เทียบเชิญงานเลี้ยงบุปผาจวนชางอ๋อง
หนิงอ๋องมองคนงามอย่างถังลีนั่งรถม้าอย่างสบายใจอีกทั้งนางหยิบผิงกั๋วกินอย่างไม่สนใจสายตาของเขา นางทำให้เขาอึ้งงันอย่างมากเรื่องที่นางช่วยท่านยายของเขา
"ขอบคุณเจ้ามาก"
"ไม่เป็นไรข้าย่อมต้องช่วยคนอยู่แล้ว" ถังลีเปิดม่านมองร้านค้านางกำลังคิดหาทำเลขายของ
หนิงอ๋องได้แต่มองนางอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดว่านางจะเลือกเขาจริง ๆ นางไม่เลือกบิดาของนาง ทำให้หนิงอ๋องรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อถึงจวนอ๋องทั้งสองต่างแยกย้ายกันกลับเรือน ถังลีได้รับเทียบเชิญให้ไปงานเลี้ยงจวนชางอ๋องหรืององค์ชายสี่ ฉินชางนั่นเอง องค์ชายสี่ฉินชางจัดงานเลี้ยงบุปผาขึ้นที่จวน ดูท่าหนิงอ๋องก็คงได้รับเทียบเชิญนี้เหมือนกันกระมัง
"พระชายาท่านอ๋องให้บ่าวนำชุดมาให้ท่านเลือกใส่ไปงานเลี้ยงบุปผาของของชางอ๋องเจ้าค่ะ" ถังลีมองผ้าชุดสีม่วงที่โดดเด่น โชคดีที่นางผิวขาวเลยมิต้องกังวลอันใดมาก
หนิงอ๋องมองสาวใช้เขามารายงามว่าพระชายาของเขาเลือกชุดสีม่วง
"ข้าก็เลือกชุดสีม่วงเหมือนกันกับนางพวกเจ้านำไปตัดเถอะ"
"เจ้าค่ะ" สาวใช้รีบมุ่งหน้าไปที่ร้านตัดผ้าทันที
ในยามนี้ถังลีพาเสี่ยวจูกับอาหนานออกมาเดินเล่นที่ตลาดในตอนที่นางนั่งรถม้าผ่านเมื่อครู่ นางเห็นป้ายติดประกาศขายตึก
"คุณหนูเหตุใดท่านต้องสนใจตึกนี้ด้วยเจ้าคะ" อาหนานกับเสี่ยวจูยังไม่ทราบความคิดของผู้เป็นนาย
"นายหญิงไม่ทราบว่าท่านสนใจซื้อตึกนี้ใช่รึไม่" เถ้าแก่มีอายุเดินมาถามพวกนาง แน่นอนว่าถังลีต้องการอย่างมาก นางจะเปิดร้านขายเครื่องประดิษฐ์ย่อมต้องการร้านที่มีขนาดใหญ่
"ข้าสนใจ"
"เชิญนายหญิงตามข้ามา" ถังลีและบ่าวรีบตามหลังเถ้าแก่ผู้นั้นไปด้านในเพื่อทำการซื้อขายตึกนั้น
ถังลีมองโฉนดตึกเป็นของนางแล้วในราคาสามร้อยตำลึง สองบ่าวมองเจ้านายไม่กะพริบตาแล้วเดินเข้าไปด้านใน
"อาหนานเจ้าเป็นคนดูแลกิจการนี้แทนข้าแล้วกัน"
"ขอรับนายหญิง"
"รอให้ข้านำของออกมาก่อนเจ้าค่อยมาเฝ้าร้าน" หลังจากที่สำรวจเรียบร้อยแล้วถังลีก็พาสองบ่าวกลับจวนเข้าทางด้านหลังจวน นางคิดว่ายามพลบค่ำนางถึงจะมาจัดการตึกของนาง
ยามพลบค่ำถังลีไล่เสี่ยวจูออกไปนอน หญิงสาวออกมาทางด้านหลังมุ่งหน้ามาที่ตึกแถวของนาง นางเปิดประตูแล้วเข้าไป อีกทั้งพลันเพ่งสมาธินึกถึงห้องยา
"นาฬิกาแขวนนับร้อยจงออกมา" ชั่วพริบตาเดียวนาฬิกานับร้อยออกมาวางเรียงกันที่โต๊ะ ถังลียิ้มอย่างมีความสุข
ถังลีนึกถึงความร่ำรวยที่จะเกิดขึ้นใบหน้างามระบายไปด้วยรอยยิ้ม
"แว่นตาจงออกมา"
พริบ !!!
ชั่วพริบตาเดียวแว่นตานับร้อยวางเรียงกัน อย่างไม่คาดฝัน
กระนั้นถังลีนึกถึงน้ำหอมกลิ่นกุหลาบ น้ำหอมกลิ่นกุหลาบพลันวางเรียงรายกันอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เมื่อมาถึงจวนหนิงอ๋อง ถังลีนอนหลับอย่างสุขใจ ยามเช้านางอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จแล้ว ให้เสี่ยวจูไปเรียกอาหนานมาพบพบนาง
"นายหญิงมีอะไรให้บ่าวรับใช้ขอรับ"
"อาหนานนับแต่นี้เจ้าจงไปอยู่หอประดิษฐ์ สหายของข้าได้นำของประดิษฐ์ไปไว้ในร้านเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งราคาก็ติดไว้แล้ว" เสี่ยวจูกับอาหนานต่างอึ้งงัน นายหญิงมีสหายตั้งแต่เมื่อใด แต่ก็ไม่กล้าถามกระนั้นอาหนานจึงออกไปทางด้านหลังจวน
"เสี่ยวจูพวกเราไปหาหนิงอ๋องกันเถอะวันนี้ข้าจะรีดพิษให้เขา" ถังลีดีใจกับความร่ำรวยที่กำลังจะเกิดขึ้นกับนาง
หนิงอ๋องที่กำลังมองอาหารเช้ากองตรงหน้า เหตุใดถังลียังไม่มารักษาอาการให้เขาอีก เขาไม่มีอารมณ์กินข้าวเลยแม้แต่น้อย
"ท่านอ๋อง พระชายามาแล้วเจ้าค่ะ" บ่าวเข้ามารายงานทำให้สีหน้าของหนิงอ๋องพลันดีขึ้นมาเล็กน้อย
"เจ้ามาแล้ว" หนิงอ๋องดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ ถังลีถือวิสาสะนั่งลงที่เก้าอี้มองอาหารหลายอย่าง
"ท่านอ๋องคิดถึงข้ารึ เหตุใดไม่กินข้าว ถ้าอย่างนั้นเช้านี้ข้ากินข้าวด้วยนะเจ้าคะ" หนิงอ๋องไม่รู้จะตอบคำถามอันไหนก่อนดี คิดถึงนางหรือให้นางกินข้าวด้วย
"แม่นมหงนำชามข้าวกับตะเกียบให้พระชายา" แม่นมหงทำหน้าไม่พอใจนักแต่ก็รับคำให้บ่าวไปหามาให้
ถังลีได้กลิ่นอาหารขาหมูตุ๋น นางค่อย ๆ คีบหนังมันออกมาจากนั้นก็ยัดเข้าปาก หนิงอ๋องอดใจไม่ไหวคีบอาหารทุกอย่างที่นางคีบตามนาง เค่อจ้าวกับแม่นมหงมองหนิงอ๋องไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าเขาจะขอข้าวชามที่สามแล้ว ชั่วพริบตาเดียวอาหารบนโต๊ะกลมก็หมดเกลี้ยงทุกอย่าง
หากพระชายามาเสวยอาหารกับท่านอ๋องทุกมื้อก็คงจะดีไม่น้อยจริง ๆ เค่อจ้าวคิดไม่ต่างจากเจ้านายของเขา ถังลีพลันอิ่มจริง ๆ นางดื่มน้ำชาอุ่นตามไป
เอิ๊ก !!! หญิงสาวเลอออกมา
"ขออภัยท่านอ๋องข้าอิ่มไปหน่อย" แม่นมหงกับสาวใช้ทำหน้าเอือมระอา
"ไม่เป็นไร" เหตุใดเขาไม่โกรธนางก็ไม่รู้ หลังจากทานข้าวเช้าอิ่ม ถังลีก็นั่งลงตรงหน้าหน้าหนิงอ๋อง นางมองเท้าที่ขาวเนียน นางให้เขาล้างเท้าก่อนจะถอนพิษ
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล