แยม แคร์และริชชี่เริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นว่าวินทร์เริ่มง้อมิวโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น ชินกรเอามือกุมขมับเพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าน้าของมิวจะคิดยังไงที่จู่ ๆ พวกเขามาถึงวินทร์ก็ทำแบบนี้ แต่น้าสายแค่ยิ้มและหันมาตบไหล่มิว“แฟนน้องมิวเหรอได้สิ งั้นเดี๋ยวน้าจัดห้องให้นอนชั้นบน...”“ไม่ต้องค่ะน้าสาย พวกเราเองก็ยุ่ง ๆ กับงานให้พวกเขาไปพักที่รีสอร์ตนั่นแหละค่ะดีแล้ว”“ไม่นะมิว พี่อยู่ได้จริง ๆ”เธอค่อย ๆ ดึงแขนออกจากเขาและไม่มองหน้าวินทร์อีก ภาวินทร์สลดลงไปทันที เธอโกรธเขามากขนาดนี้จริง ๆ เหรอ“ไปนอนพักที่รีสอร์ตเถอะค่ะ ที่นี่เสียงดังและยังมีแขกทั้งวันทั้งคืนมิวไม่มีเวลาดูแลใครหรอกค่ะ อีกอย่างในงานก็ยุ่งมากยังไงไปพักที่รีสอร์ตน่าจะเหมาะมากกว่า จะได้พักผ่อนเต็มที่ด้วย”“แต่ว่า...”“ไอ้วินทร์ ไปกับพวกกูเถอะอย่าทำให้มิวลำบากใจเลย เชื่อกู... ยังมีเวลาอีกหลายวัน”ชินกรกระซิบบอกเขาแต่วินทร์ยังไม่ยอมแพ้ที่จะส่งสายตาขอความเห็นใจให้เธอ แต่มิวเองก็นับว่าใจแข็งไม่น้อยเพราะเธอหันไปมองน้าสายทันที“จองเพิ่มสามห้องนะคะน้าสาย”“สามเหรอ อ้อ ๆ ได้”มิวเห็นว่าภาวินทร์ไม่ได้นอนเพราะขอบตาของเขาคล้ำมาก ชินกรเองก็รู้ทัน
มิวนิ่งไปวินทร์จึงค่อย ๆ จับตัวเธอหันมากอดมิวถึงได้รู้สึกถึงลมหายใจของเขาที่ร้อนผ่าวและสีหน้าที่แดงก่ำจัด ภาวินทร์มีไข้อ่อน ๆ แต่เขาไม่บอกเธอแล้วยังตื่นแต่เช้ามืดมาสองวันเพื่อพาเธอและน้าสายไปตลาด“พี่วินทร์มีไข้นี่คะทำไมไม่บอก”“มีมิวอยู่ใกล้ ๆ พี่ก็หายแล้วแต่ตอนนี้อย่าพึ่งไปไหนเลยนะ อยู่กับพี่ก่อน”“ต้องรีบหาอะไรกินแล้วรีบกินยา…”“อย่าไป... อย่าพึ่งไปนะมิว”“ไม่ได้ไปค่ะ แต่มิวจะไปหายามาให้พี่วินทร์กินก่อนนอนอยู่เฉย ๆ นะคะเดี๋ยวมิวมา”“จริง ๆ นะ ไม่หนีกลับบ้านก่อนจริงนะ”เขาคว้ามือเธอเอาไม้พร้อมกับซบหน้าลงไปที่ไหล่ของเธอด้วยความอดแรงเพราะพิษไข้ มิวไม่ทันสังเกตเขาก่อนหน้านี้ อากาศเมืองเหนือแม้ว่าจะยังไม่หนาว แต่เขาที่มาจากกรุงเทพและต้องมาเจอสภาพอากาศแบบนี้คงจะปรับตัวไม่ทัน อีกทั้งภาวินทร์ก่อนหน้านี้ก็แทบไม่กินไม่นอนทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแอลงไปมาก“อยู่นี่นะคะเดี๋ยวมิวมา พี่วินทร์ไปนอนก่อน”เธอพยุงเขาไปที่เตียงก่อนจะดึงผ้าห่มมาห่มให้และหันไปเบาเครื่องปรับอากาศในห้องก่อนจะรีบวิ่งออกไปที่ห้องครัวซึ่งมีเพื่อนของน้าสายทำงานอยู่ในนั้นและหากล่องยาเข้ามาในห่อง เธอใช้เวลาเพียงไม่นานเพราะน้าบัว
“แต่พี่วินทร์บอกแล้วว่าจะไม่บังคับมิว”“ก็ไม่ได้บังคับแต่กำลังขอร้องอยู่ นะครับที่รัก”“ปล่อยก่อนสิคะ”“อย่าฝืนเลยน่า หลังจากนี้เราค่อย ๆ ปรับความเข้าใจกันนะแต่ตอนนี้พี่อยากจะออกกำลังกายเพื่อไล่ไข้หวัดสักหน่อย”“พี่วินทร์ อื้อ…”ลิ้นอุ่น ๆ ของเขาที่ฉกเข้ามาในปากทำให้มิวหลงลืมทุกอย่าง ที่เคยโกรธก็หายไปจนหมดทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเธอคิดว่าจะหยุดความสัมพันธ์เอาไว้เพียงแค่นี้ แต่ภาวินทร์กลับตามเธอมาถึงบ้านยายเพื่อมาช่วยงานแม้แต่งานเสิร์ฟน้ำให้แขก รับส่งพระและงานที่เขาไม่เคยทำ เมื่อมาที่นี่เขากลับทำได้หมดโดยไม่ต้องขอร้องจนเพื่อน ๆ ของมิวยอมรับและเป็นฝ่ายบอกให้เธอยกโทษให้เขาแทน“อื้อ พี่วินทร์”“อย่าห้ามพี่อีกเลยนะ พี่คิดถึงมิวมาก หอมมากเลย…”สายบราของเธอถูกปลดออกไปโดยง่ายดายจากมือเดียวของวินทร์ ไม่นานร่างบางก็ถูกเขารวบขึ้นเตียงอีกครั้ง มิวคว้ารอบคอของเขาและจูบตอบอย่างโหยหาเช่นกัน“พี่รักมิวมากนะครับ อย่าทำแบบนี้อีกนะทำโทษพี่แค่นี้พอแล้วได้ไหม”“ถ้าพี่วินทร์สัญญาว่าจะไม่ใจร้ายเหมือนคืนนั้นอีก”“พี่สัญญาไม่ได้”“ทำไมละคะ”“เพราะพี่ขี้หึงมาก ทางที่ดีมิวก็อย่าทำให้พี่ต้องเป็นบ้าเหมือนคืนนั้นอี
“อนุวัตร” พ่อแท้ ๆ ของมิวเดินเข้ามา มิวเดินจับมือวินทร์ด้วยตัวที่สั่น ชินกรเริ่มหน้าซีดเมื่อเห็นมิวกับวินทร์ที่ทำหน้าตกใจและหันมาเชิงถามก่อนที่นิธิศและวีรภัทรที่เดินตามมา เมื่อภัทรเห็นก็ห้ามไม่ให้ธิศเดินต่อ“อย่าพึ่งเข้าไป มึงดูโน่น”อนุวัตรหยุดเดินก่อนที่จะหันมามองชินกรซึ่งเป็นคนที่พูดขึ้นมา“มิว คุณพ่อแค่อยากมาร่วมแสดงความเสียใจครั้งสุดท้าย อย่าว่าพ่อเลยนะ”มิวอึ้งไปพอ ๆ กับวินทร์ที่หันมามองหน้าชินกรด้วยความตกใจ แปลกใจและงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มิวหันมามองหน้าทั้งสองคน แน่นอนว่าเธอพึ่งจะรู้ว่าทำไมเธอถึงได้ไว้ใจชินกรและทำไมรู้สึกปลอดภัยเวลาที่ชินกรอยู่ใกล้ ๆ ที่แท้…เขาหน้าเหมือนพ่อของเธอไม่มีผิด“ว่าอะไรนะ พี่กรพูดว่า…. พ่องั้นเหรอ”“มิว ชินกรเป็นพี่ชายของมิว คือว่า…”“พี่วินทร์ มิวอยากกลับบ้านแล้ว”“มิว!”“ไอ้กรอย่าพึ่งพูดอะไรตอนนี้เลยกูขอพามิวกลับไปสงบอารมณ์ก่อน คุณอาครับถ้าคุณอาจะไปงานศพก็ให้กรพาไปนะครับผมกับมิวขอตัวก่อน”“มิว พ่ออยาก…”"พ่อครับ"ชินกรดึงแขนอนุวัตรเอาไว้ระหว่างที่วินทร์พามิวเดินไปที่รถตู้ของอู๊ตเพื่อให้เขาไปส่งที่บ้าน วินทร์ฝากกุญแจรถให้ภัทรที่ยืนรออยู่ พวกเขาแค
“ถ้าอย่างนั้นนี่ก็เป็นสาเหตุที่มิวเกลียดพ่อสินะ”"ใช่ พ่อเองก็รู้ตัวว่าทำผิด แต่ทุกเรื่องมันมีเหตุผล อีกอย่างเรื่องที่แม่ทำก็ไม่ได้ถูกต้องแม้ว่าพ่อจะรับผิดชอบ แต่ก็ไม่เคยละเลยน้าสุดากับมิว แม้ว่าน้าสุดาจะไม่ยอมรับจนถึงวันสุดท้ายก็ตาม ยายกับน้าสายรู้ดีว่าเธอปากแข็งไปเท่านั้นเพราะก่อนจะสิ้นใจพ่อได้มีโอกาสมาหาเธอและกอดเธอเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันจนน้าสุดาเสีย แต่เรื่องนี้มิวไม่รู้เรื่องและพ่อก็ไม่เคยปริปากบอกเธอเพราะยังรู้สึกผิดอยู่“ฉิบหายทำไมเรื่องมันวุ่นวายขนาดนี้วะ แล้วกูจะพูดยังไงกับมิวดี จะช่วยมึงกับคุณอายังไงวะ”“ไม่ต้องหรอกพ่อบอกแล้วว่ายังไงเรื่องแบบนี้ก็คงต้องใช้เวลา พ่อบอกรอได้จนกว่ามิวจะพร้อม อีกอย่างคุณย่าก็ไม่อยู่แล้ว ส่วนแม่ก็หย่ากับพ่อแยกทางกันนานแล้วต่อไปก็คงไม่มีอะไรต้องห่วงอีก วันนี้ที่พ่อมาก็แค่อยากมาส่งยายครั้งสุดท้ายเท่านั้นเอง”“เข้าใจแล้วเอาเป็นว่ากูจะค่อย ๆ พูดกับมิวให้ ยังไงท่านก็เป็นพ่อ อีกอย่างพ่อมึงก็ไม่ได้จะขาดความรับผิดชอบ แม่่ของมิวรู้ทุกเรื่องแต่ไม่มีโอกาสได้บอกมิว”“มึงก็รู้ว่ามิว…”“กูต้องรู้สิ มิวปากแข็งแต่ใจอ่อน นิสัยคงไม่ต่างกับแม่ของเ
มิวเองก็รู้ตัวว่าเคยทะเลาะกับน้าเรื่องนี้บ่อย ๆ หลายครั้งที่น้าสายบอกให้มิวลองติดต่อพ่อเพราะยายต้องรักษาตัว แต่เป็นมิวที่ดื้อและยืนยันว่าจะทำงานและหาเงินมารักษายายให้ได้ จนอาการของยายทรุดหนักลงเธอจึงหยุดเถียงน้าสาย และตัวน้าเองก็เลือกจะเงียบไปเพราะกลัวว่าอาการของยายจะแย่ลง“มิว…”“น้าไม่โทษแกหรอกเพราะแกก็ดื้อไม่ต่างกับแม่ แต่สุดท้ายแล้วแม่ก็ให้อภัยและยอมรับพ่อของมิว แม้ว่าจะยังไม่ทันได้จดทะเบียนสมรสแต่พ่อของมิวก็ตั้งใจที่จะมาที่นี่และอยู่กับแม่ของมิว”มิวปล่อยโฮเมื่อความจริงทั้งหมดออกมาจากน้าสาย เป็นเธอที่ดื้อรั้นไม่รับฟังจนยายเสียไป เวลานานเป็นสิบปีกว่าที่เธอจะเข้าใจ บัญชีเงินฝากมีเงินในนั้นเกือบสามล้านบาทเพราะพ่อของเธอโอนมาฝากให้เป็นประจำโดยที่ไม่มีการถอนออกมา ค่ารักษาของยายและทุนการศึกษาที่เธอได้เรียนทุกวันนี้ก็เป็นพ่อที่จ่ายให้“น้าสายมิวควรจะทำยังไงดี มิวไม่เคยรู้ว่าแม่อภัยให้เขาแล้วแต่ว่ามิว…”“น้าเข้าใจที่มิวโกรธ แต่ตอนนั้นมิวยังเด็กจึงดื้อไม่ฟังใครน้ากับยายก็เข้าใจ ทุกครั้งที่มีใครพูดถึงพ่อมิวก็จะโกรธและไม่คุยกับคนอื่น ยายไม่อยากเห็นมิวเป็นแบบนั้นก็เลยเลี่ยงไม่พูดมาตลอด น้าผิด
“ไอ้ธิศเนี่ยนะ! ไปยกของบ้าไปแล้วแน่ ๆ คนอย่างมันน่ะเหรอจะ…”“เอาไปไว้ทางโน้นค่ะ เร็ว ๆ เลยเหลืออีกหลายตัว”“ครับ ๆ รู้แล้ว ๆ ไม่ต้องดุมากได้ไหมชาติก่อนเป็นแมวเหรอขู่เก่งจัง”วีรภัทรหันไปมองนิธิศที่กำลังช่วยเพื่อนของมิวอีกคนยกพานพุ่มเข้าไปเก็บข้างใน ดูเหมือนจะเป็นพานที่ใช้ประกอบพิธีในคืนพรุ่งนี้ ตามไปด้วยเพื่อนที่เป็นสาวสองที่ชื่อริชชี่และแยมที่ช่วยกันยก “มีอีกไหม แรงพี่ยังเหลือนะ”“โน่นค่ะ แล้วอย่าบ่นนะว่าหนักขนาดริชชี่เป็นสาวยังยกไหวเลย”“ใครจะไปถึกเหมือนไอ้บ้านั่น”“พี่ธิศ!”“ครับ ๆ ไม่ว่า ๆ น้องริชชี่คนสวยมีอะไรให้พี่ช่วยอีกไหมครับ”“แหมยังเหลืออีกไม่เยอะค่ะ แยมแกก็อย่าไปขู่พี่เขามากสิ เดี๋ยวเขาก็ไม่ช่วยหรอก”“ก็….”“ไปน่า ๆ น้องแยมไม่ต้องพูด ไปช่วยพี่ยกของก่อนดีกว่ามาเถอะ ๆ”“นี่! ปล่อยมือนะพี่ธิศ บ้าเหรอมาลากแยมทำไม”แคร์หันไปแค่ยิ้มและหันมาจัดการข้าวต้มในชามตัวเองก่อนจะหันมามองท่าทางตกตะลึงของวีรภัทรที่ไม่เคยเห็นเพื่อนของเขาทำแบบนี้มาก่อน นิธิศเป็นคนปากดีและหยิ่งในศักดิ์ศรีมาก นอกจากมิวที่เคยด่าเขาหน้าคณะจนอายแล้วยังไม่เคยเห็นนิธิศยอมให้ผู้หญิงคนไหนใช้งานแบบนี้มาก่อน“เป็นไปได้
“อะไรวะไอ้กร อย่ามาขู่กูเลย”“กูไม่ได้ขู่แต่มึงไม่เห็นเหรอ พ่อพยายามมาหลายปีให้มิวยอมรับ มึงว่ามหาลัยเรามีทุนให้เรียนมากขนาดนั้นเลยเหรอ”“มึงจะบอกว่าทุนที่มิวคิดว่าเป็นทุนจากมหาลัยนั่นที่จริงแล้ว…”“ทุนจากพ่อทั้งนั้นแหละ พ่อจัดการและคุยกับคณบดีโดยตรงโดยที่มิวไม่รู้มาสามปี ทั้งค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลของยายและงานศพทั้งหมดนี่ก็ด้วย น้าสายรู้ดีที่สุดแต่มิวไม่รู้คิดว่าน้าสายจะเคลียร์หลังงานจบน่ะ”“กูเริ่มจะกลัวขึ้นมาจริง ๆ แล้วสิทีนี้”“ไม่ต้องห่วงหรอก แม้ว่าพ่อจะดีใจที่ได้ลูกสาวคืนแต่ก็คงไม่ถึงกับสั่งห้ามมิวเรื่องมึงหรอก แค่ต้องระวังให้มาก ๆ หน่อยเท่านั้น เกิดมึงอะไรพลาดขึ้นมากูแค่จะเตือนว่าแม้แต่กูก็ช่วยมึงไม่ได้เท่านั้นเอง”“เฮ้อ จากมิวคนเดียวที่ว่าง้อยากแล้ว นี่ยังเพิ่มพ่อตามาอีกคน กูตายแน่ ๆ ไม่เคยคิดเลยว่ามีเมียมันจะยากขนาดนี้”“เฮ้ย นี่มึงจะถอยตอนนี้เหรอวะ”“ฝันไปเถอะ กูรักของกูขนาดนี้มีเหรอจะยอมแพ้”“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ ดูเหมือนว่ามึงจะทิ้งลายเจ้าชู้แล้วจริง ๆ เหรอวะไอ้วินทร์”“เออ ตั้งแต่กูเจอมิวกูก็ไม่ต้องการผู้หญิงคนอื่น ไม่คิดอยากจะหาและไม่มีอารมณ์กับใครด้วยนอกจากมิว”“มึงกล้าพูดแ
สี่ปีผ่านไป“ดูสิคะรูปลูกของแคร์กับพี่ภัทร นี่พวกเขาไม่คิดจะกลับเมืองไทยมาให้เรารับขวัญหลานเลยสินะ”“ช่วยไม่ได้นี่นาเห็นว่าไอ้ภัทรเปิดบริษัทที่โน่น พ่อมันเองก็ไปอยู่ด้วยอีกนานเลยมั้งกว่าจะกลับเมืองไทย”“แยมกับพี่ธิศจะมาหาวันอาทิตย์นี้นะคะจะพา "กองทัพ" มาด้วย”“ได้สิ อย่างน้อยก็มีเพื่อนเล่นละนะ “ภาคินทร์” จะได้มีเพื่อนเล่น"“แล้วนี่ลูกไปไหนแล้วคะ”“โน่น ไปเดินเล่นกับพี่เรย์ พอมาเจอกันก็พากันซนเห็นว่าไปเล่นทราย”“อะไรนะ! เล่นทรายอีกแล้วเดี๋ยวก็เขาหูอีก…โอย…”“เมียจ๋าอย่าโวยวายสิ อย่าลืมสิครับว่าท้องเกือบเจ็ดเดือนแล้ว อย่าพึ่งวีนนะเดี๋ยวพี่ไปจัดการเอง”“พี่วินทร์เป็นแบบนี้อีกแล้ว บอกแล้วว่าอย่าให้เล่นทรายบ่อย ๆ มันล้างออกยากถ้าลูกต้องไป…โอย”“ที่รักจ๋าอย่าโวยวายนะผัวผิดไปแล้วมา ๆ ตีมือผัวนี่ไม่เอาน่ามีพี่นัยช่วยดูอยู่เด็ก ๆ ไม่เป็นไรหรอกอีกอย่างมีป้ารินทร์เฝ้าอยู่ เจ้าคินทร์ตัวแสบนั่นไม่กล้าดื้อหรอก”“พยุงหน่อยเร็ว ๆ เข้า”“จ้า ๆ มาแล้ว ๆ ไม่ตะเบ็งเสียงแล้วนะครับคนดีค่อย ๆ เดินนะ มาพี่พยุงเข้าบ้าน”“ปึก!”“โอ๊ย! เจ็บนะทำไมความโหดไม่ลดลงเลยล่ะ สิบปีก็จะโหดแบบเดิมไม่ได้นะ หรือว่าพอจะได้ลูก
Q-Bar / 1 ปีถัดมา“ดรายมาร์ตินี่ครับ”ภาวินทร์นั่งที่หน้าบาร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มที่เขาชอบดื่ม และต้องเป็นบาร์เทนเดอร์สาวสวย “เรเน่” คนเดียวเท่านั้นที่เป็นชงให้ดื่ม เรเน่ในชุดบาร์เทนเดอร์สาวที่รัดกุมมากกว่าเดิมแต่ก็หรูหราและดูมีระดับมากขึ้นเริ่มชงเครื่องดื่มและเท ระหว่างที่เทก็ยิ้มให้เขาเมื่อเธอยกขึ้นมาก็ส่งให้เด็กเสิร์ฟทันที“ของโต๊ะห้าค่ะ”“ครับบอส”ภาวินทร์มองเครื่องดื่มที่เด็กยกออกไปแล้วหันมาค้อนภรรยาสาวอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เธอรับหน้าที่ดูแลบาร์แทนพัชรินทร์ที่ลาคลอดอยู่ ส่วนภาวินทร์รับหน้าที่ดูแลผับทั้งหมดแทนคุณพ่อที่กำลังเห่อหลานชาย“ที่รัก แล้วของผม…”“ตึง!”ลักษิกายกนมผลไม้คั้นสดมาให้เขาตรงหน้า ภาวินทร์ขมวดคิ้วมองเธอทันที“นี่อะไรน่ะ ทำไมผมต้องดื่มนมผลไม้นี่อีกแล้ว”“เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ”“แต่ว่าที่รัก… ผมขอแค่แก้วเดียวเองคุณก็รู้ว่าผมไม่ได้ดื่มมากเหมือนเมื่อก่อน”“แต่คุณต้องขับรถให้มิวนะคะที่รัก เพราะฉะนั้นคืนนี้ดื่มไม่ได้ค่ะ”“อะไรกัน ไม่ยุติธรรมเลยรู้แบบนี้ไม่ให้มาทำหรอก”“คุณภาวินทร์คะขอร้องอย่ามางอแงแบบนี้ หรืออยากจะให้มิวกลับไปทำงานที่โรงพยาบาลอีก”“ไม่เอา! ไม่เอาครับเมียจ๋า
คอนโด“พี่สารภาพไปหมดแล้ว มิวก็อย่าโกรธอีกเลยนะ”“สมคบคิดกับห้องระบบกล้องวงจรปิด แอบถ่ายคลิปหลังเวทีแล้วปล่อยแฉรุ่นน้อง พี่วินทร์ นี่พวกพี่ทำไมทำแบบนี้ นั่นมันอนาคตของแพรวาเลยนะคะ”“ใครบอกให้เธอไม่ยอมรับและขอโทษมิวล่ะ รู้หรือเปล่าว่าจนถึงตอนนี้เธอยังคิดว่าตัวเองเป็นเหยื่ออยู่เลยทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นคนเริ่มต้นทุกอย่างเองแต่กลับไม่กล้ายอมรับความพ่ายแพ้ สมควรแล้ว…”แต่เมื่อหันมาเจอหน้าดุ ๆ ของมิวเสียงของเขาก็อ่อยลงทันที“มิว เรื่องนี้พี่กับไอ้กรไม่ได้ทำเกินไปจริง ๆ นะ คลิปที่ปล่อยออกไปก็แค่คำพูดที่เธอไม่ยอมขอโทษมิวหลังเวทีและเป็นคลิปเสียงเท่านั้น แต่ช่วยไม่ได้ที่คนจะรู้ทันทีว่าใครและอีกอย่างเรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรก มิวมาดูนี่สิ”มิวขมวดคิ้วและหันมาดูสิ่งที่วินทร์เปิดให้ดู มีรุ่นน้องหลาย คนที่ออกมาแฉพฤติกรรมของแพรวา พวกเธอเองก็เคยถูกรุ่นพี่คนนี้กลั่นแกล้งจนไม่สามารถทนได้อยู่หลายครั้ง บางคนถึงกับหยุดเรียนไปเลยก็มี “อะไรกันเนี่ย แกล้งกันเกินไปหรือเปล่า คนพวกนี้ไม่ใช่แอคหลุมใช่ไหมคะ”“ไม่ใช่ ดูเหมือนว่าบางคนจะเป็นรุ่นน้องสายตรงของเธอเลยด้วยนะที่ออกมาแฉ พี่กับไอ้กรเช็คมาแล้ว ตอนแรกก็ไม่คิดเหมื
วินทร์รีบเตรียมน้ำมาเช็ดตัวให้มิว เธอพอจะลุกไหวจึงวัดไข้เอง“สามสิบเก้าจุดห้าองศา เฮ้อลูกแกะน้อยจะไม่คุ้มเอานะเนี่ย เดี๋ยวพี่มานะจะไปเอาข้าวมาป้อน”“มิวเดินออกไปกินเอง…”“พอเลยอยู่กับที่บ้างเถอะ ไม่น่าเลยจริง ๆ วันหลังไม่เอาแล้วนะแบบนี้ ครั้งเดียวพอเลยนอนพักไปเดี๋ยวพี่ไปเทมาให้พึ่งมาเมื่อกี้นี้ยังร้อนอยู่”ภาวินทร์บ่นไปอีกนานเรื่องที่เธอต้องป่วยเพราะไปยืนสวมชุดในอากาศที่เย็นของช่วงปลายปีแล้วยังสวมส้นสูง ซึ่งปกติเธอไม่เคยสวมมาก่อนแล้วยังต้องรับน้ำหนักของชุดและเครื่องประดับร่วมหลายชั่วโมงกว่าจะได้พัก“กินยาก่อนนะ”เธอรับยาจากเขามากินจนหมดและหลับสนิทไปทันที วินทร์เปลี่ยนผ้าและเช็ดตัวให้เธออีกครั้งหลังจากที่เหงื่อเริ่มออกแต่มิวยังลุกไม่ไหว“เย็นนี้ถ้าไข้ยังไม่ลดพี่จะพาไปนอนโรงพยาบาล”“ไม่เอา…พี่วินทร์”“ไม่ต้องมาเถียง”สุดท้ายก็ไม่พ้นที่ภาวินทร์จะต้องพาเธอไปที่โรงพยาบาลเพราะไข้ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย หมอวินิจฉัยว่าเธอเป็นไข้หวัดใหญ่และต้องนอนที่โรงพยาบาล“ว่าแล้วเชียว”“วิน! น้องมิวเป็นยังไงบ้าง”“ไข้หวัดใหญ่น่ะสิ คิดเอาไว้แล้วไม่ผิด”“ไอ้วินทร์ แล้วตอนนี้มิวอยู่ไหน”“อยู่ในห้องปลอดเชื้อเด
มิวรับถ้วยจากอธิการบดีก่อนที่จะถ่ายรูปรวมกับผู้ที่ได้รองทั้งสี่อันดับ กว่าเธอจะได้ลงจากเวทีก็เกือบห้าทุ่มเข้าไปแล้ว เมื่อลงมาด้านหลังคนที่รีบเดินหนีก่อนคนแรกเลยคือแพรวาที่อายจนไม่อยากอยู่ต่อ แต่ก็ไม่พ้นสายตาของริชชี่ แยมและแคร์ที่มายืนขวางทางออกเอาไว้“จะรีบไปไหนเหรอแพรวา ฉันคิดว่าเธอน่าจะจำได้นะว่าพูดอะไรเอาไว้ก่อนหน้านี้”“หลีกไป!”“ไม่หลีก คนอะไรแพ้แล้วไม่มีสัจจะ การกระทำของเธอก่อนหน้านี้แย่มากนะ กลั่นแกล้งมิวสารพัดเพื่อจะไม่ให้มาประกวดและยังโทรไปแจ้งร้านไม่ให้พวกเราเช่าชุดมาตอนนี้ทำไมถึงกล้าหนี”“พวกเธอชนะแล้วนี่ยังต้องการอะไรอีก จริงสินะทั้งชุดเอยเครื่องประดับและรถขบวนแห่นั่นคงจ่ายไปไม่น้อยเลยสิ จ่ายเงินใต้โต๊ะไปเท่าไหร่ล่ะถึงได้ตำแหน่ง”“อีนี่! วอนเสียแล้ว”“แยมอย่า! ใจเย็น ๆ ก่อน”แยมเดินมาพร้อมกับดึงถ้วยและเงินรางวัลออกไปและผลักแพรวาเข้ามาในห้อง แคร์เดินเข้ามาดึงเพื่อนเอาไว้ก่อนที่แพรวาจะเริ่มโวยวายขึ้นมา มิวและธิดาที่กำลังลงมาจากเวทียืนมองอยู่ห่าง ๆ“ทำอะไรน่ะ ช่วยด้วย! นี่มันข่มขู่กันชัด ๆ เลยฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะพวกเธอยังต้องการอะไรอีก”“ขอโทษมิวก่อนสิ แล้วก็ยอมรับด้วยว่าแอบ
“โอ้โหน้องมิว วันนี้สวยเหมือนนางฟ้าจริง ๆ เลย”นิธิศเอ่ยปากชมด้วยใจจริง เขาเคยเห็นมิวมาก่อนหน้านี้แล้วในชุดบาร์เทนเดอร์และเห็นด้วยกับวินทร์ว่ามิวต้องสวยโดดเด่นในชุดไทยแน่ ๆ แต่ชินกรและวีรภัทรที่ไม่เคยเห็นถึงกับยืนอึ้งอ้าปากค้าง รวมถึงคนที่เริ่มมามุงดูกันและเริ่มสงสัยว่าเธอเป็นใคร“นั่นใครวะ คนของคณะพยาบาลเหรอ”“นั่นสิหน้าไม่คุ้นเลยแต่สวยฉิบหาย มึงดูรูปร่างสิอย่างกับนางแบบ”“นั่งรถหรูมาขนาดนั้นลูกนักการเมืองหรือเปล่าวะ”“แต่รุ่นพี่วิศวะคนนั้น….เขาแฟนของ…”“เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าแฟนพี่ภาวินทร์คณะวิศวะเครื่องกลปีสี่คนนั้นน่ะ ที่ใส่แว่นหนา ๆ”“เชี่ย!! สวยขนาดนี้เลยเหรอวะ”ไม่ใช่แค่พวกเขาที่ตกตะลึงในความขาวและความสวยของลักษิกาตรงหน้า แม้แต่คณะอาจารย์และกรรมการที่เริ่มเดินมาให้คะแนนในรอบแรกที่จะขึ้นรถที่ตกแต่งเอาไว้แล้ว ซึ่งครั้งนี้ชินกรให้คนของคณะวิศวะมาช่วยแต่งรถของมิวด้วยดอกไม้สดทั้งคัน วินทร์เดินเข้ามาหาและถามเธอ“เป็นยังไงบ้างเมื่อยไหม”“ไม่ค่ะแล้วพี่วินทร์ละคะ เหนื่อยไหม”“ไม่เหนื่อยแค่เห็นหน้ามิวก็หายเหนื่อยแล้ว วันนี้มิวสวยมากที่สุดเลย สวยจนอยากขอแต่งงานเลย”“พี่วินทร์ พูดอะไรน่ะ”“หนัก
“คิดเอาไว้ไม่มีผิดเลยว่าต้องมีเรื่องแบบนี้”มิวพูดขึ้นมาหลังจากที่ริชชี่เดินออกมาจากร้านยืมชุดร้านที่สี่ที่เธอรู้จัก “นั่นสิ จะเป็นไปได้ยังไงที่จะไม่มีร้านไหนเลยที่มีชุดเหลือ แบบนี้มันเหมือนแกล้งกันชัด ๆ เลย”“กลับกันเถอะ”“อ้าว แล้วจะทำยังไงละมิว”“ค่อยกลับไปคิดกันใหม่”“แต่ว่าเหลืออีกแค่อาทิตย์เดียวเอง ช่างแต่งหน้าก็ยังหาไม่ได้แล้วไหนจะชุดอีก”“เอาไว้ค่อยคิด”เย็นวันนั้น วินทร์ที่พึ่งกลับมาจากเรียนช่วงบ่ายเข้ามาในห้องก็เห็นว่ามิวนอนอยู่ที่โซฟาโดยมีมือถือวางอยู่ แต่เธอหลับสนิทจึงไม่เห็นข้อความของแยมที่ส่งมาให้“ริชชี่บอกว่าหาไปถึงร้านเวดดิ้งที่ทองหล่อก็ยังหาไม่ได้เหมือนกัน สงสัยงานนี้คงได้ตัดชุดใส่เองแล้วมั้ง ฮ่า ๆ”เขาไม่ได้แอบอ่านเพราะข้อความมันเด้งขึ้นมาเองจากหน้าจอภาวินทร์ถึงได้รู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นแต่เขาเห็นว่ามิวยังหลับสนิทอยู่จึงได้โทรไปหาริชชี่เพื่อนสนิทของมิวโดยตรงซึ่งเขามีเบอร์ของเพื่อนมิวเอาไว้ทุกคน“โอเคพี่รู้แล้ว ขอบใจมากนะริชชี่”วินทร์วางหูไปแล้วและรีบกดเบอร์โทรที่คุ้นเคยทันที เสียงปลายสายรับอย่างงัวเงียเพราะยังไม่ถึงเวลาตื่น“ว่าไงไอ้ตัวแสบยังจำเบอร์พี่สาวแกได้อยู่เหร
“ต้องแบบนี้สิวะถึงจะเรียกว่าน้องเขย”วินทร์หันมายักคิ้วให้ชินกรก่อนจะดูดกาแฟเย็นของเขาต่อ วินทร์ยื่นชาเขียวแก้วใหม่ให้มิว“ไม่ต้องห่วงพี่อยู่ข้างมิวเสมอ ไม่ต้องกลัวเพราะแพรวากับพี่ไม่ได้มีอะไรเกินเลยและพี่ไม่เคยล่วงเกินเธอ”“พี่เป็นพยานให้ไอ้วินทร์ได้ในเรื่องนี้ น้องแพรคนนั้นถ้ากูจำไม่ผิดมากับดาวคณะที่บอกว่าเป็นเพื่อนกัน สุดท้ายมาเพื่อจะเข้าหามึงใช่ไหม”“พอไอ้ธิศพูดกูก็นึกออกเพราะพวกเธอตบตีกันเองมึงเลยเลิกติดต่อทั้งคู่ น้องแพรวาอะไรนี่ดูเหมือนจะยังไม่ทันได้คบหากับมึงเลยด้วยนี่ แค่ให้มึงเดินไปที่คณะด้วยกันเพราะเป็นทางผ่าน ตอนนั้นกูก็ไปด้วย”“ไอ้ภัทรมึงความจำแม่นใช้ได้เลยนี่กูก็ลืมไปแล้ว”“ก็หลังจากวันนั้นพวกพยาบาลมาใช้ห้องของคณะเราไงล่ะ มึงกับไอ้ธิศเลยโดนน้องมิวด่าที่หน้าคณะจำได้ไหมล่ะ”“ไอ้เชี่ยภัทรไม่พูดก็ไม่มีใครว่านะ มึงรื้อฟื้นทำไมวะกูอุตส่าห์ลืมไปแล้ว”วินทร์หันมามองหน้ามิวและยิ้มให้กันอย่างเข้าใจ มิวรู้ดีว่าตอนนี้วินทร์จะอยู่ข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไงก็ยังมีวินทร์และชินกร พี่ชายของเธอที่พร้อมจะช่วยเหลืออยู่เสมอ“มิว พ่อโทรมาหาพี่บอกว่าเรื่องที่จะเข้าประกวดพ่อบอกว่าให้มิวทำ
“ฉันว่าคนที่น่าห่วงน่ะไม่ใช่มิวหรอก แต่เป็นคนขี้อิจฉาอย่างเธอมากกว่า”“ยัยแคร์ หมายความว่ายังไง”แคร์ ริชชี่และแยมเดินมาพอดีพร้อมกับดึงมิวเข้ามา ดูท่าทางแพรวาเองก็เหมือนจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ “ก็เธอโดนทิ้งก็ไม่ได้หมายความว่ามิวจะเป็นอย่างเธอ ที่ฉันเห็นนะมิวกับพี่วินทร์คบหากันมานานเกินครึ่งปีแล้ว อีกอย่างตอนที่มิวโกรธ พี่วินทร์ถึงกับตามไปง้อถึงที่เลยนะ เรื่องแบบนี้เธอเคยเจอบ้างหรือเปล่า”“แก!”“อ๊ะ ๆ แคร์พูดไม่จบฉันขอต่อให้ก็แล้วกันนะ เรื่องของเธอกับมิวมันเอามาเทียบกันไม่ได้ แค่คนที่เคยคุยกับ "แฟน" น่ะ มันก็คนละเรื่องกันแล้ว อีกอย่างนะตอนนี้พี่วินทร์ก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย ไม่คิดเลยนะว่าพี่วินทร์จะคลั่งรักขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไหมริชชี่"แพรวากำหมัดแน่นเพราะความอิจฉา เธอเคยคุยกับภาวินทร์และเคยควงเขาอยู่ไม่ถึงสิบวัน อาจเพราะเธอเซ้าซี้เขามากเกินไปและเรียกร้องขอให้เขามารับมาส่ง แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ภาวินทร์จะทำตามที่เธอขอ ไม่เหมือนกับที่เขาถึงกับขับรถมาส่งมิวที่หน้าคณะอย่างเต็มใจแบบนี้“งานลอยกระทงปีนี้ ถ้าเธอคิดว่าเธอแน่จริงกล้ามาแข่งกับฉันไหมล่ะ”“อะไรนะ”“งานลอยกระทงของมหาวิทยาลั