Share

ตอนที่ ๑๕

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-21 20:57:54

ตอนที่ ๑๕

          บุลินยกมือนวดขมับตัวเอง ตอนนี้รู้สึกโมโหจนเส้นเลือดเต้นตุบๆ เลยทีเดียว

          เขาหันไปทอดสายตามองหญิงสาวที่ยังคงหลับสนิท ยื่นมือสัมผัสกับพวงแก้มอย่างแผ่วเบาด้วยความเอ็นดูปนสงสาร แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่ภายนอกดูสุภาพขนาดนั้นจะลงมือทำร้ายลูกสาวได้ลงคอ

          หมับ! มือคู่ใหญ่ของบุลินถูกมือเล็กของคนที่เมาจนหลับคว้าไปกุมและดึงไปถูกไถกับแก้มนิ่ม เขานึกว่าเธอจะตื่นขึ้นมา แต่สุดท้ายแล้วก็แค่ละเมอ

          ชายหนุ่มปล่อยให้หญิงสาวยึดมือซ้ายของตัวเองไว้ เขากุมมือเธอตอบเบาๆ พลางพยายามมองหาแอปพลิเคชันอื่นอีก

          บุลินเลือกแอปยอดนิยมที่มักจะเป็นที่แสดงความคิดเห็นและบางครั้งก็เป็นที่บ่นลมฟ้าอากาศ เขามีแอคเคานต์ของตัวเองที่ติดตามของนิศากรอยู่ แต่เขาก็ไม่คิดหรอกว่าเธอจะมีแค่แอคเคานต์เดียว แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ แอคเคานต์ที่เขารู้นั้นเป็นอันเดียวกับที่หญิงสาวใช้แชร์ผลงานการวาดกับแฟนคลับ ส่วนใหญ่ไม่ได้บ่นอะไร เอาไว้พูดคุยกับคนที่ติดตามผลงานเท่านั้น

          เขากดเข้าไปที่อีกแอคเคานต์ที่ชื่อว่า เด็กหญิงพระจันทร์ @girlXXXX ซึ่งไม่มีผู้ติดตาม มีแต่เจ้าตัวกดติดตามแค่อีกแอคเคานต์ของตัวเองไว้เท่านั้น และแอคเคานต์ก็ถูกล็อกไว้เป็นส่วนตัว

          ชายหนุ่มไล่อ่านเรื่อยๆ ตั้งแต่ทวีตล่าสุด ก่อนย้อนไปเรื่อยๆ

          เด็กหญิงพระจันทร์ : พรุ่งนี้จะไปเที่ยวทะเลกับพี่บุ้ง

          เด็กหญิงพระจันทร์ : ว่างก็เลยนั่งนับวันเล่น ตอนนี้ครบรอบ 200 วันที่แต่งงานกับพี่บุ้งแล้ว บอกให้น้องฟัง น้องบอกจะนับทุก 300 400 500 เลยเหรอออ >_<

          เด็กหญิงพระจันทร์ : พี่บุ้งไม่เคยบอกว่าไม่ชอบแตงกวา แต่เท่าที่เห็นก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยกิน วันนี้ก็เลยทำยำแตงกวาหมูย่าง ต้มจืดแตงกวา แล้วก็แตงกวาผัดไข่

          แตงกวาไม่ใช่ของที่เขาเกลียดแบบฟักทอง แต่เขาก็ใช่ว่าจะชอบกิน วันนั้นเขาจำได้ เจ้าตัวบอกว่าเพราะแตงกวาลดราคาเลยซื้อมาเยอะ แต่จริงๆ แล้วดูเหมือนเขาจะถูกแกล้ง

          “พี่ไม่รู้เลยนะว่าถูกเธอแกล้งเอา”

เด็กหญิงพระจันทร์ : พี่บุ้งบอกว่าถ้างานเสร็จจะพาไปเที่ยวทะเล เราอยากไปทะเล กลับมาจะวาดรูปทะเลให้ชื่นใจเลย

เด็กหญิงพระจันทร์ : งานยังไม่เสร็จ เพราะฉันกลายเป็นเด็กขี้เกียจไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

เด็กหญิงพระจันทร์ : คุณพ่อไม่ค่อยชอบเวลาที่พี่บุ้งตามไปค้างด้วย

เด็กหญิงพระจันทร์ : พี่บุ้งทำงานเหนื่อยมากจนละเมออีกแล้ว สงสาร

เด็กหญิงพระจันทร์ : รักพี่บุ้งมากขึ้นทุกวันเลยค่ะ >///<

คนที่กำลังอ่านเผลอตัวกุมมือเล็กแน่นขึ้น เขายังไม่เคยได้ยินหญิงสาวบอกคำว่ารักออกมาจากปากเลย ที่แท้ก็มาแอบบอกรักเขาอยู่ในนี้

เขาอ่านข้อความที่นิศากรบ่นถึงตัวเขาบ้าง บอกเล่าว่าวันนี้ลองทำอาหารสูตรใหม่ยังไงบ้าง อ่านไปบางอันก็ทำให้อมยิ้มอย่างไม่รู้ตัว

เด็กหญิงพระจันทร์ : ตื่นสายเลยต้องเอากล่องข้าวไปให้พี่บุ้งที่ห้องทำงานอีกแล้ววววว

เด็กหญิงพระจันทร์ : ปั่นงานจนดึกบ่อยๆ หลังๆ พี่บุ้งก็เลยทิ้งเราแล้วไปนอนดีกว่า เป็นเศร้า T^T

เด็กหญิงพระจันทร์ : คุณพ่อบ่นว่าอยากกินอาหารที่เราทำ พรุ่งนี้คงต้องไปค้างอีก พี่บุ้งจะไปด้วยกันไหมนะ

เด็กหญิงพระจันทร์ : พี่บุ้งอยู่เป็นเพื่อนจนเกือบตีสามเลย กว่างานจะเสร็จ ซาบซึ้ง

เด็กหญิงพระจันทร์ : เขียนพล็อตเรื่องใหม่จบแล้ว ใช้พี่บุ้งเป็นอิมเมจพระเอกดีไหมนะ

เด็กหญิงพระจันทร์ของเขามีเรื่องให้บ่นอยู่ทุกวี่วัน บุลินเลื่อนลงไปเรื่อยๆ โดยไม่สนว่าตอนนี้จะดึกแค่ไหน

เด็กหญิงพระจันทร์ : พี่บุ้งอยากมีลูก แต่เรากลัวการท้องมาก

เด็กหญิงพระจันทร์ : รู้สึกผิดต่อพี่บุ้งและคุณย่า พี่บุ้งแต่งกับเราเพราะอยากมีลูก แต่เราไม่กล้าที่จะท้อง

ชายหนุ่มอ่านไปหลายข้อความ ยิ่งเป็นข้อความเก่าๆ ที่ถูกโพสต์ในสมัยวัยเรียน มีแต่เรื่องบ่นเกี่ยวกับเรื่องที่เธอถูกทารุณอยู่บ่อยๆ และถึงเพื่อนๆ ที่ใจดีกับเธอ ไม่ก็บ่นว่าอยากไปเที่ยวกับเพื่อนแต่ไม่ได้ไป

เด็กหญิงพระจันทร์ : คุณพ่อเกลียดเราแค่เพราะหน้าเหมือนแม่ ก็เลยตีเราทุกครั้งที่เครียดหรือไม่ก็จับได้ว่าเราวาดรูป

เด็กหญิงพระจันทร์ : การพยายามไม่เกลียดคุณพ่อเหนื่อยมาก

เด็กหญิงพระจันทร์ : คุณพ่อน่าสงสารเพราะคุณพ่อรักคุณแม่มาก

เด็กหญิงพระจันทร์ : ถ้าเราไม่ใช่ลูกของคุณพ่อ เราจะเกลียดท่านได้ใช่ไหม

เด็กหญิงพระจันทร์ : จำได้ว่าคุณพ่อพาเราไปตรวจดีเอ็นเอ ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่เราเป็นลูกของคุณพ่อจริงๆ แต่ว่าน้องที่ไม่ได้ลืมตาดูโลกจะใช่ลูกของคุณพ่อไหมนะ?

เด็กหญิงพระจันทร์ : เรารู้สึกว่าตอนพ่อตีมันไม่เจ็บอีกแล้ว เราด้าน

เด็กหญิงพระจันทร์ : อยากเจอน้องเดย์จัง น้องเดย์อยู่กับคุณแม่จะมีความสุขไหมนะ ถึงแม่จะไม่ได้รักพวกเราเท่าไหร่ แต่ก็คิดว่าแม่คงไม่ตีน้องเดย์

เด็กหญิงพระจันทร์ : ได้สีน้ำกล่องใหม่กับกระดาษวาดรูปจากคุณพ่อแทนคำขอโทษ แต่เราเอามันออกมาวาดรูปเล่นไม่ได้

เด็กหญิงพระจันทร์ : คุณพ่อร้องไห้เพราะเผลอตีเราแรงเกินไป

 จนมาสะดุดเข้ากับข้อความหนึ่งที่ทำให้เขาต้องขมวดคิ้ว ตกตะลึงและคิดไม่ถึงมาก่อนเลย ถ้ามันเป็นเรื่องจริงชัยกรคงช็อกมากจริงๆ นั่นแหละ แล้วเรื่องมันเป็นแบบนี้ได้ยังไง

เด็กหญิงพระจันทร์ : เด็กคนนั้นในท้องคุณแม่ พอมาคิดๆ ดูบางทีอาจจะเป็นลูกของคุณปู่

เด็กหญิงพระจันทร์ : ทำไมคุณแม่ถึงเป็นชู้กับคุณปู่

ถึงตอนนี้บุลินเริ่มเข้าใจนิศากรมากขึ้น ถ้าเป็นตัวเขา เรื่องแบบนี้ก็คงจะไม่ยอมเล่าให้ใครฟังหรอก เขาไม่เคยเจอหน้าแม่แท้ๆ ของหญิงสาวเลยสักครั้ง ซึ่งตอนนี้กลับคิดว่าดีแล้ว หากเจอหน้ากันขึ้นมาเขาจะมองหน้าอีกฝ่ายได้ยังไง

บุลินตัดสินใจกดดูแอปพลิเคชันสำหรับบันทึกการนัดหมายต่างๆ นิศากรบันทึกวันเวลาที่ต้องส่งงานและนัดหมายโรงพยาบาลที่เธอเขียนไว้ว่าพบหมอ วันที่ XX เวลา XX ชายหนุ่มแน่ใจว่าเธอไม่ได้ป่วยทางกาย น่าจะไปหาจิตแพทย์เพื่อรักษาอาการทางใจเสียมากกว่า

เขาไม่เคยรู้เลยว่านิศากรไปไหนบ้างเพราะให้อิสระเรื่องนี้เต็มที่ ถ้าไม่อยากใช้รถของพี่บ้านจะเรียกแท็กซี่มารับหรือออกไปกับเพื่อนเขาก็ไม่เคยไปกะเกณฑ์เจ้าตัวเลยสักครั้ง

          ข้อความขึ้นเตือนจากแอปพลิเคชันหนึ่งทำให้ชายหนุ่มกดเข้าไปดู มันเป็นกระทู้ที่นิศากรเป็นคนตั้งเมื่อประมาณหนึ่งปีก่อน แต่ดูเหมือนจะมีคนเข้ามาตอบอยู่เรื่อยๆ หลังๆ ก็ยังมีอยู่เดือนละสองสามข้อความ

          หัวข้อกระทู้ : อายุ 20+ แล้วแต่ยังถูกพ่อตี เราควรทำยังไงดี

          เนื้อหา : ปัจจุบันอยู่กับคุณพ่อ ส่วนแม่แท้ๆ หย่ากับคุณพ่อไปนานมากแล้วค่ะ คุณพ่อไม่ชอบให้เราวาดรูปมากๆ สาเหตุมาจากคุณแม่ เพราะคุณแม่ชอบวาดรูปและเป็นครูสอนศิลปะ แต่ยังไงเราก็ชอบอยู่ดี ก็เลยแอบวาดมาตลอด ถ้าคุณพ่อรู้เราก็จะถูกตี คุณพ่อร้องไห้ทุกครั้งหลังจากตีเรา เราถูกตีเป็นประจำจนกระทั่งเราเริ่มเป็นวัยรุ่น คุณพ่อตีเราหนักขึ้น เพราะเราเริ่มต่อต้าน เราอยากวาดรูปและอยากให้คุณพ่อยอมรับ เราเริ่มเถียงและทะเลาะกับคุณพ่อค่ะ ครั้งแรกที่ถูกตีหนักๆ เราร้องไห้ไม่หยุด พยายามจะสู้ แต่มันยิ่งแย่ คุณพ่อเองก็ร้องไห้ เราได้คำขอโทษเป็นพวกอุปกรณ์สำหรับวาดรูปทุกครั้งค่ะ พอได้มาก็รู้สึกว่าจริงๆ แล้วคุณพ่อก็รักเรานะ ทำให้เราเกลียดเขาไม่ลงค่ะ

          ตอนนี้ส่วนใหญ่มักวาดรูปเล่นและทำงานในโทรศัพท์และอุปกรณ์อย่างอื่นที่ไม่ใช่กระดาษกับพู่กัน คุณพ่อก็เลยไม่รู้ว่าเราทำอะไรอยู่บ้าง ถูกตีน้อยลง แต่ยังถูกทำร้ายจิตใจด้วยคำพูดเหมือนเดิมว่าเราไม่น่าจะเกิดมา ยิ่งโตแล้วหน้าเหมือนแม่มากเท่าไหร่ บางครั้งคุณพ่อก็มองแบบรังเกียจเลยด้วยซ้ำ

          ถึงตอนนี้จะแทบไม่ถูกตี แต่เราก็อยากจะหนีออกไปจากตรงนี้ เราเคยคุยกับคุณพ่อตรงๆ เรื่องไปพบจิตแพทย์นะ แต่พอพูดแล้วเราก็ถูกตี เราพยายามพูดไปหลายครั้งก็โดนตีทุกครั้งจนตัวเป็นรอยไปหมด เหมือนจะโมโหยิ่งกว่ารู้ว่าเราวาดรูปอีก เพราะตีโดยไม่สนใจว่ารอยจะเกิดตรงไหนบ้าง

          เราควรทำยังไงต่อไปดี

          ความคิดเห็นที่ XX : เรียนจบหรือยังครับ ถ้าจบแล้วก็ออกจากบ้านหางานทำเลี้ยงตัวเองเถอะ เอาความกตัญญูต้องเลี้ยงพ่อแม่ตอนแก่ทิ้งไป ทำขนาดนี้เป็นผม ผมไม่ทนหรอกนะ ตอบกลับโดยเจ้าของกระทู้ : จบแล้วค่ะ เราแอบทำงานเกี่ยวกับการวาดรูปอยู่

          ความคิดเห็นที่ XX : จับพ่อมัดแล้วพาไปโรงบาลบ้าเลย โรคจิตแล้วววว ตอบกลับโดยเจ้าของกระทู้ : เราอยากให้คุณพ่อไปพบจิตแพทย์มากๆ เลยค่ะ แต่ยังไงท่านก็ไม่ยอมไป

          ความคิดเห็นที่ XX : สงสารคุณจัง เป็นเรานะจะไม่ทน จะหาผัวแล้วก็เชิดหน้าออกจากบ้านไปเลย ตอบกลับโดยเจ้าของกระทู้ : แทบไม่ได้ออกจากบ้านเลยค่ะ อันนี้น่าจะยาก ปัดหาคู่ที่ทินเด๋อเราก็ว่าน่าจะไม่ค่อยโอเค

          ความคิดเห็นที่ XX : แจ้งความดิ แจ้งตำรวจอะ โอ๊ยยยย ทำร้ายร่างกายขนาดนี้ทนได้ไง ตอบกลับโดยเจ้าของกระทู้ : สงสารคุณพ่อค่ะ

          ความคิดเห็นที่ XX : สงสารตัวเองก่อนนะเจ้าของกระทู้ ตอบกลับโดยเจ้าของกระทู้ : มีบางเรื่องที่เราเล่าออกมาไม่ได้ แต่เราสงสารคุณพ่อมากจริงๆ

          ความคิดเห็นที่ XX : พี่เองก็ถูกแม่ตีเหมือนกัน ตีแบบเหมือนโกรธพี่เพราะพี่ไปขี้รดบนหลังคาบ้าน พอเรียนจบก็หนีตามผัวเลยค่ะ ไม่กลับไปบ้านอีกเลยมา 20 ปีแล้ว สบายใจมาก แต่พี่ก็ยังห่วงแม่เขาอยู่นะ ก็มันแม่ลูกกันอะเนอะพี่เข้าใจ อีกอย่างแม่เขาก็เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเหมือนพ่อน้อง พี่เลยแค่ส่งเงินกลับไปให้แค่นั้น ไม่ว่าแม่จะขอโทษยังไงพี่ก็ไม่กลับไปเจอ ปล่อยให้เขาอยู่กับน้องชายไป เพราะพี่โดนตีตั้งแต่เล็กจนโต น้องชายไม่เคยโดนเลย รักมากก็อยู่กับน้องมันไปนั่นแหละ พี่เป็นกำลังใจให้นะคะ ตอบกลับโดยเจ้าของกระทู้ : ขอบคุณมากค่ะสำหรับกำลังใจ

         

          ความคิดเห็นโดยเจ้าของกระทู้ : ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและกำลังใจนะคะ เยอะมากจนบางข้อความก็ไม่ได้ตอบกลับ ขอโทษด้วยนะคะ

          วันนี้มาอัปเดตนิดหน่อยค่ะ หลายคนเชียร์ให้เราหนีออกไปจากบ้าน แต่พูดตรงๆ เราไม่กล้าที่จะออกไปอยู่คนเดียว จริงๆ เรามีน้องสาวฝาแฝดค่ะ น้องอยู่กับทางคุณแม่ แต่เราคงไปอยู่ด้วยไม่ได้ เพราะคุณแม่เองก็เกลียดเราเหมือนกัน เราเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณพ่อกับคุณแม่ทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนเลิกกันค่ะ ส่วนเหตุผลขอไม่เล่า

          เราเลือกที่จะแต่งงานค่ะกับคนที่คุณพ่ออยากให้แต่งด้วย อย่างน้อยๆ คิดว่าคุณพ่อจะหยุดทำร้ายเราอย่างแน่นอน เพราะอาจจะไม่มีโอกาสให้ทำร้ายเราอีกและเราก็สามารถทำงานที่เรารักโดยไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ด้วยค่ะ

          ความคิดเห็นที่ XX : เอาใจช่วยค่ะ ตัวคุณเองอย่าลืมไปพบจิตแพทย์นะคะ คุณก็ต้องได้รับการรักษา หลังไมค์มาหาเราได้นะคะ เราจะพอจะแนะนำได้ค่ะ เพราะเราเองก็มีปัญหากับแม่สามีจนต้องพบจิตแพทย์เหมือนกัน

          ความคิดเห็นที่ XX : คนที่พ่ออยากให้แต่ง เราว่าสุดท้ายนี่มันก็หนีไม่พ้นพ่อยู่ดีอะ

          ความคิดเห็นที่ XX : สุดท้ายก็เท่ากับทนอยู่กับพ่อ หนีไปสิเธออออ หนีๆ

          บุลินเลื่อนไปจนถึงความคิดเห็นล่าสุด ความคิดเห็นที่ XX : เพิ่งเข้ามาอ่าน แล้วสงสัย ตอนนี้เป็นยังไงบ้างอะครับ อยู่กับสามีแล้วดีปะครับ

          ถึงจะไม่เข้าใจเรื่องทั้งหมดอย่างกระจ่างแจ้ง แต่บุลินก็เข้าใจหญิงสาวที่เขารักมากพอที่จะไม่โกรธว่าเธอทำไมถึงไม่เล่าอะไรให้เขาฟังบ้างเลย ชายหนุ่มเก็บมือถือของหญิงสาวลงในกระเป๋า ก่อนจะหยิบแผงยาคุมออกมาจากในนั้น เพราะเรื่องแรกที่จะต้องคุยคือเรื่องนี้

         

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สามีตัวหอม   ตอนพิเศษ คนที่แสนโชคดี

    ตอนพิเศษ คนที่แสนโชคดี บุลินนอนมองคุณแม่ของลูกสาวทั้งสองซึ่งยังหลับสนิท เพราะวันนี้เป็นวันหยุดของลูกๆ รวมถึงของเขาด้วย เธอจึงไม่ต้องรีบตื่นเพื่อเข้าครัวทำมื้อเช้าให้กับทุกคน เธอปรือตาขึ้นมองสามี แต่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองนิ่งๆ เท่านั้น บุลินอดใจไว้ไม่ไหวจึงยื่นหน้าไปจูบหนักๆ ลงบนหน้าผากของคนที่ยังไม่ตื่นเต็มตา ลูกสาวคนโตนอนหลับอยู่ในห้องส่วนตัวของเธอ ส่วนคนเล็กไปนอนค้างกับบวรและปภาดา ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงมีเพียงกันและกันอยู่บนเตียงกว้าง ช่างเป็นยามเช้าที่แสนเย้ายวนใจ “น้องไนท์ถุงยางอนามัยหมดแล้ว” บุลินก้มลงกระซิบ มือก็ลากไล้ไปตามเอวของหญิงสาวที่ขยับขยายกว้างขึ้นเล็กน้อยเพราะผ่านการเป็นคุณแม่มาแล้ว นิศากรพยักหน้ารับรู้เบาๆ เขาอมยิ้ม “ถ้าไม่ใช้ก็อาจจะท้องอีกนะครับ” คนฟังขมวดคิ้ว ตอนแรกเธอไม่ได้คิดอะไร แต่พอได้ยินอีกประโยคสติก็เริ่มแจ่มชัด “พี่บุ้งอยากมีอีกคนเหรอคะ” “เจ้าขาก็โตแล้ว จันทร์เจ้าก็ถูกพี่บีแย่งไป เหงาน่ะไม่มีใครให้อุ้มเลย” “ลูกมากจะยากจนนะคะ” นิศากรหัวเราะคิกคัก

  • สามีตัวหอม   ตอนพิเศษ เมื่อพบกันอีกครั้ง

    ตอนพิเศษ เมื่อพบกันอีกครั้ง ลูกสาวคนโตวัยเกือบเจ็ดขวบกว่านั้นไม่เคยมาขอนอนด้วยอีกเลยตั้งแต่มีห้องส่วนตัวเป็นของตัวเองส่วนลูกสาวคนเล็กที่อายุเพิ่งครบห้าปีก็แทบจะไปนอนกับบวรและปภาดาวันเว้นวัน ดังนั้นสองสามีภรรยาจึงมีเวลาส่วนตัวในยามค่ำคืนอยู่มาก นิศากรหวีผมเรียบร้อยแล้วก็ปีนขึ้นเตียงไปหาสามีที่กำลังอ้าแขนรอ เธอซบหน้ากับอกของชายหนุ่มพลางหายใจเอากลิ่นหอมจากกายสามีเข้าเต็มปอด “มีอะไรครับ” บุลินเอ่ยถามเพราะรู้สึกได้ถึงอาการกังวลใจของภรรยา “เดย์บอกว่าคุณพ่ออยากเจอไนท์ค่ะ” อ้อมแขนแข็งแรงกอดกระชับแน่นขึ้น “อยากเจอหรือเปล่าครับ” เธอพยักหน้า “เดย์บอกว่าคุณพ่อกังวลมากและคิดอยู่นานว่าจะเจอไนท์ดีหรือเปล่า” หญิงสาวถอนหายใจ “ไนท์จะเริ่มต้นใหม่กับคุณพ่อได้ไหมคะ มันจะราบรื่นหรือเปล่า” “ยังไงก็มีเจ้าขากับจันทร์เจ้าอยู่นะครับ คุณพ่อเอ็นดูสองคนนั้นจะตายไป” บุลินพาลูกสาวทั้งสองคนไปเยี่ยมชัยกรอย่างน้อยเดือนละครั้ง “ลูกต้องช่วยให้บรรยากาศระหว่างเธอกับท่านเป็นไปอย่างราบรื่นแน่” “ไนท์ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ” “ยังไงก็

  • สามีตัวหอม   ตอนพิเศษ ดุจจันทรา

    ตอนพิเศษ ดุจจันทรา ดุจจันทราหรือน้องจันทร์เจ้าของทุกคน ลูกสาวคนที่สองของบุลิน เป็นเด็กคลอดก่อนกำหนด ทำเอาทุกกังวลใจกันไปหมด แต่หลังจากออกจากตู้อบมาแล้ว ร่างกายก็แข็งแรงดี เพียงแต่เจ้าตัวกลับติดบวรมากกว่าคนเป็นพ่ออย่างบุลินเสียอีก ดังนั้นจึงกลายเป็นพ่อบี พ่อบุ้งไปโดยปริยาย “พรุ่งนี้จันทร์เจ้าจะไปโรงเรียนเป็นวันแรก พี่บีจะไปส่งลูกไหมคะ” ปภาดาซึ่งนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจก หันมาถามสามีเมื่อเห็นว่าเขาออกมาจากห้องน้ำแล้ว “พี่ว่าจะไม่ไปหรอก” บวรรับหวีมาจากมือของปภาดาแล้วช่วยแปรงผมให้อย่างเบามือ “อ้าวทำไมล่ะ ลูกไปโรงเรียนวันแรกเลยนะ ไอ้บุ้งก็บอกว่าต้องลองไปสัมผัสดู ครั้งเดียวในชีวิตเลยที่ลูกจะมีวันนี้” ปภาดาฟังประสบการณ์ครั้งแรกของบุลินที่ไปส่งดั่งบุหลันลูกสาวคนโตแล้วตื่นเต้นอยากไปบ้าง “ไม่อยากเห็นน้องจันทร์เจ้าร้องไห้น่ะค่ะ” “โอ๊ย พ่อบี น้องจันทร์เจ้าเก่งจะตายไป ไม่ร้องหรอก” “ต้องร้องแน่ๆ ไม่มีเด็กคนไหนไม่ร้องหรอก ขนาดไอ้บุ้งยังร้องไห้จ้าอยู่เป็นอาทิตย์ๆ” ปภาดาหัวเราะคิกคัก “ปอนด์จำได้ ร้องจนปอนด์รำคาญ แต่เด็กที่ไม่

  • สามีตัวหอม   ตอนพิเศษ ดั่งบุหลัน

    ตอนพิเศษ ดั่งบุหลัน “เจ้าขาคนดีของพ่อบุ้ง ทำไมถึงไม่อยากไปโรงเรียนล่ะครับ” บุลินถูกภรรยาวานให้มากล่อมลูกสาวคนโตที่งอแงไม่ยอมไปโรงเรียน ชายหนุ่มเท้าคางนอนตะแคงอยู่ข้างลูกสาวที่ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มนิ่ง แม้ว่าจะพูดอะไรก็ไม่ยอมตอบกลับมาสักคำ “ลืมทำการบ้านหรือเปล่า กลัวคุณครูดุก็เลยไม่อยากไปโรงเรียนเหรอครับ” บุลินพยายามคาดเดาเหตุผลที่ลูกสาวไม่อยากไปโรงเรียน “หรือว่าถูกใครแกล้ง” พอพูดออกไปเขาก็ขมวดคิ้ว เท่าที่ผ่านมาไม่มีเด็กกล้ารังแกลูกเขาหรอก เคยทำคนที่มาแกล้งจนฟันน้ำนมหักเลยด้วยซ้ำ เหตุผลนี้คงไม่ใช่ “เราเคยสัญญากันแล้วไม่ใช่เหรอครับว่ามีอะไรก็จะบอกพ่อบุ้ง เจ้าขาก็รู้ว่าพ่อเก็บความลับเก่งที่สุดเลย” คนร่างจิ๋วภายใต้ผ้าห่มขยับตัวยุกยิก บุลินใจชื้นที่ลูกสาวมีปฏิกิริยาสักที เขารอคอยอย่างอดทนให้ลูกสาวออกมาคุยกันดีๆ แต่แล้วกลับนิ่งไปอีก “เอ๊ะ หรือว่าจริงๆ แล้วป่วย” บุลินพยายามจะดึงผ้าห่มออกจากตัวของลูกสาว “พ่อหนูไม่ได้ป่วยนะ” น้ำเสียงเล็กๆ ที่ตอบกลับมานั้นฟังอู้อี้ “แล้วทำไมไม่อยากไปโรงเรียนล่ะครับ” “ก็มัน...เสียใจ เจ

  • สามีตัวหอม   ตอนที่ ๒๓

    ตอนที่ ๒๓ ถึงคนเป็นพ่อจะยังไม่หายดีและยังไม่พร้อมเจอกับนิศากร แต่เรื่องที่ยอมให้อยู่กับบุลินได้อย่างเดิมก็ถือว่าเป็นความก้าวหน้าทางด้านอารมณ์ของชัยกรไปในทางที่ดี อย่างน้อยๆ เธอก็ไม่ต้องเผชิญกับอารมณ์เดี๋ยวรัก เดี๋ยวเกลียดของอีกฝ่ายอีกต่อไปแล้ว พอเดินพ้นประตูบ้านเข้าไปด้านในโดยมีมือของบุลินที่กอบกุมมือเธออยู่ ก็พบว่าทุกคนในครอบครัวของเขาอยู่ที่นั่นเพื่อรอต้อนรับการกลับมาของเธอ รวมทั้งน้องสาวฝาแฝดอย่างทิพากรด้วย ซึ่งวันนี้ถูกแต่งหน้าจนสวยกว่าทุกที ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นฝีมือของปภาดาอย่างแน่นอน นิศากรเดินเข้าไปหาแสงรุ้งเป็นคนแรก หญิงชราเอ่ยด้วยน้ำเสียงปลอบโยน “ขวัญเอ๋ย ขวัญมา” แล้วจับมือของหญิงสาวมาบีบเบาๆ “จากนี้ต่อไปก็ขออย่าให้มีอะไรมาพรากเธอไปจากหลานชายฉันอีกเลย” “คงไม่มีแล้วค่ะ ยกเว้นพี่บุ้งจะเบื่อไนท์” “ไม่มีวันนั้นหรอกน่า” บุลินแทรกขึ้นมาทันที “ย่าก็ว่าอย่างนั้นแหละ” หญิงชรายังคงไม่ยอมปล่อยมือของคนอ่อนวัยกว่าและเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แล้วคราวนี้ฉันก็จะไม่ยอมแน่” “นั่นสิ คราวนี้ไม่มีใครยอมหรอกนะน้องไนท์” ปภาดาเบ

  • สามีตัวหอม   ตอนที่ ๒๒

    ตอนที่ ๒๒ “เราว่าเนื้อเรื่องดูสดใสขึ้นนะ” คเชนทร์ที่ได้รับอนุญาตให้อ่านพล็อตของเพื่อนก่อนใครให้คำวิจารณ์กับเพื่อนสนิท นิศากรยิ้มจนตาหยี “ดีกว่าเดิมใช่ไหม” “เราก็คิดว่าดีกว่าเดิมนะ เหมาะกับลายเส้นน่ารักๆ ของเธอด้วย แถมพระเอกนิสัยสามีแห่งชาติขนาดนี้ เขียนให้เป็นแนวรักไปเลยน่าจะผ่านนะ” เพราะว่าพล็อตคราวก่อนไม่ผ่านจึงต้องมาปรับกันใหม่ “แล้วนี่ อยู่คนเดียวโอเคใช่ไหม” “โอเค เราอยู่ได้ไม่ต้องห่วง แต่ว่าจริงๆ แล้ว พี่บุ้งมาหาทุกสองสามวันเลยแหละ ไม่ค่อยเหมือนอยู่คนเดียวสักเท่าไหร่” คเชนทร์ได้ฟังแล้วก็หัวเราะ เมื่อนึกถึงสามีของเพื่อนที่หย่ากันเพราะความจำเป็น แต่ทั้งสองยังรักกันดีจนเขาอดอิจฉาไม่ได้พอคิดถึงแฟนที่เพิ่งเลิกกันไปก็น้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง “เอ๊ะ นั่นน้องสาวเธอหรือเปล่า” นิศากรหันหน้าไปตามสายตาของคเชนทร์ ก็พบว่าทิพากรเดินเคียงมากับชายหนุ่มร่างสูงท่าทางดูดีมากคนหนึ่ง เธอจำได้ว่านั่นคือยามที่เคยเป็นกระแสในโลกโซเชียลของโรงแรมบุลินซึ่งทำให้ยอดจองช่วงหนึ่งมากขึ้นจนน่าตกใจ “สองคนนั้นสนิทกันเหรอเนี่ย” นิศากรเลิก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status