Mag-log in
เกือบห้าปีแล้วที่สุริยะ อัครภูรินทร์ยืนไว้อาลัยอยู่หน้าหลุมศพของของพริมพลอยคนรักหนึ่งเดียวที่เขาคิดจะแต่งงานด้วย
แม้การจากไปของเธอจะผ่านมาแล้วหลายปี แต่เขาก็ไม่เคยจดจำเสียทีว่าตนเองมาเยือนหลุมศพแห่งนี้กี่ครั้ง รู้เพียงแต่ว่าไม่มีครั้งไหนที่จะไม่คิดถึงคนรัก เขารักเธอสุดหัวใจ และคิดว่าคงไม่มีใครมาแทนที่พริมพลอยได้อีก หรือจนกว่าเขาจะล้างแค้นคนที่ทำให้แฟนสาวของเขาหมดลมหายใจได้สำเร็จ
พี่ชายของเธอ คือ ศัตรูคู่แค้นที่ร้ายกาจที่สุดในชีวิตเขา และเขาจะไม่มีวันนอนตายตาหลับหากไม่ได้ปลิดชีพ เขมทัต วัชรกาณจน์ พี่ชายไม่แท้ของแฟนสาว
"มึงจะไปบวชนานไหม" สุริยะถามเพื่อนสนิทหนึ่งในบก.มาเฟีย พนาธีร์ ลูกชายของอาจารย์เธียร ฉายานัยน์ตาเทพ ผู้หยั่งรู้อดีต ปัจจุบัน และอนาคต และเป็นเจ้าของสำนักหมอดูอัตรยามีที่มีศิษยานุศิษย์จำนวนมาก
"สองปีว่ะ พ่อกูบอกว่าถ้ากูไม่บวช ชีวิตกูจะบัดซบอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่หลังจากที่กูบวชและไปอยู่พุทธคยา ชีวิตก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า มึงก็รู้นี่ว่าเมียกูทิ้ง แต่งงานกันไม่กี่วันก็เชิดเงินหนีไปกับผัวเก่า กูรู้สึกโง่ฉิบหาย..."
"แล้วมึงเชื่อที่พ่อมึงบอกเหรอไอ้ป่า"
"กูจะไม่เชื่อเลยถ้าพ่อไม่ทักเรื่องมึง....." พนาธีร์เอนตัวลงพิงกับต้นไม้ใหญ่ใจกลางสุสาน
"เรื่องอะไรวะ" สุริยะยังคงพูดสีหน้าเรียบเฉยเอนแผ่นหลังอยู่ด้านข้างพนาธีร์ เพื่อนรักจึงยืดตัวขึ้นนั่งกวาดมองเพื่อนซี้ที่หน้าตึงอยู่ตลอดเวลา
"ก็เรื่องที่ว่าน้องสาวไอ้เรนจะมาสมัครงานกับมึง แล้วไงล่ะเมื่อสองวันก่อนดันมาจริง กูยังขนลุกไม่หายเลย"
"ทักแค่นั้นมึงก็เชื่อแล้วหรือไง" ชายหนุ่มยังคงไม่เชื่อตวัดดวงตาคมกริบไร้สีสันส่งให้พนาธีร์
"ไม่ใช่แค่นั้น มันยังมีอีก หลังจากที่ดาเนียมาสมัครงานกับมึง นับจากนี้ถ้ามึงทำร้ายความรู้สึกดาเนีย มึงจะเจ็บมากกว่าตอนที่มึงเสียพริมไป"
"กูจะเจ็บกว่าได้ยังไง เพราะคนที่กูรักมีแค่พริมเท่านั้น" สุริยะยังคงยืนยันว่าคนที่เขารักนั้นมีเพียงพริมพลอย
"ไอ้แซ็ค มึงไม่คิดจะเปิดใจกับดาเนียหน่อยเหรอวะ กูเห็นน้องมันชอบมึงจริง ๆ นะเว้ย และดาเนียก็สวยขนาดนั้นมึงไม่เสียดายหรือไง"
"พริมก็สวย" เขาเถียงพนาธีร์กลับอย่างไม่ยอมและยังคงดึงดัน
"เออ พูดดีไปเหอะ ถ้าหมาตัวไหนมันคาบดาเนียไปแดกกูจะขำให้ฟันร่วงเลย"
"มึงจะไม่มีวันได้ขำแน่นอน" พนาธีร์กลอกตามองบนเขาแม่งสุดจะทนกับไอ้ความยึดติดของเพื่อนตัวดี
หลังจากที่แยกย้ายกับพนาธีร์ไม่นาน ศิวดล พ่อบ้านส่วนตัวผู้เป็นทุกอย่างให้กับคนในตระกูลอัครภูรินทร์ เดินเข้ามาหาเจ้านายของตนที่โต๊ะหนังสือตัวเดิมที่สุริยะมักจะนั่งเซ็นเอกสารเงียบเชียบคนเดียว ซองเอกสารสีน้ำตาลถูกหย่อนลงตรงหน้า เขาเหล่มองครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วจึงเงยหน้าขึ้นสบตากับพ่อบ้านมือฉมัง
"อะไร"
"ก็เอกสารลับที่คุณแซ็คให้ผมไปจัดการสืบมาไงครับ ผมได้มาทั้งหมดที่คุณแซ็คต้องการ"
"ดี งั้นฉันจะได้ไปหาไอ้เรน....ตอนนี้มันอยู่ที่งานของลุงโทนใช่ไหม" แซ็คยืดตัวตรงขึ้นกระชับสูทแล้วกลัดกระดุมเสื้อให้ครบทุกเม็ดเพื่อเตรียมตัวออกไปพบกับเพื่อนซี้ที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาตลอดห้าปี
"ใช่ครับ"
ชายหนุ่มที่แต่งชุดสูทดำอยู่ตลอดแทบจะไม่เคยเปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันเดินทางถึงห้องโถงจัดงานโรงแรมขนาดใหญ่ ยามที่ร่างสูงเดินผ่าเข้าไปพบเพื่อนสนิท ทุกคนรอบตัวก็กวาดตามองเขาด้วยความหวั่นเกรง
เขาใช้เวลาคุยกับพิรุณไม่นานนักเพราะอยากรีบรวบรัดให้เร็วที่สุด เนื่องจากมีนัดกับเลขาสาวสองคนที่กำลังรอคอยเขาอยู่ที่โรงแรมอีกแห่ง ในเมื่อจ้างมาให้ปรนนิบัติแล้วเขาก็ต้องใช้ให้พวกหล่อนทำให้เขาผ่อนคลายถึงที่สุด
แต่หลังจากที่เขาออกมาจากโรงแรมได้ไม่นานก็เห็นสาวในชุดเดรสสีน้ำเงินสับขาเข้าไปในโรงแรมด้วยท่าทางเร่งรีบ เป็นยัยเด็กนั่นเอง ดาเนีย ปรมะเมคินทร์ เด็กไร้เดียงสาที่กล้ามาสมัครงานเลขากับเขา โดยหารู้ไม่ว่า เลขาในความหมายของเขามันเป็นคนละแบบอย่างที่เธอเข้าใจ แต่ถ้าในเมื่อเด็กน้อยยังไม่เข้าใจ เขาก็จะทำให้เธอกระจ่างแจ้งเอง
เพราะเขาจะต้องรีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เขาจะไม่มีวันเก็บเกี่ยวความสัมพันธ์ใด ๆ กับดาเนียเด็ดขาด ถึงแม้ไอ้ป่าจะบอกว่าเขาจะต้องเจ็บปวดเรื่องดาเนียมากกว่าเรื่องพริมพลอย แต่ยังไงซะในเมื่อเขาไม่เริ่มต้นความสัมพันธ์ ดาเนียก็ไม่มีวันเป็นจุดเริ่มต้นของความเจ็บปวดที่ไอ้ป่าว่ามาอย่างแน่นอน
"คุณแซ็คให้คุณดาเนียออกมาก่อนทำไมครับ"
"ก็ฉันจะพาเด็กนั่นไปดูกิจกรรมที่ผู้ใหญ่เขาทำกันน่ะสิ"
เขาหลับตาลงขบคิดเรื่องเดิม ๆ ภาพความทรงจำเก่าของเขากับพริมพลอย ทว่าเสียงของกลุ่มคนที่เดินออกมาด้านหน้าโรงแรมก็ดังขึ้นขัดจังหวะความนึกคิด เขาลดกระจกหลังรถลงลอบมองดู พิรุณ ปาลิน และดาเนียอยู่ในความมืด
ครั้นรถพิรุณแล่นออกไป ดาเนียที่เปล่งรอยยิ้มสดใสในตอนแรกกลับหุบยิ้มลง แถมยังเป็นใบหน้าที่หมดอาลัยตายอยากขั้นสุด ยัยเด็กนี่มีอะไรให้เศร้าเสียใจกับเขาด้วยงั้นเหรอ
ดาเนียเดินกลับเข้าไปในงานราวสิบนาทีก็กลับออกมาอีกครั้ง เธอเดินไปเดินมาเหมือนกับคนคิดไม่ออกว่าจะไปที่ไหน แต่แล้วผู้หญิงหน้าตาคุ้น ๆ และเขาก็รู้จักเป็นอย่างดีว่าหล่อนขึ้นชื่อเรื่องอะไรมากที่สุด โชติกา ภพนคร เป็นแม่เล้าเบอร์ต้นของวงการที่จัดหาสาวสวยและบุคคลมีชื่อเสียงไม่ว่าจะดารา นางแบบ เพื่อมอบเป็นของบรรณาการให้กับเศรษฐีต่างชาติ แล้วทำไมเด็กนั่นถึงไปคบหากันคนพรรค์นี้ได้ คิดแล้วก็หงุดหงิดชะมัดที่ผู้หญิงกะโหลกกะลาอย่างน้องสาวไอ้เรน กำลังตกเป็นเป้าหมายใหม่ของโชติกา
ถึงเขาจะไม่อยากยื่นมือเข้าไปยุ่ง แต่เธอก็ยังเป็นผู้หญิงคนนึงที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร แถมยังเป็นน้องสาวเพื่อนรักอีก ถ้าไม่เข้าไปยุ่งมีหวังไอ้เรนเอาตาย
และกว่าที่เขาจะรู้ตัว ตนเองนั้นก็พาผู้หญิงที่อ่อนกว่าถึงเก้าปีขึ้นมานั่งอยู่ข้าง ๆ เสียแล้ว แถมยังซักนั่นนี่ไม่หยุด แล้วยังจะมาถามว่าให้พาไปทำงานเอกสารในเวลานี้ได้เลย ช่างอ่อนต่อโลกซะเหลือเกิน ถึงว่าไอ้พวกชั่วมันถึงได้หูตาสับปะรดเพราะปราดเดียวคงมองออกว่าดาเนีย ปรมะเมคินทร์คนนี้คงไม่ทันเกมใคร และเอาตัวรอดจากสังคมอันเลวร้ายแห่งนี้ไม่ได้
"จะไปส่งบ้าน" ตอบห้วน ๆ แต่ก็เหลือบมองดูใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอางที่กำลังทำหน้าเหมือนไม่อยากกลับบ้านเท่าไหร่นัก
"เนียไม่อยากกลับบ้านค่ะ ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่บ้านได้ไหมคะ บ้านของ..เฮียแซ็คก็ได้" ช่างกล้าพูดออกมาได้ยังไง เป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอายเสียจริง
"ภายนอกดูดี แต่กิริยาคำพูดน่ารังเกียจ" เขากร่นด่าออกไปให้สำนึกแต่ไม่รู้ยัยเด็กนี่จะเข้าใจบริบทไหม และเขาก็ไม่ใช่คนประเภทปากหวานก้นเปรี้ยว คิดแรงเท่าไหร่ก็ยิ่งพูดแรงเท่านั้น
"ใช่....เนียมันน่ารังเกียจ ทุกคนรังเกียจเนียมานานแล้ว เนียไม่แปลกใจเลยที่เฮียแซ็คก็รังเกียจเนีย" ถึงจะแค่นพูดออกมาแต่เสียงเล็กนั่นก็สั่นเครืออยู่ดี
"เข้าใจถูกแล้วที่ฉันรังเกียจเธอ และต่อไปเธอเองก็จะรังเกียจฉันเหมือนกัน ดล!...ไปที่ห้อง 6901" ศิวดลย่นคิ้วชิดกัน ไม่คิดว่าเจ้านายจะกล้าพาผู้หญิงที่แสนดีแบบคุณดาเนียไปดูอะไรแบบนั้น แต่ในเมื่อเป็นคำสั่งเจ้านายเขาก็ต้องทำ
รถติดฟิล์มสีดำทะยานมาจอดที่โรงแรมอีกที่ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมที่เป็นสถานที่จัดงานของพ่อเธอไม่มากนัก สุริยะก้าวขาลงไปก่อน พลางตวัดนัยน์ตาขุ่นเขียวมาให้ดาเนียอย่างไม่พอใจ จนทำให้เธอต้องรีบกระเถิบตัวลงมาจากรถโดยเร็ว
"ตามมา!" เขาว่าแล้วรีบสับขาเข้าไปภายในโรงแรมด้วยความใจร้อน ศิวดลยิ้มเจื่อนให้ดาเนียและก้มหัวให้เธอเล็กน้อย ดาเนียพยักหน้ารับแล้วรีบตามสุริยะไป ตอนนี้เธออยู่ภายในลิฟต์กับเขาสองต่อสองระหว่างที่รอลิฟต์ให้ขึ้นไปยังชั้นหก
หญิงสาวมองมือซ้ายของเขาที่สวมแหวนสลักชื่อของใครบางคนเอาไว้ หรือว่าจะเป็นชื่อคนรักของเขากัน คิดได้ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก เขาก็รีบเดินนำไปก่อนและเคาะประตูที่ห้องเลข 6901
ทันใดนั้นหญิงสาวสองคนก็เปิดประตูออกมา พวกเธออยู่ในชุดที่ทำให้หัวใจของดาเนียแทบจะสลายในเสี้ยววินาที ผู้หญิงสองคนนี้คือคนที่มาสมัครงานเลขาพร้อมกับเธอ และตอนนี้กำลังสวมใส่ชุดนอนซีทรูตัวบางจนเห็นสัดส่วนทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
ตอนนี้เธอเข้าใจดีแล้วว่าเขาพาเธอมาดูอะไร ถ้าในเมื่อเขาพาเธอมาดูได้เธอก็จะทนดูให้จบ ๆ ไป อย่าคิดว่าคนอย่างดาเนียจะขี้ขลาด เพราะเธอเจออะไรมามากกว่าที่เขารู้ ทั้งการถูกบูลลี่ทางกายและทางใจ แต่เธอสั่งให้พี่เรนปิดเรื่องนี้จากทุกคน แม้กระทั่งปิดเรื่องนี้จากเฮียแซ็คด้วย แต่ถึงเขารู้ก็คงจะไม่ได้รู้สึกสงสารอะไรเธอเท่าไหร่อยู่ดี
ในงานเลี้ยงหรูเต็มด้วยนักธุรกิจชายหญิงสุริยะในชุดทักซิโด้เรียบหรูหล่อจนสาวในงานพากันชะม้อยชะม้ายชายตา ไม่ต่างกับคู่ควงคนงามอย่างดาเนีย ภรรยาคนสวยที่แต่งชุดราตรีแบบจัดเต็มยศซะเขาหายใจหายคอไม่ออกเพราะหน้าอกขาวผ่องที่เบียดกระชับอยู่กลางเดรสคล้องคอเรียบสีดำแหวกหน้าตู้มต้ามเว้าหลังไปถึงช่วงเอวคอด ทำให้ใจของผู้ปฏิบัติงานชิงหุ้นคืนให้กับผู้ว่าจ้างรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนไปหมด แบบนี้เขาจะทำงานอย่างสบายใจได้อย่างไร ในเมื่อเมียแต่งชุดยั่วน้ำลายขนาดนี้"เนียไอ้เชือกที่ผูกเป็นปมที่คอถ้ากระตุกทีเดียวมันก็หลุดหมดเลยใช่ไหมคะ" เขาถามขณะจิบค็อกเทลอยู่ข้าง ๆ ดาเนียที่กำลังตักพุดดิ้งไวท์ช็อกโกแล็ตภายในงานเลี้ยงใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย"ใช่ค่ะเฮียจะกระตุกดูไหมล่ะคะ เนียจะได้โป๊เลย ฮ่าฮ่า" ท้าทายอย่างสนุก แต่คนโดนท้าไม่ขบขันเท่าไหร่นัก"ถ้าตอนเฮียไม่อยู่ หรือเนียถูกไอ้เขมมันล่อลวงไปเนียจะเอาตัวรอดยังไง" จิกตาขุ่นเขียวมาให้แล้วฉกขนมในมือของเธอวางลงเพื่อให้ตอบคำถาม"นี่ค่ะ" ดาเนียแหวกที่ช็อตไฟฟ้าที่เสียบไว้ข้างขา "พี่ลินซักซ้อมให้เนียเรียบร้อยค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะและก็ไม่ต้องหึงด้วยยังไงเนียก็เป็นของเฮียคนเดียว ถ้
เนื่องในโอกาสที่ซุสเจ้าลูกเทพเจ้าตัวแสบมีอายุครบหนึ่งขวบหกเดือนบริบูรณ์ แถมยังเจื้อยแจ้วไม่หยุด วันนี้ดาเนียจึงทำมื้อเย็นสุดอร่อยให้ลูกชายกับสามี และออกปากให้สุริยะโทรตามผู้ว่าจ้างคนใหม่ของเขาอย่างพี่สาวต่างแม่ของเธอมาด้วยเพื่อให้มาเคลียร์ปัญหาที่ค้างคาใจให้จบ"นึกไงชวนดาเรศมา" สุริยะถามระหว่างขึงผ้าปูโต๊ะที่สนามหลังบ้านให้ตึง"เนียอยากคุยให้จบ ๆ ไปค่ะ ยังไงเขาก็มีสายเลือดปรมะเมคินทร์เหมือนเนีย" ดาเนียอธิบายแล้วเดินขนของกินมากมายมาวางบนโต๊ะกินข้าว"แกเห็นฉันเป็นพี่สาวแล้วจริง ๆ น่ะเหรอยัยเนีย" ดาเรศโผล่มาแล้วผายมือให้บอดี้การ์ดของเธอไปยืนอยู่ไกล ๆ ก่อนที่หล่อนจะทรุดตัวลงส่งตุ๊กตาหมาให้กับหลานชาย"มู๋" ซุสชูตุ๊กตาให้แม่ดู"หมาครับลูกไม่ใช่หมู" ดาเนียแก้คำพูดให้ลูกชาย"น่ารักดีนะ" ดาเรศบอกแล้วลูบหัวหลานคนแรกของตน"นั่งก่อนสิคะ กินไปคุยไปจะได้ไม่ตึงเครียดนัก" แม่บ้านดาเนียวางจานสเต็กไก่และรินไวน์ของไร่วิโอล่าให้พี่สาวต่างแม่"ขอบคุณนะ เธอก็นั่งก่อนสิ" สาวผมสั้นสีดำฉุดมือน้องสาวให้นั่งลงข้าง ๆ เธอ"อ้อค่ะ" สุดท้ายดาเนียจึงต้องมานั่งข้างพี่สาวส่วนซุสนั้นไปวิ่งเล่นอยู่กับสุรีย์อย่างสนุกสนา
สามีผู้รู้งานตอบรับการเล่นบทบาทสมมุติของภรรยาโดยการปลดเปลื้องอาภรณ์ของตนเองอย่างรวดเร็วแล้วเข้าไปปล้นถอดเสื้อผ้าดาเนียจนเหลือเพียงแค่ถุงน่องดำเท่านั้น"เริ่มเทสกันเลยดีไหม จากตรงไหนดี...." เขาถามแล้วกรีดปลายนิ้วลงมาที่ร่องอกแล้วเริ่มขยำทั้งสองข้างให้มันพองขยายพร้อมรับริมฝีปากของเขาอย่างเต็มที่ จากนั้นจับยกขาสองข้างของดาเนียขึ้นคร่อมวางที่มุมเก้าอี้ผ้าให้ความอล่างฉ่างตรงหน้าเบ่งบานชัดสู้สายตาที่กำลังสำรวจมอง"หยุดจ้องสักทีสิคะ" เขาเอาแต่จ้องจนแสกนทุกตารางนิ้วมือเล็กรีบเอื้อมไปปิดตาด้วยความอาย ถึงจะผ่านศึกกับเขามาเยอะแต่มาจ้องเขม็งกันแบบนี้เป็นใครก็ทำตัวไม่ถูก"มาสมัครงานไหนล่ะพอร์ตฟอลิโอ หรือว่าอันนี้" กระตุกยิ้มแล่บลิ้นวาดไปรอบริมฝีปากก้มใบหน้าต่ำลงมาที่ซอกขาออกแรงดูดเนินผิวอมชมพูที่ขาด้านในจนเป็นรอยแดง"อื้อ...เฮียอ่ะ" มือเล็กส่งออกไปหวังห้ามปรามแต่เขากลับรับไว้ทันแล้วถูกระดมจูบที่หลังมือไปทั่ว"ไม่เรียกเฮียสิ ตอนนี้รับบทเลขาอยู่ไม่ใช่เหรอคะ ต้องเรียกท่านประธานขาสิที่รัก เรียกเร็วเข้า"กลางรอยแยกสีชมพูพีชถูกฉีกออกกว้างด้วยนิ้วมืออันชำนาญของประธานหนุ่ม ปลายเท้าถูกยกขึ้นสูงให้องศาการวา
ดาเนียอดหลับอดนอนดูแลสามีทั้งคืน สำหรับเธอแล้วเขาเหมือนเด็กผู้ชายที่หลงมาอยู่ในร่างชายอายุ 30 ปี อยู่ต่อหน้าคนอื่นดูน่าเกรงขาม ดุดัน และเกรี้ยวกราด แต่อยู่กับเธอและลูกปากหวาน ขี้อ้อน และนุ่มนวล ซึ่งมันทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่านิสัยแข็งนอกอ่อนในของเขามีสาเหตุมาจากการสูญเสียงซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรือเปล่าเริ่มตั้งแต่ที่พ่อแม่เอาเฮียแซ็คไปทิ้งให้ตายายเลี้ยงที่เมืองนอก อดีตคนรักเสียชีวิต แล้วพ่อก็มาหัวใจวาย คราวนี้ถึงตาแม่เขาอีกคน นึกไม่ออกเลยว่าเขารับมือกับมันได้อย่างไร แต่สิ่งเดียวที่เธอจะช่วยให้เขาผ่านเคราะห์ทั้งหลายไปได้ก็คือ การอยู่เคียงข้างเขา และทำให้ปรารถนาที่เขาอยากมีลูกสี่คนเป็นจริงให้ได้ เพราะเธอเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าที่เฮียแซ็คอยากมีลูกเยอะๆ ก็เพื่อทดแทนบุคคลที่เขาสูญเสียไปนั่นเอง"ไข้เฮียลดแล้ว งั้นเนียเปิดปากคุยเรื่องสำคัญเลยนะคะ" ดาเนียทำหน้านิ่งบนตักของเธอมีซุสนั่งอ่านหนังสือนิทานอยู่อย่างตั้งใจ"เรื่องอะไรเหรอเนีย" คนป่วยหน้าซีดตักข้าวต้มทะเลใส่ปาก"เมื่อวานแม่เฮียโทรมา เนียเลยรับสาย""แล้วยังไง""แม่เฮียบอกว่าเธอป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายค่ะ""........" มือที่กำลังจะตักข้าวต้มใส
"ตือ!ตือ!" ซุสคลานขึ้นมานั่งคร่อมแล้วเขย่าพ่อไปมาแต่สุริยะก็ไม่ตื่น ดาเนียที่ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วจึงมาช่วยลูกชายปลุกสามี"ซุสพ่อยังไม่ตื่นอีกเหรอ" เอื้อมมือไปจับแขนสามีเพื่อเขย่าให้เขาตื่นแต่กลับต้องชะงักออก "เฮียตัวร้อนเป็นไฟเลย" ดาเนียยกหลังมือขึ้นทาบหน้าผากแล้วลุกเดินไปล้วงยาแก้ไขกับยาแก้แพ้อากาศในกระเป๋าที่พกติดมาด้วยครืด!! ครืด!!ระหว่างที่เธอกำลังเตรียมยาให้สามีกินอยู่นั้นเจ๊กระต่ายก็โทรเข้ามาเพราะเห็นว่าเธอไม่มากินอาหารเช้าสักที"ฮัลโหลค่ะพี่ต่าย เนียว่าจะสั่งมากินที่ห้องค่ะ เฮียแซ็คเป็นไข้ตัวร้อนจี้เลย" ดาเนียรีบวางสายแล้วจัดการงัดสามีขึ้นมาให้นอนพิงกับพนักเตียง"พอพอ" ซุสเรียกพ่อโดยการเอื้อมมือไปจับหน้าแล้วเจ้าหนูน้อยก็รีบย่นคิ้วชนกัน ก้มมองมือสองข้างอย่างสงสัยเพราะหลังจากที่ได้แตะหน้าพ่อที่ร้อนจัดลูกชายก็มีอาการนั่งนิ่งไม่พูดอะไรต่อ เอาแต่นั่งมองพ่อตาละห้อย"เฮียคะลุกมากินยาก่อนเร็ว" เขาปรือตาขึ้นมองดาเนียจึงยัดยาสองเม็ดใส่ปากแล้วส่งน้ำให้ เขากินและกลืนลงคออย่างทุลักทุเลเพราะรู้สึกเจ็บคออย่างมาก ดาเนียลูบหัวสามีรู้สึกสงสารที่จู่ ๆ เขาอุตส่าห์ตั้งใจพาเธอกับลูกมาเที่
แม่ฮ่องสอน"แล้วนี่มึงจะลากกูมาทำไมวะไอ้แซ็ค" ทัพฟ้าเดินสับขาแบกกระเป๋าเสื้อผ้าของตนกับภรรยาตามสุริยะกับดาเนียขึ้นมายังรีสอร์ทบนดอยของไร่กฤตกล้าธนาดร"ได้ข่าวว่ามึงไม่เที่ยวมาเป็นปีแล้ววิ่งเต้นประชุมสัมมนาให้โรงเรียนไปทั่ว มึงต้องผ่อนคลายบ้างเห็นครูนับอยากได้ลูกอีกคนไม่ใช่เหรอวะ ที่ชวนมามึงจะได้มีเวลาปั๊มลูก กูหวังดีนะเว้ยไอ้ฟ้า"ทัพฟ้าเลิกคิ้วสูงครุ่นคิดสิ่งที่เพื่อนซี้เกริ่นขึ้น เหล่มองใบหน้ายิ้มสวยที่ส่งเสียงหัวเราะดังลั่นอยู่กับดาเนีย"พ่อจ๋าหนูอยากกินอันนี้อ่ะ" ไนท์ ลูกสาวสายจ้อกระตุกชายเสื้อของพ่อขณะที่กินหมูปิ้งมาตลอดทาง พร้อมชี้ไปที่โบชัวร์รีสอร์ตไร่กฤตกล้าที่มีเมนูแนะนำของร้านอาหารโชว์หลาอยู่"หมูปิ้งยังไม่หมดเลยหนูจะกินข้าวอีกเหรอครับ" ลูกสาวอายุสองขวบของเขามักจะเป็นแบบนี้ประจำ กินของเดิมไม่ทันหมด ก็อยากเปลี่ยนของใหม่ สรุปก็คือกินไม่หมดสักอย่าง"พ่อจะพาหนูไปกินข้าวแต่หนูต้องกินให้หมด แล้วห้ามเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอีกนะคะรู้ไหมน้องไนท์" ทัพฟ้าทำเสียงดุ







