หลังจากเลิกเล่นน้ำทะเลและรับประทานมื้อกลางวันเรียบร้อยแล้ว ต่างคนต่างก็แยกย้ายไปพักที่ห้องพักของตัวเอง นิศากรที่รู้สึกว่าบุลินเหมือนจะเงียบไปเลยเอ่ยปากถาม
“พี่บุ้งเบื่อเหรอคะ” พอนึกว่าตลอดช่วงเช้าเธอเอาแต่เล่นสนุกกับทิพากร ไม่ค่อยได้สนใจคนเป็นสามีก็รู้สึกผิดขึ้นมา ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนพามาเที่ยว
บุลินที่กำลังถอดเอาขาเทียมออกเพราะจะนอนพักผ่อนชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะขยับขึ้นไปนั่งบนเตียง
“มาหาพี่หน่อยสิ”
หญิงสาวคลานขึ้นไปหาอีกฝ่ายที่บนเตียงอย่างว่าง่าย เมื่อเข้าไปใกล้ก็ถูกกอดเอาไว้อย่างแนบแน่นและดูท่าจะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ ดังนั้นเธอจึงถือโอกาสสูดเอากลิ่นหอมคุ้นเคยจากตัวชายหนุ่มเข้าเต็มปอด
“อยู่แบบนี้ดีจังเลยค่ะ รู้สึกปลอดภัยแล้วก็หอมมากเลยด้วย”
บุลินก้มลงมองคนในอ้อมแขน หากเป็นแต่ก่อนเขาอาจจะบีบบังคับให้เธอพูดออกมาเพราะความใจร้อน อาจห้ามเธอไม่ให้ออกจากบ้าน บีบบังคับไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของตัวเองอีก แต่ตอนนี้เขาทำแบบนั้นไม่ได้หรอก เพราะกลัวว่าจะยิ่งเป็นการทำร้ายจิตใจของอีกฝ่ายไปมากกว่านี้
“พี่ไม่ได้เบื่อหรอกครับ”
“จริงเหรอคะ” นิศากรเงยหน้าขึ้นมองคนที่ก้มลงมามองเธออยู่ “แต่พี่บุ้งไม่ยิ้มเลย”
“เหนื่อยนิดหน่อยครับ” บุลินสบตากับอีกฝ่ายนิ่ง แล้วยิ้มบาง “มีอะไรอยากจะบอกพี่ไหม ถ้ามีอะไรอยากบอกก็บอกพี่ได้นะ พี่จะรับฟังทุกอย่างเลย” กุมมือของหญิงสาวขึ้นมาจูบเบาๆ
นิศากรใจเต้นตึกตักตอนที่อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาสบตาด้วยแววตารักใคร่เหมือนมองของมีค่า สำหรับเธอเขาเองก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน
“เออ...จริงๆ อยากลองดื่มเบียร์มาตั้งนานแล้วค่ะ แต่ไม่กล้าเพราะกลัวว่าจะเมา เย็นนี้จะไปกินบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลกันใช่ไหมล่ะคะ ไนท์ขอลองสักแก้วได้หรือเปล่า”
บุลินมองอีกฝ่ายนิ่งแล้วยิ้ม รู้ว่าถึงถามไปแบบนั้นก็คงไม่ได้ฟังอะไรอย่างที่หวัง แต่เรื่องที่อีกฝ่ายบอกก็อยู่นอกเหนือความคาดหมายไปไกลโขเชียว
“ถ้าพี่บุ้งอยู่ด้วย เมาก็น่าจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”
“อือ ไม่เป็นอะไรหรอก ถ้าเมาพี่ดูแลเอง” บุลินฟุบหน้าลงบนบ่าของคนตัวเล็ก “ต่อจากนี้พี่จะคอยปกป้องแล้วก็ดูแลเธอ”
“ขอบคุณค่ะ” ขอบตาของเธออยู่ๆ ก็รู้สึกร้อนผ่าว
“พี่เองก็ต้องขอบคุณเธอเหมือนกัน ขอบคุณที่เธอเป็นเธอแบบนี้ ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งรู้สึกว่าน่ารัก นานวันเข้า พอรู้ตัวอีกทีก็เอาแต่คิดถึงเธอตลอดเลย รักมากจนรู้สึกว่าถ้าเธอเจ็บพี่คงเจ็บกว่า ถึงร่างกายจะไม่มีแผล แต่ที่ใจมันกลับรับรู้ถึงความเจ็บได้ เพราะฉะนั้นเธอต้องยอมให้พี่ปกป้องเธอนะ”
นิศากรไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำตาไหล นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้ร้องไห้ เพราะเจ็บจนชิน ร้องไปน้ำตาก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย เธอก็เลยเลิกร้องไห้ไปเสียเฉยๆ
ตอนที่เธอรู้ตัวว่าน้ำตาไหลนั้นเป็นเพราะสัมผัสจากมือคู่ใหญ่ที่ช่วยเช็ดมันออกให้อย่างเบามือ “ร้องทำไมครับ ตอนแต่งงานก็ไม่เห็นร้องเลย เพิ่งจะรู้สึกซาบซึ้งใช่ไหมที่ได้แต่งกับพี่”
หญิงสาวมองคนที่กำลังยิ้มผ่านม่านน้ำตา “ค่ะ”
“พี่ก็แค่ล้อเล่นแต่ตอบเสียจริงจังเลย” บุลินยังคงเช็ดน้ำตาที่ไหลมากขึ้นอย่างอ่อนโยน “โอ๋ๆ ไม่ร้อง”
นิศากรยกมือขึ้นปาดน้ำตาด้วยตัวเอง พยายามฮึบไว้เพราะกลัวว่าร้องไปมากกว่านี้สภาพของเธอคงไม่น่าดู ตอนนี้ก็รู้สึกแล้วว่ามีน้ำมูกกำลังจะไหลออกมาด้วย
“ไนท์ดีใจมากๆ เลยค่ะที่ได้แต่งงานกับพี่บุ้ง รู้สึกว่าตัวเองโชคดี”
บุลินมองดูรอยยิ้มอ่อนหวานของภรรยาตัวเอง รู้สึกทั้งเอ็นดูและสงสารจับหัวใจ เขาเองก็คิดเหมือนกับเธอ โชคดีแล้วจริงๆ ที่ได้แต่งงานกัน
ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในห้องพักหลังจากการกินบุฟเฟ่ต์ทะเลจนอิ่มมาก นิศากรที่ลองดื่มเบียร์เข้าไปแก้วใหญ่ก็รู้สึกเหมือนโลกหมุนได้ แถมเวลามองหน้าพี่บุ้งของเธอก็ไม่ค่อยชัดอีกด้วย เธอจับใจความไม่ค่อยได้เลยว่าอีกฝ่ายพูดอะไรกับเธอบ้าง
นิศากรอยากนอนมาก เรื่องอาบน้ำอะไรก็ไม่สนใจอีกแล้ว พอโยนกระเป๋าถือทิ้งไป ก็พุ่งขึ้นไปนอนบนที่นอนนุ่มๆ ทันที
แต่ดูเหมือนว่า...
มันเหมือนว่า...เธอได้ยินเสียงหัวเราะ
เสียงของพี่บุ้งของเธอ จากนั้นหญิงสาวก็ไม่รู้อะไรแล้ว เพราะอยากจะนอนอย่างเดียวเท่านั้น
“ไม่ต้องสั่งต่างหากหรอก ถ้าอยากลองดื่มก็แก้วพี่นี่แหละ”
“...ค่ะ”
เขาดันแก้วมาทางเธอ
แล้วหลังจากนั้นบุลินก็คอยสังเกตว่าเธอดื่มไปเท่าไหร่ จากที่แค่ลองชิมก็กลายเป็นยึดแก้วของเขาไปเลย ถึงตอนแรกจะบ่นว่าขม แต่ก็ดื่มไปเกือบจะถึงปริมาณหนึ่งแก้วใหญ่ พอเริ่มมึนๆ ก็หันไปซบและกอดน้องสาวที่นั่งอยู่อีกข้าง กอดอยู่อย่างนั้นจนทิพากรไม่เป็นอันกินอันดื่มต่อเลยทีเดียว
“พี่บุ้งอนุญาตให้พี่ไนท์เขาดื่มทำไมคะ” ทิพากรบ่นพี่สาวมือปลาหมึกที่เกาะเธอไม่ปล่อย แถมยังเริ่มจะลวนลามอีกด้วย “พี่ไนท์อย่ามาจับหน้าอกเดย์นะ”
ทิพากรดุพี่สาว แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่รู้สึกรู้สา เพราะยังพยายามจะยื่นมือไปสัมผัสกับหน้าอกของคนเป็นน้องอยู่ดี ทำเอาสองหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามต้องเสมองทางอื่นไปเรื่อยเปื่อย
“เป็นฝาแฝดกัน แต่ทำไมของเดย์ใหญ่กว่าตั้งเยอะ”
“จะ...จะไปรู้เหรอ” ทิพากรตีมือแสนรุ่มร่ามของพี่สาว
บุลินหัวเราะ ไม่เคยรู้เลยว่าคนเป็นภรรยาแอบอิจฉาน้องสาวเรื่องนี้ ยิ่งนึกถึงท่าทางภูมิใจที่สูงกว่าน้องอยู่สองเซนติเมตรนั่นก็ยิ่งขำ
“เดย์ว่ากลับกันเถอะค่ะ ตอนนี้ก็อิ่มแล้วด้วย”
“นั่นสิครับ กลับเถอะพี่บุ้ง ผมเองก็อิ่มแล้ว” เลอศิลป์แอบอมยิ้ม
คเชนทร์ที่พยายามกลั้นขำเองก็เอ่ยปาก “ผมก็อิ่มแล้วครับ”
ดังนั้นทั้งหมดจึงเรียกพนักงานมาคิดเงินสำหรับอาหารมื้อนี้ ก่อนจะกลับไปยังโรงแรมและแยกย้ายเข้าห้องพักส่วนตัว
บุลินที่มองคนเพิ่งลองดื่มเบียร์ครั้งแรกอย่างขำๆ กับระดับความเมาง่ายของภรรยา
พอบุลินเห็นว่านิศากรเหมือนจะหลับไปแล้ว เขาจึงหันไปทางกระเป๋าของเธอที่ถูกเหวี่ยงทิ้งจนของในกระเป๋าใบเล็กกระจัดกระจายออกมา
บุลินก้มลงเก็บของชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทั้งลิปสติก แป้งพัฟและอะไรต่อมิอะไรอีกหลายชิ้นที่เขาไม่ค่อยรู้จัก เพราะเป็นเครื่องสำอางสำหรับผู้หญิง
ชายหนุ่มชะงักเมื่อเห็นแผงยาเม็ดเล็กๆ เมื่อพิจารณามันดูดีๆ ก็พบว่า “...ยาคุม”
คิ้วเข้มของบุลินขมวดเข้าหากันพลางมองไปยังร่างเล็กๆ ที่ขดตัวนอนหลับอยู่บนเตียง บุลินถอนหายใจ คิดไม่ออกว่าทำไมนิศากรถึงไม่อยากมีลูกกับเขา
บุลินทิ้งตัวลงข้างเตียงพลางมองดวงหน้าอ่อนหวานที่กำลังยิ้มน้อยๆ ราวกับอยู่ในห้วงฝันหวาน เขายื่นมือไปลูบศีรษะของอีกฝ่ายเบาๆ
“ไม่อยากมีลูกกับพี่เหรอครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามโดยไม่คาดหวังอะไร เพียงแค่อยากตัดพ้ออีกฝ่ายเท่านั้นเอง
ถึงจะไม่รู้ว่าทำไม แต่เขาจะพยายามเข้าใจ ถ้านิศากรไม่อยากมีหรือไม่ต้องการ เขาก็ตามใจเธอ
บุลินเก็บแผงยาคุมไว้ในกระเป๋าของหญิงสาวตามเดิม ก่อนจะเหลือบมองโทรศัพท์มือถือของหญิงสาวที่เขายัดลงในกระเป๋าไปก่อนหน้านี้ นิศากรปลดล็อกหน้าจอให้เขาเห็นหลายครั้งและเขาก็จำรหัสได้
“พี่ขอโทษนะที่เสียมารยาท พี่ขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว” บุลิน
กดรหัสตามที่จำได้ระบบป้องกันความปลอดภัยของนิศากรก็มีอยู่แค่นี้ ดังนั้นเขาจึงใช้โทรศัพท์ของเธอได้โดยง่าย
ชายหนุ่มเลือกแอปแชตยอดฮิตก่อนเป็นอันดับแรก เขาไม่ได้สนใจบทสนทนาของเธอกับเพื่อนคนอื่น แต่เลือกที่จะดูของนิศากรกับทิพากร บุลินเลื่อนข้ามๆ บทสนทนาทั่วไป ที่ทั้งสองเหมือนคุยกันเรื่อยเปื่อย ซึ่งมีอยู่เยอะมากและเขาหวังว่าภรรยาจะยังไม่ได้ลบข้อมูลเก่าๆ ในการคุยกันทิ้งไป
เดย์ : พรุ่งนี้ก็จะถึงงานแต่งแล้ว ตื่นเต้นมะ?
ไนท์ : มากกกกกกกก
ไนท์ : พี่อยากให้เดย์มางานด้วยจัง
เดย์ : อย่าเลย เดย์ไม่อยากไปเจอหน้าพ่อ เกลียด
ไนท์ : ก็ได้ งั้นไม่เป็นไร
เดย์ : รู้ว่าพ่อช็อกเรื่องแม่ แต่พ่อไม่ควรเอาทุกอย่างมาลงกับพี่ พอเสียใจก็มาปลอบมาโอ๋พี่เพราะรู้สึกผิด
ไนท์ : ต่อไปพ่อก็ทำอะไรพี่ไม่ได้แล้ว
เดย์ : ให้มันจริงเถอะ เดย์จะรอดู
.
.
.
เดย์ : พี่ไปค้างบ้านพ่อเหรอ
ไนท์ : พ่อไม่ค่อยกินข้าวอีกแล้ว
เดย์ : เรื่องเขาสิ เขาไม่หิวก็ช่าง
ไนท์ : เดย์ใจเย็น พ่อไม่ทำอะไรพี่เลยนะ พี่พูดถึงเรื่องลองไปหาจิตแพทย์ขึ้นมาอีก พ่อยังไม่กล้าทำอะไรเลย เพราะถ้าตีพี่ พี่บุ้งก็จะเห็นรอย
เดย์ : ถ้าเห็น พี่บุ้งคงไม่ให้พี่กลับไปบ้านอีกแน่
ไนท์ : ก็คงอย่างนั้น พ่อถึงไม่กล้าตีน่ะ
เดย์ : พี่เขยโคตรรดี
ไนท์ : มากๆๆๆๆ ตัวหอมด้วย
เดย์ : ไหนลองดมบ้างสิ
ไนท์ : นั่นสามีพี่นะ หวง
บุลินเลื่อนขึ้นไปอ่านข้อความต่างๆ อีก ซึ่งมันเป็นข้อความของเมื่อหลายเดือนก่อน ไปจนกระทั่งช่วงที่เขาเพิ่งได้เจอกับนิศากร
ไนท์ : พี่จะไปเจอกับคนที่พี่จะแต่งงานด้วยเป็นครั้งแรก มีร้านแนะนำไหม เขาให้พี่เป็นคนเลือกร้าน
เดย์ : ร้าน XXX เดย์เคยทำงานอยู่ที่นั่น อาหารอร่อยทุกอย่างเลย
เดย์ : พี่จะแต่งกับเขาจริงๆ เหรอ ถ้าเขาเป็นคนไม่ดีล่ะ ถ้าพี่อยากจะหนี เดี๋ยวเดย์ช่วยพี่เอง
ไนท์ : จะเป็นคนยังไงพี่ก็คิดว่าไม่เป็นไร ทางนั้นเหมือนจะแค่อยากแต่งงานแล้วก็มีลูก ถ้าพี่ทำตัวดีๆ ก็คงไม่มีปัญหา อีกอย่างพ่อก็ยังต้องพึ่งพาทางเขาเพราะเรื่องเงินที่กู้มาช่วยพยุงบริษัทที่ก่อนหน้านั้นลงทุนไปอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี
เดย์ : ถ้าไม่อยากแต่งก็หนีไปเถอะ เดย์จะช่วยเอง
ไนท์ : พี่ไม่อยากรบกวน เดย์เองก็มีเรื่องที่ต้องจัดการเยอะแยะที่พี่ช่วยเธอไม่ได้เลย
เดย์ : เดย์เกลียดทั้งพ่อและแม่เลย ยิ่งแม่ที่เป็นคนต้นเรื่องทั้งหมด แต่ทำไมต้องลงกับพวกเราด้วยล่ะ ทำไมพวกเราถึงต้องเจอกับเรื่องพวกนี้
ไนท์ : พี่เกลียดพ่อไม่ลง อีกอย่างจริงๆ เรื่องมันก็เกิดขึ้นเพราะพี่
เดย์ : ไม่ใช่ อย่าโทษว่าเป็นความผิดตัวเอง พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด
เดย์ : พี่ไนท์ เดย์รู้ว่าในอีกด้านหนึ่งพ่อก็น่าสงสารมากจริงๆ แต่พี่จะเกลียดพ่อก็ได้นะ มันไม่เป็นไรหรอก อยากเกลียดก็เกลียดไปเลย
ไนท์ : พี่อาจจะเกลียดพ่อไม่ลง แต่พี่สัญญาว่าพี่จะสู้จนถึงที่สุด พี่จะไม่ทำให้เดย์เป็นห่วงอีก
เดย์ : อือ
บทสนทาหยุดลงและเริ่มสนทนาอีกครั้งในวันใหม่ ด้วยภาพแอบถ่ายไกลๆ ในร้านอาหาร คนในภาพก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นชายหนุ่มที่กำลังแอบอ่านข้อความของคนอื่นอยู่
ไนท์ : ดูขรึมๆ แต่หล่อ
เดย์ : ไหนหล่อ? มันเบลอ ไกลด้วย
ไนท์ : ก็แอบถ่าย
เดย์ : แล้วนิสัยดีไหม
ไนท์ : ดี เขาพาพี่ไปดูหนังด้วย
ไนท์ : อาทิตย์หน้าก็จะมารับพี่อีก
ไม่มีบทสนทนาต่อตรงนี้เพราะทิพากรเปลี่ยนเป็นการวิดีโอคอลคุยกันแทน ดังนั้นเขาจึงเลื่อนข้อความขึ้นไปอีก หวังว่าข้อมูลจะยังไม่หมดแค่นี้
เดย์ : พี่ลองพูดกับพ่อเรื่องไปหาจิตแพทย์หรือยัง
ไนท์ : ลองแล้ว พ่อโมโหมาก คิดว่าพี่หาว่าพ่อบ้า ก็เลยถูกตีจนตัวลายไปหมด
เดย์ : พ่อกล้าตีได้ไง พี่มีนัดกับว่าที่สามีไม่ใช่เหรอ
ไนท์ : คงโกรธมากจริงๆ พรุ่งนี้คงต้องใส่ชุดที่แขนยาวกับกระโปรงคลุมเข่าจนเกือบถึงตาตุ่มน่ะ
บุลินนึกถึงตอนนั้นขึ้นมา อยู่ๆ มือก็กำแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เขาไม่ได้สังเกตเลยว่านิศากรถูกทำร้ายมา ถึงแบบนั้นก็ยังยิ้มให้เขาอย่างสดใสราวกับว่าในชีวิตไม่ได้มีเรื่องเลวร้ายแบบนั้นเกิดขึ้นกับตัวเธอ และในที่สุดข้อมูลของบทสนทนาก็ไม่มีให้อ่านอีก
ตอนพิเศษ คนที่แสนโชคดี บุลินนอนมองคุณแม่ของลูกสาวทั้งสองซึ่งยังหลับสนิท เพราะวันนี้เป็นวันหยุดของลูกๆ รวมถึงของเขาด้วย เธอจึงไม่ต้องรีบตื่นเพื่อเข้าครัวทำมื้อเช้าให้กับทุกคน เธอปรือตาขึ้นมองสามี แต่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองนิ่งๆ เท่านั้น บุลินอดใจไว้ไม่ไหวจึงยื่นหน้าไปจูบหนักๆ ลงบนหน้าผากของคนที่ยังไม่ตื่นเต็มตา ลูกสาวคนโตนอนหลับอยู่ในห้องส่วนตัวของเธอ ส่วนคนเล็กไปนอนค้างกับบวรและปภาดา ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงมีเพียงกันและกันอยู่บนเตียงกว้าง ช่างเป็นยามเช้าที่แสนเย้ายวนใจ “น้องไนท์ถุงยางอนามัยหมดแล้ว” บุลินก้มลงกระซิบ มือก็ลากไล้ไปตามเอวของหญิงสาวที่ขยับขยายกว้างขึ้นเล็กน้อยเพราะผ่านการเป็นคุณแม่มาแล้ว นิศากรพยักหน้ารับรู้เบาๆ เขาอมยิ้ม “ถ้าไม่ใช้ก็อาจจะท้องอีกนะครับ” คนฟังขมวดคิ้ว ตอนแรกเธอไม่ได้คิดอะไร แต่พอได้ยินอีกประโยคสติก็เริ่มแจ่มชัด “พี่บุ้งอยากมีอีกคนเหรอคะ” “เจ้าขาก็โตแล้ว จันทร์เจ้าก็ถูกพี่บีแย่งไป เหงาน่ะไม่มีใครให้อุ้มเลย” “ลูกมากจะยากจนนะคะ” นิศากรหัวเราะคิกคัก
ตอนพิเศษ เมื่อพบกันอีกครั้ง ลูกสาวคนโตวัยเกือบเจ็ดขวบกว่านั้นไม่เคยมาขอนอนด้วยอีกเลยตั้งแต่มีห้องส่วนตัวเป็นของตัวเองส่วนลูกสาวคนเล็กที่อายุเพิ่งครบห้าปีก็แทบจะไปนอนกับบวรและปภาดาวันเว้นวัน ดังนั้นสองสามีภรรยาจึงมีเวลาส่วนตัวในยามค่ำคืนอยู่มาก นิศากรหวีผมเรียบร้อยแล้วก็ปีนขึ้นเตียงไปหาสามีที่กำลังอ้าแขนรอ เธอซบหน้ากับอกของชายหนุ่มพลางหายใจเอากลิ่นหอมจากกายสามีเข้าเต็มปอด “มีอะไรครับ” บุลินเอ่ยถามเพราะรู้สึกได้ถึงอาการกังวลใจของภรรยา “เดย์บอกว่าคุณพ่ออยากเจอไนท์ค่ะ” อ้อมแขนแข็งแรงกอดกระชับแน่นขึ้น “อยากเจอหรือเปล่าครับ” เธอพยักหน้า “เดย์บอกว่าคุณพ่อกังวลมากและคิดอยู่นานว่าจะเจอไนท์ดีหรือเปล่า” หญิงสาวถอนหายใจ “ไนท์จะเริ่มต้นใหม่กับคุณพ่อได้ไหมคะ มันจะราบรื่นหรือเปล่า” “ยังไงก็มีเจ้าขากับจันทร์เจ้าอยู่นะครับ คุณพ่อเอ็นดูสองคนนั้นจะตายไป” บุลินพาลูกสาวทั้งสองคนไปเยี่ยมชัยกรอย่างน้อยเดือนละครั้ง “ลูกต้องช่วยให้บรรยากาศระหว่างเธอกับท่านเป็นไปอย่างราบรื่นแน่” “ไนท์ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ” “ยังไงก็
ตอนพิเศษ ดุจจันทรา ดุจจันทราหรือน้องจันทร์เจ้าของทุกคน ลูกสาวคนที่สองของบุลิน เป็นเด็กคลอดก่อนกำหนด ทำเอาทุกกังวลใจกันไปหมด แต่หลังจากออกจากตู้อบมาแล้ว ร่างกายก็แข็งแรงดี เพียงแต่เจ้าตัวกลับติดบวรมากกว่าคนเป็นพ่ออย่างบุลินเสียอีก ดังนั้นจึงกลายเป็นพ่อบี พ่อบุ้งไปโดยปริยาย “พรุ่งนี้จันทร์เจ้าจะไปโรงเรียนเป็นวันแรก พี่บีจะไปส่งลูกไหมคะ” ปภาดาซึ่งนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจก หันมาถามสามีเมื่อเห็นว่าเขาออกมาจากห้องน้ำแล้ว “พี่ว่าจะไม่ไปหรอก” บวรรับหวีมาจากมือของปภาดาแล้วช่วยแปรงผมให้อย่างเบามือ “อ้าวทำไมล่ะ ลูกไปโรงเรียนวันแรกเลยนะ ไอ้บุ้งก็บอกว่าต้องลองไปสัมผัสดู ครั้งเดียวในชีวิตเลยที่ลูกจะมีวันนี้” ปภาดาฟังประสบการณ์ครั้งแรกของบุลินที่ไปส่งดั่งบุหลันลูกสาวคนโตแล้วตื่นเต้นอยากไปบ้าง “ไม่อยากเห็นน้องจันทร์เจ้าร้องไห้น่ะค่ะ” “โอ๊ย พ่อบี น้องจันทร์เจ้าเก่งจะตายไป ไม่ร้องหรอก” “ต้องร้องแน่ๆ ไม่มีเด็กคนไหนไม่ร้องหรอก ขนาดไอ้บุ้งยังร้องไห้จ้าอยู่เป็นอาทิตย์ๆ” ปภาดาหัวเราะคิกคัก “ปอนด์จำได้ ร้องจนปอนด์รำคาญ แต่เด็กที่ไม่
ตอนพิเศษ ดั่งบุหลัน “เจ้าขาคนดีของพ่อบุ้ง ทำไมถึงไม่อยากไปโรงเรียนล่ะครับ” บุลินถูกภรรยาวานให้มากล่อมลูกสาวคนโตที่งอแงไม่ยอมไปโรงเรียน ชายหนุ่มเท้าคางนอนตะแคงอยู่ข้างลูกสาวที่ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มนิ่ง แม้ว่าจะพูดอะไรก็ไม่ยอมตอบกลับมาสักคำ “ลืมทำการบ้านหรือเปล่า กลัวคุณครูดุก็เลยไม่อยากไปโรงเรียนเหรอครับ” บุลินพยายามคาดเดาเหตุผลที่ลูกสาวไม่อยากไปโรงเรียน “หรือว่าถูกใครแกล้ง” พอพูดออกไปเขาก็ขมวดคิ้ว เท่าที่ผ่านมาไม่มีเด็กกล้ารังแกลูกเขาหรอก เคยทำคนที่มาแกล้งจนฟันน้ำนมหักเลยด้วยซ้ำ เหตุผลนี้คงไม่ใช่ “เราเคยสัญญากันแล้วไม่ใช่เหรอครับว่ามีอะไรก็จะบอกพ่อบุ้ง เจ้าขาก็รู้ว่าพ่อเก็บความลับเก่งที่สุดเลย” คนร่างจิ๋วภายใต้ผ้าห่มขยับตัวยุกยิก บุลินใจชื้นที่ลูกสาวมีปฏิกิริยาสักที เขารอคอยอย่างอดทนให้ลูกสาวออกมาคุยกันดีๆ แต่แล้วกลับนิ่งไปอีก “เอ๊ะ หรือว่าจริงๆ แล้วป่วย” บุลินพยายามจะดึงผ้าห่มออกจากตัวของลูกสาว “พ่อหนูไม่ได้ป่วยนะ” น้ำเสียงเล็กๆ ที่ตอบกลับมานั้นฟังอู้อี้ “แล้วทำไมไม่อยากไปโรงเรียนล่ะครับ” “ก็มัน...เสียใจ เจ
ตอนที่ ๒๓ ถึงคนเป็นพ่อจะยังไม่หายดีและยังไม่พร้อมเจอกับนิศากร แต่เรื่องที่ยอมให้อยู่กับบุลินได้อย่างเดิมก็ถือว่าเป็นความก้าวหน้าทางด้านอารมณ์ของชัยกรไปในทางที่ดี อย่างน้อยๆ เธอก็ไม่ต้องเผชิญกับอารมณ์เดี๋ยวรัก เดี๋ยวเกลียดของอีกฝ่ายอีกต่อไปแล้ว พอเดินพ้นประตูบ้านเข้าไปด้านในโดยมีมือของบุลินที่กอบกุมมือเธออยู่ ก็พบว่าทุกคนในครอบครัวของเขาอยู่ที่นั่นเพื่อรอต้อนรับการกลับมาของเธอ รวมทั้งน้องสาวฝาแฝดอย่างทิพากรด้วย ซึ่งวันนี้ถูกแต่งหน้าจนสวยกว่าทุกที ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นฝีมือของปภาดาอย่างแน่นอน นิศากรเดินเข้าไปหาแสงรุ้งเป็นคนแรก หญิงชราเอ่ยด้วยน้ำเสียงปลอบโยน “ขวัญเอ๋ย ขวัญมา” แล้วจับมือของหญิงสาวมาบีบเบาๆ “จากนี้ต่อไปก็ขออย่าให้มีอะไรมาพรากเธอไปจากหลานชายฉันอีกเลย” “คงไม่มีแล้วค่ะ ยกเว้นพี่บุ้งจะเบื่อไนท์” “ไม่มีวันนั้นหรอกน่า” บุลินแทรกขึ้นมาทันที “ย่าก็ว่าอย่างนั้นแหละ” หญิงชรายังคงไม่ยอมปล่อยมือของคนอ่อนวัยกว่าและเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แล้วคราวนี้ฉันก็จะไม่ยอมแน่” “นั่นสิ คราวนี้ไม่มีใครยอมหรอกนะน้องไนท์” ปภาดาเบ
ตอนที่ ๒๒ “เราว่าเนื้อเรื่องดูสดใสขึ้นนะ” คเชนทร์ที่ได้รับอนุญาตให้อ่านพล็อตของเพื่อนก่อนใครให้คำวิจารณ์กับเพื่อนสนิท นิศากรยิ้มจนตาหยี “ดีกว่าเดิมใช่ไหม” “เราก็คิดว่าดีกว่าเดิมนะ เหมาะกับลายเส้นน่ารักๆ ของเธอด้วย แถมพระเอกนิสัยสามีแห่งชาติขนาดนี้ เขียนให้เป็นแนวรักไปเลยน่าจะผ่านนะ” เพราะว่าพล็อตคราวก่อนไม่ผ่านจึงต้องมาปรับกันใหม่ “แล้วนี่ อยู่คนเดียวโอเคใช่ไหม” “โอเค เราอยู่ได้ไม่ต้องห่วง แต่ว่าจริงๆ แล้ว พี่บุ้งมาหาทุกสองสามวันเลยแหละ ไม่ค่อยเหมือนอยู่คนเดียวสักเท่าไหร่” คเชนทร์ได้ฟังแล้วก็หัวเราะ เมื่อนึกถึงสามีของเพื่อนที่หย่ากันเพราะความจำเป็น แต่ทั้งสองยังรักกันดีจนเขาอดอิจฉาไม่ได้พอคิดถึงแฟนที่เพิ่งเลิกกันไปก็น้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง “เอ๊ะ นั่นน้องสาวเธอหรือเปล่า” นิศากรหันหน้าไปตามสายตาของคเชนทร์ ก็พบว่าทิพากรเดินเคียงมากับชายหนุ่มร่างสูงท่าทางดูดีมากคนหนึ่ง เธอจำได้ว่านั่นคือยามที่เคยเป็นกระแสในโลกโซเชียลของโรงแรมบุลินซึ่งทำให้ยอดจองช่วงหนึ่งมากขึ้นจนน่าตกใจ “สองคนนั้นสนิทกันเหรอเนี่ย” นิศากรเลิก