LOGINตอนที่ 11 อับอาย
ยามโหย่ว(19.00) อี้หานนอนนิ่งอยู่บนเตียงร่างกายเต็มไปด้วยผื่นแดง ใจจดจ้องอยู่หน้าประตูว่าวันนี้หวังหมิงจะมาที่นี่หรือไม่ ไม่นานนักเสียงของสาวใช้หน้าตำหนักเดินมาแจ้งกับซูซูที่ยืนอยู่หน้าประตู
“พระชายาเพคะ ยามนี้ท่านชินอ๋องกำลังเสด็จมาที่นี่แล้วเพคะ”
“ดีเลยเจ้าไปบอกชินอ๋องว่าข้าไม่สบาย และเล่าเรื่องที่ได้ยินมาจากตลาดให้ชินอ๋องได้ทราบด้วยจะได้ไม่กล้าเข้ามาหาข้าในห้อง"
“เพคะ” ซูซูเดินออกไปข้างนอกเพื่อรอต้อนรับชินอ๋องตามคำสั่งของอี้หาน เมื่อเขาเดินมาถึงนางรีบไปยืนขวางด้านหน้าทันที
“ท่านชินอ๋องเพคะ วันนี้พระชายารองไม่สบายหม่อมฉันเกรงว่าน่าจะติดโรคจากด้านนอกเข้ามาเพคะ”
“ติดโรค โรคอันใดกันในเมื่อพระชายาอยู่แต่ในตำหนัก หรือว่านางสร้างเรื่องไม่อยากให้ข้าเข้าไปด้านใน”
“มิใช่เพคะ วันนี้พระชายาเดินทางไปตลาดพร้อมกับพ่อครัวเพื่อตรวจสอบค่าใช้จ่ายหลังจวน ไม่คิดว่าตอนนี้ที่หมู่บ้านใกล้ ๆ จะมีโรคระบาดเกิดขึ้น รู้อีกทีก็ได้ยินชาวบ้านพูดคุยกันอยู่เพคะ เมื่อกลับมาที่จวนพระชายามีอาการไม่ดี เริ่มจับไข้ปวดเนื่อปวดตัวร่างกายเต็มไปด้วยผื่นแดงราวกับอาการที่เขาลือกันที่ตลาดเพคะ พระชายากลัวว่าท่านชินอ๋องจะติดโรคจึงสั่งให้หม่อมฉันรอคอยท่านอยู่ที่หน้าตำหนักเพคะ” หวังหมิงกระตุกยิ้มคราหนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยอี้หาน
“เช่นนั้นเจ้าเองก็คงเข้าไปมิได้เช่นกันสินะ เอาเถอะข้านะไม่เกรงกลัวโรคที่เจ้าเอ่ยมาหรอกนะ อีกอย่างยังไม่ได้ให้หมอหลวงมาตรวจจะรู้ได้อย่างไรว่าพระชายาติดโรค เจ้าไปพักเถอะข้าจะไปเฝ้าดูอาการพระชายาเอง ”
“เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวก่อนนะเพคะ” ซูซูรู้ดีแม้ว่าจะพูดอย่างไรท่านชินอ๋องคงไม่เชื่อคำพูดของนางต่อจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของอี้หานแล้วว่านางจะทำเช่นไรต่อไป
หวังหมิงแสยะยิ้มมุมปากย่างกรายเข้าไปด้านในห้องบรรทมจ้องมองร่างเล็กที่นอนห่มผ้าบนเตียงคิดว่าแผนการตื้น ๆ ของนางทำให้เขาไม่รู้เลยหรือว่านี่คือแผนการของนาง
“เจ้าเป็นเช่นไรบ้างพระชายา ข้าให้เจิงหลงไปตามหมอหลวงอีกไม่นานคงมา ต้องตรวจดูอาการให้แน่ชัดว่าเจ้าเป็นอันใดกันแน่” หวังหมิงเดินมานั่งย่อนกายลงบนเตียงจนอี้หานตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะดื้อดึงเพียงเท่านี้แถมยังให้บ่าวไปตามหมอหลวงมาตรวจร่างกายของนางอีก
“ท่านชินอ๋องอย่าเข้ามาใกล้ข้าเลยเพคะ ข้ากลัวว่าท่านจะติดโรคจากข้า ตอนนี้ร่างกายของข้าผื่นแดงขึ้นเต็มแถมยังมีอาการคล้าย ๆ กับโรคระบาดที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้อีกด้วย แม้ว่ายังไม่ตรวจอย่างชัดเจนแต่ข้าแน่ใจว่าข้าจะติดโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษาแน่ ๆ เพคะ” อี้หานเอ่ยออกมาน้ำเสียงแหบแห้งไร้เรี่ยวแรงปัดมือให้เขาออกห่างจากตน ทว่าหวังหมิงกลับขยับกายเข้ามาใกล้มากกว่าเดิม ประคองกายของนางให้ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง นางคิ้วขมวดไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำ ทำไมเขาถึงไม่หวาดกลัวสักนิด ทว่าต่อจากนั้นเขาไม่ปล่อยให้นางสงสัยนาน เขากระซิบข้างหูของนางอย่างแผ่วเบา
“พระชายาของข้าไม่เคยนอนกับชายใดไม่มีทางที่จะติดโรคร้ายที่รักษาไม่หายนี่ได้หรอกนะ เพราะนี่คือโรคที่ติดต่อทางร่างกายที่นอนด้วยกันเท่านั้น” เมื่อสิ้นเสียงของหวังหมิง อี้หานดวงตาเบิกโพลงทันทีเพราะเข้าใจในสิ่งที่เขาเอ่ยออกมา นี่ไม่ใช่โรคระบาดแต่เป็นโรคที่ติดทางเพศสัมพันธ์ Hiv ในยุคปันจุบัน นางเขินอายแทบจะมุดหน้าแทรกแผ่นดินหนี
‘อ๊าก !! ทำไมข้าไม่ถามให้แน่ชัดมากกว่านี้ นี่มันไวรัสเอชไอวีที่ติดต่อได้เฉพาะคนที่นอนด้วยกัน แล้วอย่างนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน’
อี้หานคิดในใจก้มหน้าลงต่ำด้วยความอายก่อนที่นางจะคิดอะไรออก หากนี่คือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างนั้นคนที่น่ากลัวคือชินอ๋องหวังหมิงมิใช่นาง เมื่อคิดได้อย่างนั้นนางรีบดันกายของเขาออกห่างทันที
“หากเป็นเช่นดั่งที่ท่านกล่าวมา ข้าคงแพ้เกสรดอกไม้เท่านั้น แต่ว่าตอนนี้ท่านชินอ๋องต่างหากที่น่ากลัว อย่าเข้ามาใกล้ข้านะเพคะ ข้าไม่อยากเป็นโรคติดต่อและไม่มีทางที่จะนอนกับท่านแน่นอน ข้าอายุยังน้อยยังไม่อยากตายด้วยโรคที่ทรมานเช่นนี้ ท่านชินอ๋องปล่อยข้าไปเถอะนะ ” ใบหน้าของซูอี้หานพลันเปลี่ยนสี หวังหมิงเห็นท่าทางของนางอดที่จะหัวเราะไม่ได้ เขาไม่หนีแถมยังขยับมาแนบชิดดึงร่างของนางมากอดแน่น
“เจ้าจะหนีไปทางใด ข้านะหรือจะเอาโรคมาติดเจ้าข้าไม่เคยนอนกับสตรีใด แม้กระทั่งพระชายาเอกมีเพียงสตรีเดียวที่ข้าอยากจะนอนด้วยคือเจ้าซูอี้หาน ”
“ปล่อยข้านะเพคะ คำพูดของท่านข้าไม่เชื่อสักนิดวาจาของท่านไม่มีส่วนใดที่ออกมาจากความจริงใจเลย ที่ท่านกล่าวมาเช่นนี้เพราะต้องการร่างกายของข้า หากเป็นอย่างที่ท่านกล่าวไม่เคยนอนกับสตรีใด แล้วที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นชื่อเสี่ยงเลืองลือกระฉ่อนว่าท่านเป็นบุรุษที่มัวเมาในกาม แถมยังออกไปท่องราตรีกับนางคณิกาทุกวันนั่นคืออันใดกันเพคะ และบอกว่าไม่เคยนอนกับสตรีใดข้าไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดผู้ที่อ่อนต่อโลกจะจูบเก่งเช่นนี้หรือเพคะ”
“ข้าไม่เคยนอนกับสตรีใดนั่นคือเรื่องจริง และเรื่องจริงอีกหนึ่งอย่างคือข้ามิเคยจูบกับผู้ใดเจ้าคือสตรีแรกที่ข้ามอบจุมพิตให้ ส่วนเรื่องหอนางโลมเอาไว้เมื่อไหร่ที่ข้าคลี่คลายทุกอย่างได้ข้าเล่าให้เจ้าฟังทุกอย่าง เจ้าเลิกวางแผนที่จะหนีข้าเถอะนะ ยามนี้ข้าเอ่ยความจริงให้เจ้าฟังเกือบครึ่งหนึ่งของข้า เพราะอยากให้เจ้าเลิกหวาดกลัวและคิดว่าข้าคือบุรุษที่มักมากในกาม ข้าจะไม่บังคับเจ้าหากเจ้าไม่เต็มใจที่จะหลับนอนกับข้า แม้ว่าข้าอยากจะใช้อำนาจบังคับเจ้าตั้งแต่วันแรกที่เจ้าเข้ามาเหยียบจวนของข้า แต่ข้าก็ไม่ได้ต้องการให้มันเป็นเช่นนั้น ตอนนี้เจ้าเล่นสนุกมามากพอแล้ว ” หวังหมิงจ้องมองนางด้วยสายตาแห่งความรักและอบอุ่น นางคือสตรีที่เขาหลงใหลตั้งแต่คราแรกที่พบเจอเมื่อสองปีที่แล้ว ทว่าตอนนั้นเขาต้องแต่งงานกับเสวี่ยหมิ่นเป็นงานแต่งที่ฝ่าบาทพระราชทานให้มิอาจจะปฏิเสธได้และเขากับเสวี่ยหมิ่นตกลงเข้าใจกันดีว่าการแต่งงานครั้งนี้คือการหนุนนำอำนาจของราชวงศ์ มิได้เกิดจากความรัก เขาบอกนางตั้งแต่วันแรกที่แต่งตั้งเข้ามา จะไม่มีการนอนร่วมกันแม้เพียงครั้ง เพราะใจของเขาอยู่กับสตรีมีนามว่าซูอี้หานจนหมดสิ้น เขาเฝ้าตามนางอยู่บ่อย ๆ ครั้ง และเหมือนโชคชะตาเข้าข้าง เมื่อครั้นนั้นใต้เท้าซูเข้ามาหาให้เขาช่วยเหลือ เขาจึงเลือกนางเป็นข้อแรกเปลี่ยน ใต้เท้าซูคงหมดสิ้นหนทางยอมให้บุตรสาวคนรองแต่งเข้ามาเป็นชายารองของเขา แต่เขาได้ให้คำมั่นสัญญากับใต้เท้าซูว่าจะดูแลอี้หานเป็นอย่างดีไม่น้อยหน้าพระชายาเอกเลย และเล่าเรื่องของเขาให้แก่ใต้เท้าซูได้รู้ถึงเหตุการณ์ที่เขากำลังพบเจออยู่พร้อมเรื่องที่เขาแสร้งออกไปที่หอนางโลม นั่นทำให้ใต้เท้าซูสบายใจที่ส่งมอบบุตรสาวคนรองให้แก่ชินอ๋อง
ตอนที่ 27 เลือกชินอ๋องเพียงไม่เกินครึ่งชั่วยาม แม่ทัพจัดการเหล่าทหารของใต้เท้าจางจนหมดสิ้นทุกคน หน้าวังหลวงเต็มไปด้วยกลิ่นคาวโลหิตคละคลุ้ง ทหารจัดการเก็บซากศพไปโยนทิ้งให้แร้งให้กากิน ส่วนหลางอี้ถูกจับตายเช่นเดียวกัน ตระกูลจางถูกจับทุกคนรวมถึงใต้เท้าที่เข้าร่วมก่อการกบฏครั้งนี้ทุกตระกูล สายของชินอ๋องหวังหมิงพาแม่ทัพบุกทลายที่ซุกซ่อนของใต้เท้าจางเสวี่ยหมิ่นไม่ทันได้ตั้งตัวหนีจึงถูกจับกุมมาที่คุกหลวง การตัดสินโทษของใต้เท้าจางคือการประหารเจ็ดชั่วโคตรเสวี่ยหมิ่นมิอาจจะหลบหลีกได้ นางกรีดร้องเสียสติเมื่อเห็นท่านพ่อถูกประหารนำหัวไปเสียบประจานอยู่หน้าวังหลวง ผู้คนชั่วช้าได้รับโทษที่ตนเองกระทำเอาไว้ ตอนนี้ทุกอย่างในวังหลวงคลี่คลายไร้ใต้เท้าชั่วช้าคิดไม่ดีต่อราชวงศ์อีก3 วันต่อมาจวนชินอ๋องหวังหมิงหลังจากที่จับกุมใต้เท้าจางได้ชินอ๋องแต่งตั้งให้ซูอี้หานขึ้นมาเป็นพระชายาเอก เหม่ยหนิงได้รับความเมตตาจากหวังหมิงให้กลับมาทำงานในจวนเช่นอย่างเคย ตอนนี้นางอยู่ห้องเครื่องแรก ๆ ทุกคนในจวนต่างพากันรังเกียจนางเพราะเสวี่ยหมิ่นเจ้านายของนางเป็นคนโหดเหี้ยมหักหลังได้แม้กระทั่งสวามีของตน
ตอนที่ 26 เริ่มเคลื่อนไหวเสวี่ยหมิ่นไม่หยุดนางลูบไล้บนอกแกร่งอย่างลืมตัว ร่างกายของหลางอี้สั่นสะท้านรีบจับมือของเสวี่ยหมิ่นให้หยุดกระทำก่อนที่ทุกอย่างจะเกินเลยไปมากกว่านี้“ข้าบอกให้ท่านหยุดได้แล้ว ทำไมถึงไม่หยุดเล่ายามนี้ข้ามิใช่เด็กชายตัวน้อยที่คอยให้ท่านหยอกเล่นเหมือนเมื่อก่อนและนะขอรับ”“ข้าก็ไม่ได้มองเจ้าเป็นเด็กชายตัวน้อยที่เมื่อก่อนถูกข้ารังแกเสียหน่อย ” หลางอี้มิอาจจะทนได้อีกต่อไปจับปลายคางของนางให้เผยอขึ้นก่อนจะบดจูบลงที่ริมฝีปากบางอย่างหนักหน่วงด้วยความถวิลหา ร่างบางสั่นสะท้านไปทั้งตัวสมองขาวโพลนอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน เลือดในร่างกายเริ่มพลุ่งพล่านโอบกอดคอของอีกฝ่ายอย่างลืมตัว เคลิบเคลิ้มกับรสจุมพิตที่เขามอบให้ทั้งสองแลกสัมผัสกันอย่างลึกซึ้งท่ามกลางเสียงน้ำที่ไหลไปตามกระแสน้ำ เหล่าแมลงปอเป็นพยานรักในครั้งนี้ เสวี่ยหมิ่นรู้สึกดีมาก ๆ จนแปลกใจว่าวันนั้นที่นางนอนกับชินอ๋องหวังหมิงใช่เรื่องจริงหรือไม่? จนกระทั่งความเจ็บปวดกับความเสียวซ่านที่ถาโถมเข้ามาพร้อม ๆ กันทำให้นางรู้ตัวทันทีว่านางถูกชินอ๋องหลอกลวงเข้าแล้ว และนี่คือครั้งแรกที่นางนอนกับบุรุษ ยิ่งทำให้นางแค้นชินอ๋องมากกว่า
ตอนที่ 25 เสวี่ยหมิ่นหนีไปฝั่งด้านอี้หาน นางกลับมาที่ตำหนักด้วยความผ่อนคลาย คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่นางเปิดโปงความผิดของเสวี่ยหมิ่น“หม่อมฉันไม่คิดเลยนะเพคะว่าพระชายาเสวี่ยหมิ่นจะโหดร้ายโยนความผิดให้แก่สาวใช้ที่จงรักภักดีต่อนางเช่นนั้น ”“เพราะนางไม่เคยรักใครมากกว่าตนเองนะสิ เอาล่ะตอนนี้ทุกอย่างเริ่มคลี่คลายต่อจากนี้ข้าคงได้อยู่ที่นี่อย่างสุขสบาย วันนี้อากาศช่างดีเสียจริง” อี้หานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนยกภูเขาออกจากอก ยามราตรีมาเยือนหวังหมิงกลับเข้ามาจากข้างนอกค่ำคืนนี้เขาก็ไปที่ตำหนักของซูอี้หานเช่นเดิม ทั้งสองนั่งกอดกันอยู่บนเตียงในห้องที่มีเพียงแสงเทียนริบหรี่ กลิ่นกำยานคละคลุ้งเต็มอากาศ“ต่อจากนี้ท่านจะทำเช่นไรต่อไปเพคะ ”“เรื่องของเสวี่ยหมิ่นนะหรือ? ข้าคิดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วนางไม่ยอมให้ตนเองถูกลงโทษแน่ ๆ ข้าให้คนของข้าเฝ้าจับตามอง นางจ้างวานให้สาวใช้นำจดหมายไปมอบให้แก่ใต้เท้าจางค่ำคืนนี้ในจวนของข้าคงจะมีหนูแอบซ่อนตัวเข้ามาขโมยของ เรารีบเข้านอนกันเถอะคนพวกนั้นจะได้ทำตามแผน”“เดี๋ยวสิเพคะ ท่านจะยอมปล่อยนางไปง่าย ๆ เช่นนี้หรือได้อย่างไรกัน”“ซูอี้หานเจ้าไม่ต้องเป็นกังวลข้ามิได้
ตอนที่ 24 โยนความผิด เขาได้อ่านและยอดที่จ่ายคนงานในจวนอีกทั้งซื้อของเข้าห้องเครื่องไม่ตรงกับที่ลงบันทึกเอาไว้ ยอดเงินในคลังหายไปทุกครั้งที่ทำการเบิกจ่าย ยิ่งตรวจสอบยิ่งเห็นว่าระยะเวลาที่หายไปคือช่วงที่พระชายาเสี่ยวหมิ่นดูแล เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อพระชายาเอกเขาได้ตรวจสอบลายมือของทั้งสองมันไม่มีตรงใดที่เหมือนกันสักนิด“ทูลท่านชินอ๋องข้าน้อยได้ตรวจสอบแล้วมีการหายไปและจำนวนของที่เข้ามาไม่ตรงกับจำนวนเงินที่ออกไปจริง ๆ และการตรวจสอบลายมือทั้งสองไม่เหมือนกันด้วยพะย่ะค่ะ พร้อมทั้งหมึกในบันทึกกระหม่อมตรวจสอบแล้วเป็นหมึกที่เขียนมานาน หากจะเกิดการเขียนใหม่จากพระชายารองคงมิใช่ เพื่อความเป็นธรรมกระหม่อมอยากให้พระชายาทั้งสองเขียนลายมือตนเองลงใส่กระดาษต่อหน้าทุกคนเพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์พะย่ะค่ะ” เจิงหลงเดินเข้ามาพร้อมหมึกและพู่กันวางลงบนโต๊ะซูอี้หานเดินมาหยิบพู่กันอย่างมั่นใจเขียนลงบนกระดาษเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ลายมือของนางเหมือนที่นางส่งให้ใต้เท้าทุกตัวอักษร เสวี่ยหมิ่นเริ่มสั่นกลัว นางสั่นเทาค่อย ๆ เดินไปหยิบพู่กันเขียนลงบนกระดาษครานั้นนางก็คิดได้‘แม้จะตรวจสอบว่าเป็นข้าที่เขียนลงข้
ตอนที่ 23 เอาคืนซูซูประคองอี้หานเข้าตำหนักสำรวจร่างกายไม่เห็นร่องรอยบาดเจ็บนางสบายใจขึ้นมาพร้อมสงสัยว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของผู้ใดกันแน่“พระชายาเพคะ คนพวกนั้นไม่ได้ทำอันใดแล้วจับตัวพระชายาไปทำไมเพคะ หรือว่าต้องการเบี้ยอัฐ”“คนพวกนั้นถูกพระชายาเสวี่ยหมิ่นสั่งการมาให้จับตัวข้า ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่านางไม่เคยหวังดีกับข้าและเรื่องการยักยอกเงินนางต้องมีแผนใส่ร้ายข้าแน่นอน ในเมื่อร้ายมาข้าก็จะร้ายกลับจะเล่นงานข้าหรือ? ข้าจะเอาคืน”“แต่ว่าพระชายาเอกมีอำนาจมากนะเพคะ ไหนจะท่านพ่อของนางอีก คงไม่มีทางปล่อยให้พระชายชายารองใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายแน่นอน”“ข้าไม่กลัวหากเรายอมนาง นางก็คิดจะรังแกเราฝ่ายเดียว รุ่งเช้าข้าจะนำเรื่องที่นางยักยอกเงินแจ้งกับทุกคนได้ทราบอย่างทั่วถึง คอยดูว่านางจะทำหน้าเช่นไรในเมื่อต้องการใช้แผนนี้จัดการข้าแต่ข้าชิงลงมือก่อน”“ข้าเป็นห่วงพระชายาจริง ๆ นะเพคะ อยู่อย่างสงบไม่ดีกว่าหรือ”“ใจของข้าปรารถนาอยากอยู่อย่างสงบแต่อีกฝ่ายระรานข้าก่อน ข้าต้องปกป้องตนเองให้นางได้เห็นว่าข้าไม่ใช่สตรีโง่เขลาที่รังแกได้ง่าย ๆ อีกอย่างตั้งแต่วันนี้ชินอ๋องสั่งการให้องครักษ์เงาคอยปกป้องดูแลข้า เจ้
ตอนที่ 22 ไม่มีวันได้ใจ ฝั่งด้านเสวี่ยหมิ่นนางกลับมาที่ตำหนักเดินไปเดินมาอย่างร้อนใจ ก่อนหน้านี้นางไปดูการแสดงละครกับอี้หานตอนนั้นความโกรธเกรี้ยวที่มีต่ออี้หานยิ่งเห็นสายตาของหวังหมิงจ้องมองนางไม่กระพริบสายตาแถมยังถูกหวังหมิงตำหนิยิ่งทำให้นางอิจฉา จึงบอกแก่อี้หานว่านางเจ็บท้องขอเวลาสักครู่ อี้หานไม่ได้คิดอันใดคิดว่าเสวี่ยหมิ่นเจ็บท้องจริง ๆ และตอนนั้นนางกำลังสนุกสนานกับการแสดงจึงไม่ได้ตามเสวี่ยหมิ่นไป นางเดินไปเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังนั่งดื่มสุราจึงว่าจ้างให้ไปจับตัวอี้หานและทำให้เกิดความวุ่นวาย พานางไปให้ไกลที่าสุดหรือในป่าลึกและปล่อยนางทิ้งไปเสียสตรีอ่อนแอเช่นนางคงไม่มีทางหาทางออกจากป่าได้ ชายฉกรรจ์รับคำว่าจ้างเพราะเห็นเบี้ยอัฐที่เสวี่ยหมิ่นโยนมาให้มากจนตนตาโตเพราะความโลภ นางจึงบอกรูปลักษณ์ของอี้หานพร้อมสีผ้าอาภรณ์ที่นางสวมใส่มาวันนี้ งานนี้มิใช่เรื่องยากชายฉกรรจ์จึงรับปากจะทำทันที เสวี่ยหมิ่นเดินกลับมายืนข้างกายของอี้หานเพื่อให้คนกลุ่มนั้นได้เห็นว่าสตีนางใดที่เขาต้องจับตัวไป แคร่ก!!'เสียงประตูเปิดเข้ามาเสวี่ยหมิ่นตกใจเล็กน้อยแต่เมื่อเห็นว่าเป็นเหม่ยหนิงนางโล่งอกขึ้นมาทั







