Share

ตอนที่ 4

last update Last Updated: 2025-12-06 19:00:01

"หมอก!! ป่านอาจจะขอมากไปแต่ว่าป่านอยากจะได้ที่นอนหลังใหม่ แล้วก็อีกอย่างขอเริ่มงานอาทิตย์หน้าได้หรือเปล่า ป่านยังต้องจัดการเรื่องที่พักกับโรงเรียนของเด็กๆ อีก" เมื่ออยู่กันแค่สองคนหญิงสาวก็เรียกเขาด้วยสรรพนามที่เคยเรียกทันที

"อย่ามาเรียกอย่างสนิทสนมนะป่าน ตอนนี้ผมเป็นเจ้านาย ป่านเป็นแค่ลูกน้อง"

"ขอโทษค่ะ ที่ดิฉันบังอาจทำตัวสนิทสนมกับคุณให้เคือง แต่ว่าเรื่องที่ดิฉันขอไปนั้นคุณเหมันต์ว่ายังไงคะ" หญิงสาวถึงกับเสียงอ่อยเมื่ออีกคนแสดงความห่างเหินชัดเจนแม้แต่ความเป็นเพื่อนเขาก็ไม่เหลือไว้ให้

"วันนี้คงไม่ได้ งานผมยุ่ง แต่พรุ่งนี้ผมจะจัดการให้ ส่วนเรื่องเริ่มงานก็เป็นไปตามที่คุณขอ เพราะเห็นว่ามีลูกเล็กหรอกนะถึงหยวนให้ได้" เจ้านายหนุ่มวางมาดยโสเสียจนน่าหมั่นไส้

"ขอบคุณนะคะ แต่ว่าเรื่องที่นอนคงรอไม่ได้ ดิฉันกลัวว่าลูกจะไม่สบายรบกวนคุณเหมันต์ช่วยคืนโทรศัพท์ให้ดิฉันด้วยค่ะ" ฝ่ามือบางยื่นไปเพื่อรับของของตัวเองคืน

เหมันต์หยิบโทรศัพท์คืนให้หญิงสาวอย่างลังเลเมื่อเห็นว่ามันทั้งเก่าและเต็มไปด้วยรอยแตกมากมายจนไม่น่าจะใช้การได้อีก

"ทำไมไม่ซื้อใหม่ซะ ดูสภาพแล้วอนาถชะมัด"

"มันยังใช้ได้นี่คะ อีกอย่างเอาเงินที่ซื้อของพวกนี้มาเป็นค่าเทอมให้เด็กๆ ดีกว่าค่ะ" หญิงสาวดึงโทรศัพท์มาจากมือหนาของเจ้านายและพ่อของลูกอย่างไม่ถือมารยาทก่อนจะกดโทรออกหาเอกภพอีกครั้ง แต่คราวนี้อดีตคนรักอย่างเหมันต์ไม่ได้ทำเหมือนอย่างเคย หากแต่ยืนฟังทั้งสองพูดคุยกันอย่างไม่ละความสนใจ

"ขอบคุณนะเอก แล้วอ้นจะมาหาน้องๆ หรือเปล่า คือป่านสัญญากับเด็กๆ เอาไว้ว่าพี่อ้นจะมาเล่นด้วย"

"แล้วเย็นๆ เจอกัน"

สิ้นการสนทนาหญิงสาวก็หันกลับมามองหน้าเจ้านายหนุ่มเพราะเธอรู้ดีว่าเขาตั้งใจฟังเธอสนทนากับเอกภพทุกคำพูด

"คุณเหมันต์มีอะไรข้องใจหรือเปล่าคะ"

"ก็เปล่าแค่สงสัยว่าทำไมไม่ให้พ่อลูกอยู่ด้วยกัน จะมาทำงานที่นี่ทำไม" เขาอยากรู้เหลือเกินว่าเรื่องที่เด็กชายพูดเมื่อครู่นั้นหมายถึงเขาหรือเปล่า

"เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องส่วนตัวค่ะ ดิฉันไม่จำเป็นต้องตอบ เราสองคนเป็นเจ้านายกับลูกน้องไม่ใช่หรือคะ"

"เอ่อ.."

เมื่อถูกเอาคืนจนหน้าชาอย่างนี้เจ้านายหนุ่มจึงได้ตัดประโยคสนทนาเสียดื้อๆ ก่อนจะเดินนำหน้าหญิงสาวกลับไปยังสำนักงานเพื่อไปเอาข้าวของที่แม่ลูกสองคนนี้ทิ้งเอาไว้

"เข้ามานี่ก่อนสิ" ร่างสูงคว้าข้อมือบางเข้ามาในห้องทำงานและจัดการปิดประตูลงกลอนเรียบร้อยเพียงไม่กี่วินาที

"เอ่อ...มีเรื่องสำคัญอะไรหรือเปล่าคะ" ปารวตีรู้สึกหวิวๆ เมื่อเห็นสายตาของคนตรงหน้าจริงจังอย่างชัดเจน หรือว่าเขาจะเค้นถามเธอเรื่องลูกกันนะ

หญิงสาวตกใจแทบสิ้นสติเมื่อถูกร่างสูงตรงหน้าคว้าเข้าไปกอดอย่างแน่นหนา ความรู้สึกมากมายถาโถมเข้าใส่อย่างงุนงง

"คิดถึงป่านจัง" เหมันต์พยายามหักห้ามใจแล้วว่าจะไม่มีทางเกี่ยวข้องกับเธอตรงหน้าไปมากกว่าเจ้านายและลูกน้องแต่ทว่าเสียงในหัวใจของเขามันกลับเอาชนะเขาจนได้

เสียงทุ้มเอ่ยอย่างอ่อนโยนกว่าทุกครั้งที่สนทนาความรู้สึกบางอย่างบอกเธอว่านี่ไม่ใช่การเสแสร้งจากเขาแต่เธอก็ไม่เข้าข้างตัวเองเช่นกัน

"ปล่อยก่อนค่ะ เราสองคนไม่เหมาะที่จะทำอย่างนี้นะคะคุณเหมันต์" หญิงสาวอยากจะเคลิบเคลิ้มไปกับอ้อมกอดนี้เหลือเกินแต่สถานการณ์มันน่าน่าสับสนเกินกว่าจะหลงใหลความอบอุ่นนี้

มือบางพยายามผลักไสคนตัวโตออกไปให้ห่างแต่กลับไม่เป็นผลเพราะนอกเขาจะไม่ขยับแล้วยังนิ่งเป็น หินอีกด้วย

"เด็กๆ คือลูกของเราใช่ไหมป่าน" คำถามของชายหนุ่มทำเอาหัวใจดวงน้อยหล่นวูบ เขาคงไม่ได้คิดจะรับผิดชอบลูกๆ ใช่ไหม หากว่าเป็นอย่างนั้นเธอก็ไม่ต้องการ เพราะลูกคงไม่ดีใจนักที่รู้ว่าคนเป็นพ่อต้องฝืนใจยอมรับพวกเขา

"กรุณาปล่อยดิฉันก่อนค่ะคุณเหมันต์"

"ไม่ปล่อย ป่านต้องตอบคำถามหมอกมาก่อน"

"ปล่อยค่ะ คุณเหมันต์" พูดจบฟันขาวเรียงเป็นระเบียบก็กัดลงบนท่อนแขนแข็งแรงอย่างไม่ปราณีปราศรัย ส่งผลให้พ่อของลูกร้องลั่นห้องด้วยความเจ็บ และยอมปล่อยร่างบางเป็นอิสระทันที

"ทำไมไม่ตอบล่ะป่าน" คนตัวโตยังคงถามคำถามเดิม

"อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ ดิฉันไม่ชอบ อีกอย่างมันไม่เหมาะสมดิฉันไม่ใช่สาวเอ๊าะๆ แต่คือแม่ลูกสอง ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวก่อนนะคะ ไม่อยากทิ้งลูกเอาไว้นานๆ"

พูดจบร่างบางก็หมุนตัวและเดินออกไปจากห้องพร้อมทั้งหอบข้าวของพะรุงพะรังเดินจ้ำอ้าวกลับไปยังที่พักโดยไม่สนเสียงทุ้มที่เรียกอยู่ด้านหลัง

เหมันต์ผุดลุกผุดนั่งด้วยความร้อนใจเขาไม่เป็นอันทำการทำงานเลยตั้งแต่ที่ได้ยินคำพูดของเด็กชายวัยสามขวบคนนั้น เขาพยายามสงบจิตใจให้ทำงานต่อให้ได้แต่ก็ไร้ผลและท้ายที่สุดเจ้าของรีสอร์ทก็คว้ากุญแจรถคู่ใจออกมาจากสำนักงานจนได้

"ในเมื่อป่านไปยอมบอกก็คงต้องถามไอ้เอกแล้วสินะ"

ในที่สุดเหมันต์ก็กลืนน้ำลายตัวเองจนได้ ชายหนุ่มก้าวเท้าเข้ามาเยียบไร่อนันตราเป็นครั้งแรกในรอบสามปีทั้งที่เคยลั่นวาจาเอาไว้เป็นเด็ดขาดแล้วว่าอย่างไรเสียจะไม่มีวันญาติดีกับเพื่อนคนนี้อีก

"ลมอะไรหอบแกมาถึงบ้านฉันวะ" เอกภพเอ่ยทักทายอย่างยียวน เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายถูกลมอยากรู้หอบมาแน่ๆ

"จะไม่เชิญฉันเข้าบ้านหรือไง" เหมันต์ตอบอย่างไม่ยี่หระเพราะรู้ดีว่าท่าทางเขาและเพื่อนคนนี้จะได้คุยกันยาวมาก

"เออๆ เข้ามาในบ้านก่อนสิ" เจ้าของไร่ปาล์มผายมือเชื้อเชิญเพื่อนรักเข้าไปในบ้านอย่างเต็มใจเพราะเขารอเวลานี้มานานมากแล้ว

"อ้น สวัสดีลุงหมอกครับ" เอกภพเอ่ยบอกลูกชายบุญธรรมวัยสี่ขวบกว่าให้ทักทายแขกผู้มาเยือน

"ลูกใครวะ" ชายหนุ่มรับไหว้เด็กชายก่อนจะหันมาถามเพื่อนรักอย่างสงสัย

"ลูกฉันสิวะ"

"แกไปแอบมีลูกตอนไหน" คิ้วเรียงเป็นระเบียบขมวดเข้าหากันอย่างประหลาดใจว่าอดีตเพื่อนรักมีทายาทตั้งแต่เมื่อไหร่ทั้งที่ยังโสด

"ก็ตั้งแต่แอมฆ่าตัวตายนั่นแหละ ไอ้เจ้าแสบนี่ก็เลยกลายมาเป็นลูกฉัน" เอกภพหัวเราะร่วนพร้อมกับเล่าที่มาของอธิอย่างคร่าวๆ

"แอม น้องสาวแกหน่ะหรือ" คำตอบยิ่งทำให้เขาฉงนหนัก

"เออ ที่แกมาบ้านฉันเพราะอยากรู้เรื่องลูกฉันหรือไงวะ นึกว่าจะอยากรู้เรื่องลูกของป่านซะอีก"

"เดี๋ยวนะ แกหมายความว่ายังไงลูกของป่าน ฉันคิดว่าเด็กสองคนนั้นเป็นลูกของแกกับป่านซะอีก"

"ไอ้บ้า!! มันจะเป็นลูกฉันไปได้ยังไงวะ ฉันกับป่านเราเป็นแค่เพื่อนกัน แล้วสมมตินะว่าเป็นลูกฉันแกคิดว่าฉันจะปล่อยให้ลูกเมียลำบากหรือไง"

“ป่านลำบากมากอย่างนั้นหรือ?” เหมันต์ถามด้วยความใคร่รู้

“ก็ถ้าแกคิดว่าการเลี้ยงลูกตัวคนเดียวโดยที่มีรายได้แค่พอใช้ไปวันๆ มันสบายแล้ว ป่านก็คงสบายอย่างที่แกคิดนั่นแหละ”

"แล้วเด็กสองคนนั้นลูกป่านกับใคร แล้วทำไมเด็กผู้ชายถึงบอกว่าพ่อชื่อหมอก"

"ไอ้กระบือเอ๊ย!!!! ฉันว่าควายมันก็น่าจะฉลาดกว่าแกนะ หน้าเหมือนอย่างกับแกะดันถามมาได้ว่าลูกใคร ลูกพี่ยักษ์มั้ง" เอกภพอยากจะตบกบาลเพื่อนคนนี้ซักทีให้เขาหลุด นี่เขาไม่ได้มองหน้าลูกเลยหรือไงว่ามันเหมือนพ่อขนาดไหนทำไมถึงได้ถามคำถามโง่ๆ อย่างนี้ออกมาได้

"เดี๋ยวนะ แกจะบอกว่าเด็กสองคนนั้นลูกฉันหรือ"

"เออสิวะ"

“แล้วทำไมฉันไม่เคยรู้วะ ทำไมป่านไม่ยอมบอกฉัน" คนตัวโตโมโหจนหน้าแดงก่ำ ทำไมปารวตีไม่ยอมบอกซักคำว่าเธอท้องกับเขาแถมยังไม่ยอมบอกว่านี่คือลูกของเขาทั้งที่ลูกๆ ยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

"แกรอฟังหรือเปล่าวะ อยู่ๆ แกก็มาหาว่าป่านกับฉันหักหลังแก ทิ้งป่านไปไม่ยอมฟังเหตุฟังผลอะไรเลย ใครหน้าไหนจะไปบอกแกได้"

"ถึงอย่างนั้นป่านก็น่าจะหาทางบอกฉันสิ แกก็เหมือนกันน่าจะบอกกันหน่อย" คุณพ่อมือใหม่หงุดหงิดตัวเองอย่างที่สุดที่ปล่อยให้ลูกเมียต้องลำบาก ไหนจะบ้านพักคนงานเก่าๆ นั้นอีก  ไวเท่าความคิดร่างสูงผุดลุกขึ้นทันทีแต่ไม่ทันได้ก้าวไปไหนก็ถูกเพื่อนรักคว้าเอาไว้ได้ก่อน

"แกจะรีบไปไหน"

"ไปปรับความเข้าใจกับป่าน ไปหาลูกสิวะแกจะมาดึงฉันไว้ทำแมวอะไรไอ้เอก" ลูกชายบ้านภักดีดำรงโวยวาย

"ไม่ต้องเลย แกไม่ต้องไปวุ่นวายกับป่าน กับหลานฉันเลยนั่งลงเฉยๆ ตรงนี่แหละเดี๋ยวฉันจัดการเอง"

"หลานแกนั่นลูกฉันนะเว้ย"

"ใช่หรือ เห็นทิ้งๆ ขว้างๆ เรื่องที่นอนที่ป่านขอฉันจัดการให้เรียบร้อยแล้ว แล้วก็นะคืนนี้ฉันจะพาป่านกับหลานๆ มานอนค้างที่นี่แกก็หาคนมาทำความสะอาดให้เรียบร้อยซะน้องรุ้งแพ้ง่าย เดี๋ยวจะไม่สบายเอา" ลุงเอกของเด็กๆ จัดการเป็นฉากๆ

"เดี๋ยวนะไอ้เอก มันจะเกินไปไหม เลี้ยงลูกแกไปเถอะลูกเมียฉัน ฉันดูแลเองได้"

"ลูกแกหน่ะใช่ แต่ว่าแกไม่ได้รู้เรื่องอะไรของเด็กๆ เลย ฉันเลี้ยงของฉันมาฉันรู้เยอะกว่าพ่ออย่างแกอีก เพราะฉะนั้นทำเท่าที่ทำได้ก่อนตอนนี้ ขืนแกโพล่งไปว่าเป็นพ่อนะ พังแน่ๆ"

เหมันต์อยากจะเถียงให้ขาดใจแต่ก็ต้องใบ้กินเพราะคำพูดของเอกภพมันจริงทุกคำ เขาและลูกไม่เคยได้ใกล้ชิดกันมาก่อนซ้ำร้ายยังปรามาสแม่ของลูกเอาไว้อย่างร้ายแรงและทอดทิ้งอย่างไม่มีเยื่อใยอีกต่างหากจะหวังให้ทุกอย่างสมใจมันก็คงเป็นไปไม่ได้

เพียงไม่กี่อึดใจที่นอนหลังใหม่ที่เอกภพจัดการเอาไว้ให้ก็ถูกส่งมาถึงบ้านพักพนักงานแสนโทรมของหญิงสาวและลูกๆ

ปารวตีจัดการอุ้มลูกทีละคนมาวางลงบนฟูกหลังใหม่อย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้รบกวนการนอนพักผ่อนของเด็กๆ และฉวยเอาเวลาว่างเหล่านี้มาปัดกวาดทำความสะอาดบ้านพักให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น จนกระทั่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยดี ความเหนื่อยอ่อนจากการเดินทางและการจัดการข้าวของต่างๆ ทำให้หญิงสาวผล็อยหลับไปจนลืมเวลา

แม่ลูกสองสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยเสียงเพ้อจากลูกชายที่ฟังแทบไม่รู้เรื่อง คุณแม่ยังสาวกุลีกุจอปราดเข้าไปหาและวางหลังมือลงบนหน้าผากเล็กก็พบว่าเด็กชายเหมวิชจับไข้เข้าให้แล้ว

                สัญชาตญาณของแม่ทำให้หญิงสาวรีบหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตามเนื้อตามตัวของเด็กชายในทันทีและในขณะเดียวกันนั้นก็ต้องเฝ้าระวังเด็กหญิงไปพร้อมกัน แต่ทว่าความร้อนในร่างกายของลูกชายนั้นไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าเธอจะเช็ดเนื้อเช็ดตัวจนผิวของลูกแดงไปหมดแล้วก็ตาม

                เมื่อเข้าตาจนคนเดียวที่พร้อมจะช่วยเหลือเธอได้เสมอในเวลานี้จะเป็นใครไปได้อีกนอกจากเอกภพ อนันตรา ไวเท่าความคิด นิ้วเรียวสวยก็กดโทรศัพท์ต่อสายไปหาปลายสายทันที

                หลังจากปรับความเข้าใจกันได้เพื่อนรักทั้งสองก็สนทนากันอย่างออกรสออกชาติ จนลืมเวลาไปเสียสนิทแต่แล้วทุกอย่างก็ต้องสะดุดลงเมื่อเสียงโทรศัพท์ของเอกภพดังขึ้นขัดจังหวะ

"น้องเรนหรือ รอก่อนนะป่านเดี๋ยวเราไปหา" เอกภพหน้าตื่นทันทีที่ได้รับโทรศัพท์ เมื่อได้รับรู้ว่าหลานชายตัวแสบนั้นตัวร้อนจี๋จนเนื้อตัวแดงก่ำไปหมด

"เรนเป็นอะไรไอ้เอก"

"ป่านบอกว่าตัวร้อนจี๋เลย ฉันจะไปรับเรนไปส่งโรงพยาบาล"

"ไม่ต้อง ให้เป็นหน้าที่ฉัน ยังไงตอนนี้ป่านก็เป็นลูกจ้างฉัน ฉันดูแลเอง" สิ้นวาจาร่างสูงโปร่งของเจ้านายหนุ่มก็ปราดเข้าไปที่รถคันเก่งของตัวเองก่อนจะติดเครื่องเพื่อมุ่งหน้ากลับฟาร์มไข่มุกของพี่ชายอย่างร้อนใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามีร้ายเกี้ยวรัก   ตอนที่ 8

    เมื่อกลับมาถึงบ้านคุณพ่อลูกสองก็ได้แต่นอนแกร่วอยู่บนโซฟาห้องรับแขกของบ้านภักดีดำรงเหมือนหมดสิ้นซึ่งความหวังในชีวิต"เป็นอะไรไอ้หมอก นอนซมเชียวหรือว่าไม่สบาย แล้วเมื่ื่อคืนแกหายหัวไปไหนไม่กลับบ้าน" นายตำรวจรูปหล่อพี่ชายคนโตของบ้านเอ่ยถามขณะเดินลงมาจากห้องนอน"พี่ตะวัน ไม่ทำการทำงานหรือไงเดี๋ยวเขาก็ไล่ออกหรอก สายป่านนี้เพิ่งจะตื่น" น้องชายคนสุดท้องกรอกตาไปมาอย่างไม่สบอารมณ์"นี่ๆ ไม่ต้องมาย้อน แกยังไม่ได้บอกเลยว่าหายหัวไปไหนมา""ไปหาป่านมา""ป่าน?? ใช่ผู้หญิงที่ทำให้แกซมซานกลับบ้านมาเมื่อสามปีก่อนน่ะหรือ" ร้อยตำรวจเอกตะวันฉายรีบจ้ำเท้าเดินเข้ามายืนอยู่ต่อหน้าน้องชายและเอ่ยถามอย่างใคร่รู้"อืม" เสียงทุ้มเอ่ยตอบอย่างรำคาญใจเพราะหากว่าเรื่องนี้ถึงหูตะวันฉายเมื่อไหร่ไม่นานเกินรอพี่ชายคนกลางอย่างสินสมุทรแน่"จะไปหาเขาทำไมวะ เขาหักหลังแกได้ถึงขนาดนั้น" พี่ชายคนโตยังรู้สึกเคืองผู้หญิงที่ไม่รู้จักหน้าคร่าตาคนนี้ไม่หายเมื่อเธอกลายเป็นต้นเหตุให้น้องชายคนเล็กของบ้านถึงกับไม่เอาการเอางานอะไรจนเกือบจะเรียกได้ว่าตรอมใจตั้งไม่รู้กี่เดือนกว่าที่เหมันต์

  • สามีร้ายเกี้ยวรัก   ตอนที่ 7

    ร่างกายบอบบางถูกคนตัวโตกว่าจับรวบเอาไว้ในอ้อมกอดที่แสนแน่นหนาไม่ต่างจากปราการเหล็กที่กักขังนักโทษ เธออยากจะโวยวายและดิ้นรนให้พ้นนักแต่รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังก็วางแนบลงไปบนที่นอนนุ่มเสียแล้ว แล้วอย่างนี้เธอจะมีโอกาสรอดเงื้อมมือเขาหรือฝ่ามือหยาบกร้านตามสภาพบุรุษเริ่มป่ายปีนตามไหล่มนลาดของอีกคนอย่างชำนิชำนาญค่อยๆ ปลดชุดนอนสายเดี่ยวสีฟ้าอ่อนให้ร่วงหล่นไปตามเรียวแขนบอบบางอย่างอ้อยอิ่งปลดปล่อยให้ผิวนุ่มนิ่มพ้นจากพันธนาการของอาภรณ์อย่างลื่นไหลให้อกอิ่มคู่สวยเบียดเสียดอยู่กับแผงอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขาอย่างจง ใจ"ปล่อยนะคนขี้โกง" หญิงสาวต่อว่าต่อขานคนตรงหน้าทันทีที่ริมฝีปากถูกคลายผนึกที่แสนหวานจากเขา ใบหน้าสวยหวานแดงก่ำด้วยความเขินอายไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยว่าช่วงขณะหนึ่งนั้นเธอหลงใหลไปกับรสจุมพิตของเขาอย่างง่ายดายเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด"บอก...ว่า...ให้...ปล่อย"ลมหายใจเริ่มติดขัดเมื่อพ่อของลูกให้ริมฝีปากที่ร้ายกาจของเขาสำรวจเรือนร่างของเธออย่างไม่ขออนุญาต ลมหายใจร้อนแผ่ลงบนผิวเนียนสวยรับรู้ถึงความอุ่นจากริมฝีปากหยักสีสุขภาพดีของเหมันต์อย่างแจ่มแจ้ง ตอ

  • สามีร้ายเกี้ยวรัก   ตอนที่ 6

    เช้าวันต่อมาดูเหมือนว่าน้องรุ้งกับพี่เรนจะหายจากพิษไข้เป็นปลิดทิ้งเพราะต่างก็ตื่นขึ้นมารับแสงอาทิตย์และลมทะเลกันแต่เช้าด้วยความร่าเริงและตื่นเต้นราวกับว่าไม่เคยเจ็บป่วยเสียอย่างนั้น"อย่าเพิ่งออกไปตากแดดสิคะ เดี๋ยวไม่สบายต้องกินยากันอีกนะ" คุณแม่คนสวยรีบร้องห้ามเมื่อเห็นว่าเด็กๆ อยากจะออกไปท้าความร้อนจากดวงอาทิตย์ไม่ยอมกลับเข้ามาในบ้านพัก"ค่ะ/ครับ" เด็กจอมซนเชื่อฟังคำของมารดาอย่างว่าง่ายเพราะยังเข็ดหลาบกับรสชาติของยาที่ได้กินเข้าไปเมื่อคืนไม่หายเมื่อเข้ามาในบ้านสองพี่น้องก็นั่งล้อมคนตัวโตที่นอนหลับเหงื่อท่วมไม่รู้เรื่องอยู่บนที่นอนด้วยความสงสัยใคร่รู้"แม่ป่านคะ คุณลุงคนเมื่อวานมาทำอะไรที่บ้านเราคะ""พี่เรนไม่ชอบคุณลุงคนนี้เลยครับ" เมื่อคนพี่เอ่ยว่าไม่ชอบขี้หน้าเจ้านายของแม่คนน้องก็พยักหน้าหงึกๆ เป็นเชิงเห็นพ้องต้องกัน"ไม่เอานะเด็กๆ ต้องขอบคุณคุณลุงนะลูกที่เมื่อวานพาพี่เรนไปหาหมอ""น้องรุ้งว่าคุณลุงหน้าเหมือนพี่เรนนะ" เด็กหญิงช่างพูดก้มมองคุณลุงที่นอนหลับตาพริ้มพลางใช้ดวงตากลมสวยสำรวจใบหน้าของเขาจนถ้วนทั่วก่อนจะเงยหน้าไปทางพี่ชายฝา

  • สามีร้ายเกี้ยวรัก   ตอนที่ 5

    ปารวตีเฝ้าเช็ดตัวให้ลูกชายจนเปลี่ยนน้ำไปหลายกะละมังแต่เหมวิชก็ไม่มีทีท่าว่าไข้จะลดลงเลยแม้แต่น้อย แถมยังโยเยเพราะไม่สบายตัวอีกยิ่งทำให้คนเป็นแม่อย่างเธอเสียใจนักที่พาลูกมาที่นี่"แม่ป่าน ร้อนๆ" ลูกชายคว้ามือบอบบางของคุณแม่เข้าไปกอดทั้งที่ยังหลับตา ทำให้หญิงสาวสงสารลูกเหลือเกิน นี่แค่วันแรกยังป่วยขนาดนี้ ถ้าเกิดคนน้องเจ็บไข้ขึ้นมาอีกคนเธอคงจะลำบากไม่น้อย ถ้าพ่อกับแม่ของเธออยู่ที่นี่ด้วยก็คงจะดีอย่างน้อยก็เป็นที่พึ่งทางใจให้เธอได้"พี่เรน อดทนหน่อยนะลูกเดี๋ยวลุงเอกก็มาแล้ว" คุณแม่ยังสาวเอ่ยปลอบโยนพลางเช็ดตัวลดไข้ให้อย่างไม่ขาด"ร้อน แม่ป่าน ร้อน" พูดจบเด็กชายก็ร้องงอแงขึ้นมาทันทีจากความร้อนที่ไม่ยอมลดลงจนทำให้ไม่สามรถนอนหลับต่อไปได้"ป่าน ลูกเป็นยังไงบ้าง" เหมันต์เปิดประตูเข้ามาด้วยความร้อนใจ ภาพตรงหน้าทำให้เขารู้สึกปวดหนึบหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ภาพที่ปารวตีอุ้มเด็กชายกล่อมเอาไว้บนตักส่วนมืออีกข้างนั้นก็คอยพัดวีให้ลูกสาวอย่างไม่รู้จักเหนื่อย วินาทีนั้นเขารู้ได้ทันทีว่าปารวตีเก่งและเข้มแข็งแค่ไหน ต่างกับเขาที่ทำตัวเป็นคนอ่อนแอแถมยังเป็นพ่อที่ไม่ได

  • สามีร้ายเกี้ยวรัก   ตอนที่ 4

    "หมอก!! ป่านอาจจะขอมากไปแต่ว่าป่านอยากจะได้ที่นอนหลังใหม่ แล้วก็อีกอย่างขอเริ่มงานอาทิตย์หน้าได้หรือเปล่า ป่านยังต้องจัดการเรื่องที่พักกับโรงเรียนของเด็กๆ อีก" เมื่ออยู่กันแค่สองคนหญิงสาวก็เรียกเขาด้วยสรรพนามที่เคยเรียกทันที"อย่ามาเรียกอย่างสนิทสนมนะป่าน ตอนนี้ผมเป็นเจ้านาย ป่านเป็นแค่ลูกน้อง""ขอโทษค่ะ ที่ดิฉันบังอาจทำตัวสนิทสนมกับคุณให้เคือง แต่ว่าเรื่องที่ดิฉันขอไปนั้นคุณเหมันต์ว่ายังไงคะ" หญิงสาวถึงกับเสียงอ่อยเมื่ออีกคนแสดงความห่างเหินชัดเจนแม้แต่ความเป็นเพื่อนเขาก็ไม่เหลือไว้ให้"วันนี้คงไม่ได้ งานผมยุ่ง แต่พรุ่งนี้ผมจะจัดการให้ ส่วนเรื่องเริ่มงานก็เป็นไปตามที่คุณขอ เพราะเห็นว่ามีลูกเล็กหรอกนะถึงหยวนให้ได้" เจ้านายหนุ่มวางมาดยโสเสียจนน่าหมั่นไส้"ขอบคุณนะคะ แต่ว่าเรื่องที่นอนคงรอไม่ได้ ดิฉันกลัวว่าลูกจะไม่สบายรบกวนคุณเหมันต์ช่วยคืนโทรศัพท์ให้ดิฉันด้วยค่ะ" ฝ่ามือบางยื่นไปเพื่อรับของของตัวเองคืนเหมันต์หยิบโทรศัพท์คืนให้หญิงสาวอย่างลังเลเมื่อเห็นว่ามันทั้งเก่าและเต็มไปด้วยรอยแตกมากมายจนไม่น่าจะใช้การได้อีก"ทำไมไม่ซื้อใหม่ซะ ดูสภาพแล้วอ

  • สามีร้ายเกี้ยวรัก   ตอนที่ 3

    "สบายดีเหรอ ป่าน" เอกภพที่มารอรับปารวตีและหลานๆ เอ่ยทักทายพร้อมกับย่อตัวลงกอดเด็กฝาแฝดที่หน้าตาบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นลูกหลานบ้านภักดีดำรงแน่นอน"สบายดีค่ะ ลุงเอก" เด็กหญิงตอบคำถามเจื้อยแจ้ว"ขอบคุณมากนะเอกที่คอยช่วยเหลือเรามาตลอด รวมถึงเรื่องงานด้วย ถ้าไม่ได้เอกเราก็คงไม่รู้จะทำยังไงดี" ปารวตีเอ่ยอย่างซาบซึ้งเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเพื่อนอย่างเขาคอยดูแลเอาใจใส่เธอด้วยไมตรีที่ดีมาตลอดหลายปี"เรื่องเล็กน่า ถ้าเทียบกับเรื่องที่เราเคยทำให้ป่านกับเด็กๆ ต้องลำบาก อีกอย่างถ้าไม่ได้ป่านคอยช่วยเรากับเจ้าอ้น ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไง" เอกภพเอ่ยอย่างรู้สึกผิดถ้าไม่ใช่เพราะเขาที่ทำให้เหมันต์เข้าใจผิดป่านนี้เด็กๆ กับปารวตีคงจะมีรอยยิ้มที่สดใสกว่านี้แน่ๆ"ลุงเอกครับ เรนอยากเล่นน้ำทะเลแล้วครับ" ยังไม่ทันได้พูดคุยอะไรกันต่อเด็กชายตัวน้อยก็ขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน"ไปสิครับ แต่ว่าเราต้องไปที่ทำงานแม่ป่านก่อนนะครับ" คนเป็นแม่อธิบายให้เด็กชายวัยสามขวบฟัง"ครับ"ทางด้านเหมันต์หลังจากเรียนจบเขาก็เลือกกลับมาช่วยกิจการที่บ้านโดยส่วนที่เขาได้รับผิดชอบคือส่วนของรีสอร์ทที่มารดาเป็นผู้ริเริ่มทำเอาไว้แม้ว่าในวันนี้ม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status