่ได้ทำให้เขากระจ่างมากพอ ทำไมอยู่ดีๆเตวิชญ์ถึงได้อยากจีบภัทรพิชา แล้วสองคนนี้ไปแอบรู้จักกันตั้งแต่ตอนไหน ทั้งๆที่เขาและมันก็นั่งเรียนอยู่ด้วยกันมาตลอดทั้งบ่าย แต่ไม่ยักเห็นมันพูดถึงภัทรพิชาเลยสักแอะ
"นี่อย่าบอกนะว่ามึงกำลังทำตัวเป็นพี่ชายที่คอยแอบหวงน้องสาวอยู่อ่ะไอ้ชิน"
"พูดอะไรของมึง รู้ๆกันอยู่ว่ากูเป็นลูกคนเดียว จะให้ไปมีน้องสาวอะไรตอนไหน"
ชีวินตอบกลับเตวิชญ์ไปด้วยคำพูดงั้นๆ แล้วหันสายตาแลมองมาที่เธอคล้ายกับว่าไม่ได้สนใจอะไร ใบหน้าของเขาแสดงอาการยิ้มเยาะตรงมุมปากประหนึ่งว่าเกลียดเธอนักหนา
"หึ งั้นเหรอวะ แต่อันที่จริงก็ไม่ได้มีอะไรหรอก กูก็แค่อยากจะทำความรู้จักกับน้องไพน์เพื่อนของยายอินเฉยๆ มันแปลกตรงไหน"
"แปลกตรงที่ว่าวันนี้กูกับมึงก็นั่งเรียนด้วยกันทั้งวัน แต่มึงไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ให้กูฟังเลยสักคำ"
"ก็กูอยากจะเซอร์ไพรส์มึงบ้างที่มีน้องสาวน่ารักขนาดนี้แต่เสือกปิดบังไว้ เลยกะว่าถ้าจีบไพน์ติดเมื่อไหร่แล้วค่อยบอกมึงเอาตอนนั้นเลยทีเดียว"
"หึ กูว่ามึงอย่าหาทำอะไรบ้าๆดีกว่าว่ะไอ้ต้า อะไรที่มึงเห็นว่าสวย ความจริงมันอาจจะไม่ได้สวยเหมือนที่มึงเห็นอยู่ก็ได้"
ตอนที่พูดชีวินยังมิวายหันมามองหน้าเธออีกรอบเพื่อเป็นการตอกย้ำในสิ่งที่เขาบอกกับเพื่อนของเขาไปว่าสิ่งที่ชีวินหมายถึงนั้นอยู่แถวๆนี้ซึ่งก็คือเธอ
"อันนั้นเอาไว้กูพิสูจน์ของกูเองดีกว่าว่าดีหรือไม่ดี" เตวิชญ์ขยับมากระซิบข้างหูชีวินเบาๆจนพอชีวินฟังแล้วก็ดันคิ้วยุ่ง
"แล้วนี่ไหนยายอินบอกว่ามึงติดธุระไง อยู่ดีๆทำไมโผล่มาที่นี่"
"ก็เพราะว่า 'ตัวธุระ' แม่งมัวมายืนลอยหน้าอยู่นี่ไง ฉันโทรหาเธอเป็นร้อยสายทำไมเธอถึงไม่รับ"
ร้อยสายเลยเหรอ เวอร์ไป น่าจะสักสี่ห้าสายเท่านั้นที่ภัทรพิชาสังเกตได้ และเธอก็อยากจะกดรับสายของเขาอยู่หรอกถ้าไม่ติดว่าเธอกำลังคุยกับอินทุอรและเตวิชญ์อยู่ ดูจากหน้าตาเขาคงกำลังโมโหเธออยู่เหมือนกัน ก็เลยตัดสินใจยกมือไหว้ขอโทษเขาไปเสียดีกว่า เผื่อเรื่องจะจบ
"ขอโทษค่ะ พอดีไพน์คุยกับอินกับพี่ต้าอยู่ก็เลยไม่ทันได้รับสาย"
"งั้นก็รีบไปขึ้นรถได้แล้ว"
"อ้าวเฮ้ยเดี๋ยวดิ นี่มึงกับไพน์กำลังจะไปไหนกันวะ"
"นั่นน่ะสิไพน์ นี่แกกำลังจะให้พี่ชินพาแกไปไหนเหรอ เมื่อกี้ไม่เห็นแกบอกฉันเลยว่าแกมีนัดกับพี่ชิน"
"เออะ อิน คือว่าฉัน"
ภัทรพิชามองหน้าชีวินอึกอักเพราะไม่รู้ว่าจะตอบอินทุอรว่ายังไง เพราะเรื่องที่เขาบังคับให้เธอต้องไปซื้อชุดใหม่นั่นมันก็เป็นความคิดของชีวินไม่ใช่เธอ
"พอดีว่าพ่อพี่บอกให้พาเพื่อนอินไปซื้อชุดกระโปรงนักศึกษาใหม่น่ะ ใส่สั้นขนาดนี้มันอาจจะทำให้ภาพลักษณ์นักการเมืองของพ่อพี่ดูไม่ดี ยิ่งช่วงนี้ใกล้เวลาลงสมัครหาเสียงแล้วด้วย"
ห๊ะ!
ตอนนี้มีแต่คำว่า ห๊ะ เต็มหัวของภัทรพิชาไปหมด ชีวินกำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่ที่รู้ๆคือชวลิตไม่ได้สั่งว่าให้เธอไปซื้อชุดนักศึกษาใหม่มาใส่แน่นอน ไม่รู้ว่าชีวินไปเอาคำพูดพวกนี้มาจากไหน นี่มันเป็นการโกหกซึ่งๆหน้าเธอชัดๆ
"อ้าวหมดกัน แบบนี้ไพน์ก็อดโชว์ขาสวยๆเลยอ่ะดิ แต่อินว่าที่ไพน์ใส่มันก็ไม่ได้สั้นมากเสียจนน่าเกลียดสักหน่อยนี่คะ แปลกจังว่าทำไมพ่อพี่ชินถึงคิดแบบนั้น"
"ไม่ต้องโชว์ใครอ่ะดีแล้วครับอิน ถ้าขืนว่าเพื่อนของอินใส่เดินไปมาในมหาวิทยาลัยทุกวัน พี่กลัวว่ามันจะเป็นมลพิษต่อสายตาคนอื่นที่เห็นมากกว่า"
"ไอ้ชินมึงก็บ้าพูดไป งั้นเอางี้ไหมกูว่าเราไปกันหมดนี่แหละ พาไพน์ไปซื้อกระโปรงเสร็จแล้วก็ไปดูหนังหรือว่าไปหาอะไรกินกันต่อ เราว่าดีไหมยายอิน"
เตวิชญ์เป็นผู้เสนอความคิด และอินทุอรเองก็เป็นผู้สนับสนุนอีกแรง ส่วนชีวินดูหน้าเครียด และภัทรพิชาเองก็ไม่รู้ว่าจะเอายังไง แต่ถ้าให้เลือก พักนี้เธอควรอยู่ห่างชีวินเอาไว้เสียจะดีกว่า ดูเขาอารมณ์แปรปรวนแปลกๆ ชอบว่าเธอสารพัด แต่ก็ชอบเอาตัวเองมาคอยป้วนเปี้ยนใกล้เธอเสียอย่างงั้น หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะว่าเขากำลังตามจีบอินทุอรอยู่ก็ได้ เดี๋ยวนี้เธอเลยต้องเจอะเจอเขาบ่อยขึ้น
"ดีมากที่สุดเลยค่ะพี่ต้า ไปด้วยกันนะคะพี่ชิน"
ชีวินยังไม่ทันพยักหน้ารับ อินทุอรก็วิ่งเข้าไปดึงแขนของชีวินให้ตรงไปยังที่ที่รถของเขาจอดอยู่ทันที ตอนแรกเขาก็นึกว่าภัทรพิชานั้นเดินตามมาด้วย แต่พอจะเปิดประตูให้อินทุอรนั่งหน้า แล้วกะว่าหันกลับไปสั่งให้ภัทรพิชาไปนั่งข้างหลัง แต่พื้นที่ตรงนั้นกลับว่างเปล่าสายตาคมรีบมองกลับไปยังรถของเตวิชญ์ทันทีและทันที่จะได้เห็นว่าภัทรพิชาก้าวขึ้นไปนั่งคู่ประจำเบาะหน้าบนรถของเตวิชญ์เรียบร้อยแล้ว ขายาวทำท่าว่าจะหันก้าวตามไป แต่ก็ถูกอินทุอรตามเข้ามาดึงรั้งไว้จนชีวินต้องหันกลับมา
"พี่ชินจะไปไหนคะ"
"ทำไมเพื่อนอินถึงขึ้นรถไปกับไอ้ต้า"
"เออะ คือว่า พี่ต้าขอมาน่ะค่ะ เห็นบอกว่าอยากจะขอลองทำความรู้จักกับไพน์จริงๆ อินก็เลยอยากเปิดโอกาสให้ทั้งสองคนได้ลองทำความรู้จักกันดู พี่ชินก็รู้ว่าปกติพี่ต้าเคยเอ่ยปากสนใจใครเสียที่ไหน แต่เมื่อเช้าพอได้เห็นไพน์เท่านั้น ถึงกับเพ้อส่งข้อความมาถามอินทั้งวันเลยว่าไพน์ทำอะไรอยู่ หวังว่าพี่ชินคงจะไม่ได้หวงไพน์ขนาดนั้นหรอกนะคะ"
"เพื่อนอินไม่ใช่น้องสาวพี่จริงๆเสียหน่อย พี่จะไปคอยตามหวงให้เสียเวลาชีวิตทำไม ปล่อยให้ได้ถูกไอ้ต้าหลอกบ้างก็ดี จะได้รู้จักสำนึกว่าไม่ใช่คิดอยากจะวิ่งตามขึ้นรถไปกับใครได้ง่ายๆ"
พอเดินลงจากรถลงมาชีวินก็ตรงเข้ามาดึงแขนให้เธอเดินตามเขาเข้าไปในที่แห่งหนึ่งซึ่งมีลักษณะคล้ายกับคอนโดมิเนียมทั่วไป มือเขาข้างหนึ่งถือถุงกระดาษ ส่วนอีกข้างก็ดึงข้อมือของเธอเอาไว้ จนกระทั่งพาเธอเข้ามาหยุดยืนอยู่ที่ตรงหน้าลิฟท์ ทันใดนั้นถังขยะที่อยู่ใกล้มือก็ถูกเปิดออก ตามด้วยถุงชุดนักศึกษาสองถุงที่เตวิชญ์เป็นคนซื้อให้นั้นถูกยัดลงไปนอนในถังขยะเป็นที่เรียบร้อย"คุณชินนี่คุณทำบ้าอะไร นั่นมันที่พี่ต้าพึ่งซื้อให้ใหม่นะคะ"ด้วยความโมโหจึงทำให้ภัทรพิชาเสียงดังใส่เขา นาทีนี้เธอไม่กลัวเขาแล้ว ถ้าหากว่าชีวินจะกลายเป็นคนนิสัยเสียขึ้นมา อยู่ๆก็มาบังคับให้เธอไปซื้อชุดใหม่ พอมีคนซื้อให้ก็ปาทิ้งขว้างแบบไม่มีเหตุผล"แล้วไง อยากใส่นักหรือไงชุดที่ไอ้ต้าซื้อให้""ก็คุณเป็นคนที่อยากให้ไพน์ไปซื้อใหม่ชุดเองไม่ใช่หรือไง พี่ต้าก็อุตส่าห์ซื้อให้แล้ว อยู่ดีๆจะมาเอาชุดไปเฉยๆแบบนี้คุณบ้าไปแล้วเหรอคะ""ไม่ได้บ้า แต่แค่ไม่อยากให้เธอใส่ เรื่องชุดฉันเป็นคนบอกว่าให้เธอเปลี่ยน เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องเป็นคนซื้อ ถามหน่อยซิว่ามันเกี่ยวอะไรกับไอ้ต้า ใครบอกให้มันเป็นคนเสนอหน้ามาซื้อชุดให้เธอ ไหนจะเรื่องที่เธอนั่งรถมากับไอ้ต้าสอง
ระหว่างทางชีวินไม่ค่อยเป็นอันขับรถนักเมื่อสายตาคอยเอาแต่จ้องมองเข้าไปภายในรถคันข้างหน้าที่มีเตวิชญ์ขับนำอยู่ก่อน ยิ่งพอรถของเตวิชญ์สามารถขับผ่านสัญญาณไฟจราจรไปได้ก่อนที่จะต้องติดไฟแดงเหมือนรถของเขา หัวคิ้วเข้มที่ขมวดยุ่งตั้งแต่ตอนแรกก็ยิ่งผูกเข้ากันเป็นปมยิ่งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว "ดูพี่ต้าสิคะรีบขับพาไพน์เฉียดไฟแดงไปก่อนแบบนั้น สงสัยคงกลัวว่าพี่ชินจะตามทันแล้วไม่มีเวลาได้อยู่กับไพน์" "ไอ้ต้ามันขับรถบ้าอะไรของมัน วิ่งเฉียดไฟแดงไปแบบนี้ไม่รู้หรือไงว่าอันตราย"ชีวินยังตีโพยตีพายโวยวายเรื่องการขับรถของเตวิชญ์ต่อ วินาทีนั้นยอมรับว่าเขาใจหายวาบราวกับคนขวัญอ่อน หากว่าเกิดอะไรกับคนในรถคันนั้นขึ้นมา มีหวังเขาคงจะถูกผู้เป็นบิดาและแม่ของผู้หญิงคนนั้นเอาสืบสาวเอาเรื่องเข้าแน่ๆ จนกระทั่งสัญญาณไฟเขียวปรากฏขึ้นมา คันเร่งของรถบีเอ็มดับเบิลยูก็ถูกเหยียบเร่งตามไปติดๆ หากแต่ว่าเขาขับตามไปไม่ทัน จนไปถึงที่จอดรถในห้าง จึงได้เอาโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรหาเตวิชญ์ทันที หากแต่ไม่มีคนรับ"ไอ้ต้ามันไม่ยอมรับโทรศัพท์ อินลองโทรหามันดูให้หน่อยสิครับ"พอบอกอินทุอรเสร็จ ตัวเองก็เปลี่ยนมากดโทรออกหาภัทรพิชา แต่กลายเป็นว
หลังจากเรียนเสร็จอินทุอรก็ขยั้นขยอให้เธอไปดูหนังพร้อมตัวเองและเตวิชญ์ ภัทรพิชาได้แต่อยากปฏิเสธให้มันจบๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร จะให้บอกเพื่อนไปตรงๆเลยก็ไม่ได้ว่าตัวเธอเองก็กำลังถูกชีวินส่งข้อความมาตามตัวอยู่เหมือนกัน"นะไพน์ ไปดูหนังเป็นเพื่อนฉันกับพี่ต้าหน่อย อุตส่าห์โทรไปชวนพี่ชินเมื่อกี้ แต่พี่ชินดันบอกว่าติดธุระ ไปด้วยไม่ได้สะงั้น เซ็งจัง""เออะ อิน คือว่าฉัน..""แกห้ามปฏิเสธพี่ฉันนะไพน์ บอกไว้ก่อน รู้ไหมว่าพี่ต้าปกติมีแต่สาวๆพากันวิ่งเข้าหา ฉันก็พึ่งเห็นมีวันนี้นี่แหละที่ว่าคุณพี่ชายเทพบุตรสุดหล่อของฉันอยากจะจีบสาว"ภัทรพิชาฟังอินทุอรสาธยายความฮอตของญาติหนุ่มตัวเองแบบคิดว่าน่าจะเชื่อได้ เตวิชญ์ถือว่าเป็นคนที่หน้าตาและบุคลิกดีมากๆคนหนึ่ง การที่อินทุอรบอกว่าเขามีสาวๆวิ่งเข้าหามากมายนั้นมันคงไม่เกินจริงแน่นอน แต่ทำไมเรื่องอะไรแบบนี้มันต้องมาเกิดกับเธอ เตวิชญ์เป็นเพื่อนกับชีวิน ส่วนอินทุอรก็เป็นเพื่อนของเธอ ทุกอย่างมันดูยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมด"นี่ยายอิน เราเล่นมาพูดแบบนี้ต่อหน้าไพน์พี่ก็เขินแย่สิ""เขินทำไมล่ะคะพี่ต้า อยากจีบก็บอกว่าอยากจีบสิคะ เอาให้มันแมนๆหน่อย ยอมรับตรงๆไปเล
ภัทรพิชาถูกสั่งให้ขึ้นรถมากับคนที่ชวลิตบอกว่าไม่ยอมให้เธอติดรถมามหาวิทยาลัยด้วย รถของชีวินจอดรออยู่ห่างออกจากบ้านมาไม่ไกลเท่าไหร่ หากแต่เป็นเธอเองที่ไม่ทันได้สังเกตเพราะว่าเอาแต่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเองและเขา จนกระทั่งเดินเลยผ่านจึงถูกเขาเรียกและบังคับให้เธอต้องขึ้นรถมาเก๋งบีเอ็มดับเบิลยูสีดำเทาขับพาเธอทะยานสู่ท้องถนนในตอนเช้า ทุกอย่างดูเร่งรีบและยืดยาดในเวลาเดียวกัน จากที่นั่งเงียบมากันตลอดทาง อยู่ๆมือข้างที่ว่างอยู่ก็วางแหมะลงมาบนต้นขาขาวที่โผล่พ้นกระโปรงนักศึกษาของเธอออกมาในตอนที่รถจอดติดอยู่บนทางด่วน"คุณชิน"ชีวินหันมามองหน้าเธอแล้วยิ้มกึ่งเยาะที่ริมฝีปาก ภัทรพิชาจะรีบปัดมือใหญ่ที่กำลังลูบไล้บนต้นขาของตัวเองให้พ้นไปแต่เจ้าของมันกลับไม่ยินยอม"จับไม่ได้หรือไง""จับทำไมคะ"ภัทรพิชาหน้ายุ่งเพราะรู้ว่าชีวินกำลังจงใจแกล้งยั่วเธออยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะแอบชอบเขาอยู่จนยอมให้เกิดเรื่องราวลึกซึ้งเกินเลยขึ้นก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความชีวินจะทำอะไรกับเธอยังไงตอนไหนก็ได้"อยากจับ เห็นเธอใส่กระโปรงเสียสั้น เวลานั่งทีกระโปรงก็ถลกขึ้นมาจนเห็นขาขาวๆ ฉันก็เลยนึกว่าเธออยากจะใส่มายั่วฉัน""ไ
ภัทรพิชาตื่นขึ้นมาในตอนเกือบหกโมงเช้าเพื่อที่จะไปเตรียมตัวอาบน้ำไปเรียนด้วยอาการงัวเงียเพราะว่านอนไม่เต็มตื่น เมื่อคืนหลังจากที่เอาเปรียบเธอจนพอใจชีวินก็กลับออกไปในตอนตีสี่กว่าๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อน ภัทรพิชาจึงทำได้แค่เพียงขยับเปลือกตา พยายามลืมตาขึ้นมาดูตอนที่ชีวินลุกขึ้นไปจากเตียงเท่านั้น และตัวเขาเองก็ไม่ได้หันกลับมามองเธอเลยเช่นกันหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินหอบกระเป๋าลงไปข้างล่าง หางตาเหลือบไปเห็นแม่ของเธอกำลังจัดโต๊ะเตรียมอาหารเช้าเดินเข้าออกครัวอยู่ไวๆ ภัทรพิชาจึงเดินลงไปเห็นชวลิตนั่งอ่านหนังสือพิมพ์และยกกาแฟขึ้นจิบ ก่อนที่สายตาจะมองเลื่อนขยับไปเห็นว่าบนโต๊ะอาหารก็มีชีวินนั่งรออยู่ด้วยและเขากำลังมองมาทางเธอ"แต่งตัวเสร็จแล้วเหรอไพน์ มากินข้าวต้มหมูสับก่อนสิ แม่ตั้งโต๊ะเสร็จแล้วพอดี"ภัทรพิชาเดินตามหลังแม่ไปยังโต๊ะอาหารด้วยความรู้สึกหลากหลาย ชวลิตวางหนังสือพิมพ์ลงแล้วมองเธอลอดผ่านแว่นตามาพร้อมกับยิ้มให้ ในขณะที่ชีวินกลับทำหน้าตึงแล้วตามมาด้วยถ้อยคำถากถางตามแบบฉบับเขา"นี่ลูกสาวคนใหม่ของพ่อเขาชอบตื่นสายแล้วปล่อยให้คนอื่นนั่งรอบนโต๊ะอาหารแบบนี้ประจำเลยเหรอครับ""รอเรออะไรกั
ทันทีที่ถูกฉุดมาให้ลุกขึ้นนั่ง ชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยวตัวบางถูกถอดออกจากทางศรีษะ เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เผลอสบตา ริมฝีปากของชีวินก็ตรงเข้ามาครอบลงบนริมฝีปากหวานทันควัน ลิ้นชื้นสอดมุดเข้าไปในโพรงปากนุ่มทันที เขาไม่มีรอจังหวะ ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งของเขาควานบีบคลึงไปบนเต้างามและบนสะโพกกลมกลึง ภัทรพิชายอมปล่อยให้ชีวินสัมผัสทุกอย่างบนร่างกายเธอได้ตามอย่างแต่ใจด้วยการตอบสนองเป็นท่าทางที่แสนจะเงอะงะ ปราศจากความรู้สึกต่อต้าน สองกายกอดรัดฟัดเหวี่ยงเข้าหาในขณะที่คนหนึ่งเปลือยเปล่าแล้ว หากแต่อีกคนยังคงอยู่ในชุดนักศึกษาครบชุด"ถอดเสื้อให้ฉัน"แม้ว่าจะรสจูบของเขาจะมีรสชาติมึนเมาจนเธอสมองเบลอ ลมหายใจคล้ายขาดห้วงจนเกือบจะหายใจหายคอไม่ทัน แต่ภัทรพิชาก็ยังคงพอมีสติหลงเหลืออยู่บ้างไม่มากก็น้อย สองมือสั่นเทารีบยกขึ้นไปแกะกระดุมเสื้อทีละเม็ดอย่างยากลำบาก เหตุผลก็เป็นเพราะว่ารสจูบที่ชักจะร้อนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อชีวินตั้งใจจูบเอาแบบไม่มีความปราณียิ่งทำให้เธอสติหลุด"กระดุมแค่ไม่กี่เม็ด เธอจะใช้เวลาแกะจนถึงพรุ่งนี้เลยไหมไพน์ ชักช้า เอามือออก งั้นกระดุมเสื้อไม่ต้องละ เปลี่ยนเป็นมาถอดเข็มขัดกับกางเกงให้ฉ