คณะทูตจากตงเปย
ฉินเหยารีบคว้างูเขียวแล้วโยนมันออกไปทางหน้าต่าง นางอยู่ในอ้อมกอดของเขา ถังลีเขินอาย ส่วนเว้าส่วนโค้งหนิงอ๋องมองเห็นอย่างชัดเจน จนเขาไม่อาจละสายตาออกจากร่างอันอวบอิ่ม
"ท่านเดินได้แล้ว" ถังลีมองเขาแสดงว่าเขาเดินได้นานแล้ว
"อาลี ข้ารักเจ้า ข้าไม่อยากเจ้าไปจากข้า" จากนั้นหนิงอ๋องประกบปากถังลีอย่างลึกซึ้ง นางถึงกับเบิกตาอย่างกว้าง ไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนี้
ภายในห้องอาบน้ำได้เกิดเสียงครางดังขึ้น เป็นเวลาครึ่งวันทำเอาถังลีเอวแทบจะหักก็ว่าได้ นางรู้สึกละอายใจที่ร่างกายของนางไม่สะอาด
เย็นของวันนั้นถังลีทำหม้อไฟให้หนิงอ๋องกินด้วย เสี่ยวจูกับเค่อจ้าวไม่รบกวนเจ้านายทั้งสองคน ถังลีจัดโต๊ะโดยมีดอกเหมยกุ้ยในแจกัน หนิงอ๋องมองนางด้วยความรัก
"ท่านอ๋อง ท่านรักข้าจริงรึ" ถังลีเปิดใจถามเขา
"ข้ารักเจ้า แต่ไม่รู้ว่าเมื่อใด ข้าคิดว่าหากขาดเจ้าไป ข้าคงปวดใจ พวกเราเริ่มต้นกันใหม่ ข้าจะคอยปกป้องดูแลเจ้า ไม่ให้ผู้ใดมาทำร้ายเจ้าได้ ดีรึไม่" ทั้งสีหน้าและแววตาของเขาแสดงถึงความจริงใจอย่างมาก
"ท่านอ๋องข้าไม่ขอปิดบังท่าน ข้าโดนคนอื่นขืนใจ ในจวนอ๋องของท่าน เมื่อสองเดือนก่อนมีคนร้ายบุกเข้ามาแล้วย่ำยีข้า บัดนี้ข้าตั้งครรภ์ได้หนึ่งเดือนแล้ว ขอท่านอ๋องปล่อยข้าไปเถอะ น้ำใจของท่านข้ารับไม่ได้" หนิงอ๋องสมองตื้อไปหมดแล้ว นางบอกว่าเมื่อสองเดือนก่อนมีคนย่ำยีนาง ทำให้หนิงอ๋องนึกขึ้นได้ว่า เมื่อสองเดือนก่อนพิษหมาป่าของเขากำเริบ เป็นเขาที่ทำร้ายนาง แต่เขามิกล้าบอกนาง
"อาลี ข้ามีเรื่องจะสารภาพกับเจ้า" ถังลีมองหน้าหนิงอ๋อง เขามีเรื่องอันใดปิดบังนางอีกเล่า
"เป็นข้าเองที่ทำร้ายเจ้า ในคืนนั้นใบหน้าของข้าจะมีครึ่งคนครึ่งสุนัข"
เหมือนกับอสนีฟ้าฟาดลงมากลางใจของถังลี ดวงตาของนางแดงก่ำ ที่แท้คนสารเลวที่ย่ำยีนางเป็นเขา
"ไสหัวไปอย่าให้ข้าเห็นหน้าท่านอีก" มืองามชี้ไปทางประตู หนิงอ๋องใบหน้าสลดใจรีบสาวเท้าเดินออกไป
"คุณหนูเกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่ท่านอ๋องออกไปเช่นนั้น" เสี่ยวจูมองเจ้านาย
"ข้าเกลียดคนโกหกที่สุด อย่าเปิดประตูเรือนต้อนรับเขาเป็นอันขาด" ทำร้ายนางแล้วยังทำหน้าตาลอยนวล ไม่ยอมสารภาพผิดกับนาง ผ่านไปตั้งสองเดือน
สารเลวสิ้นดี !!!
เช้าวันถัดมาหนิงอ๋องมาหาถังลีเขาตั้งใจจะมากินข้าวเช้ากับถังลี แต่ทว่านางไม่ยอมเปิดประตูให้เขา หนิงอ๋องเสียใจอย่างมาก เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้
ฝนห่าใหญ่ได้ตกลงมาถังลียังคงอยู่ในเรือนกินผลไม้อย่างมีความสุข มองผ่านหน้าต่างพบว่าหนิงอ๋องคุกเข่าหน้าเรือนให้นาง
"คุณหนูท่านอ๋องถึงกับคุกเข่าขอโทษท่าน บ่าวไม่รู้ว่าเขาทำผิดต่อท่านเรื่องอะไร แต่เขาคุกเข่าให้ท่านแสดงให้เห็นว่า ในใจเขามีท่าน" หากบุรุษในยุคนี้คุกเข่าให้สตรีถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
ฝนห่าใหญ่ตกลงมาเค่อจ้าวกลางร่มกระดาษให้เจ้านาย
"นายท่าน ท่านคุกเข่ามาหลายชั่วยามแล้วนะขอรับ บ่าวเกรงว่าท่านจะไม่สบายเอาได้" เค่อจ้าวนึกตำหนิถังลีในใจ เหตุใดไม่เห็นใจท่านอ๋องบ้าง
"ท่านอ๋อง" หนิงอ๋องล้มลงกับพื้น เค่อจ้าวตะโกนขึ้น ถังลีหวั่นใจไม่น้อย
หนึ่งชั่วยามผ่านไป หนิงอ๋องลืมตาขึ้นมาพบว่าเขาอยู่ในเรือนของถังลี กลิ่นสมุนไพรช่างหอมนัก
ถังลีมองเขาฟื้นแล้ว "อาลี"
"เหตุใดต้องคุกเข่าด้วยเล่า"
"ข้าผิดต่อเจ้า เจ้ายกโทษให้ข้าได้รึไม่" ถังลีทำตากลอกไปมา
"ข้ายังไม่หายโกรธท่าน" เขาปล่อยให้นางเสียใจอยู่ตั้งนาน จะให้อภัยกันมันง่ายเกินไป
"คืนนี้มีเทศกาลลอยโคมพวกเราไปปล่อยโคมไฟด้วยกันดีรึไม่"หนิงอ๋องเอ่ยชวนนาง เขาอยากแก้ตัวอยากให้นางมีความสุขบ้าง
"ท่านยังต้องแกล้งพิการ"
"ข้ามีหน้ากาก" เป็นความคิดที่ดีเหมือนกันถังลีรับปากเขา
ในคืนนั้นทั้งสองคนสวมหน้ากากคาบูกิไปเดินเล่นในงานเทศกาลโคมไฟ ถังลีจับมือกับหนิงอ๋องทั้งสองอธิฐานปล่อยโคมไฟ
"ท่านขอพรอะไร"
"ข้าขอให้เจ้ารักข้าคนเดียว" ถังลีมองคนหน้าไม่อาย ทั้งสองจับมือกันตลอดทางเมืองต้าโจวเต็มไปด้วยโคมไฟหลากสีลอยขึ้นบนท้องฟ้า
"ท่านอ๋องข้ามีเรื่องปิดบังท่านเช่นกัน" หนิงอ๋องสบตานาง
"ว่ามาเถอะข้าไม่โกรธเจ้าแน่นอน" เขาจะโกรธนางลงได้อย่างไรเล่า เขารักนางมากเพียงนี้ ถังลีกุมมือเขามาที่หอเครื่องประดิษฐ์
"ร้านค้าของข้า หอเครื่องประดิษฐ์เดือนหนึ่งรายได้ไม่ต่ำกว่า 100000 ตำลึง" หนิงอ๋องอึ้งงัน นางพาเขาเข้ามาด้านในบนชั้นสอง อาหยวนกับลูกน้องต่างต้อนรับลูกค้า
"อย่างนั้นรึ" หนิงอ๋องมองของต่าง ๆ แว่นตา นาฬิกา เครื่องหอม เป็นนางรึที่คิดค้น
"ใช่ ข้าเป็นเจ้าของ แว่นตาที่ข้ามอบให้ท่าน ก็มาจากร้านนี้" ถังลีทำให้หนิงอ๋องอึ้งงัน ความร่ำรวยมหาศาลได้บังเกิดขึ้นแล้ว
"อาลีข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเก่งเพียงนี้"
"ท่านอ๋อง ท่านกับข้าคือคนคนเดียวกันแล้ว นับแต่ข้าก็จะดีกับท่าน"
"อาลีข้าจะปกป้องเจ้า วันพรุ่งคณทูตตงเปยจะมาที่แคว้นต้าโจว ข้าจะเดินออกไปต้อนรับอย่างสง่า ขอบคุณเจ้ามากที่มอบขาให้กับข้า"
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล