ดิสมันเดินทางไปทันที
“เจ้าเนี่ยทำไม ไม่บอกราชาเทียรี่ล่ะ เราโดนแกล้งชัด ๆ ” เบต้าบ่น
“เจ้าคิดว่ามีเรื่องกับพี่ ๆ เขาแล้ว มันจะจบแบบไหนกัน ข้าน่ะทำได้แค่อดทนเท่านั้นล่ะ” ดิสมัสพูด
ตลอดทางดิสมัสรู้สึกประหลาดใจมาก เพราะว่า เขาไม่เห็นร่องรอยของพวกโจรเลยแม้คนเดียว แต่ก็ยิ่งต้องตกใจเมื่อมาถึงเมือง พบว่าเมืองโดนถล่มไปแล้ว ดิสมัสรีบสั่งให้ตรวจสอบทันที พบว่าไม่มีใครรอดชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว !
“รีบกลับไปที่เมืองหลวงเร็ว” ดิสมัสสั่งก่อนไปเขาร่ายมนตร์สร้างกองทัพโครงกระดูกจากทุกศพที่เห็น
ที่เมืองหลวงยออาน เหล่านักรบโจมตีโดยที่ไม่มีใครคาดถึง แต่กระนั้นเหล่าเอลฟ์นรานุนก็ต่อสู้อย่างกล้าหาญ โดยดาเมี่ยงกับดิดิเย่ร์เป็นคนนำทัพมาเอง ขณะที่กำลังต่อสู้อยู่นั้นก็ร่างของทหารกระเด็นมา
“ทำไมท่านพ่อต้องให้นำทัพมารบกับพวกนี้ด้วยนะ งานแบบนี้มันของไอ้อ้วนธอร์ไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่ม ผมสั้นสีทอง ตาสีฟ้า ใบหน้างดงาม จนแทบไม่อยากเชื่อว่าเป็นบุรุษเพศ รูปร่างของเขาดูไม่เหมือนนักรบเลยนักนิดแต่เหมือนกับพวกกวี หรือ หนุ่มเจ้าชู้ซะมากกว่า ไม่รู้ทำไม สองแฝดรู้สึกถึงพลังที่แผ่ออกมา ทำให้พวกเขาขนลุก
“ฝาแฝดเหรอ ข้าจะเกลียดฝาแฝดที่สุดเลยโวย” เขาพูดจบก็สร้างลูกพลังแสงและขว้างออกไป ดาเมี่ยงรีบหลบ ดิดิเย่ร์สร้างบาเรียคุ้มกันตัวเอง
“ปากดีนักนะ ไอ้หน้าก้นเด็ก เดี๋ยวพ่อจะฟันให้ขาดเป็นสองท่อนเลย” ดาเมี่ยงเข้ามาโจมตีทันที คมดาบหมายเอาชีวิตของผู้ชายตรงหน้า แต่เขากำลังจะเจอเรื่องประหลาดที่สุดในชีวิตของเขาแล้ว ผู้ชายตรงหน้าไม่แม้แต่จะขยับตัวหลบ คมดาบฟันเข้าเต็ม ๆ ที่หัวของอีกฝ่าย แต่ดาบกลับเด้งออกมาเหมือนกับฟันยางไม่มีผิด เพลงดาบของเขาไม่เคยทำให้ผิดหวัง ทำไมวันนี้มันกลับทำอะไรผู้ชายตรงหน้าไม่ได้ แถมอีกฝ่ายยังกวักมือเป็นเชิงท้าทายเขา ดาเมียงโกรธจัดกระหน่ำฟันไม่หยุด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จนเริ่มเหนื่อย
“ตาข้าแล้วนะ”
เขาออกหมัดชกอีกดาเมี่ยงกระเด็น ดิดิเย่ร์ ร่ายมนตร์สร้างโกเล็มขึ้นมาจากพื้นดินและสั่งให้ไปโจมตีทันที แต่ไม่ว่าโกเล็มจะออกแรงทุบไปสักเท่าไหร่ แต่ร่างของกายของชายผมทองก็ไม่สะดุ้งสะเทื้อนเลยแม้แต่น้อย ยังมันทันไรก็มีค้อนลอยมาทุบ ร่างของโกเล็มแตกละเอียด
“ธอร์ เจ้ายุ่งอะไรด้วยเนี่ย” ชายผมทองตะโกน
“เจ้าล่ะมั่วเล่นอะไรอยู่ บาลเดอร์” ธอร์มาพร้อมกับลูก ๆ เมื่อดิดิเย่ร์เห็นเพาเดอร์ก็ร้องถามว่า
“เจ้าเป็นเอลฟ์เผ่าไหนกัน ทำไมถึงมาร่วมกับพวกนี้”
“พวกแกเป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย ถามอยู่ได้ข้าไม่ใช่เอลฟ์แถวนี้โวย !” เพาเดอร์ตะโกนและวิ่งนำไปหา ดิดิเย่ร์ แต่ดาเมี่ยงเอาดาบของตนมารับคมดาบของเพาเดอร์เอาไว้ก่อน ทั้งสองปะทะเพลงดาบกัน ดิดิเย่ร์เห็นท่าไม่ดีแล้ว จึงร่ายมนตร์ สร้างทหารโครงกระดูกออกมาเข้าต่อสู้ทันที แต่ธอร์และลูก ๆ เข้าทำลายมันพวกมันได้อย่างง่ายดาย ดิดิเย่ร์ยังเสกขึ้นมาไม่หยุดแต่บาลเดอร์กลับยืนดูเฉย ๆ
“น่ารำคาญ จริง” ธอร์ปล่อยสายฟ้าออกจากค้อน ทหารโครงกระดูกกลายเป็นขี้เถ้า ดิดีเยร์เสกกะโหลกเพลิงออกมาจำนวนมากให้มันพุ่งไปหมายจะสังหารธอร์ และบาลเดอร์ ธอร์สะบัดค้อนทำลายกะโหลกเพลิงได้ ส่วนบาลเดอร์ ร่างของมันเปล่งแสงออกมา กะโหลกเพลิงสลายไปทันที และยังไม่ทันไร บาลเดอร์ยิงลำแสงออกมา ลำแสงโดนร่างของดิดิเย่ร์ทำให้เจ็บปวดไปทั้งร่างเขาถึงกับล้มลงไป และขยับตัวไม่ได้อีก ส่วนดาเมี่ยงนั้นมีเชิงดาบที่เสมอกับเพาเดอร์ ทำให้การต่อสู้เป็นไปอย่างสูสี แต่เขาบาดเจ็บจากที่โดนบาลเดอร์โจมตี ทำให้พลาดโดนฟันเป็นแผลยาวเขาล้มลงไป
“ลูกพ่อ” เทียรี่รีบออกมาดูลูกชายทั้งสองคน
“หัวหน้าที่นี่มาแล้วสินะดีล่ะ ให้ข้าสนุกหน่อยเถอะ” ธอร์พูดพลางควงค้อน
ดิสมัสมาถึงเมืองแล้วเขาเห็นสภาพเมืองก็ต้องตกตะลึงเขาเพิ่งเคยเห็น พวกเอลฟ์รานุนที่ปราชัยขนาดนี้ อาจเรื่องได้ว่าแพ้ยับ ดิสมันคิดถึงมารดาขึ้นมาเป็นคนแรก เขาสั่งให้ทหารเข้าโจมตีทันที กองทัพโครงกระดูกของเขาเหมือนแก้สถาณการณ์ได้บ้าง แต่ว่าไทร์ปรากฏตัวขึ้นมายืนขว้างเอาไว้ ดิสมัสรู้สึกถึงความน่ากลัว เขาสั่งให้โครงกระดูกรุมโจมตีทันที ไทร์เหวี่ยงดาบทำลายโครงกระดูกไปทั้งหมด ดิสมัสเอาตุ๊กตาออกมาโยนไปที่กองเศษเหล็ก และพูดว่า
“EMETH” เหล็กเหล่านั้นถูกหลอมกลายเป็นตัวโกเล็ม และเข้าไปโจมตีไทร์ทันที
“มันเอาไม่อยู่หรอกนะ” เบต้าพูด
“ไม่ได้หวังจะให้มันต่อสู้ชนะ แต่อยากจะซื้อเวลา ข้าจะไปตามหา ท่านแม่” ดิสมัสควบม้าไปอีกทาง เขารู้สึกเย็นวาปที่หลังรีบเรียกอรอลโต้ออกมา และให้มันพาบินหนี ม้าของเขาถูกผ่าเป็นสองซีก ไทร์มองดิสมัสที่หนีไปตรงนั้น เขากลับไม่คิดจะติดตาม
อีกด้านหนึ่ง เทียรี่ต่อสู้กับธอร์ อย่างสูสี เทียรี่เป็นแบล็กพาลาดิน จึงสามารถใช้เวทย์มนตร์และอาวุธคู่ใจของเขาคือ ไม้เท้า ที่ใช้ร่ายมนตร์ก็ได้ หรือจะใช้เป็นอาวุธโจมตีระยะประชิดก็ได้เช่นกัน มันแข็งแรงขนาดที่เรียกได้ว่า ฟาดอะไรต้องแตก ทั้งสองต่อสู้กันอยู่นาน ไม่มีใครทำอันตรายกันได้เลยแม้แต่น้อย
“ไม่คิดเลยนะว่าพวกเอลฟ์จะมีฝีมือเช่นนี้ นี่ทำให้ข้าสนุกมากจริง ๆ” ธอร์รวมพลังสายฟ้าและยิงออกไป เทียรี่เสกกะโหลกเพลิง แต่ถูกสายฟ้าทำลาย ธอร์ขว้างค้อนไป เทียรี่หลบ แต่ค้อนลอยกลับมา หาธอร์ เทียรี่หลบอีกครั้งหนึ่ง และเขาประชิดตัวฟาดอาวุธไปเต็มแรง เสียงอาวุธฟาดที่ร่างกายของธอร์ดังสนั่นแต่ว่า ธอร์กลับไม่ได้แสดงอาการว่าเจ็บปวดเลยสักนิด ไม่ว่าเทียรี่จะออกแรงฟาดไปขนาดไหนก็ตามที เทียรี่รู้เลยว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คนอ้วนธรรมดา ร่างกายนี้เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและชั้นไขมันที่แน่นหนาจนกลายเป็นเหมือนกับเสื้อเกราะธรรมชาติ
“คัน ๆ ว่ะ” ธอร์ฟาดค้อนสวนไปโดนเข้าที่อกเต็ม ๆ เสียงกระดูกหัก ซี่โครงของเทียรี่หัก เขากระอักเลือด
“ข้าช่วยเจ้าได้แค่นี้แล้วนะ ต่อไปดูแลตัวเองดี ๆ ด้วยล่ะ”ดิสมัสถึงกับโกรธจัดสำหรับเขา เบต้านั้นเหมือนกับญาติคนหนึ่ง ที่โตมากับเขา เมื่อเสียเบต้า ดิสมัสก็เรียกพลังจากความแค้นและความตายให้มารวมในร่างของเขา โจมตีอย่างบ้าคลั่ง โอดินพยายามรับมือแต่ก็ยิ่งลนลาน และในที่สุด เขาก็ฟันโดนโอดินเข้าที่หน้า ทำให้ผ้าปิดตาของโอดินเป็นรอยโดนฟัน โอดินต้องถอยและขว้างหอกไป ดิสมัสหลบและฟันหอกให้มันตกพื้นและหยิบมันขว้างใส่โอดิน หอกลอยไปเสียบร่างของโอดิน แต่กลับไม่มีการระเบิดโอดินกระชากออกมาแล้วพูดว่า “หอกนี่ไม่ฆ่านายมันหรอกนะ เจ้าทำให้ต้องใช้พลังนี้ เตรียมตัวเถอะ”ร่างของโอดินเปล่งแสงออกมา และเข้าโจมตีอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้มันรวดเร็วและรุนแรงมาก ดิสมัสรับมือไม่ได้ เขาพลาดโดนแทงทะลุกระอักเลือดล้มลงไป โอดินถีบร่างของเขากระเด็น ออกจากหอก ขณะที่อยู่ระหว่างความเป็นความตาย นั้นดิสมัสได้เห็น เทียรี่ยืนข้าง ๆ โลกิในร่างแม่ของเขา เฮล นายฮ้อยคำแหง แก่น จ้อย มิ่ง แม่เฒ่าคำ แม้แต่ห้าวอยู่ตรงหน้า เบต้า บากีร่า ชาล็อต นี่เขากำลังจะตายสินะ ถึงได้เห็นภาพคนเหล่านี้ “บักมัดเอ๋ย ! เจ้าบ่ถึ
“ข้าจะแก้แค้นให้เอง เจ้าอย่าออกไปจะได้มั้ย ให้ข้าตายก่อน ที่เจ้าค่อยไปสู้เถอะ เพราะข้าไม่อยากเห็นเจ้าเจ็บตัว” ดิสมัสพูดคำแพงพูดอะไรไม่ออกแล้ว นางตัดสินกอดเขาเอาไว้แน่นแล้วพูดว่า “อ้ายต้องกลับมานะ” “ข้ากลับมาแน่” ทั้งสามออกไปพร้อมกัน โอดินยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ได้ท่าทางของคนหวาดกลัวหรือยอมแพ้เลยสักนิด กลับมีท่าทางที่เข้มแข็ง ราวกับว่าตัวเองไม่ได้เสียเปรียบอะไรเลย เอาหอกชี้หน้าของเอลฟ์ทั้งสาม “เลือกเอาจะตายหรือยอมจำนน” “ทำเป็นพูดดีเจ้าเหลือแค่คนเดียวแล้วนะ ยังคิดจะต่อสู้อีกเหรอ” ดาเมี่ยงพูดเย้ย “คนที่เสียไปข้าหามาคืนได้ เสมอนั่นล่ะ เพราะอะไรรู้มั้ย” โอดินพูดจนก็สร้างลูกพลังแสงสีดำออกและยิงออกไป ทั้งสามหลบแทบไม่ทัน “เพราะข้าคือ เทพ !”โอดินเข้าโจมตีโดยเป้าหมายของเขาคือดิสมัส แต่ว่า ดิสมัสกับดิดิเย่ร์เสกโกเล็มขึ้นมาพร้อมกัน “EMETH”แต่โกเล็มแตกละเอียดในพริบตา แต่ก็ช่วยให้ดิสมัสตั้งตัวและยิงกะโหลกเพลิงใส่โอดิน แต่โอดินใชหอกทำลายได้ทั้งหมด และเข้ากระหน่ำ ดิสมัสเอาดาบปัดป้องการโจมตีของโอดิน ดาเมี่
ธอร์เข้าต่อสู้ทันที การโจมตีของมังกรกระดูกนั้นรุนแรงมาก แต่ธอร์ก็รีบมือได้ และยิงสายฟ้าสวนไป เมื่อมังกรกระดูกโดนโจมตี ความเจ็บปวดจะส่งผ่านมายังร่างกายของดิดิเย่ร์ด้วย แต่เขากัดฟันใช้มังกรกระดูก ต่อสู้ ดิสมัสเห็นดังนั้นเขาเรียกเจ้านกแสกออกมา ให้มันพาบินขึ้นไปฟ้าไป และเขาก็กระโดดลงไปตรงหัวของมังกรกระดูก และส่งพลังเพิ่มให้ “คิดจะทำอะไร” ดิดิเย่ร์ถาม ดิสมัสตอบว่า “ขืนให้ท่าน ควบคุมมันคนเดียว ท่านได้เป็นศพแน่”ดิดิเย่ร์ไม่มีเวลาจะมาเถียงกับดิสมัสแล้ว เมื่อทั้งสองเสริมพลังให้เจ้ามังกรกะโหลก มันเขาโจมตีอีก ธอร์หลบได้ ธอร์ใช้ค้อนทุบเข้าที่ร่างของมังกรกระดูก แม้มันจะมีรอยร้าว แต่ด้วยพลังของเอลฟ์ทั้งสอง ช่วยซ่อมร่างของมังกรกระดูก ทำให้ไม่ได้เสียหายมากมายอะไร “ดิดิเย่ร์ ร่ายมนตร์กัดกินใส่มังกรนี่” ดิสมัสร้องบอก ดิดิเย่ร์ไม่ถามอะไรเขาทำตาม เวทย์กัดกิน ปกติจะใช้ทำลายคู่ต่อสู้แต่เมื่อร่างใส่โครงกระดูกมังกร มันกลับทำให้ มังกรมีเนื้อหนัง ขึ้นมัน และดูดพลังสายฟ้าที่ธอร์ยิงออกมาเข้ามาในร่างได้ ทำให้มันมังกรสามารถพ่นสายฟ้ากลับไปหาธอร์ได้ แต่ธอร์ใช้ค้อนรีบเอาไว้ จึงเกิ
เจ้านกแสกปล่อยนายของมันลงไป ดิสมัสฟาดดาบหมายจะเล่นงานหัวของธอร์แต่ว่า อีกฝ่ายยกค้อนขึ้นมารับคมดาบเอาไว้เต็ม ๆ และเหวี่ยงร่างของดิสมัสกระเด็น เจ้านกแสกอรอลโต้ รีบไปโฉบนายของมันไม่งั้นเขากระแทกพื้นแน่ ดิสมัสจำต้องลงพื้นเพื่อตั้งหลัก และเหล่ามนุษย์หนูก็วิ่งมาสมทบกับเขา “คิดจะทำบ้าอะไรวะเนี่ย” ดิดิเย่ร์พูดขึ้นมาและส่งสัญญาณให้พวกโดวาฟเอาอาวุธออกมา มันคือเครื่องเหวี่ยงหิน ! หินจำนวนมากถูกเหวี่ยงลอยไป แต่ถูกธอร์ทำลายได้เกือบทั้งหมด แถมหินเหล่านี้ก็ตกลงมากลายเป็นเหมือนฝนมรณะ ที่สังหารคนไปจำนวนมาก ทำให้การใช้เครื่องเหวี่ยงหินไม่ใช่ความคิดที่ดีแล้ว เหล่าพานรมฤค นำโดนพนารีบมาอาสาทันที “เหวี่ยงพวกเราขึ้นไป” “เฮ้ย ! พวกแกว่าไงนะ” ดิดิเย่ร์แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองเลย “ยิงพวกข้าขึ้นไป พวกข้าจะไปทำรถศึกนั้นร่วงลงมาแล้ว พวกเจ้าค่อยหาทางจัดการพวกมัน”พนาพูด ดิดิเย่ร์ทำหน้าไม่ถูกเขาเลยพูดว่า “ไอ้โรคเสียสติมันเป็นโรคติดต่อแน่ ๆ”พวกพานรนฤคถูกยิงขึ้นฟ้าไปจำนวนมาก พวกมันหลายตัวโดนสายฟ้าบาดเจ็บ ล้มตาย แต่ก็มีหลายตัวเหมือนกันที่มารุมเกาะรถศึกของธอร์
“เบต้ารักษาเขาเร็ว” ดิสมัสสั่ง แม้เบต้าจะไม่ชอบดาเมี่ยงแต่นางก็รักษาเขาเต็มที่ ดิดิเย่ร์หันมามองดิสมัสแล้วพูดว่า “สงสัยข้าต้องร่วมมือกับแกแล้ว ข้าไม่ใช่สายต่อสู้ตรง ๆ แบบนี้ ข้าเสียเปรียบแน่”โกเล็มสองตัวถูกทำลายอย่างง่ายดาย แต่ดิดิเย่ร์เสกขึ้นมาอีก ส่วนดิสมัสตัดสินใจเรียกเจ้าเสือดำออกมา “บากีร่าจงออกมา”เจ้าเสือดำเข้าไปโจมตีทันที แต่ไทร์หลบการโจมตีได้ แต่นั่นเป็นการเปิดช่องว่างให้ดิสมัสโจมตี แต่ไทร์เอาดาบรับดาบของดิสมัสเอาไว้ทัน แต่กลายเป็นจังหวะให้บากีร่า โจมตี แต่ไทร์เอาแขนข้างที่มือกุดไปรับคมเขี้ยวของบากีร่าเต็ม ๆ คมเขี้ยวกัดจมลงไปจนเลือดอาบ เป็นจังหวะให้ดิดิเย่ร์ ยิงกะโหลกเพลิงใส่ไม่หยุด แต่ไทร์รู้ทันเลยเหวี่ยงร่างของบากีร่ากระเด็น มารับกะโหลกไฟของดิดิเย่ร์ก่อน เจ้าบากีร่าถึงกับบาดเจ็บหนัก ดิสมัสเองก็ต้านกำลังของไทร์ไม่ได้แล้ว เขาต้องถอยออกมาไม่งั้นขาดสองท่อนแน่ “คิดว่าลูกไม้แบบนี้จะหยุดข้าได้งั้นเหรอ !”ทั้งดิดิเย่ร์และดิสมัสตัดสินใจยิงกะโหลกเพลิงใส่ไม่หยุด แต่มันกลับไม่สะดุ้งสะเทื้อนเลยแถมยังเข้ามาเหวี่ยงดาบใส่ดิดิเย่ร์ยังดีที่ดิสมัสเอาดาบมาร
“กระชากวิญญาณ” เจอคาถานี้ในระยะเผาขนแบบนี้ วิญญาณของยุรนันท์ถูกทำลาย เขาตายคาที่ทันที ดิสมัสหอบด้วยความเหนื่อย แต่ยังไม่ทันไร พลธนูบนป้อมก็เล็งธนูมาทางเขาแล้ว มาตาฮารี สั่งให้ธนูยิงธนูใส่เขา แต่ว่า “EMETH”ดิดิเย่ร์เสกโกเล็มมากันลูกธนะเอาไว้ก่อน ไม่งั้นดิสมัสกลายเป็นศพแน่ “ไม่ต้องไปกลัวฆ่าพวกมัน ตอนนี้จงฟังข้าแทนท่านยุรนันท์” มาตาฮารีสั่งอลิซซ่าได้ยินก็ตะโกนเสียงดังว่า “พวกเจ้าจะฟังนางจิ้งจอกยั่วสวาทนี่เหรอ พวกเจ้าเป็นนรสิงฆ์นะ” เหล่านรสิงฆ์เริ่มลังเล และยังไม่ทันไรเสียงกลองศึกก็ดังขึ้นมา ชูเท็นโดจิ กับอรุณนภานำทัพมาด้วยตัวเอง อรุณนภาประกาศเสียงดังลั่น “หากใครที่ทรยศยอมจำนน ข้าจะไม่เอาความเลย หากยังคิดจะต่อสู้อีก โทษเดียวที่จะได้รับคือประหาร” เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหล่านรสิงฆ์ก็รีบยอมจำนนทันที ส่วนมาฮารีนั้นเห็นถ้าไม่ดีแล้ว นางจึงรีบหายตัวหนีไปทันที เหล่าเอลฟ์ยังคงเป็นเจ้าของเมืองตรงนี้ ส่วนทัพนรสิงฆ์นั้นถอนทัพกลับไปที่บ้านเมืองตัวเอง พวกพานรนฤค ได้รับการปล่อยตัว แต่น่าเสียดายมนุษย์หนูตายไปหลายตนจนเหลือน้อยแค่หลักสิบเท่านั้น