LOGINในภาพลักษณ์ตำรวจดีเด่น ไม่มีประวัติด่างพร้อยใด ๆ ยิ่งค้นประวัติก็ยิ่งขาวใสสะอาดเอี่ยมราวกับชีวิตนี้ไม่เคยทำผิดอะไรมา…
เหมือนกันกับตนเอง…เหมือนกันเกินไป ชีวิตคนคนนึงจะราบเรียบได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ? หมวดอุดมนั่งมองหน้าจอที่มีประวัติของตนเองกับประวัติเพื่อนร่วมงานอีกคนที่ดูดีตั้งแต่ชาติตระกูลการศึกษารูปร่างหน้าตา ผลงานการทำงานของหน่วยปราบปรามพิเศษ ยิ่งตรวจสอบก็ยิ่งตะหงิดใจ มันสะอาดเกินไป…สะอาดจนน่ากลัว ผู้หมวดหนุ่มขมวดคิ้ว พลิกเอกสารไปมา เคยเข้าใจว่าเป็นขวัญใจชาวบ้านเพราะรูปร่างหน้าตาและผลงาน แต่หลายครั้งกลับเข้าไปในที่อันตรายอย่างแก๊งค้ายาค้ามนุษย์และบ่อนเถื่อนออกมาโดยไร้รอยขีดข่วน ให้มาทำงานร่วมกันหรือมาจับผิดกันเองกันแน่…หน้าติ๋มๆ สุภาพขนาดนั้น นึกถึงหน้าตาตอนโหดๆ ไม่ออกเลยจริงๆ หมวดอุดมยกนิ้วชี้จิ้มรอยยิ้มทรงพลังในรูปหน้าจอครุ่นคิดอย่างหนัก ทุกอย่างถูกนักการเมืองวางแผนไว้แล้วตั้งแต่แรก…หรือไม่ใช่? หรือเป็นคนอื่น? ผู้หมวดอุดมมองภาพความปกติผ่านบานเฟี้ยมเมื่อได้ยินเสียงเอ่ยแซวคนที่นั่งนึกถึงและหาข้อมูลเป็นวันจากอีกมุมห้อง เขาเชื่อมั่นในความชาญฉลาดของตนเองมากว่าไม่เป็นรองใคร นี่ไม่ใช่การตามหาเงินธรรมดาๆ แน่ๆ วงการสีกากีเป็นแบบไหนกันแน่นะหรือสารวัตรคีรติ “ผมขอคุยด้วยหน่อย เลิกงานคุณว่างมั้ย” ผู้หมวดร่างหนาหน้าตาดุดันย่างกายเงียบเชียบมาหยุดยืนหลังเก้าอี้สารวัตรตัวขาว ร่าเพรียวสูงนั่งหลังตรงจรดปลายนิ้วยาวพิมพ์งานขะมักขะเม้น ผมสั้นซอยเรียบร้อยเซ็ตเรียบแลดูสะอาดตา เสี้ยวหน้าคมชัดสัดโหงวเฮ้งดีไปหมด เผลอมองเพลินจนอีกฝ่ายยืนขึ้นตอบด้วเสียงทุ้มนุ่มฟังลื่นหูแม้นจะเป็นคำปฏิเสธก็ตาม “ผมจะกลับบ้านไปเลี้ยงหมา” คีรติตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ ข้างมุมปาก “ผมอารมณ์ไม่ค่อยดีไปดื่มเป็นเพื่อนหน่อยสิ” ผู้หมวดหน้าดุหล่อร้ายดูดิบเถื่อนเอ่ยชวนเพื่อนร่วมงานอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน สารวัตรยิ้มให้แต่ส่ายหน้าไปมาช้าๆ ท่าทียียวนที่ไม่รู้ไปติดจากใครมาทำผู้หมวดหนุ่มแสยะยิ้มร้ายด้วยการยิ้มมุมปากข้างเดียว ท่อนแขนยาวกำยำสีคล้ำกว่าสารวัตรเล็กน้อยยื่นมาจับพนักพิงเก้าอี้ทำงานเคลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ดวงตาเรียวสวยเปล่งประกายบริสุทธิ์พลันบรรยากาศก็เย็นเยียบลงทันที “ผมจะปรึกษาเรื่องงาน…ครับ” เสียงห้าวดังชัดทุกคำตรงหน้าเน้นคำสุดท้ายสุภาพให้รู้ว่าต้องการคุยด้วย ร่างบางกว่าถอยหลังเบียดโต๊ะทำงานพลางมองซ้ายขวาแต่ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งด้วย สารวัตรคีรติเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสบตรงไม่หลบเหมือนจะท้าทายอำนาจตรงหน้า “ถ้าอยากสืบหาความจริงก็เอาเวลาไปตามหาผู้ต้องสงสัยสิครับ ผมบอกแล้วว่ารับปากตามมารยาทไม่ได้อยากทำงานให้นักการเมืองแบบนั้น” สารวัตรคีรติเบือนหน้าหนีสายตาคาดคั้นและท่าทีคุกคามอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เพราะไม่ค่อยมีใครทำนิสัยห่ามใส่เท่าไหร่นัก ปกติแค่ยิ้มให้ก็ไม่กล้าทำอะไร แต่…คนอย่างหมดอุดมศักดิ์ อ่านยากเกินไป “ผมเลี้ยง..” ไม่รู้ว่าผู้หมวดคนเก่งเคยจีบสาวหรือคุยกับใครดีๆ บ้างแม้แต่การชวนไปทานอาหารแล้วบอกว่าจะเลี้ยงยังใช้น้ำเสียงเหมือนนักเลงคุมสลัมได้ถึงเพียงนี้ สารวัตรคีรติอยากยกมือขึ้นผลักร่างหนาให้กระเด็นแต่ประมวลผลแล้วมวลกล้ามเนื้อแตกต่างกันมากพอสมควร ไหล่หนากว้างนั่นยืนบังร่างตนเองเสียมิดท่าทางจะถนัดใช้กำลังเสียด้วย “หมาผมรออยู่” ถ้อยคำละมุนกับท่าเอียงคอน้อยๆ คงดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่นักเพราะทันทีที่บอกเหตุผลอีกฝ่าแบบนั้นเสือยิ้มยากอย่างผู้หมวดอุดมศักดิ์กลับยิ้มมุมปากหัวเราะในลำคอขึ้นมาทันที “ผมมีข้อมูลใหม่มาต้องการที่ปรึกษาด่วน” น้ำเสียงผู้หมวดอุดมอ่อนลงแม้ดวงตาจะดุดันแข็งกร้าวเป็นปกติราวกับควบคุมร่างกายตนเองไม่ได้ “ทำไมไม่ไปหานายปรีชาพวกคุณดูดุ…เหมือนกันน่าจะคุยกันรู้เรื่องมากกว่าผม ผมชอบใช้ชีวิตง่ายๆ สบายๆ ไม่ซับซ้อน แล้วก็ไม่ชอบ…คนเถื่อนๆ ด้วย” สารวัตรคีรติเม้มปากในประโยคสุดท้าย เพราะหน้าเหี้ยมขมวดคิ้วแน่นตรงหน้าเหมือนพร้อมจะเข้ามากัดคอทุกเมื่อ “ถ้าผมคุยกับมันแล้วไม่ตีกันจะมาคุยกับคุณทำไม ตำรวจกับมาเฟียยังไงมันก็ดุดันคนละแบบอยู่แล้ว?” ผู้หมวดอุดมยังคงขยับกายเข้าหาแม้สารวัตรคีรติจะยกเข่าขึ้นกั้นระหว่างกลาง แต่ร่างหนาไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย หน้าขาแกร่งดันเข่าจนเจ็บไปหมด “โอเค…” “ว่าไงนะ” “ไปก็ได้…ถะ ถอย ถอยออกไปได้แล้ว…ครับ” “ไปรถผมห้าโมง บีเอ็มสีดำทะเบียน กก9942” “เหมือนรหัสปลดล็อคคอมพิวเตอร์ของเรย์เลยถ้าอ่านจากท้ายไปหน้า” คีรติบ่นพึมพำกับตัวเอง ทันทีที่ผู้หมวดร่างยักษ์กลับเข้าห้องนายตำรวจหนุ่มสองคนยกเครื่องดื่มสีเหลืองทองมีฟองสีขาวนั่งจิบกันเงียบๆ มาได้พักใหญ่ยามนี้ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทมีเพียงแสงไฟให้ความสว่างทั่วบ้านทั่วเมืองมาแทนที่ “มีอะไรก็พูดมาสิครับ” “คุณไม่ชอบผมเหรอสารวัตร” “…ฮ้ะ?” “กับคนอื่นคุณก็พูดได้ ยิ้มได้เป็นธรรมชาติ ทำไมกับผมคุณดู…ฝืนๆ ไม่ชอบที่ผมยอมก้มหัวให้นักการเมืองพวกนั้นเหรอ แต่ถ้าเป็นเหตุผลนั้นคุณเองก็รับปากว่าจะหาเงินพันล้านนั่นให้พวกเขานี่ ผมทำอะไรผิด กะอีแค่รับงานเสริมถ้าหาเจอก็ได้20%” “คุณทำงานรับจ้างอะไรแบบนี้บ่อยสินะพวกนั้นถึงไว้ใจคุณแบบนี้” “ใครทำงานสำเร็จก็ถูกเรียกใช้ซ้ำเป็นธรรมดาคุณจะบอกว่านี่เป็นงานแรกที่ถูกเสนอเหรอไง” “ใช่ คุณคงลืมว่าผมทำคดีอะไรก่อนที่จะไปเจอคุณในห้องประชุมของนักการเมืองวันนั้น” “…จับแก๊งฟอกเงิน” สองนายตำรวจที่พึ่งมีเรื่องเคืองขุ่นใจมาหมาดๆ แต่กลับมานั่งดื่มเบียร์ด้วยกันเงียบๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาสายลมพัดสาดตวัดผ่านผิวกายเป็นระลอก เสียงเพลงคลอเบาๆ กับอาหารบนโต๊ะหลายอย่างกลับไม่มีใครแตะต้องมัน ทั้งคู่นั่งเก้าอี้คนละฝั่งเพียงยกเครื่องดื่มสีเหลืองอร่ามจิบพลางหันหน้ามองสายน้ำต้องแสงระยิบระยับสะท้อนแสงไฟ เสียงโทรศัพท์ดังแทรกขึ้นกลางความเงียบสงัด ตื๊ดด ตื๊ดดด… ตื๊ดด ตื๊ดดด… สารวัตรคีรติขมวดคิ้ว มองหน้าจอสั่นที่วางอยู่ข้างแก้วเบียร์ ข้อความเด้งขึ้นมารัว ๆ บนหน้าจอมันถูกเพิกเฉยแต่เจ้าของเครื่องมือสื่อสารสีดำกลับกระดกแก้วแอลกอฮอล์ขึ้นจิบแทน “โทรศัพท์คุณ…” หมวดอุดมพยักหน้าใส่มือถือตรงหน้าคนหน้านิ่งที่เริ่มหน้าแดงคีรติวางแก้วลง พลางตอบเรียบ ๆ “ผมต้องสั่งไก่ให้หมาแล้ว” นิ้วยาวกดปิดการแจ้งเตือน “คุณมีอะไรจะพูดก็รีบพูดมาเถอะ” อุดมศักดิ์หัวเราะหึแววตาแพรวพราวจับจ้องดวงตาเรียวรับโครงหน้าหล่อเหลา จ้องกันราวกับเสือสิงโตอยู่ถ้ำเดียวกัน ท่าทางสง่างามที่แตกต่างยามประจันหน้าเหมือนนายแบบสองคนยืนโพสท่าท่ายรูปอยู่ตรงนั้นนิ้วยาวของเรยาเกี่ยวขอบกางเกงผ้านุ่มลื่นสีขาวลงพ้นเนินสะโพกดึงลงจนร่วงหล่นลงไปกองกับพื้นทำให้ท่อนล่างคุณตำรวจไร้เครื่องป้องกัน“ตัวเองชอบตอนเค้าติดสัตว์ไง” ปากได้รูปที่ชอบพ่นคำลามกทำเอาเจ้าของงบ้านนมันเขี้ยวอย่างหนักมือข้างหนึ่งของคุณตำรวจบีบกรามเจ้าหมาตัวโตแน่นแตเจ้าตัวดีกลับเอียงหน้ามาเลียหลังมือขาวสว่างเอาอกเอาใจ สองมือที่กอบกุมก้อนสะโพกแน่นสอดลึกลงไปในร่องหลืบคับแคบ รอยยิ้มเล็กๆ เริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าสารวัตรหนุ่มยิ่งทำให้หมาอย่างเรย์ได้ใจหันหน้ามองเนื้อแท่งขาวราวกับบไส้กรอกอวบอิ่มสิ่งกลิ่นหอมหวน เกร็งข้อมือโอบอุ้มก้อนเนื้อแน่นยกขึ้นน้อยๆ ร่างสูงของสารวัตรต้องเขย่งปลายเท้าเจ้าหมาเด็กไม่รู้สำนึกว่าทำความผิดยังคงนัวเนียของโปรดไม่หยุดหย่อนหน้าหล่อๆ มุดกลางหว่างขาคนพี่แหงนหน้าเสยปลายลิ้นลากผ่านถุงเนื้อนุ่มนิ่มปาดเลียลำร้อนขาวเนียนยิ่งกว่าผิวเด็กอ่อน แท่งเนื้อที่มักจะมีปฏิกริยากับสัมผัสของหมาบ้าอย่างเรย์เสมอมือสองข้างของสารวัตรคีรติต้องประคองบ่ากว้างเอาไว้เมื่อถูกช้อนสะโพกขึ้นจนไม่สามารถเหยียบพื้นได้ ขาสองข้างกางออกกว้างจนแทบจะขี่คอคนเมา“อืมมม~”คุณตำรวจส่งเสียงครางแผ่วทุกครั้งที่เก
เวลาต่อมาสภาพห้องใต้ดินเละเทะเศษขนมเกลื่อนกราดกระป๋องเบียร์ขวดน้ำอัดลมและน้ำเปล่าเป็นกอง ทั้งหมดมึนเมาตามๆ กันแค่นั่งยังเซ เสียงพูดคุยยืดยานฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง“มึงจะกลัวอะไรเราสี่คนเป็นส.ส นะมิดจี้มึงเองก็บอกว่ามันไม่กล้าทำอะไร” แวซายพูดพลางโยนถุงขนมบนโต๊ะให้น้องเล็กปีรามิดตะครุบกอบโกยเอามากอดไว้ไม่แบ่งใคร “ถ้ามันต้องทำขึ้นมาล่ะแล้วพวกมึงจะมีปัญญาคลอดลูกไปคืนแม่กูหรือไง!?” เสียงขึ้นสูงอย่างกับจะกัดใครสักคน“มึงนี่หงุดหงิดง่ายชะมัดตอนโมโหเสียงก็ยิ่งแหบเหมือนอะไรก็ไม่รู้ แกว๊กๆๆๆๆ” โรมหัวเราะ“ทำไมไม่เอาอย่างลูกพี่ลูกน้องมึงบ้างวะ เอาสมองมาไว้ที่จู๋ไม่ต้องคิดห่าอะไร เด้าอย่างเดียวไม่เครียดก็เด้า หิวก็เด้า อิ่มก็เด้า เลี้ยงง่ายสัด”“เออจริง มึงน่าจะแดกน้ำอสุจิแทนข้าวไปเลยนะ” อีกคนเสริม“ชมกูอยู่ปะวะ จะได้เขินถูก” เรยายกคิ้ว ยิ้มกวนปีรามิดกอดอก หัวเราะหึ ๆ เพราะอารมณ์เย็นลง“สมองอยู่ที่จู๋จริง ๆ”“ทำไมพ่อแม่พวกเราถึงมาเป็นนักการเมืองวะ” เรย์ยกขวดเหล้า ขยับปากยิ้มจาง ๆ “แดกบ้านแดกเมืองแล้วมันเท่ดีมั้งแล้วมาตอแหลว่ารักประเทศ ““จริง…” เสียงแวซายรับคำเบา ๆ“อย่าทำตัวน่าเบื่อ
วันเสาร์บ้านผู้หมวดอุดมศักดิ์แกร่ก…แต๊กกกกๆๆๆๆๆๆ …“ไอ้เหี้ย! กูบอกให้ระวังหลังไง!”เสียงตะโกนปนหัวเราะดังออกมาจากห้องโถง เสียงเมาส์กดคลิกตามจังหวะเกมก้องสะท้อนผนัง ตัวละครกระโดดเล็กน้อย หมุนตัวหลบการโจมตีในเกม เสียงปัง ๆ ๆ ดังตามจังหวะมือเขย่าเมาส์“หนวกหู!! เมื่อไหร่จะเลิกเล่นเกมส์สักที” หมวดอุดมศักดิ์พ่นลมหายใจตวาดลั่นบ้าน“แป๊บนึงกำลังจะชนะแล้ว” ปีรามิดทำเสียงยียวนเออออแต่ไม่ขยับเขยื้อนจากหน้าจอ“หยุดเล่นเดี๋ยวนี้!!” น้ำเสียงเรียบแต่เต็มไปด้วยอำนาจ ทำให้ทุกอย่างหยุดนิ่งไป“มีเมลล์ส่งเข้ามาหาคุณด้วยล่ะ ผมปลดล็อคดู เขาบอกว่าอะไรน้าฟินแลนด์สามวันเวลาสามนาฬิกา…เหมือนรหัสลับปฏิบัติการในเกมส์เลย” ร่างผอมบางลอยหน้าลอยตาเล่นเกมส์ต่อสู้เสียงดังแล้วหัวเราะไปพร้อมกันตึก ตึก ตึกหมั่บบ!!หมวดอุดมศักดิ์เอื้อมมือมาบีบแก้มขาวให้หันหน้ามาสบตาแรงๆ “ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามายุ่งกับของของฉัน…อยากตายเหรอไง!” เสียงแข็งกร้าวเย็นชาเค้นต่ำกดดันคนตัวเล็กไม่ต่างจากราชสีกับลูกแมวดวงตากลมใต้ผมหน้าม้าต้องแสงวาวชั่วครู่แม้จะถูกบีบจนเจ็บกรามแต่เลือดนักสู้ก็ไม่ยอมง่ายๆ “ถ้าผมตาย ข้อมูลของคุณกับคนในความลับแ
เวลาต่อมา“พี่ค้าบ…”ปีรามิดยืนอยู่ในห้องกรง มือเล็กจับซี่เหล็กเขย่าไปมาเหมือนหมาถูกขัง“พี่จ๋า…”เสียงอ้อนกระท่อนกระแท่นโบกมือไปมาขอความเห็นยกปลายเท้ากระโดดโหย๋งเหย๋งอยู่ไม่สุข’ พี่ตำรวจปล่อยผมไปเถอะ ผมไม่กินแล้ว ผมไปขอคนอื่นก็ได้ ทำไมต้องจับมาขังแบบนี้ด้วย’ ปากบางกัดสั่นแต่กัดฟันกรอด มือเล็กกระตุกกรงเหล็กแรงๆ แม่ว่ามันจะไม่สะทกสะท้านสักนิดเรยาหัวเราะในห้องควบคุม เสียงแหบพร่า “ไอ้เหี้ย… โดนจับขังแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า”’ ไอ้ตำรวจนี่มันจิตใจอำมหิตชะมัด แค่คนตัวเล็กมาขอเงินกินข้าวก็จับเข้าคุกเฉยเลย’ เพื่อนอีกคนขมวดคิ้วบ่นไปเรื่อยเปื่อย’ กูว่าแล้ว ไม่มีใครใจดีขี้สงสารเท่าเมียกูอีกแล้ว’ เรยากอดอกอวดสรรพคุณคนรักที่เป็นตำรวจเหมือนกันเสียงหัวเราะพรืดดังลั่นรถด้วยความหมั่นไส้อีกครั้ง’ เลิกอวดเมียก่อนได้ไหมไอ้เรย์ ถ้าไม่อยากถูกตีนเล็กๆ ของไอ้มิดนาบหน้าก็รีบส่งคนไปประกันตัวมันเร็ว’ โรมเสนอ ปกระดิกตัวไปมา มือเล็กกวาดไปตามเหล็กกรง หางตากระพริบตาตื่น ๆร่างตัวกระแทกเบา ๆ กับพื้นห้อง ขาเต้นตุบ ๆ ไม่ได้หยุดนิ่ง’ ก็ด้ะ… รอแป๊บ ทำบัตรปลอมให้มันอยู่ ท่าทางจะเล่นด้วยยาก’ เสียงเรย์แผ่ว หรี่ตามองเพื่อน ๆ ร
ติ๊ง! เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ของหมวดอุดมดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนา ทั้งคู่ก้มลงมองพร้อมกัน“คนที่พูดถึง…โพสต์ชื่อใครบางคนออกมาแล้วครับ” อุดมกดขยายหน้าจอ ดวงตาเบิกขึ้นนิดหนึ่ง “ส.ส. พรรคสยามรวมใจ…คนใหม่” คิ้วเข้มของคีรติขมวดเข้าหากันทันที “เอ๊ะ พรรคนี้มันมี ส.ส. คนใหม่แล้วเหรอ”อุดมรีบเลื่อนหน้าจอพลางเอ่ยเสียงตื่น “เดือนหน้า…จะมีการรับตำแหน่งของ ส.ส. พรรคสยามรวมใจ คนใหม่…ทั้งหมดสี่คน”“โอ๊ะ…คุณรู้ได้ยังไงครับสารวัตร”คีรติพ่นลมหายใจออกช้า ๆ คล้ายเก็บความกังวลไม่อยู่ “ผลการโหวตของข่าววงในมันออกมาแล้ว” อุดมเม้มปากแน่น“เอ๋…แต่ไม่มีข่าวหน้าพวกเขาออกมาเลยนี่ครับ”“เห็นว่าจะได้เห็นพร้อมกันวันเปิดตัว” คีรติว่าชัดถ้อยชัดคำ เสียงทุ้มต่ำหนักแน่น “นโยบายใหม่ที่ไม่ให้เปิดเผยใบหน้าก่อนรับตำแหน่ง…เพื่ออะไรก็ไม่รู้ แต่ก็มีคำสั่งนั้นออกมาแล้ว”หมวดอุดมชะงัก สายตาสั่นเล็กน้อย “แปลกชะมัด…เลือกแค่จากชื่อ ไม่ต่างอะไรกับไอ้ดาร์คเว็บนี่เลย ตั้งกฎในประเทศให้ดูไม่โปร่งใสไปหมด…อีกหน่อยก็คงเป็นคอมมิวนิสต์ชัด ๆ”ความเงียบกดทับลงมาอีกครั้ง ทั้งคู่สบตากัน รู้ทันทีว่าการเชื่อมโยงเริ่มปรากฏให้เห็นอย่างน่าขนลุกสารว
เสียงนาฬิกาในห้องทำเดินเป็นจังหวะขณะที่สารวัตรคีรติเอนหลังในเก้าอี้ ดวงตาเรียวเหม่อลอยไปที่ไกลแสนไกล เป็นอยู่อย่างนั้นมาหลายวันแล้วนับตั้งแต่วันที่เรยาหายไปเจ้าเด็กนั่นหายไปไม่ติดต่อกลับมา ไม่รู้ทำไมถึงหายไปทั้งที่ไม่ได้ทะเลาะกัน ไม่มีเรื่องอะไรให้น่าน้อยใจแต่ทำไมถึงออกไป…“สารวัตรคีรติวันนี้เลิกงานไปดื่มกันมั้ย?”“…”“สารวัตรครับ…”ใบหน้าเรียบเฉยเหม่อมองนอกหน้าต่างไม่ไหวติงบ่งบอกว่าไม่ได้ยินที่อีกฝ่ายเรียก หมวดอุดมหน้าดุจึงเร่งเสียงดังขึ้น“สารวัตรคีรติ!”“ครับ? …หมวดอุดมมีอะไรหรือเปล่า?”“พักนี้คุณดูเหม่อ ๆ มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”เสียงทุ้มถามขึ้นท่ามกลางห้องทำงานที่มีเพียงไฟสลัว คีรติเงยหน้าขึ้นทันที แต่รีบปฏิเสธ“เปล่าครับ… คุณว่าไงนะ เรื่องเงิน?” น้ำเสียงพยายามราบเรียบ แต่แววตาไหววูบ“ผมได้เบาะแสจากที่หนึ่งมา” ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยพลางกอดอก สีหน้าเคร่งเครียด“ครับ? เบาะแสอะไร? ที่ไหนครับ” คีรติขมวดคิ้ว มือที่ถือปากกาเผลอหยุดเขียนทันที“ต้องออกตัวก่อนนะ ว่าที่ผมเป็นสมาชิกดาร์คเว็บ…มันก็เพราะเราอยู่หน่วยปราบปรามพิเศษ ต้องหาข้อมูลจากเว็บพวกนี้” อุดมเอ่ยหนักแน่นจริงจัง“ครับ”“ในดาร์คเ







![อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)