Share

ตอนที่ ๑๐

last update Last Updated: 2025-09-21 20:51:12

ตอนที่ ๑๐

          นิศากรตัวแข็งทื่อหลังลืมตาตื่นขึ้นมาและรับรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้ตัวเองกับบุลินนอนท่าไหน ลมหายใจของเขารดรินบนเนินอก แขนคู่ใหญ่วางพาดผ่านเอวเลยไปถึงสะโพก มันเป็นท่าที่น่าอายเกินไปจนไม่กล้าขยับตัว ทำได้เพียงหลับตานิ่ง รอให้เขาตื่นและเป็นฝ่ายขยับตัวออกไปก่อน

ซึ่งหลังจากผ่านไปหลายนาทีจนเกือบครึ่งชั่วโมง หญิงสาวก็เพิ่งตระหนักว่าสามีอย่างเป็นทางการของเธอเป็นพวกตื่นสายจนเคยชิน ดังนั้นถ้ารอเขาก็ต้องอยู่ท่านี้ไปอีกนาน เธอจึงกลั้นใจขยับตัวหนีอย่างแผ่วเบา

แต่ทว่า...

“...ดีเหมือนกันนะ ตื่นมาแล้วเจอหนมน้มอยู่ตรงหน้า”

เผียะ! น้ำเสียงนั้นไม่ได้ฟังดูง่วงเลยสักนิด นิศากรจึงอดไม่ได้ที่จะฟาดมือลงบนไหล่ของชายหนุ่มที่มีร่องรอยฟันของเธอให้เห็นอยู่ เพราะเมื่อคืนเธอจำได้ว่าเผลอกัดเขาไปเล็กน้อย แต่อันที่จริงก็ไม่น้อยหรอก ตอนที่ความรู้สึกมันพลุ่งพล่านไปหมด ทางไหนที่จะระบายอารมณ์ได้เธอก็ทำ ทั้งกัดและข่วนนั่นแหละ

“ตื่นแล้วก็ลุกสิคะ...” หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงเขินอายเพราะชายหนุ่มยังไม่ยอมขยับไปไหน แถมเขากลับกระชับอ้อมกอดและแนบหน้าลงบนยังเนินเนื้อนุ่มนิ่ม แล้วหัวเราะเบาๆ

“ก่อนแต่งงานสัญญากันไว้ว่ายังไงจำได้หรือเปล่าฮึ”

สัญญา...

นิศากรนิ่งไป ก็คงไม่ใช่ว่า...

“อาบน้ำด้วยกันทุกวันน่ะเหรอคะ” ทั้งๆ ที่อยู่ในสภาพน่าอายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้ว แต่เธอก็ยังอุตส่าห์คิดถึงสภาพตอนอาบน้ำด้วยกัน แล้วอายหนักขึ้น

“จำเก่งเหมือนกันนี่ครับ” บุลินขยับตัวขึ้นมา “เพราะฉะนั้นไปอาบน้ำกันเถอะ”

ดังนั้นเธอจึงต้องลงมาแช่น้ำในอ่างกับสามีของเธอ ตอนแรกก็เขิน แต่ตอนนี้รู้สึกว่าไม่แล้ว...

นิศากรเอนตัวพิงขอบอ่างพลางหนุนแขนมองดูบุลินที่ดูจะสนุกกับการทำฟองฟูนุ่มจนเต็มอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถลงมานั่งแช่ด้วยกันอย่างสบายๆ

“พี่บุ้งอายุกี่ขวบแล้วคะ”

บุลินได้ฟังแล้วก็เลิกคิ้ว มือที่เล่นกับฟองหยุดชะงัก “พี่ทำให้เธอนะ”

หญิงสาวหัวเราะ “อยากเห็นพี่บุ้งสมัยก่อนจังเลยค่ะ”

“ไม่ชอบพี่ในตอนนี้เหรอครับ” บุลินขยับตัวเข้าไปใกล้หญิงสาว

“ชอบค่ะ ทั้งใจดีแล้วก็อบอุ่น ตอนนี้ก็ยังได้เห็นมุมอื่นๆ เพิ่มขึ้นด้วย” นิศากรยิ้มหวาน ทำเอาบุลินอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปจูบ

“แต่ก่อนพี่นิสัยไม่ค่อยดี ถ้าเจอกันในตอนนั้นเธอจะต้องไม่ชอบแน่ๆ พวกเราน่ะเจอกันในช่วงที่เหมาะสมที่สุดแล้ว” บุลินนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ตัวเองรีบร้อนขับรถจนไม่ระวังทำให้เกิดอุบัติเหตุอันเป็นฝันร้ายของเขาขึ้นมา “พี่เคยคิดอยากกลับไปแก้ไขอดีต ถ้าวันนั้นไม่หุนหันพลันแล่นขับรถออกไปด้วยความเร็วก็ดี แต่ตอนนี้ไม่แล้ว แค่คิดเรื่องตรงหน้าก็พอ ทำยังไงให้ทุกวันผ่านไปอย่างมีความสุข”

“ดีค่ะ ขอให้พี่บุ้งทำงานทุกวันอย่างมีความสุขนะคะ” หญิงสาวหยอกเย้าเพราะรู้ว่าหลังจากนี้บุลินจะกลับไปทำงานอย่างเต็มตัว

บุลินเบ้ปาก “ล้อเลียนเหรอฮึ”

“ไม่ชอบงานด้านบริหารเลยเหรอคะ”

“ไม่ชอบ แต่ก็ไม่ได้เกลียด แต่ถ้ายังหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน หลังคุณย่าวางมือ ปล่อยให้พี่บีบริหารเหนื่อยอยู่คนเดียว ก็เท่ากับเขาเลี้ยงดูพี่น่ะสิ ใครจะไปทนได้ เรื่องศักดิ์ศรีน่ะพี่ก็ยังพอมีอยู่บ้างหรอก”

คนฟังหัวเราะคิก “แต่ก็อย่าถึงขนาด ทำจนเข้าขั้นบ้างานนะคะ”

“หือ” เขาเลิกคิ้ว

“เดี๋ยวไนท์เหงา”

“ยังไงพี่ก็ไม่ถึงขั้นบ้างานแบบพี่บีหรอก เพราะปกติพี่ออกจะเป็นคนขี้เกียจ สิ่งเดียวที่คิดว่าตัวเองเคยขยันคือซ้อมแข่งรถเท่านั้นแหละ”

นิศากรขำพรืด หัวเราะจนต้องหันหน้าหนีชายหนุ่ม พอถูกเขาดึงเข้าไปกอดแนบแผ่นอกกว้าง เธอจึงถือโอกาสทิ้งตัวลงพิงเขาอย่างสบายใจ

“เออ...พี่บุ้งคะ บางวันไนท์อาจจะขอกลับไปค้างที่บ้านบ้างนะคะ”

“ได้ครับ ไม่มีปัญหาอะไร เพราะพี่รู้ว่าพ่อของเธอคงเหงาน่าดู” เขาอดนึกถึงพ่อตาที่เอาแต่มองมายังภรรยาของเขาแทบตลอดงานไม่ได้เลย ดูเหมือนจะทั้งหวงและห่วงอย่างบอกไม่ถูก

“ค่ะ...อื้อ...”

นิศากรอยากจะตะครุบมือซนๆ ที่กำลังกอบกุมทรวงอกขนาดพอดีมือของชายหนุ่มเอาไว้ แต่ก็ไม่มีแรงเลย

“อ้อ นึกได้ว่ามีอีกเรื่องหนึ่งนะที่พี่ขยัน” ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะก้มลงกระซิบข้างใบหูของหญิงสาวเบาๆ “ก็...เรื่องที่เรากำลังจะทำกันนี่แหละครับ”

หญิงสาวดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรง เขารัดเธอเอาไว้แน่น แต่ไม่ได้ใช้แรงจนอึดอัด เพียงแต่มันทำให้เธอต้องยอมจำนนต่อเขาอยู่ภายใต้น้ำอุ่นๆ และฟองนุ่มฟูเท่านั้นเอง...        

          นี่ไม่ใช่การมาบ้านของบุลินเป็นครั้งแรก แต่เป็นการมาบ้านของพวกเราเป็นครั้งแรก นิศากรจึงอดรู้สึกใจเต้นตึกตักไม่ได้ ดังนั้นจึงกุมมือชายหนุ่มแน่นขึ้นตอนที่เดินเข้าไปยังภายในตัวบ้าน

          “ยังเหนื่อยอยู่ไหมครับ นอนพักต่ออีกสักหน่อยดีกว่ามั้ง”

บุลินหันมาเอ่ยถามภรรยาที่เขากำลังจูงมือเธอเข้ามาภายในบ้าน

          เพราะเพิ่งรับประทานมื้อเที่ยงจากข้างนอกมาก็เลยรู้สึกง่วงและเพลียจากงานแต่งด้วย หญิงสาวจึงไม่ได้คัดค้าน เธอปล่อยให้สามีพาไปยังห้องนอนที่จะกลายเป็นห้องนอนของพวกเขา

          ห้องของบุลินนั้นเป็นห้องโล่งๆ ไม่มีอะไร เป็นห้องไว้สำหรับนอนอย่างแท้จริงเพราะเจ้าตัวเป็นภูมิแพ้

          “แต่อีกสักเดี๋ยว ไนท์ตื่นเมื่อไหร่จะไปจ่ายตลาดนะคะ วันนี้พี่บุ้งอยากกินอะไร” หญิงสาวเอ่ยถามในขณะที่ทั้งสองนั่งลงบนเตียงที่ตอนนี้เพิ่มหมอนเข้ามาอีกใบหนึ่งซึ่งเป็นของเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

          “อะไรก็ได้ครับ”

          “ของเผ็ดๆ”

          “ยกเว้นอะไรที่เผ็ดๆ สิ” บุลินกลอกตามองเพดาน “เผ็ดมากเกินไปนี่ฆ่าพี่ได้เลยนะครับ”

          “งั้นก็ต้องช่วยเจาะจงมาสักอย่างสองอย่างค่ะ”

          “เมนูอะไรก็ได้ที่ทำจากปลาหมึก”

          “แคบลงอีกค่ะ ยังกว้างไป”

          “ต้มจืดปลาหมึกยัดไส้ครับ”

          นิศากรยิ้มกว้างจนหน้าบาน “ก็แค่นี้แหละค่ะที่ต้องการ”

          “ทำไมทำหน้าดีใจขนาดนั้น ชอบเหรอครับที่เถียงชนะน่ะ”

          “อาการออกขนาดนั้นเลยเหรอคะ” หญิงสาวกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อเขาพยักหน้า เอนศีรษะพิงแขนคนตัวโตกว่า “อยากกินอะไรก็บอกนะคะ ไนท์จะทำให้ทุกอย่างเลย”

          “อันที่จริงอะไรที่ไม่เผ็ดพี่ก็กินได้หมดทุกอย่างนั่นแหละ”

          “แล้วมีผักหรืออะไรที่ไม่ชอบเป็นพิเศษไหมคะ ไนท์จะได้เลี่ยง”

          “อืม พี่ไม่ค่อยชอบฟักทองครับ” บุลินทำหน้ายุ่ง “ไม่ชอบกลิ่นน่ะ”

          “รับทราบค่ะ” หญิงสาวยังถามต่อ “แล้วขนมล่ะคะ”

          “กินได้หมดครับ ที่เคยทำมาฝากพี่ชอบหมดทุกอย่างเลย”

          นิศากรเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มดวงตาเป็นประกาย ในหัวใจของเธอมันพองโต คำว่าพี่บุ้งน่ารักลอยไปลอยมาอยู่ในหัวเธอเต็มไปหมด

          “พี่บุ้งคะ จูบไนท์หน่อยสิ”

          บุลินหัวเราะเสียงเบาในลำคอ “ไม่ขอพี่ก็จะให้ครับ”

          แรกสัมผัสจูบนั้นนุ่มนวลราวกับปีกผีเสื้อที่ปัดผ่านกลีบดอกไม้ แต่เมื่อเขากดแนบริมฝีปากร้อนลงหนักกว่าเดิม เมื่อเธอเผยอปากขึ้น มันก็กลายเป็นเชื้อเพลิงที่พร้อมจะลุกไหม้อย่างร้อนแรง

          “พอแค่นี้ก่อนแล้วกันครับ” ชายหนุ่มผละออกก่อนกระซิบ “เดี๋ยวจะไม่มีแรงไปจ่ายตลาดเอานะ”

          “งั้นก็ช่วย...เอามือของพี่ออกไปด้วยค่ะ” หญิงสาวตะครุบมือของชายหนุ่มที่ไม่รู้ว่าปลดกระดุมของเธอออกตอนไหนเอาไว้

          ชายหนุ่มฟังเสียงหัวเราะของตัวเองและนึกถึงคำพูดของพี่ชายตอนที่ขึ้นไปดื่มด้วยกันที่รูฟท็อปบาร์ของโรงแรม

          ‘นานแล้วที่ไม่ได้ยินเสียงนายหัวเราะแบบนี้’

          ไม่ใช่แค่บวรหรอกที่รู้สึก เขาเองก็รู้ตัวเหมือนกันนั่นแหละว่าตอนนี้หัวเราะมากขึ้น หลังจากที่เสียงหัวเราะแทบจะหายไปเลยหลังประสบอุบัติเหตุ

          ในวันแรกที่จะไปทำงานหลังจากแต่งงานกันได้สองสัปดาห์ ย่าของชายหนุ่มก็เรียกไปรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน ดังนั้นพอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเดินเคียงกับภรรยาไปยังบ้านใหญ่

          บุลินอยู่ในชุดสูททำให้นิศากรมองแล้วอดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่ได้ เพราะเธอแอบคิดว่าชายหนุ่มเหมาะกับสูทมาก

          เมื่อไปถึงก็พบว่าบวรเป็นคนแรกที่นั่งอยู่ในห้องรับประทานอาหาร แสงรุ้งอีกสักเดี๋ยวก็คงลงมา ส่วนปภาดานั้นบุลินไม่คิดว่าจะได้เจอหรอก เพราะรายนั้นเป็นพวกชอบนอนตื่นสายไม่ต่างจากเขา

          แต่แล้วบุลินก็ต้องเลิกคิ้วสูงเมื่อเห็นว่าพี่สะใภ้ของตัวเองมาปรากฏตัวยังโต๊ะรับประทานอาหาร ปภาดาหาวเบาๆ ก่อนจะนั่งลงข้างสามีของตัวเองและตรงข้ามกับสะใภ้คนเล็กอย่างนิศากร

          “คุณย่าบังคับน่ะ” บวรที่เห็นสายตาสงสัยของน้องชายจึงตอบแทน บุลินพยักหน้ารับรู้

          “คุณย่าทำอย่างกับว่าวันนี้ลูกชายไปโรงเรียนวันแรกเลย ตื่นเต้นไปได้” ปภาดาบ่น

          บวรหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจ นิศากรแอบอมยิ้ม  ส่วนบุลินก็ได้แต่เบ้ปาก เสียงเงียบลงเมื่อแสงรุ้งมาถึงและนั่งลงตรงหัวโต๊ะด้วยใบหน้าอิ่มเอมด้วยความสุข แม่บ้านกับลูกมือจึงเริ่มนำอาหารเช้าขึ้นเสิร์ฟ

          เพราะแต่ไหนแต่ไรมาแสงรุ้งก็เป็นคนสบายๆ กับคนในครอบครัวอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเอ่ยเรื่องสำคัญมากออกมาในระหว่างมื้อเช้า

          “ตาบุ้งถ้าแกทำงานแบ่งเบาภาระให้ตาบีได้ดี ปีหน้าย่าก็จะเกษียณตัวเองแล้ว”

          บุลินเงยหน้าขึ้นมองคนเป็นย่าซึ่งตอนนี้ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท “แน่ใจจริงๆ เหรอครับว่าจะทำแบบนั้น ถึงจะแปดสิบกว่าแล้วแต่คุณย่ายังแข็งแรงอยู่เลย” บุลินเย้าพลางยิ้มประจบ

          แสงรุ้งหรี่ตามองหลานชายคนเล็ก “อย่าให้ย่ารู้ว่าขี้เกียจทำงาน เพราะถ้าแกไม่เต็มที่กับงาน เดี๋ยวต่อไปคงถูกพวกบอร์ดบริหารเล่นงานเอา”

          “ครับๆ”

          บวรมองคนเป็นย่ากับน้องชายแล้วก็แอบอมยิ้ม เขาเองรู้ดีกว่าใครว่าน้องชายไม่ชอบงานพวกนี้ แต่ดูเหมือนตอนนี้มันก็เลี่ยงไม่ได้หรอก ในอนาคตคงต้องดูอีกทีว่าเขาจะเข็นเจ้าน้องจอมขี้เกียจไหวไหม ถ้าไม่ไหวคงไล่ให้ไปทำอย่างอื่นแทน อะไรสักอย่างที่เจ้าตัวสนุกไปกับมันเหมือนที่เขาสนุกกับงานของตัวเอง

          “แล้วนี่จะไปทำงานด้วยรถคันเดียวกันเลยหรือเปล่าครับเนี่ย” บุลินเอ่ยถามพี่ชายหลังจากที่กินมื้อเช้าอิ่มแล้ว

          “คุณย่าไม่มานั่งกับพวกเราหรอก นายไปกับพี่” บวรอดขำไม่ได้ “รู้สึกเหมือนเมื่อก่อนเลย ตอนไปโรงเรียนด้วยกันน่ะ”

          “ก็จริง เพราะตอนนี้ผมรู้สึกชักอยากจะโดดแล้ว”

          “ทำแบบนั้นศิลป์ร้องไห้แย่เลย อุตส่าห์จัดห้องให้นายเสียดิบดี” บวรตบบ่าน้องชาย “ยังไงนายก็อยู่ชั้นเดียวกับพี่ ไม่เข้าใจงานตรงไหนถามศิลป์มันแล้วยังไม่เคลียร์ก็เดินมาหาพี่ได้”

          บุลินไม่รู้ว่าตอนเด็กจะเหมือนกับตอนนี้ไหม แต่ความทรงจำตอนที่ถูกบวรสอนการบ้านน่ะ ไม่ได้สวยงามและน่าจดจำเลยสักนิด ตอนหลังเลยเลือกจะไปเรียนพิเศษ ทำเอาแสงรุ้งแปลกใจที่เห็นหลานชายจอมขี้เกียจขยัน

          “ก็นะ...ถ้าศิลป์มันอธิบายแล้วผมไม่เข้าใจก็จะไปถามแล้วกัน” บุลินบอกกับพี่ชายก่อนจะหันไปหาคนที่เดินตามาส่ง ก้มลงจุมพิตอีกฝ่ายเร็วๆ ที่หน้าผาก

          “พี่บุ้ง...” นิศากรหันไปมองทางบวรกับปภาดาด้วยความเขิน

          “แหมหวานไม่แคร์สื่อเลยนะไอ้บุ้ง” ปภาดาเบ้ปากใส่น้องสามีซึ่งเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก      

“นานๆ เธอจะตื่นเช้ามาส่งพี่ไปทำงานสักที” บวรเหล่มองภรรยา “ไม่คิดจะทำแบบไอ้บุ้งบ้างเหรอคะ”

          ปภาดาหน้าแดง “ทำอะไรเล่า พี่บีไม่อายหรือไง”

          “ต้องอายด้วยเหรอ” เลิกคิ้ว “ไม่เห็นต้องอายเลยค่ะ”

          บวรเอียงแก้มเข้าใกล้ภรรยาที่มองไปทางบุลินกับนิศากรด้วยสายตาขวางๆ ดังนั้นทั้งสองจึงทำเป็นไม่มอง

          พอเห็นว่าไม่มีใครมองแล้วปภาดาจึงตั้งใจจะจูบลงบนแก้มของสามี แต่บวรกลับหันมาและก้มลงมาจูบเธอแทน ทำเอาปภาดาใจเต้นแรง อาการง่วงงุนที่ตอนแรกยังไม่หายไป ตอนนี้กลับไม่หลงเหลืออยู่เลยเพราะผู้ชายตรงหน้า

          “พี่บีบ้า” ต่อว่าสามีเสียงเบา ก่อนจะเดินไปคว้ามือของนิศากรแก้เขินแล้วจูงมือกันกลับเข้าบ้าน ส่วนสองหนุ่มก็ขึ้นรถไปทำงาน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามีตัวหอม   ตอนพิเศษ คนที่แสนโชคดี

    ตอนพิเศษ คนที่แสนโชคดี บุลินนอนมองคุณแม่ของลูกสาวทั้งสองซึ่งยังหลับสนิท เพราะวันนี้เป็นวันหยุดของลูกๆ รวมถึงของเขาด้วย เธอจึงไม่ต้องรีบตื่นเพื่อเข้าครัวทำมื้อเช้าให้กับทุกคน เธอปรือตาขึ้นมองสามี แต่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองนิ่งๆ เท่านั้น บุลินอดใจไว้ไม่ไหวจึงยื่นหน้าไปจูบหนักๆ ลงบนหน้าผากของคนที่ยังไม่ตื่นเต็มตา ลูกสาวคนโตนอนหลับอยู่ในห้องส่วนตัวของเธอ ส่วนคนเล็กไปนอนค้างกับบวรและปภาดา ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงมีเพียงกันและกันอยู่บนเตียงกว้าง ช่างเป็นยามเช้าที่แสนเย้ายวนใจ “น้องไนท์ถุงยางอนามัยหมดแล้ว” บุลินก้มลงกระซิบ มือก็ลากไล้ไปตามเอวของหญิงสาวที่ขยับขยายกว้างขึ้นเล็กน้อยเพราะผ่านการเป็นคุณแม่มาแล้ว นิศากรพยักหน้ารับรู้เบาๆ เขาอมยิ้ม “ถ้าไม่ใช้ก็อาจจะท้องอีกนะครับ” คนฟังขมวดคิ้ว ตอนแรกเธอไม่ได้คิดอะไร แต่พอได้ยินอีกประโยคสติก็เริ่มแจ่มชัด “พี่บุ้งอยากมีอีกคนเหรอคะ” “เจ้าขาก็โตแล้ว จันทร์เจ้าก็ถูกพี่บีแย่งไป เหงาน่ะไม่มีใครให้อุ้มเลย” “ลูกมากจะยากจนนะคะ” นิศากรหัวเราะคิกคัก

  • สามีตัวหอม   ตอนพิเศษ เมื่อพบกันอีกครั้ง

    ตอนพิเศษ เมื่อพบกันอีกครั้ง ลูกสาวคนโตวัยเกือบเจ็ดขวบกว่านั้นไม่เคยมาขอนอนด้วยอีกเลยตั้งแต่มีห้องส่วนตัวเป็นของตัวเองส่วนลูกสาวคนเล็กที่อายุเพิ่งครบห้าปีก็แทบจะไปนอนกับบวรและปภาดาวันเว้นวัน ดังนั้นสองสามีภรรยาจึงมีเวลาส่วนตัวในยามค่ำคืนอยู่มาก นิศากรหวีผมเรียบร้อยแล้วก็ปีนขึ้นเตียงไปหาสามีที่กำลังอ้าแขนรอ เธอซบหน้ากับอกของชายหนุ่มพลางหายใจเอากลิ่นหอมจากกายสามีเข้าเต็มปอด “มีอะไรครับ” บุลินเอ่ยถามเพราะรู้สึกได้ถึงอาการกังวลใจของภรรยา “เดย์บอกว่าคุณพ่ออยากเจอไนท์ค่ะ” อ้อมแขนแข็งแรงกอดกระชับแน่นขึ้น “อยากเจอหรือเปล่าครับ” เธอพยักหน้า “เดย์บอกว่าคุณพ่อกังวลมากและคิดอยู่นานว่าจะเจอไนท์ดีหรือเปล่า” หญิงสาวถอนหายใจ “ไนท์จะเริ่มต้นใหม่กับคุณพ่อได้ไหมคะ มันจะราบรื่นหรือเปล่า” “ยังไงก็มีเจ้าขากับจันทร์เจ้าอยู่นะครับ คุณพ่อเอ็นดูสองคนนั้นจะตายไป” บุลินพาลูกสาวทั้งสองคนไปเยี่ยมชัยกรอย่างน้อยเดือนละครั้ง “ลูกต้องช่วยให้บรรยากาศระหว่างเธอกับท่านเป็นไปอย่างราบรื่นแน่” “ไนท์ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ” “ยังไงก็

  • สามีตัวหอม   ตอนพิเศษ ดุจจันทรา

    ตอนพิเศษ ดุจจันทรา ดุจจันทราหรือน้องจันทร์เจ้าของทุกคน ลูกสาวคนที่สองของบุลิน เป็นเด็กคลอดก่อนกำหนด ทำเอาทุกกังวลใจกันไปหมด แต่หลังจากออกจากตู้อบมาแล้ว ร่างกายก็แข็งแรงดี เพียงแต่เจ้าตัวกลับติดบวรมากกว่าคนเป็นพ่ออย่างบุลินเสียอีก ดังนั้นจึงกลายเป็นพ่อบี พ่อบุ้งไปโดยปริยาย “พรุ่งนี้จันทร์เจ้าจะไปโรงเรียนเป็นวันแรก พี่บีจะไปส่งลูกไหมคะ” ปภาดาซึ่งนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจก หันมาถามสามีเมื่อเห็นว่าเขาออกมาจากห้องน้ำแล้ว “พี่ว่าจะไม่ไปหรอก” บวรรับหวีมาจากมือของปภาดาแล้วช่วยแปรงผมให้อย่างเบามือ “อ้าวทำไมล่ะ ลูกไปโรงเรียนวันแรกเลยนะ ไอ้บุ้งก็บอกว่าต้องลองไปสัมผัสดู ครั้งเดียวในชีวิตเลยที่ลูกจะมีวันนี้” ปภาดาฟังประสบการณ์ครั้งแรกของบุลินที่ไปส่งดั่งบุหลันลูกสาวคนโตแล้วตื่นเต้นอยากไปบ้าง “ไม่อยากเห็นน้องจันทร์เจ้าร้องไห้น่ะค่ะ” “โอ๊ย พ่อบี น้องจันทร์เจ้าเก่งจะตายไป ไม่ร้องหรอก” “ต้องร้องแน่ๆ ไม่มีเด็กคนไหนไม่ร้องหรอก ขนาดไอ้บุ้งยังร้องไห้จ้าอยู่เป็นอาทิตย์ๆ” ปภาดาหัวเราะคิกคัก “ปอนด์จำได้ ร้องจนปอนด์รำคาญ แต่เด็กที่ไม่

  • สามีตัวหอม   ตอนพิเศษ ดั่งบุหลัน

    ตอนพิเศษ ดั่งบุหลัน “เจ้าขาคนดีของพ่อบุ้ง ทำไมถึงไม่อยากไปโรงเรียนล่ะครับ” บุลินถูกภรรยาวานให้มากล่อมลูกสาวคนโตที่งอแงไม่ยอมไปโรงเรียน ชายหนุ่มเท้าคางนอนตะแคงอยู่ข้างลูกสาวที่ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มนิ่ง แม้ว่าจะพูดอะไรก็ไม่ยอมตอบกลับมาสักคำ “ลืมทำการบ้านหรือเปล่า กลัวคุณครูดุก็เลยไม่อยากไปโรงเรียนเหรอครับ” บุลินพยายามคาดเดาเหตุผลที่ลูกสาวไม่อยากไปโรงเรียน “หรือว่าถูกใครแกล้ง” พอพูดออกไปเขาก็ขมวดคิ้ว เท่าที่ผ่านมาไม่มีเด็กกล้ารังแกลูกเขาหรอก เคยทำคนที่มาแกล้งจนฟันน้ำนมหักเลยด้วยซ้ำ เหตุผลนี้คงไม่ใช่ “เราเคยสัญญากันแล้วไม่ใช่เหรอครับว่ามีอะไรก็จะบอกพ่อบุ้ง เจ้าขาก็รู้ว่าพ่อเก็บความลับเก่งที่สุดเลย” คนร่างจิ๋วภายใต้ผ้าห่มขยับตัวยุกยิก บุลินใจชื้นที่ลูกสาวมีปฏิกิริยาสักที เขารอคอยอย่างอดทนให้ลูกสาวออกมาคุยกันดีๆ แต่แล้วกลับนิ่งไปอีก “เอ๊ะ หรือว่าจริงๆ แล้วป่วย” บุลินพยายามจะดึงผ้าห่มออกจากตัวของลูกสาว “พ่อหนูไม่ได้ป่วยนะ” น้ำเสียงเล็กๆ ที่ตอบกลับมานั้นฟังอู้อี้ “แล้วทำไมไม่อยากไปโรงเรียนล่ะครับ” “ก็มัน...เสียใจ เจ

  • สามีตัวหอม   ตอนที่ ๒๓

    ตอนที่ ๒๓ ถึงคนเป็นพ่อจะยังไม่หายดีและยังไม่พร้อมเจอกับนิศากร แต่เรื่องที่ยอมให้อยู่กับบุลินได้อย่างเดิมก็ถือว่าเป็นความก้าวหน้าทางด้านอารมณ์ของชัยกรไปในทางที่ดี อย่างน้อยๆ เธอก็ไม่ต้องเผชิญกับอารมณ์เดี๋ยวรัก เดี๋ยวเกลียดของอีกฝ่ายอีกต่อไปแล้ว พอเดินพ้นประตูบ้านเข้าไปด้านในโดยมีมือของบุลินที่กอบกุมมือเธออยู่ ก็พบว่าทุกคนในครอบครัวของเขาอยู่ที่นั่นเพื่อรอต้อนรับการกลับมาของเธอ รวมทั้งน้องสาวฝาแฝดอย่างทิพากรด้วย ซึ่งวันนี้ถูกแต่งหน้าจนสวยกว่าทุกที ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นฝีมือของปภาดาอย่างแน่นอน นิศากรเดินเข้าไปหาแสงรุ้งเป็นคนแรก หญิงชราเอ่ยด้วยน้ำเสียงปลอบโยน “ขวัญเอ๋ย ขวัญมา” แล้วจับมือของหญิงสาวมาบีบเบาๆ “จากนี้ต่อไปก็ขออย่าให้มีอะไรมาพรากเธอไปจากหลานชายฉันอีกเลย” “คงไม่มีแล้วค่ะ ยกเว้นพี่บุ้งจะเบื่อไนท์” “ไม่มีวันนั้นหรอกน่า” บุลินแทรกขึ้นมาทันที “ย่าก็ว่าอย่างนั้นแหละ” หญิงชรายังคงไม่ยอมปล่อยมือของคนอ่อนวัยกว่าและเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แล้วคราวนี้ฉันก็จะไม่ยอมแน่” “นั่นสิ คราวนี้ไม่มีใครยอมหรอกนะน้องไนท์” ปภาดาเบ

  • สามีตัวหอม   ตอนที่ ๒๒

    ตอนที่ ๒๒ “เราว่าเนื้อเรื่องดูสดใสขึ้นนะ” คเชนทร์ที่ได้รับอนุญาตให้อ่านพล็อตของเพื่อนก่อนใครให้คำวิจารณ์กับเพื่อนสนิท นิศากรยิ้มจนตาหยี “ดีกว่าเดิมใช่ไหม” “เราก็คิดว่าดีกว่าเดิมนะ เหมาะกับลายเส้นน่ารักๆ ของเธอด้วย แถมพระเอกนิสัยสามีแห่งชาติขนาดนี้ เขียนให้เป็นแนวรักไปเลยน่าจะผ่านนะ” เพราะว่าพล็อตคราวก่อนไม่ผ่านจึงต้องมาปรับกันใหม่ “แล้วนี่ อยู่คนเดียวโอเคใช่ไหม” “โอเค เราอยู่ได้ไม่ต้องห่วง แต่ว่าจริงๆ แล้ว พี่บุ้งมาหาทุกสองสามวันเลยแหละ ไม่ค่อยเหมือนอยู่คนเดียวสักเท่าไหร่” คเชนทร์ได้ฟังแล้วก็หัวเราะ เมื่อนึกถึงสามีของเพื่อนที่หย่ากันเพราะความจำเป็น แต่ทั้งสองยังรักกันดีจนเขาอดอิจฉาไม่ได้พอคิดถึงแฟนที่เพิ่งเลิกกันไปก็น้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง “เอ๊ะ นั่นน้องสาวเธอหรือเปล่า” นิศากรหันหน้าไปตามสายตาของคเชนทร์ ก็พบว่าทิพากรเดินเคียงมากับชายหนุ่มร่างสูงท่าทางดูดีมากคนหนึ่ง เธอจำได้ว่านั่นคือยามที่เคยเป็นกระแสในโลกโซเชียลของโรงแรมบุลินซึ่งทำให้ยอดจองช่วงหนึ่งมากขึ้นจนน่าตกใจ “สองคนนั้นสนิทกันเหรอเนี่ย” นิศากรเลิก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status