Share

บทที่ 280

Author: ทองประกาย
เมิ่งชิงสีหน้าซีดขาว ถามด้วยน้ำเสียงสะอื้น "ท่านแม่ ต่อไปลูกจะไม่ได้แต่งงานจริง ๆ หรือเจ้าคะ?"

ฮูหยินเมิ่งถอนหายใจ "ชิงเอ๋อร์ เกิดเรื่องเช่นนี้กับเจ้า การจะแต่งงานคงยากแล้ว"

"ไม่ได้นะท่านแม่ หากลูกแต่งงานไม่ได้ พวกคุณหนูในวงสังคมจะหัวเราะเยาะลูก" เมิ่งชิงจับแขนฮูหยินเมิ่ง พูดเสียงสั่น "ท่านแม่คิดหาทางทีเจ้าค่ะ ลูกต้องแต่งงานให้ได้"

ในใจฮูหยินเมิ่งรู้สึกจนใจ บุตรสาวของนางช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน วันนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ วงสังคมคุณหนูคงไม่มีที่ให้นางอีกแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น ต้องมีคนเยาะเย้ยถากถางนางอีกมากแน่

ช่วงนี้ นางคงจะลำบากไม่น้อย

แต่ฮูหยินเมิ่งนึกถึงทางออกได้พอดี นางพูดกับเมิ่งชิงอย่างมีนัย "ตอนนี้ก็มีตัวเลือกที่เหมาะสมอยู่นะ"

เมิ่งชิงชะงัก "ท่านแม่หมายถึงฉู่เลี่ยนหรือ?"

"ใช่ เขาทำลายความบริสุทธิ์ของเจ้า ไม่ควรแต่งงานกับเจ้าหรือ?"

"ลูกไม่อยากแต่งงานกับเขา!" เมิ่งชิงร้องไห้พลางส่ายหน้า "ฉู่เลี่ยนมีใจให้เจียงเม่ยเอ๋อร์ เขาจะไม่แต่งงานกับลูกหรอก"

ดวงตาของฮูหยินเมิ่งวาบขึ้นด้วยความตกใจ "แต่เจียงเม่ยเอ๋อร์เป็นชายาเอกขององค์ชายสามฉู่เจวี๋ยนะ"

"ใช่แล้ว ท่านแม่" เมิ่งชิงเช
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 281

    "ชดเชยหรือ?" หัวใจของเมิ่งชิงพองโตด้วยความยินดี องค์ชายเจ็ดช่างเจรจาง่ายดายเสียเหลือเกิน นางหันไปมองฮูหยินเมิ่งด้วยความตื่นเต้น คิดว่าฮูหยินเมิ่งจะร่วมยินดีกับนางเช่นกัน แต่ใครเลยจะรู้ ฮูหยินเมิ่งกลับขมวดคิ้วพลางส่ายหน้าให้นางเบาๆ นางไม่อาจเข้าใจความนัยของฮูหยินเมิ่ง องค์ชายเจ็ดตรัสว่าจะชดเชยให้แล้ว เหตุใดฮูหยินเมิ่งจึงห้ามมิให้นางเอ่ยวาจา ท่ามกลางความสงสัย นางจำต้องเชื่อฟังฮูหยินเมิ่ง ก้มกายซบกับพื้นพลางสะอื้นไห้ มิได้ตอบคำถามขององค์ชายฉู่เลี่ยน องค์ชายฉู่เลี่ยนตรัสด้วยความรำคาญพระทัย "ข้าบอกว่าจะชดเชยให้เจ้าแล้ว เหตุใดยังร้องไห้อยู่อีก?" "ฝ่าบาท!" ฮูหยินเมิ่งคุกเข่าลงข้างเมิ่งชิง ดวงตาแดงก่ำ ถอนหายใจยาวด้วยความโศกเศร้า "ชิงเอ๋อร์เป็นเด็กว่านอนสอนง่ายมาแต่เล็ก เชี่ยวชาญทั้งพิณ หมากรุก อักษร และจิตรกรรม บัดนี้ถึงวัยเลือกคู่ครองแล้ว กลับต้องมาพบเรื่องเช่นนี้" กล่าวมาถึงตรงนี้ ฮูหยินเมิ่งก็สะอื้นจนพูดไม่ออก "จวนแม่ทัพเจิ้นหยวนของพวกเรา แม้มิได้ร่ำรวยพันล้าน แต่ก็เป็นตระกูลผู้ดีมีชื่อเสียง พวกเราไม่ต้องการการชดเชย เพียงขอฝ่าบาทประทานความเป็นธรรมเท่านั้น!" หากคำพูดของแม่ทัพเจ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 282

    "เหตุการณ์วันนี้มีคนเห็นมากมาย ในเจ็ดวันนี้ชิงเอ๋อร์จะต้องทนรับฟังคำซุบซิบนินทาสักเพียงใด? หากท่านออกคำสั่งประกาศว่าท่านกับชิงเอ๋อร์ถูกชะตากัน และได้หมั้นหมายกันแล้ว เช่นนี้ชิงเอ๋อร์ก็จะสบายใจขึ้น" คำพูดของฮูหยินเมิ่งล้วนมีเหตุผล องค์ชายเจ็ดฉู่เลี่ยนคิดหาคำแย้งไม่ออก จึงแค่นหัวเราะเย็นชา ก้าวยาว ๆ มาหยุดเบื้องหน้าฮูหยินเมิ่งกับเมิ่งชิง "อยากแต่งงานกับข้านักหรือ ได้! ข้าตกลง!" เขาเอ่ยอย่างดุดันแล้วสะบัดแขนเสื้อจากไป ค่ำวันนั้น ข่าวการหมั้นหมายระหว่างองค์ชายเจ็ดฉู่เลี่ยนกับเมิ่งชิงก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งคฤหาสน์ เจียงซุ่ยฮวนนั่งจิบชาในห้อง เมื่อได้ยินเรื่องนี้จึงเอ่ยว่า "ดูท่าเมิ่งชิงก็ไม่โง่ รู้ว่าต่อไปคงหาคู่ครองยาก จึงฉวยโอกาสบีบให้ฉู่เลี่ยนแต่งงานด้วย นับว่าเป็นคนที่มีสติปัญญาดีทีเดียว" ชุนเถาที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยว่า "ข้าได้ยินจากนางกำนัลที่รู้จักว่า หลังจากองค์ชายเจ็ดออกจากตำหนักซ่งหลง พระพักตร์เต็มไปด้วยความโกรธ หน้าตาบูดบึ้งราวกับถูกดองในไหผักดองมาสิบปี เหม็นเขียวไปหมด" "ฉู่เลี่ยนแค่ลุ่มหลงในกามารมณ์ชั่วครู่ แต่ตอนนี้ต้องรับผิดชอบต่อเมิ่งชิง จะไม่โกรธจนตายก็แปลก" เจียงซุ่ยฮว

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 283

    เมิ่งชิงกลืนน้ำลายด้วยความประหม่า นางรู้ว่าองค์ชายฉู่เลี่ยนมีใจให้เจียงเม่ยเอ๋อร์ แต่นางมิได้บอกเรื่องนี้แก่เจียงเม่ยเอ๋อร์ ผลคือเจียงเม่ยเอ๋อร์กลับมาหานางถึงที่เสียเอง นางฝืนใจเดินไปเปิดประตู ฝืนยิ้มออกมา "เม่ยเอ๋อร์ เจ้ามาแล้วหรือ ข้าเพิ่งจะคิดจะไปหาเจ้าพรุ่งนี้เชียว" เจียงเม่ยเอ๋อร์ไม่ตอบคำ เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉยพลางประคองท้อง เมิ่งชิงเสมือนเอาหน้าร้อนไปแนบก้นเย็น ดวงตาหม่นลง ยื่นมือไปจับแขนของเจียงเม่ยเอ๋อร์ "เม่ยเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าจึงไม่พูดจา?" ในชั่วขณะถัดมา เจียงเม่ยเอ๋อร์พลันสะบัดมือ ตบเข้าที่ใบหน้าของเมิ่งชิง เมิ่งชิงไม่ทันตั้งตัว ถูกตบจนชะงักงัน "เหตุใดเจ้าจึงตบข้า?" "ไม่ได้หรือ?" เจียงเม่ยเอ๋อร์ย้อนถาม ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ "เจ้ารู้ดีว่าฉู่เลี่ยนมีใจให้ข้า เหตุใดจึงใช้วิธีต่ำช้าเช่นนี้บีบให้ฉู่เลี่ยนแต่งงานกับเจ้า?" "แต่เจ้าก็แต่งงานกับฉู่เจวี๋ยไปแล้ว ต่อให้ฉู่เลี่ยนรักเจ้าสักเพียงใด เจ้าก็ไม่มีทางได้อยู่กับเขานี่!" เมิ่งชิงถามอย่างน้อยใจ เจียงเม่ยเอ๋อร์กลอกตา "ข้าอาจไม่ได้อยู่กับฉู่เลี่ยน แต่ข้าสามารถใช้เขาทำงานให้ข้าได้" "เจ้าจะยั่วยวนใครก็ได้ ทำไมต้อ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 284

    "หุบปาก!" เจียงเม่ยเอ๋อร์ฟาดมือลงบนโต๊ะอย่างแรง "ลูกข้าไม่ใช่ดาวอัปมงคล! หากเจ้ากล้าพูดเช่นนี้อีก ระวังข้าจะฉีกปากเจ้า!" เมิ่งชิงเอ่ยอย่างดูแคลน "เจ้าท้องโตถึงเพียงนี้ จะสู้ข้าไหวหรือ?" นางพูดพลางกระชากคอเสื้อของเจียงเม่ยเอ๋อร์ ลากกึ่งดึงไปที่ประตู แล้วปิดประตูอย่างแรง เจียงเม่ยเอ๋อร์มองประตูที่ปิดสนิทตรงหน้า ในใจยอมรับไม่ได้ เมิ่งชิงที่แต่ก่อนว่าง่ายนัก บัดนี้กลับกล้าพูดกับนางเช่นนี้ คงเป็นเพราะได้หมั้นหมายกับฉู่เลี่ยนกระมัง เช่นนี้ทั้งสองคนก็ถือว่าแตกหักกันอย่างสิ้นเชิงแล้ว "เมื่อเจ้าไร้น้ำใจ ก็อย่าโทษว่าข้าไร้คุณธรรม" เจียงเม่ยเอ๋อร์แค่นหัวเราะเย็นชา ก่อนหมุนตัวจากไป เจียงเม่ยเอ๋อร์กลับถึงห้องของตน พอเข้าประตู ฉู่เจวี๋ยก็เดินมาต้อนรับ เอ่ยอย่างอ่อนโยน "เม่ยเอ๋อร์ เจ้าไปไหนมา? ทำไมเพิ่งกลับมา?" "ออกไปเดินเล่น" เจียงเม่ยเอ๋อร์ตอบเสียงเย็น ถอดผ้าคลุมแล้วโยนให้ฉู่เจวี๋ย "เก็บให้ข้า" "ได้" ฉู่เจวี๋ยกลับไม่โกรธเลยแม้แต่น้อย ว่าง่ายเก็บผ้าคลุมเข้าตู้เสื้อผ้า เจียงเม่ยเอ๋อร์มองฉู่เจวี๋ย นับแต่นางใส่ยารักให้เขา ฉู่เจวี๋ยก็ยิ่งอ่อนโยนเอาใจนางมากขึ้น ไม่เคยปฏิเสธคำขอใด ๆ ของน

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 285

    เมื่อได้ยินคำว่า "จีกุ้ยเฟย" หัวใจของเจียงซุ่ยฮวนเต้นเร็วขึ้นมาก มาหลายวันแล้ว ในที่สุดก็มีโอกาสได้พบจีกุ้ยเฟยเสียที นางข่มความตื่นเต้นในใจ หันกายไปถามนางกำนัลอย่างสงบ "จีกุ้ยเฟยมีธุระอันใดกับข้าหรือ?" "เช้านี้พระนางรู้สึกไม่สบายพระวรกาย ทรงได้ยินว่าท่านมีวิชาแพทย์เชี่ยวชาญ จึงให้หม่อมฉันมาเชิญท่านไปเข้าเฝ้า" นางกำนัลค้อมกายกล่าว เจียงซุ่ยฮวนรู้สึกว่านางกำนัลผู้นี้คุ้นตา จึงถาม "ข้าเคยพบเจ้าหรือไม่?" นางกำนัลตอบอย่างนอบน้อม "บ่าวชื่ออาเซียง ก่อนการล่าสัตว์ฤดูใบไม้ร่วงจะเริ่ม บ่าวได้พบท่านในกระโจมของพระชายา ตอนนั้นพระชายาแห่งวังหนานหมิงทรงตีบ่าว ท่านยังให้ยาขี้ผึ้งแก่บ่าวกล่องหนึ่ง" "เป็นเจ้านี่เอง" เจียงซุ่ยฮวนนึกออกแล้ว ตอนนั้นเจียงเม่ยเอ๋อร์โกรธจนตีนางกำนัลผู้นี้ นางเห็นน่าสงสาร จึงให้ยาขี้ผึ้งไปกล่องหนึ่ง น่าแปลกไม่น้อยที่ดวงตาของนางกำนัลเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง วาจาก็สุภาพนอบน้อม "เป็นบ่าวเองเจ้าค่ะ ขอบคุณที่ท่านให้ยาขี้ผึ้งแก่บ่าว ใบหน้าของบ่าวหายดีภายในสองวัน" อาเซียงกล่าวพลางค้อมกายอีกครั้ง เจียงซุ่ยฮวนพาชุนเถามาถึงกระโจมของจีกุ้ยเฟยพร้อมกับอาเซียง จีกุ้ยเฟยกึ่งเอนก

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 286

    "พระสนมเข้าพระทัยผิดแล้ว หม่อมฉันเพียงแค่ยังไม่กระหายน้ำ เมื่อกระหายก็จะดื่มเอง" เจียงซุ่ยฮวนรู้สึกเก้อเล็กน้อยที่จีกุ้ยเฟยทายใจถูก จีกุ้ยเฟยเท้าคางมองนางถาม "อายุเท่าไรแล้ว? มีคู่ครองหรือไม่?" "หม่อมฉันอายุสิบเจ็ดเพคะ" เจียงซุ่ยฮวนเว้นจังหวะ "เพิ่งหย่าขาดจากฉู่เจวี๋ยไม่นานมานี้" "อ้า ดูสมองข้าสิ ฉู่เจวี๋ยแทบไม่เคยพาเจ้าเข้าวัง ข้าเกือบลืมไปว่าเจ้าเคยเป็นชายาของเขา" จีกุ้ยเฟยเคาะศีรษะตนเองเบา ๆ ขณะที่เจียงซุ่ยฮวนกำลังสงสัยว่าจีกุ้ยเฟยต้องการอะไร จีกุ้ยเฟยก็เปลี่ยนเรื่องกะทันหัน "เจ้ากับกู้จิ่นเป็นอย่างไรกัน?" "ได้ยินว่าพวกเจ้าไม่ลงรอยกัน แต่คราวก่อนที่ได้เห็นกับตา กลับรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเจ้าไม่ธรรมดา" น้ำเสียงของจีกุ้ยเฟยแฝงความนัยลึกซึ้ง เจียงซุ่ยฮวนคิดในใจว่าแย่แล้ว จีกุ้ยเฟยสายตาดีถึงเพียงนี้ ถึงกับมองออก นางนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วว่า "พระสนมสายพระเนตรดียิ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างหม่อมฉันกับองค์ชายเป่ยโม่ไม่ธรรมดาจริง ๆ" "หม่อมฉันเคยช่วยชีวิตองค์ชายเป่ยโม่ พระองค์เกิดใจรักหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันปฏิเสธ หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของพวกเราก็เริ่มแย่" พูดจบ เจียงซุ่ยฮวนก

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 287

    เมื่อตระหนักได้ว่าสีพระพักตร์ผิดปกติ จีกุ้ยเฟยจึงรีบเปลี่ยนสีพระพักตร์ และแกล้งถามอย่างไม่ใส่พระทัย "เช่นนี้แล้ว เจียงเม่ยเอ๋อร์ถูกแม่นมทิ้งหรือ?" "เพคะ แม่นมผู้นั้นรับใช้นายที่คลอดเจียงเม่ยเอ๋อร์แล้วไม่ต้องการ จึงสั่งให้แม่นมพานางไปฆ่า แต่แม่นมสงสาร จึงยกให้พ่อม่าย" เจียงซุ่ยฮวนพูดจนปากแห้งคอแห้ง จึงรินน้ำชาให้ตนเอง ขณะรินชา นางแอบมองจีกุ้ยเฟย เห็นพระพักตร์ของพระนางซีดขาว พระหัตถ์ทั้งสองกำแน่น พระนขาจิกเข้าไปในเนื้อก็มิได้รู้สึก มุมปากเจียงซุ่ยฮวนยกขึ้นเล็กน้อย ในที่สุดก็วางใจได้ก้อนใหญ่ สำหรับจีกุ้ยเฟย เจียงเม่ยเอ๋อร์ก็เปรียบเสมือนระเบิดเวลา อาจระเบิดเมื่อใดก็ได้ แต่ก่อนจีกุ้ยเฟยไม่ทรงทราบชาติกำเนิดที่แท้จริงของเจียงเม่ยเอ๋อร์ก็แล้วไป บัดนี้ทรงทราบแล้ว ย่อมต้องลงมือกับเจียงเม่ยเอ๋อร์แน่ เจียงซุ่ยฮวนรู้ว่า กลยุทธ์ยืมมือคนอื่นสังหารของนางสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง นางรินชาเสร็จ ยกขึ้นดมที่จมูก เมื่อไม่ได้กลิ่นผิดปกติจึงจิบอย่างวางใจ แล้วค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น นางทำเป็นเพิ่งสังเกตเห็นสีพระพักตร์ผิดปกติของจีกุ้ยเฟย จึงถามอย่างตกใจ "พระสนม เหตุใดสีพระพักตร์ของพระองค์จึงซีดเช่นนี้?

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 288

    บนเตียงมีคนนอนอยู่จริง ๆ ใบหน้าครึ่งหนึ่งซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม เห็นเพียงหน้าผากน้อย ๆ โผล่ออกมา เจียงซุ่ยฮวนกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว มือหนึ่งกำมีดผ่าตัดแน่น อีกมือหนึ่งหยิบสเปรย์ยาสลบจากห้องทดลอง เกรงว่านี่จะเป็นกลอุบายอีกครั้ง คนใต้ผ้าห่มราวกับไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของนาง ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มไม่ขยับเขยื้อน เจียงซุ่ยฮวนเอ่ยว่า "ข้าเป็นหมอหลวงที่จีกุ้ยเฟยเชิญมารักษาอาการท่าน เลื่อนผ้าห่มลงเถิด ข้าจะจับชีพจรให้" ผ้าห่มสั่นไหวเล็กน้อย คนข้างในไม่เพียงไม่เลื่อนผ้าห่มลง กลับยิ่งซุกตัวลึกลงไปใต้ผ้าห่ม พูดเสียงอู้อี้ "บ่าวไม่ขอตรวจ ท่านไปเถิด" "แน่ใจหรือ?" "แน่ใจ!" "ได้" เจียงซุ่ยฮวนไม่ซักไซ้ หมุนตัวเตรียมจากไปทันที "เช่นนั้นข้าจะไปทูลจีกุ้ยเฟยว่าเป็นเจ้าที่ไม่อยากรักษา ไม่ใช่ข้าไม่อยากรักษา" "เอ๊ะ!" คนใต้ผ้าห่มดึงผ้าห่มลง โผล่ศีรษะออกมาร้องเรียกเจียงซุ่ยฮวนไว้ เจียงซุ่ยฮวนหันกลับมาอย่างไม่แปลกใจ ดูจากการแต่งกายของคนบนเตียง เขาเป็นขันทีจริง ๆ อายุราวสามสิบกว่า หน้าตาค่อนข้างหล่อเหลา เพียงแต่สีหน้าดูอิดโรย หากไม่ดูเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ จะไม่มีทางรู้เลยว่าเป็นขันที เจียงซุ่ยฮวนจ้องม

Pinakabagong kabanata

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 574

    ครั้นได้ยินคำว่า “ไฟไหม้” ความง่วงที่ยังหลงเหลืออยู่ในห้วงนิทราของเจียงซุ่ยฮวนพลันสลายหายไปสิ้น หัวใจพลันเต้นโครมครามราวจะหลุดจากอกนางลุกพรวดจากที่นอน คว้าผ้าคลุมขนกระต่ายที่วางอยู่ข้างหมอนมาสวมอย่างลวก ๆ แล้วรีบลงจากเตียงในขณะเดียวกัน ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดอย่างรุนแรง หยิ่งเถาวิ่งพรวดเข้ามาทั้งที่ยังทรงตัวไม่ทันดี จึงพลาดล้ม “โครม” ลงกับพื้นหยิ่งเถาไม่ทันได้ลุกขึ้นก็รีบเงยหน้าร้องบอกเสียงลั่น “คุณหนู! รีบออกไปเถิด! ข้างนอกเกิดไฟขึ้นแล้ว!”เจียงซุ่ยฮวนรีบสวมรองเท้า ก้าวยาว ๆ ตรงเข้าไปฉุดหยิ่งเถาขึ้นจากพื้น แล้วจูงมือนางวิ่งออกไปทันทีมือของเจียงซุ่ยฮวนที่กำมือหยิ่งเถานั้นสั่นน้อย ๆ นางถามเสียงเร่งร้อน “เสี่ยวถังหยวนเล่า?”“คุณชายน้อยปลอดภัยดีเพคะ แม่นมเห็นก่อนจึงรีบพาออกไปหลบแล้วเพคะ” หยิ่งเถารีบตอบครั้นรู้ว่าลูกน้อยปลอดภัย เจียงซุ่ยฮวนจึงค่อยสงบลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “แล้วไฟเกิดที่ใด?”“เป็นห้องพักของท่านอาจารย์เพคะ” หยิ่งเถาตอบเจียงซุ่ยฮวนถึงกับชะงัก ห้องของฉู่เฉินหรือ!? แล้วหลี่ลี่ก็ยังอยู่ในนั้นด้วย!นางจึงเร่งฝีเท้าวิ่งออกไป ทว่าเพิ่งออกจากประตู ก็มีควันไฟใน

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 573

    หากฝืนปลุกเขาขึ้นมาในยามนี้ เกรงว่าจะทำให้สติแตกเสียจนอาละวาดคลุ้มคลั่ง“ดูท่าคงต้องปล่อยให้ฟื้นขึ้นเองแล้วกระมัง” เจียงซุ่ยฮวนถอนหายใจอย่างจนปัญญา แล้วเอ่ยเรียกจากในห้องว่า “ปู้กู่ เข้ามาหาข้าสักประเดี๋ยวสิ”ปู้กู่เปิดประตูเข้ามาทันที “พระชายา มีสิ่งใดจะทรงบัญชาหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจียงซุ่ยฮวนชี้ไปยังบุรุษที่นอนอยู่บนพื้น “เจ้ารู้จักบุรุษผู้นี้หรือไม่?”ปู้กู่หลับตานิ่ง พยายามรื้อค้นความทรงจำอย่างเคร่งเครียด ทว่านึกอยู่เนิ่นนานก็ยังคิดไม่ออกเจียงซุ่ยฮวนจึงกล่าวเป็นเชิงเตือน “ชายผู้นี้ผิวขาวซีดผิดธรรมชาติ คงมิได้ออกไปพบแสงตะวันมาเป็นเวลานานแล้ว”ปู้กู่นั่งย่อตัวลง เพ่งพินิจใบหน้าของบุรุษผู้นั้นอย่างละเอียด กระทั่งครู่หนึ่ง ก็อุทานเสียงเบา “ซี้ด…”“นึกออกแล้วหรือ?” เจียงซุ่ยฮวนเอ่ยถามปู้กู่ชี้ไปที่บุรุษผู้นั้นด้วยแววตาตกตะลึง “ผู้นี้ชื่อหลี่ลี่ เมื่อสิบปีก่อน เคยเป็นหนี้หอพนันถึงหนึ่งแสนตำลึง แล้วบุกเข้าไปปล้นคฤหาสน์ของพ่อค้าผู้มั่งคั่ง”“หากเพียงแค่ปล้นก็คงไม่ถึงกับร้ายกาจนัก เขากลับอาศัยฝีมือที่เหนือกว่าฆ่าล้างทั้งครอบครัวพ่อค้านั้น รวมแล้วกว่ายี่สิบชีวิต”เจียงซุ่ยฮวนสีหน้าหม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 572

    เจียงซุ่ยฮวนโดยสารรถม้ากลับถึงจวน พอเปิดม่านลงจากรถ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นปู้กู่ยืนอยู่เบื้องหน้าพร้อมผู้ติดตามนับสิบคน“เหตุใดเจ้าจึงพาผู้คนมากมายมาด้วย?” นางเหลือบมองแคร่ไม้ด้านหลังพลางถามปู้กู่รีบเอ่ยอย่างร้อนรน “พระชายา พอได้ข่าวว่าเส้นทางขากลับถูกเฉียนจิงอี๋สกัดไว้ กระหม่อมก็ตั้งใจจะนำคนไปช่วย แต่ไม่นานก็ทราบว่าท่านเสด็จกลับมาเสียแล้ว”“อืม...ตอนนี้ไม่มีอันใดแล้ว ให้พวกเขาแยกย้ายกันไปเถิด” เจียงซุ่ยฮวนโบกมือ นางยังเร่งรีบอยากกลับเข้าเรือนเพื่อสอบปากคำฉู่เฉินตัวปลอมปู้กู่สั่งให้คนที่มาด้วยกันกลับไป ทว่าตนเองกลับยืนอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเจียงซุ่ยฮวนจึงถามขึ้น “เหตุใดเจ้ายังไม่ไปเล่า?”ปู้กู่เอ่ยว่า “พระชายา ขอพระองค์โปรดแจ้งกระหม่อมเถิด เฉียนจิงอี๋ขวางรถพระองค์ไว้ด้วยเหตุใด?”เจียงซุ่ยฮวนเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วกล่าวทิ้งท้ายว่า “ข้ารู้สึกว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา ที่สำคัญคือแววตาที่เขามองข้ามันช่างประหลาด เจ้ารีบส่งคนไปสืบข่าวเขาสักหน่อยเถิด”ปู้กู่สีหน้าหนักแน่น “เฉียนจิงอี๋ผู้นี้มิใช่คนธรรมดาแน่ หอพนันซิ่งหลงของตระกูลเขากระจายอยู่ทั่วแคว้นต้าเหยียน และเขาเอง...ดูเหมือนจะมีธ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 571

    เจียงซุ่ยฮวนยิ้มน้อย ๆ แล้วกดเสียงต่ำลงพลางกระซิบว่า “วางใจเถิด...ตอนนี้ไม่มีแล้ว”แววตาขององครักษ์ลับยังเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าเจียงซุ่ยฮวนเพียงยิ้มอย่างเงียบงัน หาได้กล่าวคำใดอีกไม่นานนัก เฉียนจิงอี๋ก็เดินออกจากรถม้าด้วยท่วงท่าสงบ มือไพล่หลังไว้ ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้ากลับจางหายไปจนหมดสิ้น หางตายังพลันกระตุกเล็กน้อยเขาเห็นกับตาตนเองว่าเหล่าองครักษ์ลับจับคนยัดใส่รถม้า แล้วเขายังไล่ตามมาตลอดทางจากหอพนัน สายตาไม่เคยละไปที่อื่นเลยแม้แต่น้อยแต่เหตุใดคนผู้นั้นจึงหายไปเสียได้?เจียงซุ่ยฮวนยิ้มถาม “เห็นผู้ใดหรือไม่?”แววตาเฉียนจิงอี๋เย็นเยียบสั่นไหวเล็กน้อย ประหนึ่งกำลังครุ่นคิดบางสิ่งอยู่ เมื่อสบเข้ากับรอยยิ้มของเจียงซุ่ยฮวน เขาจึงยกยิ้มบาง ๆ “ขออภัยด้วยคุณหนู ข้าคงตาฝาดไป”เขาหยิบตั๋วเงินใบหนึ่งขึ้นมา แล้วยื่นสองมือส่งให้เจียงซุ่ยฮวน “เชิญคุณหนูรับของเล็กน้อยเป็นการขออภัย”ท่าทีของบุรุษผู้นี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนัก ไม่เสียแรงเป็นทายาทหอพนันโดยแท้ ขณะที่เจียงซุ่ยฮวนกำลังจะเอื้อมมือไปรับ กลับพบว่าตั๋วเงินในมือเขานั้นมิใช่ใบละแค่แสนตำลึง...แต่เป็นถึงสองแสนตำลึงเจียงซุ่ยฮวนชักมือกลั

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 570

    ควันสีเทาลอยฟุ้งขึ้นมา ลูกประคำที่เฉียนจิงอี๋ปาออกไปยังคงสภาพสมบูรณ์ แต่กลับฝังลึกอยู่กลางหลุมใหญ่บนพื้นแค่ลูกประคำธรรมดา กลับสามารถก่อความเสียหายได้ถึงเพียงนี้ ต้องมีพลังภายในลึกล้ำถึงเพียงใดกันแน่สีหน้าของเจียงซุ่ยฮวนพลันเคร่งขรึม ขณะเดียวกัน เหล่าองครักษ์ลับที่ล้อมรถม้าอยู่ก็ล้วนตั้งท่าเตรียมพร้อมด้วยท่าทีตึงเครียดแต่ก่อนพวกเขาเคยได้ยินชื่อของเฉียนจิงอี๋มาบ้าง รู้เพียงว่าเขาเป็นทายาทของหอพนันซิ่งหลง เป็นผู้มีอุปนิสัยเงียบขรึม หาได้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนบ่อยนักกระทั่งได้พบกับตัวจริงในวันนี้ จึงรู้ว่าบุรุษผู้นี้...มิใช่คนธรรมดาแน่นอน“แม่นางผู้นี้ ข้าไร้เจตนาจะสร้างความลำบากแก่ท่าน เพียงแต่ในฐานะทายาทของหอพนันซิ่งหลง ข้าย่อมไม่อาจเพิกเฉยมองลูกค้าถูกลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตา...ท่านว่าใช่หรือไม่?” เฉียนจิงอี๋ยิ้มละไม รอยยิ้มนั้นดูสุภาพอ่อนโยน หากแต่แฝงไว้ด้วยแรงกดดันจาง ๆ อย่างยากจะหยั่งถึงองครักษ์ลับทั้งหกยังคงเฝ้ารอบรถม้า หนึ่งในนั้นค่อย ๆ ถอยหลังออกไป แล้วอาศัยจังหวะชุลมุนลับหายไปในพริบตาเฉียนจิงอี๋เห็นดังนั้น จึงหัวเราะพลางถามว่า “หืม? ถึงกับต้องไปตามกำลังเสริมเชียวหรือ? หรื

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 569

    ผู้คนที่อยู่ ณ ที่นั้นล้วนทราบดีว่า "เซียนพนัน" ผู้นั้นจงใจกลั่นแกล้งเจียงซุ่ยฮวนเป็นแน่ ทั้งที่ลูกเต๋ายังวางนิ่งอยู่ในถ้วย จะมีผู้ใดคาดเดาได้ถูกต้องเล่า?ขณะนั้นเอง เหล่าองครักษ์ลับทั้งหกก็เริ่มขยับเข้าใกล้ฉู่เฉินตัวปลอมอย่างช้า ๆ พวกเขาล้วนถอดชุดดำออกเสียแล้ว แลดูแทบไม่แตกต่างจากชาวบ้านทั่วไปเจียงซุ่ยฮวนยิ้มน้อย ๆ แล้วตอบว่า “ตกลง”ทุกผู้คนถึงกับตะลึง แม้เจียงซุ่ยฮวนจะชนะมาหลายตา แต่หาได้มีผู้ใดเชื่อว่านางจะเดาแต้มลูกเต๋าได้ถูกต้องทุกเม็ด ครั้นแล้วจึงพร้อมใจกันวางเดิมพันทั้งหมดลงข้างเซียนพนันฉู่เฉินตัวปลอมลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนวางถุงผ้าบนโต๊ะ แล้วเดิมพันข้างเซียนพนันเช่นกันหญิงสาวบนโต๊ะค่อย ๆ เขย่าถ้วยลูกเต๋า เจียงซุ่ยฮวนหลับตาลง ตั้งใจฟังเสียงที่เล็ดลอดออกมาจากในถ้วยโดยมิปล่อยให้จิตวอกแวกในยามนั้น เสียงรอบข้างพลันเลือนหาย สิ่งเดียวที่ดังสะท้อนอยู่ในโสตประสาทคือเสียง “กรุ๊งกริ๊ง กั๊กกั๊ก” ของลูกเต๋าอันแว่วไหวจนเมื่อลูกเต๋าสิ้นเสียงนิ่งลง เจียงซุ่ยฮวนจึงลืมตาขึ้นมาเซียนพนันแค่นหัวเราะเย็น เอื้อนเอ่ยอย่างเย้ยหยัน “ทายสิ ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าจะทายได้หรือไม่!”เจีย

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 568

    ผู้คนรอบโต๊ะเมื่อเห็นว่าเซียนพนันลงเงินมากถึงเพียงนี้ ต่างคิดว่าเขาคงเริ่มจริงจังแล้ว จึงพากันวางเดิมพันตามครั้นทุกคนลงเงินเสร็จ เจียงซุ่ยฮวนกลับค่อย ๆ หยิบตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงออกมาวางบนโต๊ะอย่างไม่รีบร้อน“……”ทุกผู้คนถึงกับตะลึง โดยเฉพาะเซียนพนัน สีหน้าเขาราวกับกลืนของเสียเข้าไป เอ่ยด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “นี่เจ้าล้อข้าเล่นหรือ?”หญิงบนโต๊ะเองก็หน้าเจื่อนเล็กน้อย “คุณหนูเจ้าขา ที่นี่วางขั้นต่ำต้องหนึ่งพันตำลึงเจ้าค่ะ”“อ้อ ขอโทษด้วย” เจียงซุ่ยฮวนยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหยิบอีกใบมาวางซ้อน “เช่นนี้ใช้ได้หรือยัง?”เซียนพนันนั้นยืมเงินจากบ่อนมากถึงหมื่นตำลึง เพียงหวังเอาชนะเงินสองแสนของนาง กลับกลายเป็นนางวางแค่พันเดียว จนเขาอยากจะพลิกโต๊ะเสียให้ได้ทว่าผู้ใดจะสนใจความคิดของเขา? เจียงซุ่ยฮวนหาได้ใส่ใจ เพราะสิ่งที่นางต้องการคือเรียกความสนใจ หาใช่เดิมพันเพื่อชัยชนะอย่างเดียวและผลก็ไม่ผิดคาด นางชนะอีกคราหลายตาต่อมา บางครั้งนางวางเดิมพันทีละสองแสน บางครั้งก็เพียงแค่พันเดียว แต่ทุกครั้งนางล้วนชนะหมดส่วนเซียนพนันกลับเหมือนตกอยู่ในวังวนของความอาฆาต ยิ่งนางเลือกอย่างไร เขาก็เลือกตรงข้าม จนแพ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 567

    เมื่อเจียงซุ่ยฮวนกล่าวจบ เสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้นรอบโต๊ะ“ฮ่า ๆ ๆ! ข้ารู้อยู่แล้วเชียวว่านางต้องเพี้ยนแน่ พวกเราลง ‘สูง’ กันหมด แต่นางกลับเลือก ‘ต่ำ’ เสียนี่!”ผู้หนึ่งชี้ไปยังชายที่ลงเงินเป็นคนแรก แล้วหันมาถามเจียงซุ่ยฮวนว่า “แม่นาง รู้หรือไม่ว่าท่านผู้นี้เป็นใคร?”เจียงซุ่ยฮวนเลิกคิ้วขึ้น เอ่ยเรียบ ๆ ว่า “แล้วเขาเป็นใครกันล่ะ”“เขาน่ะหรือ คือ ‘เซียนพนัน’ ประจำที่นี่เชียวนะ! ท่านผู้นี้แม่นยำยิ่ง ทายสิบหน ชนะไปถึงเจ็ด!”อีกคนที่มิได้ลงพนัน กล่าวเสริมว่า “ใช่แล้ว เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายในบ่อนนี้ ยังต้องตามเขาเลือกเลยแม่นาง ข้าเกรงว่าท่านควรไตร่ตรองให้ดี สองแสนตำลึงมิใช่น้อย ๆ”ชายที่ถูกเรียกว่าเซียนพนันจับจ้องตั๋วเงินเบื้องหน้าเจียงซุ่ยฮวนด้วยแววตาลุกวาว ราวกับเงินนั้นได้ตกในกำมือของตนเรียบร้อยแล้วครั้นได้ยินเสียงเตือนของคนอื่น ก็แค่นเสียงฮึดฮัด “เจ้าเองยังไม่ได้เดิมพัน อย่าสอด!”จากนั้นจึงหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ต่อเจียงซุ่ยฮวน “แม่นาง อย่าได้เชื่อคำพวกนั้น ข้าเองก็ใช่ว่าจะทายถูกเสมอ”“ท่านหากตามพวกเราเลือก ‘สูง’ ชนะขึ้นมาก็ได้เงินไม่มากเท่าไร แต่หากท่านเลือก ‘ต่ำ’ แล้วชนะ อย่าง

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 566

    ชายตาตี่โน้มตัวลงมาด้วยความคาดหวัง “ว่ากระไร?”เจียงซุ่ยฮวนชกเข้าที่เบ้าตาซ้ายของเขาทันที ใช้เพียงห้าส่วนของพลังแต่ก็ตาเขียวช้ำเป็นวง ร้องลั่นพลางย่อตัวกุมตาชายหน้าแดงตะโกนด่า “นางหญิงชั่ว เจ้าคงอยากตายแล้วกระมัง!”เจียงซุ่ยฮวนกระชากคอเสื้อเขาขึ้นมาด้วยแววตาเด็ดขาด “ฟังให้ดี ข้ามาเพื่อตามหาคน ไม่นานก็จะไป”“หากพวกเจ้ายังคิดจะขัดขวางอีก อย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้าเจ้า”ชายผู้นั้นถึงกับสะดุ้งจากแรงอำนาจของนาง แต่ยังคงหัวเราะเยาะ “เจ้าก็แค่หญิงอ่อนแอ จะทำอะไรพวกข้าได้?”“บ่อนนี้คือบ่อนใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง แค่ข้าตะโกนคำเดียว บรรดายอดฝีมือทั้งหลายจะกรูออกมาทันที!”เจียงซุ่ยฮวนคลี่ยิ้มจาง ๆ “บ่อนใหญ่ที่สุดงั้นหรือ? เช่นนั้นคงได้กำไรมหาศาลต่อวันสินะ?”“แน่นอน!”“หากได้มากเพียงนั้น ภาษีที่ต้องส่งคงไม่น้อยพอ ๆ กันกระมัง? บังเอิญว่าข้ารู้จักกับเสนาบดีกรมคลังอยู่คนหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรไปถามเขาดีหรือไม่ว่าบ่อนนี้จ่ายภาษีครบหรือเปล่า?”สีหน้าชายผู้นั้นซีดลงทันที ใครจะคิดว่าแม่นางผู้นี้รู้จักกับเสนาบดีกรมคลัง!แม้เขาจะเป็นแค่ผู้เฝ้าประตู แต่ก็รู้ดีว่าบ่อนของตนรับมือการตรวจสอบไม่ได้แน่ หากทางราช

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status