หลายวันผ่านไปชาวเมืองจินต่างขอบคุณ สรรเสริญหยางอ๋องที่ช่วยเหลือบุตรสาวของพวกเขาจากพ่อค้าทาส ที่ปลอมตัวเป็นคนซื้อขายผ้าต่วน อีกทั้งได้ยินมาว่าพ่อค้าพวกนั้นกินยาตายในคุกทหารแล้ว ทำให้หยางอ๋องสืบหาผู้อยู่เบื้องหลังไม่เจอ
หลี่ซินส่งสองแฝดไปที่สำนักศึกษาหลวงซังหมิน นางแวะตลาดกับอีอี แต่ทว่ายิ่งเดินไปพบคนป่วยนอนเรียงรายกันอย่างน่าสงสาร พวกเขาไอโขลก ๆ อีกทั้งมีตุ่มเต็มด้วย
"ช่วยพวกข้าด้วยแม่นาง"
"ไปนะ อย่ามายุ่งกับเจ้านายของข้า" อีอีรีบปัดคนพวกนั้นออกจากหลี่ซิน
ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นหมอ หลี่ซินต้องหาหนทางช่วยคนพวกนี้แน่นอน
"พระชายารีบกลับเถอะเพคะ" หลี่ซินสมองขบคิดกลับไปที่รถม้า เหตุใดถึงได้มีโรคระบาดเกิดขึ้นได้
ค่ายทหารนอกเมืองจิน ในยามนี้หยางอ๋องกับหนานอ๋องกำลังเดินหมากรุกกันอยู่ สามกระดานแล้วที่หยางอ๋องชนะหนานอ๋อง
หนานอ๋องมองพี่สี่ เขาไม่เคยเอาชนะพี่สี่ได้เลย พี่สี่เป็นคนมีไหวพริบดี เก่งทั้งด้านบู๊และด้านบุ๋น
"แย่แล้วขอรับ ทหารที่อยู่ในค่ายเกิดเป็นไข้ขึ้นมาขอรับ" อาหวังรีบรายงานเจ้านายให้ทราบ
หยางอ๋องรีบเข้าไปในกระโจมทหาร พบว่าทหารนับสิบนอนหนาวสั่น อย่างน่าสงสาร โชคดีที่ค่ายมีท่านหมอชางโจ หมอที่มาจากเมืองหลวง กระนั้นหยางอ๋องจึงสั่งให้หมอชางโจรักษาเหล่าทหาร
ในยามนี้หลี่ซินอยู่ที่เรือนกำลังคิดหาทางรักษาชาวบ้านพวกนั้น ยาแผนปัจจุบันน่าจะช่วยได้
"ท่านแม่ ท่านแม่" เสี่ยวเปา เสี่ยวเปยพลันวิ่งเข้ามาหามารดาในเรือน
"มีอันใดรึ"
"สำนักศึกษาหยุดเรียน เพราะมีเด็กเป็นไข้หวัดจำนวนมาก" คำพูดของเสี่ยวเปยทำให้นางอดเป็นห่วงเด็ก ๆ มิได้
"ข้าดีใจยิ่ง ที่จะได้อยู่บ้านกับท่าน" เสี่ยวเปาพูดขึ้นมา เด็กช่างไม่รู้เรื่องราวอันใดเสียจริง ว่าภัยกำลังมาถึงตัว
สองแฝดเล่นในเรือนหลี่ซินได้ไม่นาน แม่นมจางก็พาพวกเขากลับเรือนไป
พลบค่ำหยางอ๋องเดินเข้ามาในเรือน เห็นหลี่ซินบดยาอะไรสักอย่าง
"เจ้าทำอันใด"
"ข้าบดยาคิดว่าจะนำไปแจกจ่ายชาวบ้านเจ้าค่ะ" นางมีน้ำใจขนาดนั้นเชียวรึ
"ดียิ่งนัก"
"วันนี้ข้าออกไปข้างนอก พบคนเร่ร่อนเป็นไข้เยอะมาก สงสารพวกเขา ข้าคิดว่าการนำยาไปแจกพวกเขาเป็นการดีที่สุด เพราะบางคนก็ไม่มีเงินรักษา"
"ซินเอ๋อร์ของข้าฉลาดมาก" หยางอ๋องกินเต้าหู้นางโดยการจุมพิตที่แก้มงามอย่างอ่อนโยน
"ท่านอ๋อง ท่านจะไม่ล่วงเกินข้าอย่างไรเล่า" ใบหน้างามเม้มปากเข้าหากันด้วยความโมโห
"ข้าขอโทษ นานรึไม่ เจ้าจะให้โอกาสข้า" เขาอดใจไม่ไหวจริง ๆ
"ท่านมันลามกเสียจริง" ค่ำคืนนั้นหยางอ๋องนอนที่ตั่งยาว ส่วนคนงามอย่างหลี่ซินนอนที่เตียงอย่างสบาย จะให้อภัยเขาง่ายมิได้ สิ่งที่เขาทำกับเจ้าของร่างเดิมก็มันโหดร้ายมากเช่นกัน รอให้เวลารักษาแผลใจดีกว่า
ค่ำคืนที่เหน็บหนาว หลี่ซินได้ยินเสียงหยางอ๋องบนว่าหนาว กระนั้นนางลุกขึ้นนำผ้าห่มอีกผืนไปห่มให้เขา
"เจ้าเป็นห่วงข้ารึ" อ๋องป่าเถื่อนลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน
"ใครห่วงท่าน ข้ากลัวท่านหนาวตายหรอกนะ" นางรีบขึ้นไปที่เตียงนอนหันหลังให้เขา
ชายหนุ่มยิ้มไม่หุบ กับความเขินอายของนาง หลี่ซินด่าหยางอ๋องในใจ คนบ้า นางไม่ได้เป็นห่วงเขาเสียหน่อย กลัวเขาจะตายในเรือนของนางต่างหาก
ในเมืองจินตรอกถนนเต็มด้วยคนป่วย เสียงเคาะประตูหน้าโรงหมอ
"ท่านหมอ ช่วยพวกเราด้วย ท่านหมอ" เสียงคนเร่ร่อนขอร้องท่านหมอ แต่ไร้วี่แววของท่านหมอที่จะเปิดประตูมารักษาพวกเขา ช่างน่าเวทนายิ่งนัก
ยามเช้าชาวบ้านเมืองจินต่างติดไข้ระบาดอย่างหนัก เพียงหลี่ซินทราบข่าว นางเปิดประตูดูที่หน้าจวน พบชาวเมืองจินเดินไปมา ไอโขลก ๆ อีกทั้งบางคนถึงกับล้มลงไปกับพื้น
ได้ยินว่า โรงหมอมีตั้งสามโรงปิดหมด เพราะท่านหมอหายตัวไป
หลี่ซินไม่รอช้า เดิมทีจะแจกจะยาให้ชาวบ้านไปต้มเอง
นางสั่งการไปที่โรงครัว ให้เคี่ยวยาแก้ไข้แจกประชาชน ความนี้ไปถึงหูหยางอ๋องและหนานอ๋อง
"นางเคี่ยวยาแจกชาวบ้านหน้าจวนรึ" หยางอ๋งถามอาหวังที่มารายงาน เมื่อคืนนางบอกว่าจะให้ชาวบ้านไปต้มกินเอง เกรงว่านางน่าจะรู้ว่า ท่านหมอหายตัวไป
"นางทำดีแล้ว"
"พี่สี่ แล้วหมอหายไปไหน" หนานอ๋องยังตกใจ จู่ ๆ หมอในเมืองจินต่างหายตัวไปอย่างลึกลับ
"ข้าว่าเรื่องนี้ ต้องเกี่ยวกับนายอำเภอฟูเหิงแน่นอน ข้าคิดว่าจะเข้าไปจับกุมเขา แต่ยามนี้ ต้องรักษาชาวบ้านให้หายก่อน"
หยางอ๋องสั่งองครักษ์ทั้งสองไปตามหาท่านหมอที่หายไป ที่ทุกซอกทุกมุมในเมืองจิน
หลี่ซินในยามนี้ แจกยาแก้ไข้ให้แก่ชาวเมืองจินที่หน้าจวน อีกทั้งสั่งข้ารับใช้ต้มข้าวต้มมาแจกชาวบ้านด้วย ทำให้ชาวบ้านซึ้งใจยิ่งนัก
หลี่ซินนึกได้ว่าหมอหายไปต้องมีคนลักพาตัวพวกเขาแน่ กระนั้นเดินเข้าไปในเรือน เรียกอาจูไปสืบความ อาจูรับคำหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
หลี่ซินมองดูชาวบ้านรับชามยาและชามข้าว ต่างเอ่ยขอบคุณนาง นางยังบอกอีกว่าจะแจกข้าวต้มทุกวัน จนกว่าชาวเมืองจินจะหายจากโรคไข้หวัด ทำให้ชาวบ้านต่างยกย่องนางอย่างมาก
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล