Войтиบทที่ 7 เทคแคร์ / หรือแอบมีอะไรกัน
หลังจากเข้าห้องน้ำไปปลดทุกข์ ไม่ได้อาบน้ำอะไรหรอก แค่ล้างหน้าก็ยังไม่ได้ล้างเพราะโดนเรียกรวมพลซะก่อน
ทุกค่าย ทุกคนมายืมรวมกัน แต่จะเข้าแถวค่ายใครค่ายมัน แล้วมันยังจะบังเอิญอีก ค่ายทหารพรานหญิงXXยืนใกล้ค่ายทหารบกYYซึ่งมันคือค่ายพี่ฉัตร อีกข้างก็เป็นทหารพรานชายค่ายBB เรียกว่าชายล้อมก็ยังได้ เพราะมีแค่ค่ายฉันเป็นผู้หญิงเพียงค่ายเดียวในตอนนี้
“ มากันครบแล้วใช่ไหม! ” เสียงดังผ่านโทรโข่ง
“ ครบค่ะ/ครับ ” ทุกคนต่างตะโกนออกมาเสียงเดียวกัน
“ จัดแถว ซ้ายหัน ขวาหัน ตามระเบียบพัก เอาละ วันนี้ก็รู้กันอยู่ว่ามาช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ผมเห็นว่าทุกคนทำเต็มที่แล้ว แต่ดูท้องฟ้ามันครึ้มๆแล้วอีกแล้วตอนนี้น่าจะช่วยได้ไม่หมด แถมเข้าไปข้างในซอย น้ำก็เชียวมาก ก็เลยอยากให้ทหารทุกนายพักที่นี่ก่อน พรุ่งนี้จะได้ลุยต่อ ให้ทหารพรานหญิงค่ายXXพักบนบ้านสูงหลังนั้นนะ ส่วนทหารบก ทหารเรือ ทหารพรานผู้ชาย ก็ไปหาที่กันเอาเองนะ ”
“ รับทราบ! ” ทุกคนตะโกนพร้อมกัน
“ จัดแถว เลิกแถว! ”
พรึ่บ! ทุกคนยกมือขึ้นมาทำความเคารพ แล้วแยกแถว แต่จะไปทีละแถวตามระเบียบของทหาร
“ รับไว้ ” มันเป็นจังหวะที่พี่ฉัตรเดินมาใกล้ เพราะแถวพี่เขาไปก่อน มือหนายื่นกระดาษแผ่นเล็กมา ฉันรีบรับไว้ทันที เพราะกลัวคนอื่นจะเห็นถ้าอิดออด ยืดยาด
ไม่ได้เปิดอ่าน แต่รีบเอาไว้ในกางเกง รอจนถึงแถวพวกเราเดินไป ฉันถึงเอามาเปิดอ่าน
‘ หนึ่งทุ่มเจอกันที่ต้นหูกวาง ’
อ่านจบก็หันไปมองหาต้นหูกวาง ซึ่งมันไกลจากที่ฉันพัก แต่ตรงนั้นดูเหมือนจะปลอดคน แล้วฉันควรจะไปดีไหม!... เขาคิดจะทำอะไรกันแน่
พวกฉันได้พักที่บ้านสูงที่พวกเราขึ้นไปนั่งกินข้าวอะ ผู้กองทหารบกเลือกให้ คือที่ที่ดีแล้วแหละ ไม่ว่าจะไปไหน ทำอะไร ทุกอย่างมักจะแยกให้ผู้หญิงและผู้ชายห่างกันเสมอ เพื่อความปลอดภัยด้วยแหละ
พอช่วงบ่ายเขาให้พวกผู้ชายแยกย้ายกันหาที่นอน พวกผู้หญิงอย่างเราๆ ก็เอาผ้ายางที่พกมาไว้กันฝนสาด ออกมาทำเป็นกำแพงกั้น ไม่ให้คนข้างนอกเห็นเข้ามาข้างใน แล้วจัดแจงว่าใครนอนมุมไหน ส่วนผู้หมวดก็ได้นอนบนรถของพวกทหารพรานชาย น่าจะรู้จักกันดี เห็นสนิทกัน
พวกเราก็พากันลงมาจากข้างบนเพื่อจะพากันเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด โชคดีที่กระเป๋ากันน้ำได้ ข้าวของข้างในมันเลยแห้งสนิท ชุดที่ใส่กระเป๋ามามีสองชุด แต่ใส่ไปแล้วเมื่อสองสามวันก่อน มันยังเปียกอยู่เลยใส่ถุงมัดไว้ข้างกระเป๋า แต่ละชุดใส่กันประมาณสองสามวัน แล้วเอาไปขยี้น้ำมาตาก บางครั้งยังชื้นและเหม็นอับแต่ก็ต้องยอมใส่
“ สาวๆ จะไปไหนกันจ๊ะ ” แซวอีกแล้ว พวกนี้หน้าม่อจริงๆ ส่วนมากก็น่าจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกันหมดแล้วแหละ
“ ไปอาบน้ำค่ะพี่ๆ ทหารเขียว ” พี่หวายตอบกลับด้วยน้ำเสียงหวานพร้อมเล่นหูเล่นตา
“ ไปเถอะ ” พี่ส้มพูดแล้วเดินต่อไป แต่ยังไม่ถึงห้องน้ำก็มีรถทหารที่บรรทุกน้ำประปามา คงเอามาเติม น้ำน่าจะไม่พอ
“ ฮึบ! ” ได้ยินเสียงคนกระโดดลงมาจากรถบรรทุกแต่ไม่ได้มอง
ตอนเข้าห้องน้ำต้องเข้าทีละสามถึงสี่คน พวกพี่ส้ม พี่ใจ พี่กล้วยเข้ากันไปก่อน พวกที่เหลือก็ยืนรอหน้าห้องน้ำ บางคนเล่นโทรศัพท์ บางคนก็ยืนชมนกชมไม้อย่างเช่นฉัน
“ จะอาบน้ำเหรอ? ” จู่ๆ เสียงนี้ก็ดังข้างหู ทำเอาสะดุ้ง
“ พะ…พี่ฉัตร เล่นอะไรตกใจหมด ” ฉันหันกลับไปพร้อมทำหน้าตกใจ มือเรียวผลักอกเขาให้ออกห่าง
“ อ้าว คิดว่ารู้แล้ว ปกติอยู่ในป่าหูตาต้องว่องไวไม่ใช่เหรอ? ” พี่เขาย่องเบามาแน่ๆ ปกติเสียงฝีเท้าจะได้ยินนะ ประสาทสัมผัสฉันดีจะตาย แต่เขาอาจจะถูกฝึกมาดีกว่ามั้ง
“ อย่ามาใกล้ คนอื่นมองหมดแล้วนะ ” เท้าเรียวถอยหลัง เขาก็เดินหน้า จะเข้าหาฉันให้ได้
“ หึหึ แล้วชุดที่ถืออยู่ในถุงอะ เปียกเหรอ? ”
“ อืม…เอ่อ… ค่ะ มันเปียก ” พอตอบอืม เขาก็ไวมาก ยื่นปากเข้ามาจะจูบอีก
“ เอามาเดี๋ยวพี่เอาไปซักให้ ”
“ หนูซักเองได้ค่ะ ”
“ แล้วจะแห้งเมื่อไหร่กัน ถ้าไม่ปั่นแห้งอะ ”
“ ไม่เป็นอะไรหรอก ซักตากไปก่อน ถ้าไม่แห้งก็แค่เก็บใส่ถุงกลับ...ค่ะ ”
“ เสื้อซับในพาเข้าป่าไปกี่ตัว ” เสื้อซับในที่พี่เขาหมายถึงคือเสื้อที่ใส่ไว้ข้างใน แล้วสวมทับอีกชั้นด้วยชุดสีดำเครื่องแบบของทหารพรานอะ
⬇️⬇️ภาพประกอบ⬇️⬇️

“ก็ประมาณห้าตัว ทำไมเหรอ? ”
“ น้อยจัง ”
“ เดินทางไกลนะจะพาไปมากๆ ก็หนักสิ ”
“ ชุดหนึ่งใส่กี่วัน แล้วถ้าพาเสื้อซับในหลายตัวมันก็ดีนะไว้เปลี่ยนแถมน้ำหนักก็เบา ไปสิบวันก็พาสิบตัวไปเลย ส่วนชุดเครื่องแบบพาไปน้อยๆ ก็ได้มันหนัก ชุดหนึ่งใส่ได้สามถึงสี่วันก็ไม่เป็นไร ”
“ รู้หรอกน่า หนูเป็นทหารมาหนึ่งปี กว่าแล้วนะ ไม่ต้องให้พี่มาคอยบอกหรอก ”
“ หึ งั้นเอาชุดมาเดี๋ยวพี่พาไปซักแห้งให้ อีกสักครู่พี่จะไปเอาน้ำประปามาจากค่ายทหารพรานใกล้ๆอีก เดี๋ยวแวะซักให้ ”
“ อย่าดีกว่า ”
“ เถอะน่า แล้วนี่ไม่เห็นเสื้อซับในเลย จะเอาไว้ใส่อีกประเดี๋ยว ที่มีใส่หมดแล้วเหรอ? ”
“ โอ๊ะ พี่นี่ บอกให้คนอื่นรู้จักมารยาทบ้าง แล้วนี่ตัวเองมาถึงค้นเสื้อผ้าคนอื่นอะ ” มือนึงถือชุดไว้ผลัดเปลี่ยน อีกมือนึงถือถุงที่ใส่ชุดเปียกสำหรับเอามาซัก ขยี้ๆ แล้วตาก แต่โดนคนตรงหน้าแย่งไป
“ ขอโทษๆ โน่นๆ เพื่อนๆ ออกแล้ว ไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวพี่เอาเสื้อซับในของพี่ให้ยืม มุกถอดชุดเน่าๆ ที่ใส่อยู่ใส่ถุงมานะ เดี่ยวพี่จะเอาไปซักให้ ” พี่เขามาแปลก จุ้นไม่เข้าเรื่องเลย แล้ววันนี้พูดมากด้วย เหมือนกินยาลืมเขย่าขวดอะ
“ เดี๋ยวๆ น้องๆ ครับ ให้มุกเข้าก่อนนะ พอดีมุกเริ่มปวดหัวแล้ว อาบน้ำเสร็จพี่จะพามุกไปกินยานะ ” พี่ฉัตรผลักหลังฉันให้เดินตรงไปยังห้องน้ำไม่พอ ยังกุเรื่องโกหกขึ้นมาอีก คิดว่าเพื่อนๆ คงทำหน้าไม่พอใจใส่ไม่ก็เบ้ปากใส่แน่ๆแต่ไม่เลย ทุกคนกลับยิ้มและพยักหน้าให้ อ้าว!!! ไหงเป็นงี้อะ
“ ฟ้า ฝน ฝ้าย มาสิ ” ฉันหันไปกวักมือเรียกเพื่อนให้เข้าไปพร้อมกัน
“ ทำไมต้องเรียกเพื่อนเข้าไปด้วย ”
“ พี่ไม่เห็นเหรอเมื่อกี้พี่ๆ เขาเข้าไปตั้งสามคนแหนะ มันรวดเร็วไง ไม่งั้นเข้าทีละคนเสียเวลาชะมัด ”
“ อ๋อ งั้นพี่ไปเอาเสื้อมาให้นะ ”
“ ไม่ต้องหรอก หนูใส่แค่เสื้อตัวแขนยาวนี้ก็ได้...ค่ะ ” มันกระดากปากอะแหละ ไม่ชินที่ต้องใส่หางเสียงต่อหน้าเขา
“ ไม่แน่ใจว่าคืนนี้อาการจะร้อนหรือเปล่า ฝนหยุดตกแล้วมีแต่ท้องฟ้าที่ครึ้ม มันร้อนอบอ้าวนะ ”
“ ยัยมุกจะอาบไม่อาบ พี่ๆ รอต่อแถวเข้าห้องน้ำอีกหลายคนน่ะ ” เสียงของฝ้ายตะโกนออกมาจากห้องน้ำ
“ หนูไปก่อนนะ ” พี่ฉัตรยกมือจะห้าม น่าจะมีอะไรที่อยากพูด แต่ฉันไม่ได้รอฟัง เข้าไปอาบน้ำในรถสุขา ทำไว้สำหรับห้องน้ำ ห้องอาบน้ำสำหรับทหารจริงๆ
อาบน้ำรวมกันใช่ว่าจะแก้ผ้าเปล่าเปลือยไม่มีอะไรปกปิดนะ ต่างคนต่างพก*ผ้าถุงมาใส่นุ่งกระโจมอก
*** คนใต้เรียก ผ้าถุง หรือภาคอื่นอาจจะเรียกผ้าซิ่น ผ้าทอ นั้นแหละค่ะ
⬇️ภาพประกอบ ⬇️

หลังจากอาบน้ำเสร็จก็เปลี่ยนชุดกันเลย เพื่อนๆ ต่างใส่เสื้อซับในกันหมดคู่กับกางเกงสีดำ ( กางเกงในเครื่องแบบ ) ใส่ชายเสื้อไว้ในกางเกง ให้เห็นสายคาดเอวมาโชว์เด่นอยู่ด้วย คนที่หน้าอกโตจะบึ้มมาก ส่วนคนอกเล็กก็ไม่เป็นไร แต่คงมีแค่ฉันที่แต่งเต็มยศ จากเสื้อแขนยาวก็พับขึ้นเป็นสั้น อากาศร้อนจริง ไม่เหมาะใส่แขนยาว
⬇️⬇️ภาพประกอบ⬇️⬇️


เสียงประตูรถสุขาดังขึ้น พร้อมปรากฏกายสี่สาว ฟ้า ฝน ฝ้าย เดินนำออกมาก่อน ฉันเดินออกมาคนสุดท้าย และต้องเหว่ออีกครั้ง ดูท่าจะตื้อไม่เลิก
“ เอาถุงมา ” พี่ฉัตรชี้นิ้วหนาไปที่ถุงที่ไว้ใส่ชุดที่ใส่แล้ว ว่าจะซักตากตอนที่พี่ๆ อาบน้ำกันเสร็จ
“ ไม่ๆ พี่ฉัตรอย่า หนูซักเอง พี่ๆ ” เขาไม่ฟังเสียงฉันเลย พยายามพาถุงหลีกหนีแต่สุดท้ายก็ไม่พ้นคนตัวโต เขาแย่งไปได้ แล้วหยิบเสื้อที่พาดบ่ายื่นมาตรงหน้าฉัน
“ ไม่เอาอะ ใครจะใส่ ” ฉันส่ายหน้าทันที รู้แหละว่าเขาจะเอามาให้ใส่ แล้วดูมันแตกต่างกันนะ เสื้อซับในของทหารเขียวและทหารชุดดำอะ
“ ดูเพื่อนๆ สิ ใส่เสื้อซับในหมด มีแค่มุกนะที่แตกต่าง ”
“ พี่ ถ้าหนูใส่เสื้อพี่อะ มันยิ่งแตกต่างกว่าคนอื่นนะ ”
“ แต่พี่เลือกสีดำเหมือนของทหารพรานมาให้แล้วนะ ไม่ใช่สีเขียวสักหน่อย ตาก็เห็นหนิ ”
“ สีดำก็จริง แล้วมันมีรูปตราของทหารพี่หรือเปล่าละ ”
“ ก็ไม่นะ มีแค่.... ”
“ ฉัตร เว้ย ฉัตร ” เสียงตะโกนดังเรียนคนตรงหน้าฉัน
“ งั้นพี่ไปก่อนนะ คืนนี้หนึ่งทุ่มอย่าลืมมานะ ถ้าไม่มาพี่จะขึ้นไปหาบนนั้นเลย ” พี่เขาพูดเหมือนจะขู่ นิ้วหนาก็ชี้ไปชั้นบนบ้านสูงที่พวกเราจะทำเป็นที่นอนคืนนี้ แล้วพี่เขาก็วิ่งไปขึ้นรถบรรทุกของค่ายตัวเอง
“ อิจฉาอะ ทำไมพี่ฉัตรไม่เหมือนคนที่โทรคุยกับแกเลยยัยมุก ” ฟ้าเดินมาถามด้วยใบหน้ายิ้มๆ
“ อืม ฉันกำลังสับสนเหมือนกัน คิดว่าเขาพูดมากเกินไปแล้วนะ ปกติเป็นคนเงียบขรึมตลอด ” ฉันพูดขึ้น
“ พี่ฉัตรคนนี้ พอเจอตัวจริงหล่อนะ แถมยังพูดเพราะ อีกอย่างก็ดูจะคุยเก่งและใส่ใจแกมากนะมุก แต่ทำไมตอนคุยโทรศัพท์ เห็นคุยกันไม่ถึงชั่วโมงเลย ” ฝ้ายเดินมาสบทบแล้วพูดขึ้น
“ ไม่รู้สิ กินยาลืมเขย่าขวดหรือเปล่า ไม่แน่ใจ ” ฉันเบ้ปากเล็กน้อยแล้วยักไหล่
“ แต่ฉันว่าเขาดูจะแทคเเคร์แกดีมากเลยนะมุก ดูจะใส่ใจด้วย ดูสิอุตสาห์ไปหาเสื้อซับในมาให้ใส่ เพราะกลัวแกจะต่างจากเพื่อน แล้วยังเอาตัวสีดำมาให้ด้วย ใส่ใจแหละดูออก ” ฝนเดินมาสบทบอีกคนแล้วพูดขึ้นยิ้มๆ
ฉันทำได้แค่ส่ายหน้า แต่ในใจมันก็แอบยิ้มนะ! หลังจากนั้นก็พากันเอาของไปเก็บแล้วลงมาด้านล่างเพื่อเตรียมตัวรับข้าวเย็น ขนมและน้ำ เฉพาะค่ายทหารพรานหญิงพวกเรา เพราะค่ายทหารผู้ชายเขาจะให้ทำกินกันเอง พวกสาวๆ แบบเราจะไปแจมได้นะ ผู้กองของค่ายทหารบกพูดผ่านโทรโข่งมา แต่ที่สะดุดตาคือที่พักค้างแรมของทหารเขียวคือเต้นท์ พวกนี้ดูท่าจะไม่เคยอยู่ป่าหรือลำบากลำบนเหมือนทหารพราน ดูท่าจะกินดีอยู่ดีด้วย
ระหว่างที่เดินไปรับข้าวที่โต๊ะไม้ พวกสาวๆ แบบพวกเราก็ถูกหนุ่มๆ ที่ทำที่พักแรมคืนนี้ข้างๆทางเดิน ได้เอ่ยแซวเป็นระยะๆ คนอื่นอาจจะกระชุ่มกระชวยหัวใจที่มีหนุ่มๆ แซว แต่สำหรับฉันมันคือเรื่องที่ธรรมดา ไม่น่าตื่นเต้นอะไรเลย และรอบนี้ไม่มีคนยืนแจกข้าวนะ ให้หยิบเอาเองเลย
ฉันที่พยายามเดินห่อไหล่สุดๆ เอามือปิดรูปตราที่หน้าอกและตัวเลขรุ่นของเสื้อซับในตลอดเพราะกลัวพวกทหารบกจะเห็น กลัวโดนแซว เมื่อกี้พี่ๆค่ายเดียวกันก็พากันแซวไปแล้วหนึ่งรอบ ไม่รู้คิดผิดหรือคิดถูกนะที่ยอมเปลี่ยนเสื้อ เฮ้อ! เหนื่อยใจเลยอยู่ไม่เป็นสุข กังวลกับสิ่งที่ไม่เป็นเรื่อง เฮ้อ!!!
“ ยัยมุกแฟนแกอยู่เต้นท์ไหนอะ ” ฟ้าเดินมาถามใกล้ๆ
“ จะไปรู้เหรอ? ” แต่ตอนนี้พี่เขาอาจจะยังไม่กลับมาจากไปเอาน้ำก็ได้นะ เพราะยังไม่เห็น
“ ว่าจะไปกินอาหารฝีมือพี่เขาหน่อย อดเลย ” ฟ้าทำหน้าเสียดาย
“ แต่ของแจกมันน่าจะอร่อยกว่านะ ไปๆ ” ฉันผลักฟ้าเบาๆ ให้ไปหยิบกล่องข้าวและแกงถุง
ตัวเองก็ทำเช่นกันแล้วหยิบขวดหนึ่งขึ้นมาหนีบรักแร้เพราะมือไม่ว่าง จังหวะนั้นเผลอลืมตัว ไม่ได้คิดอะไร เดินตามหลังเพื่อนไปเรื่อย แต่ก็ต้องโดนทักจนได้
“ เฮ้ยๆ น้องๆ น้องนั่นแหละ ทำไมมีเสื้อรุ่นของพวกพี่ด้วยล่ะ ” ฉิ-หายแล้ว ฉันรีบเดินจ้ำอ้าวไม่สนใจคนที่ทักถาม
เสื้อซับในมีหลายแบบ พวกทหารก็ทำเป็นเสื้อรุ่นแบบ 2/65 อะไรงี้ เลขตัวหน้าคือผลัดที่เข้ามาประจำการ เลขหลังคือ พ.ศ.ที่มาประมาณนี้
“ ใจหายใจคว่ำหมด ดันตาดีอีก ” ฉันบ่นพึมพำอยู่คนเดียว พร้อมนั่งล้อมวงกับเพื่อนๆ ทุกคนในค่าย ส่วนผู้ชายทั้งหลายก็ยังช่วยกันทำกับข้าวของใครของมันอยู่
“ น้องๆ ทำไมมีเสื้อรุ่นพี่ด้วยอะ ” ตักข้าวกำลังจะเข้าในปากต้องชะงัก ยังอุตส่าห์ตามมาหลอกหลอนอีก ปั๊ดโธ่…
“ …. ” ไม่ตอบแล้วแกล้งทำเป็นหูไม่ได้ยิน เพื่อนๆพี่ๆก็จ้องมา แต่ไม่มีใครพูดอะไร
“ น้องทำไมไม่ตอบอะ ” ยืนพูดไม่พอยังนั่งยองๆ มาถามอีก น่าเบื่ออะ
“ พี่จะถามอะไรหนักหนาคะ เพื่อนหนูไม่ได้ขโมยมาแล้วกันนะ ” ฝนพูดขึ้นแทน
ฉันขยิบตาให้นาง ประมาณว่าขอบใจนะ นี่แหละเพื่อนแท้ พวกนางน่าจะรู้ว่าฉันคงไม่อยากจะป่าวประกาศเรื่องที่เป็นคู่หมั้นพี่ฉัตรออกไปตอนนี้
“ ใช่ๆ ทำไมชุดนี้มีแต่รุ่นพี่หรือไง ” ฟ้าเอ่ยถาม
“ ใช่ เพราะเลขที่หน้าอก มีแค่รุ่นพี่นะสิ ” พี่คนนี้กะจะมาแซวหรือยังไม่รู้กันแน่นะ แต่จำได้พี่ฉัตรบอกว่าได้บอกเพื่อนๆ ไปแล้วนิ ว่าเราเป็นคู่หมั้นกันแล้วอะ
“ พี่ถามเอ็งว่าเอามาจากไหน มีได้ไง หรือว่าแอบไปมีอะไรกันแล้วใส่ชุดผิดอะ ว้าว ” พูดปากเสียใส่ความไม่พอยังทำตาลุกวาวอีก มันน่าหนัก น่าฟาดด้วยหลังมือ
“ ไม่ๆ ไม่ใช่สักหน่อย เอ่อ… ”
“ ไอ้เก่งมึงอย่าเอาแต่จีบสาวสิวะ มาช่วยกูหุงข้าวก่อน ไอ้เวร! ” เสียงตะโกนดังมา พี่คนที่นั่งใกล้ฉันลุกขึ้นยืนทันที แล้วเดินจากไป ฉันแอบถอนหายใจ อย่างโล่งอก
“ ไอ้พี่เก่งคนเมื่อกี้ ช่างสังเกตนะ พวกแกว่าไหม ขนาดฉันมองเผินๆ ยังแยกไม่ออกว่ามันไม่เหมือนกันเลยนะ ” ฝนพูด
“ ใจหายหมด ที่พี่เขาว่าไปแอบมีอะไรกันอะ นี่ยัยมุกมันเสียหายเลยนะ ดูพูดเข้า ” ฟ้าพูดเสริม
“ คราวหลังก็บอกไปว่าของพี่ฉัตรก็จบ สิ้นเรื่องไปเลย ” ฝ้ายพูด
“ ใครจะกล้าบอก ฉันกลัวโดนแซวนะเว้ย! อะๆ พอแล้วไม่ต้องจ้องหน้าฉันแล้ว กินข้าวเถอะ! ” ฉันพูดแล้วตักข้าวกินต่อ
❤️__________❤️
นามปากกาผกายมาส
บทที่ 9 โดนผลัก05:00 น.เสียงนกหวีดดังขึ้น ปลุกทุกคนที่นอนให้ตื่นขึ้นทันที พร้อมกันรีบพับห่ม แต่ก็ได้แต่ทำอะไรไม่ถูก เพราะตอนแรกเหมือนจะสะลึมสะลือ พอตาแจ้งก็ต้องหยุดชะงักเพราะนี่ไม่ใช่ค่ายของตัวเอง“ ทหารทุกนายตื่นได้แล้ว อีกยี่สิบนาทีจะต้องมารวมกันที่เดิมแล้วนะ ตอนนี้ให้เวลาเก็บของ สัมภาระทุกอย่าง แล้วล้างหน้าล้างตา เตรียมตัวมาวางแผนช่วยคนกันต่อ ” เสียงโทรโข่งก็ดังขึ้นพวกเราก็รีบจัดแจงของต่างๆ ผ้ายางที่กั้นกำแพงก็เก็บเข้ากระเป๋าหมด จัดเก็บของจนครบ ไม่ลืมที่จะสวมเสื้อแขนยาวสีดำที่มีชื่อและตราของค่าย จัดแต่งใส่ไว้ในกางเกงให้ครบ และพากันไปเข้าห้องน้ำ ผู้หญิงจะเข้านานกว่าผู้ชาย มันโชคดีที่ไม่ต้องเก็บอะไรเยอะด้วยระหว่างรอเข้าห้องน้ำต่อจากพี่ๆ ในค่ายที่เข้ากันเกือบทุกคนแล้ว สักพักมีพวกผู้ชายจากค่ายทหารพรานมาเข้าห้องน้ำด้วย“ ใครเข้าต่อเหรอ ”“ ฉันเอง ” ฉันพูดขึ้น“ ให้เราก่อนได้ไหม พอดีเราปวดท้องหนักมาก ”“ เอ่อ… ” ด้วยความใจอ่อนก็ให้ผู้ชายคนนั่นเข้าก่อน หลังจากฟ้าออกมา เหลือแค่ฉันที่ยังไม่ได้เข้าห้องน้ำในตอนนี้“ อ้าว ทำไมมุกไม่เข้าไปอะ ” พี่หวานถามขึ้น“ เอ่อ …คนเมื่อกี้เขาบอกปวดหนัก
บทที่ 8 สมองขาวโพลน!“ มุก! ” กำลังลุกขึ้นจะเอากล่องข้าวไปทิ้งเพราะกินหมดแล้ว จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้น อดไม่ได้ที่จะหันไปมอง“ อ้าว พี่ธีร์ พี่มาด้วยเหรอ? ” ฉันถามด้วยความแปลกใจ จำได้ว่าพี่ชายของยัยธารใสประจำการอยู่ภาคใต้ตอนบน“ พี่มาประชุมแถวนี้หนึ่งอาทิตย์ได้แล้ว และวันนี้พี่เจอไอ้ฉัตรเลยตามมันมากะจะมาช่วยชาวบ้านนะ แต่คงต้องกลับแล้วเพราะทางค่ายหารือกันว่าจะช่วยต่อพรุ่งนี้ ว่าแต่มุกสังกัดแถวนี้เหรอ? ”“ ไม่ค่ะ อยู่อีกตำบล ”“ อีกตำบลเหรอ ไม่มีค่ายทหารหนิ ”“ มีนะ ค่ายXX ”“ อ้าว มุกไม่ใช่เป็นทหารเขียวเหรอ? ” พี่ธีร์พูดแล้วใช้สายตามองจากหัวจรดเท้า“ มุกเป็นทหารชุดดำค่ะพี่ ” ฉันพูดแล้วส่งยิ้มไปให้พี่เขา“ อ้าว เหรอ555+ ตอนแรกพี่สังเกตแค่ที่เสื้ออะ ก็คิดว่าเราเป็น ทหารเขียว ” สิ้นเสียงพี่เขา ฉันหุบยิ้มทันที รีบเอามือปิด แต่ก็ไม่ทันแล้วแหละ“ แหะๆ เสื้อพี่ฉัตรให้ยืมมาใส่ค่ะ ”“ อ๋อ…เออใช่ ยัยธารใสเคยบอกว่าเราทั้งสองคนหมั้นกันแล้วนิ พี่นี่ขี้ลืมจริงๆ 555+ ”“ อืม ” พยักหน้าหงึกๆ“ งั้นพี่ไปก่อนนะ พอดีต้องขออาศัยรถคนอื่นกลับออกไปจากตรงนี้นะ ”“ ค่ะ สวัสดีค่ะพี่ แล้วเจอกันใหม่นะ ”“ ครับ โชคดี
บทที่ 7 เทคแคร์ / หรือแอบมีอะไรกันหลังจากเข้าห้องน้ำไปปลดทุกข์ ไม่ได้อาบน้ำอะไรหรอก แค่ล้างหน้าก็ยังไม่ได้ล้างเพราะโดนเรียกรวมพลซะก่อนทุกค่าย ทุกคนมายืมรวมกัน แต่จะเข้าแถวค่ายใครค่ายมัน แล้วมันยังจะบังเอิญอีก ค่ายทหารพรานหญิงXXยืนใกล้ค่ายทหารบกYYซึ่งมันคือค่ายพี่ฉัตร อีกข้างก็เป็นทหารพรานชายค่ายBB เรียกว่าชายล้อมก็ยังได้ เพราะมีแค่ค่ายฉันเป็นผู้หญิงเพียงค่ายเดียวในตอนนี้“ มากันครบแล้วใช่ไหม! ” เสียงดังผ่านโทรโข่ง“ ครบค่ะ/ครับ ” ทุกคนต่างตะโกนออกมาเสียงเดียวกัน“ จัดแถว ซ้ายหัน ขวาหัน ตามระเบียบพัก เอาละ วันนี้ก็รู้กันอยู่ว่ามาช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ผมเห็นว่าทุกคนทำเต็มที่แล้ว แต่ดูท้องฟ้ามันครึ้มๆแล้วอีกแล้วตอนนี้น่าจะช่วยได้ไม่หมด แถมเข้าไปข้างในซอย น้ำก็เชียวมาก ก็เลยอยากให้ทหารทุกนายพักที่นี่ก่อน พรุ่งนี้จะได้ลุยต่อ ให้ทหารพรานหญิงค่ายXXพักบนบ้านสูงหลังนั้นนะ ส่วนทหารบก ทหารเรือ ทหารพรานผู้ชาย ก็ไปหาที่กันเอาเองนะ ”“ รับทราบ! ” ทุกคนตะโกนพร้อมกัน“ จัดแถว เลิกแถว! ”พรึ่บ! ทุกคนยกมือขึ้นมาทำความเคารพ แล้วแยกแถว แต่จะไปทีละแถวตามระเบียบของทหาร“ รับไว้ ” มันเป็นจังหวะที่พี่ฉัตร
บทที่ 6 จะ...จับจูบค่ายพวกเราได้ข้าวกันครบก็พากันไปหาที่เงียบๆ กิน นั่นก็คือบ้านของชาวบ้านที่ยกสูง น้ำท่วมไม่ถึงและบ้านหลังนั้นก็ยังก่อสร้างไม่เสร็จ มีแค่มุงหลังคา ฝากั้นบ้านยังไม่มี เหมือนจะทำแค่ห้องเดียว ทำด้วยไม้ทั้งหลัง พวกเราพากันเดินขึ้นบันไดไปและนั่งกินกันคนละมุม“ ใครไม่อิ่มกินได้เลยนะ” ฉันหยิบกล่องข้าวมาหนึ่งกับแกงถุงมาหนึ่งและน้ำหนึ่งขวด ที่เหลือวางไว้ตรงกลางแล้วพาตัวเองมานั่งห้อยขาอีกฟากหนึ่ง หูก็ได้ยินพี่ๆ ต่างพากันถามเพื่อนอีกสามคนว่าฉันกับคนแจกข้าวเป็นอะไรกัน พวกนั้นก็บอกไปตามตรงว่าเป็นคู่หมั้น เป็นแฟน เป็นคนรัก ทำนองนี้ฉันนั่งกินอย่างชิวๆ ตาก็มองลงไปด้านล่างที่มีน้ำท่วมขังอยู่ ถึงรสชาติจะไม่ค่อยได้เรื่อง แต่มันก็ประทังความหิวได้ เลยคิดไปว่ามันอร่อยนั้นแหละ“เอ่อ…” จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงทุกคนดังพร้อมกันแบบตะกุกตะกัก แต่ก็ไม่ได้สนใจคิดว่าน่าจะเป็นผู้หมวดที่เดินขึ้นมาพรึ่บ….รองเท้าคู่หนึ่งปรากฏใกล้ที่ฉันนั่ง มันทำให้ฉันต้องแหงนหน้าขึ้นไปมองเจ้าของ“พี่ฉัตร!” สิ้นเสียงฉัน พี่เขานั่งลง แต่ใครจะนั่งด้วยล่ะ ฉันขยับห่างจะลุกขึ้นแต่โดนล็อกด้วยมือหนาพี่เขาเอาแขนมาพาดที่ไหล่เหม
บทที่ 5 คิดว่าจำไม่ได้เหรอ?พวกเราหมู่สองทั้งสิบเอ็ดคนเดินมาถึงก็ไม่ทันได้พักหายเหนื่อย ก็เตรียมตัวจะลงไปช่วยประชาชนก่อนเป็นอันดับแรกค่ายพวกเรามาด้วยสภาพโส-มม เลอะเทอะ สกปรก อิดโรย ตั้งแต่เท้าถึงขาก็เต็มไปด้วยโคลนสีแดง ใบหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยคราบสีดำ ที่ทาอำพลางตั้งแต่ตอนลาดละเวนค่ายอื่นที่มาคือสภาพดูดี มีแค่ชุดที่เปียกคงเพราะลุยน้ำหรือตากฝนแหละ“ หวายกับหวานรอตรงนี้นะ เฝ้าสัมภาระและปืนของทุกคนไว้ด้วย ที่เหลือตามผมมา” ผู้หมวดพูดขึ้นที่ต้องทิ้งคนให้เฝ้าเพราะไม่สามารถไว้ใจใครได้ ปืนคือของหวงของทหารที่สุด ถ้าหายไปอาจจะมีอันตราย เพราะไม่รู้ว่าตกไปอยู่ในมือโจรหรือชาวบ้านและถ้ามันเป็นของทหารคนไหน คนนั้นต้องรับผิดชอบด้วย เขาถึงบอกว่ารักษาปืนให้รักษาเท่าชีวิต“ ยัยมุก นั่นมันคู่หมั้นแกใช่ไหมอะ? ” ฟ้าเดินมาสะกิดแขนฉันเบา ๆ พร้อมพูดกระซิบและพยักพเยิดไปตรงหน้าฉันที่กำลังวางกระเป๋าที่แบกมากับปืนลงก็มองตามและมันก็จริง พี่ฉัตรกำลังพายเรือพาชาวบ้านมาส่งบนถนนที่พวกฉันยืนอยู่“ หลีกๆ ” ฉันไม่รู้ว่าพี่ฉัตรจะเห็นไหม แต่รีบพาตัวเองไปหลบข้างหลังเพื่อน แล้วรีบวางของลงพอเรือพี่ฉัตรมาถึงผู้หมวดค่ายเร
บทที่ 4 คิดดีแล้วใช่ไหม / เข้าป่า“ มุกแกคิดดีแล้วใช่ไหม? ที่จะไม่เอาโทรศัพท์ไปด้วยอะ ” ฟ้าถามย้ำเป็นรอบที่สาม“ อืม ไม่รู้จะเอาไปให้หนักกระเป๋าทำไม ”แต่ในความเป็นจริงก็โกรธคู่หมั้นตัวเองอยู่ ตั้งแต่เมื่อวานตอนวางสายไป พี่เขาก็ไม่โทรกลับมาง้อเลย รู้แหละว่าเราทั้งคู่ยังไม่รู้สึกอะไรกัน แต่มันก็ควรรักษาน้ำใจกันบ้าง!“ เข้าป่าไป ถ้าไม่มีอะไรทำมันน่าเบื่อนะ ถ้ามีโทรศัพท์มันดีกว่านะ เล่นอะไรก็ได้ ” ฝ้ายพูดเสริม ในขณะที่ฉันกำลังเช็ดปืนประจำตัวอยู่ เตรียมพร้อมจะออกเดินทางอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า“ ในป่ามันไม่ค่อยมีสัญญาณ เล่นอะไรก็สะดุดไปหมด สู้ไม่พาไปดีกว่า ” พูดจบก็หยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียงมาปิดเครื่องไว้ซะเลย แค่สิบวันเองไม่เห็นจะเป็นอะไร ปกติก็ไม่ได้ติดโทรศัพท์ขนาดนั้น แล้วตอนเข้าป่าไป เขาจะให้วิทยุสื่อสารคนละตัวด้วย“ ทะเลาะกับพี่ฉัตรเหรอ? ” เพื่อนทั้งสามพร้อมใจกันจ้องหน้าอย่างจับผิด“ เปล่านะ มีอะไรต้องทะเลาะกันอะ ปกติก็คุยกันบ้าง ไม่คุยบ้าง คุยกันก็ถามแค่ทำอะไรอยู่ กินข้าวหรือยัง แค่นั้นเอง ไม่เห็นเป็นอะไร ถ้าไม่ได้คุยกันนะ ” ฉันพูดพร้อมยักไหล่แบบไม่ยี่หระ“ สาวๆ เสร็จหรือยัง! ” เสียงขอ







