"ถวายพระพรไทเฮาเพคะ" เมื่อสองสตรีมาถึงยอบกายคำนับชิงไทเฮา สวีเหมยกับสวีเหมียวโดนโบยเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกนางยังไม่หายปวดก้นเลย แต่ทว่าสวีฮองเฮาให้พวกนางสองพี่น้องมาเยี่ยมไทเฮา
"ชายาฝูอ๋อง คุณหนูรองสวี เชิญนั่งเถอะ" ทั้งสองนั่งเก้าอี้ที่นางกำนัลจัดให้
"ได้ยินว่าพระนาง ไม่สบาย หม่อมฉันนำขนมมาถวายเพคะ" สวีเหมยเอ่ยขึ้น
"แม่นมหวังรับไว้" แม่นมหวังทรงทำตามรับสั่ง
"ซินเอ๋อร์ เราคุยกันถึงไหนแล้ว" พระนางเบนสายตามามองหลี่ซิน ที่มีท่าทีสบาย ทำให้สองพี่น้องเป็นส่วนเกินทันที
สวีเหมยคิดว่าเป็นเช่นนี้ไม่ได้ เพราะสวีฮองเฮามอบหมายงานให้นางทำ จะต้องสำเร็จ
"พระนางไม่ลองชิมหรือเพคะ" สวีเหมยโน้มน้าวให้ชิงไทเฮาเสวย
พระนางอยากจะไล่สองคนนี้ออกไปเหลือเกิน กระนั้นจึงสั่งให้แม่นมหวังนำขนมออกมา
"พวกเจ้าก็ชิมด้วยสิ"
สองคนพี่น้องสบตากัน
"เพคะ" ทั้งสองสังเกตสัญญาลักษณ์บางอย่าง ในขนมแล้วหยิบขึ้นมากิน
หลี่ซินไม่เกรงใจ กระนั้นจึงกินขนมดอกกุ้ยไปชิ้นหนึ่ง
"เอาล่ะ พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว" พระนางออกปากไล่สองพี่น้อง
คล้อยหลังสองพี่น้อง ชิงไทเฮาพูดสัพเพเหระกับหลี่ซินต่อ จู่ ๆ พระนางก็เป็นลม
"ชิงไทเฮาเพคะ ชิงไทเฮา" หลี่ซินตกใจไม่น้อย ในตำหนักชิงเหมยทุกคนต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่ชิงไทเฮาเป็นลม สองพี่น้องสกุลสวีเป็นลมในรถม้าเช่นกัน
วันนั้นหมอหลวงตรวจอาการของชิงไทเฮาได้รับพิษบางอย่างเข้าไป
อีกทั้งชายาฝูอ๋องกับคุณหนูรองสวีได้รับพิษเช่นกัน ส่วนคนที่ไม่ได้รับพิษคือหลี่ซิน กระนั้นนางจึงถูกจับตัวขังไว้ในคุกหลวงยามนี้
หลี่ซินนั่งพิงกรงเหล็ก ข้ามภพมาต้องมาเจออะไรแบบนี้ นางคิดว่าคนพวกนี้คงเตรียมการมาแล้วกระมัง สวีฮองเฮาช่างร้ายนัก ยืมดาบฆ่าคน ส่วนนางคือแพะรับบาป ยังไงนางต้องหาทางออกจากคุกหลวงให้จนได้
ยามนี้หยางอ๋องร้อนรนใจยิ่งนัก เขาหารือกับฝ่าบาทเรื่องส่งเสบียงไปเมืองจินอยู่ในห้องทรงอักษร แต่ทว่าเกิดเรื่องหลี่ซินวางยาชิงไทเฮาเสียก่อน
"เจ้าไม่ก่อเรื่องจะได้รึไม่" น้ำเสียงโมโหพลันเอ่ยขึ้น เขาจะช่วยนางอย่างไร แม้จะเกลียดนาง แต่ไม่อยากให้นางตายเพราะฝีมือคนอื่น ใช้เป็นเครื่องมือ
"ข้าไม่ได้ทำ" หลี่ซินในชุดนักโทษสีขาว เกราะกรงขังมองหยางอ๋อง
"เจ้ารู้รึไม่ มีทั้งพยานที่เห็นว่าเจ้าวางยาในขนม นางกำนัลตำหนักชิงเหมย สารภาพกับกรมอาญาเรียบร้อยแล้ว"
เรื่องราวมันรวดเร็วจนหยางอ๋องรับมือไม่ทัน อีกทั้งฝ่าบาททรงเคารพรักชิงไทเฮามาก แน่นอนว่าถ้าหลักฐานชัดเจนแล้ว หลี่ซินมิอาจหลุดจากเรื่องนี้ไปได้ อีกทั้งด้วยนิสัยร้ายกาจของนางรึจะเป็นคนดี นี่คือสิ่งที่ฉู่เฟิงตรัสกับหยางอ๋อง ก่อนที่เขาจะมาคุกหลวง
หลี่ซินคิดไว้แล้ว คนพวกนี้เตรียมการมาไว้อย่างดี จะให้นางตายไปพร้อมกับชิงไทเฮา
"ข้าไม่ได้ทำ ข้าไม่ยอมหรอกนะ" หลี่ซินมีแววตามุ่งมั่น
"หากสามวัน หาหลักฐานว่าเจ้าบริสุทธิ์ เจ้าก็จะได้ออกคุกหลวง หากไม่ คือวันที่จะประหารเจ้า ยามนี้หมอหลวงรักษาไทเฮาไม่ได้สักคน"
หยางอ๋องรักและผูกพันกับชิงไทเฮามาก ถ้าไม่มีพระนางก็ไม่มีอ๋องนักรบเช่นวันนี้
สามวันรึ
หยางอ๋องเดินออกไปอย่างไม่สนใจนาง หลี่ซินยืนนิ่ง ใช่แล้วนางสามารถรักษาพระนางได้ เขาเดินไปไกลแล้ว นางเรียกเขาไม่ทัน หลี่ซินนั่งลงบนกองฟางที่เหม็นสาบไปด้วยกลิ่นหนูตาย อีกทั้งแมลงสาบด้วย
พอราชครูหลี่เจิ้งรู้ข่าวเรื่องที่บุตรสาวคนโตทำเลวไว้ถึงกับตกใจจนพูดไม่ออก เขาไปขอเข้าเฝ้าฝ่าบาท แต่ฝ่าบาท ไม่ทรงอนุญาต หลี่เจิ้งคุกเข่านาน กระนั้นจึงตัดสินใจกลับไปที่จวน
หยางอ๋องกลับถึงจวนยามพลบค่ำ เห็นเด็กแฝดสองคน เหตุใดพวกเขาถึงได้ออกมาเดินหน้าเรือนยามนี้ ช่วงนี้มีน้ำหมอกลงมาอย่างมากเพราะย่างเข้าฤดูหนาว
"พวกเจ้ายังไม่เข้าเรือน" พอหยางอ๋องมาถึงเรือนเล็ก เอ่ยถามสองแฝดทันที สองแฝดมองข้างหลังบิดา สายตาราวกับว่ามองหาใครคนหนึ่งอยู่
"พวกข้ารอท่านแม่" เสี่ยวเปยตอบบิดา ในใจของบิดากำลังจะสรรหาคำโกหกมาบอกบุตรทั้งสอง
"นางกลับบ้านเดิมของนาง อีกไม่กี่วันก็มาแล้ว" พอเด็กแฝดได้ยินกระนั้นไม่อยากจะเชื่อ เหตุใดท่านแม่ไม่บอกพวกเขาสองคนก่อนเล่า
"ท่านหญิง ท่านชาย" แม่นมจางถือชามนมแพะเข้ามา ตกใจเมื่อเห็นเด็กทั้งยืนอยู่หน้าเรือน
"แม่นมรีบพาพวกเขาเข้าไปนอน"
"เพคะ" แม่นมจางรีบวางชามนมแพะ ไว้ด้านใน กุมมือน้อย ๆ สองแฝดเข้าไปในเรือน
ในห้องหนังสือยามนี้ หยางอ๋องหมุนแหวนที่นิ้วโป้งฟังอี้ชางเล่าเรื่องราวของบุรุษที่หลับนอนกับหลี่ซิน
"ข้าน้อยถามเจ้าของโรงเตี๊ยมแห่งนั้น พบว่าหลี่หลานเป็นคนจัดฉาก จ้างบุรุษผู้นั้นมานอนกอดพระชายา แล้ววาดภาพขึ้นมาขอรับ" อี้ชางรายงานเจ้านาย หยางอ๋องไม่คิดว่าคนอย่างหลี่ซินร้ายถึงขนาดพี่น้องต้องรังเกียจ แน่นอนเพราะนางคือนางร้ายแห่งแคว้นชิง แต่ทว่าในยามนี้ เขาจะช่วยนางได้อย่างไร แม้จะรังเกียจนาง แต่ไม่อยากให้นางตาย
หยางอ๋องพลันคิดหนักยิ่งนัก
"อี้โจ เจ้าไปตามหนานอ๋องมาพบข้า"
"ขอรับ" อี้โจรับคำสั่งหายออกไปทางหน้าต่างชั่วพริบตาเดียวประดุจสายฟ้าฟาดลงมา...
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล