Share

บทที่9

Aвтор: l3oonm@
last update Последнее обновление: 2024-12-26 15:08:40

สองพี่น้องเมื่อถึงเรือนก็บังคับรถม้าเข้าไปเก็บด้านในเรือนทันที พร้อมบอกบิดามารดาเรื่องที่อาจจะมีชาวบ้านมาที่เรือนเพื่อดูรถม้า เพียงไม่นานเสียงร้องเรียกหน้าเรือนก็ดังขึ้น

"อาเทียนอยู่หรือไม่" จางเซียนตะโกนเรียกน้องชายเสียงดัง

สี่คนพ่อแม่ลูกเตรียมรับมือไว้พร้อมแล้ว ข้าวของภายในเรือนก็ถูกซินหยานเก็บเข้าไปไว้ในช่องเก็บของ ของนางแล้ว

"มีอันใดหรือขอรับ" จางเทียนที่ถูกจางเหลี่ยงและชุยเหมยพยุงออกมาจากเรือน

จางเซียนเบือนหน้าหนีเมื่อเห็นอาการของน้องชายยังไม่ได้ดีขึ้น ชาวบ้านที่ตามมาก็ส่งเสียงพูดคุยกันจนจับใจความไม่ได้

"หากเจ้ามีเงินเหตุใดถึงไม่นำไปรักษา" ชาวบ้านในกลุ่มพูดขึ้น

"ต้องรักษาอยู่แล้วขอรับ เพียงแต่ข้าดินทางลำบากจึงให้อาเหลี่ยงซื้อรถม้าไว้ใช้งาน"

"เจ้ามีเงินมากเพียงนั้นทำไมไม่นึกถึงพี่ชายของเจ้าบ้าง" นางจูพี่สะใภ้ของจางเทียนเอ่ยขึ้น

"หากข้าจำไม่ผิด พวกท่านต้องการแยกครอบครัวมิใช่หรือขอรับ อีกอย่างข้าก็ไม่ได้อะไรที่ข้าควรจะได้มาสักอย่าง" จางเทียนจ้องมองพี่สะใภ้อย่างดุดัน

"เหอะ ในหนังสือแยกบ้าน ท่านลุงเขียนไว้แล้วมิใช่หรือว่าทั้งสองครอบครัวไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกัน ยามที่ท่านพ่อข้าเกือบพิการ ท่านก็ขับไล่พวกเราออกมา ยามนี้ท่านจะมาเรียกร้องสิ่งใด" ซินหยานมองที่ปลิงสองตัวที่มายืนร้องของเงินอยู่หน้าเรือน

"นังเด็กสารเลว เจ้าจะรู้อันใด อย่างไรอาเทียนก็เป็นน้องชายเมื่อมีเงินก็ควรจะแบ่งให้พี่ชายของตนบ้าง" นางจูยังกล่าวอย่างไม่ยินยอม

"เช่นนั้นหรือ หากท่านอยากได้เงินก็ไม่ร้องกับทางการดู ข้าอยากจะรู้ว่าทางการจะตัดสินเช่นไร" ซินหยานมองทั้งคู่ด้วยสายตาสังหาร

ที่นางกล่าวไม่เกินจริง นางอยากจะรู้ว่าถ้าไปร้องเรียนทางการ ท่านลุงของนางจะได้เงินหรือไม่ หากต้องแบ่งเงินเพราะยังไม่ได้ทำการตัดขาดกัน นางจะได้จัดการทั้งหมดทีเดียว

จางเซียนกับนางจูเมื่อเห็นสายตาของซินหยานที่น่าหวาดกลัวต่างก็เงียบปากไป ยิ่งได้ยินเรื่องให้ไปร้องทางการ ผู้ใดจะกล้าไป

เมื่อมีคนไปแจ้งผู้นำหมู่บ้านก็รีบมาดูเหตุการณ์ เมื่อเห็นสภาพของจางเทียนที่ถูกชุยเหมยและจางเหลี่ยงประคองก็ถอนหายใจออกมา

"มีเรื่องอันใดกัน" ผู้นำหมู่บ้านตงถามขึ้น

"ข้าเห็นว่าเป็นครอบครัวเดียวกันหาเงินมาได้มากก็สมควรจะแบ่งกันจริงหรือไม่ท่านผู้นำหมู่บ้าน" นางจูรีบเอ่ยก่อน

"เหอะ" ผู้นำหมู่บ้านสบถออกมา ตอนที่แยกเรือนเขาก็เอ่ยแย้งไปแล้วว่าจางเทียนมิได้อะไรมาเลย แต่เป็นจางเทียนที่ยินยอมพี่ชายเขาเป็นเพียงคนนอกก็ทำอันใดไม่ได้

แต่มาครั้งนี้ จางเทียนก็ยังไม่หายดี พี่ชายพี่สะใภ้ก็รีบร้อนมาหาผลประโยชน์จากเขาอีก

"เจ้าไม่ละอายใจหรืออาเซียน ตอนแยกเรือนเจ้าก็ไม่ให้ที่ทำกินน้องชาย มายามนี้น้องของเจ้าหาเงินมาได้ก็ยังจะมาเบียดเบียนอีก" ผู้นำหมู่บ้านต่อว่าสองผัวเมียอย่างไม่ไว้หน้า

"ท่านจะพูดอย่างนี้ได้อย่างไร อาเทียนเพียงแค่แยกเรือนยังไม่ได้ตัดขาดกับข้าเสียหน่อย" จางเซียนเอ่ยอย่างหน้าหนา

"เช่นนั้นก็ตัดขาดกันเสียเถิดขอรับ" จางเทียนเอ่ยขึ้น เพราะเขาทนถูกพี่ชายเอาเปรียบไม่ได้อีกแล้ว ถ้ายอมครั้งนี้ต่อไปไม่รู้จะต้องยอมมากน้อยเพียงใด

ยิ่งได้รู้ว่ายู้อวี้เป็นคนที่ผลักบุตรสาวของตนจนตกน้ำจากจางเหลี่ยงที่กระซิบบอกเมื่อครู่ เขาในยามนี้อยากจะเข้าไปทุบตีพี่ชายใจแทบขาด

"เจ้าเอ่ยอันใดออกมารู้หรือไม่อาเทียน" จางเซียนไม่เชื่อหูของตน

"เจ้าคิดดีแล้วใช่หรือไม่" ผู้นำหมู่บ้านไม่สนใจจางเซียน เขาเอ่ยถามจางเทียนอีกครั้ง

เมื่อเห็นว่าจางเทียนพยักหน้าอย่างหนักแน่น ผู้นำหมู่บ้านก็ให้คนไปนำกระดาษกับหมึกที่เรือนของเขามาเพื่อเขียนหนังสือตัดขาด นางจูนั่งลงกับพื้นร้องไห้ทุบอกอย่างไม่ยินยอม

หากจางเทียนมีเงินมากขนาดซื้อรถม้าได้ แสดงว่าเขายังต้องมีอีกมาก จะยอมให้เกิดการตัดขาดไม่ได้ ซินหยานเหมือนจะรู้ทัน นางเดินเข้าไปหาท่านลุงกับท่านป้าสะใภ้แล้วกระซิบเสียงเบา

"ท่านอยากรู้หรือไม่ว่าผู้ใดทำข้าตกน้ำ" ซินหยานแสยะยิ้มออกมา

"เจ้าพูดเรื่องอันใด" นางจูหันไปมองว่ามีผู้ใดได้ยินหรือไม่ นางเค้นถามบุตรสาวตอนที่เขาเมืองแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นนางจึงรู้แก่ใจดี

"หรืออยากให้ข้าแจ้งทางการ" ซินหยานก้มหน้าจ้องเข้าไปในดวงตาของนางจูอย่างข่มขู่

"พูดเรื่องอันใดกัน" จางเซียนและผู้นำหมู่บ้านเอ่ยถามเพราะพวกเขาไม่ได้ยิน

"ไม่มีอันใดเจ้าค่ะ" นางจูลุกขึ้นปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้า ก่อนจะรีบปิดปากซินหยาน เพราะกลัวนางจะหลุดปากพูด

"หึ" ซินหยานปัดมือที่สกปรกของนางจูออกก่อนจะมองสบตาอย่างกดดัน แล้วเดินกลับไปยืนข้างมารดา

ไม่นานคนที่กลับไปนำเครื่องเขียนของผู้นำหมู่บ้านก็กลับมาถึง จางเซียนที่ยังไม่ยินยอม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะโดนนางจูดึงรั้งไว้ พร้อมทั้งขอให้รีบเขียนหนังสือตัดขาด

ผู้นำหมู่บ้านมองสลับนางจูกับซินหยานอย่างสงสัย เพราะไม่รู้ว่าซินหยานพูดเรื่องอันใด นางจูถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนี้

จางเทียนรับหนังสือตัดขาดมาอ่านอีกรอบ ซินหยานก็เข้าไปยืนข้างบิดาเพื่ออ่านด้วย 

"ท่านพ่อ เขียนลงไปด้วยเจ้าค่ะ หากครอบครัวท่านลุงใหญ่ยังมาวุ่นวายไม่เลิกทางเราจะเรียกเก็บเงินหนึ่งร้อยตำลึงเงิน" จางเทียนบอกผู้นำหมู่บ้านตามคำพูดของซินหยาน 

นับว่าครั้งนี้จางเทียนตัดขาดกับพี่ชายโดยสิ้นเชิง จางเซียนมองหนังสือตัดขาดในมืออย่างไม่อยากเชื่อ เขาก้มหน้ากลับเรือนอย่างจำใจ เพราะนางจูไม่อยากจะอยู่เห็นหน้าซินหยานแม้แต่เค่อเดียว (1เค่อ=15นาที)

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   ฝูเหิงสมหวังแล้ว (จบ)

    ฝูเหิงอาบน้ำขัดตัวอย่างเร่งรีบ เมื่อสำรวจจากร่างกายว่าแทบไม่หลงเหลือกลิ่นสุราแล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำ“หึหึ” เขาหัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบาเมื่อเห็นซูหนี่นั่งหน้าเครียดอยู่ที่เตียงนอนฝูเหิงเดินเข้าไปนั่งข้างซูหนี่ก่อนที่จะยกตัวนางขึ้นมานั่งบนตักแล้วกอดนางไว้จากด้านหลัง“เป็นอันใดไปหรือ” ฝูเหิงก้มลงสูดดมกลิ่นหอมจากตัวซูหนี่ที่ซอกคอของนางอย่างโหยหา“ปะ เปล่าเจ้าค่ะ” ซูหนี่เอ่ยตอบเสียงสั่นฝูเหิงคิดว่านางคงกลัวจึงได้จับใบหน้าของซูหนี่ให้หันมาสบตาเขา ก่อนจะจรดหน้าผากของเขาเข้ากับของซูหนี่“หนี่เออร์ อย่าได้กลัว ข้าสัญญาว่าจะทะนุถนอมเจ้าอย่างดี” ฝูเหิงเอ่ยเสียงเบาราวกับกำลังปลอบประโลมนางหัวใจของซูหนี่เต้นระรัว เมื่อเห็นสายตาของฝูเหิงที่จ้องมองมาที่นางอย่างเร่าร้อน นางสั่นสะท้อนเล็กน้อยอย่างตื่นตัว เมื่อลมหายใจร้อนๆ ของฝูเหิงเป่ารดต้นคอของนางซูหนี่แทบอ่อนระทวย เมื่อถูกลิ้นร้อนของฝูเหิงไล้เลียและดูดดึงที่ซอกคอของนาง ความรู้สึกสับสนเกิดขึ้นกับนาง แต่ก็ปล่อยไปตามการสัมผัสของเขาฝูเหิงที่เพียงได้กลิ่นกายของนางความเร่าร้อนก็พุ่งสูงขึ้นภายใน แต่เขาจำต้องควบคุมสติไว้เพื่อไม่ให้นางตื่นกลัวสายตาขอ

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   งานมงคล

    ซินหยานยืนมองตำหนักอ๋องที่ประดับไปด้วยผ้าแดงของงานมงคลอย่างยินดี นางไม่เคยคิดว่าในชีวิตของนางจะมีครอบครัวที่อบอุ่นเช่นนี้ และในตอนนี้บุตรสาวเพียงคนเดียวของนางก็กำลังจะออกเรือนแล้วตอนนี้ซูหนี่นางโดนซงมามากับฝูมามาจัดการขัดเนื้อตัวของนางอยู่ แม้ว่าผิวพรรณของนางจะผุดผ่องไปไม่ได้มากกว่านี้แล้วก็ตามซินหยานเดินเข้าไปดูบุตรสาวที่แช่อยู่ในบ่อน้ำวิเศษของนางแล้วก็ได้แต่ถอนหยาใจ ไม่ต่างกับตัวนางในครั้งนั้นที่โดนจับขัดสีฉวีวรรณเช่นนี้ซินหยานนางยังช่วยชีวิตซูหนี่ด้วยการพานางกลับเรือนเพื่อพูดคุยตามประสาแม่ลูกก่อนที่จะออกเรือนในวันพรุ่งนี้“หนี่เออร์ นี่คือสิ่งที่มารดาทุกคนต้องสั่งสอนบุตรสาวก่อนออกเรือน” ซินหยานนางหยิบตำราวสันต์มาเปิดออกให้ซูหนี่ได้ดู"ท่านแม่" ซูหนี่ร้องอยากตกใจ เพราะสิ่งที่มารดาให้นางได้ดูนางเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก“มิใช่เรื่องน่าอาย มาแม่จะดูเป็นเพื่อนเจ้า” ซินหยานตบไปที่หลังมือของซูหนี่เบาๆเมื่อเห็นบุตรสาวทำท่าทางเขินอายยามที่นางเปิดไปแต่ละหน้าและอธิบายไปด้วย ซินหยานนางก็หัวเราะออกมาเบาๆนี่คือเรื่องที่ในภพนี้ยังไม่เปิดกว้าง จึงทำให้สตรีต่างเขินอายไม่กล้าพูดหรือแสดงออกมาก

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   เดินทางกลับเมืองหลวง

    ซินหยานนางยังให้ซูหนี่นำน้ำวิเศษใส่ไหจำนวนมากทิ้งไว้ที่จวนท่านแม่ทัพ ก่อนจะบอกกับจ้าวฟางหรงให้ไว้ใช้ในการเกษตรเช่นไร เพื่อให้ทหารและชาวบ้านเมืองเป่ยโจวที่หาผักสดกินได้ยาก ได้มีผักกินตลอดทั้งปีจ้าวฟางหรงก็กล่าวขอบคุณหยางอ๋องและซูหนี่ที่เมตตาต่อทหารและชาวเมืองมากเช่นนี้ เขารีบไปจัดการเรื่องทั้งหมดให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และทิ้งคนที่ไว้ใจได้ให้จัดการเรื่องการเพพาะปลูกต่อเพราะเขาต้องเดินทางเข้าเมืองหลวงพร้อมกับหยางอ๋องและซินหยาน เพื่อจัดการเรื่องของมงคลของฝูเหิงกับซูหนี่ขบวนเดินทางของหยางอ๋องที่กลับเมืองหลวงก็มีผู้ติดตามกลับไปด้วยมากกว่าเดิม ทำให้พวกเขาไม่อาจเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในมิติได้ตลอดเวลาเช่นเดิมเพียงแต่จะเข้าไปก็ต่อเมื่อแยกย้ายกันกลับห้องพักผ่อนแล้ว เพราะขบวนเดินทางมีคนมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้กว่าจะเดินทางมาถึงเมืองหลวงก็ล่วงเข้าเดือนที่สามของการเดินทางแล้วจ้าวฟางหรงก็ส่งคนมาให้จัดการจวนตระกูลจ้าวในเมืองหลวงไว้ก่อนแล้วฮ่องเต้ ฮองเฮาเมื่อรู้ว่าบุตรชายกับหลานทั้งสี่กลับมาถึงเมืองหลวงก็เรียกตัวเข้าวังทันทีทุกพระองค์ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแคว้นหานต่างก็ลอบตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีคนทะลุ

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   จำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น

    เชาชื่อนำยาลบความทรงจำมาส่งให้หยางอ๋อง เขาได้ทำกการปรุงยาขึ้นมาใหม่เพื่อใช้กับหานอี้สุ่ยโดยเฉพาะเชาชื่อต้องการให้หานอี้สุ่ยลืมเรื่องที่เขารู้เรื่องระเบิดและก่อนที่จะรู้จักกับซูหนี่ ความทรงจำของหานอี้สุ่ยจึงหยุดอยู่ในวันที่เขาลอบเข้าแคว้นเซี่ยเพื่อสืบเรื่องในแคว้นเท่านั้นก่อนที่จะพาตัวหานอี้สุ่ยออกจากมิติ ฝูเหิงทำลายเอ็นข้อมือข้างขวาของเขาทิ้งเสีย หากสวรรค์ยังเขาข้างหานอี้สุ่ยก็คงส่งหมอเทวดามารักษาเขา แต่หากไม่เขาก็ต้องกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิตซูหนี่พาซีฮันและฝูเหิงออกมาจากมิติ เพื่อให้เขาพาหานอี้สุ่ยไปโยนทิ้งไว้ข้างวังหลวงเมื่อเสร็จสิ้นเรื่องทั้งหมด ทุกคนก็เห็นตรงกันเรื่องที่ต้องเดินทางกลับแคว้นเซี่ย ชีวิตของหานอี้สุ่ยและฟ่านหลี่อิงหลังจากนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องข้องเกี่ยวอีกแล้วในตอนที่ออกจากแคว้นหาน ซูหนี่นางต้องเดินทางอยู่ภายในรถม้ากับฝูเหิงเช่นตอนขามา แต่ในครั้งนี้มีหยางอ๋องที่ปลอมตัวออกมาอยู่ด้วย เพราะเขาไม่ยินยอมที่จะให้บุตรีอยู่เพียงลำพังกับฝูเหิงฝูเหิงที่คิดว่ามีโอกาสใกล้ชิดกับซูหนี่ในรถม้าก็มีสีหน้าสลดอย่างเห็นได้ชัด สืออียังทำหน้าที่บังคับรถม้าเช่นเดิม ทุกคนที

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   ฝ่าเท้าหยางอ๋อง

    หานอี้สุ่ยทรุดตัวนั่งลงอย่างสิ้นแรง เขาแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน จะมีเรื่องอันใดที่ทำให้นางหลงลืมไปได้เช่นนี้ ตอนที่พบนางก็ไม่เห็นว่านางจะบาดเจ็บที่ใดฟ่านหลี่อิงถูกหานอี้สุ่ยส่งตัวไปคุมขังไว้ในคุกใต้ดิน เขายังไม่เชื่อนางเสียทั้งหมด ในเมื่อเขาทำตามที่รับปากนางไว้แล้ว แต่นางกลับไม่ยอมบอกวิธีทำระเบิด เช่นนั้นเขาก็จะทรมมานจนกว่านางจะพูดฟ่านหลี่อิงไม่รู้ว่าเหตุใดตนถึงถูกกระทำเช่นนี้ นางถูกนางกำนัลลากตัวไปไว้ในคุกใต้ดิน พร้อมทั้งหวดแส้ลงที่ร่างกายของนาง“หม่อมฉันไม่รู้จริงๆ เพคะ” เสียงที่เอ่ยออกมาของนางแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเปิ่นกงอดทนกับเจ้ามากเพียงใด หากยังไม่ยอมพูดอีก เปิ่นกงจะตัดลิ้นของเจ้าเสีย” หานอี้สุ่ยดึงผมของฟ่านหลี่อิงขึ้น เพื่อให้เงยหน้ามาสบตากับเขาฟ่านหลี่อิงร่ำไห้อย่างหวาดกลัว นางได้แต่ร้องบอกว่านนางไม่รู้ นางจำสิ่งใดไม่ได้ แต่เหมือนจะเป็นการเพิ่มโทสะให้หานอี้สุ่ยมากขึ้น เขาลงแส้ไปที่ร่างกายของนางนับครั้งไม่ถ้วนฟ่านหลี่อิงหมดสติลง เพราะทนรับความเจ็บปวดไม่ไหวหานอี้สุ่ยเดินออกจากคุกใต้ดินไปอย่างไม่สบอารมณ์ เขาแทบไม่เคยคิดไว้เลยว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   งานมงคลของฟ่านหลี่อิง

    ไม่ต่างจากหานอี้สุ่ย เขาก็คิดเช่นนั้น เพราะเหลือเวลาอีกเพียงสามวันจะถึงวันงานแต่งจึงต้องส่งนางกลับไปที่จวนตระกูลฟ่านเพื่อเตรียมตัวเสียก่อน เขาจึงไม่ได้สอบถามรายละเอียดที่เกิดขึ้นถึงถามไปนางก็ตอบได้เพียงจำไม่ได้เท่านั้น ทหารและนางกำนัลในตำหนักต่างก็ตอบไม่ได้ว่าผู้ใดเป็นคนพาตัวฟ่านหลี่อิงออกไปจากตำหนักเพราะตอนที่ถูกทำร้าย พวกเขาต่างไม่เห็นใบหน้าของผู้ร้ายฟ่านหลี่อิงที่อยู่ภายในเรือนตระกูลฟ่าน นางจำไม่ได้ว่านางเข้าไปอยู่ในวังหลวงได้อย่างไร และเหตุใดนางถึงได้มีวาสนาถึงขั้นได้แต่งเป็นพระชายาขององค์รัชทายาทนายท่านฟ่านกับฮูหยินฟ่านก็ไม่ได้รับรู้ถึงความผิดปกติของบุตรสาว เพราะพวกเขาได้แต่ต้อนรับแขกที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีและเตรียมงานมงคลจนหัวหมุนสองวันต่อมา ฟ่านหลี่อิงก็ถูกปลุกมาให้เตรียมตัว เพื่อเข้าพิธีแต่งงาน งานจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แขกที่มาร่วมส่งเจ้าสาวมากมายจนแน่นเต็มเรือนพวกเขาล้วนอิจฉาตระกูลฟ่านที่เป็นเพียงคหบดีเท่านั้น แต่บุตรีกลับมีวาสนาได้เป็นถึงพระชายาขององค์รัชทายาท และต่อไปนางก็จะได้นั่งตำแหน่งฮองเฮาในอนาคต เช่นนี้แล้วผู้ใดจะไม่มาร่วมยินดีได้เล่าฟ่านหลี่อิงเดินเข้าไปก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status