"พี่สี่กลับมาแล้ว" หนานอ๋องมองหยางอ๋องยกจอกสุรากระดกเข้าปาก
"ข้ากลับมาเพราะเรื่องเสบียง เหตุใดข้าส่งสาส์นขอเสบียงเสด็จพ่อจึงเงียบเฉยเล่า" หยางอ๋องเอ่ยกับหนานอ๋อง ในยามนี้ สองพี่น้องได้ร่ำสุราด้วยกันหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาหลายเดือน
"เรื่องนี้ ท่านต้องถามฝูอ๋องแล้วล่ะ ว่าแต่ท่านมาคราวนี้ จะอยู่ที่เมืองหลวงนานรึไม่"
"ส่งเสบียงเสร็จอาจจะอยู่กับสองแฝด สักหลายวันหน่อย"
แน่นอนว่าการไปออกรบที่เมืองจินหลายเดือนทำให้หยางอ๋องคิดถึงสองแฝดเป็นอย่างมาก
"พี่สี่ นางยังไม่ตาย อีกทั้งได้ยินว่า นางสลบไปหนึ่งวัน ตื่นมากลับทำดีกับสองแฝด" หนานอ๋องสบตาพี่ชายไม่อยากจะเชื่อ
"น้องหก ข้าไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ แต่ข้าจะจับตาดูนางเอาไว้ ยาที่เจ้าให้ไป มีอีกรึไม่" หนานอ๋องเป็นคนมอบยาพิษให้แก่หยางอ๋องเมื่อหลายเดือนก่อน ก่อนไปหยางอ๋องสั่งให้พ่อบ้านจางวางยาหลี่ซินเอง
นึกว่านางจะตาย ที่ไหนได้ นางยังดวงแข็งยิ่งนัก นางยังไม่ตาย
"พี่สี่จะวางยานางอีกรึ" หนานอ๋องมองพี่ชาย เขาจะวางยาหลี่ซินอีกจะไม่ใจร้ายไปหน่อยรึ สตรีนางนั้นก็เป็นคนดีแล้ว มิใช่รึ ยังต้องใช้ยาอีกรึ
"ข้าจะวางยานางอีก ตอนที่นางกลับมาร้าย ยามนี้นางทำตัวดี ที่ปกป้องเด็ก ๆ จากชายาฝูอ๋อง แต่เจ้ารู้รึไม่ นางนอนกับบุรุษมาแล้ว แล้วแต่งเข้ามาในจวนอ๋อง นี่คือสิ่งที่ข้ารับมิได้"
หนานอ๋องฟังแล้วยังนึกรังเกียจหลี่ซินแทนพี่ชายเสียจริง ช่างเป็นสตรีที่ร้ายกาจสมชื่อจริง ๆ
"พี่สี่ข้าสงสารท่านนัก วันพรุ่งข้าจะเข้าเฝ้าไทเฮา ท่านจะไปหานางกับข้ารึไม่"
ไทเฮารึคือพระมารดาของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันของราชวงศ์ พระนางรักหลานทุก ๆ คนเท่ากัน ในยามนี้ ได้ยินว่าพระนางไม่ค่อยสบาย ป่วยเรื้อรัง หมอหลวงรักษายังไม่หาย
ในวัยเยาว์ องค์ชายสี่ องค์ชายหกไม่มีพระมารดาคอยดูแล พวกเขาก็ได้ไทเฮาคอยเมตตามาตลอด ในยามนี้พระนางต้องการกำลังใจ หนานอ๋องคิดว่าเขาต้องไปเข้าเฝ้าพระนาง
"ข้าจะไปเช่นกัน"
กลับมาถึงจวนอ๋อง หยางอ๋องก็พลันเข้าไปในเรือนของเขา พบแม่นมจาง แม่นมจางยอบกายคำนับหยางอ๋อง
"สองแฝดนอนแล้วรึ"
"เพคะ บ่าวมีเรื่องต้องรายงานท่านอ๋อง" หยางอ๋องนั่งลงตั่งเตี้ย อี้ชางรินน้ำชาให้เจ้านาย
"เอ่อ.." สายตาแม่นมจางมองไปที่อี้ชาง
"อี้ชางออกไปก่อน" อี้ชางรับคำเดินออกไปทันที
"ว่ามา"
"เมื่อเช้ามีสาวใช้เปลี่ยนผ้าปูเตียง พบว่ามีคราบเลือดติดอยู่เพคะ" แม่นมจางนำผ้าปูมาคลี่ให้หยางอ๋องดู
นี่มันเรื่องบ้าอันใดกัน เขาไล่แม่นมจางออกไป สั่งอี้ชางเข้ามากับอี้โจ
"ขอรับท่านอ๋อง"
"ไปสืบความบุรุษในภาพนี้เป็นผู้ใด" หนานอ๋องวาดบุรุษที่นอนกับหลี่ซินด้วยตัวเอง เขาไม่กล้านำภาพนั้นออกมา
"ขอรับ" อี้ชางรับคำ แต่ทว่าอี้โจยังไม่ไป หยางอ๋องปรายตามององครักษ์
"มีอันใด"
"เมื่อวานก่อน ข้าน้อยพบว่า พระชายาแอบเลี้ยงบุรุษไว้"
"จับตาดูไว้ให้ดี"
สตรีนางนี้ร้ายกาจนัก
เช้าวันถัดมาหลี่ซินลุกขึ้นมาอย่างเหนื่อยล้า วันนี้นางต้องไปส่งสองแฝดไปสำนักศึกษาหลวง กระนั้นนางจึงแต่งกายด้วยชุดสีชมพู ลายผีเสื้อล้อมบุปผา ที่หน้าคันฉ่อง นางใช้แป้งทาบริเวณที่เป็นรอย อีอีนึกสงสารเจ้านายไม่หาย
"ป่านนี้เด็ก ๆ รอแย่แล้ว" อีอีประคองเจ้านาย หมายจะเดินออกไป แต่ก็ประชันหน้ากับหยางอ๋องในอาภรณ์สีเขียวลายใบไผ่ ใบหน้างามเกลี้ยงเกลา ผมที่เคยปล่อยยาวรวบตึงขึ้นประดับด้วยกวานหยกสีดำ ทับด้วยปิ่นหยกบุรุษ
หลี่ซินคิดว่า เขาแต่งกายดูดี จะไปไหนเหตุใดต้องมาที่เรือนของนางในยามเช้าด้วย
"ท่านอ๋อง หลีกทางข้า ข้าจะไปส่งสองแฝดไปเรียน" นางพูดด้วยน้ำเสียงเนิบช้า หยางอ๋องพนิจมองนางตั้งศีรษะจรดเท้า
สตรีนางนี้ไม่แต่งกายเสื้อผ้าสีฉูดฉาดเหมือนเมื่อก่อนเล่า
"แม่นมจางไปส่งแล้ว เจ้าไปเข้าเฝ้าไทเฮากับข้าแล้วกัน" หลี่ซินมองหยางอ๋อง บุรุษผู้นี้จะมาไม้ไหนอีกนี่
"แต่..."
"ไม่มีแต่ รีบไปขึ้นรถม้า"
ภายในรถม้าต่างคน ต่างเงียบสนิท หลี่ซินเหนื่อยยิ่งนัก เหตุใดตอนแรกหลี่ซินคนเดิมถึงได้อยากแต่งกับคนไร้หัวใจเยี่ยงนี้นัก
หยางอ๋องลอบมองชายาของเขา นางไม่ได้แต่งหน้าหนาเถอะ แต่เขาสังเกตรอยแดงที่คอ ที่เขาฝากไว้ เมื่อคืนมันไปไหนเสียเล่า
"เจ้าปกปิดรอยนั้นไว้ดีเสียจริง" หลี่ซินได้ยินเช่นนี้ใบหน้าพลันแดงก่ำ
"ท่านมันเลวเสียจริง" ช่างกล้าพูดเรื่องต่ำช้าที่ตัวเองทำ
"ข้าก็เลวไม่ได้ครึ่งหนึ่ง ของเจ้าที่รังแกเด็กหรอกกระมัง"
หลี่ซินไม่อยากจะเถียง นางเหนื่อยมากจริง ๆ กับคนเยี่ยงนี้
"ทำไมไม่เถียงเล่า เข้าเฝ้าไทเฮา เจ้าไม่ต้องพูดอันใดให้มากความ เข้าใจรึไม่"
นางยังคงเงียบ
จนหยางอ๋องย้ายก้นมานั่งข้างนาง กระนั้นทำให้คนงามตกใจ
"ท่านอย่าใกล้ข้า"
"เจ้าจะหวงตัวทำไม แค่ข้านั่งใกล้เจ้า แต่ก่อนเป็นฝ่ายวิ่งเข้าหาข้า"
นั่นมันแต่ก่อน ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน
"ข้าเข้าใจแล้วจะต้องทำตัวอย่างไร ท่านออกไปเถอะ" หยางอ๋องบีบแก้มงามแล้วสบตากับนาง ริมฝีปากบดขยี้ลงบนฝีปากอวบอิ่มของคนงาม หลี่ซินถึงกับตาโตเท่าไข่ห่าน...
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล