Share

บทที่ 640

Author: ทองประกาย
"เรื่องใดหรือ"

เสวียหลิงกล่าวว่า "ว่ามาเถิด หากข้าทำได้ ข้าย่อมตกลงแน่นอน"

"ไม่ว่าวันหน้าเกิดสิ่งใด เจ้าต้องอยู่ข้างข้าและกู้จิ่น" เจียงซุ่ยฮวนกล่าวด้วยท่าทีเคร่งขรึมยิ่งนัก

เสวียหลิงกล่าวอย่างหนักแน่น "แน่นอนอยู่แล้ว เจ้ากับองค์ชายเป่ยโม่คือผู้มีพระคุณช่วยชีวิตข้า ต่อให้ครั้งนี้เจ้ามิช่วย ข้าก็ยังคงขอยืนข้างพวกเจ้า"

เจียงซุ่ยฮวนเผยรอยยิ้มบางเบา "เสวียหลิง คำพูดของสุภาพบุรุษ หนักแน่นดั่งม้าศึกสี่ตัว ไม่อาจเรียกคืนได้"

"ไม่ว่าวันหน้าจะเป็นเช่นไร อย่าได้คิดกลับคำ"

เสวียหลิงกล่าว "หากข้าผิดคำ ขอสวรรค์จงลงโทษ"

"ถ้าเช่นนั้นก็ตกลงตามนี้"

เจียงซุ่ยฮวนเอนกายพิงโต๊ะ เอ่ยว่า "เจ้าต้องการให้ฉู่เฉินติดตามไปด้วย เพราะเขาชำนาญศาสตร์ด้านพิษกู่ใช่หรือไม่"

"ใช่แล้ว ชาวหนานเจียงเชี่ยวชาญเวทมนตร์ไสยศาสตร์ ชาวต้าหยวนอย่างเรากลับไม่ถนัด หากรบกันจริง ย่อมเสียเปรียบยิ่งนัก มีแต่ต้องพาผู้ชำนาญพิษกู่ไปด้วย จึงจะรบเสมอกันได้" เสวียหลิงนั่งประจันหน้ากล่าว

เจียงซุ่ยฮวนยิ้มเย้ย "บังเอิญนัก ข้ามีชาวหนานเจียงอยู่ในมือหนึ่งคน"

เสวียหลิงถึงกับสงสัยว่าตนหูฝาด กระซิบว่า "จริงหรือ หรือว่าข้าได้ยินผิดไป"

"ในจว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 642

    “ชาวหนานเจียงเพียงแสนหนึ่งจะยึดเมืองกวนหนานได้อย่างนั้นหรือ ข้าไม่เชื่อเด็ดขาด”เจียงซุ่ยฮวนกล่าวว่า “ข้าก็ว่าชวนพิศวงอยู่เช่นกัน แต่เรื่องราวเป็นเช่นนั้นจริง ได้ยินว่าหัวหน้าเผ่าหนานเจียงใช้มนตร์ดำและพิษอาถรรพ์ควบคุมเจ้าเมืองกวนหนานไว้ก่อน จึงยึดเมืองได้รวดเร็วนัก”ดวงตานางหมอผีกลอกไปมาอย่างรวดเร็ว ดูท่ากำลังไตร่ตรองวาจาของเจียงซุ่ยฮวนว่าจริงแท้หรือเท็จลวงเจียงซุ่ยฮวนชี้ไปทางประตู “จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่เจ้า แต่โอกาสนี้มีเพียงครั้งเดียว หากไม่ตกลง ข้าจะจากไปเดี๋ยวนี้”นางหมอผีเหลือบมองอาหารกลิ่นหอมฉุยด้านข้าง คิดในใจว่าตายเป็นตายก็จะลองสู้เสี่ยงดูสักตั้ง!“ข้าตกลง!” นางหมอผีตะโกนสุดเสียง “แต่เจ้าต้องรับปาก เมื่อสังหารหัวหน้าเผ่าหนานเจียงแล้ว เจ้าต้องปล่อยข้าเป็นอิสระ”“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา” เจียงซุ่ยฮวนพยักหน้า แล้วนั่งลงขัดสมาธิบนพื้น “แม่ทัพที่จะร่วมเดินทางครั้งนี้มีนามว่าเสวียหลิง เจ้าต้องเชื่อฟังเขาทุกอย่าง คอยปกป้องไม่ให้เขาตกเป็นเหยื่อของมนตร์ดำและพิษอาถรรพ์ต่าง ๆ ”“ขอแค่เขาตัดหัวของหัวหน้าเผ่าได้สำเร็จ เขาก็จะปล่อยเจ้าให้เป็นอิสระ”นางหมอผียิ้มเยาะ “เรื่องง่ายดายยิ่งน

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 641

    ในขณะที่นางหมอผีร้องขอความเมตตาดังลั่น หยิ่งเถาก็ถือสำรับอาหารและน้ำชาก้าวเข้ามา จากนั้นวางลงเคียงข้างนางหมอผีนางหมอผีมิได้ลิ้มรสอาหารมาเนิ่นนาน ครั้นได้กลิ่นหอมของสำรับนั้น คำพูดที่กำลังจะเอ่ยออกมาจากริมฝีปากก็พลันสะดุด พลางกลืนน้ำลายอย่างไม่หยุดหย่อนแม้มิได้กินก็ยังไม่ถึงตาย แต่นางก็ยังมีใจอยากในรสอาหารอยู่ข้าวปลาอาหารร้อนฉ่ามีไอลอยคลุ้ง เจียงซุ่ยฮวนโบกมือเบา ๆ ไล่ไอร้อนให้พ้นไป แล้วสูดกลิ่นหอมพลางแสร้งทำเป็นเคลิบเคลิ้มเอ่ยว่า “หมูทอดซอสเปรี้ยวหวาน หมูผัดพริกหอม มะเขือม่วงเคี่ยวซีอิ๊ว ดูท่าฝีมือป้าจางจะพัฒนาขึ้นอีกขั้นแล้วกระมัง”ได้ยินชื่ออาหารแต่ละจาน นางหมอผีก็น้ำลายสอจนแทบจะย้อยออกจากมุมปากเจียงซุ่ยฮวนคีบหมูทอดซอสเปรี้ยวหวานขึ้นมาชิ้นหนึ่ง เอ่ยชมพลางว่า “หมูทอดซอสเปรี้ยวหวานตำรับนี้ของป้าจางนี่เลิศล้ำจริง ๆ ผิวนอกกรอบกรุบ ข้างในนุ่มฉ่ำ หอมมันไม่เลี่ยน กัดเข้าไปหนึ่งคำ กลิ่นหอมฟุ้งเลยทีเดียว”นางหมอผีมิอาจทานทนต่อไปได้ หลับตาแน่นแล้วกล่าวว่า “แม้เจ้าจะจัดโต๊ะอาหารที่เลิศหรูสักแค่ไหนมาไว้ตรงหน้าข้า ข้าก็ไม่ยอมกลับไปที่เจียงหนานเด็ดขาด”“เจ้าจะไม่กลับไปแน่หรือ” เจียงซุ่ยฮ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 640

    "เรื่องใดหรือ"เสวียหลิงกล่าวว่า "ว่ามาเถิด หากข้าทำได้ ข้าย่อมตกลงแน่นอน""ไม่ว่าวันหน้าเกิดสิ่งใด เจ้าต้องอยู่ข้างข้าและกู้จิ่น" เจียงซุ่ยฮวนกล่าวด้วยท่าทีเคร่งขรึมยิ่งนักเสวียหลิงกล่าวอย่างหนักแน่น "แน่นอนอยู่แล้ว เจ้ากับองค์ชายเป่ยโม่คือผู้มีพระคุณช่วยชีวิตข้า ต่อให้ครั้งนี้เจ้ามิช่วย ข้าก็ยังคงขอยืนข้างพวกเจ้า"เจียงซุ่ยฮวนเผยรอยยิ้มบางเบา "เสวียหลิง คำพูดของสุภาพบุรุษ หนักแน่นดั่งม้าศึกสี่ตัว ไม่อาจเรียกคืนได้""ไม่ว่าวันหน้าจะเป็นเช่นไร อย่าได้คิดกลับคำ"เสวียหลิงกล่าว "หากข้าผิดคำ ขอสวรรค์จงลงโทษ""ถ้าเช่นนั้นก็ตกลงตามนี้"เจียงซุ่ยฮวนเอนกายพิงโต๊ะ เอ่ยว่า "เจ้าต้องการให้ฉู่เฉินติดตามไปด้วย เพราะเขาชำนาญศาสตร์ด้านพิษกู่ใช่หรือไม่""ใช่แล้ว ชาวหนานเจียงเชี่ยวชาญเวทมนตร์ไสยศาสตร์ ชาวต้าหยวนอย่างเรากลับไม่ถนัด หากรบกันจริง ย่อมเสียเปรียบยิ่งนัก มีแต่ต้องพาผู้ชำนาญพิษกู่ไปด้วย จึงจะรบเสมอกันได้" เสวียหลิงนั่งประจันหน้ากล่าวเจียงซุ่ยฮวนยิ้มเย้ย "บังเอิญนัก ข้ามีชาวหนานเจียงอยู่ในมือหนึ่งคน"เสวียหลิงถึงกับสงสัยว่าตนหูฝาด กระซิบว่า "จริงหรือ หรือว่าข้าได้ยินผิดไป""ในจว

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 639

    ครั้นถึงจวนตระกูลเสวีย จึงพบว่าองค์หญิงจิ่นอวี๋หาได้อยู่ที่นี่ไม่ในห้องของเสวียหลิงอบอวลไปด้วยกลิ่นโอสถอันขมจัด จนบ่าวไพร่ทนอยู่มิได้ ต้องยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู ทิ้งให้เสวียหลิงอยู่เพียงลำพังเจียงซุ่ยฮวนสูดกลิ่นเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า "กลิ่นเช่นนี้ ไม่ใช่โอสถที่ข้าจัดจ่ายให้เจ้า”เสวียหลิงแค่นยิ้ม "เพื่อให้กลิ่นสมจริงยิ่งขึ้น ลุงจ้าวจึงเติมสมุนไพรหวงเหลียนกับหญ้าตับมังกรเข้าไป""ถึงว่ากลิ่นขื่นนัก แต่ก็ดี จะได้ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง" เจียงซุ่ยฮวนวางหีบยาลงแล้วว่า "เอาล่ะ ว่ามาเถิด เรียกข้ามาด้วยเรื่องอันใด"เสวียหลิงเผยความคิดออกมา เขาต้องการเชิญฉู่เฉินไปร่วมศึกที่กวนหนาน จึงหวังพึ่งเจียงซุ่ยฮวนให้ช่วยเหลือดวงตาของเจียงซุ่ยฮวนหม่นลง เสวียหลิงนึกว่านางกังวลจึงรีบกล่าวว่า "หมอหลวงเจียงวางใจได้ ข้าจะไม่เปิดเผยฐานะขององค์ชายสอง อีกทั้งไม่ต้องออกรบทัพจับศึกด้วยตัวเอง เขาเพียงต้องรับมือวิชาอาคมของชาวหนานเจียงเท่านั้น""หากพิชิตหนานเจียงได้ รางวัลที่ทรงพระราชทานมา ข้าจะไม่แตะต้องสักเฟือง ขอเพียงให้ข้ายกเลิกหมั้นหมายกับองค์หญิงจิ่นอวี๋ก็พอ""แต่ไม่ว่าจะอย่างไร หากพ่ายแพ้ข้าก็จะสู้จนสุดชีวิ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 638

    เสวียหลิงขบกรามแน่น เอ่ยว่า "ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกทราบถึงความกังวลของท่านทั้งสอง แต่หากลูกไม่ไป ก็เหลือเพียงสองหนทางเท่านั้น""หนึ่งคือแต่งกับองค์หญิงจิ่นอวี๋ สองคือต้องเสแสร้งว่าป่วยต่อไป จนถูกนางฆ่าก่อนวันแต่ง"มารดาของเสวียหลิงตกตะลึงกล่าวว่า "เจ้าพูดอะไรกัน องค์หญิงจิ่นอวี๋ถึงกับไปขอราชโองการด้วยตนเอง นั่นต้องเป็นเพราะนางรักเจ้าแท้ ๆ ไยจึงคิดว่านางจะฆ่าเจ้าได้""ท่านแม่ บัดนี้ข้ามิอาจปิดบังได้อีกแล้ว" เสวียหลิงกล่าว ก่อนถ่ายทอดถ้อยคำข่มขู่ขององค์หญิงจิ่นอวี๋ และเสริมว่า "นางขอราชโองการด้วยความที่ต้องการเอาชนะ นางมิได้รักลูกเลยแม้แต่น้อย""องค์หญิงจิ่นอวี๋เอ่ยวาจาเองว่าไม่ต้องการแต่งกับผู้ป่วยเช่นข้า หากข้าหายดีไม่ทันวันแต่ง นางจะกำจัดข้า เพื่อให้การหมั้นหมายสิ้นสุดลง"มารดาของเสวียหลิงยกมือกุมหน้าผาก คร่ำครวญว่า "ลูกแม่ เจ้าทำเอาแม่สับสนไปหมดแล้ว""เจ้าก็แสร้งป่วย หาได้ป่วยจริง เพียงเอ่ยว่าหายดีแล้ว เรื่องก็จบมิใช่หรือ"อธิบดีกรมอาญาแตะไหล่มารดาของเสวียหลิงกล่าวว่า "ฮูหยินเอ๋ย ท่านยังไม่เข้าใจความนัยของบุตรชายอีกหรือ"มารดาของเสวียหลิงถลึงตามองเขา "หาว่าข้าไม่เข้าใจ เช่นนั้นท

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 637

    ฉู่อี้เดินลึกเข้าไปถึงสุดปลายทางลับ เปิดหีบที่วางอยู่ตรงมุม พบว่าภายในบรรจุศพประหลาดอยู่หนึ่งร่างศพรักษาสภาพไว้ได้ดียิ่งนัก ยังสามารถเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงได้อย่างชัดเจนเขาจึงค่อยเบาใจ เห็นได้ว่ามิเป็นอุปสรรคต่อแผนการต่อไปคุกใต้ดินข้างเคียงแลต่างไปจากเดิม พื้นห้องมีผ้าห่มปูหนาหลายชั้น ผนังเต็มไปด้วยแผ่นภาพ ชายผู้หนึ่งนั่งวาดภาพอยู่บนเบาะนุ่มมือหนึ่งถือพู่กัน อีกมือลูบคางครุ่นคิด กระดิกขาไปมาคุกใต้ดินมืดสลัวชื้นแฉะ จุดเทียนแล้วยิ่งดูวังเวง ทว่าเขากลับดูผ่อนคลาย กล่าวขึ้นอย่างไม่ยี่หระว่า "คราวหน้าเจ้าอย่าลืมนำพู่กันมาให้ข้าอีกด้าม ด้ามนี้แทบจะโล้นเกรียนหมดแล้ว"ฉู่อี้เพ่งมองแผ่นภาพบนผนัง นิ่งงันไป ภาพวาดล้วนพิสดารนัก บ้างเป็นแมวหน้ากลมไร้หูสวมกระดิ่ง บ้างเป็นก้อนสี่เหลี่ยมมีรูพรุนทั่วตัวแต่มีดวงตาเบิกโพลงฉู่อี้เอ่ยอย่างไร้อารมณ์ "ท่านพี่สอง ท่านมิรู้สึกหรือว่า ภาพเหล่านี้ล้วนแต่เปลืองพู่กันและกระดาษไปเปล่า ๆ"ฉู่เฉินยังไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น ตอบด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา "เจ้าแปด เจ้ามิรู้จักศิลปะ มิรู้จักข้าด้วย อย่าเอ่ยวาจาส่งเดช"คืนวันนั้น ฉู่เฉินถูกตีสลบกลางวัง ตื่นมาอีกครั

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 636

    ฉู่อี้เห็นหมากรุกขาวดำเกลื่อนกลาดอยู่เบื้องล่าง แววตาแฝงด้วยความซับซ้อน ใกล้ถึงงานพิธีบวงสรวงใหญ่แล้ว ไฉนจึงเกิดเหตุเภทภัยขึ้น หากกระทบต่อแผนการของเขาเล่า...“เจ้าแปด” ฝ่าบาทแม้กริ้วเกรี้ยวกราด ทว่าไม่นานก็ระงับอารมณ์ได้ “ไปตามพี่สามของเจ้ามา เราจะคืนอำนาจทัพให้เขา”พี่สามที่ฝ่าบาทเอ่ยถึงก็คือฉู่เจวี๋ยนั่นเอง ฉู่เจวี๋ยตั้งแต่เยาว์วัยก็ชอบอ่านตำราพิชัยยุทธ์ มีความรอบรู้ในพิชัยสงคราม ได้รับมอบอำนาจบัญชาทัพตั้งแต่อายุยังน้อยหลายเดือนก่อน ฉู่เจวี๋ยกลับเปลี่ยนไปประหนึ่งคนละคน ทุ่มเทใจให้แก่เจียงเม่ยเอ๋อร์จนไม่สนใจราชกิจ ฝ่าบาทจึงริบอำนาจครึ่งหนึ่ง แล้วมอบให้อัครเสนาบดีเป็นผู้ดูแลแทนฉู่อี้ถามขึ้นว่า “เสด็จพ่อ ในราชสำนักมีขุนพลมากมาย เหตุใดต้องจึงเลือกพี่สามหรือ”ฝ่าบาทกล่าวว่า “พี่สามของเจ้าฉลาดหลักแหลมตั้งแต่น้อย เชี่ยวชาญพิชัยยุทธ์ ย่อมเหมาะสมต่อการปราบเหล่าหนานเจียงผู้เล่ห์เหลี่ยม...”“อีกประการหนึ่ง ก็คือโอรสประหลาดของพี่สามของเจ้า...”ฉู่อี้เม้มริมฝีปากเล็กน้อย แล้วกล่าวขึ้นว่า “เสด็จพ่อ กระหม่อมเห็นว่ามิสมควรส่งพี่สามไปพ่ะย่ะค่ะ”ฝ่าบาทก้มหน้ามองเขา “เหตุใดเจ้าจึงว่าเช่นนั้น”

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 635

    ฉู่อี้ถือสาส์นขึ้นอ่าน ตัวหนังสือบนหน้ากระดาษแน่นขนัด เขาเลือกอ่านเฉพาะข้อความสำคัญ ไม่นานก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดหัวหน้าชนเผ่าแห่งหนานเจียงคิดก่อกบฏ ใช้อาคมควบคุมตัวเจ้าเมืองกวนหนาน แล้วนำไพร่พลหนึ่งแสน ยึดครองเมืองกวนหนานในชั่วข้ามคืนฉู่อี้ขมวดคิ้ว ค่อย ๆ วางสาส์นลงเมื่อร้อยปีก่อน หนานเจียงยังมิได้เป็นส่วนหนึ่งของต้าหยวน หากแต่เป็นเพียงชนเผ่าลับแลครั้งนั้นฝ่าบาทต้าหยวนเห็นว่าหนานเจียงมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ จึงนำทัพไปตีหนานเจียงด้วยพระองค์เองหลังสงครามอันนองเลือด หนานเจียงจึงถูกต้าหยวนผนวกเข้าเป็นหนึ่งเดียวขณะนำทัพ ฝ่าบาทในครั้งนั้นถูกพิษกู่จนเกือบสิ้นการมองเห็น จำต้องสละราชสมบัติอย่างจนใจฝ่าบาทพระองค์ใหม่เสด็จขึ้นครองราชย์ ทรงเกรงว่าหนานเจียงจะคิดกบฏ จึงส่งไพร่พลสองแสนไปตั้งป้อมปราการและคูเมืองล้อมหนานเจียงไว้ป้อมปราการและคูเมืองนี้มีไว้เพื่อสกัดกั้นหนานเจียง จึงตั้งนามว่า "เมืองกวนหนาน"ตลอดร้อยปี ฝ่าบาทแต่ละพระองค์ต่างให้ความสำคัญแก่เมืองกวนหนานกันทั้งสิ้น เจ้าเมืองล้วนคัดเลือกอย่างดี ผลัดเปลี่ยนทุกสิบปี ล้วนซื่อสัตย์ต่อราชวงศ์อีกทั้งด้วยความละอายใจต่อราษฎรเมืองกว

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 634

    เจียงซุ่ยฮวนดึงว่านเมิ่งเยียนเข้ามาข้างกาย เอ่ยถามว่า “เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่”เฉียนจิงอี๋ปรายตาเยาะเย้ยไปยังปาฟางและพรรคพวก แล้วยิ้มพลางกล่าวกับเจียงซุ่ยฮวนว่า “ก็ชอบเจ้าน่ะสิ ข้าอยากได้เจ้ามาเป็นภรรยา”ปาฟางโกรธจนแทบลุกเป็นไฟ ทว่าเจียงซุ่ยฮวนกลับแน่ใจว่าเฉียนจิงอี๋กล่าวเท็จ“หากไม่คิดพูดความจริง เราก็มิมีเรื่องต้องกล่าวอีก” เจียงซุ่ยฮวนฉุดว่านเมิ่งเยียนแล้วหันหลังเดินจากไปปาฟางและคนอื่น ๆ ตามหลังไปพลางระวังหลัง มิให้เฉียนจิงอี๋จู่โจมกระทันหันเคราะห์ดีที่เฉียนจิงอี๋มิได้ตามมา เจียงซุ่ยฮวนกับว่านเมิ่งเยียนไม่มีกะจิตกะใจจะเดินเล่น จึงกลับร้านหรงเยว่เก๋อทันทีแม้เรื่องวุ่นวายเล็กน้อยนี้จะทำให้ใจขุ่นมัว แต่เจียงซุ่ยฮวนก็มิได้ใส่ใจ ไม่นานก็กลับมาแจ่มใสอีกครั้ง และเริ่มดูแลลูกค้าตามเดิมด้านราชสำนักในเวลานั้นกลับเกิดความโกลาหลขึ้นม้าศึกสีดำทะยานผ่านประตูวังไปโดยไร้ผู้ขัดขวาง ตรงมายังหน้าตำหนักว่อหลง คนขี่รีบโดดลงจากม้า วิ่งตรงเข้าตำหนักเหล่าขันทีรีบเข้ามาขวาง แต่เขาชักจดหมายออกจากอก โบกเบา ๆ สองครา เมื่อเห็นลายดอกสีดำบนซอง ทุกคนก็หน้าซีดถอยกรูไปภายในตำหนักว่อหลง ฝ่าบาทและองค์ช

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status