Home / รักโบราณ / สยบรักยอดบัณฑิต / ตอนที่ 21 แววตาที่เปลี่ยนไป

Share

ตอนที่ 21 แววตาที่เปลี่ยนไป

last update Last Updated: 2025-05-02 11:52:51

วันเวลาผ่านไปเหมือนสายน้ำที่ไหลเอื่อย บาดแผลในหัวใจของลู่ซือหนานไม่ได้หายไปในชั่วข้ามคืน แต่ก็ค่อยๆ จางเบาลงทุกครั้งที่นางเลือกจะเผชิญหน้ากับมันอย่างไม่หลบหนี

ทุกเช้าเมื่อลืมตาตื่น นางไม่ได้รอคอยเสียงก้าวเท้าของผู้มาเยือนอีกต่อไป ทุกค่ำคืนเมื่อเอนกายลงบนหมอน นางไม่เฝ้าฝันถึงอดีตอีกแล้ว นางเรียนรู้ที่จะยิ้มให้ตัวเองในกระจก แม้ในวันที่ยังรู้สึกเจ็บลึกอยู่บ้าง

นางรู้สึกได้ว่าตนเอง แข็งแกร่งขึ้น ความผิดหวังทำให้นางเติบโต ไม่ใช่เพราะไม่มีน้ำตา แต่เพราะแม้มีน้ำตา นางก็ยังสามารถเช็ดมันเองได้ และยืนหยัดต่อไปด้วยหัวใจที่สงบนิ่งกว่าเดิม

ลู่ซือหนานเดินทอดน่องอย่างไร้จุดหมายอยู่ในเรือน สองมือประสานกันอยู่หน้าท้อง ดวงหน้าเศร้าสร้อยยังไม่คลายจากความผิดหวังในหัวใจ

เมื่อเดินผ่านศาลาใหญ่ นางก็ชะงักฝีเท้า เงยหน้าขึ้นอย่างเงียบงัน

เบื้องหน้าภายในศาลา เผิงเหยียนเฉิงนั่งเรียนอยู่กับอาจารย์ผู้เป็นนักปราชญ์ ตรงหน้ามีตำราหลายเล่มที่กางเปิด วางพู่กันในมือลงเป็นจังหวะราวกับกำลังขีดเขียนคำสำคัญลงไปด้วยความตั้งใจจริง สีหน้าแน่วแน่ มั่นคง ดวงตาทอประกายเคร่งขรึมอย่างที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน

เขามิได้สังเกตว่ามีใครมองอยู่ บัณฑิตหนุ่มยังคงจดจ่ออยู่กับตัวอักษรในตำรา ยามจดบทกลอนหรือหลักปรัชญาลงบนแผ่นกระดาษตามที่อาจารย์ผู้รู้สอน

ทุกการขยับเคลื่อนไหวของเขาล้วนเปี่ยมด้วยพลังที่เงียบสงบ แต่เด็ดเดี่ยวและตั้งใจ

ลู่ซือหนานมองเขาเงียบๆ จู่ๆ ความเศร้าในใจที่เหมือนก้อนหินทับถมมาตลอดหลายวันก็พลันเบาลงอย่างประหลาด

แม้ใจจะยังปวดร้าวจากความรักที่พังทลาย แต่เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า ชายหนุ่มผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยบอบช้ำแทบยืนไม่ไหว กำลังยืนหยัดอีกครั้งด้วยความเพียร นางกลับรู้สึกว่าความเจ็บในอกของตัวเองน้อยนิดกว่าเขามากนัก เหตุใดนางจะยืนหยัดอีกครั้งไม่ได้

ริมฝีปากลู่ซือหนานคลี่ยิ้มบางๆ โดยไม่รู้ตัว ดวงตาที่เคยหม่นหมองก็กลับมีแสงสว่างริบหรี่ขึ้นมา

“ข้าต้องเข้มแข็งให้ได้อย่างท่าน” นางพึมพำแผ่วเบาในลำคอ ราวกับจะให้กำลังใจทั้งเขาและตัวเอง

ไม่นานนัก เสี่ยวหลานสาวใช้คนสนิท เดินตามมาพร้อมรอยยิ้ม

“คุณหนูเจ้าคะ อากาศวันนี้ดีนัก ไปเดินเล่นที่ตลาดกันเถอะเจ้าค่ะ”

ลู่ซือหนานนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ พลางคิดในใจว่า บางทีการออกไปเดินสูดอากาศนอกเรือนบ้างก็คงดีไม่น้อย

นางกลับไปที่ห้อง ในระหว่างที่กำลังเลือกเครื่องประดับผมที่จะติดไป อันเหม่ยฉินเดินผ่านมาพอดี เมื่อเห็นบุตรีที่ไม่ได้มีสีหน้าเศร้าหมองอีกต่อไป ก็รู้สึกโล่งใจในอก นางยิ้มบางๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“จะไปไหนกันหรือ”

“ไปตลาดเจ้าค่ะ”

“ในเมื่อจะออกไปตลาด เหตุใดไม่ชวนเหยียนเฉิงไปด้วยเล่า”

ลู่ซือหนานชะงักไปนิดหนึ่ง หันมองมารดาด้วยแววตาสงสัย ลู่ฮูหยินยิ้มเอ็นดู

“เด็กคนนั้นอ่านตำรามากเกินไปจนแทบไม่ได้ออกไปไหนเลย อากาศดีเช่นนี้ พากันไปเดินผ่อนคลายเสียหน่อยก็ดี”

 “จริงเจ้าค่ะคุณหนู คุณชายเผิงนั่งอ่านเขียนตำราทั้งวัน ดูซีดเซียวลงไปมาก หากได้เดินสูดอากาศคงดีไม่น้อย” เสี่ยวหลานรีบเสริมเสียงใส

ได้ยินเช่นนั้น ลู่ซือหนานจึงพยักหน้ารับอย่างไม่ลังเลนัก ใจหนึ่งนางเองก็อยากเห็นเขาได้ผ่อนคลายบ้าง และอีกใจหนึ่งก็อยากมีใครสักคนเคียงข้างในวันที่หัวใจของตนเองเริ่มแข็งแรงขึ้นอีกครั้ง

เสียงบทเรียนสุดท้ายของวันเงียบลงในลานเรือนฝั่งตะวันออก เผิงเหยียนเฉิงวางพู่กันลงกับแท่นหมึกอย่างเบามือ เช็ดมือกับผ้าแพรที่วางอยู่ข้างตัว ก่อนจะลุกขึ้นคารวะส่งอาจารย์ของตน

เมื่อนักปราชญ์ผู้รู้เดินไปแล้ว เสียงฝีเท้าเบาๆ ก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ลู่ซือหนานในชุดสีอ่อนเดินเข้ามา หยุดอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาลังเลเล็กน้อย ก่อนจะสูดลมหายใจเบาๆ แล้วเอ่ยขึ้น

“พี่เหยียนเฉิง” เสียงของนางนุ่มนวล

“วันนี้อากาศดี ข้าตั้งใจจะไปเดินชมตลาดกับเสี่ยวหลาน หากท่านไม่ติดขัดสิ่งใด อยากไปด้วยกันหรือไม่”

เผิงเหยียนเฉิงหันมองนางอย่างประหลาดใจเล็กน้อย ดวงตาคมกะพริบหนึ่งครั้งอย่างลังเล เขาไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้ออกไปเที่ยวเล่นกับนางในฐานะเช่นนี้ และก็ไม่เคยกล้าคาดหวังด้วยเช่นกัน

แต่เมื่อสบตากับรอยยิ้มที่พยายามสดใสของหญิงสาว ความลังเลในใจของเขาก็ค่อยๆ คลายลง

“ข้ายินดี” เขากล่าวเสียงเบา ดวงตาทอแววอบอุ่นอย่างไม่อาจปิดบัง

เห็นเขาตอบรับ ลู่ซือหนานก็ยิ้มกว้างขึ้นนิดหนึ่ง เสี่ยวหลานที่ยืนอยู่ข้างๆ รีบยกมือขึ้นป้องปากหัวเราะคิกอย่างยินดี ก่อนจะรีบออกปากเร่งเร้า

“เช่นนั้นพวกเรารีบไปกันเถอะเจ้าค่ะ ช่วงนี้ตลาดมีร้านขนมเปิดใหม่ด้วยนะเจ้าคะ”

ทั้งสามคนเดินออกจากเรือนด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย เผิงเหยียนเฉิงที่เดินเคียงข้างลู่ซือหนาน ท่าเดินของเขามั่นคงขึ้นจนเกือบจะหายเป็นปกติแล้ว

บัณฑิตหนุ่มรู้สึกหัวใจอบอุ่นอย่างน่าประหลาด อากาศยามเย็นเย็นสบาย แสงอาทิตย์อาบทาทุกสิ่งให้ดูอ่อนนุ่มและสวยงามกว่าปกติ โดยเฉพาะในยามที่มีนางอยู่ข้างกาย

************************

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 22 ผู้ปกป้อง

    ถนนหินเรียบทอดยาวไปเบื้องหน้า ตลาดเย็นเริ่มคึกคัก ผู้คนเดินขวักไขว่ เสียงแม่ค้าร้องเรียกขายของดังระงมกลบเสียงอื่นๆ ไปหมด กลิ่นขนมหอมๆ ลอยฟุ้งปะปนกับกลิ่นเครื่องหอมและผ้าไหมที่พ่อค้าแม่ค้านำมาตั้งแผงขายตลอดสองข้างทางลู่ซือหนานเดินนำหน้าเล็กน้อย ดวงตากลมใสเปล่งประกายขณะกวาดมองร้านรวงอย่างตื่นเต้น เสี่ยวหลานเดินตามติดอยู่ไม่ห่าง คอยส่งเสียงกระตุ้นเร้าให้แวะชมร้านนู้นร้านนี้เป็นระยะเผิงเหยียนเฉิงเดินตามมาช้าๆ ไม่เร่งรีบ ใบหน้าคมสงบแต่ดวงตากลับอบอุ่นเมื่อทอดมองภาพตรงหน้า“พี่เหยียนเฉิง ท่านเคยมาที่ตลาดเช่นนี้บ้างหรือไม่” ลู่ซือหนานหันกลับมาถามด้วยรอยยิ้มสดใส แก้มนวลขึ้นสีเรื่อด้วยอากาศเย็นเผิงเหยียนเฉิงยกมือไขว้หลัง เดินเทียบข้างนาง พลางส่ายศีรษะเล็กน้อย “เคยมาบ้าง แต่ก็เพียงเพื่อซื้อของจำเป็น ไม่ได้เดินชมเช่นนี้”“เช่นนั้น ท่านต้องลองขนมของร้านนั้นนะเจ้าคะ ข้าได้ยินว่าวันนี้มีขนมถั่วกวนรสใหม่ด้วยเจ้าค่ะ” เสี่ยวหลานชี้ไปยังร้านขนมข้างทางอย่างตื่นเต้น“ไปกันเถอะ” ลู่ซือหนานหัวเราะเสียงใส นางหันมาเอียงหน้าเล็กน้อย พลางมองบัณฑิตหนุ่ม“พี่เหยียนเฉิงยังไม่เคยลิ้มลองขนมร้านนี้แน่”เผิงเหยียนเ

    Last Updated : 2025-05-03
  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 23 บทกลอน

    เมื่อกลับมาถึงเรือน ลมเย็นยามค่ำเริ่มพัดผ่านสวนในเรือนสกุลลู่ ใบไม้ปลิวไหวส่งเสียงแผ่วเบาดั่งบทเพลงกล่อมใจลู่ซือหนานเดินนำอยู่ข้างหน้า ก้าวเท้าเบาๆ ทว่าดูเหนื่อยล้าเล็กน้อย ราวกับแม้ร่างกายจะกลับมาได้ แต่ใจยังคงว้าวุ่น เผิงเหยียนเฉิงกับเสี่ยวหลานเดินตามมาเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไรพอถึงระเบียงหน้าห้องโถง ลู่ซือหนานก็หยุดเท้า หันกลับมาเผชิญหน้ากับบัณฑิตหนุ่ม ดวงตาคู่งามที่มักเปล่งประกายเสมอ บัดนี้คล้ายมีม่านหมอกบางเบาปกคลุมไว้“วันนี้ข้าต้องขอบคุณท่านจริงๆ” นางเอ่ยเสียงเบา ดวงตาหลุบต่ำเล็กน้อยเผิงเหยียนเฉิงยิ้มบางๆ ส่ายศีรษะช้าๆ ราวกับไม่ต้องการให้เรื่องเล็กน้อยนี้ถูกยกมาพูดถึง“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณ หากข้าอยู่ตรงนั้น แต่ปล่อยให้เจ้าถูกดูหมิ่นเสียชื่อ ข้าคงไม่อาจให้อภัยตัวเองได้” น้ำเสียงของเขาทั้งอ่อนโยนและมั่นคงลู่ซือหนานเม้มริมฝีปากแน่น ความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้าสู่ใจนางโดยไม่ทันรู้ตัว ดวงตากะพริบถี่ๆ เพื่อไล่ความร้อนผ่าวที่เริ่มก่อตัว“แต่เรื่องในวันนี้ คงทำให้ท่านเดือดร้อนด้วย” นางเอ่ยอย่างลังเล น้ำเสียงแฝงความเป็นห่วงเผิงเหยียนเฉิงกลับหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะนั้นนุ่มนวลและอบอุ่นดั่ง

    Last Updated : 2025-05-03
  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 24 ไม่กล้าหวัง

    ในห้องโถงของเรือนใหญ่ของสกุลลู่ ทุกอย่างเงียบสงบหลังจากมื้ออาหารเช้า ลู่หยวนฉีและภรรยานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ในห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งอย่างอบอุ่น แสงที่สาดส่องเข้ามาทำให้บรรยากาศในห้องอบอุ่นและเป็นกันเองสายตาของทั้งสองคนมองไปทางหน้าต่างที่เปิดไว้เพียงเล็กน้อย ลมเย็นจากข้างนอกพัดเข้ามาอย่างเบาบาง มองไปยังทิศทางที่ลูกสาวกับเผิงเหยียนเฉิงกำลังนั่งเรียนกลอนกันในห้องเรียนด้านใน“ดูเหมือนว่าลูกเราจะหายเศร้าแล้วจริงๆ” ลู่หยวนฉีพูดเสียงเบาและยิ้มให้กับภรรยาของเขา“ทั้งคู่ดูเหมือนว่าจะก้าวผ่านความเจ็บปวดของพวกตนมาได้แล้ว” อันเหม่ยฉินยิ้มตาม“ใช่” ลู่หยวนฉีพยักหน้า“ตัวเหยียนเฉิงเอง ถึงแม้เขาจะเคยผ่านความลำบาก แต่ก็เห็นได้ว่าเขามีความสามารถในการตั้งใจศึกษา รู้จักเป้าหมาย และมีความซื่อสัตย์ไม่หยุดยั้ง ข้าเชื่อว่าบุรุษอย่างเขาหากได้รักลูกสาวเราแล้วก็ยากจะเปลี่ยนใจ”อันเหม่ยฉินครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “ข้าเห็นว่าเขาทำให้หนานเอ๋อร์ของเราดูมีชีวิตชีวามากขึ้น หลายวันมานี้ข้าไม่เคยเห็นนางยิ้มสดใสขนาดนี้มาก่อน” “มันเป็นเรื่องธรรมชาติของหนุ่มสาวที่จะมีความรู้สึกแบบนี้ เห็นไหม ทุกครั้

    Last Updated : 2025-05-03
  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 25 ก้าวที่มั่นคง

    สายลมพัดต้องใบไม้ในสวนกว้างของสกุลลู่ ใบไม้ไหวระริกอยู่ใต้แสงแดดอุ่นเรื่อ พระอาทิตย์อาบแสงบางเบาลงบนระเบียงทอดยาวทุกเช้าเผิงเหยียนเฉิงจะออกมายืนเหยียบบนหินก้อนเรียบในสวน ฝึกการทรงตัว และเดินไปมาช้าๆ เพื่อให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้มั่นคงขึ้นเวลาผ่านไปห้าเดือนเต็ม นอกจากท่องตำราอย่างเอาจริงเอาจัง เขายังไม่ละเลยการรักษาตัวเองแม้แต่เพียงวันเดียวมือขวาซึ่งเคยอ่อนแรงก็ค่อยๆ กลับมาใช้การได้คล่องแคล่วขึ้นแล้วถึงสามส่วน ภายในเวลาอันสั้นเช่นนี้ เป็นสิ่งที่แม้แต่หมอที่ดีที่สุดยังเอ่ยปากชมว่ายอดเยี่ยมเกินคาดเมื่อยามบ่ายมาเยือน เผิงเหยียนเฉิงก็จะนั่งนิ่งบนม้านั่งใต้ต้นหลิวใหญ่ อ่านตำราเกี่ยวกับปรัชญา คุณธรรม และหลักการปกครองบ้านเมือง เนื้อหาที่จำเป็นสำหรับการสอบเคอจวี่ในปีหน้า ซึ่งเป็นโอกาสครั้งสำคัญของเขาในการกู้ศักดิ์ศรีและชื่อเสียงกลับคืนมาแม้ความเหนื่อยล้าจะกัดกินร่างกาย แต่สายตาของเขากลับทอประกายแน่วแน่ ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความย่อท้ออย่างเช่นในวันนี้ เผิงเหยียนเฉิงนั่งหลังตรงอยู่หน้าตั่งไม้ เคียงข้างด้วยอาจารย์วัยกลางคนจากสำนักศึกษา ดวงตาเผิงเหยียนเฉิงจ้องเขม็งไปยังตำราที่เปิดวางอยู่ตรง

    Last Updated : 2025-05-03
  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 26 คำตอบที่อยู่ตรงหน้า

    ตามระเบียงทางเดินทอดยาว ลู่ซือหนานเดินด้วยกิริยาที่อ่อนช้อย ด้านหลังมีเสี่ยวหลานและมู่ผิงเดินถือถาดไม้ที่วางถ้วยยาสมุนไพรและน้ำแกงบำรุงตามหลังอย่างไม่ห่างเมื่อมาถึงหน้าห้องพักหนังสือของเรือนรับรอง นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเคาะประตูเบาๆ“เข้ามาได้” เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังลอดออกมาลู่ซือหนานผลักบานประตูไม้ที่ส่งเสียงเอี๊ยดเบาๆ เข้าไป ภายในห้องนั้นบัณฑิตหนุ่มกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะในชุดคลุมสีครามเรียบง่าย ข้างกายมีตำราปรัชญาวางกองอยู่เป็นตั้งเมื่อเห็นลู่ซือหนานเข้ามา เขาชะงักมือที่ถือพู่กันไว้กลางอากาศ มองนางด้วยสายตาอบอุ่นแต่แฝงด้วยความสงบ“เจ้าเอาอะไรมาด้วยน่ะ” เผิงเหยียนเฉิงเอ่ยถาม น้ำเสียงแม้นุ่มนวลแต่ฟังออกว่าประหลาดใจเล็กน้อย เพราะนอกจากถ้วยยาแล้วยังมีถ้วยอีกใบที่สาวใช้นำมาลู่ซือหนานยิ้มบางๆ ก่อนจะวางถาดลงบนโต๊ะข้างเขา ตอบเสียงอ่อนว่า“ข้าทำน้ำแกงไก่บำรุงมาให้ท่านด้วยตัวเอง ดื่มยาฟื้นฟูร่างกายแล้ว ต้องดื่มน้ำแกงเพื่อเพิ่มพละกำลัง ท่านต้องหายดีเร็วๆ นะ”เผิงเหยียนเฉิงมองนางครู่หนึ่ง ราวกับจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็เพียงเอื้อมมือหยิบถ้วยยาอย่างเงียบๆ กลิ่นขมของตัวยาค่อยๆ ลอยฟุ้งในอาก

    Last Updated : 2025-05-03
  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 1 หนังสือหย่า

    สายลมเย็นยะเยือกในฤดูใบไม้ผลิพัดต้องกระดาษหน้าต่างบางเบา ส่งเสียงกรอบแกรบไม่ขาดสายภายในเรือนพักอันเงียบสงัด เผิงเหยียนเฉิงลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ดวงตาคู่คมที่เคยเปล่งประกายบัดนี้เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า มือข้างขวาของเขาขยับเพียงเล็กน้อยก็พลันรู้สึกชาดั่งไม่ใช่ร่างกายของตนเสียงฝีเท้าดังมาแต่ไกล แผ่วเบาแต่ชัดเจนไม่นานนัก ประตูเรือนก็ถูกผลักเปิดออกอย่างไม่เบามือนัก ร่างงามในชุดแพรไหมสีแดงลายดอกโบตั๋นเยื้องย่างเข้ามา ใบหน้าเรียวที่แต่งแต้มอย่างประณีตมีเพียงความเย็นชาปรากฏอยู่ในดวงตา“เจ้าฟื้นแล้วหรือ” น้ำเสียงของโจวจิงหยูเยียบเย็นราวหยดน้ำค้างยามรุ่งสาง นางไม่ได้เอ่ยถามไถ่ ไม่ได้เอื้อมมือสัมผัสหน้าผากเขาเช่นภรรยาทั่วไป ทว่ากลับยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาตรงหน้ากระดาษบางเบาถูกประทับตราประจำตระกูลโจวเอาไว้อย่างชัดเจน“หนังสือหย่า!” เผิงเหยียนเฉิงเบิกตากว้างขึ้นเพียงนิด ดวงตาที่ขุ่นมัวยิ่งหมองหม่นลง“เพราะเหตุใดเล่าฮูหยิน” เขาเอ่ยเสียงแผ่ว ทั้งที่แม้แต่เปล่งเสียงยังรู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกิน โจวจิงหยูหัวเราะเบาๆ แต่แฝงด้วยความเยาะหยัน“เจ้าคิดว่าข้าจะยอมใช้ชีวิตอยู่กับบุรุษพิการเช่นเจ้าหรือ มื

    Last Updated : 2025-04-30
  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 2 ทางไกลไร้เงา

    เมืองหลวงของแคว้นสือในยามนี้ยังคงคลุมด้วยหมอกบางๆ ท้องฟ้าสีเทาซีดเย็นชา ราวกับมิได้ต้อนรับการจากไปของผู้ใดเผิงเหยียนเฉิงก้าวเท้าออกจากตรอกเล็กๆ ด้วยไม้เท้า เสียงกระทบพื้นหินดังกึกกักไปตามจังหวะฝีเท้าที่ไม่สม่ำเสมอผ้าคลุมเก่าๆ บนร่างเขาปลิวไหวตามแรงลม ร่างที่เคยยืดตรงอย่างองอาจ บัดนี้โค้งงอเดินไม่มั่นคงอย่างมิอาจขัดขืนทุกย่างก้าวช่างหนักอึ้ง ทุกลมหายใจเจือกลิ่นอับชื้นของความพ่ายแพ้ ไม่มีใครหันมามอง ไม่มีใครเอ่ยถาม ในเมืองหลวงแห่งนี้ ผู้ล้มลงย่อมไร้ค่าดั่งฝุ่นผงที่ถูกเหยียบย่ำบัณฑิตตกอับกำหมัดซ้ายแน่น ฝ่ามือทั้งสอง นั้นเต็มไปด้วยรอยแตกจากความหนาวเหน็บ เขาเดินผ่านจัตุรัสใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยมีชื่อเสียงขจรไกลเมื่อสอบได้ที่หนึ่ง วันนี้ผู้คนในจัตุรัสยังคงพลุกพล่านแต่ไม่มีใครจดจำเขาได้อีกแล้ว“ดูนั่นสิ ขอทานเร่ร่อนอีกคน” เสียงกระซิบดังมาจากกลุ่มคนในร้านชา เขาได้ยินแต่เลือกที่จะเมินเฉยที่ไหล่ขวาของเขา มีห่อผ้าผืนเล็กที่เก็บข้าวของเพียงน้อยนิด ไม่มีแม้แต่ของมีค่าชิ้นใด ทุกสิ่งที่เคยมี ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังเช่นเดียวกับความศรัทธาของเขาในวันวานเมื่อเดินถึงประตูเมือง เสียงลั่นเอี๊ยดของประตูที่

    Last Updated : 2025-04-30
  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 3 ผู้มีพระคุณ

    ขณะที่รถม้าเคลื่อนตัว เสียงล้อกระทบพื้นหินดังกึกกักเบาๆ เป็นจังหวะ ภายในรถม้าคล้ายโลกอีกใบ เงียบสงบและอบอุ่นผิดกับเส้นทางขรุขระด้านนอกกลิ่นหอมอ่อนๆ ของสมุนไพรในรถม้าขนาดกลางชวนให้เผิงเหยียนเฉิงรู้สึกผ่อนคลายอย่างแปลกประหลาด เขานั่งก้มหน้าต่ำ มือกำชายเสื้อแน่น ราวกับไม่กล้ามองสบตาลู่ซือหนานที่นั่งอยู่ตรงข้ามลู่ซือหนานนั่งมองเขาเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบา “ท่านจำข้าได้หรือไม่”เผิงเหยียนเฉิงชะงัก เงยหน้าขึ้นช้าๆ ดวงตาแดงเรื่อด้วยความเหนื่อยล้าและความซาบซึ้ง“ข้า...จำได้” เสียงเขาสั่นเครือเล็กน้อย“แม่นางลู่ ผู้เคยเป็นเหมือนน้องสาวในวัยเยาว์ของข้า” เขากล่าวต่อเสียงเบาคล้ายอับอายกับสภาพของตนในตอนนี้“เรียกข้าอย่างเดิมเถอะ ว่าแต่ท่านกำลังจะไปที่ใด” ลู่ซือหนานยิ้มบางๆ ดวงตาแฝงความอ่อนโยนเผิงเหยียนเฉิงเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนเอ่ยเสียงแผ่ว “กลับเจียงเฉิน...ข้าจะกลับบ้านเกิด”“เช่นนั้นไปพักที่เรือนของข้าก่อน ดูท่านสิป่วยขนาดนี้ยังจะฝืนเดินทาง”“ข้า...ข้าไม่อาจรบกวนเจ้าได้” เผิงเหยียนเฉิงเบิกตากว้าง“ท่านลุงเผิงช่วยเหลือบิดาข้าไว้เมื่อหลายปีก่อน วันนี้ถึงตาข้าตอบแทนบ้าง” ลู่ซือห

    Last Updated : 2025-04-30

Latest chapter

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 26 คำตอบที่อยู่ตรงหน้า

    ตามระเบียงทางเดินทอดยาว ลู่ซือหนานเดินด้วยกิริยาที่อ่อนช้อย ด้านหลังมีเสี่ยวหลานและมู่ผิงเดินถือถาดไม้ที่วางถ้วยยาสมุนไพรและน้ำแกงบำรุงตามหลังอย่างไม่ห่างเมื่อมาถึงหน้าห้องพักหนังสือของเรือนรับรอง นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเคาะประตูเบาๆ“เข้ามาได้” เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังลอดออกมาลู่ซือหนานผลักบานประตูไม้ที่ส่งเสียงเอี๊ยดเบาๆ เข้าไป ภายในห้องนั้นบัณฑิตหนุ่มกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะในชุดคลุมสีครามเรียบง่าย ข้างกายมีตำราปรัชญาวางกองอยู่เป็นตั้งเมื่อเห็นลู่ซือหนานเข้ามา เขาชะงักมือที่ถือพู่กันไว้กลางอากาศ มองนางด้วยสายตาอบอุ่นแต่แฝงด้วยความสงบ“เจ้าเอาอะไรมาด้วยน่ะ” เผิงเหยียนเฉิงเอ่ยถาม น้ำเสียงแม้นุ่มนวลแต่ฟังออกว่าประหลาดใจเล็กน้อย เพราะนอกจากถ้วยยาแล้วยังมีถ้วยอีกใบที่สาวใช้นำมาลู่ซือหนานยิ้มบางๆ ก่อนจะวางถาดลงบนโต๊ะข้างเขา ตอบเสียงอ่อนว่า“ข้าทำน้ำแกงไก่บำรุงมาให้ท่านด้วยตัวเอง ดื่มยาฟื้นฟูร่างกายแล้ว ต้องดื่มน้ำแกงเพื่อเพิ่มพละกำลัง ท่านต้องหายดีเร็วๆ นะ”เผิงเหยียนเฉิงมองนางครู่หนึ่ง ราวกับจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็เพียงเอื้อมมือหยิบถ้วยยาอย่างเงียบๆ กลิ่นขมของตัวยาค่อยๆ ลอยฟุ้งในอาก

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 25 ก้าวที่มั่นคง

    สายลมพัดต้องใบไม้ในสวนกว้างของสกุลลู่ ใบไม้ไหวระริกอยู่ใต้แสงแดดอุ่นเรื่อ พระอาทิตย์อาบแสงบางเบาลงบนระเบียงทอดยาวทุกเช้าเผิงเหยียนเฉิงจะออกมายืนเหยียบบนหินก้อนเรียบในสวน ฝึกการทรงตัว และเดินไปมาช้าๆ เพื่อให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้มั่นคงขึ้นเวลาผ่านไปห้าเดือนเต็ม นอกจากท่องตำราอย่างเอาจริงเอาจัง เขายังไม่ละเลยการรักษาตัวเองแม้แต่เพียงวันเดียวมือขวาซึ่งเคยอ่อนแรงก็ค่อยๆ กลับมาใช้การได้คล่องแคล่วขึ้นแล้วถึงสามส่วน ภายในเวลาอันสั้นเช่นนี้ เป็นสิ่งที่แม้แต่หมอที่ดีที่สุดยังเอ่ยปากชมว่ายอดเยี่ยมเกินคาดเมื่อยามบ่ายมาเยือน เผิงเหยียนเฉิงก็จะนั่งนิ่งบนม้านั่งใต้ต้นหลิวใหญ่ อ่านตำราเกี่ยวกับปรัชญา คุณธรรม และหลักการปกครองบ้านเมือง เนื้อหาที่จำเป็นสำหรับการสอบเคอจวี่ในปีหน้า ซึ่งเป็นโอกาสครั้งสำคัญของเขาในการกู้ศักดิ์ศรีและชื่อเสียงกลับคืนมาแม้ความเหนื่อยล้าจะกัดกินร่างกาย แต่สายตาของเขากลับทอประกายแน่วแน่ ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความย่อท้ออย่างเช่นในวันนี้ เผิงเหยียนเฉิงนั่งหลังตรงอยู่หน้าตั่งไม้ เคียงข้างด้วยอาจารย์วัยกลางคนจากสำนักศึกษา ดวงตาเผิงเหยียนเฉิงจ้องเขม็งไปยังตำราที่เปิดวางอยู่ตรง

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 24 ไม่กล้าหวัง

    ในห้องโถงของเรือนใหญ่ของสกุลลู่ ทุกอย่างเงียบสงบหลังจากมื้ออาหารเช้า ลู่หยวนฉีและภรรยานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ในห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งอย่างอบอุ่น แสงที่สาดส่องเข้ามาทำให้บรรยากาศในห้องอบอุ่นและเป็นกันเองสายตาของทั้งสองคนมองไปทางหน้าต่างที่เปิดไว้เพียงเล็กน้อย ลมเย็นจากข้างนอกพัดเข้ามาอย่างเบาบาง มองไปยังทิศทางที่ลูกสาวกับเผิงเหยียนเฉิงกำลังนั่งเรียนกลอนกันในห้องเรียนด้านใน“ดูเหมือนว่าลูกเราจะหายเศร้าแล้วจริงๆ” ลู่หยวนฉีพูดเสียงเบาและยิ้มให้กับภรรยาของเขา“ทั้งคู่ดูเหมือนว่าจะก้าวผ่านความเจ็บปวดของพวกตนมาได้แล้ว” อันเหม่ยฉินยิ้มตาม“ใช่” ลู่หยวนฉีพยักหน้า“ตัวเหยียนเฉิงเอง ถึงแม้เขาจะเคยผ่านความลำบาก แต่ก็เห็นได้ว่าเขามีความสามารถในการตั้งใจศึกษา รู้จักเป้าหมาย และมีความซื่อสัตย์ไม่หยุดยั้ง ข้าเชื่อว่าบุรุษอย่างเขาหากได้รักลูกสาวเราแล้วก็ยากจะเปลี่ยนใจ”อันเหม่ยฉินครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “ข้าเห็นว่าเขาทำให้หนานเอ๋อร์ของเราดูมีชีวิตชีวามากขึ้น หลายวันมานี้ข้าไม่เคยเห็นนางยิ้มสดใสขนาดนี้มาก่อน” “มันเป็นเรื่องธรรมชาติของหนุ่มสาวที่จะมีความรู้สึกแบบนี้ เห็นไหม ทุกครั้

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 23 บทกลอน

    เมื่อกลับมาถึงเรือน ลมเย็นยามค่ำเริ่มพัดผ่านสวนในเรือนสกุลลู่ ใบไม้ปลิวไหวส่งเสียงแผ่วเบาดั่งบทเพลงกล่อมใจลู่ซือหนานเดินนำอยู่ข้างหน้า ก้าวเท้าเบาๆ ทว่าดูเหนื่อยล้าเล็กน้อย ราวกับแม้ร่างกายจะกลับมาได้ แต่ใจยังคงว้าวุ่น เผิงเหยียนเฉิงกับเสี่ยวหลานเดินตามมาเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไรพอถึงระเบียงหน้าห้องโถง ลู่ซือหนานก็หยุดเท้า หันกลับมาเผชิญหน้ากับบัณฑิตหนุ่ม ดวงตาคู่งามที่มักเปล่งประกายเสมอ บัดนี้คล้ายมีม่านหมอกบางเบาปกคลุมไว้“วันนี้ข้าต้องขอบคุณท่านจริงๆ” นางเอ่ยเสียงเบา ดวงตาหลุบต่ำเล็กน้อยเผิงเหยียนเฉิงยิ้มบางๆ ส่ายศีรษะช้าๆ ราวกับไม่ต้องการให้เรื่องเล็กน้อยนี้ถูกยกมาพูดถึง“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณ หากข้าอยู่ตรงนั้น แต่ปล่อยให้เจ้าถูกดูหมิ่นเสียชื่อ ข้าคงไม่อาจให้อภัยตัวเองได้” น้ำเสียงของเขาทั้งอ่อนโยนและมั่นคงลู่ซือหนานเม้มริมฝีปากแน่น ความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้าสู่ใจนางโดยไม่ทันรู้ตัว ดวงตากะพริบถี่ๆ เพื่อไล่ความร้อนผ่าวที่เริ่มก่อตัว“แต่เรื่องในวันนี้ คงทำให้ท่านเดือดร้อนด้วย” นางเอ่ยอย่างลังเล น้ำเสียงแฝงความเป็นห่วงเผิงเหยียนเฉิงกลับหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะนั้นนุ่มนวลและอบอุ่นดั่ง

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 22 ผู้ปกป้อง

    ถนนหินเรียบทอดยาวไปเบื้องหน้า ตลาดเย็นเริ่มคึกคัก ผู้คนเดินขวักไขว่ เสียงแม่ค้าร้องเรียกขายของดังระงมกลบเสียงอื่นๆ ไปหมด กลิ่นขนมหอมๆ ลอยฟุ้งปะปนกับกลิ่นเครื่องหอมและผ้าไหมที่พ่อค้าแม่ค้านำมาตั้งแผงขายตลอดสองข้างทางลู่ซือหนานเดินนำหน้าเล็กน้อย ดวงตากลมใสเปล่งประกายขณะกวาดมองร้านรวงอย่างตื่นเต้น เสี่ยวหลานเดินตามติดอยู่ไม่ห่าง คอยส่งเสียงกระตุ้นเร้าให้แวะชมร้านนู้นร้านนี้เป็นระยะเผิงเหยียนเฉิงเดินตามมาช้าๆ ไม่เร่งรีบ ใบหน้าคมสงบแต่ดวงตากลับอบอุ่นเมื่อทอดมองภาพตรงหน้า“พี่เหยียนเฉิง ท่านเคยมาที่ตลาดเช่นนี้บ้างหรือไม่” ลู่ซือหนานหันกลับมาถามด้วยรอยยิ้มสดใส แก้มนวลขึ้นสีเรื่อด้วยอากาศเย็นเผิงเหยียนเฉิงยกมือไขว้หลัง เดินเทียบข้างนาง พลางส่ายศีรษะเล็กน้อย “เคยมาบ้าง แต่ก็เพียงเพื่อซื้อของจำเป็น ไม่ได้เดินชมเช่นนี้”“เช่นนั้น ท่านต้องลองขนมของร้านนั้นนะเจ้าคะ ข้าได้ยินว่าวันนี้มีขนมถั่วกวนรสใหม่ด้วยเจ้าค่ะ” เสี่ยวหลานชี้ไปยังร้านขนมข้างทางอย่างตื่นเต้น“ไปกันเถอะ” ลู่ซือหนานหัวเราะเสียงใส นางหันมาเอียงหน้าเล็กน้อย พลางมองบัณฑิตหนุ่ม“พี่เหยียนเฉิงยังไม่เคยลิ้มลองขนมร้านนี้แน่”เผิงเหยียนเ

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 21 แววตาที่เปลี่ยนไป

    วันเวลาผ่านไปเหมือนสายน้ำที่ไหลเอื่อย บาดแผลในหัวใจของลู่ซือหนานไม่ได้หายไปในชั่วข้ามคืน แต่ก็ค่อยๆ จางเบาลงทุกครั้งที่นางเลือกจะเผชิญหน้ากับมันอย่างไม่หลบหนีทุกเช้าเมื่อลืมตาตื่น นางไม่ได้รอคอยเสียงก้าวเท้าของผู้มาเยือนอีกต่อไป ทุกค่ำคืนเมื่อเอนกายลงบนหมอน นางไม่เฝ้าฝันถึงอดีตอีกแล้ว นางเรียนรู้ที่จะยิ้มให้ตัวเองในกระจก แม้ในวันที่ยังรู้สึกเจ็บลึกอยู่บ้างนางรู้สึกได้ว่าตนเอง แข็งแกร่งขึ้น ความผิดหวังทำให้นางเติบโต ไม่ใช่เพราะไม่มีน้ำตา แต่เพราะแม้มีน้ำตา นางก็ยังสามารถเช็ดมันเองได้ และยืนหยัดต่อไปด้วยหัวใจที่สงบนิ่งกว่าเดิมลู่ซือหนานเดินทอดน่องอย่างไร้จุดหมายอยู่ในเรือน สองมือประสานกันอยู่หน้าท้อง ดวงหน้าเศร้าสร้อยยังไม่คลายจากความผิดหวังในหัวใจเมื่อเดินผ่านศาลาใหญ่ นางก็ชะงักฝีเท้า เงยหน้าขึ้นอย่างเงียบงันเบื้องหน้าภายในศาลา เผิงเหยียนเฉิงนั่งเรียนอยู่กับอาจารย์ผู้เป็นนักปราชญ์ ตรงหน้ามีตำราหลายเล่มที่กางเปิด วางพู่กันในมือลงเป็นจังหวะราวกับกำลังขีดเขียนคำสำคัญลงไปด้วยความตั้งใจจริง สีหน้าแน่วแน่ มั่นคง ดวงตาทอประกายเคร่งขรึมอย่างที่นางไม่เค

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 20 คลายความเศร้า

    หลังจากคืนนั้น ลู่ซือหนานก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป แม้นางยังคงเศร้าอยู่บ้าง แต่ไม่หมกตัวอยู่ในห้องเหมือนก่อนอีกแล้ว นางเริ่มออกมาเดินเล่นบ้างในสวน ออกมานั่งอ่านตำราที่ศาลาชมดอกไม้บ้าง แม้จะยังยิ้มได้ไม่เต็มที่เหมือนเดิม ทว่าความสดใสในดวงตาของนางก็ค่อยๆ กลับคืนมาเผิงเหยียนเฉิงคอยสังเกตอยู่เงียบๆ ในใจโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวมากนัก คงเพียงคอยอยู่ไม่ไกล เฝ้ามองอย่างอ่อนโยน และอยู่เคียงข้างโดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยถ้อยคำใดวันหนึ่ง ในขณะที่ลู่ซือหนานกำลังนั่งก้มหน้าคัดลอกบทกลอนอยู่ที่ศาลา เผิงเหยียนเฉิงก็ถือกระดานหินหมึกและพู่กันเดินเข้ามา“เจ้าบอกว่าอยากเรียนแต่งกลอนมิใช่หรือ” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ลู่ซือหนานเงยหน้าขึ้น มองเขาด้วยแววตาแปลกใจ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างบางเบา“ข้ายังอยากเรียนอยู่” นางเอ่ยเสียงแผ่วเผิงเหยียนเฉิงวางกระดานหินลงตรงหน้า เริ่มสอนการเลือกคำ การเรียงวรรคตอนเบื้องต้นอย่างใจเย็น ลู่ซือหนานตั้งใจฟัง นางจับพู่กันด้วยท่าทีจริงจัง แม้มือยังสั่นเล็กน้อยเพราะความประหม่า แต่ก็มีความพยายามอย่างเต็มที่“ดีมาก” เขาชมเบาๆ เ

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 19 ปลอบประโลม

    เวลาล่วงเลยไปหลายวัน บัณฑิตหนุ่มเริ่มเดินได้อย่างมั่นคงขึ้น มือจับพู่กันเขียนได้อย่างคล่องแคล่วกว่าแต่ก่อน เขาเดินถือตำราในมือซ้ายยกขึ้นอ่าน ในขณะที่มืออีกข้างกำพัดบีบๆ คลายๆ ตามที่หมอหลินแนะนำเอาไว้ขณะกำลังนั่งอ่านตำรา ท่ามกลางความเงียบสงบ เผิงเหยียนเฉิงได้ยินเสียงไอเบาๆ ลอยมาตามลมเขาละสายตาจากตัวอักษรบนหน้ากระดาษ เดินออกมายังระเบียง เห็นเพียงร่างบางของลู่ซือหนาน กำลังยืนพิงเสาต้นหนึ่ง ดวงหน้าซูบซีด ผิวขาวจัดจนแทบจะกลืนไปกับชุดสีอ่อนที่นางสวมสายลมพัดกระโปรงของนางปลิวเบาๆ นางไอออกมาอีกครั้ง ก่อนจะพยายามฝืนยืนตัวตรงเผิงเหยียนเฉิงกำหมัดแน่นอยู่ข้างลำตัว ความห่วงใยถาโถมจนแทบจะระเบิดออกมา‘ซือหนาน...’ เขาเรียกนางในใจ แต่ริมฝีปากกลับแน่นสนิท มองสบตากับเสี่ยวหลานที่นั่งอยู่ด้วยสีหน้าเป็นกังวล ราวกับนางจะบ่งบอกให้เขาช่วยพูดปลอบประโลมคุณหนูผู้โศกเศร้าแต่ในที่สุด เขาทำได้เพียงถอดผ้าคลุมไหล่ของตนวางเอาไว้บนรั้วไม้ใกล้ตัวนาง ไม่แม้แต่จะกล้าสวมให้ แล้วหันหลังกลับไปโดยไม่กล่าวสิ่งใดนางหันมาเห็นผ้าคลุมไหล่ที่วางอยู่ ก็รับไปกอดไว้แน่น ดวงตาสั่

  • สยบรักยอดบัณฑิต   ตอนที่ 18 ตัดขาด

    ที่เรือนสกุลลู่เมื่อไป๋ซื่ออันไปถึง เขาขอเข้าพบลู่ซือหนาน แต่นางไม่ต้องการเจอในตอนแรก จึงให้สาวใช้ไปปฏิเสธที่หน้าประตู ทว่าอันเหม่ยฉินที่ยืนอยู่ด้วย เห็นว่าควรเผชิญหน้ากันให้รู้เรื่อง จึงเอ่ยเสียงหนักแน่น“ออกไปเถอะ พูดให้จบๆ จะได้ไม่มีอะไรค้างคา”หญิงสาวผู้โศกเศร้าจึงจำใจเดินออกไปยังศาลาหน้าเรือนเพื่อพบกับไป๋ซื่ออันที่ยืนรออยู่ สีหน้าของเขาทั้งขุ่นเคืองและกระวนกระวาย“ทำไมเจ้าถึงปฏิเสธของหมั้น” เสียงของเขาแข็งกร้าว แต่พยายามระงับโทสะไว้ลู่ซือหนานเงยหน้ามองเขา ดวงตาฉ่ำวาวด้วยหยาดน้ำใส แต่แววตากลับแน่วแน่“ข้าเห็นเจ้าซื้อปิ่นหยกให้สตรีที่หอชมจันทร์ นางเป็นหญิงงามที่เหมาะสมกับท่าน เหตุใดไม่ยกของหมั้นให้นางเสียเล่า”ไป๋ซื่ออันหน้าเปลี่ยนสีทันที รีบเอ่ยด้วยความลนลาน“นั่นแค่ความผิดพลาด ข้า... ข้าจะให้เจ้าขึ้นเป็นภรรยาเอก อี้จีนางนั้นจะเป็นเพียงอนุ ข้าให้สัญญาได้”แต่คำพูดของเขากลับทำให้หัวใจของลู่ซือหนานเจ็บปวดจนชา นางสั่นศีรษะ น้ำตาคลอเบ้า“ข้าไม่อยากเป็นเพียงภรรยาเอก ข้าอยากเป็นภรรยาเพียงคนเดียวของสามีของข้า ข้าไม่ต้องการแย่งชิง ไม่ต้องการความเมตตา ข้าอยากได้เพียงความสัตย์ซื่อ” นางเอ่

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status